พระพิฆเนศวร์ คือ ความจริงหรือจินตนาการครับ

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย SUPERWATT, 6 ตุลาคม 2010.

  1. SUPERWATT

    SUPERWATT Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    50
    ค่าพลัง:
    +96
    พระพิฆเนศวร์ คือ ความจริงหรือจินตนาการที่คนสมัยก่อนสร้างขึ้นมาเพื่อยึดเหนี่ยวจิตใจ เมื่อเราศรัทธามาก ๆ อธิฐาน เกิดความเชื่อ และความสบายใจ และจากนั้นกฏแห่งแรงดึงดูดก็ทำงาน

    หรือนอกเหนือจากนั้น อยากรบกวนถามผู้ที่บูชาพระพิฆเนศวร์ว่ามีความรู้สึก หรือรับรู้พลังบางอย่างจากพระองค์บ้างหรือไม่ครับ และชีวิตตัวเองเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นบ้างหรือเปล่า อย่างไร

    ผมทำงานด้านศิลปะ เห็นคนด้านนี้บูชากันเยอะเลยอยากทราบครับ
    โดยส่วนตัวความเชื่อเกี่ยวกับพระพิฆเนศวร์ผมยังครึ่ง ๆ กลางๆ ครับ
     
  2. สีฆะสีฆัง

    สีฆะสีฆัง บุญเป็นเรื่องด่วนต้องรีบทำ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2010
    โพสต์:
    82
    ค่าพลัง:
    +428
    พระพิฆเณศวร์เป็นเทพเจ้าในศาสนาพราหมณ์เป็นผู้ทรงความรู้ทั้งมวลในโลก ท่านอาจจะเป็นเทวดาองค์ใดองค์หนึ่ง(ในศาสนาพุทธ)ก็ได้ครับ แม้เราพิสูจน์ไม่ได้ว่ามีจริงหรือไม่แต่ถ้าเราเคารพกราบไหว้ท่านก็ไม่ได้เสียหายอะไรหรอกครับ มีแต่จะเป็นผลดีกับตัวเราเองเพราะเป็นการบูชาคุณความดีของท่านผู้เป็นเจ้าแห่งความรู้ทั้งปวงครับ
     
  3. Fabreguz

    Fabreguz เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    645
    ค่าพลัง:
    +1,911
    ทุกสิ่งในโลก ในจักรวาลนี้ล้วนมีสิ่งที่คุณเคยเห็นและไม่เคยเห็น มีตัวตนและไม่มีตัวตน

    อย่าใช้คำว่าเชื่อครับ แต่ต้องใช้คำว่าศรัทธา ศรัทธาแล้วเราจะได้รับพลัง

    อย่าเช่นใน เรื่อง มิลินทปัญหา กษัตริย์ ถาม พระนาคเสนว่า พระพุทธเจ้ามีจริงไหม

    ท่านก็ให้ กษัตริย์ลองย้อนดูว่า คนเรามีพ่อแม่ มีปู่ย่า มีทวด ....... ศาสนาพุทธ

    มีพระสงฆ์ มีคำสอน มีพุทธศาสนิกชน ลองย้อนไป มีโบราณสถาน มีประวัติศาสตร์

    ย้อนไปเรื่อยๆเราก็จะเจอเรื่อยๆ .........แต่ว่า........ถ้าเราย้อนไปเรื่อยๆหาไปเรื่อยๆ

    เราก็จะไม่พบอะไรเลย ดังเช่นนักวิทยาศาสตร์ ตอนที่ค้นพบอะตอม เขาคิดว่าอะตอม

    คือ หน่วยที่เล็กที่สุดในจักรวาล แต่สิบปี ยี่สิบปีต่อมา นักวิทยาศาสตร์ รุ่นต่อๆมาก็

    ค้นพบอีกว่า ภายในอะตอม ยังมีหน่วยที่เล็กกว่าอีกลงไปเรื่อยๆ........

