ฌาน...

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ดช, 7 เมษายน 2011.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. ดช

    ดช สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    18
    ค่าพลัง:
    +3
    ทำยังไงเราจะได้ซักฌานครับ ไอ้จุดที่บอกว่าไม่มีลมหายใจกับอยากทิ้งคำภาวนานี่ไม่เห็นเกิดขึ้นเลยครับหรือว่าเวลานั่งสมาธิไม่ต้องใช้คำบริกรรมครับ:boo:
     
  2. ผู้มาใหม่

    ผู้มาใหม่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    303
    ค่าพลัง:
    +618
    เมื่อถึงจุดที่ใจเริ่มนิ่งให้ภาวนาในจิตประหนึ่งว่าตอนที่เรามองเห็นจมูกของเราเอง อย่าให้ความสนใจกับคำภาวนาให้รู้แค่การภาวนาเป็นเหมือนจมูกที่เรามองเห็น แต่ให้มีสติทุกอย่าง
     
  3. Plagruy

    Plagruy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    196
    ค่าพลัง:
    +130
    นั่งๆไปรู้สึกสบายอิ่มเอิบใจก็ณาน1แล้ว
     
  4. นายเบทร์

    นายเบทร์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    882
    ค่าพลัง:
    +91
    เมื่อคุณ มาร อยากได้ ณาน คุณมารจะไม่ได้ ครับ

    เมื่อคุณ ณาณ ไม่มีความอยาก คุณมาร จะได้ครับ

    ทั้งนี้ต้องควบคู่กับการปฎิบัติด้วยนะครับ

    นี้คือความคิดของผม
     
  5. tum399

    tum399 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    732
    ค่าพลัง:
    +2,908
    สวัสดีครับท่านผู้มาใหม่เหตุการณ์ 22 พค.เตรียมตัว นับถอยหลัง ห้องที่ผู้มาใหม่ปิดกระทู้ยังคงมีผู้อ่านแกะรอยปริศนาที่ท่านเขียนและลบออก

    ยังรอท่านมาไขปริศนาอยู่นะครับ ขอบคุณครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 7 เมษายน 2011
  6. ผู้มาใหม่

    ผู้มาใหม่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    303
    ค่าพลัง:
    +618
    ครับให้ระวังไว้เหมือนเดิมครับ ในส่วนของผมก็ ขอไปเตรียมตัวไว้ก่อนนะครับ เป็นความเชื่อส่วนตัวครับ ใครเชื่อหรือไม่ ให้คิดเองนะครับ
     
  7. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    มารขี้เกียจไง ชัดเจนไหม

