ข้อความจากต่างมิติ - การท่องกาลเวลา, การเปลี่ยนแปลงแก้ไขอดีต และธรรมชาติของกาลเวลา

ขอบคุณครับ... รอติดตามอยุ่ครับ

 

ครับ ทีนี้ลองมองดูเหตุการ์นั้นๆด้วยจิตสมาธิ มองลงไปเห็นร่างกายเรา เห็นรถ เห้นภายในร่างกาย เห็นภายในเนื้อเหล็กของรถ ลงถึง โมเลกุล อะตอม จนถึงช่องว่างเล็กๆ ทีนี้นึกดู อะไรชนกัน อะตอม โมเลกุล ชนกัน หรือว่า พลังงานพื้นฐาน เข้าโปรแกรมว่าจะทำให้ อะตอม ชนกัน

ขั้นต่อมา พลังฐานนั้นคืออะไร เราเปลี่ยนที่ตรงนี้และ เปลี่ยนที่โปรแกรมตรงนี้เลย ด้วย อารมณ์ จินตนาการ ความรู้สึกนึกคิด และทัศนคติที่มีต่อเหตุการณืนั้นก็ด้วย หากเคยรู้สึกว่าเป็นลบมาก่อน ก็ทำให้เป็นกลางเสีย

อะไรประมาณนี้แหละครับ

 

__ทุกประสบการณ์สมบูรณ์แบบ__อย่างเมื่อคุณขับรถชนคนตาย คนที่ตายมาประสบเหตุการณ์รว่มกับคุณ เพื่อมาเป็นครูของคุณและคนที่เกี่ยวขอ้งว่า _อย่าประมาท_ และระวังอยู่เสมอคนที่ตายยอมเสียสละตัวเองเพื่อเป็นครู ถ้าคนที่ชน และคนรอบข้าง_สะกิคใจสักนิด_ว่าชั่วชีวิตนี้ จะระวัง และไม่ประมาทอีก จะเป็นมหากุศลต่อคนที่ตายอย่างมาก เพราะภาระกิจของเขาไม่ศูนย์เปล่า เพราะทุกเหตุการณ์ไม่มีความบังเอิจ อีกตัวอย่างเช่น เมื่อเธอ_อกหัก_ คนที่ทำให้เธอ อกหัก มาเพื่อ สะกิดให้เธอระลึกให้ได้ว่า จะไม่ทำให้ใครอกหัก เพราะรู้ได้ดว้ยประสบการณ์ของเธอเองแล้วว่า ความอกหักนั้นมันแย่อย่างไร และไม่ตอ้งการให้คนที่เธอสมาคมดว้ยต้องเจออาการอย่างนั้น __แต่คนสว่นมากยังไม่ยังไม่ตระหนักรู และยังกระทำต่อกันและกันซ้ำแล้วซ้ำอีก เป็นวงกลม ขอเพียงเราหยุด และมองสักนิดว่า ทำไมเหตุการณ์นี้หรือประสบการณ์นี้จึงเกิดขึ้น มาเพื่อมาสะกิดเตือนประสบการณ์ด้านไหน ที่เราต้องปรับปรุงและแก้ไข และเมื่อเราหยุดและมองดูประสบการณ์ทุกๆประสบการณ์ที่เราเจอมาตลอดชีวิต (ขอย้ำว่าทุกประสบการณ์) แล้วเราจะเห็นว่าทุกประสบการณ์ สวยงามและสมบูรณ์แบบจริงๆ เพราะทุกประสบการณ์เป็น คำถาม และเราต้องหาคำตอบให้เจอ และทุกอย่างไม่มีเหตุบังเอิจ

 

ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆอีกแล้วค่ะ

 

คราวนี้ก็เหลือแค่คุณแล้วนะครับว่าจะลงมือสร้างสรรค์ชีวิตของคุณด้วยตัวคุณเอง หรือจะเลือกที่จะปล่อยไปตามยถากรรม และดวง

 

ขอบคุณคุณชยุตมากนะคะ สำหรับบทความมีค่าอันนี้ ชอบมากค่ะและละอายที่ไม่ได้ช่วยงาน จะขอช่วยแปลสักบทนะคะ เรื่องอะไรก็ได้ค่ะที่ไม่ยาก

ทีนี้มาถึงเนื้อหาตรงนี้ แน่นอนค่ะทุกคนมีอดีตที่อยากจะแก้ไข ถ้าจะอ่านจากบทความตรงนี้ขอสรุปตามความเข้าใจคือ
1.การจะเข้าแก้ไขต้องให้จิตสำนึกลึกไปถึงระดับควอนตัม คือประตู
2.ปัจจุบันขณะคือกุญแจ

ดังนั้นการกระทำทั้งหมดต้องผ่านการรวบรวมจิตให้สู่สภาวะควอนตัมจิตขณะเดียวกันต้องมีสัมปรัชชัญญะรับรู้ตัวตนทุกขณะ การเข้าสู่ประตูอาจจะผ่านความฝันหรือการเข้าไปเปลี่ยนความทรงจำของเรา (ถ้าคุณชยุตพูดถึง inception)(นอกรื่อง เรื่องของปัจจุบันขณะนี้ดิฉันเห็นว่คุรุทั้งหลายต่างให้ความสำคัญอย่างมากที่สุด ท่านดิช นัช ฮานห์ จะเน้นถึง Now & Here เสมอ มีใครมีเคล็ดลับถึงการปัจจุบันขณะไหมคะ รบกวนบอกที ที่ตัวเองทำคือตั้งนาฬิกาให้เตือนทุกชั่วโมง เมื่อเสียงนาฬิกาดังก็หันมาจับลมหายใจสักครู่ อย่างน้อยรู้ตัสักวิสองวิก็ยังดีละ)

ดังนั้นขอตั้งคำถามว่าการเข้าไปเปลี่ยนคือเส้นทางที่เป็นทางเลือกในอีกหลายร้อยเส้นทาง ดังนั้นเมื่อเราตื่นขึ้นมาหรือออกจากสมาธิ โลกที่เราดำรงอยู่ในขณะนั้นอาจจะไม่เปลี่ยนไป คนที่อยู่รอบข้างเราอาจจะไม่เปลี่ยนไป แต่เหตุการณ์หนึ่งที่เราเข้าไปเปลี่ยนก้มีโลกซ้อนโลก

ตัวตนเดิมของเราที่เป็นทางเลือกเดิมก็ยังดำรงอยู่และดำเนินต่อจนเสร็จสิ้นกระบวนการ ขณะเดียวกันตัวตนเราในเส้นทางที่เลือกใหม่ก็ดำรงในอีกโลก คือไม่ใช่โลกที่เรารู้จักอีกต่อไปใช่ไหมคะ เพราะนึกถึงที่พี่นักเขียนเคยพูดเอาไว้น่ะค่ะ

