ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    ยะอญูจญ์และมะอญูจญ์ จะพังกำแพงทะลุออกมาได้ !!!

    [​IMG]

    [​IMG]

    อัลลอฮ (ซ.บ)ตรัสไว้เกี่ยวกับ ยะอญูจญ์-มะอญูจญ์ ว่า

    (حَتّى إذَا فُتِحَتْ يَأجُوجُ وَمَأْجُوجُ وَهُمْ مِنْ كُلّ حَدْبٍ يَنْسِلُون) [الأنبياء: 96].

    This means: “Until, when Ya'juj and Ma'juj (Gog and Magog) are let loose (from their barrier), and they swiftly swarm from every mound.”
    (21, Al-Anbiya’: 96)

    96. จนกระทั่งเมื่อยะอ์ญูจญ์ และมะอ์ญูจญ์ถูกปล่อยออกมาจากกำแพง และพวกเขาจะหลั่งไหลกันลงมาจากทุกทิศทาง(*1*)

    (1) เพราะความมากมายของพวกนี้ ได้หลั่งไหลกันมาเพื่อบ่อนทำลายในแผ่นดิน

    พวกยะอญูจญ์-มะอญูจญ์ออกมาภายหลังจากท่านนบีอีซาอะลัยฮิสสลาม ลงมายังแผ่นดิน และภายหลังจากที่ท่านได้สังหารดัจญาล อัลลอฮจะทรงให้ยะอญูจญ์(เป็นชื่อของประชาชาติกลุ่มหนึ่ง ซึ่งอาศัยอยู่ทางตะวันออกไกลของโลก) จะหลั่งไหลออกมาและกระจายกันออกไปทัวทุกสารทิศ ในสภาพที่เร่งรีบเพื่อก่อความพินาศในแผ่นดิน กลุ่มหน้าของพวกมะอญูจญ์-ยะอญูจญ์ จะเดินผ่านทะเลสาปฏาบารียะฮ (TIBERIADEE) เป็นทะเลสาปที่ติดอยู่กับภูเขาฏูร)กลุ่มนี้จะดื่มน้ำในทะเลสาปจนเหือดแห้ง และเมื่อกลุ่มหลังมาถึงทะเลสาปนี้พวกเขาจะกล่าวว่า"ครั้งหนึ่งเคยมีน้ำอยู่ในทะเลสาปนี้"

    - หะดิษเนาวาซ บิน ซัมอาน บันทึกโดยอิหม่ามมุสลิมและอิหม่ามอบูดาวูด - วารสารสายสัมพันธ์ อันดับที่ 322-323 /2539

    قَالُوا يَا ذَا الْقَرْنَيْنِ إِنَّ يَأْجُوجَ وَمَأْجُوجَ مُفْسِدُونَ فِي اْلأَرْضِ فَهَلْ نَجْعَلُ لَكَ خَرْجاً عَلَى أَنْ تَجْعَلَ بَيْنَنَا وَبَيْنَهُمْ سَدّاً) [الكهف: 94]

    94. พวกเขากล่าวว่า “โอ้ซุลก็อรนัย แท้จริง ยะอญูจญ์และมะอญูจญ์ (ซึ่งอยู่ด้านหนึ่งของภูเขา)นั้นเป็นผู้บ่อนทำลายในแผ่นดินนี้ ดังนั้นเราขอให้เราถวายบรรณาการแก่ท่านเถิด เพื่อท่านจะได้สร้างกำแพงกั้นระหว่างพวกเรากับพวกเขา”(*1*)

    (1) ซุลก็อรนัยมีความเห็นว่า วิธีที่ง่ายและดีที่สุดในการสร้างกำแพงนั้นคือ ปิดทางผ่านระหว่างภูเขาทั้งสองลูก

    وأصل يأجوج ومأجوج من البشر من ذرية آدم وحواء عليهما السلام . وهما من ذرية يافث أبي الترك ، ويافث من ولد نوح عليه السلام . والذي يدل على أنهم من ذرية آدم عليه السلام ما رواه البخاري عن أبي سعيد الخدري رضي الله عنه عن رسول الله صلى الله عليه وسلم قال ( يقول الله تعالى : يا آدم ! فيقول لبيك وسعديك ، والخير في يديك . فيقول اخرج بعث النار . قال : وما بعث النار ؟ قال : من كل ألف تسع مئة وتسعة وتسعين . فعنده يشيب الصغير وتضع كل ذات حمل حملها، وترى الناس سكارى وما هم بسكارى ، ولكن عذاب الله شديد ). قالوا : وأينا ذلك الواحد ؟ قال : ( ابشروا فإن منكم رجلا ومن يأجوج ومأجوج ألف) رواه البخاري

    ยะอญูจญ์-มะอญูจญ์ มาจากเชื้อสายของมนุษย์ จากลูกหลานของอาดัม และนางเฮาวา มันทั้งสองมาจากลูกหลานของ ยาฝิษ บรรพบุรุษของชนเชื้อสายตุรกี และยาฝิษ เป็นบุตรชายของ โนอา(นุห) หลักฐานที่แสดงว่า พวกมันเป็นลูกหลานอาดัมก็คือหะดิษ รายงานโดยอิหม่ามบุคอรี (ตามที่ระบุข้างต้น)

    เรื่อง ของยะอญูจญ์-มะอญูจญ์ เป็นส่วนหนึ่ง จาก 10 สัญญานใหญ่ก่อนวันกิยามะฮ(วันพิพากษาโลก)จะเกิดขึ้น ดังระบุในหะดิษต่อไปนี้

    عن حذيفة بن أسيد أبي سريحة قال اطلع رسول الله صلى الله عليه وسلم من غرفة ونحن نتذاكر الساعة فقال لا تقوم الساعة حتى تكون عشر آيات طلوع الشمس من مغربها والدجال والدخان والدابة ويأجوج ومأجوج وخروج عيسى ابن مريم عليه السلام وثلاث خسوف خسف بالمشرق وخسف بالمغرب وخسف بجزيرة العرب ونار تخرج من قعر عدن أبين تسوق الناس إلى المحشر تبيت معهم إذا باتوا وتقيل معهم إذا قالوا * ( صحيح ) _ وأخرجه مسلم

