ปรากฏการณ์ประหลาด

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย jaya, 10 สิงหาคม 2011.

แท็ก: แก้ไข
  1. jaya

    jaya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,110
    ค่าพลัง:
    +2,183
    ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนว่า ที่นำเหตุกาณ์นี้มาโพสต์ แค่ต้องการถามเพื่อนๆ ว่ามีท่านใดบ้างเคยพบเห็นอย่างนี้บ้าง ต้องการทราบว่าเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติอะไร
    เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 30 กรกฎาคม ที่ผ่านนี้ เวลาประมาณ 2ทุ่มครึ่ง ที่หน้าที่ทำการศูนย์โอทอป คลองสี่ ธัญบุรี มีชาวบ้านบริเวณนั้นได้เรียกและชี้ขึ้นไปบนท้องฟ้า ข้าพเจ้าพร้อมลูกสาวได้แหงนหน้ามองขึ้นไปยังท้องฟ้าในเวลานั้น ฟ้าโปร่ง แต่มีอะไรบางอย่างลอยอยู่ บางอย่างที่ว่านั้นมีลักษณะเหมือนก้อนเมฆมีสีขาวบางๆ คล้ายปุยเมฆ ขนาดเท่าที่เห็นประมาณเท่าลูกบอล รูปร่างคล้ายๆ จะกลมแต่ไม่กลมดิกนะ ตรงกลางจะมีความสว่างเข้มกว่า มี 4 ดวง(ขอเรียกว่า ดวง) และมีขนาดใหญ่กว่าอีก 2 เท่า มีลักษณะอย่างเดียวกัน อีก 2 ดวงhello8hello8
    เจ้าดวงที่คล้ายก้อนเมฆนี้ เคลื่อนที่อย่างเร็ว เร็วกว่าเครื่องบินที่เราเห็นบินกันตามปกติบนท้องฟ้า ลักษณะการลอยหรือบินนั้น เจ้าดวงที่มีขนาดเล็ก 4 ดวงนั้นบินหรือลอย เวียนกันเป็นวงหลายรอบ แล้วก็จะลอย/บินเข้าหากันที่ตรงกลาง.ของ.วง.. แล้วเจ้าดวงใหญ่ซึ่งบิน/ลอย เหมือนเป็นพี่เลี้ยงดูเชิงอยู่รอบนอก จะบิน/ลอยเข้ามาบินวนโดยรอบ ในขณะที่ดวงเล็กบิน/ลอยเข้าหากัน เมื่อดวงเล็กเข้าหากันนั้น่จะมีความสว่างขึ้นที่ตรงกลางเจ้าดวงทั้ง4 นี้ แล้วก็จะแยกกระจายออก แล้วทำการบินวนเป็นวงกลมอีก ดวงใหญ่ก็จะบิน/ลอย แยกออกและหายเข้าไปในก้อนเมฆ (เมฆปกติที่มีตามอยู่บนท้องฟ้า) และจะมีความสว่างวาบที่ตรงกลางดวง 1ครั้ง สังเกตดูเห็นว่าการบิน/ลอยวนและวิ่งเข้าหากัน 1 รอบนั้น เจ้าดวงพวกนี้จะเคลื่อนสูงขึ้นไปเรื่อยๆ และมีบางรอบที่เจ้าดวงเล็กดวงหนึ่ง จะบิน/ลอยไม่ราบรื่นคล้ายกระตุก กระชาก เหมือนอย่างกับเครื่องขัดข้องแล้วกระตุกอย่างนั้นแหละ ทุกๆรอบ ความเร็วคงที่และบิน/ลอยอย่างนี้ หลายรอบ (1รอบคือดวงเล็กบินวนเวียน แล้ววิ่งเข้าหากันพร้อมดวงใหญ่บินวนรอบห่างๆ คอยเฝ้าดู แล้วแยกออก ไปบินวนกันใหม่)
    การบิน/ลอยนี้กระทำอยู่นานประมาณ 1 ชั่วโมง ก่อนที่ข้าพเจ้าจะไปเห็นนั้น มันปรากฏอย่างนี้ก่อนแล้ว ครึ่งชั่วโมงแต่ตอนนั้นชาวบ้านบอกว่า มันอยู่ค่อนมาทางหลังศูนย์ฯ ตอนที่ข้าพเจ้าไปเห็นนั้นมันย้ายมาทางด้านหน้าศูนย์ฯ ข้าพเจ้ายืนดูพร้อมกับลูกๆ และชาวบ้านคนอื่นๆ จนมันหายไปมองไม่เห็น ชาวบ้านต่างพากันพูดกันไปบ้างก็ว่าแสงไฟสปอร์ตไลท์ส่อง บ้างก็ว่าเป็นอาถรรพ์ บ้างก็นั่งตีหวยฯลฯ ว่ากันไป แต่อย่างหนึ่งที่บอกได้คือไม่ใช่ไฟสปอร์ตไลท์ส่อง เพราะมันไม่มีลำแสง ที่เห็นนั้นเหมือนเราเห็นก้อนเมฆเล็กๆ ลอยในท้องฟ้าอย่างปกติที่เราเห็นกัน
    ข้าพเจ้ามองๆ ไปนึกเปรียบเหมือนการเต้นรำที่สวยงาม และยังไม่แน่ใจว่าที่เห็นนั้นคือ ยานบินหรืออะไร เพราะมีคนเอากล้องดิจิตอลมาถ่าย ซูมแบบสุดๆ ก็ยังถ่ายรูปไม่ติดเลย เกิดมาจนแก่ปูนนี้เพิ่งเคยเห็นปรากฏการณ์อย่างนี้ จึงอยากทราบว่ามีท่านใดที่เคยพบเห็นอย่างนี้บ้างหรือเปล่า หรือท่านใดที่มีความรู้เกี่ยวกับปรากฏการณ์อย่างนี้ ก็ขอความกรุณาช่วยแนะนำด้วย ขอขอบคุณ

