มาดูสมเด็จกัน

ในห้อง 'วิธีดูพระเครื่อง-เครื่องรางของขลัง' ตั้งกระทู้โดย wasabi san, 25 พฤศจิกายน 2009.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. yo049

    yo049 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    28
    ค่าพลัง:
    +30
    ผมมีองนึงเหมือนกันเดะเลยแล้วจะลงให้ดูกันนะคับ รอคุณxl men วิจารของคุณ ยามิ อยู่นะครับ:cool::cool::cool:
     
  2. xlmen

    xlmen เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    1,428
    ค่าพลัง:
    +3,291

    ไม่โดนครับเพราะผมไม่เล่นพิมพ์ลุงพุฒครับคุณยา อิอิ....
     
  3. yamie

    yamie เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    1,640
    ค่าพลัง:
    +1,520
    น่าน ให้เราเป็นกันชน ซะงั้น เฮ้อ


    ท่านพี่ xlmen คร้าาา เบาๆหน่อยนะคร้าาาา กลัวคร้าาา[​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • za68.gif
      za68.gif
      ขนาดไฟล์:
      12.3 KB
      เปิดดู:
      953
  4. THANIT LINE

    THANIT LINE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    145
    ค่าพลัง:
    +261
    พี่xlmen ครับ ช่วยดูพระให้ผมด้วยนะครับ ขอบคุณครับ
     
  5. xlmen

    xlmen เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    1,428
    ค่าพลัง:
    +3,291
    พระของคุณ Kepper มาคราวนี้น่ากลัวมากครับ....ฝีมือเรียกว่าขั้นเทพเลยครับ....
    ผมเห็นแล้วหนาวเลยครับ....ส่องดูหลายตลบมาก คิดว่าอนาคตต่อไปการเช่าหาพระสมเด็จน่าจะกลายเป็นเรื่องยากยิ่งขึ้นในอนาคตแน่ครับ....

    [​IMG][​IMG]
    อย่างสมเด็จเกศไชโย ฐาน 7 ชั้นองค์นี้นั้นถ้าเกิดผมไปเจอในตลาดล่างเป็นผมก็ควักจ่ายก่อนพิจารณาทีหลังแน่ครับ...
    แต่ต้องไม่เกิน 300 นะครับ....กรณีที่ผมไปเจอเนื้อดูใกล้เคียงนั้นบางครั้งก้ำกึ่งผมก็มีเช่ามาเพื่อศึกษาเนื้อและวิวัฒนาการของพระอยู่เหมือนกันครับ...

    อย่างองค์นี้นั้นเรียนตามตรงครับว่ามองผิวเนื้อเผินๆ ทีแรกผมก็ตกใจเหมือนกันผิวเนื้อทำได้หนึกนุ่มดีเหมือนกันครับ....
    จุดที่จับผิดสังเกตได้ก็คือ ผิวเนื้อบริเวณที่ไม่หนึกนุ่มนั้นดูเหมือนว่าจะเป็นความหนึกชุ่มแบบหนึกน้ำมัน....

    พิมพ์จุดตายในพิมพ์ฐาน 7 ชั้น ไม่ถูกต้อง....พอเห็นองค์นี้แล้วผมแทบไม่อยากบอกเลยครับว่าจุดตายอยู่ที่ใดบ้าง....
    (เรียนตามตรงครับว่าผมชักกลัวฝีมือๆ ผีแล้วครับ หุหุหุ)

    เอาเป็นว่าบอกคร่าวๆ ให้ไปสังเกตกันเอาเองละกันครับ...ร่องรักแร้ด้านขวาขององค์พระผิด....ฐานที่ 3 ด้านขวาโค้งงอผิด....ฐานที่ 4-5 ผิด....

    ตัวประสานเนื้อน้ำอ้อยเคี่ยว....ส่วนที่เหลืองอ่อนนั้นดูน่าสงสัยที่สุด...
    เมื่อปูนเปลือกหอยสีขาว + น้ำอ้อยเคี่ยวปริมาณน้อย จะได้สีขาวอมเหลืองอ่อน...ถ้าผ่านกาลเวลามานานสีเหลืองอ่อนจะต้องหมองคล้ำกว่านี้ครับ....

    ในองค์นี้สีเหลืองอ่อนยังสว่างใสเหมือนใช้กานีเย่มา...ดังนั้นเรื่องคราบน้ำอ้อยจึงยังสอบไม่ผ่านครับ....
    ส่วนสีคราบน้ำอ้อยแก่นั้นก็แลดูฉ่ำสดเกินไป เหมือนเจตนานำน้ำอ้อยเคี่ยวมาทาผิวก่อนอบ...

    มวลสารพวกเกสรดอกไม้มีการหลุดออกจากผิวเนื้อทิ้งร่องรอยความคมให้เห็น

    สรุป องค์นี้จัดเป็นพระดูยากครับ....ถ้าให้คะแนนผมให้ 80/20 ครับ

    [​IMG]
    ส่วนพิมพ์เกศไชโยองค์นี้ก็เช่นกันครับ....จุดตายผิดเหมือนองค์บนเลยครับ....
    ความจริงแล้วพิมพ์เกศพริกไทยก็ดี....หรือพิมพ์เกศผลมะตูมก็ดีความจริงแล้วก็คือแม่พิมพ์เดียวกันครับ...แต่นำมาปาดแก้แม่พิมพ์เดิมเพื่อแก้ปัญหาแม่พิมพ์ตัน...

    ดังนั้นรายละเอียดจุดใหญ่ๆ จะต้องเหมือนกันหมดครับ...

    ส่วนคราบแป้งโรยพิมพ์ที่ทำให้แลดูหมองนั้นถือว่าทำได้ดีครับ....แต่ตั้งใจทำเกินไป มวลสารเยอะดีใช้ได้เลยครับ....จะเสียก็ตรงที่หลุมเกสรดอกไม้คมไปนิดครับ....

    ด้านหลังน้ำอ้อยเคี่ยวสดมากเห็นแล้วแทบจะไม่ต้องพิจารณาจุดอื่นต่อเลยครับ....

    [​IMG][​IMG]
    พิมพ์เส้นด้ายองค์นี้นั้นผิวไม่หนึกธรรมชาติครับ....เป็นผิวฉ่ำน้ำมัน
    เนื้อเป็นปูนเปลือกหอยจริง....แต่ที่น่าแปลกก็คือ พิมพ์เส้นด้ายนี้จัดเป็นพิมพ์ที่มีเฉพาะในพระกรุบางขุนพรหมเท่านั้นครับ....ดังนั้นถ้าเป็นพระกรุคราบกรุก็ต้องมีให้เห็นครับ....

