เปิดตำนานหลวงพ่อทิม วัดละหารไร่

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย แก้วสว่าง, 17 เมษายน 2011.

  1. nudjinnong

    nudjinnong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    1,161
    ค่าพลัง:
    +3,012
    ขอบคุณ น๊าม่อม น๊าโต้ง ครับ กระจ่างชัดเจนครับผม ^^

    สวัสดีพี่ๆทุกท่านครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 สิงหาคม 2011
  2. kong2

    kong2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    767
    ค่าพลัง:
    +883
    ทำไมผมอยู่ได้แค่หน้า249อะครับ ใครเป็นเหมือนกันบ้างไหมนะครับ
     
  3. รักรังสิต

    รักรังสิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    2,418
    ค่าพลัง:
    +17,140
    ดึกแล้วยังไม่นอนหรือครับคุรก้อง 2
     
  4. โต้งชลบุรี

    โต้งชลบุรี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,474
    ค่าพลัง:
    +18,351
    สวัสดีครับทุกท่าน วันนี้ที่ชลอากาศมืดครึ้มแต่เช้าเลยครับ สงสัยฝนมาอีกแน่เลย
     
  5. kong2

    kong2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    767
    ค่าพลัง:
    +883
    สวัสดีครับพี่รัก
    เมื่อคืนนอนตีหนึ่งกว่านะครับพี่ พี่รักก็นอนดึกนะครับ
     
  6. ละม่อม

    ละม่อม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    1,329
    ค่าพลัง:
    +3,892
    หวัดดีคับ พี่รัก]น้าโต้ง และทู๊กคนคับ
    วันนี้วันศุกร์แล้ว
    สวัสดี วันนี้ กับวันศุกร์
    ถ้ามีทุกข์ ขอให้ พลันสุขขี
    ขอให้สุข ในวันศุกร์ ชื่อวันดี
    หากใครที่ ยังไม่สุข ให้สุขพลัน

    อันความสุข นั้นเกิด ได้ง่ายๆ
    เพียงแค่เรา เปิดใจ ให้สุขสันต์
    หยุดความทุกข์ ความโลภ ความโกรธกัน
    หยุดความรั้น ความรน ความหม่นใจ

    หยุดความดื้อ ความเศร้า ให้หายขาด
    ทำความดี ให้ชีวี นี้สดใส
    หากมีเรื่อง ขุ่นใจ ประการใด
    ขอให้เรื่อง นั้นหายไป กับสายลม

    ในวันศุกร์ ขอให้สุข ทั้งกายใจ
    อยากมองไป ให้เห็นแต่ ความสุขสม
    อย่าลุ่มหลง ให้ปลงจิต กับความจม
    ที่จะข่ม ให้ใจ ไม่สุขดี
     
  7. ละม่อม

    ละม่อม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    1,329
    ค่าพลัง:
    +3,892
    คนในสมัยปัจจุบันนี้อาจจะคิดว่าการประพฤติธรรมนั้นเป็นเรื่องล้าสมัย เป็นเรื่องที่ไม่ทันสมัย อะไรต่างๆนานา นั่นคือคิดด้วยความไม่รู้ไม่เข้าใจ ไม่ได้เคยชิมรสของพระธรรมคำสอนในทางพระศาสนา เลยเกิดความหลงผิดไปด้วยประการต่างๆ และเมื่อเกิดความหลงผิดอย่างนั้นแล้ว ก็ไม่สนใจศึกษา ไม่สนใจปฏิบัติ ไม่แนะนำคนอื่นให้ปฏิบัติ ทีนี้มันก็เกิดปัญหาขึ้นในครอบครัว ปัญหายุ่งยากเกิดขึ้นแล้ว เพราะว่าไม่มีธรรมะเป็นเครื่องคุ้มครองรักษา เหมือนเราอยู่ที่บ้านไม่มีหลังคาฝนตกก็เปียก แดดออกก็ร้อน อันตรายร้อยแปดเข้ามา เพราะไม่มีหลังคาคุ้มกัน อันนี้มันไม่เป็นความสุขในชีวิตฉันใด ชีวิตของเราไม่มีธรรมะเป็นเครื่องคุ้มกัน มันก็ไปไม่รอดเหมือนกัน