    เอาชนะความขี้เกียจได้ สิ่งที่หวังไม่ใช่เรื่องยาก​
     
  8. Sinderking

    Sinderking เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    316
    ค่าพลัง:
    +673
    สมัยนี้ ฌาณได้ยากหน่อยครับ ยิ่งถ้าเกิดไม่เคยได้มาก่อน ต้องอาศัยความเพียรสูง ผมให้อุบายดังนี้ครับ คำบริกรรมจะใช้หรือไม่ใช้ พอถึงจุดเข้าฌาณคำบริกรรมก็ต้องทิ้งอยู่ดี ถ้าดึงคำบริกรรมกลับมาใหม่ก็จะถอยออกจากฌาณหลายคน รวมทั้งผมก็เคยติดจุดนี้ ก็แก้โดยไม่ต้องบริกรรม จับลมหายใจ เวลาหายใจอย่าไปบังคับลมหายใจครับ ให้ร่างกายมันหายใจของมันเอง อย่าไปเร่ง ไปผ่อน ไปทำอะไรกับลมหายใจทั้งสิ้น ให้มันหายใจเข้าออกเอง มันจะช้า เร็ว ลึก ตื้น เรามีหน้าที่เอาจิตตามไปแบบแนบแน่นตลอดสายลมหายใจ แรกๆจะทำด้วยสวย พอมาช่วงกลางๆฌาณกำลังจะเกิด จะมีความคิดฟุ้งซ่าน อารมณ์คัน ปวด เกร็ง เครียด รุมเข้ามา ตรงนี้ขอให้อึดอย่างเดียวครับ ไ่ม่ต้องไปตามมัน ปล่อยให้มันเกิดแล้วผ่านไป หน้าที่เราคือ "ตามลมหายใจ (แบบให้มันหายใจเอง)" กว่าจะผ่านตรงนี้ ถ้าคนที่ช้ามากๆอาจจะนานถึง 20-30นาที แล้วมันจะเริ่มนิ่ง ตัวจะเริ่มเบา แล้วก็จะเบาึขึ้นๆๆ เรื่อยๆ อาจจะมีความฟุ้งซ่าน และความเครียดมาโจมตีหน่อยๆ ทำไปเถิด ไม่เกินชั่วโมงครึ่ง(อย่างช้า) ต้องได้แล้ว ขนิกสมาธิแบบข้น(เฉียดฌาณ) แล้วทำย้ำไปทุกวันๆ ไม่เกินช่วง 3 คืน ต้องได้ฌาน 1 พอได้ฌาน1 จะขยับไป 2 3 4 ก็ไม่ค่อยยากแล้ว

    ปัญหาคือ เดี๋ยวนี้ทนนั่งกันไม่เกินคืนเดียว ก็ไม่นั่งต่อแล้ว ความขี้เกียจครอบงำ

    สู้ๆ อนุโมทนา
     
  9. Sinderking

    Sinderking เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    316
    ค่าพลัง:
    +673
    ที่สำคัญ บางคนอยากจะเห็นโน่นเห็นนี่ อยากฌาน อยากได้ฤิทธิ์ แบบนั้น แบบนี้ ขอบอกคำเดียวว่า ฌานเกิดยากครับ ถ้ามีความคิดแบบนี้ จิตก็เริ่มเครียด พอเครียดสมาธิขยับช้ามาก เพราะสมาธิเกิดจากความสบาย

    ต่อไปนี้ตั้งอารมณ์ใหม่นะ เมื่อมีความอยาก ให้สลัดทิ้ง จับลมหายใจทันที เมื่อเริ่มฝันกลางวัน อยากได้ไอโน่นไอนี่ ก็ให้รู้ตัว แล้วก็จับลมหายใจทันที ให้สมองมันโล่งๆหน่อย ตอนนี้มีแต่ความเครียด มันจะไม่พัฒนาสักที

    ผมเคยโดนสอนมาว่า meditate just for meditation แปลว่า นั่งสมาธิเพื่อทำสมาธิเท่านั้นเอง (ไม่ใช่เพราะอยากได้โน่นนี่)

    อนุโมทนาจ้า
     
  10. คนไม่รุ้

    คนไม่รุ้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    175
    ค่าพลัง:
    +116
    ความรู้ล้วนๆ เอาไปปฏิบัติดีกว่า ขอบคุณครับ..
     
  11. Supop

    Supop เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    585
    ค่าพลัง:
    +3,151
    อนุโมทนาทุกท่านครับ

    ขอแจมด้วยคนครับ

    ผมเองก็มีหลายครั้ง ที่ทิ้งคำบริกรรม ระลึกได้ว่า หลุดไปบ้างก็มี แต่ที่รู้ตัว และเห็นชัด ว่ามันหยุดไปเพราะอะไรก็มี เพราะว่ามันไปจับที่ความสุขบ้าง ฯลฯ และมีความนิ่งมากขึ้น แต่ผมก็มาระลึกเอาคำบริกรรมทุกที

    แล้วก็คิดว่า ฌาณ มันไม่น่าจะเป็นอย่างนี้น๊า มันน่าจะล้ำลึกกว่านี้นะ (คิดเอาเอง)