    ดังนั้นถ้าเกิดไปเจอพระกรุบางขุนพรหมที่ผิวสะอาดไร้คราบกรุแบบนี้ผมก็อดสงสัยไม่ได้ครับว่าเกิดอะไรขึ้นกับพระองค์นั้นครับ.....

    ครั้นจะตีเข้าข้างว่าน่าจะเป็นพิมพ์เส้นด้ายวัดระฆังมั้ง....ก็เกิดปัญหาอีกเพราะถ้าเป็นวัดระฆังจริงตัวประสานเนื้อก็ต้องใช้น้ำอ้อยเคี่ยว...แต่ในองค์นี้นั้นตัวประสานเนื้อใช้น้ำมันตั่งอิ๋วประสาน....
    (ตามบันทีกประวัติการสร้างพิมพ์เส้นด้ายไม่มีในวัดระฆังนะครับ)

    สิ่งที่น่าสงสัยอีกข้อก็คือ เมื่อใช้ตั้งอิ๋วทำไมร่องรอยของน้ำมันตั่งอิ๋วผุดในเนื้อจึงไม่มี...เท่าที่ผมเห็นก็จะมีแต่คราบตั่งอิ๋วที่ทาแล้วก็ล้างออก...คราบที่ยังพอเหลืออยู่ก็บริเวณเกศด้านซ้ายขององค์พระครับ....(ลักษณะคราบแบบนี้ดูไม่ดีนักครับ)

    สรุป องค์นี้ฝีมือทำได้ดีครับ....จัดเป็นพระน่ากลัวอีกองค์ครับ
     
  6. kepper

    kepper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    154
    ค่าพลัง:
    +128
    พระของคุณ Kepper มาคราวนี้น่ากลัวมากครับ....ฝีมือเรียกว่าขั้นเทพเลยครับ....
    ผมเห็นแล้วหนาวเลยครับ....ส่องดูหลายตลบมาก คิดว่าอนาคตต่อไปการเช่าหาพระสมเด็จน่าจะกลายเป็นเรื่องยากยิ่งขึ้นในอนาคตแน่ครับ....


    [​IMG][​IMG]
    อย่างสมเด็จเกศไชโย ฐาน 7 ชั้นองค์นี้นั้นถ้าเกิดผมไปเจอในตลาดล่างเป็นผมก็ควักจ่ายก่อนพิจารณาทีหลังแน่ครับ...
    แต่ต้องไม่เกิน 300 นะครับ....กรณีที่ผมไปเจอเนื้อดูใกล้เคียงนั้นบางครั้งก้ำกึ่งผมก็มีเช่ามาเพื่อศึกษาเนื้อและวิวัฒนาการของพระอยู่เหมือนกันครับ...

    อย่างองค์นี้นั้นเรียนตามตรงครับว่ามองผิวเนื้อเผินๆ ทีแรกผมก็ตกใจเหมือนกันผิวเนื้อทำได้หนึกนุ่มดีเหมือนกันครับ....
    จุดที่จับผิดสังเกตได้ก็คือ ผิวเนื้อบริเวณที่ไม่หนึกนุ่มนั้นดูเหมือนว่าจะเป็นความหนึกชุ่มแบบหนึกน้ำมัน....

    พิมพ์จุดตายในพิมพ์ฐาน 7 ชั้น ไม่ถูกต้อง....พอเห็นองค์นี้แล้วผมแทบไม่อยากบอกเลยครับว่าจุดตายอยู่ที่ใดบ้าง....
    (เรียนตามตรงครับว่าผมชักกลัวฝีมือๆ ผีแล้วครับ หุหุหุ)

    เอาเป็นว่าบอกคร่าวๆ ให้ไปสังเกตกันเอาเองละกันครับ...ร่องรักแร้ด้านขวาขององค์พระผิด....ฐานที่ 3 ด้านขวาโค้งงอผิด....ฐานที่ 4-5 ผิด....

    ตัวประสานเนื้อน้ำอ้อยเคี่ยว....ส่วนที่เหลืองอ่อนนั้นดูน่าสงสัยที่สุด...
    เมื่อปูนเปลือกหอยสีขาว + น้ำอ้อยเคี่ยวปริมาณน้อย จะได้สีขาวอมเหลืองอ่อน...ถ้าผ่านกาลเวลามานานสีเหลืองอ่อนจะต้องหมองคล้ำกว่านี้ครับ....

    ในองค์นี้สีเหลืองอ่อนยังสว่างใสเหมือนใช้กานีเย่มา...ดังนั้นเรื่องคราบน้ำอ้อยจึงยังสอบไม่ผ่านครับ....
    ส่วนสีคราบน้ำอ้อยแก่นั้นก็แลดูฉ่ำสดเกินไป เหมือนเจตนานำน้ำอ้อยเคี่ยวมาทาผิวก่อนอบ...

    มวลสารพวกเกสรดอกไม้มีการหลุดออกจากผิวเนื้อทิ้งร่องรอยความคมให้เห็น

    สรุป องค์นี้จัดเป็นพระดูยากครับ....ถ้าให้คะแนนผมให้ 80/20 ครับ

    [​IMG]
    ส่วนพิมพ์เกศไชโยองค์นี้ก็เช่นกันครับ....จุดตายผิดเหมือนองค์บนเลยครับ....
    ความจริงแล้วพิมพ์เกศพริกไทยก็ดี....หรือพิมพ์เกศผลมะตูมก็ดีความจริงแล้วก็คือแม่พิมพ์เดียวกันครับ...แต่นำมาปาดแก้แม่พิมพ์เดิมเพื่อแก้ปัญหาแม่พิมพ์ตัน...

    ดังนั้นรายละเอียดจุดใหญ่ๆ จะต้องเหมือนกันหมดครับ...

    ส่วนคราบแป้งโรยพิมพ์ที่ทำให้แลดูหมองนั้นถือว่าทำได้ดีครับ....แต่ตั้งใจทำเกินไป มวลสารเยอะดีใช้ได้เลยครับ....จะเสียก็ตรงที่หลุมเกสรดอกไม้คมไปนิดครับ....

    ด้านหลังน้ำอ้อยเคี่ยวสดมากเห็นแล้วแทบจะไม่ต้องพิจารณาจุดอื่นต่อเลยครับ....