    คนสมัยใหม่บางคนก็เขวไป หลงไป เพราะว่าไปนิยม กันแต่ในเรื่องสิ่งที่เป็นวัตถุ แต่ไม่ได้คิดว่าวัตถุนั้นจะมีคุณค่าก็ต่อเมื่อมีธรรมะเข้าไปกำกับ ถ้าเรามีธรรมะเราใช้เป็นประโยชน์ เช่น เงินทอง เป็นต้น ทรัพย์สมบัติที่เรียกว่าเงินทองข้าวของ เพชรนิลจินดา เรามีไว้ ถ้าเรามีธรรมะเราก็ใช้เป็นประโยชน์ ไม่ใช้ในทางที่เสียหาย เช่น มีเงินก็ใช้เงินในทางที่เป็นคุณเป็นค่า ไม่เอาเงินไปทำในสิ่งที่เป็นความทุกข์เป็นความเดือดร้อนแก่ใครๆ ไม่ส่งเสริมความฟุ้งเฟ้อทะเยอทะยานของใครๆ เรียกว่าเป็นผู้ใช้เงินเป็น แม้การกินการอยู่ก็เรียกว่า เพียงพอประมาณ ไม่ให้มากเกินไปจนกระทั่งว่าให้คนอื่นทำตามตัวอย่างในทางที่สุรุ่ยสุร่าย ช่วยกันประหยัดช่วยกันอดออม ก็เพราะอาศัยคุณธรรม เป็นหลักพื้นฐานในทางจิตใจ จึงเกิดการเหนี่ยวรั้งเกิดการบังคับตัวเอง อยู่กันด้วยความสุขสงบ แต่คนมักจะมองไม่เห็น เพราะคนเรานั้นไม่ค่อยคิดถึงความสุขทางใจ มักคิดถึงความสุขทางร่างกาย เอาความสบายกันในทางวัตถุ ให้มีสิ่งนั้นสิ่งนี้ไว้เป็นเครื่องประกอบความสุข

    ท่านจึงกล่าวว่า สุขในชีวิต มนุษย์มี 2 อย่าง คือ อามิสสุข สุขเนื่องด้วยอามิส ได้แก่วัตถุ และนิรามิสสุข สุขที่ไม่ต้องอาศัยวัตถุเป็นเครื่องล่อเครื่องจูงใจ คนเราสมัยนี้ โดยมากก็มุ่งหาวัตถุเป็นเครื่องประกอบความสุขด้วยกันทั้งนั้น แล้วบางทีก็มีมากจนเกินไป จนเกิดเป็นปัญหาเกิดความลำบากขึ้นมา ในสมัยหนึ่งอาจจะไม่ลำบาก แต่มาอีกสมัยหนึ่งมันเกิดปัญหาขึ้นมาแล้ว เพราะว่าอะไรๆ มันอยู่ในขั้นที่เรียกว่าคับขัน มันไม่พอกินพอใช้ มีการขาดแคลน เราจะใช้สิ่งที่เคยใช้มากเกินไปมันก็ไม่ได้ เพราะมันไม่มีจะใช้ จะเกิดเป็นความทุกข์ในภายหลัง นี่ก็เพราะว่าเราใช้วัตถุมากเกินไป จึงได้เกิดเป็นปัญหา

    แต่ถ้าเราใช้วัตถุนั้นอย่างผู้มีธรรมะ ผู้มีธรรมะนั้นก็ต้องมีมัตตัญญุตา แปลว่า รู้จักประมาณในการแสวงหา ในการเก็บ ในการใช้ เพื่อให้เกิดความพอดีๆ ไม่ให้มากเกินไป ชีวิตก็จะไม่ยุ่งยากลำบากเดือดร้อน ไม่ใช่ว่าทางศาสนาจะไม่ให้มีเสียเลย หามิได้ แต่ให้มีพอสมควร ไม่ใช่ว่ามากมายเกินไป หรือว่าส่วนเกินมากไป ให้มีแต่พอดีๆ อย่างนี้มันก็ไม่ยุ่งไม่สร้างปัญหา แต่ว่าคนเราคิดไม่ค่อยได้ เพราะว่าเคยมาในรูปวัตถุตั้งแต่เป็นเด็กตัว น้อยๆ พ่อแม่ก็หาวัตถุให้ตลอดเวลา หานั่นหานี่ให้ โดยไม่คิดว่า สิ่งเหล่านั้นมัน จะมากเกินไป จะเป็นการพอกพูนนิสัยทะเยอทะยานให้เกิดขึ้นในจิตใจของเด็ก เราไม่ค่อยคำนึงถึงเรื่องอย่างนี้ ก็เลยเกิดเป็นปัญหาเมื่อเด็กโตเป็นผู้ใหญ่

    เมื่อโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ก็มีแต่ความปรารถนาที่จะมีสิ่งนั้นสิ่งนี้สิ่งโน้น แล้วใครเป็นคนเดือดร้อน ก็คุณพ่อคุณแม่นั่นแหละเป็นผู้เดือดร้อนต้องควักสตางค์จ่ายเรื่อยไป ไม่รู้จักจบไม่รู้จักสิ้น แสวงหาให้เขา ถ้าไม่ให้ เขาแสดงอาการเป็นทุกข์เป็นร้อน พ่อแม่ไม่อยากเห็นลูกเป็นทุกข์ ก็เลยต้องหาให้ เขาต้องการวัตถุเราก็ให้วัตถุ เพื่อให้เขาไม่เป็นทุกข์ แต่ลืมนึกไปว่ายิ่งให้มันยิ่งเพิ่มความทุกข์ขึ้นแก่เขา เพราะว่าเขาไม่อิ่มไม่พอในสิ่งเหล่านั้น เหมือนไฟไม่เคยอิ่มด้วยเชื้อ มหาสมุทรก็ไม่เคยอิ่มด้วยน้ำ ความอยากของคนก็ไม่เคยอิ่มในเรื่องวัตถุสิ่งของ ที่ตนจะมีจะได้อยู่ตลอดเวลา จึงเกิดเป็นปัญหา

