แปลความหมาย สัตว์ร้ายในพระคัมภีร์วิวรณ์ และหมายสำคัญก่อนวันสิ้นโลก

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย Vetinlove, 18 สิงหาคม 2011.

  1. Vetinlove

    Vetinlove สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    36
    ค่าพลัง:
    +3
    [​IMG]


    สัตว์ร้าย 7 หัว ที่มี 10 เขา

    ก่อนที่เราจะจำแนกว่า สัตวต์ร้ายตัวนี้คืออะไร เราจำเป็นที่จะต้องรู้ถึงอาณาจักรต่าง ๆ ในอดีตที่เคยครอบครองชนชาติอิสราเอลมาก่อน โดยสังเขป โดยในยุคแรก ท่านยาโคบ หรือที่มีชื่อ อีกชื่อหนึ่งว่า อิสราเอล ได้พาครอบครัวซึ่งมีกันทั้งหมด 70 คนเข้าไปอยู่ใน ประอาณาจักรอายคุปโต (อียิปโบราณ) ซึ่งเมื่อภายหลังชาวอิสราเอลมีจำนวนมากขึ้นหลายแสนคนในอาณาจักรนั้น ขาวอิสราเอลก็ถูกเปลี่ยนสถานะให้เป็น คนชนชั้นทาส ภายหลัง พระเจ้าทรงนำให้ ชนชาติอิสราเอลออกจาก อายคุปโต และมาสร้างเป็นประเทศ แต่ภายหลังมีความแตกแยกกัน อิสราเอลจึงถูกแบ่งออกไปเป็น 2ประเทศคือ ซะมาเรีย และ ยูดา ต่อมา ซะมาเรียถูกยึดครองโดย อาณาจักรอัสซีเรีย และภายหลัง ชาวอิสราเอลทั้งหมดก็ถูกยึดครอง โดย อาณาจักรบาบิโลน และหลังจากนั้น อาณาจักร เมโด-เปอเซียร์ ได้เอาชนะบาบิโลนได้ แต่มา โดยการนำของ อเล็กซานเดอร์มหาราช อาณาจักรกรีก ได้เอาชนะเปอร์เชียร์ และภายหลัง อาณาจักรโรมัน ก็เอาชนะกรีก และครอบครองอิสราเอลในที่สุด แต่สุดท้ายแล้ว ในปี คศ.70 อาณาจักรโรมันก็ได้โจมตีและทำลายประเทศอิสราเอลเสีย ดั้งนั้นประเทศอิสราเอลจึงได้หายไปจากโลกนี้มาตั้งแต่นั้น ส่วนแผ่นดินที่เป็นของอิสราเอลเดิมนั้น ต่อมาก็ได้ถูกครอบครองโดยชนชาติอาหรับ ซึ่งเรารู้จักกันดี ว่าในสงครามครูเสด ชาวโรมันสมัยใหม่(ชาวยุโรป) ได้บุกเพื่อจะยึดเมืองเยรูซาเล็มจากชาวอาหรับมุสลิมในสมัยนั้นหลังจากที่เราได้ศึกษาประวัติศาสตร์โดยคร่าว ๆ แล้ว เมื่อเราศึกษาพระคัมภีร์วิวรณ์ จะทำให้จำแนกถึงหัวทั้ง 7 ของสัตว์ร้ายได้ ซึ่งหัวของสัตว์ร้ายทั้ง 7 ก็คือ 7อาณาจักรของคนต่างประเทศที่เคยได้ครอบครองแผ่นดินของประเทศอิสราเอลนั่นเอง คือ 1.อายคุปโต 2.อัสซีเรีย 3.บาบิโลน 4.เมโด-เปอร์เซีย 5.กรีก 6.โรมัน 7.อาหรับ (อ็อตโตมาน)


    ต่อจากนี้คือการเจาะจงจำแนกถึงตัวสัตว์ร้ายเอง(ตัวเลยไม่ใช่แค่หัว)

    จงพิจารณาข้อความสำคัญนี้ “17:8 สัตว์ร้ายที่ท่านได้เห็นนั้นเป็นอยู่ในกาลก่อนแต่บัดนี้มิได้เป็น และมันจะขึ้นมาจากเหวที่ไม่มีก้นเหวเพื่อไปสู่ความพินาศแล้ว และคนทั้งหลายที่อยู่ในโลก ซึ่งไม่มีชื่อจดไว้ในหนังสือแห่งชีวิตตั้งแต่แรกทรงสร้างโลกนั้น ก็จะอัศจรรย์ใจ เมื่อเขาเห็นสัตว์ร้าย ซึ่งได้เป็นอยู่ในกาลก่อน แต่บัดนี้มิได้เป็น และกำลังจะเป็น” จากข้อพระคัมภีร์ในตอนนี้จะกล่าวถึงว่า ตัวสัตว์ร้ายนั้น ได้เป็นอยู่ในกาลก่อน แต่ว่าปัจจุบันไม่ไดเป็นแต่ว่าในอนาคตภายภาคหน้าจะได้เป็น ในข้อนี้เป็นข้อลึกลับมาก และต้องใช้สติปัญญาในการไขให้กระจ่าง พระธรรมวิวรณ์นี้ ถูกเขียนโดย อัครสาวกยอห์น ซึ่งเป็น 1ใน 12 อัครสาวกของพระเยซู ซึ่งได้เขียนไว้ใน ประมาณปี คศ.90 ซึ่งอยู่ในยุคของ อาณาจักรโรมัน ดั้งนั้น ปัจจุบันตามข้อความลึกลับนี้หมายถึง อาณาจักรโรมันนั่นเอง ดั้งนั้นเราจะจำแนกได้ว่า สัตว์ร้ายนี้ก็คือ อาณาจักรสุดท้ายที่จะก่อให้เกิดความพินาศแก่โลก


    สัตว์ร้ายที่ บัดนี้มิได้เป็น

    คำว่า "บัดนี้" เหรือ "ปัจจุบันนี้" หมายถึง อาณาจักรโรมัน (เพราะหนังสือนี้ถูกเขียนขึ้นในสมัยโรมัน) ซึ่งคำว่า บัดนี้ไม่ได้หมายความว่าว่าสัตว์ร้ายนี้ไม่ใช่ อาณาจักรโรมัน


    สัตว์ร้ายที่ เป็นอยู่ในการก่อน

    คืออาณาจักรที่เป็นอยู่สมัยก่อนหน้าโรมัน คือ(1.อายคุปโต 2.อัสซีเรีย 3.บาบิโลน 4.เมโด-เปอร์เชีย 5.กรีก) ซึ่งกล่าวคือสัตว์ร้ายตัวนี้คือ 1 ใน5อาณาจักรนี้


    สัตว์ร้ายที่ ภายภาคหน้าจะได้เป็น

    คือ 1ในอาณาจักโบราณในสมัยก่อนที่อาณาจักรโรมันจะได้ครอบครองเยรูซาเล็ม อาณาจักรนี้จะฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง และจะเป็นอาณาจักรสุดท้ายที่นำความพินาศมาสู่โลก