    รายงานจากหะซัยฟะฮ บินอะซีด อบีสะรีหะฮ กล่าวว่า"ครั้งหนึ่งท่านเราะซูลุ้ลลอฮ ศอลฯออกมาจากห้อง ในขณะทีพวกเรากำลังคุยกันถึงเรื่องราววันกิยามะฮ แล้วท่านได้กล่าวว่า"แท้จริงวันกิยามะฮจะยังคงไม่เกิดขึ้น จนกว่า สัญญาน 10 ประการจะปรากฏคือ

    1. ดวงอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตก
    2. ดัจญาลจะปรากฏ
    3. อัดดุคอน(ไอหมอก)
    4. อัดดาบบะฮ(สัตว์ตัวหนึ่งจะออกมาจากแผ่นดินและพูดคุยกับมนุษย์)
    5. ยะอญูจญ์-มะอญูจญ์ (ปรากฏตัว)
    6. ท่านนบีอีซา บุตร มัรยัม อะลัยฮิสสลาม ออกมาปรากฏตัว
    7. จะมีจันทร์คราส ที่ยิ่งใหญ่เกิดขึ้นสามครั้ง ครั้งแรกเกิดขึ้นทางทิศตะวันออก
    8. ครั้งที่สองจะเกิดทางทิศตะวันตก
    9. ครั้งที่สามจะเกิดที่คาบสมุทรอาหรับ
    10. จะมีไฟออกมาจากเมื่องเอเดน(เมื่องหนึ่งของประเทศเยเมน)ไล่ต้อนผู้คนให้ไปยังมะหชัร มันจะพักแรมพร้อมกับพวกเขา เมื่อพวกเขาพักแรม และมันจะพูดกับพวกเขา เมื่อพวกเขาพูด "

    ที่มา http://www.azsunnah.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=22

    คำทำนายของนอสตราดามุส ที่สอดคล้องกับเรื่อง ยะอญูจญ์-มะอญูจญ์

    [​IMG]

    คำพยากรณ์ที่ 30 : จีนบุกทางใต้ของฝรั่งเศส

    Du pont Euxine, et la grand Tartarie,
    Un roi sera qui viendra voir la Gaule,
    Transpercera Alane et lžArmenie,
    Et dedans Bisance lairra sanglante Gaule. (V,54)

    คำแปล

    จะมีกษัตริย์พระองค์หนึ่งเสด็จจากทะเลดำและมองโกเลีย มุ่งหน้าไปทางฝรั่งเศส พระองค์จะเสด็จผ่านอลาเนียและอาร์เมเนีย (ภาคใต้ของรัสเซีย) และที่ประเทศตุรกี กษัตริย์พระองค์นี้จะทรงฝากรอยจารึกของคทาเลือดของพระองค์เอาไว้

    ตีความและวิเคราะห์

    ในระหว่างที่อาวุธนิวเคลียร์และอาวุธเชื้อโรคของกองกำลังฝ่ายตะวันออก ซึ่งมีจีนเป็นหัวหน้ากำลังมีผลทำลายล้างในขั้วโลกเหนืออยู่นั้น ในช่วงเวลาหลังจากนั้นไม่นาน กองกำลังฝ่ายตะวันออกก็จะวางแผนโจมตีทวีปยุโรป โดยเริ่มบุกเข้าทางฝรั่งเศสตอนใต้ ในชั้นแรกผู้บัญชาการกองกำลังของฝ่ายตะวันออก จะโจมตีทางภาคใต้ของประเทศรัสเซีย และสามารถปราบปรามกำลังของฝ่ายต่อต้านได้เด็ดขาด หลังจากนั้นก็จะยกกำลังพลมุ่งไปทางประเทศตุรกี เพื่อเชื่อมกับกองกำลังของฝ่ายอาหรับ โดยมีเป้าหมายเพื่อรวมตัวกันโจมตีที่มั่นต่าง ๆ ของฝ่ายพันธมิตรตะวันตก นอสตราดามุสพยากรณ์ว่า ผู้บัญชาการรบของกองกำลังฝ่ายตะวันออกผู้นี้ จะติดอาวุธที่มีลักษณะเหมือน คทาหรือไม้เท้า ซึ่งอาวุธชนิดนี้มีสมรรถนะในการทำลายล้างอย่างมหาศาล

    คำพยากรณ์ที่ 31 : กองกำลังอาหรับและจีนร่วมกันโจมตีประเทศตุรกี

    Au calme Duc en arrachant l’esponce
    Voile Araesque voir, subit decouverte :
    Tripolis, Chio, et ceux de Trapesconce,
    Duc pris, Marnegro et la cite deserte. (VI,55)

    คำแปล

    ท่านดยุคจะได้รับการปลุกปลอบใจ และมีการตระเตรียมร่างสนธิสัญญาสันติภาพขึ้น แต่ในบัดดลนั้นกองกำลังทางเรือของอาหรับจะปรากฏทั่วท้องทะเล กองกำลังเหล่านี้ยกมาจากกรุงทริโปลีประเทศลิเบีย มุ่งหน้ามาที่เกาะคิออส (ในแถบทะเลเอเจียน) ในขณะเดียวกับที่กองกำลังอีกฝ่ายหนึ่งจะปรากฏที่เมืองทรับซอน (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของตุรกี) ท่านดยุคจะถูกจับ และทะเลดำกับเมืองทรับซอนจะถูกเปลี่ยนให้เป็นทะเลทราย

    ตีความและวิเคราะห์

    เมื่อรู้ตัวว่ากำลังจะต้องรับศึกทั้งสองด้าน ผู้นำตุรกีก็จะตกลงใจทำสัญญาสันติภาพกับกองกำลังของฝ่ายรุกราน แต่เหตุการณ์ที่เป็นไปก็คือ จะไม่มีสันติภาพใด ๆ ทั้งสิ้น เพราะกองกำลังทางเรือของฝ่ายอาหรับจากกรุงทริโปลี จะระดมโจมตีชายฝั่งตะวันตกของประเทศตุรกี ส่วนกองทัพจีนก็จะเข้าประสานกับการเคลื่อนไหวของกองทัพฝ่ายอาหรับ โดยกระทำการเข้าโจมตีดินแดนทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศตุรกี ในการทำยุทธนาวีกันครั้งนี้ ฝ่ายอาหรับจะสามารถทำลายกองกำลังทางเรือของตุรกีในทะเลดำจนย่อยยับ ส่วนกองทัพของฝ่ายตะวันออกโดยการนำของจีน ก็จะสามารถทำลายเมือง ทรับซอนซึ่งเป็นเมืองชายทะเลของตุรกีได้เช่นเดียวกัน ในการปฏิบัติการทางทหารต่อตุรกีในครั้งนี้ กองกำลังร่วมของฝ่ายอาหรับกับตะวันออกไกลจะใช้อาวุธนิวเคลียร์สนับสนุนด้วย