ดังนั้นถ้ายกตัวอย่างว่าขับรถชนคนตาย จะกลับไปแก้ไขไม่ให้ชนคนตาย มันจะแก้แล้วเปลี่ยนเส้นทางต่างมิตินั้น แต่ในมิติที่ชนไปแล้วยังคงอยู่ เดิมนั้นรอยประทับหรือ footprint ของความกลัวหรือสลดใจที่ขับรถชนคนตายนั่นยังคงอยู่ ส่งผลให้เราในมิตินี้มีความกลัวในใจ

การกลับไปแก้ไขจะสร้างเส้นทางใหม่ จิตวิญญาณเราอีกเส้นทางจึงเบิกบานมีความสุขแล้วความสุขนั้นส่งผ่านมาสู่จิตวิญญาณร่วมร่างแต่ต่างมิติจนเราผ่อนคลายความกลัวในที่สุดแล้วจิตวิญญาณเราในมิติที่เคยขับรถชนคนตายก็ได้รับการอภัยให้ตนเอง ใช่อย่างนี้ไหมคะ

ทีนี้เรื่องของการสะกดจิตแล้วใส่ข้อมูลลงไปเพื่อให้เหตุการณ์นั้นหายไปจกความทรงจำเราหรือปลดปล่อยมันออกไปจากใจเราผ่านนักสะกดจิต มันอาจทำได้ในระดับที่จิตวิญญาณเราที่ยังระดับตื้นหรือเป็นเด็ก อย่างเช่นมีเด็กหญิง 6 ขวบเห็นแม่ถูกคนข่มขืนแล้วฆ่าตาย เด็กร้องไห้ช๊อคไป เมื่อฟื้นขึ้นมานักจิตวิทยาและครอบครัวต่างใส่ข้อมูลและสะกดจิตเธอว่าแม่เธอตายตั้งแต่เธอเกิด ซ้ำไปซ้ำมาจนเธอเชื่อ นี่จะทำให้เส้นทางในจิตวิญญาณเธอเปลี่ยนไป เธอจะมีชีวิตปกติแต่งงานมีครอบครัว แล้วเมื่อมารู้ความจริงตอนหลังเธออาจจะเจ็บปวดแต่อาจไม่รุนแรงเท่าเส้นทางเดิม เช่นถ้าพ่อยังคงเจ็บปวดแล้วพยายามตามหาคนร้าย เด็กก็จะรับรู้ว่าเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นจริงแล้วอาจส่งผลลบให้เด็กคนนั้นเติบโตด้วยการเกลียดผู้ชาย ก้าวร้าวและฯลฯ เป็นต้น

ดังนั้นวิธีการสะกดจิตจึงเป็นการเปลี่ยนแปลงในระดับตื้นที่อาจได้ผลในเรื่องที่ไม่กระทบใจอย่างรุนแรง

เขียนมาซะเยอะ ขอบคุณคุณชยุตอีกครั้งค่ะสำหรับบทความ

 

ขอขอบคุณ คุณชยุตมากครับที่นำเรื่องดีๆเช่นนี้มาให้อ่านอยู่เสมอชอบมากครับ จะติดตามอ่านตลอดไปครับ

 

ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากมหาเทพเมตาตรอน (Archangel Metatron)

วันที่: 18 ตุลาคม 2010
ผู้รับการสื่อสาร: นาย Tyberonn
เรื่อง: จิตสำนึกแห่งควอนตัม – ธรรมชาติของกาลเวลา (Quantum Consciousness: The Nature of Time)

ที่มา:
http://www.earth-keeper.com/EKchronicles_30pdf.pdf


ตอนที่ 17: กระบวนการคิดบวก - กฎแห่งการดึงดูดแบบหลากมิติ

<!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <wunctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <wontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> ในความตระหนักรู้แห่ง “ปัจจุบันขณะนี้” พวกคุณสามารถเข้าไปตั้งโปรแกรมให้กับจิตของตัวเอง
เพื่อให้มันจดจ่ออยู่กับสิ่งที่ดีๆได้

ถ้าพวกคุณจินตนาการถึงสิ่งที่ดีๆเกี่ยวกับสถานการณ์ยุ่งยากหรือไม่พึงประสงค์ใดๆ
จิตใจของพวกคุณก็จะส่งคลื่นพลังจิตนั้น ไปเปลี่ยนแปลงสถานการณ์นั้นๆให้เป็นไปในด้านบวกได้

เพราะฉะนั้นแล้ว พวกคุณจึงควรที่จะเรียนรู้ที่จะสลายความคิดด้านลบ หรือรูปภาพด้านลบของสถานการณ์ต่างๆ
ให้เป็น โดยการแทนที่พวกมันด้วยความคิดหรือรูปภาพด้านบวกเสีย

แต่ว่าการเพียงแต่ไปกดทับหรือข่มความคิดด้านลบเอาไว้เฉยๆ
ยังเป็นการไม่เพียงพอ ไม่ว่าจะกดทับหรือข่มมันเอาไว้ด้วยวิธีการใดก็ตาม
และไม่ว่าความคิดด้านลบนั้นๆจะเป็นอะไรก็ตาม

เช่น การเกลียดชังตัวเอง, ความกลัว, ความโกรธ, ความรู้สึกผิด, หรือความไม่พอใจต่างๆ
เพราะว่ามันควรที่จะถูกยอมรับเสียมากกว่า และต้องกล้าเผชิญหน้ากับมัน แล้วค่อยแทนที่มันเสีย
โดยการเข้าไปแก้ไขความคิดและความรู้สึกที่อยู่ในส่วนลึกนี้

พวกคุณจะพบว่ามันมีสนามพลังงานอารมณ์ ที่ถูกเก็บกักอยู่และผูกมันไว้กับระบบความเชื่อที่ผิดๆ
จำนวนมากมายมหาศาลเลยทีเดียว ในความเป็นจริงแล้วผลจากการลองผิดลองถูก โดยธรรมดาแล้ว
ก็จะนำคุณไปสู่การชำระล้างได้ในที่สุดเช่นเดียวกัน ไม่ช้าก็เร็ว

เพราะฉะนั้นแล้ว จงตั้งใจและพยายามเรียนรู้
ที่จะรู้เท่าทันอารมณ์ความรู้สึกด้านลบ หรือทึบตัน ที่เกิดขึ้นให้ได้
จากนั้นก็แทนที่มันด้วยอารมณ์ความรู้สึกที่ดีกว่า-มีความสุขกว่าในทันที

แต่ตรงนี้ก็อย่าไปเข้าใจผิดว่าให้กดทับ หรือข่มอารมณ์ความรู้สึกด้านลบนั้นๆ
เอาไว้เฉยๆโดยไม่ยอมให้มันถูกปลดปล่อยออกมานะ
เพราะว่านั่นก็ยิ่งจะทำให้มันมีปัญหาซับซ้อนหนักขึ้นไปอีก
มิหนำซ้ำ อาจจะแก้ไขไม่ได้เลยด้วยซ้ำ