    ลองพิจารณาจากข้อพระคำภีร์นี้ ที่จะสามารถบอกว่า ตัวสัตว์ร้ายนั้นแท้จริงคือใคร

    “วิวรณ์17:10 และมีกษัตริย์เจ็ดองค์ ซึ่งห้าองค์ได้ล่วงไปแล้ว องค์หนึ่งกำลังเป็นอยู่ และอีกองค์หนึ่งนั้นยังไม่ได้เป็นขึ้น และเมื่อเป็นขึ้นมาแล้ว จะต้องดำรงอยู่ชั่วขณะหนึ่ง17:11 สัตว์ร้ายที่เป็นแล้วเมื่อก่อน แต่เดี๋ยวนี้ไม่ได้เป็นนั้นก็เป็นที่แปด แต่ก็ยังเป็นองค์หนึ่งในเจ็ดองค์นั้น และจะไปสู่ความพินาศ
    17:12 เขาทั้งสิบเขาที่ท่านได้เห็นนั้นคือกษัตริย์สิบองค์ที่ยังไม่ได้เสวยราชสมบัติ แต่จะรับอำนาจอย่างกษัตริย์ด้วยกันกับสัตว์ร้ายนั้นหนึ่งชั่วโมง”


    ความหมายของ กษัตริย์เจ็ดองค์

    คือ7อาณาจักรโบราณที่ครอบครองอิสราเอลหรือเยรูซาเล็มทั้งดังนี้ 1.อายคุปโต 2.อัสซีเรีย 3.บาบิโลน 4.เมโด-เปอร์เซีย 5.กรีก 6.โรมัน 7.อาหรับ


    ห้าองค์ล่วงไปแล้ว คือ

    คือ อาณาจักรทั้ง 5 ดั้งนี้ 1.อายคุปโต 2.อัสซีเรีย 3.บาบิโลน 4.เมโด-เปอร์เซีย5.กรีก (สาเหตุที่ 5 องค์ที่ล่วงไปได้แก่ 5 อาณาจักรนี้ก็เพราะว่า ท่านยอห์นได้เขียนหนังสือเล่มนี้ในปี คศ.90 ซึ่งเป็นยุคที่ถูกโรมันครอบ
    ครองอยู่ ดั้งนั้นความหมายของ คำว่าปัจจุบันก็คือ อาณาจักรโรมันซึ่ง โรมันเป็น อาณาจักที่ 6 นั่นเอง)


    องค์หนึ่งกำลังเป็นอยู่ คือ

    ก็คือ อาณาจักรโรมันนั่นเอง เพราะ หนังสือนี้ถูกเขียนในสมัยโรมัน


    อีกองค์หนึ่งนั้นยังไม่ได้เป็นขึ้น และเมื่อเป็นขึ้นมาแล้ว จะต้องดำรงอยู่ชั่วขณะหนึ่ง คือ

    ก็คือ อาณาจักรของอาหรับนั่นเอง เพราะ อาหรับได้ยึดครอง เยรูซาเล็มเพียงแค่ในช่วงเวลาสั้น ๆ หลังจาก อาณาจักโรมันล่มสลาย และ อิสราเอลก็ได้ประเทศคืนในปี คศ.1948 นี้นี่เอง


    สัตว์ร้ายที่เป็นแล้วเมื่อก่อน แต่เดี๋ยวนี้ไม่ได้เป็นนั้นก็เป็นที่แปด แต่ก็ยังเป็นองค์หนึ่งในเจ็ดองค์นั้น และจะไปสู่ความพินาศ คือ

    สัตว์ร้ายตัวที่8ก็คือ อาณาจักรที่ 8 ที่สามารถบุกยึดครองอิสราเอลได้ในอนาคต และอีกทั้งอณาจักรที่8นี้ก็ยังเคยเป็น 1 ใน 7 อาณาจักรโบราณที่ได้เคยครอบครองอิสราเอลมาก่อนอีกด้วย และว่าสัตว์ร้ายตัวนี้ ก็ยังเป็นอยู่ก่อนหน้าอาณาจักรโรมันอีกด้วย ดังนั้นเราจึงสรุปได้ว่า สัตว์ร้ายตัวนี้ คือ อาณาจักรใหม่ที่จะเกิดขึ้นมาในโลก และเคยเป็น 1 ใน 5
    อาณาจักโบราณก่อนโรมัน และเมื่อพวกเราได้เห็นอาณาจักรนี้ได้เกิดขึ้นมาในโลกแล้ว ให้เราจงรู้เอาเถิดว่า เวลาที่จะเกิดการสงคราม และภัยพิบัติครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่โลกเคยมีมาจะเกิดขึ้น และเวลาที่พระเยซู จะเสด็จกลับมานั้นก็เหลืออีกเพียงประมาณ 7 ปีเท่านั้น( เรื่อง 7 ปีสุดท้ายนี้ต้องศึกษาเกี่ยวกับ 70 สัปตะ ในพระธรรมดานิเอล)


    เขาทั้งสิบเขาที่ท่านได้เห็นนั้นคือกษัตริย์สิบองค์ที่ยังไม่ได้เสวยราชสมบัติ แต่จะรับอำนาจอย่างกษัตริย์ด้วยกันกับสัตว์ร้ายนั้นหนึ่งชั่วโมง คือ

    เขาสิบเขาของสัตว์ร้ายก็คือ 10 ประเทศที่จะรวมตัวกันเป็น อาณาจักรที่ 8 นั่นเอง


    ใครคือหญิงแพศยาที่จะถูกสัตว์ร้ายนี้ทำลาย ?

    คำบอกใบ้ถึงหญิงคนนี้ คือ "วิวรณ์17:18 และผู้หญิงที่ท่านเห็นนั้นก็คือนครใหญ่ ที่มีอำนาจเหนือกษัตริย์ทั้งหลายทั่วแผ่นดินโลก"

    ดั้งนั้น หญิงแพศยาคนนี้ คือ สัญลักษณ์ของ เมืองหนึ่งซึ่งเป็นเมืองที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกในยุดสุดท้ายนั่นเอง (ในพระคัมภีร์บอกว่าเป็นเมือง ไม่ใช่ประเทศ)ก่อนที่เราจะมาเจาะจงว่า เมืองนี้คือเมืองอะไร เราจะนำเมืองนี้มาเปรียบเทียบกับ เมืองบาบิโลน เพราะเมืองนี้มีความเกี่ยวเนื่องกับมหานคร บาบิโลน “วิวรณ์17:5 และที่หน้าผากของหญิงนั้นเขียนชื่อไว้ว่า "ความลึกลับ บาบิโลนมหานคร แม่ของหญิงแพศยาทั้งหลาย และแม่แห่งสิ่งทั้งปวงที่น่าสะอิดสะเอียนแห่งแผ่นดินโลก"