    ที่มา http://www.oknation.net/blog/Nostradamus/2007/09/08/entry-6
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 05_China60th.jpg
      05_China60th.jpg
      ขนาดไฟล์:
      54.5 KB
      เปิดดู:
      2,321
    • china1.jpg
      china1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      40.9 KB
      เปิดดู:
      2,311
    • 36635.jpg
      36635.jpg
      ขนาดไฟล์:
      53.1 KB
      เปิดดู:
      2,301
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 กันยายน 2010
  2. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,704
    ค่าพลัง:
    +51,933
    *** กรรมปรากฏชัด ****

    กรรมเริ่มปรากฏส่วนหนึ่งทิศทางหนึ่ง
    คนในพื้นที่เริ่มคิดจัดกระเป๋า
    ศึกประลัยกัลป์ ชนวนถูกจุดแล้วโดยผู้หนึ่ง
    หมดเวลาแล้ว ไม่มีผู้ใดสามารถแก้ไขอะไรได้
    ไม่รอดยี่สิบกว่าล้าน ผู้มีสัจจะรอดพ้นภัย

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "


    [​IMG]
     
  3. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>นักวิทยาศาสตร์เป็นงง แมวน้ำขั้วโลกโผล่ในอ่าวเวียดนาม</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>17 กันยายน 2553 04:59 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>ภาพสำนักข่าวซเวินจี๊ (Dan Tri) เจ้าหนูตัวนี้พลัดหลงจากถิ่นฐานไปหลายพันกิโลเมตร ไปติดอวนในอ่าวภาคกลางเวียดนาม แต่เนื่องจากเป็นสัตว์สงวนในบัญชีของ CITES อาจจะไม่มีทางปฏิบัติอย่างอื่น นอกจากปล่อยกลับลงทะเลให้ไปตามยถากรรม

    [​IMG]
    ภาพจาก www.animaldiversity.ummez.umich.edu แมวน้ำเฟอร์ซีลดำผุดดำว่ายกันเป็นฝูง นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่า ภาวะโลกร้อนทำให้กระแสน้ำเย็นเปลี่ยนทางไหล และนำแมวน้ำจำนวนหนึ่งพลัดหลงไปจนถึงทะเลแถบศูนย์สูตร เจ้าตัวที่พบในอ่าวเวียดนามอาจจะเป็นไปตามสมมติฐานนี้ก็ได้
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    นักวิทยาศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญพากันแปลกใจไม่หายว่า แมวน้ำขนปุย (Fur Seal) ซึ่งเป็นสัตว์ในทะเลเขตหนาวใกล้ขั้วโลกไปโผล่ในอ่าว ในจังหวัดภาคกลางเวียดนามได้อย่างไร หลายคนลงความเห็นว่าเป็นเพราะลมฟ้าอากาศวิปริตอันเกิดจากโลกร้อน จึงทำให้สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิดนี้หลงทิศหลงทางรอนแรมมาไกลหลายพันกิโลเมตร

    ชาวประมงใน จ.เถือะเทียนเหว (Thua Thien Hue) พบสัตว์ใหญ่ชนิดหนึ่งติดอวนขึ้นมา ขณะลากกุ้งในทะเลสาบเติ่มซยาง (Tam Giang) อ.หว่างจา (Hoang Tra) เมื่อวันอังคาร และ พบว่ามันคือ แมวน้ำซึ่งเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีเท้าเป็นพังผืด

    เจ้าตัวประหลาดวัดตลอดลำตัวยาว 70 ซม น้ำหนักประมาณ 25 กิโลกรัม เข้าใจว่า จะเป็นตัวที่ยังไม่โตเต็มที่และยังไม่ทราบเพศ

    นายหว่างวันเลือง (Hoang Van Luong) วัย 38 ปีกล่าวว่า กำลังลากอวนจับกุ้งอยู่ดี ก็รู้สึกว่ามีปลาตัวโตๆ เข้าไปอยู่ในอวน ตอนแรกคิดว่าเป็นฉลาม เพราะก่อนหน้านั้นมีคนเห็นฉลามเข้าไปป้วนเปี้ยนในทะเลสาบ ซึ่งไม่เคยพบเห็นที่นั่นมาก่อน จึงอาจจะเป็นไปได้ว่า ฉลามตามแมวน้ำเข้าไป

    นายเหวียนกวางบี่ง (Nguyen Quang Binh) ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรทางทะเลประจำจังหวัดดังกล่าวว่า แมวน้ำที่ติดอวนขึ้นมาเป็นพันธุ์เฟอร์ซีล ซึ่งเป็นสัตว์น้ำคุ้มครอง เพราะจำนวนลดลงอย่างมากจากการไล่ล่าของมนุษย์ เพื่อนำเอาหนังของมันไปทำเสื้อขนสัตว์

    เจ้าแมวน้ำขนปุยถูกขังเอาไว้ในกรงที่ส่วนหนึ่งแช่ในน้ำทะเล ราษฎรในท้องถิ่นเริ่มทยอยกันไปดูของประหลาด หลังจากข่าวนี้แพร่สะพัดออกไป หนังสือพิมพ์เตื่อยแจ๋ (Tuoi Tre) กล่าว

    นายจูแองแข็ง (Chu Anh Khanh) เจ้าหน้าที่สถาบันสมุทรศาสตร์ แห่งเมืองญาจาง (Nha Trang) จ.แค๊งฮวา (Khanh Hoa) ที่อยู่ใต้ลงไปกล่าวว่า ภาวะโลกร้อนได้ทำให้กระแสน้ำเปลี่ยนทางไหล นำแมวน้ำเหล่านี้ไปจนถึงฝั่งทะเลเวียดนาม สถาบันฯ กำลังจะเจรจากับเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเพื่อนำไปเพาะเลี้ยงและศึกษาหาข้อมูล