    ฉะนั้น เรื่องวัตถุต้องมีอะไรมาคุมอีกทีหนึ่ง สิ่งที่คุมวัตถุก็คือธรรมะ ร่างกายของเรานี้มันมีใจอยู่ภายใน ถ้าลองปล่อยตามเรื่องตามราวแล้วก็ไปกันใหญ่ เพราะฉะนั้นใจต้องคุมร่างกาย แต่ว่าใจธรรมดามันก็คุมไม่ได้ เพราะไม่มีเครื่องมือประกอบ ธรรมะเป็นเครื่องมือประกอบกันกับจิตใจ เพื่อให้สภาพจิตใจนั้นมีปัญญามีสติ มีความรอบคอบในเรื่องต่างๆ มีความคิดว่าอะไรเป็นอะไร อะไรควรอะไรไม่ควร ยับยั้งชั่งใจ ไม่ปล่อยไปตาม อารมณ์ รู้จักหยุดรู้จักยั้ง ถ้าไม่รู้จักหยุดรู้จักยั้งแล้วก็ไปกันใหญ่

    สัมมาทิฏฐิบุคคลนั้นเขามีความคิดความเห็นในทางที่ถูกที่ชอบในสิ่งนั้นๆ อยู่ตลอดเวลา จึงไม่มีการกระทำอะไรที่จะเป็นเรื่องเหลวไหลออกไปจากเส้นทางอันถูกอันชอบ เพราะมีตัวสัมมาทิฏฐิคอยกำกับ ธรรมะมีอยู่ในใจย่อมได้ประโยชน์ได้คุณได้ค่า ทำให้ชีวิตมีราคาขึ้นอย่างนี้

    คนไม่มีศีลธรรมนั่นแหละเป็นคนล้าสมัย แต่คนมีศีลธรรมจะไม่เป็นคนล้าสมัย ไม่เก่า เป็นคนที่เรียกว่าทันเหตุทันการณ์ เพราะเขามีธรรมคุ้มครองจิตใจ มีสติปัญญาคุ้มครองจิตใจ อะไรเกิดขึ้นก็รู้ฉับพลันทันท่วงที ว่านี้ดี นี้ชั่ว อันนี้เป็นทางเกิดแห่งความเสื่อม อันนี้เป็นทางเกิดแห่งความเจริญ อันนี้เป็นทางเกิดทุกข์ อันนี้เป็น ทางเกิดสุข อันนี้เป็นเหตุให้เกิดความรักความพอใจ อันนี้จะเป็นเหตุให้คนเกลียดชัง ไม่อยากมองดูหน้าเราต่อไป รู้เท่ารู้ทันในเรื่องนั้นๆ ปัญหาที่จะเกิดขึ้นมันก็น้อยเป็นธรรมดา

    (จากหนังสือธรรมลีลา ฉบับที่ 119 ตุลาคม 2553 โดย พระพรหมมังคลาจารย์ (ปัญญานันทภิกขุ) วัดชลประทานรังสฤษฎ์ จ.นนทบุรี)
     
  8. โต้งชลบุรี

    โต้งชลบุรี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,474
    ค่าพลัง:
    +18,351
    ขอบคุณน้าม่อมครับ นำธรรมะมาฝากแต่เช้าเลย
     
  9. ละม่อม

    ละม่อม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    1,329
    ค่าพลัง:
    +3,892
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=tmMRvuV2We4&feature=player_detailpage]Silence of Love โฆษณาไทยประกันชีวิต - YouTube[/ame]
     
  10. บรม

    บรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    1,163
    ค่าพลัง:
    +3,926
    ขอบคุณน้าม่อมสำหรับสำหรับวันศุกร์ที่อวยพรให้ทุกคนได้รับสุขไปเ็ต็มๆ พร้อมธรรม
     
  11. rungaran

    rungaran เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    15,573
    ค่าพลัง:
    +57,321
    ชะอำก็ ครึ้มจ้า แต่ยังไม่ถล่มจ้า แต่ก็น่าจะเอา แน่ๆ
    สวัสดีจ้า ท่านประธาน โต้ง ท่าน อ.แก้วสว่าง คุณรักรังสิต คุณต๋อย และ สมาชิกแฟนคลับหลวงปู่ ทิม ทุกๆท่านจ้า
    สบายดีนะจ้า รวยๆนะทุกๆคน มาแอบอ่านเสมอจ้า อิอิ(k):cool::boo:
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 สิงหาคม 2011
  12. แก้วสว่าง

    แก้วสว่าง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    3,232
    ค่าพลัง:
    +49,927
    หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่