    สำหรับพระพิฆเนศ พระแม่กวนอิม...........ศรัทธา ครับ เหมือนดังเช่นเรา เคยเห็น

    พระพุทธเจ้าไหม ท่านตรัสว่า ผู้ใดเห็นธรรมผู้นั้นเห็น ตถาคต.........ศรัทธาครับ

    แต่ไม่ใช่เชื่ออย่างงมงายนะ ศรัทธาคือ มองเห็นความดีของบุคคลนั้น แล้วนำมาใส่ตัว

    อย่างเช่นเรานับถือ บิดามารดา เราก็ยกย่องในคุณความดีที่ท่านให้กำเนิดเลี้ยงดู อบรม

    สั่งสอนเรา .......พระพรหม ท่านมี เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา เราก็นำความดีของ

    ท่านมาอบรมใจตน......เช่นกัน เราก็มองเห็นความดีของพระพิฆเนศ......ศรัทธา

    และน้อมนำความดีนั้นเข้าสู่ตน ไม่ใช่ยึดถือตัวตน ว่าชอบรูป ชอบตัว แต่ศรัทธาในความดี
     
  4. radha

    radha เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    110
    ค่าพลัง:
    +414
    ดีใจที่คนรุ่นใหม่ มีศรัทธาไปพร้อมกับเหตุผล มิใช่เป็นไปในทางที่หลงเชื่ออย่างงมงาย

    การศรัทธาใน องค์เทพ เทวดา ก็จัดเป็นการเจริญกรรมฐานกองหนึ่ง ก็คือ เทวตานุสติ (เพิ่มเติมที่ เทวตานุสติ, ปาฏิหาริย์แห่งการเจริญเทวตานุสติ)

    เราเองก็ศรัทธาและบูชา พระพิฆเนศ แต่ก็ยังไม่เคยที่จะสัมผัสบารมีของท่านค่ะ เพียงแต่เมื่อบูชา หรือระลึกถึงแล้วก็สบายใจ เกิดความศรัทธาขึ้นมา
    แต่เหนือสิ่งอื่นใด สูงสุดแห่งศรัทธาคือ พระบรมศาสดา ของเรา ค่ะ

    หาก จขกท. ต้องการที่จะหาข้อมูลเพิ่มเติม เกี่ยวกับพระพิฆเนศ เราแนะนำ สยามคเณศ ดอทคอม ค่ะ
     
  5. ๛อาภากร๛

    ๛อาภากร๛ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    898
    ค่าพลัง:
    +3,580
    องค์นี้พระพิฆเณศของของไทยจริงๆหล่ะครับ รัชกาลที่5สมัยยังดํารงพระยศกรมหมื่น
    ร.6 พระองค์ก็ทรงให้ความเคารพพระพิฆเณศอยู่มากมั้งครับ เพราะเห็นมีรูปเหมือนขนาดใหญ่อยู่ใจกลางพระราชวังสนามจันทร์ จ.นครปฐม คนไปไหว้กันมาก

    ในส่วนของพระพิฆเณศของฮินดูคงไม่กล่าวถึงเพราะคนจะรู้ประวัติมากกว่าพระพิฆเศรของไทยเสียอีก

    เมื่อเดือนที่แล้ววันเกิดพระพิฆเณศผมก็ไปไหว้มาครับ หวยออกตรงกับเลขวันเกิด 2 ปีเป๊ะๆ

    สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ากรมหมื่นพิฆเนศวรสุรสังกาศ (เจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์) รัชกาลที่ 5
    [​IMG]
     
  6. emaN resU

    emaN resU เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    2,944
    ค่าพลัง:
    +3,294
    "พิฆเนศวร์" เราคิดเห็นว่า ก็คล้ายๆกับกำเนิดเทพฮินดูชื่ออื่นๆ
    คือ รจนาขึ้นเป็นชื่อ มีรูป เพื่อแทนความเป็นนามธรรมและหรือสิ่งที่เข้าใจเข้าใจได้ยาก ซับซ้อนต่อสติปัญญาของผู้รับจนไม่สามารถเข้าใจได้ง่าย

    ดังที่เราเข้าใจว่า...
    พรหม... สร้าง คือ เกิดขึ้น
    นารายณ์... รักษา คือ ตั้งอยู่
    ศิวะ... ทำลาย คือ ดับไป

