โพธิสัตว์องค์ไหนคือ ช้างปาลิไลย์

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย joolong, 4 กุมภาพันธ์ 2010.

  1. jakrapat

    jakrapat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    74
    ค่าพลัง:
    +127
    เท่าที่รู้มา เป็น อาจาร์ยทิพากร รินไธสงค์ แห่งจังหวัดชัยภูมิ
    ซึ่งเป็รผู้ทำพิธีเปิดบุญให้กับมหาชนผู้ศรัธทา ซึ่งเป็นการเบิกบุญที่ทำไว้ในอดีตแล้วยังไม่ส่งผล ให้มาส่งผลในชาตินี้ เหตุที่รู้มาเพราะว่าได้อ่านหนังสือชีวประวัติของท่าน
    ว่าอดีตชาติท่าน นั้นเคยเกิดเป็นช้างป่า ปาลิไลยกะ เป็นผู้อุปปัฏฐากดูแลพระผู้มีพระภาค
    ในระหว่างที่ทรงหลบ พระสาวกที่วิวาทกันแล้วพระองค์ตักเตือนก็ไม่ทรงเชื่อ
    ช้างป่าปาลิไลยกะคอยปรนนิบัติดูแลรับใช้ เป็นเวรยามคอยดูแลพระผู้มีพระภาคเป็นอย่างดี เท่าที่รู้มามีเพียงคร่าวเท่านี้ข้อความบางข้ออาจไม่ตรงกับหนังสือมากหนังแต่ก็ทำให้ผู้อ่านพอเข้าใจได้
     
  2. Pema

    Pema สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    4
    ค่าพลัง:
    +18
    ช้างปาเลไลย์ คือ ครูบาศรีวิชัยครับ
    ส่วนช้างนาฬาคิรีคือท่านพ่อบัณฑูรสิงห์

    ตอนนี้ท่านพ่อบัณฑูรสิงห์มาเกิดแล้วครับ หลังจากที่ท่านเสียชีวิตไป 3 ปี ท่านเป็นฆราวาสนักปฎิบัติธรรม และได้ปวรนาตนเป็นศิษย์ครูบาอาจารย์รูปหนึ่ง ท่านสามารถ
    ระลึกชาติได้ ว่า ไม่ใช่แค่พญาลิไท แต่ท่านยังได้เกิดเป็นกษัตริย์องค์อื่นอีก
    ท่านเล่าให้ฟังเสมอๆ ว่าท่านผูกพันกับครูบาศรีวิชัยมากๆ เพราะจะได้ไปตรัสรู้ในกัปป์
    เดียวกัน

    ทุกวันนี้ ดูภายนอกท่านก็เป็นคนธรรมดา แต่เวลาท่านแสดงธรรมนี่ถึงใจมากๆ ที่สำคัญ
    อธิษฐานบารมีของท่านยังทรงอานุภาพเหมือนเดิม ธรรมะของท่าน คือให้รู้กายรู้ใจ
    ตามความเป็นจริง จนรู้ไปถึงจิต ก็จะรู้ถึงธรรมะนั่นเองครับ
     
  3. Igiko_L

    Igiko_L เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    1,407
    ค่าพลัง:
    +2,836
    :cool::cool::cool:
    เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง คะ เพราะธรรมดา พรอรหันต์ ไม่ค่อยมีคนจะรู้จัก แต่หากเป็นพระโพธิสัตว์ โดยมากคนจะรู้จัก เพราะมาช่วยสรรพสัตว์
    ในหลวงถึงจะทรงงานหนัก ทำงานเพื่อคนทั้งหลาย ในส่วนการปฏิบัติธรรม ไม่ได้น้อยเลยนะคะ หากท่านใดได้อ่าน ที่พระอาจารย์หลวงพ่อฤาษีกล่าวถึงในหลวง ก็จะรู้ว่า ในหลวง ได้มโนยิทธิ และอื่นๆ
    ส่วนหหลวงปู่ หลวงพ่อ ที่กล่าวมา หนูพึงเคยได้ยินชื่อคะ( จะบอกว่าหนูเกิดไม่ทัน ก็ไม่น่าจะใช่)เพราะ พระอาจารย์ มั่น หรือแม้แต่ พระอาจารย์สมเด็จโต คนทั่วๆไปก็รู้จัก
    แต่อะนะ คือไม่มีใครรู้ ความจริง ก็ได้แต่คิด คาดการณ์ไปต่างๆนาๆ คงต้องรอผู้รู้จริงออกมาบอกแล้วละคะ :cool:
     
