อาหารแปลกๆจากทั่วโลก

# 1.Cone Pizza!


น่าทานนะอันนี้มีขายที่กรุง Seoul, South Koreaอ้ะค่ะ




# 2.Escamoles มันคือไข่ของเจ้ามดดำยักษ์ Liometopum

อัน นี้ได้มาจากMexicoอ้ะค่ะ...วิธีทำก็ง่ายๆ เอาไข่ของมด Liometopum ซึ่งเป็นมดสีแดงขนาดยักษ์ที่พบมันได้ในรากของ ต้น maguey เพียง แต่การรวบรวมไข่มันช่างเป็นงานที่ไม่สนุกเสียเลย เพราะว่ามดมีพิษอย่างมาก มีรายงานว่ามันเคยกัดคนตายหลายรายด้วยแหละ และเมื่อได้ไข่มาแล้วก็นำมาผสมกับเนยแข็งและกินสดๆ เลย พร้อมกับผลไม้กับแกล้มเล็กน้อย ความอร่อยนั้นอยู่ที่ความเหนียวแน่นของไข่มด รสชาติจะคล้ายๆ cottage cheese ออกมันๆนิดๆ ส่วนใหญ่เค้าจะห่อทานแบบtacoโปะด้วยguacamoleนิดนึงอ้ะค่ะ








#3.Maggot Cheese หรือ (Casu Marzu)จากSardinia,


.ประเทศ Italy


อันนี้หาทานยาก เพราะมันผิดกฏหมายอ้ะค่ะ ต้องคุยกันรู้เรื่องสนิทกันจริงๆถึงจะได้ทาน
พูด ถึงเนยแข็ง มันก็เป็นอาหารที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานหลายพันปีมาแล้ว และประเทศที่ขึ้นชื่อเนยแข็งก็ฮอลแลนด์กับอิตาลี่อ้ะค่ะ โดยเฉพาะเนยแข็งสุดยอดของอิตาลีก็ต้องนี้เลย Casu Marzu เป็นเนยแข็งที่ทำจากนมของแกะ โดยมันถูกเรียกชื่อหนึ่งว่า "เนยแข็งบิน." เป็นเนยที่หมักด้วยวิธีการพิเศษและใส่ตัวอ่อนที่ไร้ขาของแมลงชนิดหนึ่งอย่าง จงใจ เพื่อให้ระดับ การหมักให้จนถึงจุดที่ไขมันของเนยแข็งแตกตัว
โดยแมลงในเนยแข็งนี้เป็นแมลงชื่อ larvae รูปร่างเหมือนหนอนผสมหมัด แถมมันชอบกระโดดอีก!! โดยกระโดดสูงประมาณ 6 ฟุต เวลาจะกินเนยแข็งชนิดต้องกินสดๆ และต้องใส่เครื่องป้องกันตาไม่งั้นตาคุณบวมแน่ๆ เพราะแมลงนั้นอาจตกใจและกระโดดใส่ตาคุณอ้ะค่ะ ส่วนรสชาติมันเหรอโหยแสบซ่านสุดๆ จนลิ้นคุณเกือบไหม้ แถมเป็นอันตรายอีก เพราะเจ้าตัว larvaeg ผ่านกระเพาะอาหารแล้วถ้ามันไม่ย่อย มันสามารถอาศัยอยู่ในห้องของผู้กินได้!! แถมบางครั้งมันยังอยู่รอดยาวพอเพื่อแพร่พันธุ์ในลำไส้อีก จนเป็นสาเหตุให้การอาเจียน และโรคท้องร่วงเปื้อนเลือด ซึ่งแน่นอนอาหารชนิดนี้ทางการอิตาลีแบนเรียบร้อย เพราะมันเป็นอันตรายต่อผู้บริโภค แต่กระนั้นหลายๆ คนยังทำมันอยู่เพราะว่ามันเป็นที่นิยมสำหรับคนที่ชอบของแปลกและความท้าทาย ที่อยากกินเนยแข็งแสนอร่อยนี้







#4.LutefiskจากประเทศNorway.