    สำหรับผู้ที่ยังไม่พร้อมเข้าใจในการกล่าวถึงเรื่องละเอียดอ่อนซับซ้อน จึงจำเป็นต้องใช้กลวิธีสื่อสารที่หยาบขึ้น เริ่มสมมุติเป็นชื่อ มีรูป เพื่อกล่าวถึงองค์รวมของนามธรรมหรือสิ่งที่ซับซ้อนต่อความเข้าใจนั้นๆ เพื่อง่ายต่อการจดจำและนำไปขบคิดต่อไป

    "พิฆเนศวร์" ... คือ ระบบการทำงานที่สมดุลย์ของสมองฝั่งขวา สร้างสรรค์ การหยั่งรู้ ปราชญ์เปรื่อง คุณธรรม จินตนาการ วิทยาการประโยชน์ ความจรรโลงใจ ความจรรโลงโลก ฯ

    อาการต่างๆแห่งศิลปิน ก็มาจากการทำงานของสมองฝั่งขวา


    แต่ยิ่งเวลานานๆไป ความเข้าใจค่อยๆน้อยลงๆ การปรุงแต่งต่างๆนาๆก็เกิดขึ้นทับถมซับซ้อนขึ้นเรื่อยๆ จนเป็นตัวตนแต่งองค์ทรงเครื่องเรื่องเยอะแยะมากมาย เงื่อนไขต่างๆอีกสารพัด กลายเป็นคนละเรื่อง

    จากกำหนดเพื่อแทนนามธรรมในการกล่าวเพื่อความเข้าใจเพื่อสติปัญญาต่อตนเองและสรรพสิ่ง เลยกลายไปเป็นติดอยู่แค่รูป ไม่เข้าใจเจตนารมณ์ของผู้ที่เริ่มกำหนดสมมุตินามรูปแต่เดิมมา

    ส่วนเรื่องดวงจิตที่ยังยึดรูป ยึดนาม ยึดรายละเอียดความเป็น ความมี อาการต่างๆของ "พิฆเนศวร์" ตั้งแต่ตอนที่ยังครองร่างมนุษย์
    เมื่อถึงคราวที่ละร่างมนุษย์ไป บ้างก็เลยยังติดอยู่ หลงคิดว่าตนเองเป็นเช่นนั้น เช่นนี้ เพราะช่วงที่มีชีวิตอยู่ บูชารูปมาก เซ่นอามิส ประกอบยัญพิธีต่างๆ... มากจนกระทั่ง มากกว่าการพิจารณาอยู่กับความเป็นจริงของตนเอง
    เมื่อร่างกายถึงแก่การปลดระวาง จิตละร่างกายไปแล้วแต่ก็ยังยึดติดอยู่กับชื่อ รูป และยัญต่างๆนั้น จึงได้สำแดงตัวให้ปรากฏต่อคนทั่วไป ต้องการให้สัมผัสรับรู้ว่ามีตัวตน มีชื่อ มีรูป และมีความต้องการเห็นยัญพิธีบูชาอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่าง อย่างที่ตนเคยปฏิบัติ แต่ไม่สามารถทำได้เหมือนตอนเป็นมนุษย์ จึงมีรูปแบบการเรียกร้องให้เกิดขึ้น ด้วยวิธีการต่างๆตามแต่อำนาจตนจะเนรมิตได้

    ผู้มีปัญญามีความเข้าใจ ก็ไม่ข้องแวะกับดวงจิตที่ยังติดหลงเหล่านั้น
    แต่ผู้ที่ยังไม่เข้าใจก็มักติดหลงไป แล้วมันก็เป็นวัฏจักรต่อเนื่องกันไปเป็นรูปแบบ "กรรมพันธุ์แห่งกรรม" สืบเนื่องกันไปเรื่อยๆ จนกว่าความหลงจะสิ้นไป

    เรียนรู้เพื่อเข้าใจ... ได้ปัญญา
    เรียนรู้เพื่อยึดถือ... ได้"โมหะ"
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 6 กุมภาพันธ์ 2013
  7. อวตาร.