พวกคุณเห็นไหมว่าในบางสถานการณ์ การตอบสนองตามธรรมชาติต่อผู้ที่พยายามจะบงการพวกคุณ
มันเป็นไปอย่างไม่เหมาะสม เพราะว่าในบางสถานการณ์มันไม่ถูกต้องที่จะยินยอมให้ใครมาควบคุมพวกคุณ

พวกคุณไม่ควรจะเพียงแค่ให้อภัยเฉยๆเวลาที่มีใครมาเหยียบเท้าคุณ สักวันหนึ่งพวกคุณจะเรียนรู้ว่า
แม้ไม่ต้องแสดงออกถึงอารมณ์ร้ายๆใดๆ พวกคุณก็สามารถกอบกู้ความเข้มแข็งที่มีอยู่แต่ดั้งเดิมของตัวเองกลับคืนมาได้
และนั่นจะทำให้พวกคุณไม่ไปหมกมุ่นอยู่กับเกมแห่งความคิดด้านลบใดๆ

ซึ่งเรื่องนี้มหาตมะคานธีได้เคยทำให้ดูเป็นตัวอย่างแล้ว เพราะว่าถ้าพวกคุณไปโกรธตอบอย่างรุนแรงแล้วหละก็
มันก็จะไปสร้างสนามพลังงานแห่งความโกรธที่มีพลังอำนาจมหาศาลขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
และนอกจากมันจะส่งผลกระทบด้านลบในปัจจุบันขณะนั้นแล้ว มันยังจะถูกส่งกระทบข้ามภพชาติ
ไปยังภพชาติอื่นๆอีกด้วย เพราะเหตุนี้สิ่งเหล่านี้ควรจะถูกและจะต้องถูกกำจัดไปเสีย


ชีวิตหรือชาติภพที่มีอยู่หลากมิติ-พร้อมๆกันหมดของพวกคุณ มันมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา และน่าสนใจอยู่ตรงนี้

ในภาพรวมของความเป็นหลากมิติแล้ว ไม่ว่าความปรารถนา
และระบบความเชื่อแบบไหนก็ตาม ที่พวกคุณฉายออกมา
จาก “ชาติภพ” ใดๆของพวกคุณ พลังงานของมัน
ก็จะถูกฉายต่อเข้าไปสู่สนามพลังควอนตัมของทุกๆชาติภพ
ที่อยู่ภายในขอบเขตของความเป็นหลากมิตินั้นๆของคุณด้วยเสมอ
นี่คืออิทธิพลของ “กฎแห่งการดึงดูด” (Law of Attraction)


ตัวอย่างเช่น ลองจินตนาการดูว่าคุณกำลังอยู่ใน “ชาติภพปัจจุบันนี้”
และคุณก็กำลังพยายามสร้างความมั่งคั่งให้กับตัวเองอยู่ แต่ในอดีตชาตินับสิบๆชาติที่แล้วของคุณ
คุณเคยบวชเป็นพระ หรือนักบวชมาก่อน ซึ่งมีปณิธานที่จะมีชีวิตอยู่อย่างสมถะ
และตัดขาดจากความเป็นวัตถุนิยม ถ้าคุณเคยเชื่อในชาติภพก่อนๆว่า “เงิน” คือบ่อเกิดแห่งความชั่วร้ายทั้งหลาย

ดังนั้น ก็หมายความว่า คุณมีแค่เวอร์ชั่นเดียวของชีวิต ที่พยายามสร้างความมั่งคั่งอยู่
ในขณะที่อีกนับสิบๆเวอร์ชั่นของตัวคุณเอง กลับปฏิเสธมัน และเพราะว่ากฎแห่งควอนตัมฟิสิกส์เกี่ยวกับมวล-พลังงาน
มันมีอยู่อย่างชัดเจน ดังนั้น ตามตัวอย่างนี้ สัดส่วนของพลังงานที่ “ปฏิเสธเงิน”
จึงมีมากกว่าสัดส่วนของพลังงานที่ “ดึงดูดเงิน” เข้ามา ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือ ชาตินี้คุณไม่มีวันรวยได้

เพราะฉะนั้น ความเชื่อในอดีตชาติของคุณจึงควรจะต้องถูกเปลี่ยนแปลงเสียใหม่ เปลี่ยนแปลงจากระดับจิตวิญญาณ
โดยการเข้าไปถึงสุ่อดีตชาติเหล่านั้นผ่านทางสภาวะ “การตระหนักรู้ระดับควอนตั้ม”
แล้วไปแทนที่ระบบความเชื่อที่ว่า “เงินคือบ่อเกิดแห่งความชั่วร้ายทั้งปวง” นั้นเสีย

เพราะว่าเงินเอง มันก็เป็นแค่พลังงานอย่างหนึ่ง ที่เราสามารถนำมันมาใช้เพื่อประทังชีวิตในแบบที่ดีงามก็ได้
อดีตชาติที่เป็นพระนั้น ควรจะคงไว้ซึ่งปณิธานแห่งการอยู่อย่างสมถะเหมือนเดิม
แต่ควรจะเปลี่ยนความเชื่อที่ว่าเงินคือสิ่งชั่วร้ายเท่านั้นเอง

…………………….

 

ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากมหาเทพเมตาตรอน (Archangel Metatron)

วันที่: 18 ตุลาคม 2010
ผู้รับการสื่อสาร: นาย Tyberonn
เรื่อง: จิตสำนึกแห่งควอนตัม – ธรรมชาติของกาลเวลา (Quantum Consciousness: The Nature of Time)

ที่มา:
http://www.earth-keeper.com/EKchronicles_30pdf.pdf


ตอนที่ 18: ความเจ็บปวดจากอดีตชาติ
<!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <wunctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <wontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if !mso]><object classid="clsid:38481807-CA0E-42D2-BF39-B33AF135CC4D" id=ieooui></object> <style> st1\:*{behavior:url(#ieooui) } </style> <![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]-->
อีกตัวอย่างหนึ่งของความเจ็บปวดที่ถูกส่งข้ามชาติมาจากอดีชาติ ก็คือ คนใกล้ชิดคนหนึ่งของผู้รับสาส์นคนนี้
เป็นคนที่กลัวที่ปิดทึบอย่างมาก และก็มีอาการทางจิต คือหวาดระแวงเวลาที่อยู่ในฝูงชนจำนวนมากๆ
ซึ่งคนๆนี้เอง เขาก็รู้ว่านี่เป็นผลมาจากอดีตชาติ ที่เขาเคยต้องหลบหนีการไล่ล่าของ Athens
ไปพร้อมกับเด็กๆ อยู่หลายชั่วโมง ก่อนที่ผู้รุกรานชาว Turks เหล่านั้นจะทำลายเมืองจนย่อยยับลง