    ต่อไปนี้เป็นข้อมูลสำคัญมาก โปรดอ่านให้เข้าใจ

    ย้อนไปถึงสมัยในยุคอาณาจักรบาบิโลน บาบิโลนเป็นอาณาจักรที่รุ่งเรืองและยิ่งใหญ่มากที่สุดในโลก ขึ้นชื่อในเรื่องของความหรูหรา และ ฟุ่มเฟือย ในยุคนั้นชาวอิสราเอลทั้งหมดถูกครอบโดยบาบิโลน แต่เมื่อ เมโด-เปอร์เชียร์ยึดบาบิโลนได้สำเร็จ กษัตริย์ดาริอาส ของเมโดก็ได้อณุญาติให้ ชาวอิสราเอลกลับไปตั้งรกรากถิ่นฐานของตัวเองที่เยรูซาเล็ม ซึ่งแท้ที่จริงการนี้มาจากพระเจ้าเพื่อให้ชาวอิสราเอลกลับไปสู่ดินแดนของตัวเอง และเพื่อการสร้างวิหารหลังที่2 ตามกำหนดที่ศาสดาพยากรณ์ได้บอกไว้ แต่ชาวอิสราเอลส่วนน้อยเท่านั้นที่กลับ เพราะว่าเมืองบาบิโลนเป็นเมืองที่ยิ่งใหญ่และหรูหราที่สุดในโลก การมีชีวิตอยู่ที่เมืองนี้ ก็ดีกว่าที่จะต้องกลับไปยังแผ่นดินเดิมที่
    พระเจ้าทรงมอบให้ เพราะแผ่นดินเดิมนั้นก็เป็นที่ร้างปล่าว และไม่มีใครอยากกลับไปแล้ว ดั้งนั้น บาบิโลนในสมัยนั้น จึงเป็นเมืองที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก และมีชาวอิสราเอลส่วนใหญ่อาศัยอยู่มากที่สุดในโลกอีกด้วย ถ้าไม่นับเยรูซาเล็ม

    คราวนี้เรามามองปัจจุบันเราก็จะทราบว่า หญิงแพศยาที่ท่านพระคัมภีร์กล่าวถึงคือใคร จงพิจารณาดั้งนี้ ในปัจจุบันเมืองใดที่
    เป็นเหมือนเมืองบาบิโลนในสมัยก่อน ที่มีชาวยิวอาศัยอยู่มากที่สุดนอกเหนือจากเยรูซาเล็มเอง อีกทั้งยังเป็นเมืองที่มีการใช้ชีวิตที่หรูหรา และ ฟุ่มเฟือยเหมือนบาบิโลน และยังเป็นเมืองที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วยท่านพอจะนึกออกใหมว่า เมืองใดที่มีคุณสมบัติตามนี้ ถ้ายังนึกไม่ออกผู้เขียนจะให้ข้อมูลดั้งนี้
    - จากสถิติปี 2010 ชาวยิวมีทั้งหมดประมาณ 13.3ล้านคน
    - ประเทศที่มีประชากรยิวอาศัยอยู่มากที่สุดในโลก อันดับหนึ่ง อิสราเอล 5,703,700คน, อันดับสอง สหรัฐฯ อเมริกา 5,275,00คน, อันดับสาม ฝรั่งเศส 483,500คน
    - เมืองที่มีประชากรยิวอาศัยอยู่มากที่สุดในโลก อันดับหนึ่ง เทลอาวิฟ(เมืองหลวงของอิสราเอล) 2,979,00 คน, อันดับสอง นิวยอร์ค 2,007,850คน, อันดับสาม เยรูซาเล็ม703,600คน

    น่าเสียดายที่ผู้เขียนไม่มีข้อมูลของประชากรยิวก่อนสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ข้อมูลเพียงแค่นี้ก็น่าจะเพียงพอต่อการระบุถึงเมืองแห่งหญิงแพศยาในนิมิตของอัครสาวกยอห์นแล้วจากข้อมูลในที่นี้ ผู้เขียนอยากให้มองไปที่ มหานคร นิวยอร์ค เพราะว่านิวยอร์คนั้นเปรียบเหมือนบาบิโลนในยุคใหม่ ซึ่งเป็นเมืองต่างประเทศที่มีชาวยิวอาศัยอยู่มากที่สุดในโลก ที่จริงแล้ว ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 ชาวยิวนั้นอาศัยอยู่ในอเมริกามากที่สุดในโลกอยู่แล้ว และมีชาวยิวอยู่ในนิวยอร์คอยู่เป็นจำนวนมาก แต่หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ประเทศอิสราเอลได้กลับฟื้นมาใหม่ ในปี คศ.1948 ก็มีชาวยิวบางส่วนเท่านั้นที่กลับมา ผู้อ่านลองคิดดูว่า ถ้าตัวเองได้อยู่ในประเทศที่ยิ่งใหญ่และเจริญมากแล้ว โดยเฉพาะถ้าได้อยู่ในเมืองที่ยิ่งใหญ่อย่างนิวยอร์ค ท่านจะกลับไปยังดินแดนเดิมของตัวเองที่ไม่มีอะไรเลยใหม ซึ่งก็แน่นอนมีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่กลับไป นิวยอร์ค ซึ่งตรงจุดนี้เป็นเหมือนภาพซ้อน และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอีกครั้งในสมัยบาบิโลนที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน นอกจากนิวยอร์คเป็นเมืองที่มีชาวยิวอาศัยอยู่มากที่สุดในโลกรองจากเมืองของอิสราเอลเองแล้ว นิวยอร์คยังเป็นเมืองที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย คงไม่มีใครกล้าเถียงถ้าจะว่า ไม่มีเมืองใดในโลกอีกแล้วที่จะยิ่งใหญ่ และหรูหราเท่ากับเมืองนิวยอร์คอีกแล้ว จนเราแทบจะเรียกได้ว่า นิวยอร์คนั้นเป็นเมืองหลวงของโลกเลยก็ได้ และถ้านิวยอร์คล้มแล้ว อย่าว่าแต่เศรษฐกิจอเมริกาจะล้มตามเลย แต่จะกระทบไปทั่วทั้งโลกเลยทีเดียว นี่คือความยิ่งใหญ่ของนิวยอร์คที่เราไม่อาจจะปฎิเสธได้ ดังนั้น ผู้เขียนจึงสรุปได้ว่า หญิงแพศยานี้คือ มหานคร นิวยอร์ค ดังที่พระคัมภีร์ได้กล่าวไว้“วิวรณ์17:18 และผู้หญิงที่ท่านเห็นนั้นก็คือนครใหญ่ ที่มีอำนาจเหนือกษัตริย์ทั้งหลายทั่วแผ่นดินโลก"


    อะไรจะเกิดขึ้นกับหญิงแพศยานี้

    “วิวรณ์17:16 เขาสิบเขาที่ท่านได้เห็นอยู่บนสัตว์ร้าย จะพากันเกลียดชังหญิงแพศยานั้น จะกระทำให้นางโดดเดี่ยวอ้างว้างและเปลือยกาย และจะกินเนื้อของหญิงนั้น และเผานางเสียด้วยไฟ17:17 เพราะว่าพระเจ้าทรงดลใจเขาให้กระทำตามพระทัยของพระองค์ โดยการทรงทำให้พวกเขามีความคิดอย่างเดียวกัน และมอบอาณาจักรของเขาให้แก่สัตว์ร้ายนั้น จนถึงจะสำเร็จตามพระวจนะของพระเจ้า”

