ผม...พระ...และ...สาระยุคก่อน

ขอบคุณสำหรับคำตอบครับ

ยินดีด้วยกับหน้าที่ 100 ครับผม

 

100 หน้า แล้วนะครับ เนื้อหาเข้มข้น ติดตามอ่านเสมอครับ

 

ขอมีส่วนร่วมกับ หน้าที่ 100 และเป็นกำลังใจให้กับคุณลุง ตลอดไป
ความรู้ที่คุณลุงได้ถ่ายถอดมาให้ผม และทุกท่านได้อ่านกัน แจ่มจริง ๆ

 

ร่วมฉลอง กระทู้คุณภาพ ด้วยค่ะ คุณ ลุง เป็นกำลังใจให้ค่ะ ขอบคุณค่ะ

 

ร่วมแสดงความยินดีและเป็นกำลังใจที่ครบ100หน้ารวมทั้งต่อๆๆๆไปด้วยครับผม

 

ขอแสดงความยินดีกับกระทู้ที่ให้ความรู้และเรื่องเล่าจากประสบการณ์จริงๆ ครบ 100 หน้า เป็นกำลังใจให้ครับ.....

 

แอบอ่านมาตลอดครับ ยินดีด้วยที่มาถึงหน้าที่ 100 ครับ

 

ยินดีด้วยครับกับหน้าที่ 100 จำนวนปริมาณหน้าที่มาก ได้มาด้วยคุณภาพที่แน่นแป๊ะ ในทุกๆหน้า ไม่ใช่มากด้วยโพสคุยกันจ็อกแ็จ็ก จอแจ นะครับ ทุกๆท่านว่าไหม

 

100 แล้ว.. ติดตามตลอด

ขอบคุณ จากใจค้าบ

 

Happy 100 pages Cerebration!!!!!.....

 

เอิงเงิงเอย ชะ เิอิง เอย
เอิงเิงิงเอย ชะ เอิง เอ้ยยยยยยยยยย

เชือกถักเอ้ย ให้ติดตามต่อ
กำลังมันส์เลยพ่อ ขอให้ต่อให้ไว
พวกผมรอลุ้นรอนั่ง
รอจนกระทั่ง หน้าที่ 100 แล้วไง
ความรู้ดี มีให้บอกต่อ เอ้ย ความรู้ดีมีให้บอกต่อ
วานลุง modpong น่ะหนอ วอนขอ....ให้เขียนต่อไป

ชะเอิงเอย เอิงเอย ยยยยยยยยยยยย

กระผมขอถามหน่อยน่ะขอรับ
เวลาซ่อมพระ มีคาถาต่อไหมครับ
แล้วปรอท แร่ เอ๊ย ของโบราณ
วิธีหากันละเขาหากันยังไง
ปรอทที่เค้าใช้สมัยก่อน
วิธีไปร่อน เค้าหากันที่ไหน
แต่ไม่ใช่ที่จับจากน้ำครำ ไม่ใช่ที่จับจากน้ำครำ
อันนั้น มันทำแนวปาฏิหาริย์ไป
เอาแบบชาวบ้าน ที่เค้าไว้ทำเพื่อผสมยาไง
อีกข้อหนึ่ง ละกระผมจะพึงเอ่ย
เอ้ย อีกข้อหนึ่ง ที่ผมจะพึงเอ่ย
อับดุลเหวย ๆ มันมีที่มาจากอะไร
เอ ... ชา เอ ..ชา ชา ชะ ช๋า ชา ..... หนอย พ่อเอย

 

................................................
...คนโบราณ..รู้จัก..วิธีสกัด..ปรอท..จาก..หินCINNABAR..มานาน..เกือบพันปี..มาแล้ว..หินนี้..มีองค์ประกอบ..ที่เรียกทางเคมีว่า..Mercury Sulfide (HgS)..โดย..เอาถลุงเข้าเตาเผา..ปรอทที่เป็น..ของเหลวจะแยกตัวออกมา..ซึ่งหินพวกนี้..จะพบได้ตามพวก..แหล่งน้ำพุร้อน..ผมไม่แน่ใจ..ว่า..ในไทยมีหรือไม่..แต่มีการค้าขาย..ส่งเข้ามา..นานมากแล้ว..พวกร้านยารุ่นโบราณอย่างเจ้ากรมเป๋อ(ตั้งแต่ ร.๔-ร.๕)..ก็มีสั่งเข้ามา..ฉะนั้น..ก็ไปซื้อเอานั่นแหละ
......................
ซ่อมพระ..ไม่ต้องใช้หรอกครับ..ก่อนซ่อม..ไหว้ขอขมา..เสร็จแล้ว..ไหว้อีกที
...จบ...