และในความจริงแล้ว เขาก็เคยหลบซ่อนตัว และวิ่งหนีตายด้วยความหวาดกลัวไปพร้อมกับเด็กๆจริงๆ

พวกเราอยากจะบอกพวกคุณว่า ชาวโลกหลายคนที่เคยอยู่ร่วมในเหตุการณ์ในกรุง Athens ในครั้งนั้น
ที่พวกเขาต้องถูกดึงเข้าไปสู่ความรู้สึกนั้นซ้ำอีกครั้งหนึ่ง ก็เพราะว่าพวกเขาเคยมีความเจ็บปวดแบบเดียวกันนั้นมาก่อนแล้ว

นั่นคือพวกเขาเคยต้องกระเสือกกระสนหนีตายอย่างไร้ความหวัง ไปบนสะพานที่เชื่อมต่อระหว่าง Yucatan และแผ่นดินใหญ่
จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในแอตแลนติสมาก่อนแล้ว ทำให้พลังงานที่ถูกสร้างขึ้นในครั้งนั้น
ถูกชาร์จเข้าไปสู่ทุกๆชาติภพในความเป็นหลากมิติของพวกเขาเอง ดังนั้น มันจึงกลับมาเกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่ง
มันคือพลังอำนาจของอารมณ์ความรู้สึกและความกลัวที่รุนแรงสุดขีด

กฎแห่งการดึงดูดจะส่งผลกระทบต่อทุกๆภพชาติของพวกคุณ
เหตุการณ์ใดๆสามารถส่งผลกระทบข้ามภพชาติไปสู่ภพชาติอื่นๆได้เสมอ
และมันก็สามารถถูกดึงดูดไปสู่ภพชาติอื่นๆได้เสมอด้วย
ขึ้นอยู่กับความเข้มข้นรุนแรงของพลังงานของมัน
ในประสบการณ์แบบเดียวกันนั้น

และมันก็สามารถเกิดขึ้นได้กับทั้งระดับปัจเจกบุคคล
และระดับสังคมโดยรวมด้วย

ความเจ็บปวดของสังคมโดยรวมอย่างหนึ่ง ที่เกิดจากอารมณ์ความรู้สึกด้านลบ ที่ถูกแสดงออกมาให้เห็นเป็นตัวอย่าง
ก็คือการเกิดสงครามโลกทั้งสองครั้งของพวกคุณนั่นเอง

สงครามโลกครั้งที่สองของพวกคุณ จริงๆแล้วมันคือการกลับมาใหม่อีกครั้งหนึ่ง
ของสงครามระหว่างชาวอาริยันกับชาวโพสิดอนในยุคแอตแลนติส ส่วนสงครามในตะวันออกกลางในตอนนี้
ก็คือการกลับมาใหม่อีกครั้งหนึ่งของสงครามครูเสด ที่ส่งผลกระทบข้ามภพชาติมา


สักวันหนึ่ง มนุษย์จะประจักษ์ด้วยตนเอง ถึงประโยชน์และโทษของความขัดแย้งแบบนั้น

สักวันหนึ่งพวกคุณจะเรียนรู้ว่า สงคราม จะไม่มีวันยุติลง
เพราะการเกลียดสงครามเลย
แต่สงครามจะยุติลงเพราะการรักสันติสุขต่างหาก
เพราะนั่นคือพลังแห่งความรัก ซึ่งมันเป็นพลังงาน
ที่มีพลังอำนาจมากกว่าความเกลียดมากมายนัก

นี่คือตัวอย่างที่สมบูรณ์แบบเกี่ยวกับผลกระทบของความเจ็บปวดในอดีตชาติ
ที่ส่งผลกระทบมาถึงและมาเกิดซ้ำอีกในปัจจุบันชาติ แต่ถ้าอดีตเหล่านั้นถูกนำมาเผชิญหน้า
และถูกเปลี่ยนแปลงด้วยความรอบคอบเสีย มันก็จะสามารถลบล้างความกลัวที่ผิดปกติวิสัย
และโรคทางจิตประสาทเหล่านั้นไปได้

ถ้าเปลี่ยนอดีตได้แล้ว มันก็จะให้ผลอย่างนั้นจริงๆ คือเมื่อใดที่พวกคุณ
เขียนบทชีวิตในอดีตของตัวเองขึ้นมาใหม่ได้แล้ว และเปลี่ยนประสบการณ์ในอดีตของตนเองได้แล้ว
ความกลัวที่อยู่เบื้องหลังมัน ก็จะถูกกำจัดไปด้วย

มันจะเหมือนกับว่า ความเจ็บปวดเหล่านั้นไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และมันจะรู้สึกเหมือนกับว่า
นั่นแหละคือสิ่งที่เกิดขึ้นจริงๆ


นี่เป็นเพียงตัวอย่างเดียวเท่านั้น แต่ไม่ว่าพวกคุณจะมีรายละเอียดของปัญหาเป็นอย่างไรก็ตาม
แต่พวกคุณทุกคนก็ล้วนแต่เคยมีความเจ็บปวดในอดีตมาแล้วทั้งสิ้น แต่พวกคุณก็สามารถที่จะเปลี่ยนมันได้
โดยใช้ความเป็น “ผู้สร้างร่วมที่รู้แจ้งแล้วของตัวคุณเอง” และทำในสภาวะของการตระหนักรู้ระดับควอนตั้ม
เพื่อทำให้เส้นทางชีวิตของคุณเองสมบูรณ์แบบมากขึ้นอย่างที่คุณต้องการ


แต่โปรดอย่าเพิ่งท้อแท้ใจไป เพราะว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ทำได้จริงๆ
และพวกคุณก็เคยทำกันมาคนละหลายๆครั้งแล้วด้วย
ในสภาวะที่ใช้จิตใต้สำนึก ในขณะที่พวกคุณกำลังฝัน

พวกเราขอยืนยันกับพวกคุณว่า มันสามารถทำได้
ในสภาวะที่มีสติสัมปชัญญะจริงๆ ในเมอร์ขะน่า
ภายใต้สภาวะแห่งความตระหนักรู้ระดับควอนตั้ม
ที่อยู่ในความเป็นปัจจุบันขณะนี้

และเพราะว่าอดีต-ปัจจุบัน-อนาคต มันมีอยู่-เป็นอยู่พร้อมกันหมดจริงๆ เพราะฉะนั้น มันจึงไม่มีเหตุผลว่า
ทำไมพวกคุณจึงจะเข้าไปเปลี่ยนแปลงแก้ไข และตอบสนองต่อเหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่งไม่ได้
ไม่ว่ามันจะเกิดขึ้นในขอบเขตของกาลเวลาใดๆ ที่พวกคุณสามารถรับรู้ได้ด้วยประสาทสัมผัสอันจำกัดนี้ก็ตาม

พวกคุณมีความสามารถที่จะลบล้างความเจ็บปวดในอดีตได้ และจงเปลี่ยนมัน
ให้กลับไปสอดคล้องกับวัตถุประสงค์แรกเริ่ม ของการเลือกมีบทเรียนนั้นๆของตัวคุณเองเสีย

…………………….