    ป.ล. เรื่องนี้ไม่ได้ต้องการชวนเชื่อแต่อย่างใด
     
  2. Jubb

    Jubb เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    1,267
    ค่าพลัง:
    +2,134
    มัน...มันคือโปเตโต้!!![​IMG]อ อ อ
     
  3. Ronrit

    Ronrit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    71
    ค่าพลัง:
    +167
    ช่วงนี้เขาออกมาให้เห็นบ่อยมากทั่วโลกเลยก็ว่าได้ ไม่นานพวกเขาจะเปิดเผยตัว เชื่อว่าในช่วงชีวิตนี้ พวกเราคงได้พบกันมนุษย์ต่างดาวแน่นอนครับ
     
  4. คิดดีจัง

    คิดดีจัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,626
    ค่าพลัง:
    +5,353

    คิดเหมือนกันเลยครับ

    คงไม่นานเกินรอ
     
  5. คนชอบอ่าน

    คนชอบอ่าน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    31
    ค่าพลัง:
    +65
    เคยอ่าน หนังสือที่เขียนถึง บรมครูจากต่างพิภพ ที่อาจเคยมาสอนวิทยาการมนุษย์ในยุคโบราณ เช่น การโคลนนิ่ง งานวิศวกรรมก่อสร้าง ฯลฯ ด้วยหลักฐานที่นำมาเล่า ไม่เคยเชื่อเลยว่า มนุษย์คือสิ่งมีชีวิตกลุ่มเดียวที่มีอยู่ในเอกภพ

    ลองหาอ่านดูนะคะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • Cover.jpg
      Cover.jpg
      ขนาดไฟล์:
      42.7 KB
      เปิดดู:
      151
  6. Enzo

    Enzo Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    279
    ค่าพลัง:
    +60
    แสดงว่า....จานบิน(เอาตามที่เจ้าของกระทู้เข้าใจ)...ที่คนไทยเห็น มีอาคม!!

    มีเวทมนตร์!! สูง!! เลยทำให้...ถ่ายรูปไม่ติด...ถ่ายคลิปไม่ติด..