    [​IMG][​IMG]
    พิมพ์เส้นด้ายองค์นี้นั้นผิวไม่หนึกธรรมชาติครับ....เป็นผิวฉ่ำน้ำมัน
    เนื้อเป็นปูนเปลือกหอยจริง....แต่ที่น่าแปลกก็คือ พิมพ์เส้นด้ายนี้จัดเป็นพิมพ์ที่มีเฉพาะในพระกรุบางขุนพรหมเท่านั้นครับ....ดังนั้นถ้าเป็นพระกรุคราบกรุก็ต้องมีให้เห็นครับ....

    ดังนั้นถ้าเกิดไปเจอพระกรุบางขุนพรหมที่ผิวสะอาดไร้คราบกรุแบบนี้ผมก็อดสงสัยไม่ได้ครับว่าเกิดอะไรขึ้นกับพระองค์นั้นครับ.....

    ครั้นจะตีเข้าข้างว่าน่าจะเป็นพิมพ์เส้นด้ายวัดระฆังมั้ง....ก็เกิดปัญหาอีกเพราะถ้าเป็นวัดระฆังจริงตัวประสานเนื้อก็ต้องใช้น้ำอ้อยเคี่ยว...แต่ในองค์นี้นั้นตัวประสานเนื้อใช้น้ำมันตั่งอิ๋วประสาน....
    (ตามบันทีกประวัติการสร้างพิมพ์เส้นด้ายไม่มีในวัดระฆังนะครับ)

    สิ่งที่น่าสงสัยอีกข้อก็คือ เมื่อใช้ตั้งอิ๋วทำไมร่องรอยของน้ำมันตั่งอิ๋วผุดในเนื้อจึงไม่มี...เท่าที่ผมเห็นก็จะมีแต่คราบตั่งอิ๋วที่ทาแล้วก็ล้างออก...คราบที่ยังพอเหลืออยู่ก็บริเวณเกศด้านซ้ายขององค์พระครับ....(ลักษณะคราบแบบนี้ดูไม่ดีนักครับ)

    สรุป องค์นี้ฝีมือทำได้ดีครับ....จัดเป็นพระน่ากลัวอีกองค์ครับ

    ขอบคุณ คุณ xlmen มากครับ ส่วนพระสมเด็จบางขุนพรหม พิมพ์เส้นด้ายนั้นมีการล้างผิวพระมาครับ
     
  7. xlmen

    xlmen เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    1,428
    ค่าพลัง:
    +3,291
    พักหลังๆ มีพระที่พิมพ์เนื้อระดับเทพเยอะมากเลยครับ.....ผมเองก็ชักกลัวว่าจะตากลับเข้าวันไหนเหมือนกันครับ 555+

    อย่างพระของคุณ bikarn ในวันนี้....
    [​IMG][​IMG]
    2 องค์นี้หมดลุ้นครับ.....

    [​IMG][​IMG][​IMG]
    ส่วนพิมพ์ปรกโพธิ์องค์นี้มีลุ้นกับเขาอยู่เหมือนกันครับ.....
    ถ้านับใบโพธิ์ไม่ผิดก็น่าจะเป็นปรกโพธิ์ข้างละ ๙ ใบครับ....

    ศิลปะการแกะพิมพ์เป็นแนวของหลวงสิทธิ์....
    เนื้อเป็นปูนเปลือกหอยเผาผสมมีความหนึกนุ่มซึ้งตาซ่อนอยู่....มวลสารพวกผงดำมี ผงพุทธคุณมี ผงเกสรดอกไม้มี พบร่องรอยเม็ดเกสรหลุดออกและมีความเหี่ยวของหลุมเกสรยุบตัวลง....

    ตัวประสานเนื้อพระใช้น้ำมันตั่งอิ๋ว พบน้ำมันตั่งอิ๋วผุดขึ้นเหมือนพระเป็นผื่นจำนวนมหาศาลเยอะมากทั่วองค์พระ.....
    บางจุดน้ำมันตั่งอิ๋วผุดขึ้นแต่ปรากฎว่ามีคราบหินปูนเกาะผิวพระทับน้ำมันตั่งอิ๋วอีกที....ทั่วทั้งองค์เนื้อพระมีความเหี่ยวสูงมาก

    ถ้าเกิดองค์นี้ผมดูพลาด....หรือเกิดคุณ bikarn ไปเช่ามาแบบยกโหลหรือเป็นเข่งๆ งานนี้ผมก็ยอมแพ้แล้วหละครับ หุหุหุ

    สรุป องค์นี้น่าจะเป็นสมเด็จปรกโพธิ์ ๙ ใบ พิมพ์สุดท้ายของวัดระฆัง (น่าจะ) นำแม่พิมพ์ไปกดบรรจุกรุบางขุนพรหมครับ.....

    -----------------------------------------------------------
    เอางี้ผมยินดีรับเช่าพระน่าสงสัยนะครับคุณ bikarn 500 ขาดตัวตามสภาพเศรษฐกิจยุคน้ำท่วมครับ....อิอิ
     
  8. psom

    psom เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    1,903
    ค่าพลัง:
    +8,391
    พี่xlmenช่วยพิจารณาหน่อยครับ...ขอบคุณครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCN4592.JPG
      DSCN4592.JPG
      ขนาดไฟล์:
      439.4 KB
      เปิดดู:
      112
    • DSCN4598.JPG
      DSCN4598.JPG
      ขนาดไฟล์:
      410.4 KB
      เปิดดู:
      94
  9. อังคาร99

    อังคาร99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 เมษายน 2010
    โพสต์:
    628
    ค่าพลัง:
    +1,178
    พักหลังๆ มีพระที่พิมพ์เนื้อระดับเทพเยอะมากเลยครับ.....ผมเองก็ชักกลัวว่าจะตากลับเข้าวันไหนเหมือนกันครับ 555+

    อย่างพระของคุณ
    bikarn ในวันนี้....
    [​IMG]

    555 พลาดแฮะ ต้องฝึกต่อไป อิอิอิ
     
  10. xlmen

    xlmen เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    1,428
    ค่าพลัง:
    +3,291
    [​IMG][​IMG]
    องค์นี้ผิวมันแบบต้มเทียนมาครับ...ไม่ผ่านครับ
    พิมพ์ที่คอท่านมีเส้นขึ้นเหมือนนักกล้ามเลยครับ....ผมเห็นแล้วกลุ้มเลยตกลงท่านแอบไปเพาะกายมาตั้งแต่เมื่อไหร่ครับคุณยา....อิอิ