 

เค้าถึงว่าประวัติศาสตร์มักจะซ้ำรอยสินะ

 

ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากมหาเทพเมตาตรอน (Archangel Metatron)

วันที่: 18 ตุลาคม 2010
ผู้รับการสื่อสาร: นาย Tyberonn
เรื่อง: จิตสำนึกแห่งควอนตัม – ธรรมชาติของกาลเวลา (Quantum Consciousness: The Nature of Time)

ที่มา:
http://www.earth-keeper.com/EKchronicles_30pdf.pdf


ตอนที่ 19: บทส่งท้าย (จบ)

<!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <wunctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <wontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if !mso]><object classid="clsid:38481807-CA0E-42D2-BF39-B33AF135CC4D" id=ieooui></object> <style> st1\:*{behavior:url(#ieooui) } </style> <![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]-->
ที่รักทั้งหลาย สำหรับพวกคุณบางคนที่เพิ่งจะเริ่มต้นค้นหาโลกภายในของตัวเอง
และเพิ่งจะเริ่มต้นสรุปรวบรวมแนวความคิดต่างๆเกี่ยวกับธรรมชาติของเอกภพ,
โลกแห่งความเป็นจริงที่จริงยิ่งกว่า และพลังอำนาจที่แท้จริงในการสร้างสรรค์ของตัวคุณเองอยู่

ซึ่งในช่วงแรกๆนี้ สิ่งที่พวกคุณค้นพบ มันก็อาจจะดูว่า ไม่น่าจะเป็นความจริงไปได้
หรือไม่ก็อาจจะดูว่ามันยิ่งใหญ่จนเกินไป ดังนั้น พวกคุณจึงอาจจะรู้สึกสับสนกับการทำงานของ
“โปรแกรมแห่งความมีอัตตาตัวตนของจิต” (program of the ego mind) ที่ถูกติดตั้งไว้ในโลกในมิติที่ 3 นี้

การทำงานของโปรแกรมแห่งความเป็นทวิภาวะของจิต จะบอกพวกคุณว่า
เรื่องนี้มันเป็นแค่ความคิดเพ้อฝัน และมันก็จะทำให้พวกคุณเกิดความลังเลสงสัย
เพื่อสกัดกั้นพวกคุณไม่ให้เข้าถึงความจริงที่สูงกว่าได้


จงจำไว้ว่าอะไรก็ตามแต่ที่พวกคุณยอมรับมันด้วยใจแล้ว อะไรก็ตามแต่ที่พวกคุณเชื่อมั่นศรัทธาแล้ว
มันจะถูกฉายไปสู่โลกแห่งความเป็นจริงของพวกคุณเองเสมอ

เพราะฉะนั้น พวกคุณอาจจะเข้าใจผิดไปว่า มันจะเป็นการเหมาะสมกว่า หากพวกคุณจะยอมรับแต่โดยดีว่า
พวกคุณยังไม่อาจประจักษ์แจ้งถึงความเป็นรูปธรรมชีวิตอันศักดิ์สิทธิ์ทั้งมวลของตนเอง
ที่มีพลังอำนาจมหาศาลอย่างไม่น่าเชื่อ และซ่อนอยู่ลึกๆภายในตัวคุณเอง

แต่ท่านคุรุทั้งหลาย จงเปิดระบบความเชื่อของพวกคุณให้กว้างขึ้นเถิด จงปรับความคิดของพวกคุณซะใหม่
เพราะเมื่อพวกคุณทำเช่นนี้แล้ว เป้าหมายและความท้าทายของพวกคุณ ก็จะขยายตัวใหญ่ขึ้น
และดีขึ้นตามไปด้วยโดยอัตโนมัติ

ความเป็นจริงที่พวกเรากำลังแบ่งปันกับพวกคุณอยู่ในขณะนี้ สามารถนำไปใช้เพื่อประดับปัญญาของพวกคุณได้
และสามารถทำให้ขอบเขตของโลกภายในของพวกคุณ ขยายตัวออกไปสู่ทิศทางแห่งการค้นพบที่สูงขึ้นได้
นั่นคือทิศทางแห่งความรู้และภูมิปัญญา พวกคุณจะพบว่ามันคือทิศทางที่ทำให้พวกคุณมีพลังอำนาจ
ที่จะเดินทางกลับคืนสู่บ้านเกิดของตัวเองได้ (บ้านเกิด หมายถึง “ความว่างเปล่า” – ผู้แปล)
ซึ่งนั่นแหละคือทิศทางที่ “ตัวตนภายในของพวกคุณเอง” เป็นผู้ปูทางเอาไว้ให้พวกคุณ

การไม่รู้แจ้ง เป็นสิ่งที่จำเป็นเสมอ ดังนั้นจงคอยฟังเสียงจากภายในตัวคุณเองให้ดี
และจงอย่าปล่อยให้ความกลัว หรือความลังเลสงสัย ของจิตใจที่เต็มไปด้วย ego
มาปิดกั้นคำแนะนำอันศักดิ์สิทธิ์จากตัวตนภายในของคุณเอง ซึ่งกำลังจะนำทางพวกคุณ ให้กลับไปสู่บ้านเกิดได้

ความสามารถที่จะไม่ติดอยู่กับกาลเวลา และแน่นอนรวมถึง ความสามารถในการเข้าถึงกาลเวลาต่างๆได้
คือทางลัดของการบำบัดรักษาแบบองค์รวมของ “ตัวตนทั้งหมด”ที่อยู่ภายในความเป็นหลากมิติของตัวคุณเอง


จุดบางจุดบนโลกของพวกคุณสามารถใช้เป็นผ่านเข้าไปสู่มายาการของกาลเวลาและชาติภพหลากมิติของพวกคุณ
ได้ง่ายกว่าจุดอื่นๆ เช่น Grimes Point, Grand Tetons, Arkansas และภูเขา Shasta
เหล่านี้คือจุดที่มีศักยภาพด้านนี้มากที่สุดในทวีปอเมริกาเหนือ

ส่วน Globally, Titikaka, Roslyn, Montserrat, มหาปิรามิดกีซ่า (Giza), Minas Gerais Brazil,
ทะเลทรายโกบี, ทะเลสาบ Baikal และภูเขาไฟฟูจิ คือสถานที่อื่นๆในโลกที่มีศักยภาพด้านนี้มากที่สุด
ทั้งนี้เป็นเพราะว่าจุดเหล่านี้มีคลื่นความถี่ของพลังงานบางอย่างไหลซึมออกมาจากพวกมัน


