ผู้ชายมักจะดีแค่ตอนแรกและมักจะเปลี่ยนไปหลังจากมีอะไรกัน จริงหรือ?

ไม่ลองดูกันก่อน 2 ปี ถ้าเค้าไม่เปลี่ยนก็โอเค

ถ้า 2 ปียังทำไม่ได้ แล้ว 40 50 ปี มันจะเหลืออะไร

 

มันก็แล้วแต่คนด้วยนะค่ะ

 

เล่นตัวเลย..จะดีกว่าค่ะ เขาไม่สนใจเราก็ไม่ต้องสนใจเขา ทำเฉยๆไว้ ไม่ต้องโวยวาย ไม่บ่น ไม่ต้องเดือดร้อน ไม่ต้องโทรตามเขา ถ้าโทรคุยกันก็อย่าคุยนานเหมือนเดิม คุยให้สั้นลง ใช้เวลาน้อยลง หรือถ้าเขาโทรมาก็ไม่ต้องรับสายบ้าง เขาถามก็บอกว่าไม่ได้ยินที่โทรมา..ค่ะ ถ้าเขานัดมาเจอเราก็บอกว่าไม่ว่างบ้าง..ช่วงนี้เราก็แต่งตัวสวยๆเข้าไว้ ออกไปไหนมาไหนกับเพื่อนบ้าง ไปออกกำลังกายคนเดียวหรือไปกับเพื่อน..จะดูดีกว่าค่ะ

เพราะวิธีนี้ำใช้ได้ผลเสมอ..ถ้าผู้ชายคนนี้รักคุณจริง เขาจะรู้สึกว่าคุณเริ่มออกห่างเขา ผู้ชายเขาก็จะเริ่มไล่ตามคุณ เขาจะแคร์คุณ ให้เกียรติคุณ พูดจาดีๆกับคุณมากขึ้น ผู้ชายเป็นเพศที่ชอบการแข่งขัน ชอบไล่ตามอะไรที่น่าท้าทาย เราต้องให้ความท้าทายกับเขา อย่าให้เขาเห็นเราเป็นของตายค่ะ

จำเอาไว้ว่าผู้ชายไม่ใช่พ่อ..ไม่ต้องไปง้อมัน เราเป็นผู้หญิงที่มีคุณสมบัติดี เราสวยเลือกได้ (อาจะสวยทั้งภายนอกภายใน หรือภายนอกไม่สวย แต่น้ำใจเรางามค่ะ) ลองทำดูนะคะ ได้ผลทุกรายค่ะ ...

 

ไม่ใช่อ่ะครับ อยู่ที่ตัวผู้หญิงด้วย
สองคนต้องเอาใจใส่ซึ่งกันและกัน

 

อยากให้ลองทำดูก่อนค่ะ เราไม่ได้บอกเลิกเขา แค่ทำตัวออกห่างเฉยๆ..มันจะเป็นข้อพิสูจน์ว่าเขารักคุณจริงหรือเปล่า ถ้าเขารักคุณจริง เขาจะต้องไล่ตามคุณแน่ๆ และเขาจะพยายามทำทุกอย่างเพื่อรักษาคุณไว้ รวมถึงการถนอมน้ำใจด้วย แต่ถ้าไม่ได้รักเขาก็จะไม่ใส่ใจ ก็จะเฉยๆที่คุณห่างไป คุณก็จะรู้ได้เองค่ะ
สำหรับผู้ชายบางคนก็รักและใส่ใจผู้หญิงเท่ากับที่ผู้หญิงเค้าใส่ใจหรืออาจใส่ใจหญิงมากกว่า และมีความเสมอต้นเสมอปลาย...แต่สำหรับผู้ชายบางคนมักจะเห็นผู้หญิงเป็นของตาย เขาจะเห็นค่าของเราก็ต่อเมื่อรู้สึกว่าเรากำลังออกห่างเขา หรือรู้สึกว่ากำลังจะสูญเสียเราไป เราต้องทำให้เค้าคิดได้ค่ะ
ลองดูก็ไม่เสียหายนะคะ นอกจากคุณจะรู้สึกดีกับตัวเองที่ไม่ต้องง้อผู้ชายแล้ว คุณยังได้รู้อีกด้วยว่าเขารักคุณจริงหรือเปล่า เขาต้องการใช้ชีวิตกับคุณไหม หรือเห็นเราเป็นของเล่นน่ะค่ะ อีกอย่างนึง..พิมเชื่อว่าคุณได้ใส่ใจแฟนอย่างเต็มที่แล้ว แต่ก็ยังมีปัญหา เลยต้องโพสต์กระทู้หาคำแนะนำค่ะ เพราะผู้หญิงดีๆส่วนใหญ่ถ้ามีอะไรกับผู้ชายแล้วก็จะรักผู้ชายมากขึ้น เอาใจใส่เขามากขึ้นเป็นธรรมดาอยู่แล้วค่ะ