    [FONT=&quot](ต่อจากตอนที่แล้ว)ภายหลังจากที่พระทิมท่านก็ยังไม่ประสบความสำเร็จอีกในการเสกปลัดขิกและท่านก็ได้พยายามทดลองปลุกเสกอยู่หลายครั้งหลายคราปลัดขิกก็ยังไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆซึ่งถือว่ายังไม่ประสบความสำเร็จ แต่ความย่อท้อนั้นก็ไม่ได้อยู่จิตใจของพระทิมเลย ท่านก็พยายามดั้งด้นไปหาอาจารย์ที่มีชื่อเสียงในด้านการทำปลัดขิก ซึ่งคราวนี้ท่านก็ได้ยินกิตติศัพท์ชื่อเสียงของหลวงพ่อเหลือแห่งวัดสาวชะโงก ซึ่งในยุคสมัยนั้นท่านก็มีชื่อเสียงมากในการทำปลัดขิก จากนั้นพระทิมท่านก็ได้ออกเดินทางจากวัดละหารไร่ไปถึงยังวัดสาวชะโงกซึ่งถือว่าเป็นต้นกำเนิดในการสร้างปลัดขิก จากนั้นพระทิมท่านก็ได้เดินทางมาถึงวัดสาวชะโงกและท่านก็ได้ไปพบและได้มนัสการหลวงพ่อเหลือ เจ้าอาวาสวัดซึ่งตรงจังหวะพอดีที่หลวงพ่อเหลือท่านเสร็จจากการสนทนากับญาติโยมที่มาหาท่าน จากนั้นพระทิมท่านก็ได้สนทนากับหลวงพ่อเหลือและพระทิมท่านก็ได้เอ่ยขอเรียนวิชาการทำปลัดขิกจากหลวงพ่อเหลือ ซึ่งหลวงพ่อเหลือเมื่อท่านได้ฟังดังนั้นท่านก็ได้แต่ยิ้มๆ เหมือนกับท่านจะรู้ว่าพระทิมท่านมีจิตวิญญาณความตั้งใจสูงในการเรียนวิทยาคมต่างๆ อีกทั้งกอปรกับหลวงพ่อเหลือท่านอาจจะรู้ว่าพระทิมท่านเคยได้เรียนรู้เรื่องจิตมากับหลวงพ่อปานวัดบางเหี้ยซึ่งเป็นอาจารย์เดียวกันที่หลวงพ่อเหลือเคยไปร่ำเรียนมา แต่หลวงพ่อเหลือท่านจะเป็นศิษย์ในยุคก่อน ซึ่งอาจจะเรียกว่าเป็นศิษย์อาจารย์เดียวกันก็ได้ ซึ่งหลวงพ่อปานนั้นท่านเคร่งมากในเรื่องการวิปัสสนากรรมฐานและเรื่องของสมาธิจิต ซึ่งจะเห็นได้ว่าลูกศิษย์ของหลวงพ่อปานแต่ละท่านจะมีชื่อเสียงโด่งดังมากโดยเฉพาะเครื่องรางของขลังต่างๆเพราะการเสกเครื่องรางนั้นจะต้องใช้จิตที่สูงและเข็มขลังมากถึงจะทำให้เครื่องรางนั้นมีอานุภาพที่สามารถนำไปใช้กันได้ ซึ่งการปลุกเสกเครื่องรางในสมัยก่อนนั้นจะเห็นได้ว่าการที่จะทำเครื่องรางของขลังนั้นเขาจะทำกันจริงๆโดยไม่มีเรื่องของพุทธพาณิชย์เข้ามา ซึ่งการปลุกเสกเครื่องรางของขลังนั้นถ้ายังปลุกเสกไม่สำเร็จเขา จะไม่นำมาแจกให้ใช้โดยเด็ดขาด แต่ถ้านำมาแจกโดยที่ยังปลุกเสกไม่ถึงขั้นหรือว่าไม่สำเร็จนั้นถือว่าผิดสัจจะ เพราะพระเกจิในสมัยก่อนนั้นจะเคร่งครัดมากและจะต้องถือสัจจะเป็นใหญ่ถึงจะสามารถเรียนวิชาอาคมได้ ซึ่งในสมัยก่อนการเรียนวิชาอาคมเขาจะเรียนกันจริงจังไม่ว่าพระสงฆ์หรือฆราวาสเพราะสมัยก่อนส่วนใหญ่จะต้องมีการเรียนรู้เรื่องวิชาอาคมเพื่อไว้ใช้สำหรับป้องกันตัวและช่วยเหลือผู้อื่นเมื่อคราวจำเป็น ซึ่งจะเห็นได้ว่าทั้งพระสงฆ์และฆราวาส ในสมัยก่อนนั้นจะมีวิชาอาคมที่สูงมาก โดยเฉพาะฆราวาสนั้นวิชาอาคมบางอย่างนั้นจะเก่งกว่าพระสงฆ์เสียอีก ซึ่งจะเห็นได้ว่าอาจารย์ต่างๆที่พระทิมท่านได้ไปร่ำเรียนส่วนมากจะเป็นฆราวาส พระทิมท่านเคยเล่าให้ลูกศิษย์ในยุคแรกๆฟังว่า อาจารย์ฆราวาสที่ท่านได้ไปร่ำเรียนวิชาอาจารย์บางท่านสามารถแสดงอิทธิฤทธิ์ สามารถหายตัวเหาะเหินเดินอากาศได้ รวมถึงการเสกโดยใช้ทั้งไสยขาวและไสยดำ ซึ่งสมัยก่อนอาจารย์ฆราวาสสามารถทำได้ ซึ่งพระทิมท่านก็ได้เห็นประจักษ์ตา ดังนั้นท่านจึงได้สนใจมากและได้ขอฝากตัวเป็นลูกศิษย์ทันที และเฉกเช่นเดียวกันวิชาการทำปลัดขิกเป็นวิชาที่พระทิมท่านสนใจมากและต้องการเรียนรู้เพื่อต้องการเสกปลัดขิกให้ประสบผลสำเร็จให้จงได้ ซึ่งครั้งแรกพระทิมท่านได้ไปขอเรียนรู้การเสกปลัดขิกจากหลวงพ่ออี๋แห่งวัดสัตหีบซึ่งหลวงพ่ออี๋ท่านก็ได้ให้เคล็ดการเสกปลัดขิกว่าอยู่ที่การตั้งจิตและการตั้งใจให้มั่นถึงจะทำสำเร็จ ซึ่งพระทิมได้พยายามลองเสกหลายครั้งก็ยังไม่ประสบผลสำเร็จและก็คราวนี้พระทิมท่านก็ได้ดั้งด้นไปถึงวัดสาวชะโงกเพื่อขอเรียนวิชาการทำปลัดขิกจากหลวงพ่อเหลือ ซึ่งหลวงพ่อเหลือท่านก็ได้แนะเคล็ดการเสกปลัดขิกนั้นการที่จะเสกให้มีอานุภาพหรือประสบผลสำเร็จให้ได้นั้นมันอยู่ที่จิตอยู่ที่ใจเท่านั้น ซึ่งก็เป็นคำกล่าวที่หลวงพ่อเหลือท่านได้แนะตรงกับที่หลวงพ่ออี๋ท่านเคยได้กล่าวแนะไว้เหมือนกัน ซึ่งหลังจากที่พระทิมท่านได้รับคำแนะนำจากหลวงพ่อเหลือแห่งวัดสาวชะโงก จากนั้นพระทิมท่านก็ได้เดินทางกลับวัดละหารไร่ทันที (ติดตามตอนต่อไป)...จากภาพ..หลวงพ่อเหลือ วัดสาวชะโงก<o></o>[/FONT]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  13. kengnaja

