ความสงสัยเรื่องทิพย์จักษุญาณ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย i3lack, 18 สิงหาคม 2011.

  1. i3lack

    i3lack เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    288
    ค่าพลัง:
    +102
    ถ้ากสินทั้ง 3 นั้นทำให้เกิดทิพย์จักษุญาณได้แล้ว สิ่งที่ทำให้นิมิตชัดเจนนี่คือ กำลังสมาธิ กับ วิปัสนาใช่ไหมครับ :cool:
     
  2. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    ทำไมคำถามสั้นจังเลยครับ

    หากเกี่ยวกับนิมิตเพียงอย่างเดียว ไม่จำเป็นต้องเกี่ยวกับทิพย์จักษุญาณก็ได้นะครับ

    เพราะนิมิตใช้การตรึกขึ้นมา และ จะชัดเจนก็ต่อเมื่อกำลังของสมาธิมั่นคงแล้วครับ

    ที่ผมตอบแบบนี้เพราะไม่เข้าใจในคำถามครับ

    ขอให้เจริญในธรรมครับ
     
  3. i3lack

    i3lack เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    288
    ค่าพลัง:
    +102
    เห็นว่าถ้าฝึกกสิณจนได้ทิพย์จักษุแล้วบางท่านจะมัว ๆ แล้วการทำให้ทิพย์จักษุชัดเจนขึ้นนะครับ :cool:
     
  4. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    ที่มัวๆ ด้วยอ่อนกำลังสมาธิ ก็เหมือนคนที่มีแรงน้อย จะให้ไปยกของที่หนัก ก็จะยกไม่ไหวนะครับ

    กำลังในการเพ่งคงยังน้อยอยู่ครับ

    ขอให้เจริญในธรรมครับ
     
  5. bluebaby2

    bluebaby2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2010
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +4,288
    เอามาจากหนังสือนะครับ ครูบาเจ้าบุญคุ้ม ปสันโน

    เตโชกสิณ การเพ่งไฟเป็นอารมณ์ อาณุภาพสามารถอธิษฐานให้เกิด
    เป็นเพลิงเผาผลาญหรือให้เกิดแสงสว่างได้ ทำแสงสว่างให้เกิดแก่
    จักษุญาณ สามารถเห็นภาพต่างๆ ในที่ใกลได้คล้ายตาทิพย์ ทำให้
    เกิดความร้อนในที่ทุกสถานได้ เมื่ออากาศหนาวสามารถทำให้เกิดความ
    อบอุ่นได้

    โอทาตกสิณ การเพ่งสีขาวเป็นอารมณ์ สามารถเนรมิตสีขาวให้ปรากฏ
    และทำให้เกิดแสงสว่างได้ เป็นกรรมฐานที่อำนวยประโยชน์ในทิพพจักขุ
    ญาณ เช่นเดียวกับเตโชกสิณ

    อาโลกกสิณ การเพ่งแสงสว่างเป็นอารมณ์ เนรมิตรูปให้มีรัศมีสว่างไสว
    ได้ ทำที่มืดให้เกิดแสงสว่างได้เป็นกรรมฐานสร้างทิพพจักขุญาณโดยตรง
     
  6. Darkever

    Darkever เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 เมษายน 2011
    โพสต์:
    450
    ค่าพลัง:
    +333
    ภาพจะชัด เท่ากับ ความชัดของนิมิตกสิน
    ไม่เกี่ยวกับวิปัสสนา


    แต่วิปัสนาญาน ยิ่งสูง กิเลศเบาบางเท่าไหร่ ยิ่งมองได้สูง

    มองสิ่งที่เห็นได้ในระดับเดียวกับตัว ไปจนถึงระดับต่ำกว่า
    เช่น ตัวเองเป็น สกิทาคา สามารถมองเห็นโสดาได้ สกิทาคาได้
    แต่จะมองอนาคาไม่ได้ อรหันต์ไม่ได้
    หรือตนเองมีวิปัสสนาเป็นโสดาขึ้นไป สามารถเห็นนิพพานได้
    เป็นต้น
     
  7. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,646
    ทิพย์จักษุญาณ ไม่ใช่นิมิตครับ...ต่างกันมากเลยนะ....

    ในการฝึกทิพยจักษุญาณนั้น....

    การที่ภาพจะชัดได้นั้นกำลังสมาธิและกำลังวิปัสสนามีความจำเป็นสูงมากครับ....