  4. Ricky

    Ricky เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    350
    ค่าพลัง:
    +682
    ถึงเวลาที่ท่านควรรู้ ก็จะรู้เอง

    ถึงตอนนี้คุณควานหาคำตอบไป คุณก็ยังเจอหรอกแถมบางที ยิ่งอยากรู้มากก็ยิ่งทุกข์มาก สู้ไม่อยากรู้ ไม่ทุกข์ พอถึงเวลาที่คุณจะต้องรู้ คุณก็จะรู้ได้เองดีกว่ากันเยอะครับ

    หมั่นปฏิบัติธรรมไปเรื่อยๆนะครับ พอคุณมีบุญบารมีมากพอคุณก็จะรู้ได้เอง อาจจะด้วยญาณของคุณเอง หรือว่าข้างบนมาบอก
     
  5. Nuthsunti

    Nuthsunti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    133
    ค่าพลัง:
    +328
    ความแม่นยำ ของญาณทัศนะ แม้แต่ พระอรหันต์ แต่ละองค์ ก็แม่นยำ ไม่เท่ากัน เปรียบเทียบกับ พระผู้มี ฤทธิ์ เป็นเลิศรองจาก พระพุทธเจ้า ก็คือ พระโมคคัลานะ ส่วนพระอรหันต์ แต่ละองค์ ก็จะน้อย ลดหลั่นกันไป
    กลับมาที่ ความแม่นยำ ของญาณทัศนะ มีแต่ พระพุทธเจ้า ที่จะแม่นยำ 100 % ดังนั้น การตรัส พยากรณ์ พระโพธิสัตย์ จึงมีเพียง พระพุทธเจ้า ที่ตรัส พยากรณ์ ส่วนพระอรหันต์ องค์ อื่น จึงไม่ พยากรณ์ พระโพธิสัตย์ เพราะจะไม่แม่นยำ 100 %
    ดังนั้น พระ ผู้มี รู้ มี ญาณทัศนะ ในปัจจุบัน ท่านอาจจะ พูดในสิ่งที่ ท่าน รู้ จาก ญาณทัศนะ ของท่าน จริง แต่ ญาณทัศนะของท่าน ยังไม่แม่นยำ 100 % จึงอาจจะมี ผิดพลาด คลาดเคลือน ได้

    ขอกราบ อนุโมทนา สาธุ กับทุกท่านที่ สร้างบารมีเพื่อ พุทธภูมิ ครับ
     
  6. ปิจังงัง

    ปิจังงัง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +29
    ทุกอย่างต้องพิสูจน์ได้ครับ

    ได้ผลอย่างไร บอกด้วย ว่าจะตรงกันหรือเปล่า
     
  7. นพคุณ จุธากรณ์

    นพคุณ จุธากรณ์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    72
    ค่าพลัง:
    +79
    เคยอ่านประวัติหลวงปู่หลุยท่านว่าในหลวงเป็นองค์อวตาร แปรว่าอย่างไรตีความตามพื้นฐานความรู้ของใครของมันครับ
     
  8. Naiky

    Naiky Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    42
    ค่าพลัง:
    +85
    จากที่ทราบที่คุยมา ขอยืนยันว่า ช้่างปาลิไลยก คือ ท่านเจ้าคุณอ่ำ วัดโสมนัสครับ