    [​IMG][​IMG]
    พระนางพญาพิมพ์อกนูนเล็กองค์นี้ ผิวเนื้อเปิดกระเทาะหลุดเป็นธรรมชาติมากครับ....
    เท่าที่ดูคร่าวๆ ยังไม่ขัดตานะครับ....น่าจะแท้ครับ

    [​IMG][​IMG]
    หมดลุ้นครับ....ขอผ่านครับ

    [​IMG]
    โอววว.....ผมเห็นแล้วมึนตึ้บเลยครับ.....
    งานนี้ถ้าเป็นพระปิดตาคงต้องรอคุณวาซาบิซังมาช่วยดูให้แล้วหละครับ....หุหุหุ
     
  11. ทรงกลด999

    ทรงกลด999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,284
    ค่าพลัง:
    +1,510
    ลองอ่านนี่ดูครับ
    กว่าจะมาเป็นผงวิเศษในพระสมเด็จวัดระฆัง โดยคุณ vacharaphol ขออนุญาตนำมาลงเป็นวิทยาทานนะครับ<TABLE class=tborder id=post346440 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>สมาชิก

    [​IMG]

    Join Date: Oct 2005
    Posts: 10285
    reppower: 3327 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_346440 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><CENTER><!-- google_ad_section_start -->กว่าจะมาเป็นผงวิเศษในพระสมเด็จวัดระฆัง<!-- google_ad_section_end -->

    </CENTER>
    <HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- google_ad_section_start --><IFRAME marginWidth=0 marginHeight=0 src="http://ads.palungjit.org/show.php?z=16&shape=1&rl=60" frameBorder=0 width=350 scrolling=no height=250></IFRAME>
    <TABLE width="30%" align=right border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle>พระสมเด็จ วัดระฆัง พิมพ์เกศบัวตูม สภาพ ๙๐%</TD></TR></TBODY></TABLE>