แต่อย่างไรก็ตามการผ่านเข้าสู่มายาการของกาลเวลา
และชาติภพหลากมิติ ก็สามารถทำที่ไหนก็ได้ โดยใช้สนามพลังเมอร์ขะน่า

และจงจำไว้ว่า “ไม่มีเหตุการณ์ใดที่ถูกสลักไว้บนหิน” หรือ “ถูกลิขิตไว้ก่อนแล้ว”
เหตุการณ์ใดๆก็ตาม ล้วนแต่สามารถถูกเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้เหมือนๆกันหมด
ไม่ใช่เฉพาะก่อนที่มันจะเกิดขึ้นเท่านั้น แต่ยังรวมถึงในขณะที่มันกำลังเกิด
และหลังจากที่มันเกิดขึ้นแล้วอีกด้วย

การเขียนบทชีวิตสำหรับอนาคตของพวกคุณเองขึ้นมา และการเปลี่ยนแปลงแก้ไขอดีต
คือหนึ่งในสิ่งที่ท้ายทายมากที่สุดสำหรับพวกคุณหลายๆคน

และไม่มีกาลเวลาไหน ที่จะมีพลังอำนาจมากเท่ากับ “ปัจจุบันขณะนี้”



เราคือเมตาตรอน และเราขอแบ่งปันความเป็นจริงนี้แก่พวกคุณ

..และมันก็เป็นเช่นนี้เอง..

......................................

 

ขออนุญาตตอบคำถามของบางท่านทิ้งท้ายไว้หน่อยนะครับ

...ตอบเท่าที่รู้ครับ...


มหาเทพเมตาตรอน คือ Archangel Metatron อยู่ในมิติไหนก็ไม่รู้หละ
แต่เป็นระรอกแรกๆของ "จิตวิญญาณ" ที่ถูกสร้างขึ้นมาจากพระผู้สร้าง

..เขาว่างั้นนะครับ..

ซึ่งชั้นแรกๆที่ว่านี้ ตามข้อความสื่อสารจากนายแมทธิว วาร์ด แล้ว
บอกว่า อยู่เหนือกว่่า "พระเจ้า" ซะอีกแหนะ..งง..ใช่ไหมหละครับ

งั้นมาดูนี่กัน...

นายแมทธิว เขาอธิบายเรื่องกำเนิดสรรพสิ่งให้แม่เขาฟังว่า
เริ่มต้นมันไม่มีอะไรอยู่..มีเพียงแต่พลังอำนาจที่หลับไหลอยู่ของ "พระผู้สร้าง" (the Creator) เท่านั้น
(คุ้นๆกับของอาจารย์ปริญญา และของคนอื่นๆไหม??)

อยู่มาวันหนึ่ง พลังอำนาจนี้ก็ตื่น และพระผู้สร้างก็อยากหาประสบการณ์
จึงได้แบ่งตัวเองออกไปเป็นจิตวิญญาณชุดแรก
ซึ่งก็เป็นพวกที่บริสุทธิ์และมีพลังอำนาจเท่าเทียมกับพระผู้สร้างทุกประการ
เช่น พวก Archangel Micheal, Archangel Metatron และ Archangel อื่นๆ เป็นต้น
(และถ้าผมจำไม่ผิดนะครับ เขาบอกว่าพวกที่ลงไปเกิดเป็นศาสดาของศาสนาต่างๆ
ทั่วทั้งจักรวาลนี้ ไม่ใช่เฉพาะบนโลกเรานะครับ ก็มาจาก ชั้นนี้แหละ - แต่ถ้าจำผิดขออภัยด้วยนะครับ)

ต่อมาพวก Archangel ทั้งหลาย ก็พากันแบ่งภาคบ้าง เป็นจิตวิญญาณระลอกที่สอง
เป็นพวกเทพ (ในความหมายของฟรั่งนะครับ ไม่ใช่พวกเทวดาทั้ง 6 ชั้นแบบของเรา)
ซึ่งพวกเทพเหล่านี้ ก็ไร้ตัวตนคือมีแต่พลังงานและพลังอำนาจเสมอเหมือนพระผู้สร้างเหมือนกันด้วย

จากนั้นเทพในระดับที่สองนี้ก็แบ่งภาคตัวเองออกไปอีก จนเป็นจิตวิญญาณในอาณาเขตที่สามขึ้นมา
ซึ่งจิตวิญญาณที่อยู่ในอาณาเขตที่สามนี้ ได้แก่เทหะวัตถุทั้งหลาย (เทหะวัตถุ คือพวกดวงดาวต่างๆ)
และเทพต่างๆด้วย ซึ่งเทพเหล่านี้ สามารถเลือกที่จะมีรูปกายหรือไม่ก็ได้ อย่างใดอย่างหนึ่ง

และพวกที่ไม่มีตัวตนที่อยู่ในอาณาเขตนี้แหละ ที่พระผู้สร้างเลือกมาให้เป็นผู้ปกครองจักรวาลต่างๆ
หนึ่งในนั้นก็คือผู้ที่ศาสนาบางศาสนาของมนุษย์เราเรียกว่า "พระเจ้า" (God)

ซึ่งพระเจ้าจะทำหน้าที่แบ่งภาคตัวเองออกมาเพื่อสร้างเป็นจิตวิญญาณทั้งหมด
และสิ่งต่างๆทั้งหมดที่มีอยู่ในจักรวาลของตนเอง

ต่อจากนั้นระดับการแบ่งภาคตัวเองออกไป ก็ยังคงเกิดขึ้นอยู่อีกหลายระดับชั้น
ซึ่งคำว่าการแบ่งภาคนี้ หมายความว่า ผู้ที่ถูกแบ่งภาคออกมา
จะมีสัดส่วนของส่วนผสมและคุณสมบัติทุกอย่างเสมอเหมือนกับ
ผู้ที่เป็นผู้แบ่งเราออกมาทุกประการทั้งทางด้านปริมาณและคุณภาพ

แต่เพราะว่าจิตวิญญาณทั้งหลายได้รับ "ของขวัญ" แห่งการมี
"อิสระแห่งความปราถนา" จึงทำให้แต่ละจิตวิญญาณ สามารถที่จะท่องไป
เพื่อไปเรียนรู้ที่ตรงไหนของจักรวาลก็ได้

ซึ่งแม้แต่พระเจ้าเอง ก็ไม่มีสิทธิ์ขัดขวางทางเลือกเหล่านั้นได้
เช่น ถ้าหากใครเลือกที่จะเป็นฝ่ายมืด หรือเป็นมาร พระเจ้าก็มิอาจห้ามได้
ก็มีแต่จะสนับสนุนให้เป็นเท่านั้นแหละ เพราะว่านั่นเป็นทางเลือกของเขา
เป็นประสบการณ์ที่เขาอยากจะมี เป็นต้น

เพราะฉะนั้น จากลำดับชั้นแห่งการแบ่งภาคต่อๆกันมานี้ จึงไม่มีใครเลย
ที่ไม่เกี่ยวข้องกับพระเจ้า และพระผู้สร้าง

