นักวิชาการเตือนอย่าตื่นสึนามิ 30 ธ.ค.นี้

vacharaphol · 20 ธันวาคม 2010

นักวิชาการเตือนอย่าตื่นสึนามิ 30 ธ.ค.นี้

<SCRIPT type=text/javascript> var omitformtags=["input", "textarea", "select"]; //var message="You may not right mouse click this page."; /* Disable Right Click */ if (navigator.appName == 'Microsoft Internet Explorer'){ function NOclickIE(e) { if (event.button == 2 || event.button == 3) { alert(message); return false; } return true; } document.onmousedown=NOclickIE; document.onmouseup=NOclickIE; window.onmousedown=NOclickIE; window.onmouseup=NOclickIE; } else { function NOclickNN(e){ if (document.layers||document.getElementById&&!document.all){ if (e.which==2||e.which==3){ //alert(message); return false; } } } if (document.layers){ document.captureEvents(Event.MOUSEDOWN); document.onmousedown=NOclickNN; } document.oncontextmenu=new Function("return false") } /* ห้ามคลุมดำ */ function disableselect(e){ for (i = 0; i < omitformtags.length; i++) if (omitformtags==(e.target.tagName.toLowerCase())) return; return false } function reEnable(){ return true; } function noSelect(){ if (typeof document.onselectstart!="undefined"){ document.onselectstart=new Function ("return false") if (document.getElementsByTagName){ tags=document.getElementsByTagName('*') for (j = 0; j < tags.length; j++){ for (i = 0; i < omitformtags.length; i++) if (tags[j].tagName.toLowerCase()==omitformtags){ tags[j].onselectstart=function(){ document.onselectstart=new Function ('return true') } tags[j].onmouseup=function(){ document.onselectstart=new Function ('return false') } } } } } else{ document.onmousedown=disableselect document.onmouseup=reEnable } } window.onload=noSelect; </SCRIPT>
นักวิชาการจุฬาฯ เตือน อย่าเชื่อสึนามิเกิดปลายปี 53 ระบุ อีก 20 ปีน้ำทะเลกัดเซาะชายฝั่งอ่าวไทยตอนบน ทำแผ่นดินหาย 6.7 หมื่นไร่...

20 ธ.ค. ที่คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มีการเสวนาเรื่อง “เจาะลึกข้อมูลทางวิชาการด้านพิบัติภัยกับข่าวสารที่ประชาชนควรได้รับรู้ อย่างถูกต้อง” โดยน.ส.เครือวัลย์ จันทร์แก้ว อาจารย์ภาควิชาธรณีวิทยา คณะวิทยาศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผู้ค้นพบสึนามิโบราณ กล่าวถึงกรณีที่มีการทำนายว่าจะเกิดสึนามิในวันที่ 30 ธ.ค.53 บริเวณฝั่งอ่าวไทยและอันดามัน ทำให้ภาคใต้เกิดความเสียหายหนักกว่าที่เคยเกิดในปีพ.ศ.2547 ว่า จากการศึกษาวิจัยโดยลงพื้นที่จริง ทั้งในประเทศไทยรวมถึงในต่างประเทศ ทั้ง ชิลี สหรัฐอเมริกา อินเดีย และโอมาน โดยวิธีการศึกษาทางธรณีวิทยาจากหลักฐานในอดีตจนถึงปัจจุบัน พบว่า มากกว่า 90% ของการเกิดสึนามิ จะเกิดบริเวณแนวรอยต่อระหว่างเปลือกโลกหลังการเกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ โดยเฉลี่ย 8-8.5 ริกเตอร์ขึ้นไป ในฝั่งอันดามัน บริเวณเกาะนิโคบา ประเทศอินเดีย ซึ่งเป็นจุดเสี่ยง แม้ที่ผ่านมาจะเคยเกิดแผ่นดินไหว ก็อยู่ในระดับเพียง 7-7.9 ริกเตอร์เท่านั้น ยังไม่รุนแรงพอที่จะเกิดสึนามิ ส่วนฝั่งอ่าวไทย แนวรอยต่อระหว่างเปลือกโลกที่ใกล้ประเทศไทยมากที่สุด อยู่ที่ประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งหากเกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ ต้องใช้เวลาไม่น้อยกว่า 14-17 ชั่วโมง ก่อนจะกระทบชายฝั่งไทย ดังนั้นจึงไม่อยากให้ประชาชนตื่นตระหนก ขอให้ฟังเนื้อหาวิชาการและการเตือนภัยจากศูนย์ภัยพิบัติแห่งชาติ