    แรกเลยทราบจากหนังสือหลวงพ่อฤาษี (ธัมวิโมกข์ ประมาณปี 34-35) ว่าหลวงพ่อ
    บอกว่าได้เจอ กับ พระโพธิสัตว์ที่เป็นช้างปาลิไลยก ที่ในโลกทิพย์ เจอกันเสมอ แต่
    ไม่เคยเจอกันที่บนโลก หลวงพ่อก็เลยบอกชื่อและวัดที่ท่านอยู่บนโลกเผื่อว่าลูกศิษย์ของ
    หลวงพ่อจะได้ไปกราบนมัสการท่าน ชื่อของท่านก็คือ พระราชกวี(อ่ำ) ธัมทัตโต
    วัดโสมนัส ครับ

    วันรุ่งขึ้นหลังจากอ่านหนังสือหลวงพ่อฤาษีแล้ว ก็กะบุกหาท่านถึงวัดทันที เจอพวกพุทธภูมิ
    อีก 4 องค์ ใจตรงกัน เลยรวมตัวไปด้วยกัน ไปถึงวัดท่าน กำลังเดินหากันอยู่ ท่านก็เรียก
    บอกว่า พวกคุุณมาจากท่านลิงดำใช่มั๊ย พวกเราก็ตกใจ รู้ได้ไง ท่านก็บอกว่าอาจารย์คุณ
    บอกมาแล้ว ว่าพวกคุณจะมา

    คงด้วยความที่เป็นคอเดียวกัน(พุทธภูมิ) วันนั้นท่านจัดหนักจัดเต็มเลยครับ พวกผมก็ซัก
    กันละเอียดยิบ ทดลองทุกมุม จนมั่นใจครับว่าท่านของแท้ของจริง
     
  9. phimphan

    phimphan สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 เมษายน 2011
    โพสต์:
    36
    ค่าพลัง:
    +7
    แต่ที่เคยอ่านมาช้างปาลิไลย์กะคือในหลวงของเรานะ
     
  10. ธรณัส

    ธรณัส Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    22
    ค่าพลัง:
    +47
    สรุปช้างป่าลิไลยกะคือพระโพธิสัตว์องค์หนึ่งก็แล้วกันครับ...จบ สาธุ
     
  11. aoomauj

    aoomauj สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    4
    ค่าพลัง:
    +6
    aoomauj

    ขอแสดงความคิดเห็นค่ะ
    ประเด็นที่ 1
    บอกว่าทำไมมีหลายคน ทั้งในหลวง พระครูบาศรีวิชัย หรือพระอาจารย์อ่ำ มีโอกาสจะเป็นอดีตช้างปาลิไลย์ได้หมดทุกท่านแหละค่ะ แต่ช้างที่เป็นพญาช้างอ่ะคงมีตัวเดียวที่ไปเฝ้าและอุปถากพระพุทธเจ้าเพราะเหตุผลดังนี้คือ

    เป็นช้างปาลิไลย์ คำว่าช้างปาลิไลย์แปลว่าช้างที่อยู่ในป่าเลไลย์ คำว่าช้างปาลิไลย์ไม่ได้แปลว่าเป็นชื่อช้างอย่างเดียว ดังนั้นช้างที่อยู่ในป่าเลไลย์ต้องมีหลายเชือกแน่ๆ เพราะส่วนใหญ่ช้างจะเป็นสัตว์ที่อยู่กันเป็นฝูง แต่เชือกที่เป็นช้างที่อุปถากพระพุทธเจ้าเป็น พญาช้างปาลิไลย์ ดุร้ายมาก ซึ่งเดิมไม่ได้เป็นชื่อนี้ด้วย เดิมชื่อ "ลิไลยกะ" (มีอ้างอิงจากข้อความที่หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ในข้อความที่ท่านเขียนก็เหมือนจะมีช้างอีกหลายเชือกนะที่อยู่ในป่าปาลิไลย์ ) ดังนั้นจะสรุปได้ว่าที่บอกว่าบางท่านอดีตชาติคือช้างปาลิไลย์น่ะเป็นไปได้ค่ะแต่หมายถึงช้างที่อยู่ในป่าปาลิไลย์ก็อาจเป็นไปได้ค่ะ