    เล่นพระให้เก่งต้อง "แม่นพิมพ์ รู้เนื้อหา" เพราะ "พระแท้" พิมพ์ต้องใช่ เนื้อต้องถูก เป็นนิยามยอดนิยมมาแต่คนรุ่นเก่า แต่ปัญหาด้าน "เนื้อหามวลสาร" เป็นเรื่องประมาณการยากกว่าเรื่อง "พิมพ์ทรง" เพราะคนโบราณเขาสร้างพระแบบ "ทำด้วยมือ" ความพอเหมาะพอดีของสิ่งที่ใส่ลงไป ไม่ได้ชั่ง ตวง วัด ผลลัพธ์ออกมาจึงเกิดเนื้อหามวลสารที่แตกต่างกันไป
    ส่วนเรื่อง "พิมพ์ทรง" จะหนีกันไม่พ้น เพราะการแกะแม่พิมพ์พระหนึ่งองค์ต่อหนึ่งอัน ถ้าเป็นเช่นนั้น คงวุ่นวายโกลาหล จับต้นชนปลายไม่เข้าสาย ไม่เข้าเซ็ท
    นักเล่นพระระดับประเทศ ให้ความสำคัญกับเรื่อง "พิมพ์ทรง" มาเป็นอันดับแรก เพราะถ้าเจอ "พระเก๊เก่า" ก็ยังพอเอาตัวรอด แต่ถ้าเจอคำว่า "ผิดพิมพ์" ถึงจะมีอายุเก่าเท่าคุณทวด เขาก็ไม่ปรารถนา เนื่องจากข้อหา "ผิดพิมพ์" นี้ร้ายแรงถึงขั้นไม่อยากส่องพระให้เสียสายตา
    และถ้าพระ "ผิดพิมพ์" ไม่ต้องลุ้นให้เมื่อยปลายประสาท โอกาสมีเท่ากับศูนย์
    ด้วยเหตุนี้เองผู้เขียนถึงได้เพียรพยายามเน้นการศึกษาด้าน "พิมพ์ทรง" เป็นอย่างยิ่ง เพราะถ้าเรา "แม่นพิมพ์" อ่านสภาพพระที่โย้เอียงหนักเบาจากการกดพระจากพิมพ์ออก จำตำหนิพิมพ์ได้ จำแนกพิมพ์เป็น แค่นี้ก็เป็น "เซียนน้อยๆ" กับเขาได้แล้ว <TABLE width="30%" align=left border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle>พระสมเด็จ วัดระฆัง พิมพ์ใหญ่ สภาพสมบูรณ์</TD></TR></TBODY></TABLE>
    ถามจริงเถอะ...สร้างพระกันทั้งที ถึงจะมี ๘๔,๐๐๐ องค์ จะมีแม่พิมพ์พระได้สักกี่อัน แต่ขอโทษที กว่าจะได้พระ ๘๔,๐๐๐ องค์ ผสมผงทำพระกะเกณฑ์หนักเบา มากน้อย ไม่รู้กี่ร้อยกี่พันขนาน แก่โน่นนิด อ่อนนี่หน่อย ใส่นี่เพิ่ม เติมนั่นอีก ทำกันได้ตามความพอใจ และอารมณ์คนผสม ซึ่งไม่ใช่ เจ้าประคุณสมเด็จฯ(โต) ท่านเป็นผู้กระทำเองทุกครั้งไป
    แม้จะรู้อยู่เต็มอก ว่าส่วนผสมของ พระสมเด็จ มีอะไรบ้าง แต่ปริมาณของส่วนผสมยังคงเป็นเรื่องมหัศจรรย์พันลึก ด้วยเหตุนี้เองทำให้พระมีหลากหลายมวลสาร กระทั่งสีสัน ไปจนถึงความละเอียดและหยาบ
    กล่าวมานี่ยังไม่รวมถึงสภาพการเก็บรักษา หรือว่าผ่านการใช้มาโชกโชนขนาดไหน อันเป็นตัวแปรให้มวลสารพระมีสถานภาพต่างกันออกไป
    ส่วน "แม่พิมพ์" ก็คงไม่หนีจากที่มี ที่ใช้กดพระ ถึงจะมาก แต่ก็ไม่มากเกินจะจดจำ และที่สำคัญ "แม่พิมพ์พระ" มีเอกลักษณ์เฉพาะพิมพ์ ดังนั้นคนที่ "แม่นพิมพ์" จึงปราศจากโรค "เก๊เก่า" มารับประทานได้
    แต่เพื่อความสมบูรณ์ของสาระ ผู้เขียนก็ขอกล่าวถึงที่มาของ มวลสารพระสมเด็จ วัดระฆัง กันให้รู้ เพราะว่า "กว่าจะได้มาเป็นมวลสารทั้งหมดที่กดลงในแม่พิมพ์พระ" ก็ไม่ใช่เรื่องธรรมดา อ่านแล้วท่านจะรู้ว่า สมควรแล้วที่ พระสมเด็จฯ จะมีพุทธานุภาพอันยิ่งใหญ่ สมคำว่า "จักรพรรดิของพระเครื่อง" <TABLE width="30%" align=right border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle>พระสมเด็จ วัดระฆัง พิมพ์ฐานแซม สภาพ ๗๐%</TD></TR></TBODY></TABLE>
    เป็นที่ทราบกันดีอยู่ว่า พระสมเด็จ วัดระฆัง ที่สร้างโดย สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังษี เมื่อปี ๒๔๐๙ นั้น มีส่วนผสมของปูนเปลือกหอย กล้วยน้ำหว้า ดินจากกำแพงเพชร ณ ลานทุ่งเศรษฐี ที่สันนิษฐานว่าต้องมีการนำพระศักดิ์สิทธิ์อย่าง พระซุ้มกอ หนึ่งในชุดเบญจภาคี สกุลกำแพงเพชร แห่งลานทุ่งเศรษฐี มาเป็นส่วนผสมอยู่ด้วย
    สุดยอดของส่วนผสมก็คือ ผงวิเศษทั้ง ๕ ที่ สมเด็จฯ โต ทรงอาศัยความเป็นอัจฉริยภาพของพระองค์ทำขึ้นมา
    และส่วนผสมทั้งหลายเหล่านี้ มีนํ้ามันตังอิ้วเป็นตัวการสำคัญในการผสานมวลสารให้เกาะติด เป็นรูปทรงตามพระประสงค์ของท่านเจ้าประคุณได้เป็นอย่างดี เป็นผลให้ พระสมเด็จ (โต) คงสภาพถาวร ไม่เปื่อยยุ่ยแตกสลายแม้กาลเวลาจะผ่านมากว่าร้อยปี
    หลายท่านรู้ดีว่า "ผงวิเศษ" ที่นำมาใช้ในการผสม เป็นมวลสารหนึ่งในพระสมเด็จ วัดระฆัง นั้น ประกอบไปด้วย ผงปัถมัง อิทธะเจ มหาราช พุทธคุณ และตรีนิสิงเห หลายคนคิดว่า "ผงวิเศษ" เหล่านี้เป็นผงแต่ละชนิด นำมาผสมผสานปนเปกันเวลาทำพระ
    แต่แท้ที่จริงแล้ว เป็นผงชุดเดียวกัน ที่ผ่านกรรมวิธีการสร้างอันซับซ้อนถึง ๕ ขั้นตอน
    เรื่องนี้ พระธรรมถาวร ที่บวชเป็นเณรในยุคนั้น ซึ่งท่านเป็นศิษย์ของ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังษี) และเป็นผู้หนึ่งที่มีช่วงชีวิตทัน เจ้าประคุณ สมเด็จ(โต) อีกทั้งยังมีส่วนร่วมในการสร้างพระพิมพ์ของ พระสมเด็จโต ในครั้งกระนั้นด้วย ให้การยืนยันถึงการทำผงวิเศษทั้ง ๕ ของสมเด็จ(โต)ว่าเป็นผงเดียวกัน แต่ผ่านกรรมวิธี ๕ ขั้นตอนดังนี้ <TABLE width="30%" align=left border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle>พระสมเด็จ วัดระฆัง พิมพ์ใหญ่ สภาพผ่านการใช้ </TD></TR></TBODY></TABLE>
    "สมเด็จฯ โต ท่านจะกระทำผงนี้ในพระอุโบสถ โดยการเตรียมเครื่องสักการะเช่นเดียวกับการไหว้ครู และตั้งเครื่องสักการะต่างๆ ไว้หน้าพระประธาน จุดธูปเทียนบูชาพระแล้วยกถาดที่มีดินสอที่ประกอบจากผงวิเศษมาผสมรวมกับดินโป่ง ๗ โป่ง ดินตีนท่า ๗ ท่า ดินหลักเมือง ๗ หลักเมือง ขี้เถ้าไส้เทียนที่ใช้บูชาพระประธานในพระอุโบสถ นอกจากนี้ก็มี ดอกกาหลง ยอดรักซ้อน ขี้ไคลเสมา ขี้ไคลประตูวัง ขี้ไคลเสาตะลุงช้างเผือก ไม้ราชพฤกษ์-ชัยพฤกษ์ ต้นพลูร่วมใจ พลูสองทาง กระแจะตะนาว นํ้ามันเจ็ดรส และดินสอพอง โดยนำสิ่งต่างๆ ที่กล่าวมานี้ มาป่นละเอียดผสมนํ้านำมาปั้นเป็นแท่งดินสอ นำออกตากผึ่งแดดให้แห้ง ให้จับเขียนได้ ลักษณะคล้ายกับแท่งชอล์ค