และไม่มีใครเลย ที่ไม่เกี่ยวข้องกับใครหรือกับสิ่งใดเลย
ทุกอย่างมีความสัมพันธ์กัน แบบแบ่งแยกจากกันไม่ได้โดยกำเนิด

ตัวตนที่สูงกว่า และหลากมิติของเรา ถ้าในแง่นี้ ก็คือผู้ที่อยู่ในลำดับชั้นสูงกว่าเรานั่นแหละครับ
เพราะว่าพวกเราก็คือส่วนหนึ่งที่แบ่งภาคออกมาจากเขา
และพวกเขาก็เป็นส่วนหนึ่งที่แบ่งภาคมาจากลำดับชั้นที่สูงกว่าขึ้นไปเรื่อยๆ และเรื่อยๆด้วย เช่นกัน


ปล.คำอธิบายลักษณะนี้ จะพบเห็นได้ทั่วไปและค่อนข้างจะตรงกันหมด
สำหรับข้อความที่สื่อสารมาจากต่างมิติหนะนะครับ

ก็ลองพิจารณากันดูเอาเองเถอะนะครับ..ผมเป็นเพียงผู้นำสาส์นมาส่งให้เท่านั้น

...........................................................

 

ส่วนสำหรับคำถามนี้ ผมคงไม่กล้าเรียกว่า "ตอบคำถาม" ให้ได้หรอกนะครับ
แต่ผมจะเรียกว่า "แบ่งปัน" เท่าที่รู้มาเล่าให้ฟังก็แล้วกันนะครับ

เมื่อปีหรือสองปีก่อน สมัยที่ผมและทีมแปลคนอื่นๆ เคยช่วยงานพี่คนหนึ่งแปลกระทู้หนึ่งอยู่

พี่คนนั้นเขาเป็นผู้ทรงภูมิปัญญา มีประสบการณ์ทางจิต และมีความเชี่ยวชาญด้านนี้มากๆคนหนึ่ง

เขาเคยเล่าไว้ในกระทู้นั้น (ซึ่งตอนนี้ถูกลบทิ้งไปแล้ว) ว่า เขามีเพื่อนอยู่คนหนึ่ง
ซึ่งมีอยู่วันหนึ่ง รถยนต์ของเพื่อนคนนั้นเกิดอุบัติเหตุ และเพื่อนคนนั้นไม่ได้เซ็นต์สัญญาทำประกันไว้

เพื่อนคนนั้นก็นึกเสียดายอยู่ เลยเข้าสมาธิลึกๆ แล้วกลับไปจินตนาการว่าได้เซ็นต์สัญญาทำประกันไปแล้ว

พอหลังจากนั้นอีกไม่นาน หรืออีกไม่กี่วันนี่แหละ ผมก็จำได้ไม่ชัดนัก ทางบริษัทประกัน
ก็นำเอาหลักฐานการเซ็นต์สัญญาของแกมาให้ และบอกว่าสามารถเคลมประกันได้ อะไรแบบนั้น
ก็เลยถือว่าโชคดีไป เพราะว่าสามารถกลับไปแก้ไขอดีตได้ จากระดับลึกของจิต ในสภาวะสมาธิ นั่นเอง


ส่วนอีกเรื่องหนึ่ง ไม่รู้จะใช่เรื่องเดียวกันหรือเปล่านะครับ แต่ขอเล่าไว้หน่อย เผื่อจะเป็นประโยชน์บ้าง
และก็ต้องกราบขออภัยท่านที่ไม่ชอบ "สายธรรมกาย" หรือเกลียดวัดพระธรรมกายด้วยนะครับ

ในเทป ในหนังสือ และสื่ออื่นๆของสายธรรมกาย จะมีอยู่หลายชุด และดูเหมือนจะเป็นที่รู้กันโดยทั่วๆไปว่า
หลวงพ่อวัดปากน้ำ ท่านสามารถ "แก้ผังชีวิต" ของท่านเองได้

รวมถึงผมเคยฟังเทปของคุณยายอุบาสิกาจันทร์ แห่งวัดพระธรรมกาย ท่านก็เคยพูดไว้ว่า
ท่านได้เข้าไปแก้ไขผังชีวิตของท่าน ในภพชาติถัดๆไป เอาไว้เรียบร้อยหมดแล้ว

แสดงว่า มันก็ต้องมีวิธีการอยู่บ้างหละ มันต้องมีเค้า มีลาง อะไรอยู่บ้างหละ ท่านๆทั้งหลายถึงได้พูดถึงกัน

ขอเล่าทิ้งท้ายไว้แค่นี้แหละครับ

.................................

 

ขอบคุณครับคุณชยุตที่แบ่งปันเรื่องต่างๆ มาให้นะครับ

เรื่องสงครามที่ว่าเรื่องที่เกี่ยวพันกับอดีต เช่นสงครามตะวันออกลางก็เกี่ยวพันมาจากสงครามครูเสด ทำให้อดคิดไม่ได้ว่าแล้วในอนาคตก็จะมีสงครามที่ตะวันออกกลางขึ้นอีกหรือเปล่าเนี่ย

 

ตอนที่ 18: ความเจ็บปวดจากอดีตชาติ
นี่คือตัวอย่างที่สมบูรณ์แบบเกี่ยวกับผลกระทบของความเจ็บปวดในอดีตชาติ
ที่ส่งผลกระทบมาถึงและมาเกิดซ้ำอีกในปัจจุบันชาติ แต่ถ้าอดีตเหล่านั้นถูกนำมาเผชิญหน้า
และถูกเปลี่ยนแปลงด้วยความรอบคอบเสีย มันก็จะสามารถลบล้างความกลัวที่ผิดปกติวิสัย
และโรคทางจิตประสาทเหล่านั้นไปได้

เพิ่งไปยืมหนังสือน่าสนใจเล่มหนึ่งมาอ่านค่ะ ชื่อว่า

"ข้ามภพ ย้อนเวลาเยียวยาปัจจุบัน (Through Time Into Healing ของ Brain L. Weiss, M.D.)"