Lutefisk ปลาCODดองสูตรง่ายๆแบบScandinavian ซิ สปลาเละๆ คล้ายปลาร้าบ้านเราอ้ะค่ะ เพียงแต่เขามีเคล็ดลับที่เหลือเชื่อก็คือ........มันใช้สารเคมีพิเศษ มาใช้ในกระบวนการผลิตเพราะเร่งให้มันเละเปื่อยเร็วยิ่งขึ้น สารเคมีที่ว่านั้นคือที่ธาตุโคบอลต์(สารประกอบกลุ่มธาตุOH ธาตุโลหะสีขาวเหมือนเงิน) ชาวประชาชนนอร์เวย์รู้จักสารนี้ดีเลยแหละเพราะใช้ประโยชน์หลายอย่างไม่ว่าจะ ใช้เป็นกัดกร่อนเพื่อละลาย หรือนำซ่อมมีดหรือเครื่องเงิน ฯลฯ ทำความสะอาดระบายน้ำการฆ่าพืช, ทำแบตเตอรี่ และถ้าโดนสารนี้จะๆ ละก็จะเกิดอาการไหม้, แผลเป็นถาวร ตาบอด แต่เพื่อความอร่อยละก็เราไม่สนหรอก จะทำซะอย่างมีอะไรเปล่า ผลเหรอ......ก็ได้ปลาCODที่เละๆ ชวนน่ารับประทานอย่างเห็นในภาพอ้ะค่ะ เหอๆ





#5.Baby Mice Wine





มี ถิ่นกำเนิดจากจีน เป็นเหล้าองุ่นที่แสนธรรมดานิยมดื่มทั้งในเกาหลีและจีน โดยมีเครื่องผสมสุดพิเศษคือลูกหนู ลูกหนูสดๆ ตามความเชื่อของเกาหลีถือว่ามันเป็น"ยาบำรุงสุขภาพ" วิธีทำก็ง่ายๆ ก็เอาลูกหนูที่ตาปิด ตัวสีแดงชมพู น่ารัก ที่ถูกพรากไปจากอ้อมกอดของแม่หนูทั้งหลาย และนำมาใส่เข้าไปในเหล้าองุ่นขาว 1 ขวด (ในขณะมันยังชีวิตอยู่) จำนวนที่ใส่ก็แล้วแต่ยี่ห้อหรือแล้วแต่เจ้า และนำมาหมัก จากนั้นก็นำมาดื่มหรือนำมาปรุงก็ตามใจคุณเถิด แหวะๆ




#6.Rocky Mountain Oysters

ชาวอเมริกัน และชาวCanadaบางกลุ่มนิยมทานอ้ะค่ะ อาหารแบบชนพื้นเมืองที่ เดนเวอร์ รัฐโคโลราโด้ ที่นี่ยังมีกลิ่นอายของพวกคาวบอยอยู่ และอาหารที่จะนำเสนอคุณวันนี้ มันเกี่ยวกับวัวในทุ่งหญ้านี้แหล่ะ อาหารที่คนสมัยก่อนทำนิยมทานกันมากจนกลายเป็นเมนูพิเศษของร้านอาหารหลายแห่ง ในโคโลราโด้ ถ้าจะเรียกให้น่าทาน ไข่มุกเทือกเขาร็อกกี้ อาหารเรียกน้ำย่อยที่ได้จากลูกอัณฑะ ของวัวหนุ่มฉกรรจ์ที่อร่อยสำหรับผู้ชาย ที่เชื่อว่าช่วยเพิ่มพลังทางเพศ



#7 Hakarl

ฉลามเน่า (ROTTEN SHARK)
โอ้ โหแพง แถมยังไม่น่ากินอีก นี่คือโพลสำรวจของคนไอซ์แลนด์ที่มีต่ออาหารชนิดหนึ่ง ฉลามเน่า เพราะจะเอาเข้าปากครั้งใด ต้องเหม็นจนไม่อยากกินทุกครั้ง ด้วยกลไกธรรมชาติของฉลาม เพื่อให้มันลอยตัวได้ในน้ำ ฉลามจะต้องรักษาสารยูรีน (URINE) หรือปัสสาวะไว้ที่เนื้อตรงส่วนที่มนุษย์กินนั่นแหล่ะ ถึงแม้จะผ่านกระบวนการล้างพิษ หรือลดกลิ่นเหม็น ฮะคาว (HAKARL) หรือฉลามเน่าก็เหม็นสมชื่ออยู่ดี

#8 Fugu

ปลา ปักเป้า หรือ ที่คนญี่ปุ่นเรียกว่า Fugu เป็นอาหารเบิปพิสดารชนิดหนึ่งในญี่ปุ่น แม้จะทราบดีกันอยู่แล้วว่าปลาพวกนี้มีพิษร้ายแรงแต่ก็มีวิธีการหลากหลายที่ จะนำมาทำเป็นอาหาร โดยเฉพาะ ซาซิมิ ที่เรียกว่า Fugu Sashi นับเป็นอาหารยอดนิยมทีเดียว นอกจากนี้ยังมีการนำไปประกอบอาหารประเภทหม้อไฟ (Fugu-chiri) ทอดกรอบ (Fugu Kara-age) หนังปลาสามารถนำไปเป็นส่วนประกอบของสลัด (Yubiki) แม้กระทั่งส่วนที่มีพิษสะสมอยู่มากที่สุดส่วนหนึ่งคือลูกอัณฑะก็ยังสามารถนำ ไปรับประทานโดยมีความเชื่อว่าเป็นยาโป้ว - -"เอากันเข้าไปมนุษย์เรา~
จาก Mthai
​