 

อย่าเอาคนๆเดียวมามาตัดสินคนทั้งโลกนะครับ บาปมันมหาศาล

 

ไม่คิดว่าจริงเสมอไปค่ะ เพราะคนเราไม่เหมือนกัน เหตุและปัจจัยต่างกัน
ที่รักและดูแลเอาใจใส่มากกว่าเดิมก็น่าจะมีนะคะ

 

ชีวิตคนเราจะหมุนเวียนเปลี่ยนไปเรื่อยๆ บางช่วงสุข บางช่วงหวาน บางช่วงเศร้า บางช่วงเหงา บางช่วงหลง บางช่วงสนุก บางช่วง....

ถ้าไม่ไปยึดติดแต่ช่วงที่ดีๆ ก็ถือว่าเข้าใจธรรมชาติ ก็จะไม่ต้องทุกข์ เส้า เหงามาก

ถ้าไปยึดติดช่วงที่ดีและมาเปรียบเทียบกับช่วงที่ไม่ดี..ก็ไม่เข้าใจธรรมชาติ ก็จะทุกข์ เส้า เหงามาก

 

ทุกสิ่งทุกอย่างมีปัจจัยให้เกิดมันจึงเกิด อย่าขบคิดเกี่ยวกับปัญหาที่เกิด เเต่ให้คิดเสมอว่าทำยังไงถึงจะเเก้ปัญหานี้ได้อย่างชาญฉลาด ในเมื่อคุณเจอคำถามที่คุณล้วนสร้างขึ้นเองหรือมีส่วนเกีย่วข้องในคำถามนั้น ก็คงจะมีเพียงตัวคุณเเล้วล่ะครับที่ตอบคำถามนั้นได้ตรงใจตัวเองมากที่สุด

 

ดีแล้วค่ะที่เขาเผยท่าแท้ออกมาก่อนที่จะแต่งงานอยู่กินด้วนกัน
จะได้รู้ไงคะว่าที่จริงแล้วเขาไม่ควรเป็นคู่ชีวิตของเราค่ะ
ผู้ชายไม่ได้มีคนเดียวในโลก
ถึงแม้จะรักจนลืมไม่ได้ แต่ก็ยังดีกว่ารักแล้วไม่ได้อะไรเลย

 

ไม่จริงเสมอไปนะคะ
บางทีคุณอาจจะคิดมากไปเอง
:boo:

 