    อวตาร. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    411
    ค่าพลัง:
    +633
    พบพระพิฆเนศ
    <TABLE border=1 width="100%"><TBODY><TR><TD width="13%" align=left>ผู้ถาม</TD><TD width="87%">หลวงพ่อเจ้าขา ลูกนั่งสมาธิพบท่านพิฆเนศมีหัวเป็นช้าง ตัวเป็นคน ในสมาธินั้นท่านเอามือของลูกไปแบแล้วรมอะไรไม่รู้...สีแดงแจ๊ด! บอกว่า..."เอ็งจะต้องมีฤทธิ์มีเดชต่อไปข้างหน้า" ลูกปลื้มใจอย่างบอกไม่ถูก ลูกสงสัยว่าในคัมภีร์พระพุทธศาสนา เทวดามีหัวเป็นช้าง ลูกไม่เคยเจอเลย ไม่รู้ว่าลูกจะทำสมาธิเพี้ยนไปหรือเปล่า...หลวงพ่อช่วยชี้แจงความเพี้ยนของลูกด้วยเถิดเจ้าค่ะ</TD></TR><TR><TD width="13%" align=left>หลวงพ่อ </TD><TD width="87%">มาดีแล้ว ๆ ความจริงไม่เพี้ยน อย่างนี้เขาเรียกว่า..."โรคอุปาทาน" คือว่าตามธรรมดาที่เราเห็นน่ะ หัวเป็นช้างใช่ไหม...นั่นเป็น "ลัทธิของพราหมณ์" ในเมื่อเคยเห็นแบบนั้น ท่านมาท่านก็แสดงแบบนั้นก่อน อย่างเทวดาหรือพรหมนางฟ้าทุกคนน่ะ ความจริงท่านอาจจะตายสมัยแก่นะ คือเทวดา นางฟ้า พรหม...ไม่แก่ สาวหมด! ทีนี้เวลามาหาเราเขาแสดงภาพเดิมที่เราเห็น เขาตายเป็นคนแก่ก็ให้เห็นภาพคนแก่ ท่านพิฆเนศก็เหมือนกัน ท่านมารูปอื่นก็คงจำไม่ได้ ต้องมารูปหัวช้าง (หลังจากหลวงพ่อนำอุทิศส่วนกุศลแล้ว ก็มีเรื่องพระพิฆเนศมาเล่าให้ฟังอีก)

    </TD></TR><TR><TD width="13%" align=left>หลวงพ่อ </TD><TD width="87%">ตอนอุทิศส่วนกุศล ถามว่าท่านพิฆเนศเป็นพรหมหรือเป็นเทวดาชั้นไหน เพราะเห็นมีทั้งพรหมและเทวดาเยอะแยะ ใสมาก ท่านบอกไม่ใช่พรหม ถามว่าเป็นเทวดาชั้นปรนิมฯ ใช่ไหม...ท่านบอกไม่ใช่ เป็นเทวดาชั้นดาวดึงส์ สวยมาก ท่านบอกว่าคนที่ถามเมื่อกี้นี้ เคยเป็นลูกท่านมา ท่านก็หวังจะสงเคราะห็ ต้องถอยหลังไปหลายชาติหน่อยนะ คือไม่น้อยกว่าพันชาติ (หลวงพ่อยังมีเรื่องพระนารายณ์มาเล่าให้ฟังอีก)

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    จากหนังสือ หลวงพ่อตอบปัญญาธรรม ฉบับพิเศษ เล่ม 7
     
  8. อวตาร.