 

ช่างสรรหาอะไรมากินกันเหลือเกินคนเรา

 

อืม เล่นเอางูเห่าในท้องตื่นเลยอ่า

 

ขอบคุณ กับบทความดี ๆ ครับ

อึม .. โดยส่วนตัวผม คิดว่า พอทานได้นะ ก็พยายามทำตัว ให้เป็นคนเลี้ยงง่าย ของที่ผมไม่ทาน และ ไม่คิดจะทาน ก็มีเพียงไม่กี่อย่าง เช่น

ถ้าเป็นสัตว์มีปีก ก็มี พวก จรวด เรื่องบิน

ถ้าเป็นสัตว์บก ก็มีพวก ตู้ไปรษณีย์ ตู้โทรศัพท์ เสาสะพาน รวมทั้งไม้หน้าสาม ด้วย

ถ้าเป็นสัตว์เลื้อยคลาน ก็มี พวกรถถัง รถไฟ

สัตว์น้ำ ก็มีพวก เรือดำน้ำ หรือเรือรบ

 

ไม่กี่วันมานี้ ติงคุยกับเพื่อนเรื่องอาหาร
และบอกเขาว่า ตุ๊กแกย่าง กลิ่นหอมน่าทาน สีสันชวนน้ำลายหก
อร่อยยิ่งกว่าไก่ย่างที่ใดในโลก
ทำไมไม่มีใครเชื่อติงสักคน
^^​

 

ทานประจำเหรอครับ คุณครู ...?

 

ติงเคยทานจริงๆ
^^
แหะๆ
แต่เดี๋ยวนี้ไม่เอา
ติงว่าเขาน่ารัก ทานไม่ลง เอาไว้เป็นเพื่อน
ให้เขาร้องเพลงเพราะๆให้ฟังดีกว่า

​

 

ถ้าคุณพี่มาเลิงนกทา
ติงจะหาให้ทาน
มานะคะ
^^​

 

คุณครู เคยเห็น ตุ๊กแก ร้องตอนกลางวันไหม ครับ ?​

 

ถ้าคุณเป็ดเซ็ง...มีสี...คุณก็จะกินได้นะๆๆๆๆๆๆๆไม่เชื่อลองมีสีสิ(คนละเรื่องเดียวกัน)

 

เจ้าเป็ด...คงเคยเห็น..มันร้องทั้งกลางวันและกลางคืนใช่ป่าว...คริคริ
ระวังจะถูกตุ๊กแกมันร้องอยากกินตับเป็ดละ

 

​

ติงไม่เคยเห็นตุ๊กแกร้องตอนกลางวันค่ะ
แต่มั่นใจว่า เคยได้ยิน​

ที่ภูสูง มีตุ๊กแกแสนรู้อยู่ที่ศาลา
เวลาที่พระท่านทำวัตรเช้า หรือทำวัตรเย็นเสร็จ
เขาจะกล่าวอนุโมทนา โดยการเปล่งวาจาสาธุการ
ตุ๊กแก...
ตุ๊กแก...
ตุ๊กแก...
ตุ๊กแก...
ตุ๊กแก...​

 

ครับผม จะลองเชื่อดู ครับผม ... รู้ว่าเกลียด ก็เลยไม่อยาก ต่อกรด้วย ...

ดีครับ เรียกว่าเชื่อมั่นตัวเองสูง ครับผม แต่ตุ๊กแก ที่บ้านผมมันร้อง

ตุ๊กแก...
ตุ๊กแก...
ตุ๊กแก...
ตุ๊กแก...
ตุ๊กแก...​

ขอบคุณกับความรู้ใหม่ ครับผม
ตุ๊แก มหาชัยร้อง ..​

ทั้งกลางวันและกลางคืน..
ทั้งกลางวันและกลางคืน..
ทั้งกลางวันและกลางคืน..​

ต๊กแก เลิงนาทาร้อง ..​

ตอนกลางวัน..
ตอนกลางวัน..
ตอนกลางวัน..
ตอนกลางวัน..