    อย่างปัจจุบัน แต่มีขนาดและความแข็งผิดกันเล็กน้อย โดยกระเดียดไปทางดินสอที่ใช้เขียนกระดานชนวนอย่างโบราณ
    เมื่อนำดินสอที่ทำจากผงวิเศษ ซึ่งบรรจุอยู่ในถาดขึ้นจบเหนือพระเศียร แล้วกล่าวคาถาอัญเชิญครู อัญเชิญเทพยดา ทำประสะนํ้ามนต์พรมตัวท่านเอง จากนั้นก็จะทรงเรียกอักขระเข้าตัว และอัญเชิญครูเข้าตัว จึงจะเริ่มทำสมาธิ เขียนสูตร ชักเลขยันต์ เจริญพระคาถา เอาดินสอที่ทำจากผงวิเศษนี้ เขียนลงบนแผ่นกระดาน แล้วเรียกสูตร นะปฐมํพินธุ แล้วว่าพระคาถาของสูตรการลบ เขียนแล้วลบ เขียนแล้วลบ หลายครั้ง จนกว่าจะครบถ้วนตามตำราการทำ ผงปฐมํ นี้ ต้องใช้ดินสอเขียนมาก และใช้เวลาเขียนนาน ๒-๓ เดือน จึงจะแล้วเสร็จ ได้ผงปถมังอันเป็นผงชนิดแรกที่เกิดขึ้นก่อนผงวิเศษอื่นๆ ซึ่งชื่อคำว่า ปฐมํ นี้มีความหมายว่า ผงวิเศษที่สร้างเป็นปฐม ก็น่าจะเป็นหนึ่งในความหมาย <TABLE width="30%" align=right border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle>พระสมเด็จ วัดระฆัง พิมพ์ทรงเจดีย์ สภาพ ๘๐%</TD></TR></TBODY></TABLE>
    เมื่อได้ ผงปถมัง หรือ ปฐมํ แล้ว ซึ่งผงเหล่านี้เกิดจากการเขียนแล้วลบ เขียนแล้วลบ ดังที่กล่าวมาอานุภาพของผงปถมังนี้ มีหลายประการ คือ ทั้งเมตตามหานิยม แต่หนักไปทางคงกระพันชาตรี มหาอุตม์ แคล้วคลาด กำบังล่องหน ป้องกันภูตผีปีศาจ ตลอดจนคุณไสยทั้งปวงได้
    ท่านเจ้าประคุณโต จะนำผงปถมัง มาผสมกับนํ้าพระพุทธมนต์ ปั้นเป็นดินสอขึ้นอีกครั้ง แล้วเขียนอักขระด้วยสูตรมูลกัจจายน์ แล้วลบด้วยสูตรลบผง สมเด็จฯ โต ท่านก็เขียนแล้วลบ ทำดังเช่นการทำผงปถมัง หากแต่เป็นบทบริกรรมพระคาถาคนละประเภท จนได้ผงอิทธิเจ หรือ อิธะเจ ตามคัมภีร์โบราณ ซึ่งใช้เวลาในการทำผงนี้ประมาณ ๓ วัน สำหรับ "ผงอิทธิเจ" นี้ให้พุทธคุณในด้านเมตตามหานิยมอย่างยิ่ง และป้องกันโรคภัยไข้เจ็บ
    เมื่อได้ "ผงอิทธิเจ" แล้ว ท่านเจ้าประคุณฯสมเด็จโต ก็นำผงมาทำเป็นดินสอขึ้นอีก แล้วเรียกสูตรมหาราชขึ้น แล้วลบด้วยสูตรนามทั้งห้า ซึ่งใช้เวลาในการทำผงมหาราชนี้ประมาณ ๒-๓ เดือน เช่นเดียวกับผงปถมัง อานุภาพของผงมหาราชนี้มีคุณวิเศษทางเมตตามหานิยมอย่างสูง ป้องกันและถอนคุณไสยได้ อีกทั้งยังดีทางแคล้วคลาดอีกด้วย
    เมื่อสำเร็จได้ ผงมหาราช ก็นำมาทำดินสอขึ้นอีก เรียกสูตรและลบอักขระเกี่ยวกับพุทธคุณนานาประการ เริ่มต้นตั้งแต่สมเด็จพระพุทธเจ้าทรงประสูตร จวบจนดับขันธ์ปรินิพพาน ผงวิเศษที่ได้นี้มีชื่อว่า ผงพุทธคุณ ซึ่งมีอานุภาพในด้านเมตตามหานิยมสูง นอกจากนี้ยังมีอานุภาพในด้านกำบัง สะเดาะ และล่องหนอีกด้วย
    เมื่อได้ ผงพุทธคุณ อันเกิดจากขั้นตอนต่างๆ ที่กล่าวมาแล้ว ท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ ก็นำผงพุทธคุณมาทำเป็นดินสอขึ้นเช่นที่ทำผ่านมา แล้วลงสูตรเลขไทยโบราณ สูตรอัตตราทวาทศมงคล ๑๒ จนบังเกิดเป็น ผงตรีนิสิงเห ซึ่งเป็นผงสุดท้าย ซึ่งผ่านกรรมวิธีแปลงมาจากผงวิเศษเดิมทั้ง ๔ ประเภท จากนั้นก็ทรงนำผงนี้เขียนอัตตรายันต์ ๑๒ และทรงรับสั่งว่าที่สำคัญที่สุดขาดมิได้คือ ยันต์นารายณ์ถอดรูป ซึ่งถือเป็นยันต์ประจำขององค์ตรีนิสิงเห นอกจากนี้ยังมียันต์พระภควัมบดีและยันต์ตราพระสี ประทับลงเป็นประการสุดท้าย ก่อนที่จะลบรวมเป็น ผงมหามงคลที่วิเศษยิ่งทั้งห้า
    อานุภาพของ "ผงตรีนิสิงเห" นี้ มีความครบถ้วน เพราะเป็นผงที่เกิดจากการหลอมรวมผงวิเศษทั้ง ๔ ในชั้นต้น ทำให้ส่งผลบังเกิดในหลายด้าน ทั้งเมตตามหานิยม, ป้องกันถอดถอนคุณไสย และภูตผีปีศาจทั้งปวง แม้เขี้ยวเล็บงาแม้เขาสัตว์ มิให้ระคาย, โรคภัยไข้เจ็บกลับหาย, อุบัติเหตุ อัคคีภัย และอันตรายทั้งปวง ป้องกัน แคล้วคลาดได้ตามแต่จะปรารถนา
    เมื่อ เจ้าประคุณสมเด็จฯโตได้ผงวิเศษ ทำการผสมกับส่วนผสมต่างๆ ที่ได้กล่าวมา จึงมารวมกับส่วนผสมอื่น แล้วจึงนำส่วนผสมทั้งหมดหยอดลงในแม่พิมพ์ที่แกะไว้ กดพระออกมา จากนั้นก็ทำการตัดองค์พระ แล้วนำออกมาผึ่งให้แห้งจนได้ "พระพิมพ์" ตามพระประสงค์ ท่านทรงเอาพระใส่บาตรปลุกเสกทุกวันมิได้ขาด โดยท่านได้ใช้พระคาถามหาวิเศษบทหนึ่ง อันเป็นพระคาถาโบราณในรูปของปัฐยาวัตฉันท์ แล้ว เจ้าประคุณสมเด็จฯโต ท่านได้ตัดทอนเติมต่อให้พอเหมาะ ทั้งดัดแปลงศัพท์บางคำให้สมควรใช้เป็น พระคาถาปลุกเสกพระสมเด็จของท่าน พระคาถานั้นคือ พระคาถาชินบัญชร อันเป็นพระคาถาที่อัญเชิญพระพุทธเจ้า ๒๘ พระองค์ และพระอรหันต์สำคัญหลายองค์มาปกป้องคุ้มครองผู้บริกรรมพระคาถานี้
    อานุภาพของพระคาถาชินบัญชร นี้ มีคุณานุภาพมากมายหลายประการจนสุดบรรยาย เรียกได้ว่าให้ผลครอบจักรวาล ทั้งยังนำมาบริกรรมทำนํ้ามนต์เพื่อปัดเป่าโรคภัยไข้เจ็บได้สารพัด และที่หลายท่านมีประสบการณ์เล่าขานกันมา พระคาถานี้ดีนักหนาทางเมตตามหานิยม แคล้วคลาด คงทนอีกด้วย
    ดังนั้นแม้ใครไม่มีโอกาสได้ครอบครอง พระสมเด็จ วัดระฆัง พระสมเด็จบางขุนพรหม หรือ พระสมเด็จเกศไชโย ที่องค์ สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี เป็นผู้สร้าง ผู้ปลุกเสกแล้วละก็ การได้เจริญภาวนาพระคาถาชินบัญชร อย่างมีสมาธิ มีสติ และสมํ่าเสมอ ย่อมมีอานุภาพของพุทธคุณอยู่เคียงคู่กับตนมิได้ยิ่งหย่อนไปกว่าการมี พระพิมพ์ของเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ดังที่กล่าวมาแล้ว ไว้ในครอบครอง จึงไม่เป็นการยาก ไม่ว่าท่านจะมีทรัพย์ มีบารมีมากมาย แตกต่างกันอย่างไร ท่านมีสิทธิได้รับผลแห่งอานุภาพพุทธคุณของ ท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯโต เท่าเทียมกัน อย่างไม่มีอะไรมาขวางกั้นได้ นอกจากจิตอันเป็นศรัทธา และ ความดีงาม ของท่านเท่านั้นเป็นตัวกำหนด...สาธุ