    เฟอร์ซีลอาศัยในเขตอากาศหนาวเย็น ส่วนใหญ่พบในดินแดนทางซีกโลกภาคใต้ รวมทั้งหมู่เกาะนอกชายฝั่งแอฟริกาใต้ และตอนใต้ของทวีปออสเตรเลียด้วย

    อย่างไรก็ตาม CITES (Convention on International Trade in Endangered Species of Wild Fauna and Flora) ซึ่งเวียดนามร่วมเป็นภาคีอยู่ด้วย ได้บรรจุแมวน้ำเฟอร์ซีลไว้ในบัญชีสัตว์คุ้มครองห้ามเพาะเลี้ยงและห้ามจำหน่าย ซึ่งนายกวางบี่งกล่าวว่า อาจจะต้องปล่อยลงทะเลไปเหมือนเดิม

    หลายเดือนมานี้ มีเหตุการณ์แปลกๆ เกิดขึ้นในทะเลเวียดนามหลายอย่าง รวมทั้งการมีปลาแสงอาทิตย์ (Sunfish) ที่อาศัยในน้ำลึกในมหาสมุทรไปติดอวน และมีปลาฉลามยักษ์ น้ำหนักถึง 1 ตัน เข้าไปหากินในอ่าวท่องเที่ยว ติดอวนขณะอยู่ได้ห่างจากชายฝั่งเพียง 10 เมตรเศษ

    ที่มา http://www.manager.co.th/IndoChina/ViewNews.aspx?NewsID=9530000130650
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 กันยายน 2010
  4. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    กำแพงเพชร-น้ำท่วมพรานกระต่าย 1,500 ครัวเรือนขาดแคลนน้ำดื่ม

    [​IMG]

    สำรวจความเสียหายเบื้องต้นเหตุน้ำท่วมอำเภอพรานกระต่าย ได้รับความเดือดร้อน 1,500 ครอบครัว สั่งปิดโรงเรียนในเขตเทศบาลแล้ว 4 โรง เพื่อรอดูสถานการณ์น้ำ

    หลังจากที่เกิดฝนตกหนักต่อเนื่องหลายวันโดยเฉพาะเมื่อคืนนี้ ทำให้น้ำป่าจากเทือกเขาตระกร้าในเขต อ.พรานกระต่าย ไหลบ่าเข้าท่วมในเขตเทศบาลตำบลพรานกระต่าย จากการออกสำรวจพื้นที่พบว่า ระดับน้ำท่วมถนนสายกำแพงเพชร-สุโขทัย ลดระดับลงบ้างแล้ว แต่รถยังสัญจรไปมาด้วยความยากลำบาก ส่วนถนนสายหลักในตัวอำเภอพรานกระต่าย ยังมีน้ำท่วมขัง ทำให้บางช่วงต้องนำรถและแผงกั้นจราจรปิดถนน งดใช้งานชั่วคราว

    สำหรับบ้านเรือนที่อยู่ติดถนนต้องนำกระสอบทรายมาวางกั้นน้ำ บางรายต้องใช้เครื่องสูบน้ำออกจากบ้าน นอกจากนี้ทหารพรานที่ 35 นำกำลังออกให้ความช่วยเหลือประชาชนขนกระสอบทรายเพื่อทำทำนบกั้นน้ำบริเวณบ้านเรือน

    ขณะที่ความเสียหายเบื้องต้น ได้รับรายงานมีบ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบจากภาวะน้ำท่วมจำนวน 1,500 ครัวเรือน ในพื้นที่ 10 หมู่บ้าน นอกจากนั้นยังมีพื้นที่ทางการเกษตรที่ถูกน้ำท่วมขังอีกจำนวนมาก อยู่ในระหว่างการสำรวจความเสียหาย

    ทางด้านโรงเรียนในเขตเทศบาลพรานกระต่าย สั่งหยุดเรียนแล้ว 4 โรง เพื่อรอดูสถานการณ์น้ำท่วม เนื่องจากเกรงว่านักเรียนจะได้รับอันตรายจากน้ำป่าที่ไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่

    ความเดือนร้อนในเบื้องต้นชาวบ้านต้องการน้ำดื่ม เนื่องจากน้ำป่าได้ท่วมบ่อน้ำดื่ม ที่เป็นบ่อน้ำตื้น ไม่สามารถนำน้ำมาดื่มได้ จากปัญหาดังกล่าวทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังเร่งสำรวจเพื่อให้การช่วยเหลือโดยเร่งด่วน

    ข่าวทีวีช่อง 3 วันพฤหัส ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2553

    ลำพูน-น้ำยังท่วมหนักบ้านจมน้ำกว่า 300 หลัง

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ อ.เมือง และ อ.ป่าซาง จ.ลำพูน ยังน่าเป็นห่วง น้ำจากแม่น้ำกวงเอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนกว่า 300 หลัง รวมทั้งสวนผัก สวนลำไย กว่า 3,000 ไร่จมน้ำเป็นวันที่ 3

    ระดับน้ำในน้ำแม่กวงที่ไหลผ่านอำเภอเมือง และอำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องอยู่ระดับ 5 เมตร ณ จุดวัดระดับน้ำที่บริเวณหน้าวัดพระธาตุหริภุญชัย เมื่อช่วงหัวค่ำที่ผ่านมา ทำให้เอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนทั้งสองฝั่ง และล่าสุดวันนี้ขยายเป็นวงกว้างกว่า 300 หลังคาเรือน สวนลำไย สวนผัก ได้รับความเสียหายแล้วกว่า 3,000 ไร่ และที่เดือดร้อนมากที่สุดเริ่มตั้งแต่ ต.อุโมงค์ ต.เหมืองง่า ต.เวียงยอง ต.ต้นธง และ ต. บ้านแป้น ชาวบ้านต้องพากันขนข้าวของเครื่องใช้ขึ้นไปอยู่บนที่สูง ขณะที่ชาวบ้านที่ต้องย่ำน้ำเริ่มมีอาการคันที่ผิวหนัง