    อวตาร. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    411
    ค่าพลัง:
    +633
    พระนารายณ์
    <TABLE border=1 width="100%"><TBODY><TR><TD width="13%" align=left>หลวงพ่อ</TD><TD width="87%">เทวดากับสัตว์ เทวดากับมนุษย์มันต่อกันไม่ได้ เพราะมนุษย์ก็ดี สัตว์ก็ดี มันมีธาตุ ๔ คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ และเทวดาเขาไม่มีธาตุนี่ มีเหมือนอากาศธาตุ มันต่อกันได้ที่ไหนล่ะ ที่ว่าหัวเป็นช้าง เพราะว่าพราหมณ์แกหาเรื่องคุย อย่างพระนารายณ์นี่ก็เหมือนกัน พระนารายณ์นี่ฉันหาไม่พบ</TD></TR><TR><TD width="13%" align=left>ผู้ถาม </TD><TD width="87%">แล้วมีไม่จริงหรือครับ?</TD></TR><TR><TD width="13%" align=left>หลวงพ่อ</TD><TD width="87%">มี...สักประมาณ ๑๐ ปีมาแล้ว คืนหนึ่งมันว่าง คือไม่ได้ว่างมาก เขาเจริญกรรมฐานแบบนี้ละนะ พอเลิกแล้วประมาณ ๔ ทุ่มกว่า ๆ เวลาไปพักมันยังไม่หลับ ๖ ทุ่มหรือตี ๒ เป็นธรรมดา ถ้าถีง ๖ ทุ่มต้องอยู่ถึงตี ๒ ถ้าขืนหลับ ๖ ทุ่ม อาจจะเลยเวลา เพราะเจริญกรรมฐานตอนตี ๒ เมื่อถึงเวลาว่างก็เที่ยวไปเที่ยวมา เที่ยวมาเที่ยวไป ตามเรื่องตามราว ใช่ไหม...ก็ไปนึกถึงพระนารายณ์ได้ นึกนารายณ์อยู่ชั้นไหน แล้วเทวดาองค์ไหนเป็นนารายณ์ เข้าไปหาในกามาวจรทั้งหมด ไม่พบพระนารายณ์ ถามแต่ละชื่อไม่มีนารายณ์เลย ไอ้ความโง่ของฉันน่ะ ก็ย่องไปพรหมอีก ถามพระนารายณ์ที่พรหมไม่มี กลับมาหาโยม ถามโยม...พระนารายณ์ที่พราหมณ์ตั้งชื่อให้มีตัวจริงไหม ท่านบอกตั้งแต่ฉันเป็นเทวดาไม่เคยมีเลย โยมท่านเป็นเทวดา ๒ รอบ พระอินทร์ ๒ รอบนะ เมื่อสมัยพระพุทธเจ้าทรงพระชนม์อยู่หมดอายุไปทีแล้ว ฟังเทศน์แล้วจุติเป็นพระอินทร์ใหม่ ที่พระพุทธเจ้าบอกว่าพระอินทร์หนุ่ม ท่านอยู่ถึง ๒ รอบยังไม่รู้จักนารายณ์ ไล่ไปไล่มา ถาม...ถ้าเขาบนพระนารายณ์ เทวดาองค์ไหนรับ ท่านบอกมีก็มเหสักขาไงล่ะ มเหสักขา แปลว่ามีฤทธิ์มาก ท่านพิฆเนศชื่อ ปิยสิกขะ เพิ่งบอกเดี๋ยวนี้ละนะ มีสิทธิ์ในความรัก แม้แต่เขาให้หัวเป็นช้างยังชอบเลย
    </TD></TR><TR><TD width="13%" align=left>ผู้ถาม </TD><TD width="87%">ยังงี้เราก็บนได้ซิ</TD></TR><TR><TD width="13%" align=left>หลวงพ่อ</TD><TD width="87%">ถ้าจะบนท่านนะ ตอนให้พรท่านบอกให้หมูต้มชิ้นหนึ่ง ไม่ต้องโต กับข้าวปากหม้อเท่านั้นนะ</TD></TR></TBODY></TABLE>
    จากหนังสือ หลวงพ่อตอบปัญญาธรรม ฉบับพิเศษ เล่ม 7
     
  9. ๛อาภากร๛

    ๛อาภากร๛ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    898
    ค่าพลัง:
    +3,580
    ก่อนหลวงพ่อท่านจะเล่าเรื่องพวกนี้ทุกครั้ง และแม้กระทั่งเรื่อง อดีตชาติ หรือแม้แต่เรื่อง กรมหลวงชุมพร และจตุโลกบาล

    หลวงพ่อท่านจะย้ำในแต่ละม้วนเทปคราสเซทหลายๆรอบว่า ไม่ใช่รอบ 2 รอบ
    ต้องทําความเข้าใจสําหรับผู้ฟัง ว่านี่คือนิทาน แต่ถ้าจะไปตรงกับเรื่องจริง ก็อีกเรื่องหนึ่ง
    ผู้จัดทําหนังสือชอบตัดส่วนที่หลวงพ่อท่านบอกว่า ยําออกไป ซึ่งหลวงพ่อท่านย้ำอยู่นะครับ