 

<!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <wunctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <wontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if !mso]><object classid="clsid:38481807-CA0E-42D2-BF39-B33AF135CC4D" id=ieooui></object> <style> st1\:*{behavior:url(#ieooui) } </style> <![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> ขอขอบคุณ..คุณคนเมืองแป้..คุณกวาวชไม..คุณChopper1972..คุณโอ ท่าซุง..คุณ๑๕ค่ำ..คุณLynn
คุณNorragate..คุณTeera-chang..คุณNamitta..คุณSuppasit s ..คุณJoenok..คุณเส้นทางแห่งธรรม
คุณTatty..คุณฤาษีน้อย..คุณธรรมภณ..คุณSamzuzaa
ที่post มาให้กำลังใจ..ชม..และติดตาม

....................................................สวัสดีทุกท่าน.........................................................

..........ส่วนพิรอดแขน..โดยทั่วไป..ก็เข้าใจ..ว่าคงคล้ายกับ..แหวนพิรอด..แต่ที่เพิ่มแน่ๆ..เพราะ
พิรอดแขน..เป็นเครื่องรางเฉพาะกิจ..คือ..จะคล้ายกับ..มงคลแขน(ที่นักมวยใช้ใส่..ต่อยมวยนั่น
แหละครับ..ที่เห็นเหมือนเชือกเส้นใหญ่ๆ..นั่นความจริงเป็นผ้าดิบที่สอดใส้..ด้วยใบลานลงอัก
ขระ..และอาคม..แล้วเอาผ้าดิบห่อศพ..หรือ..จีวรพระ..หุ้มแล้วเอาฟั่นให้เป็นเชือกเส้นใหญ่..
แล้วรัดปลายด้วยไหมลงอาคม..แล้วจึงปลุกเสกทับปิดท้ายอีกที)..เพื่อเอาไว้ต่อสู้..รบ....จึง
เน้น..ด้านเหนียว..คงกระพัน..เพิ่มเติม..แต่ยังไงก็ไม่ขาด..การป้องคุณไสย..อัปมงคล...เพราะ
การรบสมัยก่อน..ฝ่ายข้าศึก..ก็อาจมีการปล่อย..คุณไสยได้.................การทดสอบ..ท่านส่วน
ใหญ่..ก็จะทราบ..เพราะเป็นเอกลักษณ์..ของพิรอดคือ..โยนเข้ากองไฟ..อันไหนไม่ไหม้..ใช้ได้
...หลายท่าน..คงสงสัย..ทำไมต้อง..ทดสอบ..ปลุกเสกแล้ว..น่าจะเหมือนกัน...นี่แหละครับที่..
ยุคนี้ไม่ค่อยให้ความสำคัญ..แหวนพิรอด..พิรอดแขน..การสร้าง..การลงอักขระ..คาถากำกับ
..ขั้นตอน..การถัก..เป็นวิชาเฉพาะ..ความศักสิทธิ์..สมบูรณ์..ตามรูปแบบที่กำหนด..เกิดจาก
ความถูกต้องในทุกอย่าง..และ..ความผิดพลาดที่จะเกิดนั้น..ผู้สร้างจะยอมไม่ได้..บางทีสิ่งเล็ก
น้อยที่ผิดพลาดจะสร้างความไม่สมบูรณ์ได้..เท่าที่ผมสอบถามคณาจารย์รุ่นโบราณ..สิ่งที่มา
อันดับแรก..คือ..อักขระบอด..คือผู้สร้างถึงแม้ลงคาถากำกับ..อักขระ..แต่ละตัวถูกต้อง..ถ้า
เขียน..หัวบอด(พินทุ..ตัวกลม..เช่นเขียนแล้ว..เส้นไม่บรรจบ..ก็ถือว่าบอด)..หรือ..เส้นขาด