    จากพระคัมภีร์ที่ยกมานี้ จะกล่าวถึงสิ่งที่ สัตว์ร้ายได้ทำกับ หญิงแพศยาคนนี้ ตอนนี้เราก็ได้ทราบแล้วว่า สัตว์ร้ายนั้นคือใคร และ หญิงแพศยานั้นคือใคร สิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตก็คือ หลังจากที่มี 10 ประเทศได้รวมตัวกันก่อตั้งขึ้นเป็นอาณาจักรใหม่แล้ว ก็จะเป็นอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่มาก ๆ จนยากที่จะมีใครต้านได้ และอาณาจักรนี้ จะบุกทำลายนิวยอร์คให้พินาศไปเสีย โดยใช้เวลาเพียงไม่นาน ดั้งข้อพระคัมภีร์บทนี้ “วิวรณ์18:1 ภายหลังเหตุการณ์เหล่านี้ข้าพเจ้าก็ได้เห็นทูตสวรรค์อีกองค์หนึ่งลงมาจากสวรรค์ ท่านมีอำนาจใหญ่ยิ่ง และรัศมีของท่านได้ทำให้แผ่นดินโลกสว่างไป 18:2 ท่านได้ร้องประกาศด้วยเสียงกึกก้องว่า "บาบิโลนมหานครล่มจมแล้ว ล่มจมแล้ว กลายเป็นที่อาศัยของผีปีศาจ เป็นที่คุมขังของผีโสโครกทุกอย่าง และเป็นกรงของนกทุกอย่างที่ไม่สะอาดและน่าเกลียด" 18:3 เพราะว่าประชาชาติทั้งปวงได้ดื่มเหล้าองุ่นแห่งความเดือดดาลในการล่วงประเวณีของนครนั้น และบรรดากษัตริย์บนแผ่นดินโลกได้ล่วงประเวณีกับนครนั้น และพ่อค้าทั้งหลายแห่งแผ่นดินโลกก็ได้มั่งมีขึ้นด้วยทรัพย์ฟุ่มเฟือยของนครนั้น 18:4 และข้าพเจ้าได้ยินเสียงอีกเสียงหนึ่งประกาศมาจากสวรรค์ว่า "ชนชาติของเรา จงออกมาจากนครนั้นเถิด เพื่อท่านทั้งหลายจะไม่มีส่วนในการบาปของนครนั้น และเพื่อท่านจะไม่ต้องรับภัยพิบัติที่จะเกิดแก่นครนั้น" 18:5 เพราะว่าบาปของนครนั้นกองสูงขึ้นถึงสวรรค์แล้ว และพระเจ้าได้ทรงจำความชั่วช้าแห่งนครนั้นได้ 18:6 นครนั้นได้ให้ผลอย่างไร ก็จงให้ผลแก่นครนั้นอย่างนั้น และจงตอบแทนการกระทำของนครนั้นเป็นสองเท่า ในถ้วยที่นครนั้นได้ผสมไว้ก็จงผสมลงเป็นสองเท่าให้นครนั้น18:7 นครนั้นได้เย่อหยิ่งจองหองและมีชีวิตอย่างหรูหรามากเท่าใด ก็จงให้นครนั้นได้รับการทรมานและความระทมทุกข์มากเท่านั้น เพราะว่านครนั้นทะนงใจว่า "เราดำรงอยู่ในตำแหน่งราชินี ไม่ใช่หญิงม่าย เราจะไม่ประสบความระทมทุกข์เลย" 18:8 เหตุฉะนั้น ภัยพิบัติต่างๆของนครนั้นจะเกิดขึ้นในวันเดียว ความตาย และความระทมทุกข์ การกันดารอาหาร และไฟจะเผานครนั้นให้พินาศหมดสิ้น เพราะว่าองค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้า ผู้ทรงพิพากษานครนั้น ทรงอานุภาพยิ่งใหญ่" ซึ่งในข้อที่ 18:4 ผู้อ่านจะเห็นว่า พระเจ้าได้ทรงเรียกให้ชนชาติของพระองค์ ซึ่งก็คือชนชาติยิวให้ออกมาเสียจากเมืองนั้น จะมีเมืองใดในโลกเล่า ที่ชนชาติของพระองค์ได้อยู่ และ พระองค์ได้ทรงเรียกให้ออกมาเสียจากเมืองนั้นเสีย


    ความสำคัญของสัตว์ร้ายและหญิงแพศยาและสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

    ความสำคัญของสัตว์ร้ายและหญิงแพศยานี้ก็คือ ในอนาคต จำเป็นก่อนที่ เมืองแห่งหญิงแพศยานี้จะต้องถูกทำลายโดยอาณาจักรสุดท้ายนี้ เพื่อเป็นหมายสำคัญว่าได้ถึงยุคสุดท้ายแล้ว และพระเยซุใกล้จะเสด็จกลับมาแล้ว ภายหลังเมื่อสัตว์ร้ายนี้ได้ทำลายหญิงแพศยานี้แล้ว ภายหลัง อาณาจักรนี้ก็จะบุกเข้าไปยึดเมือง เยรูซาเล็มได้ และ ผู้นำของอาณาจักรนี้ ที่พระคัมภีร์เรียกว่า บุตรแห่งความพินาศ หรือที่เราคุ้นหูว่า แอนตี้ไครส์ ก็จะเข้าไปในวิหารของพระเจ้าในเมืองเยรูซาเล็ม และหลังจากนั้น เขาก็จะประกาศตนว่าตัวเขาเองนี่แหละคือพระเจ้า และเขาจะตั้งรูปเคารพไว้ในวิหารของพระเจ้า (ซึ่งในพระคัมภีร์เรียกว่า สิ่งที่น่าสะอิดสะเอียนที่ทำให้เกิดความเริดร้าง) แล้วหลังจากนั้น ก็จะเกิดภัยพิบัติใหญ่เท่าที่โลกเคยมีมาเกิดขึ้น แผ่นดินจะสะเทือนสะท้าน ท้องฟ้าจะมืดไป ดวงดาวทั้งหลายก็จะหล่นร่วงไปจากฟ้า แล้ว วันนั้น พระเยซูจะเสด็จมาจากท้องฟ้าด้วยสง่าและรัศมีภาพของพระองค์


    Update

    จากการได้ศึกษาเพิ่มเติมในหนังสืออิสยาห์บทที่ 9-11 ผู้เขียนได้พบว่า ในหนังสืออิสยาห์บทที่9นั้น "เป็นการพูดถึงคำพยากรณ์การมาของพระคริสต์" และในบทที่10 "เป็นการพูดถึงอัสซีเรียที่จะกวาดต้อนและทำสงครามกับผู้คนทั้งโลก และจะต่อสู้กับอิสราเอล" ส่วนบทที่11 "เป็นการพูดถึงแผ่นดินโลกในยุคที่ได้รับการปกครองจากพระคริสต์ เป็นยุคที่มีแต่ความสงบสุข จนแม้แต่แกะก็ยังหากินกับหมาป่า" จากสิ่งเหล่านี้ทำให้ผู้เขียนคิดได้ว่า ถ้าช่วงเวลาของทั้งสามบทนี้เรียงกัน ก็แปลว่าอาณาจักรโบราณที่จะกลับมาใหม่อีกครั้งในอนาคตนั้นอาจจะเป็น อาณาจักรอัสซีเรีย (ความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนคิดว่าถ้าไม่ใช่อาณาจักรอัสซีเรียก็อาจจะอาณาจักรเปอร์เชียที่จะกลับมา)