ด้าน นายภูเวียง ประคำมินทร์ ผอ.ศูนย์วิจัยและประเมินผลแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา กล่าวว่า ตั้งแต่ปีพ.ศ.2547 สำนักเฝ้าระวังแผ่นดินไหวกรมอุตุนิยมวิทยา ได้พัฒนาเทคโนโลยีและบุคลากร ซึ่งสามารถตรวจจับแผ่นดินไหวได้ทั่วโลกโดยเฉพาะในแถบประเทศใกล้ๆ ในเอเชีย หากเกิดแผ่นดินไหวไม่เกิน 5 นาที จะสามารถบอกได้ว่าศูนย์กลางแผ่นดินไหวอยู่จุดไหน และคำนวณว่าจะเกิดสึนามิได้หรือไม่ ซึ่งสามารถประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และแจ้งให้ประชาชนได้รับทราบไม่เกิน 20 นาที

ขณะที่ศ.ดร.ธนวัฒน์ จารุพงษ์สกุล อาจารย์ภาควิชาธรณีวิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ กล่าวถึงกรณีมีข่าวว่านักวิชาการระบุอีก 20 ปี ผลจากภาวะโลกร้อนจะทำให้น้ำแข็งละลาย ทำให้น้ำทะเลท่วมสูงขึ้น 6-7 เมตร จนส่งผลให้กรุงเทพฯและเมืองในภาคกลางจมน้ำทะเล ต้องย้ายเมืองหลวงไปภาคอีสานว่า เป็นการให้ข่าวที่มีความหมิ่นเหม่ทางวิชาการ และสร้างความตื่นตระหนกกับประชาชนในวงกว้าง ทั้งที่บางเรื่องไม่ได้อ้างอิงผลการศึกษาทางวิชาการที่รอบด้าน แต่นำมาพูดในทำนองที่ว่าจะมีผลในทางเลวร้ายมาก กรณีน้ำทะเลจะท่วมกรุงเทพฯนั้น จากการศึกษาและทำแผนที่น้ำทะเลกัดเซาะชายฝั่งอ่าวไทยตอนบน ครอบคลุมพื้นที่ 5 จังหวัด ได้แก่ สมุทรปราการ สมุทรสาคร สมุทรสงคราม ฉะเชิงเทรา และกรุงเทพฯ ซึ่งใช้แผนที่อัตราส่วน 1 ต่อ 4,000 ภายใต้ปัจจัยจากแผ่นดินทรุดตัว น้ำทะเลสูงอัตรา 4 มิลลิเมตรต่อปี และเขื่อนดักตะกอน พบว่าในอีก 20 ปีข้างหน้า สัดส่วนของแผ่นดินจะหายไป 6.7 หมื่นไร่ โดยพิกัดสูงสุดกินพื้นที่ 1.3 กิโลเมตร ส่วน 50 ปีพื้นดินจะหายไป 2 แสนไร่ ลึกสุดประมาณ 2.3-2.5 กิโลเมตร และอีก 100 ปี จะหายไป 4 แสนไร่ ลึกสุด 6-8 กิโลเมตร จะไม่ลึกเข้าไปจนถึงกทม.ชั้นใน และเลยถึงจ.ชัยนาทอย่างที่เป็นข่าว

"ขณะ เดียวกัน อาจมีบางพื้นที่หายไปทั้งตำบลคือที่ต.บางปู จ.สมุทรปราการ เพราะมีความเสี่ยงจากปัญหาแผ่นดินทรุดตัวมาก สำหรับแนวทางปัองกัน ที่คณะกำลังศึกษาวิจัยที่ชุมชนบ้านขุนสมุทรจีน คือการทำเขื่อนพิเศษก้องทะเล โดยทำป่าชายเลนเทียมเพื่อสลายกำลังของคลื่น และยกระดับถนนให้สูง เพื่อป้องกันน้ำทะเลหนุน ทั้งนี้ทางภาควิชาธรณีฯกำลังจัดพิมพ์หนังสือแผนที่น้ำทะเลกัดเซาะชายฝั่ง อ่าวไทยตอนบน เพื่อเผยแพร่ให้ประชาชนได้ศึกษาในช่วงกลางปี 54" ศ.ดร.ธนวัฒน์ กล่าว