    ท่านเข้าใจถูกแล้ว...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 สิงหาคม 2011
  8. albertalos

    albertalos เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2006
    โพสต์:
    2,462
    ค่าพลัง:
    +1,137
    :cool:
    :cool::cool::cool::cool::cool::cool:
     
  9. i3lack

    i3lack เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    288
    ค่าพลัง:
    +102
    นิมิต กับ ทิพย์จักษุญาณ เป็นคนละอย่างกันนี่เอง :cool:

    ขออนุโมทนาทุกท่านครับ
     
  10. Miss Brown

    Miss Brown เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,779
    ค่าพลัง:
    +19,376

    ส่วนตัวเห็นด้วยค่ะ
    เสริมนิดนึง...ขอยกตัวอย่างเรื่องมโนมยิทธิครึ่งกำลังกับเต็มกำลัง
    จะเห็นได้ว่าไม่ว่าจะเป็นครึ่งกำลังหรือเต็มกำลัง
    ก่อนที่เราจะขอให้เห็นภาพนั้น...เราต้องใช้วิปัสสนาญาณเข้าช่วย
    โดยส่วนใหญ่เท่าที่เคยฝึก ครูฝึกจะพูดเกี่ยวกับการละสักกายะทิฏฐิ คือการไม่เห็นว่าร่างกายเราเป็นของเราก่อน
    หากเราละได้ยิ่งมาก กำลังของวิปัสสนาญาณมาก ภาพที่เห็นก็ชัดเจนขึ้น
    แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับกำลังสมาธิเช่นกันค่ะ


    เอาแบบเข้าใจง่าย ๆ หากเป็นมโนมยิทธิครึ่งกำลังจะเห็นเพียงภาพ (กำลังสมาธิเป็นแค่ระดับอุปจารสมาธิ)
    หากมีบางคนที่ไม่ต้องการให้เรารู้บางเรื่อง เราก็จะไม่ทราบ
    แต่หากเป็นมโนมยิทธิเต็มกำลังจะเห็นโดยรอบเหมือนการเข้าไปอยู่ในเหตุการณ์จริง (ระดับสมาธิคือฌาน 4 ใช้งาน)
    เราจะเห็นเรื่องทั้งหมดค่ะ โดยที่ปิดกันไม่ได้


    สรุปง่าย ๆ คือยิ่งกำลังสมาธิสูง วิปัสสนาญาณสูง การเห็นภาพยิ่งชัดเจนแจ่มใสค่ะ
    แต่ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าสิ่งที่เราเห็นจะเป็นจริงเสมอไป
    เห็นน่ะเห็นจริง แต่สิ่งที่เห็นเป็นความจริงหรือไม่นั้นอีกเรื่องนะคะ


     
  11. หนุ่มทิพย์

    หนุ่มทิพย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    52
    ค่าพลัง:
    +152
    อภิญญาที่เกิดจากทิพยจักขุญาณ ทำไมยากถ้าหากคุณสามารถเข้าสมาธิได้ถึงระดับ ฌาน ไม่ว่าจะระดับ ฌาน 1 2 3 4 เมื่อออกจากฌาน แล้วมาหยุดอยู่แค่ระดับอุปจารสมาธิ อธิฐานจิต ขอให้เห็นภาพ ภาพก็จะปรากฎให้เห็นเอง สวรรค์ นรก เทวดา พรหม สัตว์ต่างๆ ที่อยู่ต่างภพภูมิที่ตามนุษย์มองไม่เห็น ก็จะสามารถมองเห็นได้หมด ทำไมยากหรอก หลักสำคัญอยู่ที่ 1.มีศีล5บริสุทธิ์หรือเปล่า 2.กำลังสมาธิพอไหม (สามารถถึงระดับฌาน) 3.จิตต้องไม่มีกิเลสหรือความอยากหลงเหลือ (ถ้าอยากเห็นจะไม่เห็น)
     
  12. i3lack

    i3lack เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    288
    ค่าพลัง:
    +102
    ขอบคุณทุกท่านมาก ๆ ครับผมจะพยายามฝึกฝน :cool:
     
  13. ปุณฑ์

    ปุณฑ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2008
    โพสต์:
    2,760
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,692
    ชัดแต่ไม่แม่น
    ไม่ค่อยชัดแต่แม่น

    กำลังสมาธิ กับ กำลังวิปัสสนา
    เออ น่าสนนะจ๊ะ

    ทั้งชัดทั้งแม่น
    ทั้งไม่ชัดทั้งไม่แม่น

    บางทีเป็นเรื่องเป็นราว ไปเลย
    เขาว่าเขาชัด แต่อุปาทานเอาไปกิน
     
  14. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,646
    คนไม่เคยกินเกลือ จะรู้ได้หรือไม่ว่าเกลือมันเค็ม...

    ฟังแต่คนอื่นมา....ว่าเกลือมันเค็ม หรือคิดเอาว่ามันเค็ม...มันก็สมว่ามันจะเค็มมาถึงปากหลอก....

    คนเราบุญบารมีมันไม่เท่ากันจริงๆนะ...ของอย่างนี้พูดยาก...
     

แชร์หน้านี้

Loading...