    ก็ประมาณนี้แหละครับ
     
  12. เอกวีร์

    เอกวีร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2008
    โพสต์:
    3,972
    ค่าพลัง:
    +3,241
    ดีแล้ว คุณ สุภพ ที่สังเกตเห็น "จิตมันไปจับความสุข"

    และ "การที่คุณไปเห็นจิตมันจับความสุข แล้วกลับมา บริกรรม"
    ก็ตรงนี้แหละ ชี้ให้เห็นว่า "ผมเองก็มีหลายครั้ง ที่ทิ้งคำบริกรรม"
    ตรงนี้คือ ความปลิ้นปล้อนของจิต

    การที่พูดว่า เห็นชัดว่ามันไปหยุดเพราะมีอะไร ตรงนี้แปลว่า จิตไม่ตั้งมั่นพอ
    ทำให้เกิดการเห็น ธรรมอื่นยิ่งกว่า เข้า ทำให้เข้าไปเติมบัญญัติทันที สุดท้าย
    มันเลยมาเติมบัญญติที่เป็นคำบริกรรม

    สิ่งที่พึงใคร่ครวญศึกษา ไม่ใช่เรื่องที่บรรยายเหล่านั้น ไม่ใช่การรู้ที่เรื่อง(ฝุ้งธรรม)

    แต่ให้ใคร่ครวญ ถึงลักษณะความว่องไวของการ ระลึกได้ หรือ สิ่งที่เรียกว่า "สติ"

    แล้วมันจะค่อยๆ หายสงสัยกับนัยยะ ใรอรรถของ พยัญชนะที่ชื่อ "สติ"

    สติ ตัวนี้หากเข้าใจเข้ามาอย่างถูกต้อง เจริญอย่างถูกต้อง ขีดสุดของการระลึกได้
    ไม่ใช่แค่เห็นไปเกาะสุข แล้วสุขดับ จังหวะที่สุขดับ(จิตกลับไปเกาะบริกรรม) มัน
    จะมีช่วงขณะหนึ่งสั้นมากๆ เป็น อุเบกขาอารมณ์ หากต้องการมีวสี มีฌาณ ทรง
    ฌาณแบบขีดสุดของโลกียฌาณ ก็ระลึกให้ทัน อุเบกขา สั้นๆตัวนั้นว่ามีปรากฏ
    (แล้วยังต้องเห็น อุเบกขาเองก็เป็นจิตส่งออก ไม่ใช่ไม่ส่งออก)

    แต่ทั้งหมด มันไม่ใช่ มรรคผลอะไร ที่สำคัญคือ ความเข้าใจ "สติ" มี สตังค์มา
    ปัญญามี และการนำเอา สติสตังค์มาเจริญให้ถูกต้องเห็นการดับรอบของรูปนาม
    เข้าถึงการประจักษ์ "ทุกขัง อนิจจัง อนัตตา" ในสิ่งไรๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 เมษายน 2011
  13. เอกวีร์

    เอกวีร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2008
    โพสต์:
    3,972
    ค่าพลัง:
    +3,241
    เพื่อยืนยันเขตแดน ของ อกุศลธรรม ยังหยั่งถึงไปถึง ไม่สุดส่วน ก็ขอ
    ยกอาการ "แต่ที่รู้ตัว และเห็นชัด ว่ามันหยุดไปเพราะอะไรก็มี"
    ว่าเป็นเรื่องของการเห็นอาหาร การเห็นปัจจัย

    การเห็นอาหาร การเห็นปัจจัย เกิดเมื่อใด ให้พึงทราบว่า ตอนนั้นยังอยู่
    ในเขตแดนอกุศลธรรม ไม่ใช่เห็นธรรม ( แต่เหรียญมีสองด้าน)


    ที่ยกมา เพื่อให้พ้นห่างจาก อธิโมก ความปักใจเชื่อ ที่อาจจะพอกพูล ชิงสุกก่อนห่าม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 เมษายน 2011
  14. Supop

    Supop เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    585
    ค่าพลัง:
    +3,151
    อนุโมทนาครับ