    กล่าวส่งท้าย

    สิ่งเหล่านี้ที่ผู้เขียนได้เขียนขึ้น พระเจ้าได้ทรงประทานความรู้ความเข้าใจในข้อลึกลับเหล่านี้ ซึ่งผู้เขียนมีความหวังใจอย่างที่สุดว่า บทความนี้จะช่วยให้หลาย ๆ คนที่รอคอยในพระคริสต์นั้นมีความหวังใจ และได้เข้าใจในวันเวลาของพระองค์ให้มากยิ่ง ๆ ขึ้น และจะได้สังเกตถึงวันเวลาที่จะต้องเกิดขึ้นในอนาคต เพื่อที่ว่าเมื่อเหตุการณ์เหล่านี้ได้เกิดขึ้น ท่านจะได้รู้ว่าพระองค์กำลังจะเสด็จกลับมาแล้ว เพื่อผู้ที่รอคอยในพระองค์จะไม่ย่อท้อในการรอคอยพระองค์ เพราะเราจะรู้ว่าเมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นแล้ว หลังจากนั้น คริสเตียนจะต้องถูกข่มเหงอย่างหนัก และอย่าได้กลัวในการถูกข่มเหงนั้น ก็ให้เราชำระจิตใจให้สะอาด เพื่อที่จะได้มีใจกล้าในวันที่พระองค์เสด็จกลับมา และสำหรับผู้ที่ไม่เชื่อ ถ้าเมื่อได้เห็นเหตุการณ์เหล่านี้ได้บังเกิดขึ้น ก็หวังว่า เขาคงจะได้กลับใจเชื่อ ขอพระเจ้าทรงสถิตอยู่กับท่านทุก ๆ คน ขอให้ทุกท่านมีชีวิตอยู่ด้วยความสงบสุข อาเมน.

    ประเวทย์ สว่างทิตย์
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 เมษายน 2015
  2. obs2553

    obs2553 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2011
    โพสต์:
    1,289
    ค่าพลัง:
    +176
    เคยอ่านแต่ของ ศตจ.เจริญ วัฒนศิลป์ ถอดรหัสสัตว์ร้าย 7 หัว 10 เขา ออกมาได้อีกแบบหนึ่ง

    แล้ว mark of the beast ล่ะคะ เจ้าของกระทู้... อยากรู้อ่ะ เผื่อจะต่างกัน
     
  3. Vetinlove

    Vetinlove สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    36
    ค่าพลัง:
    +3
    เลข 666 นั้น เป็นเลขชื่อของคนคนนึงครับ จำเป็นที่เขาจะต้องปรากฎตัวออกมาก่อนถึง จะ

    ถอดเลขออกมาจากชื่อของเขาได้ ตอนนี้ยังไม่มีใครรู้ได้ครับ ซึ่งบางที 666อาจจะเป็นเลข

    ชื่อของ ผู้นำของ อาณาจักรใหม่นี้ ซึ่งถ้าเมื่อ อาณาจักใหม่นี้เกิดขึ้นมา แล้ว ชื่อผู้นำนั้นถูก

    แปลได้ 666 ก็จะเป็นการ Fulfillment ในพระคัมภีร์ และคนคอยระวังอยู่ก็จะได้เตรียมตัว

    เตรียมใจไว้พร้อมน่ะครับ ซึ่งบางคนที่ได้อ่านบทความนี้ อาจจะงง และไม่เข้าใจ เลยขอ

    สรุปโดยย่ออีกทีว่า ในอนาคตต่อจากนี้ จะมีอาณาจักรใหม่เกิดขึ้นมาบนโลกใบนี้ ด้วยการ

    รวมตัวกันของ 10 ประเทศเป็น 1 อาณาจักร และชื่อของอาณาจักรนี้ จะเคยมีมาก่อนสมัย

    ของ อาณาจักรโรมัน ซึ่งต้องเป็น 1 ใน 5 อาณาจักนี้ คือ 1.อายคุปโต 2.อัสซีเรีย 3.บาบิ

    โลน 4.เมโด-เปอร์เชีย 5.กรีก (ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วผู้เขียนคิดว่า อาจจะเป็น เปอร์เชีย หรือ อัสซีเรีย) และ

    อาณาจักรที่เกิดขึ้นใหม่นี้ จะทำลาย เมืองนิวยอร์คลง และสุดท้ายก็จะเข้าไปยึดนคร

    เยรูซาเล็มได้ จนสุดท้าย เมื่อผู้นำของอาณาจักรนี้ เข้าไปวิหารในเยรูซาเล็มได้ แล้วจะ

    ประกาศตัวเองว่าเป็นพระเจ้า เมื่อเหตุการณ์ทั้งหมดนี้เกิดขึ้น ก็จะเกิดเหตุการณ์วันสิ้นโลก

    เพื่อทำลายล้างทุกสิ่งเกิดขึ้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 เมษายน 2015
  4. Vetinlove

    Vetinlove สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    36
    ค่าพลัง:
    +3
    ที่จริงยังมี ข้อพระธรรมวิวรณ์ ตอนหนึ่งที่น่าสนใจดังนี้ครับ

    "13:3 ข้าพเจ้าได้เห็นว่าหัวๆหนึ่งของสัตว์ร้ายดูเหมือนถูกฟันปางตาย แต่แผลที่ถูกฟันนั้น

    รักษาหายแล้ว คนทั้งโลกติดตามสัตว์ร้ายนั้นไปด้วยความอัศจรรย์ใจ

    13:4 เขาทั้งหลายได้บูชาพญานาคที่ได้ให้อำนาจแก่สัตว์ร้ายนั้น เขาได้บูชาสัตว์ร้ายนั้น

    กล่าวว่า "ใครจะเปรียบปานสัตว์นี้ได้ และใครสามารถจะทำสงครามกับสัตว์นี้ได้"

    13:5 และยอมให้สัตว์ร้ายนั้นมีปากที่พูดคำกล่าวร้ายและหมิ่นประมาท และยอมให้มันใช้

    อำนาจกระทำอย่างนั้นตลอดสี่สิบสองเดือน

    13:6 มันกล่าวคำหมิ่นประมาทต่อพระเจ้า เพื่อหมิ่นประมาทต่อพระนามของพระองค์ ต่อ

    พลับพลาของพระองค์ และต่อผู้ที่อยู่ในสวรรค์

    13:7 และยอมให้มันทำสงครามกับพวกวิสุทธิชน และชนะเขา และให้มันมีอำนาจเหนือชน

    ทุกตระกูล ทุกภาษา และทุกประชาชาติ

    13:8 และบรรดาคนที่อยู่ในแผ่นดินโลกจะบูชาสัตว์ร้ายนั้น คือคนทั้งปวงที่ไม่มีชื่อจดไว้ใน

    หนังสือแห่งชีวิตของพระเมษโปดก ผู้ทรงถูกปลงพระชนม์ตั้งแต่แรกทรงสร้างโลก

    13:9 ใครมีหูก็ให้ฟังเอาเถิด

    13:10 ผู้ใดที่กำหนดไว้ให้ไปเป็นเชลยผู้นั้นก็จะต้องไปเป็นเชลย ผู้ใดฆ่าเขาด้วยดาบผู้นั้นก็

    ต้องถูกฆ่าด้วยดาบ นี่แหละคือความอดทนและความเชื่อของพวกวิสุทธิชน"