    แต่ จานบินที่ฝรั่งเห็น...ถ่ายติดทั้งคลิป และ รูป ... เออ น่าคิด ^^
     
  7. Chart072

    Chart072 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    124
    ค่าพลัง:
    +258
    เคยเห็นภาพจานบินของมนุษย์ต่างดาวที่มาประมาณ 10 ลำ ที่มาบินวนในลักษณะคล้ายที่คุณjaya เล่ามานี้ ที่เหนือเมืองเชนได ญี่ปุ่น ก่อนหน้าที่จะ้เกิดสึนามิ 3 วัน เขามาแจ้งเตือนเหตุภัยพิบัติ มีคนถ่ายวิดิโอติด แต่ไม่เข้าใจที่เขามาสื่อสาร ( คนที่ถ่ายติด เอาภาพมาลง หลังเกิดเหตุแล้ว ) เพราะพวกเขาเห็นภาพเหตุการณ์ในอนาคต ( เขาอยู่มิติที่ 6 สามารถ เห็นเหตุการณ์ในอนาคต ได้ แม้แต่ หยุดเวลาได้ ย้อนเวลาได้ ไปในอนาคตได้ ต่่างจากเราที่ไม่สามารถควบคุมเวลาได้ ) จากที่คุณ jaya เห็นนั้น น่าจะใช่จานบินมนุษย์ต่างดาว ซึ่งมีหลายขนาด ถ้าลำใหญ่มักเป็นระดับหัวหน้า พวกเขามาดี เป็นมิตรกับมนุษย์เรา มีจิตใจดีงามมาก มีเมตตา อยากช่วยเหลือชาวโลก พวกเขาติดต่อกับคนเราได้ จำนวนหนึ่ง ( ซึ่งมีอยู่ แต่ น้อยมาก ติดต่อทางสมาธิจิต บางคนเรียกโทรจิต) ที่ผมทราบนี้ก็จากท่านหนึ่งที่สามารถติดต่อกับมนุษย์ต่างดาวได้ ( อยู่ไม่ใกล้ ไม่ไกล แถวๆ เชียงใหม่ -แม่ฮ่องสอน นี้ ท่านหนึ่งหละ ที่กทม. ก็มี ที่ทางนครนายก ก็มี )พวกเขาอยู่โลกอื่น เท่าที่ทราบจากท่านผู้รู้นะครับ ทีี่ใกล้สุดก็อยู่ดาวอังคาร แต่ที่นักบินอวกาศไปสำรวจ หรือ เฝ้ามองดูอยู่ทางกล้องโทรทัศน์ก็ดี ไม่เคยพบเห็น ก็เพราะพวกเขาไม่มีกายหยาบ หรือรูป อย่างมนุษย์เรา เขามีขันธ์ 4 แต่เรา มีขันธ์ 5 นอกจากเวลาเขาอยากให้มนุษย์เห็๋น ก็จะทำให้เห็นได้ โดยใช้พลังจิต พวกเขาอยู่ในสภาพเหมือนเทวดา หรือ พรหม มีอายุยืนยาวเป็นหมื่น เป็นแสนปี จึงเห็นความเป็นไปทั้งหมดของโลกอื่น เห็นโลกเรา มีความสวยงามมาก เป็นสีเขียวมรกต มีลวดลายๆ เป็นดวงดาวดวงเดียวที่สวยงามมาก ( อย่างที่เราเห็นภาพโลกจากยานอวกาศ ) พวกเขาอยากจะช่วยรักษาไว้ ไม่อยากให้เกิดภััยพิบัติกับโลก จึงขณะนี้ พยายามมาติดต่อ ส่งขา่าวสาร หาทางแนะนำป้องกัน บรรเทาภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ( เรื่องนี้ เกิดแน่ สอดคล้องกับที่พระอภิญญาหลายท่าน ได้บอกเตือนไว้แล้ว )และอยากมาสัมผัสมนุษย์ใกล้ แต่เข้ามาใกล้มากไม่ได้ ด้วยเกรงว่า จะเกิดอันตรายจากพลังงานที่เขาใช้ในการขับเคลื่อนยานทีี่พัฒนาไปไกลมากกว่าเรา ที่เรายังไม่มีเทคโนโลยีถึงขั้นนั้น
    สำหรับยานของเขา สามารถถ่ายติดได้ครับ แต่ที่บางคนว่าถ่ายไม่ติด อาจอยู่ไกลเกินไป และแสงไม่พอ หรือเทคนิกการใช้กล้อง
    ท่านอยากรู้เรื่องมนุษย์ต่างดาว และเรื่องของดาวดวงอื่นที่มีมนุษย์อยู่ ลองหาอ่านในเรื่องจุไรพาท่องเที่ยว ของสำนักวัดท่าซุง โดยหลวงพ่อพระราชพรหมยาน จะหายสงสัยเรื่องต่างดาวได้นะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กันยายน 2011
  8. microtab

    microtab สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2011
    โพสต์:
    54
    ค่าพลัง:
    +8
    ยอดเลยนะครับ ที่ผมเคยเห็น อย่างมากก็แค่จุดแสงเคลื่อนที่แปลกๆบนท้องฟ้าเท่านั้น
     
  9. toseal

    toseal เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    274
    ค่าพลัง:
    +618
    คนที่เห็น ufo น่าจะเป็นเจ้ากรรมนายเวรของท่านกระมัง ห้าๆๆ
     
  10. Numtrn

    Numtrn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    1,408
    ค่าพลัง:
    +1,571
    สงสัยเรื่องย้อนเวลาได้

    ถ้าจุดทูป หรือจุดเทียน จนไหม้หมด ในยานอวกาศ

    แล้วเดินทางย้อนกาลเวลา กลับไปอดตี

    เจ้า ทูป และเทียน มันจะงอกกลับมาเหมือนเดิมได้หรือไม่




    ส่วนตัวไม่เชื่อว่า การย้อนเวลาจะมีจริง

    ถ้าย้อนเวลาได้ มนุษย์ต่างดาว จะมายุ่งกับปัจจุบันของโลก เพื่ออะไร
    ไปแก้ไขอดีต ของ มนุษย์ต่างดาวเองไม่ดีหรือ ???
     