    นอกจากนี้ที่บริเวณ หมู่ 6 บ้านศรีเมืองยู้ ,หมู่ 7 บ้านวังไฮ , หมู่ 8 บ้านไหม่วังไฮ ตำบลเวียงยอง อำเภอเมืองลำพูน และตำบลป่าซางหมู่ที่ 6-7-8 ต้องพากันขนย้ายสิ่งของขึ้นอยู่ที่สูงอีกครั้ง ก่อนที่น้ำเหนือจากจังหวัดเชียงใหม่ และน้ำจากเทือกเขาดอยขุนตาล จะไหลเข้ามาสมบทอีก

    นายดิเรก ก้อนกลีบ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานเข้าช่วยเหลือพร้อมประกาศเตือนประชาชนที่อยู่ริมฝั่งแม่น้ำกวง และแม่น้ำปิง ให้รีบขนย้ายสิ่งของเครื่องใช้ทางการเกษตรขึ้นไปอยู่บนที่สูง และแจ้งเตือนประชาชนให้เตรียมความพร้อมตลอด 24 ชั่วโมงวันนี้ รวมทั้งสั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชน และเร่งสำรวจความเสียหายเป็นการด่วน

    ข่าวทีวีช่อง 3 วันศุกร์ ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2553

    อ่างทอง-น้ำเจ้าพระยาทะลักท่วม อ.ป่าโมก รอบ 2

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    เขื่อนชัยนาทเริ่มปล่อยน้ำปริมาณมากทำให้แม่น้ำเจ้าพระยาสูงขึ้นเข้าท่วมตำบลโผงเผงเป็นรอบสอง ถนนคันดินกั้นน้ำยาวกว่า 1 กม.ทรุดตัว ต้องเร่งตอกเสาเข็มกั้นน้ำป้องกันคันกั้นน้ำพังเข้าท่วมประชาชนในหมู่ที่ 7-8

    เมื่อเวลา 12.00 น.วันนี้ นายวิโรจน์ ดำสนิท นายกอบต.โผงเผง อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง แจ้งว่าน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาได้เอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนอีกครั้ง หลังจากน้ำลดลงไปแล้วทำให้น้ำกลับมาท่วมบ้านเรือนประชาชนจำนวนมาก โดยเฉพาะถนนคันดินทรุดตัวกว่า 1 กม. ล่าสุดบ้านเรือนที่อยู่ติดแม่น้ำเจ้าพระยาถูกน้ำท่วมได้รับความเดือนร้อนกว่า 60 หลังคาเรือน ชาวบ้านต้องขนของหนีน้ำกันอีกครั้ง นอกจากนี้ริเวณหมู่ที่ 8 ต.โผงเผง ถนนคันดินเกิดทรุดตัวเป็นทางยาวประมาณ 1,200 เมตร ชาวบ้าน และทหารจากกองพันทหารปืนใหญ่รักษาพระองค์ที่ 11 จ.ลพบุรี ต้องระดมกำลังช่วยกันตอกเข็มและถมดินเพื่อป้องกันถนนขาด และนำกระสอบทรายเตรียมพร้อมไว้กว่า 50,000 ลูก

    นายวิโรจน์ กล่าวว่า เมื่อประมาณปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา น้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาได้เอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน และพืชผลการเกษตร เสียหายจำนวนมาก ชาวบ้าน 4 หมู่บ้านถูกน้ำท่วมขัง จนกระทั่งน้ำลดลงไปกว่า 2 อาทิตย์ ชาวบ้านต่างนำของที่เก็บไว้ลงมาอยู่ตามปกติคิดว่าน้ำจะไม่ท่วมอีก แต่เมื่อ 2 วันที่ผ่านมา เขื่อนเจ้าพระยาได้ระบายน้ำออกเป็นจำนวนมากทำให้น้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนอีกครั้ง

    ด้านนายฉัตรณรงค์ ศิริพร ณ ราชสีมา ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอ่างทอง กล่าวว่า สถานการณ์น้ำในจังหวัดอ่างทองตอนนี้ต้องเฝ้าระวังอย่างมากโดยเฉพาะชาวบ้านที่อยู่ติดแม่น้ำเจ้าพระยาหลังเขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำเพิ่มจากเมื่อวานนี้ถึง 100 ลูกบาตก์เมตร/วินาที และคาดว่าน่าจะปล่อยน้ำที่ปริมาณสูงกว่านี้

    สำหรับจุดวิกฤตระดับน้ำในจังหวัดอ่างทองที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดอ่างทอง ระดับตลิ่ง 7.50 เมตร วันนี้ระดับน้ำสูง 6.21 เมตร ที่หน้าเทศบาลตำบลป่าโมก ระดับตลิ่ง 6 เมตร ระดับน้ำวันนี้สูง 5.64 เมตร ซึ่งใน อ.ป่าโมกเหลืออีกเพียง 36 ซ.ม.เท่านั้นน้ำก็จะสูงกว่าตลิ่ง

    ข่าวทีวีช่อง 3 วันศุกร์ ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2553

    ที่มา http://www.krobkruakao.com
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  5. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    สัญญาณวันสิ้นโลก(ยุคเก่า)นั้นมีอะไรบ้าง ?

    [​IMG]
    อัลกะอฺบะฮฺ


    คำถาม : สัญญาณวันสิ้นโลก(ยุคเก่า)นั้นมีอะไรบ้าง ?