ไม่ต่อกัน..ถือว่า..อักขระไม่สมบูรณ์..อักขระตัวนั้นใช้ไม่ได้..แค่นี้ก็ถือว่า..ไม่สมบูรณ์แล้ว...
..บางที..ผ้าดิบที่เอามาใช้..อาจปนเปื้อนสิ่งอัปมงคลมาก่อน..เป็นต้น...ก็ทำให้ไม่สมบูรณ์...
บูรพาจารย์..จึงกำหนดวิธี..ไว้
.........นี่เป็น..เครื่องราง..ที่เกือบทั้งหมด..รูปแบบเป็น..การถักเชือกขนาน..แท้..เกือบจะเรียก
ว่า..ล้วนๆก็ได้
...........ต่อไปเป็น..เป็นแบบ..ลูกผสม..คือ..ตัวเชือกถัก..ก็มีความสำคัญ..ต้องมีการลงอาคม
..และมีการว่าคาถาระหว่างถักประกอบ..ด้วย..คือ..ทั้ง..ตัววัตถุมงคลอื่น..และ..เชือกถัก..ต้อง
อยู่ด้วยกัน..ประกอบกัน..เพื่อเป็น..วัตถุมงคลที่เป็นชุด..มีชื่อเรียกชัดเจน.....
.....เช่น..
๑. ตะกรุดชุดคาดเอว....ไม่ว่า..จะเป็น..๘ ...๑๖...๒๘...๓๒ ดอก....เชือกถัก..ไม่ได้มี
ความหมายไว้แค่..ร้อยตะกรุดไว้..เพื่อเอามาคาดเอวได้อย่างเดียว..อาจารย์ผมที่บ้านน้ำอ่าง
..อุตรดิตถ์(หลวงพ่อทวี..ที่ผมเคยเล่าประวัติท่านไว้)..ทำตะกรุดชุด ๑๖ ดอกคาดเอวให้ผม
..ท่านเล่าให้ฟัง..ว่า..ที่ต้องใช้เวลาทำนาน..เพราะตั้งแต่เชือกก่อนจะถัก..ต้องทำการปลุกเสก
ก่อน..ช่วง..ร้อยตะกรุด..ก็บทนึง..ขมวดปม..หัว-ท้าย..ตะกรุด..ก็อีกบท..ช่วงถัก..ก็อีกบท..
..เพราะเป็นวิชาเฉพาะ..เชือกก็สำคัญ..ไม่น้อยกว่าตะกรุด..เมื่อรวมกัน..ก็จะเสริมความศักสิทธิ์
ให้สมบูรณ์....ผมมี..เชือกคาดเอว..อยู่เส้นหนึ่ง..ที่ถึงแม้ไม่เด่นดังมาก..แต่ผมก็ภูมิใจ..ที่ได้..
และก็ใช้ใส่ไปทำงาน..แทนเข็มขัดเลย...คือ..เชือกคาดเอวภุชงค์เบญจฤทธิ์...ของ.........
..หลวงพ่อเฮ็น วัดดอนทอง อำเภอดอนพุด จังหวัดสระบุรี..ซึ่ง..มีขั้นตอน..การทำเป็นแบบโบ
ราณขนานแท้..และทุกขั้นตอน..หลวงพ่อทำเองหมด...คือ..เป็นเชือกคาดเอว..ที่..มีการสอด
ตะกรุด ไว้กับเชือกถัก(ลายนาคราช..เป็นเอกลักษณ์..ไม่เหมือนของท่านอื่น) ๔ ดอก..ห่าง
กัน..เป็นระยะ..และที่หัวเชือกใส่..กระดาษสาลงอักขระอาคม..ไว้ภายใน..ท่านจะสวดคาถากำกับ
ตลอดการเริ่มทำ..จนจบ...ลองไปถามคนสระบุรีได้..ว่าเชือกคาดนี้..แน่ขนาดไหน
๒. มงคลหัว และ มงคลแขน...ดังที่เล่าไปแล้ว...ที่ผ้าที่ห่อหุ้มใบลาน..และ..ใบลานที่ลง
ลงอักขระ..การฟั่นให้เป็นเชือก..การถักเชือกมัดติดกัน...ทุกอย่างเป็นองค์ประกอบ
..ต้องมีคาถากำกับ...แต่ละขั้นตอนแตกต่างกัน.........
.................................ต่อตอนหน้า....................................