    การแปลความหมายในที่นี้ก็คือ หัวที่ถูกฟันปางตายนั้น ก็ คือ 1 ใน 5 อาณาจักรโบราณที่ได้

    กล่าวมาข้างต้นนั่นเองครับ ซึ่ง อาณาจักรนี้ได้ถูกฟันปางตายเท่านั้นเอง แต่ว่ายังไม่ตาย

    แต่ด้วยอำนาจของซาตาน อาณาจักรนี้ก็จะฟื้นขึ้นมาใหม่ ในบทที่13:3-13:4 ได้พูดเกี่ยวกับ

    ว่า ผู้คนต่างอัศจรรย์ใจ เมื่อได้เห็นอาณาจักรโบราณนี้ได้ฟื้นคืนขึ้นมาใหม่ โดยเฉพาะคนที่

    ไม่รู้จักพระเจ้า(เพราะผู้ที่รู้จักพระเจ้าย่อมเข้าใจว่าเหตุการณ์นี้จำจะต้องบังเกิดขึ้น) และ

    อาณาจักรนี้ยิ่งใหญ่มาก จนผู้คนต่างคิดว่า ใครเล่าจะสู้กับอาณาจักรนี้ได้(เป็นอาณาจักรที่

    เป็นการรวมตัวของประเทศถึง 10 ประเทศเลยทีเดียว) และใน บทที่13:5-13:6 กล่าวว่า

    อาณาจักรนี้จะกล่าวโจมตีเหล่าผู้คนของพระเจ้า รวมทั้งหมิ่นประมาทพระเจ้าถึง 3ปีครึ่ง

    และอาณาจักรนี้ก็มีชัยเหนือ ทุก ๆ ประเทศในโลกใบนี้ รวมทั้งเกิดการล้างผลาญบรรดา

    เหล่าคริสเตียน และการโจมตีชาวยิวด้วย เมื่อสิ่งเหล่านี้ได้เกิดขึ้น นั่นหมายถึงว่า ยุคสิ้น

    โลกได้มาถึงแล้ว ให้ผู้ที่เชื่อก็รักษาทางดำเนินชีวิตของตนให้ดี ส่วนผู้ที่ไม่เชื่อในพระคริสต์

    ก็เป็นโอกาศสุดท้ายแล้วที่จะกลับใจ เพราะภายหลังเหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นเพียงไม่ถึง 7ปี

    (ศึกษาเพิ่มจาก 70 สัปตะของท่านดานิเอล) พระเยซูก็จะเสด็จกลับมา เพื่อรับเหล่าคนที่รัก

    และคอยท่าพระองค์
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 สิงหาคม 2011
  5. yavoiii

    yavoiii Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    158
    ค่าพลัง:
    +65
    -+ผมมีคำถามนิดนึงครับ+-
    - คำว่า"พระเจ้าคือผู้ไถ่บาป" เป็นไงหรอครับ
    - ทำไมต้องเอาป้ายประกาศศาสนาไปติดบนต้นไม้สูงๆด้วยอะครับ

    ขอบคุณครับ
     
  6. insuwan0

    insuwan0 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +33
    สำหรับผม คิดว่า เมืองที่จะกลับมาซึ่งมาจากการรวมตัวกันของ 10 ประเทศ และเป็นประเทศที่ยังไม่ตาย (แต่ก็คิดว่าเกือบ) และผู้คนก็ให้ความสนใจ ฟื้นฟู เมืองนี้ คือ กรีก
    และนอกจากนี้ ผมยังเคยได้ยิน เกี่ยวกับ ศาสนาของ ซาตาน(Satanism) หรือ ศาสตร์มืด หรือ มนต์ดำ อื่นๆ เช่น การปลูกสัตว์ร้าย การขายวิญญาณ ฯลฯ พวกเขาใช้สัญลักษณ์ของดาว 5 แฉก กลับหัว ซึงสามารถเขียนได้เป็นรูปหน้าของ ซาตาน
    ปกติดาว 5 แฉก จะเป็นของวิคคา หรือ ผู้ที่เครพธรรมชาติ หรือก็คือ
    วิคคาเป็นเหมือนศาสนาซึ่งเป็นวิถีทางที่ทำให้คนที่เจริญรอยตามไปสู่ความสำเร็จแห่งจิตวิญญาณอันว่าด้วยความจริงในศาสตร์ในกาลนี้
    (อันนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผมล้วนๆ นะครับ ตัวผมเองนับถือศาสนาพุทธ แต่ตัวผมเองก็ชอบไปจุ๊นจ้านอยู่แถวโบสถ์คริส และเคยได้ยินเรื่องของ Satanism และ วิคคานะ อย่างไรก็ช่วยชี้แนะนะครับ ไม่ว่ากันนะ.....)
     
  7. Vetinlove

    Vetinlove สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    36
    ค่าพลัง:
    +3
    - เพราะว่าพระเจ้าจะทรงยกโทษบาปให้แก่ ผู้ที่สำนึกผิดและกลับใจอย่างแท้จริง

    จากการบาปนั้นครับ

    - ป้ายที่ติดไว้สูง ๆ นั้นเขาต้องการให้คนเห็นชัดน่ะครับ ส่วนที่ไปติดตรงต้นไม้

    นั้น น่าจะเป็นที่ทำให้สะดุดตาน่ะครับ แต่เขาก็หวังดีกับพวกเราน่ะแหละครับ เขา

    ถึงได้ทำแบบนั้น เป็นความหวังดีอย่างบริสุทธิ์ใจจากผู้ที่ให้ แต่ผู้ที่รับอาจจะ

    มองข้ามถึงความหวังดีของพวกเขาเหล่านั้นไปเสีย
     
  8. Vetinlove

    Vetinlove สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    36
    ค่าพลัง:
    +3
    ที่จริง อาณาจักรที่จะเกิดขึ้นมาใหม่สามารถเป็น อาณาจักรใด ๆ ก็ได้จาก 1 ใน

    5 อาณาจักรที่กล่าวมานั่นแหละครับ แท้จริง หนังสือวิวรณ์ แปลว่า "การเปิด

    เผย" เนื้อหาเป็นการณ์บอกถึงเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นจนถึงวันสิ้นโลก และหากว่า