    คำตอบ : ท่านเชค อาลี อาลี มุฮำหมัด ได้กล่าวถึง สัญญาณวันกิยามะห์(วันสิ้นโลก)ไว้ในหนังสือของท่านที่ชื่อว่า " อัชร็อต อัซซาอะห์ " ดังต่อไปนี้


    สัญญาณใหญ่ ได้แก่

    1. อิหม่ามมะฮุดีจะปรากฏตัว
    2. ดัจญาลเผยโฉม
    3. ท่านศาสดาอีซาจะถูกส่งลงมาสู่โลกนี้อีกครั้งหนึ่ง
    4. ยะอฺญูดและมะอฺญูด จะพังกำแพงทะลุออกมาได้
    5. มีสัตว์ประหลาดออกมาจากแผ่นดิน
    6. ดวงอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตก
    7. มีหมอกเกิดขึ้นเต็มแผ่นดิน
    8. เกิดไฟประลัยกัลป์ออกมาขับไล่ผู้คนไปรวม ณ. สถานชุมนุม
    9. อัลกรุอาน และความรู้จะถูกเก็บ(โดยการล้มตายของผู้รู้)
    10. อัลกะอฺบะฮฺพังทลาย

    สัญญาณเล็ก ได้แก่:

    1. แผ่นดินไหวจะมีมาก
    2. ลมพายุจะรุนแรง
    3. ความตายจะดาษดื่น(จากโรคร้าย) และความตายโดยฉับพลัน
    4. มนุษย์จะแข่งกันประดับประดา มัสยิด
    5. คนโกหกจะได้รับความเชื่อถือ คนพูดจริงกลับถูกมองว่าโกหก
    6. คนทุจริตจะปลอดภัย คนไว้วางใจกลับถูกบิดพลิ้ว
    7. การผิดประเวณี(ซีนา)จะเกิดขึ้นอย่างมากมาย
    8. สุรา ดอกเบี้ย เป็นสิ่งอนุมัติ
    9. ในมัสยิด จะมีเสียงอึกทึก
    10. คนรุ่นหลังจะประณามคนรุ่นก่อน
    11. ความวุ่นวายจะเกิดทุกหัวระแหง
    12. ผู้ใหญ่จะรับใช้เด็ก
    13. อุตริกรรม(บิดอะห์)จะปรากฏชัด
    14. ความอายจะน้อยลง
    15. สตรีจะประพฤติตัวเหมือนบุรุษ ส่วนบุรุษจะประพฤติตัวเหมือสตรี
    16. สตรีจะนุ่งน้อยห่มน้อย
    17. ผู้ทุจริตจะได้รับการช่วยเหลือ ผู้ถูกละเมิดกลับถูกทอดทิ้ง
    18. ผู้คนจะอ่านอัลกรุอานอย่างไพเราะ (ขาดการปฏิบัติตาม)
    19. การนินทาให้ร้ายจะมีมาก
    20. การสาบานด้วยสิ่งอื่นนอกจากอัลลอฮฺจะมีมาก
    21. การหย่าร้างจะเกิดขึ้นมาก
    22. ความชั่วช้าเลวทรามจะปรากฏชัด
    23. มนุษย์จะปฏิบัติตามอารมณ์ กิเลสและตัณหา
    24. บุรุษจะถูกทำลายเพราะทรัพย์สินเป็นเหตุ
    25. มนุษย์จะตัดญาติขาดมิตร
    26. สมาธิของคนละหมาดจะหายไป
    27. ประชาชาติจะแตกแยกออกเป็น 70 กว่าจำพวก
    28. วันและเวลาจะสั้นลง จนกระทั่งปีหนึ่งเหมือนหนึ่งเดือน และเดือนหนึ่ง เหมือนหนึ่งสัปดาห์ และหนึ่งสัปดาห์เหมือนหนึ่งวัน
    29. การแต่งงานมีขึ้นเพราะสมบัติเป็นเหตุ
    30. เรื่องราวของมนุษย์ ล้วนเป็นความโลภโมโทสัน
    31. การตลาดจะฝืดเคือง
    32. การให้เกียรติจะน้อยลง แต่การเหยียดหยามจะมากขึ้น
    33. ความรับผิดชอบจะหายไป
    34. ศาสนาจะถูกซื้อขายด้วยวัตถุทางโลก(ดุนยา)
    35. หัวใจมนุษย์หมดสิ้นจากความดี
    36. ทานบังคับ(ซะกาต)ถูกนำมาจ่ายเป็นค่าแรง
    37. บุรุษจะฆ่ากันโดยไร้เหตุผล
    38. ความรู้จะถูกเก็บ คนโง่จะขึ้นแสดงธรรม(บนมิมบัร)
    39. เด็กที่เกิดจากการผิดประเวณีจะมีมาก
    40. คนที่มีลูกหลานต้องโศกเศร้า เพราะการเนรคุณ
    41. สตรีจะทำหน้าที่แทนบุรุษ
    42. เด็กจะไม่ให้เกียรติผู้ใหญ่ ผู้ใหญ่จะไม่เมตตาเด็ก
    43. ความบริสุทธิ์ใจจะหายไปจากการงาน
    44. คนชั่วจะภูมิใจ และโอ้อวดความชั่วของตน
    45. การพนันจะมีมาก
    46. ผู้บริสุทธิ์จะถูกฆ่าเป็นการล้างแค้น(ไม่ใช่การรับใช้ชาติ)
    47. มนุษย์จะถูกเรียกร้องสู่ขุมนรกและหันเหออกจากการภักดีต่ออัลลอฮฺ

    ที่มา http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=narok&date=01-10-2006&group=5&gblog=2
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  6. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    มหันตภัยในนครนิวยอร์ค

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]


    คำพยากรณ์ที่ 183-184 : นครนิวยอร์คเกิดแผ่นดินไหว

    Ennosigee feu du centre de terre,
    Fera tremler autour de cite neuve,
    Deux grands rochers longtemps feront la guerre,
    Puis Arethuse rongira nouveau fleuve. (I,85)
    Jardin du monde aupres de cite neuve,
    Dans le chemin des montagnes cavees,
    Sera saisi et plonge dans la Cuve,
    uvant par force eaux soufre envenimees.(X,49)

    คำแปล

    ภูเขาไฟที่จุดศูนย์กลางของโลกจะเกิดระเบิดขึ้น ทำให้เกิดแผ่นดินไหวบริเวณรอบ ๆ นครใหม่ (นครนิวยอร์ค) หินใหญ่สองก้อนจะกระทบกันเป็นเวลานาน แม่น้ำทั้งหลายกลายเป็นสีแดงดั่งสีเลือด

    ส่วนต่าง ๆ ที่อยู่ใกล้นครใหม่ และบริเวณต่าง ๆ ตามเส้นทางไปสู่ภูเขาที่มนุษย์สร้างขึ้น (ตึกระฟ้า) จะพังทลายลงสู่อ่าว ส่วนประชาชนที่อยู่ในนครแห่งนี้ก็ต้องดื่มน้ำเน่าเหม็นที่เป็นพิษ