    ประเด็นที่ 2
    อิฉันเชื่อว่าจะเป็นในหลวงของเรามีความเป็นได้สูงกว่าหลายคนเพราะ ดูแค่จากการค้นหาในกูเกิล มีหลายคำทำนายจากบรรดาพระอริยคณาจารย์ทั้งหลาย ที่ได้เคยกล่าวถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
    1) พระภิกษุพระยานรรัตนราชมานิต(ธมฺมวิตกฺโกภิกขุ)วัดเทพศิรินทราวาส
    2) เจ้าคุณพระญาณสิทธาจารย์(สิม พุทฺธาจาโร)ซึ่งเป็นพระขีณาสวสงฆ์ผู้ทรงญาณวิสัยอันลึกล้ำ
    3) หลวงพ่ออุตตมะ
    4) หลวงพ่อพุธ ฐานิโย วัดป่าสาลวัน นครราชสีมา
    5) พระแม่กวนอิมฯ เมื่อครั้งเสด็จมาประทับในตำหนักเจ้าแม่กวนอิม
    6) หลวงพ่อฤาษีลิงดำ

    ประเด็นที่ 3 พระพุทธเจ้าตั้งหลายแสนองค์ ชื่อต้องซ้ำกัน แต่มีเรื่องแปลกอยู่ว่า เมื่อเข้าเขตนิพพาน เราจะไม่รู้องค์ไหนเป็นองค์์ไหน ต้องเข้าไปถาม เหมือนกันหมด ต่อจากพระศรีอาริย์ไป 22 องค์ แต่ในพุทธพยากรณ์ในพระไตรปิฏกที่พระพุทธเจ้าทรงทำนายอนาคตวงศ์เราจะเห็นแค่อีก 10 องค์ ส่วนอีก 12 องค์ อาจจะมีชื่อพระพุทธเจ้าที่ชื่อปาลิไลกะ เพราะว่า ในข้อความที่หลวงพ่อกล่าวไว้ตอนที่ท่านตรัสกับช้างปาลิไลย์ บอกว่าเจ้าจะได้เป็นพระพุทธเจ้านามว่า "ปาลิไลยกะ" นั่นอาจหมายถึง อีก 12 องค์ที่เรายังไม่เห็นนั่นเองหรืออาจจะมีก็ไม่รู้ เพราะไม่เคยอ่านพระไตรปิฏกหรือเรื่องอนาคตวงศ์ (อ้างอิงข้อมูลจากที่อ่านในบทความของหลวงพ่อลิงดำทีท่านเขียนไว้)

    ประเด็นที่ 4 บางทีก็เห็นบางที่เขียนชื่อช้างปาลิไลย์ บางทีก็เห็นชื่อปาลิไลยกะ ช้างป่าเลไลย์ ช้างปาริเลยยกะ อย่าลืมว่าเรื่องนี้เกิดที่เนปาลหรืออินเดีย มาแปลเป็นภาษาไทยก็ดิ้นได้ส่วนนึง ครูบาอาจารย์ก็คนไทยทั้งนั้ที่ทำนายไว้ อันนี้อาจจะสับสน หรือ อาจจะมีหลายชื่อ ช้างหลายเชือก ส่วนพระพุทธเจ้าในอนาคตวงศ์ก็มีอีกมากมายนักมากกว่า 10องค์ ตามประเด็นที่ 3 ที่ว่ามาน่ะล่ะค่ะ

    ประเด็นที่ 5
    หลวงพ่อฤาษีลิงดำเคยทำนายไว้ว่า
    ในหลวงเคยเกิดเป็น พระเจ้าเดือนเด่นฟ้า และ พระเจ้าเดือนแจ่มฟ้า และเคยเกิดเป็นพระราชโอรสของพระเจ้าตวันอธิราช และพระเจ้าพรหมมหาราช ("พระเจ้าตวันอธิราช" ไปเกิดเป็น "พระเจ้าพรหมมหาราช") ทั้ง ๒ ครั้ง ดังนี้

    พ.ศ. ๒๔๖ สมัยสุวรรณภูมิ ในหลวงเกิดเป็นพระราชโอรสองค์แรก ของ พระเจ้าตวันอธิราช มีพระนามว่า พระเจ้าเดือนเด่นฟ้า