    อืม.................จะว่าไประยะนี้ผมเริ่มจะเห็นอะไรๆชัดขึ้นมาเรื่อยๆ

    ที่เกี่ยวกับภาวะของจิต เช่น การไปเกาะสิ่งอื่น โดยที่ทิ้งคำบริกรรม หรือทิ้งฐานภาวนาไปเลย และที่เป็นความฟุ้งซ่านก็มี

    หรือการเปลี่ยนภาวะตัวเองไปโดยที่คำบริกรรมยังคงอยู่หรืออยู่กับฐานภาวนาก็มี รวมมั่ง หดหู่มั่ง กลัว ฯลฯ

    ทุกอย่างนี้ผมเห็นได้ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆเลยครับ

    ก็ว่าจะเอาให้เห็นจนชัดแจ้งเลยเหมือนกันครับ

    แต่พอมาคิดอีกที แต่ละอย่างที่ผมรู้มา มันเป็นเองมาตลอด โดยที่ผมไม่เคยคิดวางแผนมาก่อนว่า จะต้องทำให้รู้อันนั้นอันนี้ มันมาเองเรื่อยๆ แล้วพอทบทวนอยู่เรื่อยๆ จึงเห็นการรู้ของตัวเองไปเรื่อยๆหน่ะครับ

    ขอให้เจริญในธรรมครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 เมษายน 2011
  15. เอกวีร์

    เอกวีร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2008
    โพสต์:
    3,972
    ค่าพลัง:
    +3,241
    มันก็ถูกต้องที่รู้เรื่อยๆ แต่ ที่ยกข้อธรรมมาให้พิจารณา เพื่อกันเอาไว้

    เพราะ ส่วนมาก เวลาภาวนาแล้ว รู้นั้นรู้นี่ แล้ว นำ ตนรู้ ผมรู้ ผมเห็น
    ผมทำได้ ออกไปจากการกล่าวว่าเห็นไม่ได้ การเห็นเหล่านั้นเป็น มิจฉา ทั้งหมด

    ดังนั้น เท่าที่ผมจับเอาจากคำพูด ของคุณสุภพ ยังไม่เห็น การกล่าวหรือใช้คำ
    พูดของคนที่มี สัมมาทิฏฐิ เลยแม้แต่ครั้งเดียว

    ซึ่งน่าเสียดาย
     
  16. Supop

    Supop เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    585
    ค่าพลัง:
    +3,151
    ขอบคุณมากครับ

    เรื่องสัมมาทิฏฐิ ผมก็ยังไม่ค่อยรู้อะไรมากครับ

    เดี๋ยวผมขอไปหาอ่านทำความเข้าใจ และจะระลึกไว้นะครับ (มีเซฟเก็บไว้แล้วแต่ยังไม่ได้อ่านหน่ะครับ)

    ขอให้เจริญในธรรมครับ
     
  17. เอกวีร์

    เอกวีร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2008
    โพสต์:
    3,972
    ค่าพลัง:
    +3,241
    จะไปเซฟ ทำไมหละครับ

    ให้ สัญญาขันธ์ มันทำงาน แล้วให้มันแสดงตัวว่า ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา มีประโยชน์กว่า

    การเซฟเอาไว้ ตรงนี้เป็นผลพวงมากจาก ความอยากทำให้สัญญาขันธ์มันเที่ยง ซึ่งผิดธรรม

    ทีนี้ ก็เข้าใจอยู่ว่า คนเราทุกคนอยากพ้นทุกข์ แต่ผมก็อยากให้คุณ วางใจ ไว้ที่การบวช

    เมื่อบวชแล้ว อะไรที่เป็นเรื่องทางโลก สมบัติสะสมไว้ แม้แต่การเซฟ ให้โยนทิ้งให้หมด
    ถึงจะชื่อว่า ปลิโพธิ