ส่วนดร.สธน วิจารณ์วรรณลักษณ์ อาจารย์ภาควิชาฟิลิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ กล่าวว่า ขณะนี้มีมูลนิธิเตือนภัยพิบัติ จัดตั้งโดยเอกชน ทำให้ประชาชนเกิดความสับสน เพราะตั้งชื่อเดียวกับศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ และมีการออกข่าวโจมตีศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ทำให้ประชาชนเป็นเหยื่อของกระบวนการสร้างข่าวเพื่อโปรโมทกิจการ หรือสร้างความเชื่อถือให้กับมูลนิธิ จึงอยากเห็นการดำเนินการที่ชัดเจนนักวิชาการเตือนอย่าตื่นสึนามิ 30 ธ.ค.นี้ - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

Komodo · 21 ธันวาคม 2010

อ่านข่าวนี้แล้ว เหมือนทีมอาจารย์จุฬา จะมองคนละมุมกับมูลนิธิ ฯ ของ ดร.สมิทธ และ ดร.อาจอง

ทั้ง ๆ ที่ ดร.สมิทธ เป็นอดีตอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยากร และ ดร.อาจอง เป็นนักวิทยาศาสตร์นาซ่า

ถ้าวิเคราะห์จากสภาพความเป็นจริง ผมเชื่อในมุมของ ดร.สมิทธ และ ดร.อาจอง มากกว่า หากท่านใดไปงานสัมมนาของเว็บในวันที่ 19 จะเห็นภาพที่ชัดเจนมาก และข้อมูลต่าง ๆ มีความสอดคล้องกัน

โมทนา

LungKO · 21 ธันวาคม 2010

ผมก็ว่าเป็นไปได้ตามที่ท่านดร.ทั้งสองท่าน กล่าวแล้ว เพราะสภาพที่เป็นจริงมีอยู่สองอย่าง
ตัวอย่างเช่น ต้นไม้ที่แช่อยู่ในน้ำนาน ๆ เป็นล้านล้านปี ก็กลายเป็นหินได้ ถ้าอยู่ในเขตที่มีสาร
ที่ทำให้เกิดปฏิกิริยา ทำให้กลายเป็นอีกอย่างหนึ่งได้ หรือไม่ก็กลายเป็นสิ่งตรงกันข้ามได้
โลกเราอยู่มานานแล้ว เหมือนดินเหนียวอยู่ในน้ำ นาน ๆ ไป ดินเหนียวก็กลายเป็นดินไม่เหนียวได้
โลกเราก็เหมือนกันมีสิทธิ์แตกสลายได้ แต่ต้องใช้เวลายาวนาน โดยธรรมชาติ
จะจัดการไปตามธรรมชาติของธาตุทั้งสี่ คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ ต่างแต่ว่าอันใดจะมากกว่ากัน
สิ่งที่มากกว่าย่อมมีอิทธิพลมากกว่า ตามที่ผมได้สังเกตนะครับ มีทางรอดอยู่ ถ้าเราช่วยกัน
 [FONT=&quot]ความพอเพียง เป็นทางรอดของโลก[/FONT]
[FONT=&quot]โลกของเรา [/FONT] [FONT=&quot]ได้ก้าวหน้า[/FONT] [FONT=&quot] มาถึงจุด[/FONT] [FONT=&quot]ชวนให้หยุด[/FONT] [FONT=&quot]สงสัย [/FONT] [FONT=&quot]ในใจฉัน[/FONT]
[FONT=&quot]ว่าโลกเรา [/FONT] [FONT=&quot]ควรจะเป็น[/FONT] [FONT=&quot] เช่นไรกัน[/FONT] [FONT=&quot]พวกเรานั้น[/FONT] [FONT=&quot]ควรเพ่งพิจ[/FONT] [FONT=&quot]พินิจดู[/FONT]

[FONT=&quot]มนุษย์เรา ได้ผลิต คิดก้าวหน้า[/FONT] [FONT=&quot]พัฒนา พารุ่งรุจน์ สุดสวยหรู[/FONT]
[FONT=&quot]ได้ผลิต สิ่งต่าง ๆ อย่างน่าดู[/FONT] [FONT=&quot]เพื่อจะอยู่อย่างสบาย หายกังวล[/FONT]