    พ.ศ. ๙๐๐ สมัยเชียงแสน พระเจ้าตวันอธิราช เกิดเป็น "พระเจ้าพรหมมหาราช" ส่วนพระเจ้าเดือนเด่นฟ้า ตามไปเกิดเป็นพระราชโอรสองค์แรกนามว่า "พระเจ้าเดือนแจ่มฟ้า" แต่สิ้นพระชนม์ในสมัยทรงพระเยาว์ พระราชสมบัติจึงตกแก่พระโอรสองค์รองคือ "พระเจ้าชัยสิริ" (หลวงปู่ธรรมชัย) ซึ่งเป็นต้นราชวงศ์จักรี สืบสันติวงศ์ถึงปัจจุบัน พระเจ้าพรหมมหาราช มีพระเชษฐาคือ "พระเจ้าทุกขิตะ" (หลวงปู่คำแสนเล็ก วัดดอนมูล)

    ย้อนกลับมาสมัยสุวรรณภูมิ พ.ศ.๒๔๖ พระโพธิสัตว์ทั้ง ๒ พระองค์นี้ได้บำเพ็ญบารมีร่วมกัน (พ่อ-ลูก) พระเจ้าตวันอธิราช กษัตริย์ผู้ครองกรุงสุวรรณภูมินี้

    "พระเจ้าเดือนเด่นฟ้า จะมาเกิดที่ "กรุงเทพมหานคร" ชื่อภูมิพล เมื่อนั้น "สุวรรณภูมิ" จะฟื้นชื่อมีคนรู้ทั่ว..."

    สอดคล้องกับสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสมณโคดม องค์ปัจจุบันที่ได้ทรงตรัสพยากรณ์ไว้ดังนี้

    "ดูก่อนอานนท์..ตถาคตสงสารสัตว์เป็นล้นพ้น ที่มีอายุขัยอยู่ใกล้ยุคกึ่งสมัย คือในหลังพุทธกาลนี้ แต่ในเวลานั้น จะมี "พระมหากษัตริย์ธรรมิกราช" ผู้เป็นพระโพธิสัตว์องค์หนึ่งจะเกิดภายในอุปถัมภ์ของ "พระมหาเถระโพธิสัตว์"

    - พระโพธิสัตว์สองพระองค์นั้น จะเสด็จเข้ามาบำรุงพระพุทธศาสนาของตถาคต สมณชีพราหมณ์จะตามเสด็จเป็นอันมาก ในระยะนี้จะเป็นยุค "ชาวศรีวิไล"

    วิเคราะห์แล้วคิดว่าที่พระพุทธเจ้าตัดถึงพระโพธิส้ตว์ 2 พระองค์ ก็คือตรงกับที่ตรงกับที่หลวงพ่อฤาษีลิงดำทำนาย และที่พระพุทธเจ้าบอกว่า ยุคกึ่งสมัย คือในหลังพุทธกาลนี้ แปลแล้วก็น่าจะเป็น ราว พ.ศ. 900-25xx นี่ล่ะค่ะ เข้าใจว่าพุทธกาลนี้คือ 5000 ปี ครึ่งนึง กึ่งนึงก็ราว 2500 ถ้าอันนี้ผิดขออภัยเพราะตรงเรื่องพุทธกาลนี่ไม่แน่ใจจริงๆ ค่ะว่า พุทธกาลนี้เราจะนับเท่าไหร่ แต่เคยอ่านพุทธทำนายเค้าว่า พุทธกาลนี้จนศาสนาเสื่อมไปน่าจะ 5,000 ปี ผิดถูกยังไงขออภัยล่วงหน้าค่ะ

    (หลักฐานหนึ่ง ทางด้านโบราณวัตถุได้แก่ กระเบื้องจาร ที่ขุดได้จาก ซากเมือง คูบัว จ.ราชบุรี ก็ได้ยืนยันว่า พ่อกับลูกคู่นี้ ทรงเป็นหน่อเนื้อพระบรมพงศ์พระโพธิสัตว์ทั้งสองพระองค์ ได้ตั้งความปรารถนา "พุทธภูมิ"
    วิริยาธิกะ คือจะต้องบำเพ็ญบารมีเพื่อเป็นพระพุทธเจ้า ใช้เวลา ๑๖ อสงไขย กับแสนกัปล์ จึงจะบรรลุอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ)
    ในชาติปัจจุบัน ของ พระเจ้าเดือนเด่นฟ้า (พระบาทสมเด็จภูมิพลอดุลยเดชมหาราช)