    ผมเคยอัพไฟล์หลวงพ่อบรรยานเรื่องเทวดาและเล่าเรื่องไว้ก่อนหน้านั้นแล้ว

    คือไม่ใช่ว่าหลวงพ่อท่าแต่งเรื่อง หรือโกหกนะครับ เพียงแค่อยากจะให้ ปล.เรื่องแนวนี้ไว้สักหน่อย แต่คุณวตารก็เข้าใจตามหลวงพ่อแบบนั้นก็ถูกแล้วหล่ะครับ

    ผมก็เชื่อหลวงพ่อ แต่เวลาคุยกันจะเกริ่นนําว่าหลวงพ่อท่านว่านิทานจะตรงกับเรื่องจริงหรือไม่ก็อีกเรื่อง ขอบคุณครับ
     
  10. อวตาร.

    อวตาร. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    411
    ค่าพลัง:
    +633
    ก่อนหลวงพ่อท่านจะเล่าเรื่องพวกนี้ทุกครั้ง และแม้กระทั่งเรื่อง อดีตชาติ หรือแม้แต่เรื่อง กรมหลวงชุมพร และจตุโลกบาล

    ใช่ครับ เรื่องอดีตชาติ ที่หลวงพ่อท่านย้ำว่า เรื่องจริงอิงนิทาน (ไม่ใช่ว่า "นิทาน")
    แต่ลูกหลานหลวงพ่อส่วนมากเชื่อว่าเป็นเรื่องจริงครับ และมีหลายๆคนที่ใช้มโนมยิทธิ ไปเห็นมาเองก็มาก

    ที่สำคัญ ตอนหลวงพ่อตอบปัญหาธรรม ท่านไม่ย้ำครับว่าเป็น นิทาน ท่านตอบตรงๆเลยครับ ทั้งจากปัญญา และพระฯท่านมาบอก เทพเทวดามาบอก

    และถ้าผมตอบเองว่าเห็นแบบนั้นแบบนี้ น้ำหนักมันน้อยครับ ผมชอบอ้างอิงที่มีน้ำหนักครับ
     
  11. cheterk

    cheterk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    512
    ค่าพลัง:
    +1,568
    กาลามสูตร แปลว่า พระสูตรที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงแก่ชาวกาลามะ หมู่บ้านเกสปุตติยนิคม แคว้นโกศล (เรียกว่า เกสปุตสูตร ก็มี<SUP id=cite_ref-0 class=reference>[1]</SUP>) กาลามสูตรเป็นหลักแห่งความเชื่อที่พระพุทธองค์ทรงวางไว้ให้แก่พุทธศาสนิกชน ไม่ให้เชื่อสิ่งใด ๆ อย่างงมงายโดยไม่ใช้ปัญญาพิจารณาให้เห็นจริงถึงคุณโทษหรือดีไม่ดีก่อนเชื่อ มีอยู่ 10 ประการคือ
    1. อย่าเพิ่งเชื่อตามที่ฟังๆ กันมา
    2. อย่าเพิ่งเชื่อตามที่ทำต่อๆ กันมา
    3. อย่าเพิ่งเชื่อตามคำเล่าลือ
    4. อย่าเพิ่งเชื่อโดยอ้างตำรา
    5. อย่าเพิ่งเชื่อโดยนึกเดา
    6. อย่าเพิ่งเชื่อโดยคาดคะเนเอา
    7. อย่าเพิ่งเชื่อโดยนึกคิดตามแนวเหตุผล
    8. อย่าเพิ่งเชื่อเพราะถูกกับทฤษฎีของตน
    9. อย่าเพิ่งเชื่อเพราะมีรูปลักษณ์ที่ควรเชื่อได้
    10. อย่าเพิ่งเชื่อเพราะผู้พูดเป็นครูบาอาจารย์ของตน
     