  11. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,272
    ค่าพลัง:
    +82,730
    ขอบคุณที่มาเฉลยค่ะ ให้ค่าความเชื่อถือสำหรับคำตอบเท่าไรคะคุณจุ๊บ
     
  12. mamboo

    mamboo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,129
    ค่าพลัง:
    +1,973
    คุณ Numtrn ลองนึกภาพว่า.. เหตุการณ์ชีวิตของเรา ตั้งแต่ต้น จนจบ มันจะเป็น frame ภาพ เรียงๆๆๆๆๆๆๆกัน

    พอเราเข้าไปอยู่ที่ frame ไหน เราจะจำเหตุการณ์ของ frame ต่อไปไม่ได้ (จำได้แต่เหตุการณ์ของ frame ก่อนหน้านี้)

    แต่ถ้าเรา ไม่เข้าไปอยู่ใน frame เราถอยตัวออกมา เป็นผู้มองดูภาพเหตุการณ์ เราจะเห็นว่า ทุกๆ frame มีอยู่พร้อมๆกันหมด

    ถ้าเราเข้าไปที่ frame หนึ่งๆ ถ้าเราเข้าไปเปลี่ยนเหตุการณ์ (สมมติว่า เหตุการณ์นั้น ไม่ใช่ของเรา แต่เป็นของคนอื่น) ถ้าเราเข้าเปลี่ยนเหตุการณ์ มันจะเกิด frame ที่เรียงต่อจากเหตุการณ์ที่เราเข้าไปเปลี่ยนขึ้นใหม่..

    นั่นก็หมายความว่า.. ถ้าเราเข้าไปเปลี่ยนเหตุการณ์ ณ frame หนึ่งๆ มันจะเกิดเหตุการณ์ขึ้นมาใหม่..

    หมายความว่า..

    ภาพยนต์ 1 เรื่อง จะมีตอนจบไม่เหมือนกัน!

    ----------

    แต่ละ frame แต่ละภาพเหตุการณ์ชองชีวิต ถูกแบ่งด้วย... "การกระพริบ เกิด-ดับ ของสสาร" จังหวะการกระพริบที่ไม่เท่ากัน ได้แบ่งแต่ละ frame แต่ละสิ่ง ออกจากกัน ไม่เห็นกัน

    พวกเราจะมองเห็นแค่ "ปัจจุบัน" เราจะมองไม่เห็นอดีต มองไม่เห็นอนาคต เพราะจังหวะการกระพริบมันไม่เท่ากัน..

    -----

    (ซึ่ง.. หมายความว่า.. ไม่ว่าคุณจะทำอะไรลงไป เหตุการณ์และการกระทำของคุณ ไม่ได้หายไปไหน มันก็ยังอยู่ แต่เรามองไม่เห็นด้วยตาเนื้อ)

    1 ชีวิตของมนุษย์คนหนึ่ง สามารถมีจุดจบของชีวิตได้หลากหลาย..

    คนๆหนึ่ง ถ้ามาเกิดในร่างของมนุษย์ผู้หนึ่ง แต่ใช้ชีวิตไปตามเวรตามกรรม(แบบไม่มีสติ) เขาจะถูก DNA ข้อมูลในสมอง ของร่างกายเนื้อของมนุษย์ผู้นั้น ควบคุม! ทำให้ดำเนินเรื่องราวของชีวิต ซ้ำๆ ซ้ำไป ซ้ำมา

    แต่ถ้า.. คนๆหนึ่ง!! มีแรงกระตุ้น.. มีสติ เกิดปัญญา ทำให้สิ่งที่ไม่หลงไปกับเหตุการณ์ ไม่หลงไปกับความเชื่อรอบๆตัว แต่ทำทุกๆอย่าง อย่างมีสติ.. บุคคลท่านนี้ จะไปสร้าง "เส้นทางชีวิต เส้นทางใหม่" ให้เกิดขึ้น..

    ถ้าเราเป็นผู้มองดูเหตุการณ์ เราจะมองเห็น.. เช่น

    mamboo เกิดมาเป็นลูกของ พ่อ ล. แม่ น.

    แต่...

    เคยมีดวงจิต "หลายๆๆๆๆดวง" ที่เคยมาเกิดเป็นคนที่ชื่อว่า mamboo และเป็นลูกของ พ่อ ล. และ แม่ น. (ร่างกายของเรา ไม่ใช่ของเราคนเดียวนะคะ แต่เคยถูกใช้โดยดวงจิตของผู้อื่น ซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า)

    -----

    แต่หากว่า.. ชาติภพนี้ เกิดมี ช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง หรือจังหวะชีวิตช่วงใดช่วงหนึ่ง ที่ mamboo ไม่ได้หลงไปกับกิเลสรอบกาย ที่ mamboo ไม่ได้คล้อยตามสภาพแวดล้อมรอบๆกาย และข้อมูลใน DNA ของร่างกายเนื้อร่างนี้..

    ถ้ามีช่วงเวลาหนึ่งของชีวิต ที่ mamboo ใช้ชีวิตอย่าง "มีสติ" คือ.. ไม่หลง..