[FONT=&quot]เพราะมนุษย์หวังรุดนำ ธรรมชาติ ต่างมุ่งมาตร วาดหวังแข่ง ทุกแห่งหน[/FONT]
[FONT=&quot]แสวงหา สิ่งใหม่ ๆ รับใช้ตน[/FONT] [FONT=&quot]หลาย ๆ คน เฝ้าค้นคว้า หาทางไป[/FONT]

[FONT=&quot]เทคโนโลยี สิ่งใหม่ ๆ เห็นได้ชัด[/FONT] [FONT=&quot]มนุษย์จัด พัฒนา นำมาใช้[/FONT]
[FONT=&quot]ทั้งจำเป็น ไม่จำเป็น เห็นมากมาย[/FONT] [FONT=&quot]ว่าสบาย กายสนุก ทุกข์ไม่มี[/FONT]

[FONT=&quot]ทรัพยากร ธรณี มีค่าล้ำ[/FONT] [FONT=&quot]ถูกคนนำ เอาไปใช้ ในทุกที่[/FONT]
[FONT=&quot]เมืองน้อยใหญ่ต่างใช้เทค-โนโลยี ถึงวันนี้ ธรรมชาติ ขาดหายไป[/FONT]

[FONT=&quot]ปรากฏเห็น ว่าเป็นภัย ในชีวิต[/FONT] [FONT=&quot]ล้วนมีสิทธิ์ ปลิดชีวา น่าใจหาย[/FONT]
[FONT=&quot]สิ่งต่าง ๆ คนผลิตสร้าง อย่างมากมาย นำไปใช้ ให้เจริญ[/FONT] [FONT=&quot]เกินพอดี[/FONT]

[FONT=&quot]ทำให้เกิด เป็นพิษภัย ในอากาศ จนไม่อาจ จะแก้ไข ร้ายเหลือที่[/FONT]
[FONT=&quot]ทั้งดินน้ำ ล้ำเหนือฟ้า น่ากลัวซี[/FONT] [FONT=&quot]อาจถึงที่ ล่มสลาย หายหมดเลย[/FONT]

[FONT=&quot]มาถึงจุด ควจะหยุดฉุดไว้ก่อน เราควรย้อน กลับหลังไป อย่าได้เฉย[/FONT]
[FONT=&quot]อยู่กินนอน และหลายอย่าง ทางเราเคย จะเสบย สบายใจ ไร้กังวล[/FONT]

[FONT=&quot]พวกเราควร หวนไปตาม ธรรมชาติ จะสามารถเป็นอยู่ได้ ในห้วงหน[/FONT]
[FONT=&quot]จะอยู่รอด ปลอดภัย ในสากล[/FONT] [FONT=&quot]ทุก ๆ คน ควรสนใจ ให้มากมี[/FONT]

[FONT=&quot]ทรัพยากร เราควรใช้ ให้คุ้มค่า[/FONT] [FONT=&quot]ดินน้ำป่า ค่ามากมาย ให้สุขี[/FONT]
[FONT=&quot]ขาด ดิน น้ำ[/FONT] [FONT=&quot]ป่า เมื่อใด ไร้ชีวี[/FONT] [FONT=&quot]ถ้าไม่มี คนก็หมด งดหายใจ[/FONT]

[FONT=&quot]ถ้าอยากให้ โลกใบนี้ มีอยู่ต่อ[/FONT] [FONT=&quot]มาเถิดหนอ พี่น้องเรา เข้าแก้ไข[/FONT]
[FONT=&quot]มา่ร่วมมือ คือร่วมงาน ประสานใจ จะมำให้ ได้ผลดี มีทางเดิน[/FONT]

[FONT=&quot]ใช้ชีวิต เป็นอยู่ตาม ธรรมชาติ ควรเร่งรัด อย่างฉลาด ไม่ขาดเขิน[/FONT]
[FONT=&quot]อยู่กินดี มีปัจจัย ไม่มากเกิน[/FONT] [FONT=&quot]เราจะเพลิน โลกอยู่ได้ ไม่ล่มจม[/FONT]

[FONT=&quot]ใช้ชีวิต แบบพอเพียง....ตามรอยเบื้องพระยุคลบาทของในหลวง[/FONT]
[FONT=&quot]ของเรา ทั้งเรา ทั้งโลก จึงจะอยู่รอด[/FONT]

[FONT=&quot]ลุงมหาโก แต่งบูชาพระคุณพ่อ เนื่องในวันพ่อของเรา นะครับ[/FONT]