    ถ้าเมื่อใดอาณาจักรนั้นเกิดขึ้นมาแล้ว เราก็จะรู้ว่าเขาจะทำอะไร และจะเกิด

    อะไรขึ้นภายภาคหน้า และถ้าสมมุติว่าเหตุการณ์นั้นได้เกิดขึ้นในช่วงชิวิตของ

    คุณนี้ ก็หวังว่าคุณคงจะกลับใจ และแสวงหาทางของพระเจ้านะครับ
     
  9. insuwan0

    insuwan0 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +33
    ตามความคิดผมนะครับ ผมเชื่อ เรื่อง พระเจ้า แต่ผมไม่สามารถทิ้งมรดกที่บรรพบุรุษผมให้ไว้สืบทอดได้ พี่สาวผมคนนึงนับถือคริส แต่ ความคิดของท่านเฉกเช่นผม คือ บางเรื่องเราสามารถเปลี่ยนแปลงได้ แต่ เราไม่ควรเปลี่ยนแปลง บางเรื่องที่เราเห็นว่าดีกว่าเดิม แต่ เราควรทำเฉกเช่นเดิม บางเรื่องที่เราเลือกศรัทธาได้ แต่ เราก็ควรศรัทธาแบบเดิม ทั้งหมดทุกสิ่งทุกอย่างผมคิดว่ามันขึ้นอยู่กับ เวลา ผมเข้าไปในโบสถ์คริสหลายครั้งแล้ว อ่านพระคัมภีย์ ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันกับชาวคริส และรับคำอวยพรจากชาวคริสที่ขอพรจากพระเจ้าให้ประทานพรให้ผม แต่ ผมคิดว่า ศาสนาใดไม่สำคัญ สำคัญที่ว่า เราใช้ชีวิตอย่าง มนุษย์ หรือไม่ สมควรใหมที่เราได้เกิดมาเป็นคน และ วันนี้ เราทำประโยชน์อะไรให้กับสิ่งรอบข้างเรารึยัง ผมเชื่อเรื่องบาปบุญ บางคนบอกว่าทำบุญแล้วต้องขอพรจึงจะสำเร็จผล แต่ ผมทำบุญไปทุกครัง ผมก็ไม่เคยขอหรือหวังอะไรจากการที่เราได้ทำบุญนั้นๆ และ เรื่องบาป ผมคิดว่าไม่สามารถแก้กันได้ เพราะ เราทำอะไรไว้อย่างไร เราก็ได้รับเฉกเช่นนั้น เราปลูกข้าว ก็ได้กินข้าว เราปลูกมะเขือ ก็ได้กินมะเขือ นั่นแหละ
    บางคนบอก่าผมเป็นคนที่ปิดกัน ผมคิดว่ามันไม่ใช่นะครับ ผมคิดว่าผมควรอยู่ในสถานะแบบนี้ และ ผมเองก็ไม่ค่อยเชื่อใครง่ายๆ และ ผมก็เป็คนที่รักเดียวใจเดียวด้วย(ก้ำกึ่งนอกเรื่อง อิอิ ....)


    ...............จงอย่าเครียด อย่าตกใจ ในสิ่งที่จะเกิด เพราะ ถ้ามันจะเกิด มันก็ต้องเกิด................
     
  10. Vetinlove

    Vetinlove สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    36
    ค่าพลัง:
    +3
    ครับ ลองศึกษา และ เรียนรู้ต่อไปเรื่อย ๆ
     
  11. insuwan0

    insuwan0 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +33
    ข้าขอน้อมรับความคิดเห็น และ น้ำใจไมตรีที่สวยงามของท่าน ที่ช่วยชี้แนะและทำให้ข้าได้มองเห็นอีกมุมหนึ่ง


    *-*-*-*-*ขอบคุนครับ*-*-*-*-*-*
     
  12. มหิศวระ

    มหิศวระ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    130
    ค่าพลัง:
    +8
    ที่ผ่านมาเป็นเช่นนั้น
    กาลต่อไปคงเป็นเช่นดิม
     
  13. Vetinlove

    Vetinlove สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    36
    ค่าพลัง:
    +3
    ^.^

    ................
     
  14. obs2553

    obs2553 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2011
    โพสต์:
    1,289
    ค่าพลัง:
    +176
    โดยส่วนตัว ดิฉันว่า สัตว์ร้าย 7 หัว 10 เขา และเครื่องมือของสัตว์ร้ายที่มีเลขชื่อ 666 ที่อาจารย์เจริญ ตีความ ดูจะเข้าล็อกกว่านะ

    ที่น่าจับตาคือกลุ่ม G-7 (ซึ่งตอนนี้เปลี่ยนเป็น G-8 แล้ว) กับ คอมพิวเตอร์รุ่นอัจฉริยะของชาติมหาอำนาจที่จะใช้เป็นฐานของการครอบคลุมปกครองโลกมนุษย์
     
  15. grinny

    grinny Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    67
    ค่าพลัง:
    +84
    ขอพระเจ้าอวยพระพรค่ะ อาเมน.
     
  16. Vetinlove

    Vetinlove สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    36
    ค่าพลัง:
    +3
    ไม่เกี่ยวอะไรกับคอมพิวเตอร์ครับ มีคนตีความว่า mark of beast หรือ 666 นั้นตีความได้ว่า computer ซึ่งขอบอกตามตรงเลยว่า ไม่มีอะไรเกี่ยว

    ข้องกับ คอมพิวเตอร์ครับ
     
  17. Vetinlove

    Vetinlove สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    36
    ค่าพลัง:
    +3
    อย่างที่คนเข้าใจผิดกันเช่น การคิดว่า การรับเครื่องหมายของสัตว์ร้าย หรือการรับหมายเลข 666 ที่หน้า

    ผาก และ ที่ข้อมือนั้น คือการฝังชิพที่เหรอเลขบาร์โค๊ดที่หน้าฝาก เหรอที่ข้อมือเป็นต้น แต่ที่จริงแล้ว ผู้

    เขียนเคยได้อ่านในพระคัมภีร์เดิมตอนที่ว่า "ทุก ๆ หน้าผาก และ ทุก ๆ ข้อมือ ได้รับการประทับ

    เครื่องหมายของพระเจ้า โดยการก้มลงกราบมนัสการพระเจ้า" ดังนั้นการรับเครื่องหมาย ของสัตว์ร้าย

    ที่หน้าผาก และที่ข้อมือนั้น ไม่ใช่เป็นการฝังชิพ เหรอบาร์โค๊ดตามที่ เขาคิดหรือคาดคะเนต่าง ๆ นา ๆ

    มากัน แต่คนที่รับได้รับเครื่องหมายของสัตว์ร้ายก็คือคนที่ เชื่อ หรือ บูชาสัตว์ร้ายนั้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 สิงหาคม 2011
  18. obs2553

    obs2553 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2011
    โพสต์:
    1,289
    ค่าพลัง:
    +176
    สัตว์ร้ายที่ขึ้นมาจากทะเล

    13:1 และข้าพเจ้าได้ยืนอยู่ที่หาดทรายชายทะเล และเห็นสัตว์ร้ายตัวหนึ่งขึ้นมาจากทะเล มันมีเจ็ดหัวและสิบเขา ที่เขาทั้งสิบนั้นมีมงกุฎสิบอัน และมีชื่อที่เป็นคำหมิ่นประมาทจารึกไว้ที่หัวทั้งหลายของมัน

    13:2 สัตว์ร้ายที่ข้าพเจ้าได้เห็นนั้น เหมือนเสือดาว และเท้าเหมือนเท้าหมี และปากเหมือนปากสิงโต และพญานาคได้ให้ฤทธิ์ของมัน และที่นั่งของมัน และสิทธิอำนาจอันใหญ่ยิ่งแก่สัตว์ร้ายนั้น

    13:3 ข้าพเจ้าได้เห็นว่าหัวๆหนึ่งของสัตว์ร้ายดูเหมือนถูกฟันปางตาย แต่แผลที่ถูกฟันนั้นรักษาหายแล้ว คนทั้งโลกติดตามสัตว์ร้ายนั้นไปด้วยความอัศจรรย์ใจ