    หลวงพ่อเคยถวายพระพรไว้ ณ พระตำหนักภุพิงค์ราชนิเวศน์ เมื่อวันที่ ๒๖ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๒๐ ในตอนหนึ่งที่พระองค์ทรงตรัสถามหลวงพ่อว่า (ไม่มีระบุว่าหลวงพ่อองค์ไหนคงต้องไปหาในกูเกิลน่าจะเจอ ดูจาก พ.ศ. และสถานที่ บางคนที่ใกล้ชิดพระองค์ท่านอาจจะพอทราบ หรือ หนังสือธัมมวิโมกข์ หน้า ๙๒ ถึง ๙๕ ฉบับที่ ๒๑๒ ประจำเดือน พฤศจิกายน ๒๕๔๑...)

    "เขาพูดกันว่าผมปรารถนาพุทธภูมิเป็นความจริงไหมครับ..?"

    หลวงพ่อถวายพระพรว่า...เรื่องปรารถนาพุทธภูมินี่ พระองค์ปรารถนามานาน..แต่เวลานี้บารมีเป็น"ปรมัตถบารมี" แล้ว ก็เหลืออีก ๕ ชาติ และที่พระองค์ปฏิบัติมามันเลยแล้ว..ไม่ใช่ไม่สำเร็จ..!

    "พุทธภูมิ" นี่ต้องบำเพ็ญกันมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งพระองค์เป็น "วิริยาธิกะ" วิริยาธิกะนี่..ต้องบำเพ็ญบารมีถึง ๑๖ อสงไขยกำไรแสนกัป นี่บำเพ็ญมาเกิน ๑๖ อสงไขยแล้ว "แสนกัป" อาจยังไม่ครบ จึงต้องเกิดอีก ๕ ชาติ"

    สรุป..จากที่กล่าวมา 5 ประเด็นจากข้อมูลที่อ้างอิงได้ จากผู้ที่ชื่อทำนายที่ยืนยันได้จารึกไว้เป็นลายลักษณ์อักษร จากหลักฐานทางโบราญคดีที่ขุดพบ ที่ราชบุรี และ จากที่ท่านทรงถามหลวงพ่อที่พระตำหนักภูพิง ..จริงๆ แล้วมีข้อมูลเยอะกว่านี้อีกนะค่ะ แต่ยังไม่อยากจะเอ่ยเพราะบางอันเป็นความรู้สึกส่วนตัวของอิฉันเอง ยังไม่มีหลักฐานพอ ...แต่จากที่ข้างบนนี้เขียนคือมีหลักฐานจากข้อความพระที่ทำนาย ที่ถูกถึงล้วนๆ ถ้าหากว่ามีใครเอามาโพสแลัวตัดแปลงจากที่ท่านทำนายไว้ อันนี้ต้องขอขมาท่านที่กล่าวชื่อไว้นะค่ะ

    เป็นการแสดงความคิดเห็นและรวบรวมข้อมูลเท่านั้นค่ะไม่ได้จะบอกให้ใครเชื่อ เชื่อไม่เชื่อทุกท่านน่าจะมี sense เองที่จะหาข้อมูลว่าอะไรจริงหรือไม่จริง ..สำหรับดิฉันแล้ว เชื่อว่าช้างปาลิไลย์ ปาลิไลกยะ ที่จะจุติเป็นพระพุทธสุมงคล อนาคตวงศ์ในกันต์ที่ 5 น่าจะเป็นในหลวงของเรานี่แหละค่ะ
    80-90%
     
  12. bisco

    bisco เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2006
    โพสต์:
    31
    ค่าพลัง:
    +150
  13. พระศุภกิจ ปภัสสโร

    พระศุภกิจ ปภัสสโร เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    2,015
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +11,166

    ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้

Loading...