ก่อนแต่ง-หลังแต่ง ก่อนสแครช-หลังสแครช เหมือนกันอยู่อย่างคือความคาดหวังของผู้หญิงจะมากขึ้น
เช่น เค้าน่าจะรักเรา ดูแลเรา แคร์เรา มากขึ้น
ในขณะที่ความพยายามของผู้ชายจะลดลง เพราะธรรมชาติของผู้ชายจะโฟกัสอะไรได้แค่ทีละเรื่องเท่านั้น เค้าก็อาจจะละคุณไว้ในฐานะที่เข้าใจ(- -" นึกออกนะคะ
วิธีแก้คือ ยอมรับความเป็นจริงก่อน อย่าคาดหวังมากไป
ตอนยังไม่มีเค้าเรายังอยู่ได้ มีความสุขได้
ถ้าคิดจะให้เค้ามีสายตาไว้มองคุณคนเดียวนั้น มันเป็นไปไม่ได้
หมายถึงชีวิตเค้าก็ยังต้องมีเพื่อน มีงาน ซึ่งมันเป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับผู้ชาย
รักกันต้องเข้าใจ ให้กำลังใจกัน ผู้หญิงเราต้องมีคุณค่า ความดีและเสน่ห์ในตัวเอง ถ้าเราวางตัวดีเค้าจะเกรงใจเรา ถ้าเราแบบเอาใจไปผูกไว้กับเค้าหมด เค้าพูดดีด้วยเราก็ดีอกดีใจพอเค้าไม่สนใจเราหงอย
อย่างงี้เค้าก็จะมองเราเป็นอะไรหล่ะคะ นอกจากของตายลูกไก่ในกำมือรักนะเด็กโง่ ฉึกๆ
อ้อ! อีกอย่างเรื่องจริงตามหลักธรรมชาติ
คือผู้หญิงต้องการบอกผู้ชายว่า
"คุณไม่ต้องเข้าใจชั้นมากหรอก แค่รักชั้นมากๆก็พอ"
ส่วนผู้ชายก็ต้องการบอกผู้หญิงว่า
"คุณไม่ต้องรักผมมากหรอก แค่เข้าใจผมมากๆก็พอ" อิอิ เรื่องจริงค่ะ โอเคนะคะ

 

เป็นบางคนอ่ะ บางคนก็เสมอต้นเสมอปลาย บางคนก็อะนะ..

ขึ้นอยู่กับกรรมของแต่ละบุคคลด้วย (คิดว่านะ)

 

ไม่จริงเสมอไปครับ ขึ้นอยู่กับนิสัยของผู้ชายบางคนด้วย
บางคนยิ่งมีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้ง ยิ่งรัก ยิ่งผูกพันกัน
แต่บางคนก็เห็นความรักเป็นแค่เรื่องสนุก ไม่เห็นคุณค่า ไม่เห็นความสำคัญ
เพราะตนเองเป็นผู้ชายไม่เสียหาย ไม่คิดถึงใจเขาใจเรา

คำว่า"รัก" เป็นคำที่สั้นๆ แต่มีความหมายครอบคลุมมาก
ในคำว่า "รัก" มีความคิดถึง มีความห่วงใย มีความจริงใจ ความปรารถนาดี ฯลฯ
ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นความคิดในเชิงบวกทั้งนั้น

ปัจจัยที่ทำให้ความรักเปลี่ยนไป หลังจากมีอะไรกันตามที่ จขกท ถามมานั้นมีได้หลายอย่าง เช่น

1.คุณอาจเจอผู้ขายที่ไม่จริงใจ อาจมาหลอกคณ หรือเขาอาจมีผู้หญิงมากกว่า 1 คน
2.อาจเป็นกรรมเก่า ที่คุณเคยหลอกเขาไว้ แล้วต้องมาชดใช้ในชาตินี้ หากไม่ใช่ก็จะเป็นกรรมใหม่ที่เขาสร้างขึ้น
3.สำรวจตัวคุณเองว่า เราทำอะไรให้เขาไม่พอใจไหม ? การแต่งตัว การวางตัว คำพูด การแสดงออก การให้เกียรติกัน ฯลฯ
4.สำรวจตัวตัวเขาว่า มีปัญหาอะไรไหม สังคมสิ่งแวดล้อม การงาน การเงิน ความเครียด สิ่งเหล่านี้อาจทำให้เขาดูจืดจางลงได้

สรุป ควรใจเย็นๆ หาเวลาเปิดใจคุยกัน ด้วยเหตุผล อย่าใช้อารมณ์
ทำความเข้าใจกัน และหาทางออกที่ดีร่วมกัน
เพราะบางทีอาจจะเป็นแค่ความรู้สึกของคุณเองฝ่ายเดียวก็ได้

ผู้หญิง ส่วนใหญ่ เมื่อมอบกายและใจให้ใครไปแล้ว จะกังวลไปต่างๆนาๆ
กลัวว่าเขาจะจริงใจไหม จะรับผิดชอบไหม หรือจะท้องไหม เป็นต้น

สุดท้ายนี้ ขอให้คุณโชคดี มีความสุขและสมหวังกับความรักของคุณในครั้งนี้