    kengnaja เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    6,961
    ค่าพลัง:
    +16,850
    สาธุครับ ปลัดขิกหลวงพ่อเหลือ ปลุกเสกทีสาวๆพากันปิดบ้านช่องหลบกันหมด
    เป็นเรื่องเล่าต่อๆกันมาครับ(deejai)
     
  14. โต้งชลบุรี

    โต้งชลบุรี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,474
    ค่าพลัง:
    +18,351
    สวัสดียามค่ำวันศุกร์ครับ วันนี้ดูเหงาๆ สงสัยไปเที่ยวกันหมด
     
  15. รักรังสิต

    รักรังสิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    2,418
    ค่าพลัง:
    +17,140
    สวััสดีครับ คุณเอ็ม คุณลูกปลา น้าโต้ง วันนี้ฝนตกรถติด ธรรมดาสำหรับคนเมือง ธรรมมะของน้าม่อมที่เอามาฝากดีมากเลยครับ ทันสมัยเสมอไม่ตกรุ่น แอปพายใช้ได้ทุกสถานการณ์ขอบคุณหลายๆๆเด้อ
     
  16. M_RungSit

    M_RungSit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    143
    ค่าพลัง:
    +329
    สวัสดีครับพี่รัก วันก่อนได้ยินพี่พูดถึงรูปหล่อบูชาหลวงปู่ที่พี่ปั้นแล้ว ว่างๆสงสัยต้องไปชมซะหน่อยแล้ว(deejai)(deejai)(deejai)
     