  12. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,696
    ค่าพลัง:
    +51,932
    ผู้ที่เขาสำเร็จไปแล้วในอดีต

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  13. Film jaa

    Film jaa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    72
    ค่าพลัง:
    +236
    สวัสดีค่า สำหรับฟิมล์คิดว่าท่านมีอยู่จรืฃิงค่ะ แต่ก่อนไม่ได้นับถือแบบจริงจัง แต่หลังจากเจอเหตุการมากมายกับตัวเอง เชื่อมากค่า และก็บูชาท่านตามกำลัง อยู่ที่ศรัทธานะคะ เพราะถ้าไม่ท่านก็ไม่ได้มาทำปฎิกิริยาใดๆ แต่เมื่อใดที่คุณเชื่อและศรัทธาด้วยใจจริงคุณจะเจออะไรแปลกๆกับตัวเองค่า อนุโมทนาค่า
     
  14. อวตาร.

    อวตาร. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    411
    ค่าพลัง:
    +633
    หลักความเชื่อในพระพุทธศาสนา

    ปัญหา ได้ทราบว่า พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาแห่งปัญญา สอนให้ใช้ปัญญาพิจารณาก่อนจึงเชื่อ แต่อยากทราบว่ามีหลักอะไรบ้างในพระพุทธศาสนาที่พุทธศาสนิกชนจะต้องเชื่อ ? และถ้าไม่เชื่อจะมีผลอย่างไร ?

    พุทธดำรัสตอบ “ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในพระธรรมวินัยนี้ สงสัยเคลือบแคลง ไม่ปลงใจเชื่อ ไม่เลื่อมใสในพระศาสดา.... ในพระธรรม.... ในพระสงฆ์ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย จิตของภิกษุที่สงสัย เคลือบแคลง ไม่ปลงใจเชื่อ ไม่เลื่อมใสในพระศาสดา .... ในพระธรรม..... ในพระสงฆ์นั้น ย่อมไม่น้อมไปเพื่อความเพียรเครื่องเผากิเลส เพื่อประกอบเนือง ๆ เพื่อความทำติดต่อเพื่อความเพียรที่ตั้งมั่น ข้อที่จิตของภิกษุไม่น้อมไปเพื่อความเพียรเครื่องเผากิเลส เพื่อความประกอบเนือง ๆ เพื่อความทำติดต่อ เพื่อความเพียรที่ตั้งมั่นอย่างนี้ ชื่อว่าตะปูตรึงใจ....ฯ ”

    เจโตขีลสูตร มู. ม. (๒๒๘)
    ตบ. ๑๒ : ๒๐๕-๒๐๖ ตท.๑๒ : ๑๖๔
    ตอ. MLS. I : ๑๓๒
     
  15. ตันติปาละ

    ตันติปาละ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    4,421
    ค่าพลัง:
    +4,649
    พลังแห่งสมมุติ หากแม้สิ่งนั้นไม่มีตัวตน แต่ได้รับการบูชาโดยสมมุติ ก็ย่อมเกิดเป็นพลังที่ไม่มีรูปได้ โคยเฉพาะ พระพิฆเนศวร์ที่เป็นเทพที่มีคนบูชามากที่สุดในโลกแทบจะทุกชาติทุกศาสนาก็ว่าได้ และที่สำคัญการบูชาพระพิฆเนศรว์ มีมานับหลายพันปีแล้ว หากเปรียบคนที่บูชานั้นเป็นน้ำหนึ่งหยด คนที่บูชาพระพิฆเนศทั้งหมดจะเท่ากับมหาสมุทรเลยทีเดียว แล้วคิดว่าจะมีอนุภาพมากแค่ไหน ก็คิดเอาเอง
     
  16. emaN resU

    emaN resU เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    2,944
    ค่าพลัง:
    +3,294
    How to compare?... The oceans of illusion with a bit of truth.