 

หลวงพ่อเฮ็น มีพระปิดตาอยู่ 2 องค์ ดินขุยปูกับผงใบลาน เสียดายที่ตอนนั้นไม่ได้เอาเชือกคาดเอวและผ้าเช็ดหน้าไว้ พี่Modpong มีผ้าเช็ดหน้าท่านด้วยหรือเปล่า 2ปีก่อนได้แวะไปที่วัดไม่มีอะไรหลงเหลือตกค้างอยู่เลย

 

....................................................
...ผมได้เชือกคาดเอวนี้..เมื่อปี ๒๕๓๗..ท่านยังไม่เสีย..ใช้วิธีคาดคั้น..มาจาก..พี่คนหนึ่งที่อยู่ที่สระบุรี..เพราะได้ยินกิติศัพท์ความเก่งกาจ..ของท่าน..ก็เลยระบุไปอย่างเดียว..เพราะถือ..เป็นของเด็ดที่สุดแล้ว..เจอหน้าเป็นทวง..ว่างั้นเถอะ..พี่เขาก็เกรงใจผม..แกบอกเข้าคิวอยู่..เพราะ..แต่ละเส้นท่านทำเอง..ใช้เวลานาน..คิวยาว..ปีนึงเต็มๆ..แกอาจจะได้ก่อนหน้านั้น..แต่ผมรอปีนึง...ครับได้ข่าว..มาเหมือนกัน..ท่านทำไว้หลายอย่าง..แต่ผมอยากได้อย่างเดียว..ช่วงนั้นทำงานหนักมาก..เป็นงานโครงการพระราชดำริ..ที่สระบุรี..แต่ผมทำหน้าที่ออกแบบ..อยู่แต่ที่ปากเกร็ดเร่งงาน..ส่ง..เลยไม่มีโอกาศไปกราบท่าน..เสียดายจริงๆ

 

ขอบคุณครับคุณลุง
แล้วสมัยก่อนนี้
เชือกคาดเอวที่ใหน
ขึ้นชื่อบ้างหรอครับ
ของหลวงพ่อทองสุข วัดโตนดหลวง
มีทำใว้รึปล่าวครับ ????
เป็นกำลังใจให้ครับ

 

.................................................
...เชือกคาดเอว..อันดับ๑..ตลอดกาล..ก็ของ..หลวงพ่อโชติ วัดตะโน..ฝั่งธนบุรี..หลวงพ่อโศก วัดปากคลอง เพชรบุรี..ก็มีชื่อเสียงมาก...หลวงพ่อศุข..ไม่แน่ใจนะ..ไม่คิดว่ามี...แต่ของหายาก..หลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว..นี่..เขาว่า..ศักดิ์สิทธิ์มาก..ทางปักษ์ใต้ก็ทำกัน..หลายสำนัก..หลวงพ่อเขียว วัดหรงบน..นครฯ..ท่านก็ทำ
อ้อลืมไป..ของดังหลวงปู่ยิ้ม..เป็นเชือกคาดเอว..ตะขาบไฟ..ใส้หนุมาน...

 

สุดยอดเลยครับ...

 

ขอบคุณที่ร่วมแบ่งปันครับ
ขอถามเพิ่มอีกนิดนะครับ
ตะขาบไฟ ใส้หนุ่มานคืออะไรหรอครับ
เป็นชื่อลายถักรึปล่าวครับ
ขอบคุณครับ

 

...ขอขอบคุณ..คุณคนเมืองแป้..เอารูปมาลงให้ดู..
ผมเอง..ไม่ได้ถ่ายไว้..เพราะตอนเขียน..ไปนึกถึงพอดี...
เชือกคาดภุชงค์เบญจฤทธิ์ หลวงพ่อเฮ็น วัดดอนทอง