    ตีความและวิเคราะห์

    ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า เหตุการณ์ที่เกิดแผ่นดินไหวในนครนิวยอร์กครั้งนี้ จะเกิดขึ้นในขณะเดียวกันกับที่จีน ใช้ระเบิดนิวเคลียร์โจมตีที่บริเวณเส้นขนานที่ 45 ซึ่งทำให้เกิดพายุเพลิงลุกลามมาที่นครนิวยอร์คดังได้กล่าวมาแล้วนั้นหรือไม่ แต่คำพยากรณ์สองบทนี้ ได้กล่าวถึงความหายนะที่เกิดจากแผ่นดินไหว อันเนื่องมาจากแรงระเบิดของนิวเคลียร์ โดยนครนิวยอร์กและสถานที่ใกล้เคียงจะถูกทำลายไปส่วนหนึ่ง จากผลของแผ่นดินไหวในครั้งนี้ แผ่นดินไหวจะมีความรุนแรงมากในบางพื้นที่ เช่น ที่ย่านแมนฮัตตันถึงกับทำให้ตึกระฟ้าพังทลายลงไปในอ่าวนิวยอร์คเลยทีเดียว นอกจากนั้น ผลของแผ่นดินไหวจะทำให้ท่อ เมนน้ำประปาหลายต่อหลายท่อแตก ส่วนน้ำดื่มที่ยังเหลืออยู่จะมีสิ่งที่เป็นมลพิษจือปนอยู่ ซึ่งเมื่อดื่มไปแล้วจะเป็นอันตรายร้ายแรงต่อสุขภาพและอนามัยของประชาชน

    การที่นครนิวยอร์กจะประสพกับภัยพิบัตินี้ นอสตราดามุสได้พยากรณ์ไว้กว่า 400 ปีมาแล้ว แม้แต่โหรในยุคปัจจุบันก็ได้พยากรณ์ไว้ในทำนองเดียวกัน โหรหลายคนเคยพยากรณ์ไว้เมื่อไม่กี่ปีมานี้เองว่า มีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นกับชั้นหินที่อยู่ใต้มหานครนิวยอร์ก

    นายคริสเวลล์ หมอดูชาวอเมริกัน ในรัฐคาลิฟอร์เนียพยากรณ์ไว้ว่า นครนิวยอร์กจะทรุดจมลงไปในน้ำ ในระหว่างปี พ.ศ. 2423-2533 ทั้งนี้เพราะเกิดแผ่นดินไหว ซึ่งจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางชายฝั่งตะวันออกของประเทศสหรัฐอเมริกา นายคริสเวลล์ กล่าวว่า ลองไอส์แลนด์จะจมน้ำและหลังจากนั้นอีกไม่นานนัก บริเวณย่านแมนฮัตตันจะกลายเป็น เมืองเวนิชของสหรัฐอเมริกา กล่าวคือจะเป็นเมืองที่มีลำคลองเกิดขึ้นหลายแห่ง นครนิวยอร์กจะทรุดลงไปมาก ถึงขนาดที่ประชาชนต้องอพยพจากที่พักอาศัยภายในเมืองออกไปอยู่ในที่ที่สูงพ้นจากน้ำท่วม

    เมื่อไม่กี่ปีมานี้ นายจิม กาวิน โหรชาวไอริช ก็ได้พยากรณ์ไว้ในทำนองเดียวกันว่า นครนิวยอร์กจะทรุดจมลงไปในน้ำ โดยเขากล่าวว่า สตาเต็นไอส์แลนด์ จะจมน้ำ เหมือนกับแพที่ถูกน้ำดูดจมหายลงใต้น้ำ นอกจากนั้น ย่านแมนฮัตตันที่อยู่ในที่ต่ำก็จะจมหายไปในอ่าว น้ำจะท่วมไปจนถึงถนนเลขที่ 59

    พวกนักธรณีวิทยาต่างทราบกันมานานหลายปีแล้วว่า นิวยอร์คมีฐานรองรับใต้ดินที่ไม่มั่นคงนักแม้ว่าจะมีหินรองรับอยู่ก็ตาม นายฮิว อัลเลน เคยเขียนไว้ในหนังสือ Window in Providence ว่า นครนิวยอร์กมีฐานรองรับเบื้องล่างไม่ค่อยดี ในกรณีที่เกิดแผ่นดินไหว เกาะแมนฮัตตันจะ แตกออกเป็นสามส่วน ซึ่งจะทำลายบริเวณต่าง ๆ ในนครนิวยอร์ก และมีผลกระทบกระเทือนอย่างร้ายแรงต่อประชาชนหลายล้านคนที่อยู่ในนครแห่งนี้

    ที่กล่าวกันว่า นครนิวยอร์กมีฐานรองรับเกิดผิดปกตินั้น ส่วนหนึ่งน่าจะเนื่องมาจากมีรอยแยกของพื้นดินขนาดใหญ่ ซึ่งกินอาณาบริเวณนับตั้งแต่มลรัฐเมน ตัดผ่านบริเวณเมืองบอสตันและเมืองฟิลาเดลเฟีย ในบรรทัดที่สามของคำพยากรณ์บทแรกนั้น นอสตราดามุสได้พยากรณ์ว่า หินใหญ่สองก้อนจะกระทบกระแทกกันอยู่เป็นเวลานาน คำว่า หินสองก้อน ก็น่าจะหมายถึงแนวแตกของหินที่ตัดผ่านบริเวณนิวอิงแลนด์ ซึ่งแนวแตกนี้เกิดการกระแทกกระทั้นกันอย่างรุนแรง