    จักต้องใช้มหาสมุทรแห่งอุปทานมายาจำนวนมากเท่าไรกัน จึงจักเปรียบเทียบกันได้กับหนึ่งหยดน้ำแห่งความเป็นจริง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 7 ตุลาคม 2010
  17. คตินิยม

    คตินิยม สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +7
    ทำไมชอบกันจัง ชอบตั้งปริศนาประมาณนี้
    "พระพิฆเนศวร์ คือ ความจริงหรือจินตนาการครับ"

    ยิ่งไอ้พวกคตินิยมแบบพุทธ มันคอยจ้องที่จะเทียบเคียงว่าคติของตนดีกว่า
    แล้วก็แถอ้างพระอ้างเจ้ากล่าวกันวุ่นวายไปหมด
    จริงเท็จแค่ไหนก็ไม่รู้

    เขาก็อุตสาห์บอกแล้วว่า เชื่อกับศรัทธา เชื่อให้คิดด้วยปัญญา ศรัทธาให้เคารพ
    เทพปกรณัม มันก็แค่เรื่องเล่าที่แฝงไปด้วยคติ ความเชื่อ ความศรัทธา ประเพณี วัฒนธรรม และสภาพแวดล้อมอันควร

    แล้วมันต่างกันตรงไหน หากจะบอกว่า พุทธปกรณัม มันก็คือเรื่องเล่าเช่นกัน
    เที่ยวหาเรื่องว่าคติอื่นเป็นเรื่องเล่า ส่วนของตนนั้นเรื่องจริง ประเสริฐนักแล

    ดูหนังเรื่อง Little of Buddha เขาอุตสาหร์เล่าความให้ฟังว่า พระองค์ประสูตร มีตำหนิที่ฝ่าพระบาทเป็นรูปธรรมจักร

    ส่วนของพี่ไทย เขียนเสียเหลือเชื่อ เกิดปับเดินได้ปุ๊บ ย่างเจ็ดก้าว แต่ละก้าวมีดอกบัวมารองรับอีก เห็นแล้วไร้สาระจริงๆ ตูฟังแล้วจะเชื่อใครดีวะนี้

    ติเตียนศาสนาอื่น เก่งนัก ศาสนาตนเอง ตั้งเสียเลิศลอย แต่จิตใจยังระยำ และล้าหลังก็อยู่เลย วันหลังจะตั้งกระทู้ประมาณนี้ บ้าง

    "พระพุทธเจ้า คือ ความจริงหรือจินตนาการครับพี่น้อง"
     
  18. emaN resU

    emaN resU เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    2,944
    ค่าพลัง:
    +3,294
    แต่จิตใจยังระยำ และล้าหลังก็อยู่เลย


    มารับส่วนของเรา...

    ไปแระ... แว๊บๆ
     
  19. Army56

    Army56 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,098
    ค่าพลัง:
    +1,862
    หลวงพ่ออะไรหรือครับ แต่คิดว่าเป็นเหตุเป็นผลนะ
     
  20. ๛อาภากร๛

    ๛อาภากร๛ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    898
    ค่าพลัง:
    +3,580
    เดิน 7 ก้าวหมายถึงจะทรงเผยแผ่ศาสนา และมีสาวก ตลอด 7 คาบสมุทร
    จะมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก ทั้ง 7 คาบสมุทร
    ถึงพร้อมด้วย โพชฌงค์ 7
    7 - เจ็ด
    ดอกบัว - ธรรมะ เผยแผ่
    เดิน - ถึงพร้อม ด้วยตัวเอง
    ส่วนจะเดิน 7 ก้าวจริงหรือไม่ก็อีกส่วนหนึ่ง

    ธรณีสูบ - ดินดูด
    ธรณี - พื้น หรือ ประชาชน
    สูบ - จม ทําให้จม(กระทืบ เหยียบ)

    ถ้าพิจรณาแบบนี้ก็ไม่เห็นว่าจะเกินเลยตรงไหนเลยนี่ครับ
    ส่วนคัมภีร์ทางศาสนาอาจจะเกินเลยไปบ้างแทบจะทุกศาสนา แต่ก็ต้องยอมรับว่า พระไตรปิฏก มีความลึกซึ้งและมีส่วนให้คิดในปาฏิหาริย์ได้ด้วยปัญญา ว่าจริงหรือไม่จริง คนไทยนี่หล่ะแปลพระสูตรได้กินใจที่สุดแล้ว
     

แชร์หน้านี้

Loading...