  17. พุทธิวงษ์

    พุทธิวงษ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,200
    ค่าพลัง:
    +7,879
    สวัสดีครับทุกท่านตอนดึกๆ ก่อนอื่นผมเองก็ไม่รู้อะไรมากนะครับเพียงแต่เดาจากคุณสมบัติ ของอลูมิเนียม จากที่ทำงานต้องคลุกวงในอยู่กับน้องอลู เขามาบ้าง สังเกตว่าอันดับแรกน้องเขาจะมีเกรดแบ่งกันไป ตั้งแต่นิ่มงอง่ายขึ้นรูปง่าย แต่ตัดยาก คือมันจะเหนียว ตัดแล้วขอบจะเป็นเส้นยืดๆ ขยับขึ้นมาอีกก็ก็พอๆกันแข็งขึ้นมานิด.....เอาเป็นว่าน้องเขาจะเกรดดีขึ้นเลื่อยๆ จนถึงแข็งขึ้นรูปง่าย (กลึง) แต่เปราะ น่าจะปั๊มขึ้นรูปยาก
    ตัดแบบ press die (ตัดแบบพระเหรียญทั่วไป)น่าจะยุ่งยาก และน้องอลูถ้าเกรดต่ำจะสึกง่าย บุบง่าย และอายุน้องอลูเขาถ้าเกินประมาณ 20ปีก็....ใช้ไม่ดีแล้ว(18,19 อืมน่าคิด).....แีกอย่างเกรดต่ำชั้นล่าง จะลาคาถูกจริงครับ (แต่ใช้การไม่ได้) เกรดสูงขึ้นไปอีกก็จะมีราคาสูงตามไปด้วย โดยเฉพาะที่อยู่ตรงระเบียง ที่สูงกว่าห้องกระจก (อิๆๆ) น่าจะประมาณนี้นะครับ แต่โดยทั่วไปน่าจะอยู่ที่ความเข้มขลัง หรือการติดตลาดของวัสดู และการประยุกใช้ (เช่านเอาตระกุดมาหลอมรวมได้หรือพระเก่าได้) และอายุ ความคลาสสิคของความเก่า ทองแดงชนะขาดลอยครับ นิยมมาตั้งแต่ดั้งเดิมด้วย แต่ผมก็ว่าน่าคิดถ้าเอา ไทเทเนียมมาทำ น่าจะปลอมกันยากและจมูกน่าจะสึกยากนะครับ ความเห็นส่วนตัวครับเดาๆไปอ่านกันเล่นนะครับ:cool:
     
  18. kong2

    kong2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    767
    ค่าพลัง:
    +883
    อัศจรรย์เด็ก10ขวบ ตายแล้วฟื้น เผยเห็นคนตกนรก-กระทะทองแดง

    <STYLE> P { margin: 0px; } </STYLE>
    วันที่ 18 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรับแจ้งว่ามีเหตุการณ์ประหลาด เด็กตายไปแล้ว 14 วัน ฟื้นขึ้นมาอย่างน่าอัศจรรย์ หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปยังบ้านเลขที่ 62 ม.5 ต.มงคลธรรมนิมิต อ.สามโก้ จ.อ่างทอง ซึ่งเป็นบ้านของด.ช.พิฆเนศ หรือน้องจ่อย คล้ายทอง อายุ 10 ปี ที่ป่วยเป็นโรคลิ้นหัวใจรั่ว และเข้ารับการผ่าตัดหัวใจที่โรงพยาบาลเด็ก และเสียชีวิตไปแล้วฟื้นขึ้นมา จากการสอบถามนางสมคิด คล้ายทอง อายุ 48 ปี แม่ของน้องจ่อย เล่าว่า น้องจ่อยเกิดมามีโรคประจำตัวหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นกระบังลมรั่ว ฝาผนังหัวใจรั่ว ลิ้นหัวใจรั่วทั้ง 4 ห้อง และเม็ดเลือดขาวและเม็ดเลือดแดงปนกัน ล่าสุดผ่าตัดหัวใจที่โรงพยาบาลเด็กที่กรุงเทพฯ โดยนอนรักษาตัวอยู่ที่ห้อง ICU ตลอดเวลา 14 วัน ใช้เครื่องช่วยหายใจ พยาบาลที่มาตรวจพบว่าน้องจ่อยไม่มีปฏิกิริยาโต้ตอบใด ๆ หมอและพยาบาลจึงบอกตนว่าน้องจ่อยตายแล้ว แต่ตนบอกหมอและพยาบาลว่าไม่ให้ถอดเครื่องช่วยหายใจ เพราะลูกอาจจะฟื้นขึ้นมาได้

    จนมาเมื่อวันที่ 9 พ.ค. หมอจะถอดเครื่องช่วยหายใจ เพราะเด็กแขนขาเขียวคล้ำไปหมด นิ้วมือและนิ้วเท้าแห้งจนแข็งดำ หงิกงอ ผิวหนังแห้งเกรียม โดยเฉพาะที่นิ้วเท้าด้านขวาแห้งจนหลุดออกมา แต่ตนว่าขอเวลาอีก 1 วัน จนกระทั่งเมื่อวันที่ 10 พ.ค. หมอได้ถอดเครื่องช่วยหายใจออก ตนจึงได้นำดอกไม้ธูปเทียนพร้อมเงินจำนวนหนึ่งใส่ในมือลูก และเตรียมจะนำศพกลับไปบ้าน แต่หมอบอกว่าจะอาบน้ำทำความสะอาดร่างกายให้ หลังจากนั้นตนสังเกตเห็นว่าใต้ตาของน้องจ่อยมีเหมือนเหงื่อซึมตามผิวหนังใต้ตาอยู่ และเท้ากระดิกได้ หมอและพยาบาลมาดูต่างตกตะลึงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยบอกกับตนว่าเป็นสิ่งอัศจรรย์ไม่เคยพบเห็นมาก่อน จากนั้นจึงไปเอาที่วัดความดันมาวัด ก็พบว่าความดันเริ่มขึ้นมาเรื่อย ๆ ตัวเริ่มอุ่นขึ้น ก็รีบช่วยกันรักษาพยาบาล