    นี่อย่าบอกนะครับว่า โครงการจะบวชลงกระทะไปแล้ว
     
  18. เอกวีร์

    เอกวีร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2008
    โพสต์:
    3,972
    ค่าพลัง:
    +3,241
    เอาแบบนี้

    เวลาคุณสุภพ เจอบทสำนวนธรรมใดก็ตาม มีคนเสนอให้สดับแล้ว แล้วเรา
    รับรู้ได้ว่า ไม่รู้เรื่อง ไม่เข้าใจ ตรงนี้ ขอให้ฟังธรรมภายในเป็นหลัก

    ธรรมภายใน ที่ฟังได้ทันทีคือ รู้ว่าไม่รู้ รู้ว่าไม่เข้า ตรงนี้ มีประโยชน์

    ส่วนการ ไม่รู้ ไม่เข้าใจ แล้ว จดไว้ บันทึกไว้ อันนี้เรียกว่า ฟังธรรม ไม่เป็น

    ถ้า ฟังธรรมเป็น ต้อง ฟังธรรมภายในตน ที่เกิดขณะนั้นเท่านั้น

    จะเห็นว่า หากฟังธรรมภายในเป็นหลักแล้ว เรื่องการจด การจำ เป็นเรื่องไร้สาระ
    ที่หนัก เป็นภาระ ไม่ใช่เพื่อการสละวาง

    การฟังธรรมภายใน จึงไม่ใช่เรื่องการจด การกด การกำหนด เราอาศัยผัสสะ
    เพื่อระลึกเข้าไปเห็นสิ่งภายในเท่านั้น

    แล้วมันจะ ซื่อตรง ต่อการเห็น "อุชุกตา"
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 เมษายน 2011
  19. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    เอาแบบนี้ เวลาเราหลาวดินสอ มันต้องค่อยๆทำไป ให้มันแหลมเอง ไม่ต้องไปตั้งคำถามว่า เมื่อไรจะไม่มีลมหายใจ เมื่อไรจะทิ้งคำภาวนา
    เอาความสนใจ ตั้งมั่นกับคำบริกรรม จรดจ่อราวกับว่า คำบริกรรมนี้คืองานที่สำคัญ แล้ว บริกรรมไป
    หากเผลอเมื่อไร เหมือนกับคนขับรถจะละสายตาไปมองอย่างอื่นไม่ได้

    นี่ก็เหมือนกัน เวลา พุทโธ ทำไปเรื่อยๆ เดี๋ยวพอจิตมันสงบ แล้ว ไม่ต้องถามใคร
     
  20. Supop

    Supop เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    585
    ค่าพลัง:
    +3,151
    อนุโมทนาครับทุกท่านเลยนะครับ และขอบคุณ คุณ เอกวีร์ อีกครั้งครับ

    เรื่องบวชมิต้องกังวลครับ เมื่อประมาณ 1-2 เดือนที่แล้ว ผมเกิดความลังเลใจอยู่บ้าง เพราะผมไม่รู้สึกว่าตัวเองเป็นทุกข์อะไรแล้ว อยู่ทางโลกก็ได้

    แต่มีวันหนึ่ง ผมเห็นพ่อของผมมาหา สภาพของพ่อผมแย่มากๆ ท่านอยู่ในภพภูมิที่ไม่ดี ท่านกำลังทุกข์ทรมานอยู่ ผมเคยวางใจว่า ท่านน่าจะได้อยู่ในภพที่ดีแล้ว คิดว่าผลบุญของผมน่าจะดึงท่านไปสู่ภพที่ดีแล้ว (พ่อผมทำงานอยู่โรงเชือดไก่มา 30 ปี)

    ผมบอกเล่าให้เพื่อนที่เป็นพระฟัง ท่านก็รู้อยู่แล้ว แล้วท่านก็แนะนำผมให้ฟัง

    ตอนนี้มีแต่ความตายเท่านั้น ที่จะพรากความตั้งใจนี้ของผมได้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 เมษายน 2011
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...