    ดวงจิตของ mamboo นี้ จะไปสร้าง "เส้นทางชีวิต อีกเส้นทางหนึ่ง" ที่มีจุดจบของชีวิต และเรื่องราวของชีวิตหลังจากนี้ ไม่เหมือนกับ mamboo คนอื่นๆ

    (นักวิทยาศาสตร์ เรียกปรากฏการณ์นี้ว่า โลกคู่ขนาน แต่ mamboo ก็ไม่อยากไปเรียกทับกับนักวิทยาศาสตร์ เพราะมันไม่เหมือนกันเด๊ะ แค่คล้ายๆกัน)

    ----------

    ดังนั้น.. คำถามที่ว่า..

    เราสามารถย้อนเวลากลับไปแก้ไขอดีตได้ไหม...

    mamboo คิดว่า "ได้" ..

    แต่.. มันจะเกิดเป็น เส้นทางชีวิต เส้นทางใหม่ ที่ไม่เหมือนอันเดิม (อันเดิมที่เกิดแล้ว มันก็เกิดเลย)

    เหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นแล้ว มันไม่ได้หายไปไหน.. มันก็ยังอยู่ตรงนี้แหละ เหลื่อมล้ำกันอยู่นีแหละ >< แต่เรา มองไม่เห็นด้วยตาเนื้อ

    --------

    แล้วไม่ว่าจะเป็น อดีต ปัจจุบัน หรือ อนาคต!! สมองของมนุษย์เรา ถูกธรรมชาติ สร้างมาให้คิดอะไรเรียงตามลำดับก่อนหลัง และมันไม่สามารถจดจำอนาคตได้ (อย่าถามเลยว่า ทำไมมันจำอนาคตไม่ได้ เพราะขนาด นักวิทยาศาสตร์ในร่างพิการ ก็ยังไม่รู้เลยว่า ทำไมสมองมนุษย์เราถึงจำอนาคตไม่ได้ --' นี่ Stephen Hawking พูดเองนะ)

    แต่..

    ความเห็นของ mamboo คือ

    ที่สมองของเรา จำอนาคตไม่ได้.. เพราะ.... ธรรมชาติ ต้องการให้มันเป็นแบบนี้

    เขาสร้างเราขึ้นมา เป็นสัตว์ 3 มิติ เราจะออกนอกกายเนื้อได้ ก็ต่อเมื่อเรา "ฝัน" แต่...... ก็มีข้อจำกัดคือ.. เวลาฝัน.. มันไม่มีสติ และ.. จำไม่ได้อีกต่างหาก --' ไม่รู้ตัวอีกต่างหากว่าตัวเองฝันอยู่

    ------

    เราจะออกนอกกายเนื้อ มองเห็นอดีต มองเห็นอนาคต มองเห็นโครงสร้างที่แท้จริงของจักรวาล มองเห็นโครงสร้างที่แท้จริงของอะตอม ได้ก็ต่อเมื่อ เราต้องออกจากกายเนื้อแบบ "มีสติ"

    และการออกจากกายเนื้อแบบมีสติ ก็ต้อง "ไม่หลง"

    บางคนนั่งสมาธิ จิตรวมเป็นหนึ่ง ออกจากกายเนื้อได้แล้ว.. แต่ด้วยความเชื่อ ด้วยการปลูกฝัง บวกกับยังตัดกิเลสได้ไม่หมด พอออกจากกายเนื้อไปแล้ว ก็ยังไปสร้าง โลกเสมือนโลก 3 มิติ ขึ้นมา.. มีผู้คน มีบ้าน มีถนน มีต้นไม้..

    นั่นเพราะ เขายังไม่สามารถตัดกิเลสได้.. ยังไม่สามารถตัดจากการมีตัวตนได้

    ถ้าเราสามารถ ออกจากกายเนื้อ ด้วยจิตที่ "ว่าง" บริสุทธิ์ ไม่ยึดติดกับร่างกายว่าเป็นของเรา ไม่ยึดในความดี ไม่ยึดในความชั่ว ไม่ยึดในร่างกายเนื้อหนัง ไม่ยึดในกิเลส รัก โลภ โกรธ หลง

    ถ้าทำได้.. เราจะสามารถ มองเห็น โครงสร้างที่แท้จริงของ สรรพสิ่ง ว่าจริงๆแล้ว มันเป็นยังไง (แต่ที่แน่ๆ ไม่เหมือนอย่างที่ตาเนื้อของเราเห็น อย่างแน่นอน!)
     