    นางสมคิด กล่าวต่อว่า ตนรู้มาว่าถ้าคนไม่สบายมากๆ ให้ไปบนกับท้าวหิรัญพนาสูร ซึ่งเป็นเทพศักดิ์สิทธิ์ประจำโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า เพื่อขอชีวิตมีคนสมหวังกันมามากแล้ว ตนจึงได้ไปบนขนุนไว้ 2 ลูก และไข่ต้ม 50 ใบ แต่ตนก็ไม่ได้เล่าให้ใครฟังเลย แต่ที่น่าประหลาดใจ น้องจ่อย ได้เล่าให้ตนฟังว่า ช่วงที่นอนอยู่ได้เห็นว่ามีคนแก่แต่งตัวเหมือนเทพมายืนอยู่ที่เตียง น้ำหมากไหลตามปาก และบอกว่ากูจะเอาชีวิตคืนให้มึง แต่แม่มึงต้องมาแก้บนให้กูด้วย ซึ่งเรื่องที่ตนบนไว้ไม่ได้บอกให้ใครรู้เลย ตัวน้องจ่อยเองก็ไม่รู้ด้วย

    ส่วนน้องจ่อย เล่าว่า ช่วงที่นอนรพ.เหมือนได้ไปที่มีแต่หมอกควัน เห็นคนหลายคนกำลังโดนแทง เห็นกระทะทองแดง แล้วก็พบตาที่ตายไปแล้ว 6 ปี มาหาบอกว่า “จ่อยมายังไง” จากนั้นก็เห็นผู้ชายและผู้หญิงเดินมาบอกตาว่าให้พาเด็กคนนี้ไปส่ง เพราะยังไม่ถึงเวลา สักพักหนึ่งในมือของตนก็มีแต่เงินเต็มไปหมด ตนยังแบ่งให้ตาเลย แต่ตาก็ไม่เอา และหยิบคืนตน และรีบพาตนมาส่งที่ชั้น 2 ของโรงพยาบาล บอกว่าให้รีบไป เดี๋ยวจะไม่ทัน และเมื่อไปแล้วให้รีบเอาธูปที่มือออก จากนั้นตาก็หายไปทันที และช่วงที่อยู่กับตานั้น ยังพบว่าคนแก่ข้างบ้านที่ตายไปแล้วอีกหลายคน ยังมาทักตนเลยว่ามายังงัย
     
  19. kong2

    kong2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    767
    ค่าพลัง:
    +883
    ปรากฏการณ์จังหวัดน้องใหม่ “บึงกาฬ” นักท่องเที่ยวเรือนแสนแห่ชม "ปู่อือลือ" พญานาคเล่นน้ำ จองทำเลนั่งดูตั้งแต่เช้ามืด ทั้งที่พัก ร้านค้าถูกจองเต็ม คาดเงินสะพัด 10 ล้านบาท

    เมื่อวันที่ 19 ส.ค.ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการรอดูปรากฏการณ์พญานาคเล่นน้ำ ที่หนองน้ำขนาดใหญ่ “บึงโขงหลง” อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ จังหวัดน้องใหม่ที่ 77 ของประเทศไทย ที่มีพื้นที่กว่า 8,062 ไร่ ความลึกบางช่วงถึง 15 เมตร ตั้งแต่ช่วงเช้าเวลา 07.00 น.ท้องฟ้ายังมืดครึ้ม ฝนตกลงมาปรอย ๆ แต่พอสายมาก็หยุดตก ประชาชนทั้งที่เป็นคนท้องถิ่น และนักท่องเที่ยวต่างทยอยหอบเสื่อเข้าไปในลานสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติของเทศบาลตำบลบึงโขงหลง เพื่อจับจองหาที่นั่งและทำเลที่ดีที่สุดที่คาดว่าจะมองเห็นจุด “ปู่อือลือ” จะขึ้นมาว่ายน้ำให้เห็นตัวเป็นๆ แถมยังให้เห็นหงอนสีแดงและพ่นน้ำขึ้นบนผิวน้ำให้ดู ตามที่พญานาคนามว่า “ปู่อือลือ” มาเข้าฝันสื่อสารผ่านร่าง พ.ต.อ.ชยรพ สายจันยนต์ ผกก.สภ.บึงโขงหลง จนทำให้ทั้งสนามหน้าโรงพัก หน้าที่ว่าการ ตลาดสด โรงเรียนบึงโขงหลงพิทยาคม โรงเรียนบึงโขงวิทยา และตามไหล่ถนนสายต่างๆ ในเขตเทศบาลรถแน่นไปหมด ทั้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและตำรวจ ต้องจัดหาเจ้าหน้าที่ อาสาสมัคร อปพร. และตำรวจจราจรมาอำนวยความสะดวกกันอย่างเติมที่