    <!-- google_ad_section_end -->
    </TD></TR><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">[​IMG] [​IMG]<SCRIPT type=text/javascript> vbrep_register("346440")</SCRIPT> [​IMG] </TD><TD class=alt1 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right>[​IMG] [​IMG] [​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE>

    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead>sponsor links</TD></TR><TR><TD class=alt1>
    <SCRIPT type=text/javascript><!--google_ad_client = "pub-2576485761337625";/* 728x90, created 24/08/09 */google_ad_slot = "7486718593";google_ad_width = 728;google_ad_height = 90;//--> </SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js" type=text/javascript> </SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/expansion_embed.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/test_domain.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/render_ads.js"></SCRIPT><SCRIPT>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT><INS style="PADDING-RIGHT: 0px; PADDING-LEFT: 0px; VISIBILITY: visible; PADDING-BOTTOM: 0px; MARGIN: 0px; WIDTH: 728px; BORDER-TOP-STYLE: none; PADDING-TOP: 0px; BORDER-RIGHT-STYLE: none; BORDER-LEFT-STYLE: none; POSITION: relative; HEIGHT: 90px; BORDER-BOTTOM-STYLE: none"><INS id=google_ads_frame1_anchor style="PADDING-RIGHT: 0px; DISPLAY: block; PADDING-LEFT: 0px; VISIBILITY: visible; PADDING-BOTTOM: 0px; MARGIN: 0px; WIDTH: 728px; BORDER-TOP-STYLE: none; PADDING-TOP: 0px; BORDER-RIGHT-STYLE: none; BORDER-LEFT-STYLE: none; POSITION: relative; HEIGHT: 90px; BORDER-BOTTOM-STYLE: none"><IFRAME id=google_ads_frame1 style="LEFT: 0px; POSITION: absolute; TOP: 0px" name=google_ads_frame marginWidth=0 marginHeight=0 src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/ads?client=ca-pub-2576485761337625&output=html&h=90&slotname=7486718593&w=728&lmt=1289807145&flash=10.1.82.76&url=http%3A%2F%2Fpalungjit.org%2Ff15%2F%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%25A7%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%2588%25E0%25B8%25B0%25E0%25B8%25A1%25E0%25B8%25B2%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%259B%25E0%25B9%2587%25E0%25B8%2599%25E0%25B8%259C%25E0%25B8%2587%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25B4%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%25A8%25E0%25B8%25A9%25E0%25B9%2583%25E0%25B8%2599%25E0%25B8%259E%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B0%25E0%25B8%25AA%25E0%25B8%25A1%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%2594%25E0%25B9%2587%25E0%25B8%2588%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%2594%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B0%25E0%25B8%2586%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%2587-54038.html&dt=1289807145186&shv=r20101104&jsv=r20101112&correlator=1289807145186&frm=0&adk=3183519164&ga_vid=1500693399.1286957984&ga_sid=1289807145&ga_hid=347663414&ga_fc=1&ga_wpids=UA-7034934-1&u_tz=420&u_his=19&u_java=1&u_h=768&u_w=1024&u_ah=738&u_aw=1024&u_cd=32&u_nplug=0&u_nmime=0&biw=1003&bih=589&eid=30143103&ref=http%3A%2F%2Fwww.google.co.th%2Fsearch%3Fhl%3Dth%26q%3D%2B%25E0%25B8%25A1%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25A5%25E0%25B8%25AA%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25A3%2B%25E0%25B8%259E%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B0%25E0%25B8%25AA%25E0%25B8%25A1%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%2594%25E0%25B9%2587%25E0%25B8%2588%2B%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%2594%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B0%25E0%25B8%2586%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%2587%26btnG%3D%25E0%25B8%2584%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%2599%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25B2%26aq%3Df%26aqi%3D%26aql%3D%26oq%3D%26gs_rfai%3D&fu=0&ifi=1&dtd=109&xpc=taZVPhqNYx&p=http%3A//palungjit.org" frameBorder=0 width=728 scrolling=no height=90 allowTransparency></IFRAME></INS></INS><IFRAME style="VISIBILITY: hidden; POSITION: absolute" src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/s/iframes_api_loader.html" width=1 height=1></IFRAME>​
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=1 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=thead>vacharaphol</TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  12. xlmen

    xlmen เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    1,428
    ค่าพลัง:
    +3,291
    [​IMG][​IMG]
    พิมพ์คะแนนองค์นี้น่าจะเป็นเกจิยุคหลังสร้างนะครับ....
    ไม่ว่าจะองค์เล็กหรือใหญ่ผิวเนื้อความเป็นพระสมเด็จดูไม่ต่างกันครับ...