  13. Delphi

    Delphi Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    18
    ค่าพลัง:
    +59
    คุณ Mambo อธิบายได้ดีจริงๆ

    ผมเพิ่งจะเริ่มศึกษาเรื่องที่มองไม่เห็นเหล่านี้ รวมถึง UFO จากเดิมที่ไม่เคยเชื่อเลย แต่ตอนนี้ข้ามส่วนนั้นไปแล้ว

    หลังจากศึกษาและเข้าใจถึงจุดประสงค์ต่างๆ ในการมาที่โลก สามารถตอบคำถามผมได้เกือบทั้งหมด (อย่างมีเหตุมีผล)

    ยกตัวอย่างเช่น ผมเคยบอกคนที่เชื่อเรื่อง UFO ว่า ถ้า UFO มีจริงหรือมาเยือนโลกเราจริง คงไม่ปรากฏตัวให้เห็นเป็นแสงสว่างบนท้องฟ้าให้คนเห็น ที่ผมคิดแบบนี้ เพราะผมคิดว่า UFO ไม่น่าจะมาดีหรือต้องการมายึดโลก แต่เมื่อได้ศึกษาและรู้ว่า UFO มีเจตนาที่ดี การปรากฏตัวแบบนี้จึงสมเหตุผล

    สำหรับใครที่ไม่เชื่อ อาจจะมีคำถามต่อมาว่า ถ้ามีเจตนาที่ดีแล้วทำไมไม่เปิดเผยตัวออกมาเลย ทำไมต้องแสดงตัวเหมือนกับลับๆ ล่อๆ ให้คาดเดากันแบบนี้ คงต้องศึกษาหรืออ่านเรื่องราวที่หลายท่านได้เขียนไว้แล้วจะเข้าใจครับ

    ที่จริงเรื่อง UFO สำหรับผมไม่สำคัญเท่ากับเรื่องการเข้าหาธรรมะครับ อยากศึกษา/ปฏิบัติธรรม ถ้าไม่มีครอบครัวหรือต้องรับผิดชอบใดๆ ก็มีความคิดที่จะบวชด้วยซ้ำ (ยอมรับว่าจุดเริ่มต้นก็มาจากการศึกษาเรื่อง UFO และจากข้อความของคุณสุดใจจากเว็บเขากะลา อาจจะเรียกได้ว่าเปิดทางสว่างให้ผมจนผมได้ไปฟังคลิปการเทศน์ของหลวงพ่อฤาษีลิงดำจนเกิดความศรัทธาในที่สุด)
     
  14. GenerationXXX

    GenerationXXX เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    561
    ค่าพลัง:
    +2,162

    ตามความเห็นผมคิดว่ายังเข้าใจความจริงคลาดเคลื่อนจากความจริงอยู่มากนะครับ ต้องเข้าใจก่อนว่าธรรมชาติของทุกสิ่ง ถ้าสังเกตจะพบความเหมือนที่แตกต่าง นั่นคือสภาพของสิ่งที่ดำรงอยู่ด้วยความไม่ซ้ำกันเลย สภาพนี้ไม่ว่าจะลงลึกไปในระดับอนุภาคหรือแม้แต่นามธรรม ทุกอย่างมีการทำงานที่เป็นระบบเสมอ ที่จะพูดคือ ถ้าธรรมชาติสร้างสิ่งที่เราคิดว่ามันจริงเช่น โลกคู่ขนาน แล้วความหมายที่เราเกิดมาจะมีประโยชน์อันใด เหตุผลในการซ้อนทับที่เกิดจากเงื่อนไขของความคิดมันเป็นสิ่งที่ผิดครับ เพราะวัฎฎสงสารหรือเอกภพทั้งหมดทุกภพภูมิ ถูกสร้างจากเงื่อนไขที่เป็นระบบซึ่งกันและกัน นั่นหมายความว่าทุกอย่างต้องมีเหตุผลรองรับเสมอ ไม่มีอะไรเกิดมาลอยๆ ได้ แต่มีอย่างเดียวครับที่สามารถแหกกฎนี้ได้ นั่นคือจิต

    ที่บอกว่าเป็นจิตเพราะ จิตเป็นตัวของเราเอง ที่ไม่ขึ้นอยู่กับสิ่งใดๆ เลย คือมีสภาพเป็นเอก เป็นหนึ่ง เป็นอมตะ ไม่เกิด ไม่ตาย แต่เพราะวัฎฎสงสารนี้ทั้งหมดตั้งอยู่ด้วยกฎที่ภาษามนุษย์เราเข้าใจคือตรรกะ เป็นเหตุเป็นผลเสมอ ดังนั้นถ้าจิตที่มีสภาพเดิมแท้เป็นแบบนั้นหลงเข้าใจมายึดถือ วัฎฎสงสารทั้งหมด จนมีธาตุขันธ์ครบ ความคิดที่ตนเข้าใจว่าสิ่งที่ตนยึดถือว่าเป็นตนอยู่จึงเกิดขึ้น