ไปแระ ... เกรงใจเจ้าของกระทู้​

[MUSIC]http://palungjit.org/attachments/a.1104510/[/MUSIC]​

 

ต๊กแก เลิงนาทาร้อง ..​

ตอนกลางวัน..
ตอนกลางวัน..
ตอนกลางวัน..
ตอนกลางวัน..​

ไปแระ ... เกรงใจเจ้าของกระทู้​

[/quote]

​

นี่ขนาดท่านพี่ออกตัวว่าเกรงใจนะคะ^^
ติงได้ยินมาว่า...ตุ๊กแกพระนคร ร้องเสียงดัง
ตุ๊กแก่...
ตุ๊กแก่...
ตุ๊กแก่...
ตุ๊กแก่...
ตุ๊กแก่...
ตุ๊กแก่...
ตุ๊กแก่...
ตุ๊กแก่...
ตุ๊กแก่...
แก่...
แก่...
แก่...

ไปแล้วนะคะคุณพี่.....^^.....​

 

อันนี้เห็นแล้วหิว เชิญทัศนา ก๊าปปปปปปปป







อันนี้คือ แมงป่องชุบชอคโกแลค


นี่กินแล้ว รับประกัน มะเร็งแน่นอน




โถๆๆๆๆๆๆๆ จอร์จ ม่ะมีอารัยจากินแล้น ชิมิ

 

เนยแข็งที่มีตัวอะไรโดดออกมาได้ น่ากลัวจัง ส่วนลูกหนูก็เห็นแล้วขนลุกส์ส์ (เคยไปต่างจังหวัดแล้วคนเค้าทิ้งบ้านไปนาน พอเดินเข้าไปในครัว เจอศพลูกหนูลอยอยู่ในขวดน้ำมันพืช แบบนี้เลย)

โชคดีที่ตอนไปนอร์เวย์ไม่ได้กินปลาดองกับเค้าสักสูตร ทั้งๆ ที่ในห้อง breakfast มีโหลปลาดองวางเป็นสิบๆ แบบ เผอิญไม่ชอบกินปลา ไม่งั้นคงกินสารโคบอลต์เข้าไปแล้ว

เอามาให้ดูน่ากลัวทั้งนั้นเลย

เท่าที่รู้ นอกจากไข่มดแล้ว ที่ Mexico มีกินไข่ยุงด้วยค่ะ (แถวอีสานบ้านเราก็กินไข่มดแดงนะคะ) อ้อ! แล้วก็กินหนอนที่อยู่ในรากต้นอากาเว่ด้วย

บางแคว้นในเยอรมัน (อันนี้เพื่อนที่เคยเรียนที่โน่นตั้งแต่ high school จนจบปริญญาเอก เล่าให้ฟัง ไม่เคยเจอด้วยตัวเองนะคะ) เพื่อนบอกว่ามีการเอาพยาธิในวัวมาทำอาหาร ..ถ้าจริงก็น่าแหวะมากๆๆ

เย็นนี้จะกินข้าวลงมั้ยเนี่ย เฮ้อ!

 

ตัวนี้ทำเป็นอาหารอะไรกินได้บ้างค่ะเนี่ย

 

คนเรา ยิ่งหลงก็ก็ยิ่งเรื่องมากก็ยิ่งสรรรหามากจนกลับไปอยู่แบบเดิมไม่ได้อะไรก็ต้องปรุงแต่งไปหมด บรรบุรุษ ตามป่าตามเขาก็อยู่ได้หิวก็ล่าสัตว์มากิน หนาวก็แค่มีกองไฟ มีอะไรก็กินได้หมดไม่จำเป็นต้องบำรุงไม่ต้องพิถีพิถัน อายุยืนกว่าคนสมัยนี้อีก คนสมัยนี้ต้องนอนเตียงนอนพื้นไม่ได้นอนไม่หลับ เวลากินก็เรื่องมากสรรรหาสารพัดอย่างมากิน เขาไปอยู่ป่าแบบบรรพบุรุาก็อยู่ไม่ได้ไม่สบายตัว

มิน่าพระพุทธเจ้าท่านจึงสอนให้อยู่แบบเรียบง่าย ทำใจให้สงบ ถ้าคนเขลาอย่างพวกเรายอมฟังและทำตามโลกคงไม่วุ่นวายขนาดนี้อาหารก้ไม่ปรุงแต่งขนาดนี้

 

เห็นเเล้ว เอ่อ...

ขอกินมาม่าธรรมด๊าธรรมดาที่บ้านดีกว่าคร้าบบ

 

...หม่ำๆด้วยคนจิ^^...​