ผู้มาเยือน · 21 ธันวาคม 2010

วิทยาศาสตร์อย่างเดียวมองไม่เห็นทั้งหมด

ความจริงผมอยู่ในแวดวงวิชาการจะเห็นว่าทางวิชาการเขาดูแต่สถิติอย่างเดียว+การคำนวณโดยไม่เชื่อมโยงศาสตร์อื่นๆเหมือนที่ท่านวิทยากรภัยพิบัติบางคนพยายามสื่อในงานนี้( ท่านผู้รู้บางคนที่มาในงานมี วิทยาศาสตร์ทางวัตถุ+วิทยาศาสต์ทางจิต)ทำให้"ตา"ที่นักวิทยาศาสตร์ทางวัตถุอย่างเดียวมองเห็นจะสั้นๆถึงแม้เขาจะคิดว่ายาวแล้ว เพราะเขาไม่ใช้หลักธรรมอื่นมาประกอบด้วยซึ่งก็เข้าใจในความสุดโต่งทางวิทยาศาสตร์ทางวัตถุที่เขาเชื่อจากสิ่งที่เขาเห็นอย่างเดียวซึ่งนี่ก็คือ"โลกธรรม"ที่เป็นเรื่องที่ปัจจุบันมันมีหลากหลายความเชื่อนักซึ่งผมก็คิดอยู่แล้วว่ากลุ่มทางมูลนิธิฯต้องโดนวิจารณ์แต่ผมก็ขอให้กำลังใจครับ....เพราะใครจะไม่เชื่อแล้วประมาทก็จะได้รับกรรมไปตามวิถีแต่ผมหวังผลกับผู้รู้ทั้งหลายที่มีปัญญา"ตาใน"จะเข้าใจเรื่องทั้งหมดได้ดีและเตรียมพร้อมไม่ประมาทเพื่อที่ตนเองจะได้รอดและพร้อมที่จะช่วยผู้อื่นต่อไป....เพราะผมยังรู้สึกว่าการประมาทในเรื่องภัยพิบัติทั้งหลายนั้นยังมีคนเกินค่อนโลกที่ไม่สนใจอะไรนักแต่พอโดนจริงๆก็จะร้องโอดครวญซึ่งมันอาจจะเป็นกรรมของเขา....แต่ส่วนน้อยเท่านั้นที่จะตื่นตัว(ไม่ใช่ตื่นตูม)และเตรียมพร้อมซึ่งเรื่องภัยพิบัตินี้ถ้าไม่เชื่อมโยงกับเรื่องทางจิตก็จะไม่สามารถเข้าใจการเกิดในสิ่งต่างๆได้เลย....มีสัญญาณหรือการบอกผ่านธรรมชาติต่างๆหรือผู้ที่เขาอยากสื่อบอกแล้วแต่มนุษย์ยังไม่ยอมรับมันก็ต้องปล่อยไปแบบ"อุเบกขา"แล้ว....เพราะจากคำกล่าวถึงจำนวนมนุษย์ที่มาก 6-7 พันล้านคนนั้นจะเหลืออยู่ไม่มากนักหลังเกิดภัยพิบัติซึ่งมีความเป็นไปได้สูง...พวกเราก็ต้องช่วยผู้ที่ช่วยได้ต่อไปครับอย่าท้อ...ขอให้กำลังใจทุกๆคนที่มีความมุ่งมั่นครับและขอขอบคุณทีมงานทุกคนที่จัดงานภัยพิบัติในครั้งนี้ถึงแม้ว่าแรงเสียดทานจะมากครับ...

น้ำดี1 · 21 ธันวาคม 2010

มาอ่านค่ะ..................

เข้าสู่ระบบหรือลงทะเบียน

นักวิชาการเตือนอย่าตื่นสึนามิ 30 ธ.ค.นี้

vacharaphol เป็นที่รู้จักกันดี

Komodo หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

LungKO เป็นที่รู้จักกันดี

ผู้มาเยือน สมาชิก

น้ำดี1 เป็นที่รู้จักกันดี

แชร์หน้านี้

แชร์หน้านี้

เข้าสู่ระบบหรือลงทะเบียน

นักวิชาการเตือนอย่าตื่นสึนามิ 30 ธ.ค.นี้

แชร์หน้านี้

การค้นหาที่มีประโยชน์

ติดต่อเรา