    ไม่รู้จะเข้าใจตามกันได้ไหม แต่คิดว่าถ้าถอดความเชื่อเดิมๆ น่าจะเข้าใจได้นะครับ

    โลกคู่ขนานในแบบทฤษฎีของมนุษย์ตั้งขึ้นไม่มีอยู่จริงครับ อันนี้ไม่ได้เอาความเห็นตนเอง ขนาด มนตด. ตามข้อมูลที่เคยฟังมา เขาก็บอกว่าแบบที่เราคิดกันมันไม่จริง แต่ลักษณะโลกหลายมิติมีอยู่จริง ถ้าคำที่พอจะอธิบายได้เขาเรียกว่าเป็นชั้นของ Layer ที่ซ้อนทับกันอยู่ แต่ละชั้นถูกกั้นด้วยค่าของพลังงานในแต่ละระดับ นี่ยังไม่พูดรวมไปถึงเขตแดนมิติอื่นๆ ที่เป็นภูมิต่างๆ เช่น แดนป่าหิมพานต์ นรก สวรรค์ พรหมโลก ภพภูมิเหล่านี้ กฎฟิสิกส์ปกติอย่างที่เราเข้าใจกันใช้ไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้นอกเหนือเหตุผลอะไร เพียงแต่มิติที่เราอยู่เราต้องอาศัยกฎเหล่านี้เราจึงดำรงอยู่ได้ ถ้าพ้นจากกฎเหล่านี้เราก็จะจุติหรือตายแล้วไปเกิดในมิติอื่นๆ ภพภูมิอื่นๆ ต่อๆ ไป

    พระพุทธเจ้าตั้งแต่พระพุทธเจ้าพระองค์แรก ก็ทรงค้นพบเรื่องของโลกนี้ครบถ้วนมาก่อนแล้ว ก่อนที่พระองค์จะบรรลุเป็นพระพุทธเจ้าเสียอีก แต่เพราะความรู้เหล่านี้ไม่เกิดประโยชน์ที่เหนือไปกว่าบุญได้ นั่นคือพ้นจากการเวียนตายเกิดจริงๆ ได้ พระองค์จึงทรงหาทางที่เราไม่ต้องมาเกิดมาตายจนพบ เป็นแดนพิเศษที่ไม่มีการเคลื่อน ไม่มีการจุติ ไม่มีเขตแดน มีความอิสระสมบูรณ์ สมใจตามที่จิตปราถนาทุกประการ เป็นที่ๆ เดียวที่ๆ จิตจะอาศัยอยู่ได้โดยปราศจากทุกข์โดยสิ้นเชิง

    ความรู้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะดีจะชั่วจะปรากฎมีเป็นปกติของโลกอยู่แล้ว เพราะดินแดนนี้เต็มไปด้วยกฎจึงเต็มไปด้วยเหตุผล ทุกๆ สิ่งที่เราคิดและกระทำจึงมีผลตอบสนองตามเหตุตามผลนั้นเสมอ กว่าเราจะเรียนรู้เรื่องของโลกนี้ได้ครบก็อาจจะไม่มีวันนั้นเลยก็ได้ ถ้าไม่เดินตามเส้นทางที่พระพุทธเจ้าทรงชี้แนะไว้ เพราะตราบใดที่เรายังคิดด้วยเหตุผล เราก็ยังติดอยู่ในกฎของธรรมชาติ ตกอยู่ในอำนาจของมันโดยสิ้นเชิง แม้แต่ความไร้เหตุผลก็ยังมีเหตุผลของมัน ดังนั้นถ้าเราเลิกยึดถือตัวตน ที่เคยเข้าใจผิดแต่ต้น เราก็จะพ้นจากอำนาจมันได้

    แนะนำว่าถ้าอยากรู้จริงๆ คงต้องทำให้ได้อภิญญาห้าเป็นอย่างน้อยครับ เพราะอย่างน้อยๆ กำลังของเราก็สามารถจะพิสูจน์ความจริงได้ถูกต้องมากกว่าการที่เราเข้าใจตามเหตุผลที่จิตเราคิดเอง สิ่งที่เราเข้าไปสัมผัสนอกเหนือไปจากมิติปกติของโลกนี้ ไม่ใช่ว่าจิตเราจะเข้าใจเองได้ถูกต้องหมดนะครับ มันก็มีความเห็นที่ผิดๆ ได้พอๆ กับเราใช้ชีวิตอยู่บนโลกนี่แหละ เพียงแต่ลักษณะที่จะทำให้เราเข้าใจผิดมันเป็นกฎอีกแบบนึงที่เราต้องทำความเข้าใจ บอกได้คำเดียวว่าเหนื่อยครับ ถ้าอยากจะรู้ให้ครบหมดโลกจริงๆ