เกี่ยวกับประสบการณ์การสะกดจิตระลึกชาติบำบัดผู้ป่วย

พอมาอ่านเจอข้อความสื่อสารนี้ ก็ช่วยเปิดมุมมองความคิดและเชื่อมโยงความรู้บางอย่างได้อย่างพอดีเลยค่ะ

อนุโมทนาค่ะ

 

นึกไม่ออกว่าเคยอ่านประวัติครูบาอาจารย์พระกรรมฐานรูปหนึ่งซึ่งลูกศิษย์ของท่านเคยเขียนเล่าไว้ ทำนองว่าหลวงปู่(จำชื่อไม่ได้ เพราะอ่านมานานมากแล้ว) ท่านรับนิมนต์ไปฉันที่บ้านโยมซึ่งอยู่ห่างจากวัดท่านหลายสิบกิโลหรือร่วมร้อยกิโล เวลาที่ท่านออกจากวัดพร้อมกับลูกศิษย์ ทุกคนก็วิตกว่าจะไปถึงเลยเวลาที่นัดกับโยม เพราะเวลาใกล้เคียงกันมาก ขับรถเร็วอย่างไรก็ไม่ทันแน่ ขณะที่รถกำลังวิ่ง แปลกที่ ต่างคนก็ต่างลืมสนิทถึงเรื่องที่กังวลไปไม่ทัน เมื่อไปถึงบ้านเจ้าภาพ ปรากฏว่าพอดูนาฬกา เวลาที่ถึงกลับเป็น เวลาที่ก่อนออกเดินทางจากวัดด้วยซ้ำไป

 

“ไม่มีเหตุการณ์ใดที่ถูกสลักไว้บนหิน” หรือ “ถูกลิขิตไว้ก่อนแล้ว” ชอบอันนี้

 

อ่านเรื่องราวในกระทู้นี้ผมคิดถึงที่คนจีนเขาบอกว่า มีเงินมีทองเยอะๆ รวยๆ อะไรประมาณนี้น่ะครับ
แล้วก็เรื่องที่ว่าอย่าไปมองว่าเงินเป็นเรื่องไม่ดีเนี่ยครับ โดนสุดๆ เพราะว่าผมมีความคิดอย่างนี้จริงๆ เงินก็เลยไม่ค่อยมา ก็เลยปรับเปลี่ยนความคิดตามที่เขาว่าจะดีกว่าครับต้อนรับอะไรดีๆอย่างพลังงานดีๆเข้ามาเยอะๆดีกว่าครับ ขอให้มีเงินทองใช้จ่ายกันสบายๆทุกคนถ้วนหน้า

 

เป็นความมหัศจรรย์ในการเปลี่ยนอดีตที่ไม่คิดว่าจะทำได้ความทุกข์โศกเศร้าที่เคยมีเมื่อนึกถึงเรื่องในอดีตมันหายไปนึกไปถึงจุดนั้นไม่ได้มันเหมือนทำให้เห็นอดีตไม่ชัด ค่ะ

 

มีอีกเรื่องหนึ่ง ที่เจอกับตัวเอง คือ นานมาแล้วเพื่อนพาไปกราบหลวงพ่อองค์หนึ่งที่วัดแถวฝั่งธน วันนั้นเป็นวันหวยออก (ไม่ได้ไปขอหวยนะคะ) เพื่อนเขาเคยได้ยินมาว่าท่านตาทิพย์ มีญาณเห็นเหตุการณ์ในอนาคตแม่นยำ หลังจากนั่งคุยกับท่านสักครู่ใหญ่ ท่านก็บอกให้เราหยิบปากกาดินสอ แล้วท่านก็บอกให้เราจดตัวเลข รางวัลที่ 1 รางวัลเลขท้าย 3 ตัว เลขท้าย 2 ตัว (ตอนที่เริ่มคุยกับท่าน ยังไม่ถึงเวลาหวยออก ระหว่างที่คุยก็ไม่มีเสียงเปิดวิทยุถ่ายทอด) เสร็จแล้วก็วางกระดาษที่จดลง คุยต่อ พอจวนได้เวลาหวยรางวัลใหญ่ออก (คือรางวัลที่ 1 เลขท้าย นี่ เขาจะออกมาทีหลังสุด) ท่านก็หมุนวิทยุ สักครู่ใหญ่ๆ ก็เป็นเสียงประกาศเริ่มออกรางวัล เลขท้าย 3 ตัว 2 ตัว ตามด้วยรางวัลที่ 1 เราก็เอากระดาษที่ท่านบอกให้จด มาดูตาม ปรากฏว่า ตรงหมดทุกตัวเลข ทุกรางวัล ไม่ผิดเพี้ยนแม้แต่นิดเดียว จากนั้นเลยเป็นปริศนาเอามาคิดต่อว่า เลขรางวัลทั้งหมดแท้จริงแล้ว มันต้องถูกกำหนดมาก่อน หลวงพ่อถึงทราบ แล้วใครล่ะกำหนด สมัยนั้นไม่มีมือถือใช้ ฝีมือมนุษย์ก็เป็นไปไม่ได้ เพราะ คงไม่หาญกล้าล็อคทุกรางวัล เลฃทุกตัวทุกตำแหน่ง
อีกเรื่องหนึ่งอันนี้อ่านเจอจากบันทึกของผู้ปฏิบัติธรรม ประสบการณ์เมื่อเริ่มเข้าสู่วิถีธรรม เขาประสบกับความเดือดร้อนอย่างหนักเรื่องการเงิน ทำนองว่าจะต้องหาเงินใช้หนี้ให้ได้ภายใน 3-4 วัน เป็นจำนวนสองหมื่นบาท ซึ่งสภาวะของเขาไม่มีทางจะไปขอยืมเงินใครได้เลย เขาตัดสินใจขอความช่วยเหลือจากพระโพธิสัตว์ซึ่งท่านเคยเข้ามาสอนธรรมะเวลาเขานั่งสมาธิ และเขาสัมผัสถึงท่านได้เสมอ เขาเล่าว่า เขานิมิตเห็นท่านจูงเขาเหาะไปที่แห่งหนึ่ง แล้วให้เขามองลงไป เขาก็เห็นกระดานตัวเลขรางวัลลอตเตอรี่(แบบเดียวกับที่เขาติดหน้าตึกกองสลากที่ราชดำเนิน) ท่านสั่งให้เขาจำตัวเลขไว้ เมื่อออกจากนิมิต เขายังไม่ค่อยเชื่อ แต่ก็ตัดสินใจลองเสี่ยงดู เพราะไม่มีทางจะหาเงินใช้หนี้จากที่ไหนอีกแล้ว ปรากฏว่า เขาถูกหวยจริงๆ ได้เงินสองหมื่นบาทเท่าที่เขาต้องการทันที หลังจากนั้น พระโพธิสัตว์ก็บอกให้เขาตัดผม (ปกติไว้ผมยาว รู้สึกจะเป็นดารานางเอกละครจักรๆวงศ์ๆด้วย) นัยว่า เงินที่ได้มา ต้องมีการเสียของรักเพื่อแลกเปลี่ยน

เจอเรื่องนี้อีก ทำให้เรารู้สึกว่า อนาคตเขาเป็นอยู่แล้ว แต่หลังจากที่รู้ว่า แท้จริงกาลเวลาไม่ได้เป็นเส้นตรงอย่างที่เราเข้าใจมานมนาน แท้จริงแล้วอดีต ปัจจุบัน อนาคต มันเป็นไปพร้อมๆกัน ก็น่าจะเอามาอธิบายเรื่องนี้ได้นะ