    นายชัยมงคล ขัดติยะราช ผู้อำนวยการโรงเรียนบึงโขงหลงวิทยาคม กล่าวว่าโรงเรียนต้องสั่งปิดการเรียนการสอนตั้งแต่เวลา 13.00 น.เป็นต้นไป เนื่องจากมีรถนักท่องเที่ยวเข้ามาจอดในสนามและบริเวณโรงเรียนเต็มไปหมด เกรงจะเกิดอันตรายจึงได้สั่งในนักเรียนกลับบ้านก่อน และเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวที่มาเตรียมตัวดูปรากฏการณ์ และความมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้นกับ จ.บึงกาฬจังหวัดน้องใหม่ของประเทศ

    ต่อมาเวลา 16.00 น.ก็ยังมีฝนตกเป็นช่วงๆ ทำให้ประชาชนที่หลั่งไหลกันมารอชมปรากฏการณ์มหัศจรรย์ ต่างพากันวิ่งเข้าไปหลบฝนในเต็นท์บ้าง บางคนก็กางร่มกันฝน แต่บางคนไม่ได้เตรียมตัวมาก็ยอมเปียกฝน เพื่อรอพิสูจน์สิ่งมหัศจรรย์ที่จะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า ในสนามที่กว้างขวางก็แทบไม่มีที่เดิน เนื่องจากมีคนมากันเป็นจำนวนมากคาดว่าอาจจะถึง 1 แสนคน สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำให้กับพ่อค้าแม่ขาย คาดจะมีเงินสะพัดถึง 10 ล้านบาท และยังเป็นสาเหตุทำให้สัญญาณโทรศัพท์มือถือหล่มไปหลายครั้ง อย่างไรก็ตาม นอกจากนักท่องเที่ยวแล้ว ยังมีข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ของ จ.บึงกาฬ และจังหวัดใกล้เคียง เช่น ฝ่ายปกครอง ผู้พิพากษา แล้วยังมี พล.ต.ท.สมพงษ์ คงเพชรศักดิ์ ผบช.ภ.4 มานั่งรอชมอยู่ด้วย

    กระทั่งเวลา 16.20 น.ประชาชนที่รอดูก็ได้เฮลั่นกัน เมื่อมีงูขนาดใหญ่ ยาวประมาณ 10 เมตรว่ายน้ำอยู่ห่างจากฝั่งประมาณ 150 เมตร นานประมาณ 2 นาที ท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมา หลายคนถึงกับยกมือขึ้นเหนือศีรษะ สาธุที่เป็นบุญตาได้มาเจอด้วยตนเอง แต่บางคนบุญมีแต่ร่มบัง เพราะถูกคนที่อยู่ข้างหน้ากางร่มบังจนมิดแทบมองไม่ทัน ได้แต่บ่นอุบอิบให้คนที่อยู่ข้างหน้า จากนั้นประชาชนก็เริ่มทยอยกันเดินทางออกจากจุดที่ชมกลับบ้านไป ด้าน พ.ต.อ.ชยรพ สายจันยนต์ ผกก.บึงโขงหลง กล่าวว่า เสียดายที่มีฝนตกลงมาขณะที่ปู่อือลือกำลังว่ายน้ำทำให้มองเห็นไม่ชัดเจนนัก สื่อมวลชนก็ถ่ายภาพยากด้วย แต่นักท่องเที่ยวที่ทนรออยู่จนถึงเวลา 17.40 น ก็ได้ชมบารมีปู่อือลืออีกรอบ เมื่อมีงูใหญ่สีดำว่ายน้ำจากเหนือขึ้นทางทิศใต้ ครั้งนี้นานถึง 4 นาที สร้างความประทับใจให้กับผู้พบเห็นอย่างมาก.

    ครั้งนี้มันไม่ค่อยเห็นเพราะฝนตก แต่ครั้งที่4จะเห็นเป็นสายตรงกลางน้ำครับ
    ดูครั้งที่4ก่อนนะครับ
    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=pq5jC0txVCU"]???? ???? ?????? ?????? ????????? - YouTube[/ame]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 สิงหาคม 2011
  20. รักรังสิต

    รักรังสิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    2,418
    ค่าพลัง:
    +17,140
    สวัสดีครับทุกท่าน เรื่องรูปหลวงปู่ปูนปั้น ผมเคยเรียนเซรามิคกับอาจารย์สมถวิลมาบ้างเอามาปรับใช้ไม่ได้เก่งอะไรครับปั้นพราะชอบครับ เป็นhobby ของผมครับ เราทำอะไรที่ชอบใจเป็นสมาธิดี ผมปั้นเป็นดินน้ำมัน แต่ดินน้ำมันอ่อนตัวขึ้นรูปยาก ซ้อมมือก่อนยากตรงศรีษะครับ ค่อยๆรื้อฟื้นวิชาเก่าๆที่เรียนมา แต่ปั้นไปปั้นมาผมว่าเหมือนหลวงปู่แก้วมากเลย
     

แชร์หน้านี้

Loading...