    13:4 เขาทั้งหลายได้บูชาพญานาคที่ได้ให้อำนาจแก่สัตว์ร้ายนั้น เขาได้บูชาสัตว์ร้ายนั้น กล่าวว่า "ใครจะเปรียบปานสัตว์นี้ได้ และใครสามารถจะทำสงครามกับสัตว์นี้ได้"

    13:5 และยอมให้สัตว์ร้ายนั้นมีปากที่พูดคำกล่าวร้ายและหมิ่นประมาท และยอมให้มันใช้อำนาจกระทำอย่างนั้นตลอดสี่สิบสองเดือน

    13:6 มันกล่าวคำหมิ่นประมาทต่อพระเจ้า เพื่อหมิ่นประมาทต่อพระนามของพระองค์ ต่อพลับพลาของพระองค์ และต่อผู้ที่อยู่ในสวรรค์

    สัตว์ร้ายกระทำสงครามกับพวกวิสุทธิชน

    13:7 และยอมให้มันทำสงครามกับพวกวิสุทธิชน และชนะเขา และให้มันมีอำนาจเหนือชนทุกตระกูล ทุกภาษา และทุกประชาชาติ

    13:8 และบรรดาคนที่อยู่ในแผ่นดินโลกจะบูชาสัตว์ร้ายนั้น คือคนทั้งปวงที่ไม่มีชื่อจดไว้ในหนังสือแห่งชีวิตของพระเมษโปดก ผู้ทรงถูกปลงพระชนม์ตั้งแต่แรกทรงสร้างโลก

    13:9 ใครมีหูก็ให้ฟังเอาเถิด

    13:10 ผู้ใดที่กำหนดไว้ให้ไปเป็นเชลยผู้นั้นก็จะต้องไปเป็นเชลย ผู้ใดฆ่าเขาด้วยดาบผู้นั้นก็ต้องถูกฆ่าด้วยดาบ นี่แหละคือความอดทนและความเชื่อของพวกวิสุทธิชน

    สัตว์ร้ายที่ขึ้นมาจากแผ่นดิน

    13:11 และข้าพเจ้าเห็นสัตว์ร้ายอีกตัวหนึ่งขึ้นมาจากแผ่นดิน มีสองเขาเหมือนลูกแกะ และพูดเหมือนพญานาค

    13:12 มันใช้อำนาจของสัตว์ร้ายตัวเดิมนั้นอย่างครบถ้วนต่อหน้าสัตว์ร้ายตัวเดิม นั้น มันทำให้โลกและคนที่อยู่ในโลกบูชาสัตว์ร้ายตัวเดิมนั้น ที่มีแผลปางตายแต่รักษาหายแล้ว

    13:13 สัตว์ร้ายนี้แสดงการมหัศจรรย์ใหญ่ จนกระทำให้ไฟตกลงมาจากฟ้าสู่แผ่นดินโลกประจักษ์แก่ตามนุษย์ทั้งหลาย

    13:14 มันล่อลวงคนทั้งหลายที่อยู่ในโลกด้วยการอัศจรรย์นั้น ซึ่งมันมีอำนาจกระทำท่ามกลางสายตาของสัตว์ร้ายตัวเดิมนั้น และมันสั่งให้คนทั้งหลายที่อยู่ในโลกสร้างรูปจำลองให้แก่สัตว์ร้าย ที่ถูกฟันด้วยดาบแต่ยังมีชีวิตอยู่นั้น

    13:15 และมันมีอำนาจที่จะให้ลมหายใจแก่รูปสัตว์นั้น เพื่อให้รูปสัตว์ร้ายนั้นทั้งพูดได้ และกระทำให้บรรดาคนที่ไม่ยอมบูชารูปสัตว์ร้ายนั้นถึงแก่ความตายได้

    13:16 และมันยังได้บังคับคนทั้งปวง ทั้งผู้ใหญ่ผู้น้อย คนมั่งมีและคนจน ไทยและทาส ให้รับเครื่องหมายไว้ที่มือขวาหรือที่หน้าผากของเขา

    13:17 เพื่อไม่ให้ผู้ใดทำการซื้อขายได้ นอกจากผู้ที่มีเครื่องหมายนั้น หรือชื่อของสัตว์ร้ายนั้น หรือเลขชื่อของมัน

    13:18 ในเรื่องนี้จงใช้สติปัญญา ถ้าผู้ใดมีความเข้าใจก็ให้คิดตรึกตรองเลขของสัตว์ร้ายนั้น เพราะว่าเป็นเลขของบุคคลผู้หนึ่ง เลขของมันคือหกร้อยหกสิบหก

    เครดิต : วิวรณ์ บทที่ 13 | พระคริสตธรรมคัมภีร์ออนไลน์ พระคัมภีร์ไบเบิลออนไลน์ แบ่งปันข้อพระคำภีร์ อ
     
  19. obs2553

    obs2553 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2011
    โพสต์:
    1,289
    ค่าพลัง:
    +176
    ดิฉันว่า ไม่น่าจะต้องนำพระคัมภีร์เดิมมาตีความร่วมกับวิวรณ์นะคะ

    เรื่องการรับเครื่องหมายไว้ที่หน้าผากและที่มือ ในพระคัมภีร์วิวรณ์ก็มีกล่าวไว้ค่อนข้างชัด ออกจะเป็นแนวบังคับกันเสียด้วย

    ส่วนเรื่องที่มีการคาดกันว่าจะเป็นไบโอชิพหรือบาร์โค้ดดีเอ็นเอรึเปล่านั้น ก็เป็นการคาดเดาที่ดูเข้าเค้าดี อันเนื่องมาจากถ้าใครไม่ีมีรหัสตัวนี้ ก็ทำการซื้อขายกันไม่ได้

    และไม่ว่าจะเป็นไบโอชิพหรือบาร์โค้ดดีเอ็นเอก็กำลังถูกพัฒนาขึ้นมาใช้กันอยู่ แต่จะใช้ทำอะไรกันบ้าง บังคับหรือไม่บังคับ ก็ต้องดูกันต่อไป
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 สิงหาคม 2011
  20. obs2553

    obs2553 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2011
    โพสต์:
    1,289
    ค่าพลัง:
    +176
    จริงๆ แล้ว เหมือนจะจำได้ว่า มีหลายชื่อที่ถอดรหัสด้วยการเรียงอักษร เรียงเลข แล้ว จะได้ผลรวมเป็น 666 ซึ่ง computer ก็เป็นชื่อหนึ่งที่ได้ผลรวมแบบนั้น

    ก็เลยมีการคาดกันว่า จะเป็นเครื่องมือขององค์กรมหาอำนาจที่จะใช้ในการควบคุม จัดการ และครอบครองสังคมมนุษย์ อันเนื่องมาจาก ที่ผ่านมาไม่นานจนมาถึงปัจจุบัน ระบบคอมพิวเตอร์เข้ามามีบทบาทอย่างมากและสำคัญกับสังคมมนุษย์ และในอนาคตก็มีแนวโน้มที่จะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

    องค์กรที่มีอำนาจสูง มีระบบคอมพิวเตอร์อัจฉริยะเป็นเครื่องมือ ก็ควบคุมและกำหนดทิศทางสังคมมนุษย์ได้ไม่ยาก ข้อสันนิษฐานนี้ก็เลยเข้าท่าอ่ะค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...