    [​IMG]
    กรอบทองสวยมากเลยครับคุณโช.....
    ถ้าเราศรัทธาเลื่อมใสท่านถึงขนาดนำท่านใส่กรอบทองห้อยคอแล้วก็อย่าได้สงสัยในองค์พระท่านเลยครับ....เอาเป็นว่าผมขอผ่านนะครับ
     
  13. xlmen

    xlmen เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    1,428
    ค่าพลัง:
    +3,291
    บทความดีมากเลยครับคุณ ทรงกลด.....ในระหว่างที่พักสายตาเตรียมกลับบ้าน...
    ท่านที่รอคำตอบอยู่ก็ขอให้ใจเย็นนิดนึงนะครับ....ในระหว่างนี้ลองอ่านบทความของคุณทรงกลดไปพลางๆ ก่อนครับ....

    ผมอ่านจบแล้วบทความดีมากครับ....อนุโมทนาสาธุด้วยครับ อิอิ
     
  14. THANIT LINE

    THANIT LINE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    145
    ค่าพลัง:
    +261
    ขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่งครับ พี่ Xlmen เสียดายหมดลุ้นเลยไม่ได้ฟังคำวินิจฉัย อิอิเลยไม่รู้ว่าผิดเนื้อ หรือพิมพ์ประการใด ขอบคุณครับ
     
  15. cuckooooo

    cuckooooo Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    69
    ค่าพลัง:
    +25
    ขอบคุณพี่ xlmen ครับ กรอบทองนี่ได้มาพร้อมพระน่ะครับ ถ้าให้เลี่ยมเองคงไม่มีปัญญา ขอบคุณครับ
     
  16. kepper

    kepper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    154
    ค่าพลัง:
    +128
    รบกวนช่วยดูหลวงปู่ทวดไม่รู้ว่าออกวัดไหนกับพระนางพญาไม่รู้ว่าออกวัดไหนให้ด้วยครับ

    ขอบคุณครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • SAM_2383.JPG
      SAM_2383.JPG
      ขนาดไฟล์:
      168.6 KB
      เปิดดู:
      89
    • SAM_2384.JPG
      SAM_2384.JPG
      ขนาดไฟล์:
      187.8 KB
      เปิดดู:
      79
    • SAM_2385.JPG
      SAM_2385.JPG
      ขนาดไฟล์:
      152.7 KB
      เปิดดู:
      62
    • SAM_2386.JPG
      SAM_2386.JPG
      ขนาดไฟล์:
      190.5 KB
      เปิดดู:
      58
    • SAM_2392.JPG
      SAM_2392.JPG
      ขนาดไฟล์:
      143.4 KB
      เปิดดู:
      80
    • SAM_2393.JPG
      SAM_2393.JPG
      ขนาดไฟล์:
      147.3 KB
      เปิดดู:
      80
    • SAM_2394.JPG
      SAM_2394.JPG
      ขนาดไฟล์:
      145.7 KB
      เปิดดู:
      59
    • SAM_2395.JPG
      SAM_2395.JPG
      ขนาดไฟล์:
      161 KB
      เปิดดู:
      63
  17. yamie

    yamie เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    1,640
    ค่าพลัง:
    +1,520
    ปุ่มอนุโมทนาหายไปคะ งงมากมายเลยคะ ขอต้วลานะคะ สวัสดีคะ
     
  18. HAMMERHEAD

    HAMMERHEAD เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 เมษายน 2010
    โพสต์:
    162
    ค่าพลัง:
    +842
    อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
    สรรพสิ่งไม่มีอะไรเที่ยงแท้แน่นอน ไม่จีรังยั่งยืน ล้วนเป็นทุกข์ ตั้งอยู่ทนอยู่ไม่ได้ ต้องมีการเปลี่ยนแปลง แล้วก็เสื่อมสลายแตกดับไปในที่สุด
    องค์นี้ขอรบกวนอาจารย์แนะนำด้วยครับ


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • J-F.jpg
      J-F.jpg
      ขนาดไฟล์:
      447.8 KB
      เปิดดู:
      119
    • J-B.jpg
      J-B.jpg
      ขนาดไฟล์:
      456 KB
      เปิดดู:
      94
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 พฤศจิกายน 2010
  19. bikarn

    bikarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    1,766
    ค่าพลัง:
    +1,524
    ขอบคุณมากครับคุณ xlmen ครับ ของผมมีเข้าตาของคุณ 2 องค์แล้วนะครับ ถึงคุณบอกว่าอย่าเชื่อคุณ แต่ผมขอเชื่อละกัน

    คุณอังคาร 99 ขอบคุณนะครับที่ช่วยลุ้น อีกวันสองวัน จะโพสใหม่อย่าลืมช่วยลุ้นอีกรอบนะครับ เพราะคุณช่วยลุ้นแล้วผมมีโอกาสสูง หุ หุ
     
  20. ทรงกลด999

    ทรงกลด999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,284
    ค่าพลัง:
    +1,510
    ผมคิดProject ได้อันหนึ่ง ไม่ทราบว่าคุณวาซาบิ ซันและคุณเอ็กแอล เม็นเห็นด้วยหรือเปล่านะครับ อยากให้ทั้งสองท่านนำรูปและข้อมูลในนี้ มาปรับปรุง และเขียนเป็นหนังสือ เช่น ภูมิคุ้มกันพระสมเด็จ พระแท้ดูตรงไหน หรือชื่อเท่ๆอื่นๆ เช่น สมเด็จสุริยะฆาต อันนี้คิดเล่นๆนะครับ เพราะหลายเจ้าออกหนังสือมา โปรโม พระใหม่ของตัวเอง ตาสีตาสาก็หลงเป็นเหยื่อเยอะครับ แล้วนำรายได้ส่วนหนึ่งไปทำบุญ อาจจะออกเป็นบทสวดชินบัญชร และคาถาศักสิทธิ์อื่นๆหลายภาษา และวิธีนั่ง นอน สมาธิ เดินจงกรม แจกฟรีตามโรงพยาบาล โรงเรียน สถานที่ราชการนะครับ ถ้าเป็นจริงผมอุดหนุนเล่มแรกนะครับ เซ็นลายเซ็นให้ผมด้วยครับ
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...