    คนที่รู้จริงๆ มีอยู่นะครับ แต่ก็ไม่สามารถจะอธิบายให้เราเข้าใจได้ง่ายๆ เอาแค่เรื่องปัญหาเรื่องควอนตั้มนี่ ของจริงอยู่เหนือเหตุผลที่เราคิดกันเยอะนะครับ แต่จะทำไงได้ คนเราสมัยนี้ไม่ได้เชื่อเพราะสิ่งที่ตัวเองพิสูจน์เลย มีแต่เชื่อเพราะเป็นสิ่งที่คนอื่นพิสูจน์มาแล้วและน่าเชื่อถือ ผลมันก็เลยแทนที่จะก้าวหน้าในทางจิตใจด้วยกลับถอยหลังมากกว่าเก่า ก็ใครอ่านจนจบก็ขอขอบคุณแล้วกันนะครับ เพราะมันไม่มีสาระอะไรหรอกครับเรื่องทั้งหมดนี้ มันจะมีสาระต่อเมื่อคุณเก็บเอาไปคิดและพยายามปฎิบัติพิสูจน์ด้วยตัวของคุณเอง
     
  15. Omniverse

    Omniverse สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    139
    ค่าพลัง:
    +12
    ขอบคุณที่แบ่งปันครับ
     
  16. meephoo

    meephoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,240
    ค่าพลัง:
    +2,133
    ขำขัน มนุษย์ต่างดาว หรือ โอปาติกะ กันแน่ ขอใคร่ครวญดูก่อน
     
  17. แคมปัส

    แคมปัส เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มกราคม 2011
    โพสต์:
    257
    ค่าพลัง:
    +1,113
    จากเรื่องเล่าด้านบนนี้ เป็นอะไรที่คล้ายคลึง สิ่งที่ผมประสบมา และผมสงสัยเป็นอย่างมาก

    และถ้าเป็นอย่างที่ เล่ามาด้านบนจริง ผมก็คงสรุปกับตัวเองได้ว่า โลกนี้่ หรือโลก3มิติใบนี้

    เป็น เมททริก ที่อยู่ในการควบคุมของ อีกมิติหนึ่ง ที่ควบคุมการจุติ การดำเนินเรื่องราวของชีวิต

    จุดประสงค์หลัก ผมค่าดว่าเป้นเหมือนโรงเรียนขนาดใหญ่ ที่จะสอนดวยจิตทุกดวงที่เป็นอมตะ

    ตามแต่ดวงจิตนั่นจะเป็น แต่หากดวงจิตใดสอบผ่าน ก็จะออกจากโลก3มิตินี้

    เข่าสู่โลกจริงในอีกมิติหนึ่ง นี่คือการ สันนิฐาน จองผมเองนะครับ

    เพราะจากเรื่องที่ผมเล่าให้ฟังในเวปนี้ ผมเล่าจากสิ่งที่เกิดกับผมขึ้นจริง ซึ่งมีทั้ง

    การจุติ สถานที่อยู่ที่ไม่ต้องดิ้นรนเพื่ออยู่รอด การเลือกสถานที่จุติ การเลือกเหตุการที่จะจุติ

    การจุติในครร และเหตุการประหลาด เกียวกับ เวลา วัตถุข้ามเวลา มนุษย์ต่างดาว

    การทดลอง อัพโหลด และ ดาวโหลด การ อัพโหลดประสบการ ซึ่งเหมือนเราเป็นคนคนนั้น

    ซึ่ง ความคิดที่อัพโหลดเข้ามา มักจะเป็นตัวควบคุมความคิดที่ควรจะเป็นของเราอีกที

    ทำให้การตัดสินใจในหลายครับ ไม่เป็นแบบตัวเรา แต่เป็นแบบเจ้าของเหตุการ

    และผมกำลังสงสัยว่า โลกนี้เป็น เมททริก หรือเปล่า ถ้าสิ่งที่คุณ mamboo เล่ามา เป็นจริง

    โลกนี้ก็หนีไม่พ้นที่จะเป็น เมททริก ครับผม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 ตุลาคม 2011
  18. Tonnana

    Tonnana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    116
    ค่าพลัง:
    +153
    เตือนน้ำท่วมปะ
     
  19. ttt2010

    ttt2010 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,754
    ค่าพลัง:
    +905
    ไม่เคยเห็นเลย...
    มีภาพเก็บไว้ก็ลงให้ดูบ้างดิ......
     
  20. crimsonn

    crimsonn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    282
    ค่าพลัง:
    +455
    ล่าสุดเมื่อคืนนี้ 25/10/54 เวลาประมาณ ตี4 ผมกำลังจะนอนเหลือมองไปที่หน้าต่างห้องนอนผมเห็นอะไรบางอย่างลักษณะคล้ายก้อนเมฆปุกปุยขาวๆก้อนเท่าลูกบอลเล็กๆลอยผ่านไปเร็วมากคล้ายๆกับที่ จขกท เห็นมั้งครับไม่รู้จะใช่ป่าวนะตอนแรกคิดว่าตาฟาดแล้วนอนๆไปซะ พอมาเห็นกระทู้ของคุณเข้ามาอ่านดูแล้วตกใจเลยอ่ะครับคล้ายๆกันเลย
     

แชร์หน้านี้

Loading...