    ส่วน เอ็ดการ์ เคย์ซี เป็นผู้ให้ความกระจ่างยิ่งขึ้นเกี่ยวกับพื้นที่อันกว้างใหญ่ไพศาลที่จะได้รับผลกระทบกระเทือนจากแผ่นดินไหวในนครนิวยอร์ก โดยในปี พ.ศ. 2475 เมื่อมีผู้ถามว่าในอนาคตจะเกิดแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงในสหรัฐอเมริกาที่ใดบ้าง เอ็ดการ์ เคย์ซี นั่งทางในอยู่ครู่หนึ่งแล้วก็ตอบว่าจะเกิดแผ่นดินไหวในภาคตะวันตก ภาคกลาง และภาคตะวันออกของสหรัฐอเมริกา โดยจะมีความรุนแรงมากตามบริเวณชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติก ต่อมาในปี พ.ศ. 2484 เอ็ดการ์ เคย์ซี ระบุแน่ชัดยิ่งขึ้นว่าพื้นที่ในนครนิวยอร์ก และคอนเนคติคัตจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงเนื่องจากแผ่นดินไหว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นครนิวยอร์กจะจมหายไปอย่างไม่เหลือร่องรอยอะไรไว้ นอกจากนั้นเขายังพยากรณ์ไว้ด้วยว่า ดินแดนในทางภาคใต้ของรัฐนอร์ทคาโรไลนา รัฐเซาท์คาโรไลนา และรัฐจอร์เจีย จะเกิดภาวะน้ำท่วมอย่างรุนแรง

    โหรอีกผู้หนึ่งที่ทำนายไว้ในทำนองเดียวกัน ได้แก่ นายจอห์น เพนดรากอน โหรชาวอังกฤษพยากรณ์ไว้ก่อนจะเสียชีวิตไม่นานว่า พื้นที่ทุกหนทุกแห่งตามชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติก นับตั้งแต่เมืองบอสตันไปจนถึงเมืองบัลติมอร์ จะพบความวิบัติอย่างย่อยยับ ความวิบัติครั้งนี้จะมีจุดศูนย์กลางอยู่ที่นครนิวยอร์ก และจะส่งผลทำลายล้างออกไปภายในรัศมี 500 ไมล์ เมืองที่จะถูกทำลายในครั้งนี้รวมทั้งเมืองพิตต์สเบิร์กและเมืองฟิลาเดลเฟีย เมืองเหล่านี้จะถูกทำลายอย่างย่อยยับโดยไม่มีสิ่งใดเหลืออยู่เลย นอกจากผืนแผ่นดินอันเป็นที่ตั้งของเมืองเท่านั้น

    ที่มา http://www.rmutphysics.com/charud/specialnews/7/nostradamus/180-198/index183-184.htm<!-- text below generated by server. PLEASE REMOVE --><!--mstheme-->
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กันยายน 2010
  7. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>เตือน16จ.ฝนตกหนัก-แผ่นดินไหวอินโดฯ 5.4 </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>อุตุนิยมวิทยา ประกาศเตือนภัยฉบับที่ 13 ฝนตกหนัก-น้ำท่วม16จว.แผ่นดินไหว ในประเทศอินโดนีเซีย 5.4 ริคเตอร์


    วันนี้ 18 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศเตือนภัยฉบับที่ 13" ฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลัน" ร่องมรสุมกำลังค่อนข้างแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออก ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีฝนตกชุกหนาแน่นและมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย ที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงราย เชียงใหม่ ตาก สุโขทัย กำแพงเพชร พิษณุโลก พิจิตร เพชรบูรณ์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี นครสวรรค์ อุทัยธานี กาญจนบุรี และราชบุรี ระมัดระวังอันตรายจากสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากที่จะเกิดขึ้นในระยะนี้ ส่วนผู้ที่อาศัยตามที่ราบลุ่มบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง ยังคงต้องระมัดระวังอันตรายจากสภาวะน้ำล้นตลิ่งต่อไปอีก

    อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น “ฟานาปี” (FANAPI) บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิก มีแนวโน้มการเคลื่อนตัวเข้าใกล้เกาะไต้หวัน และประเทศจีนตอนใต้ในช่วง 1-2 วันนี้ ขอให้ผู้ที่จะเดินทางไปบริเวณดังกล่าวควรตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเดินทางด้วย

    กรมอุตุนิยมวิทยา รายงาน พบเกิดเหตุแผ่นดินไหว ในประเทศอินโดนีเซีย จุดศูนย์กลางแผ่นดินไหว วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 5.4 ริคเตอร์ ละติจูด : 3° 46' 12'' เหนือ ลองจิจูด : 126° 28' 12'' ตะวันออก ความลึกจากระดับผิวดิน : 20 กิโลเมตร


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>อังกฤษเตือนพลเมืองเลี่ยงใกล้แดงชุมนุมใหญ่</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>อังกฤษ เตือนพลเมืองเลี่ยงการเดินทางเข้าใกล้สถานที่ชุมนุมใหญ่ของคนเสื้อแดงในกรุงเทพฯ 19 ก.ย.นี้ ชี้อาจบายปลายกลายเป็นเหตุความรุนแรง
    <!--<iframe scrolling="no" src="fullURLmain/include/adsense/indetail.php" frameborder="0" height="266" width="250"></iframe>-->

    กระทรวงการต่างประเทศอังกฤษและเครือจักรภพ ออกประกาศเตือนพลเมือง ต่อเหตุการณ์การชุมนุม โดยกลุ่มผู้ประท้วงคน
    เสื้อแดง ที่จะทำการชุมนุมใหญ่ ในวันอาทิตย์นี้ ในเขตกรุงเทพมหานคร และจังหวัดเชียงใหม่ ในวาระครบรอบ 4 ปีรัฐประหาร


    โดยคำประกาศเตือน ได้ระบุว่า ชาวอังกฤษ ควรหลีกเลี่ยงการชุมนุมทั้งหมด หรือ การรวมตัวกันของ กลุ่มคนจำนวนมาก ซึ่งอาจจะเกิดเหตุการณ์ความรุนแรงขึ้น
    นอกจากนี้ ยังมีความเสี่ยงต่อภัยคุกคามจากความรุนแรง รวมทั้งเหตุระเบิดตลอดเวลาในช่วงเวลานี้ โดยเฉพาะเขตกรุงเทพมหานคร

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  8. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ก่อนจะเป็นพระปราโมทย์ ปาโมชโช </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE> คมชัดลึก : กลายเป็นเรื่องทอล์กออฟเดอะทาวน์ หลังถูกกลุ่มชาวพุทธรักศาสนาร้องเรียนต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ให้ตรวจสอบว่ามีพฤติการณ์สงสัยว่าจะมีการยักย้ายถ่ายเทเงินบริจาคซื้อที่ดินสำนักสงฆ์ 100 ล้านบาท เข้าบัญชีอดีตภรรยา ที่บวชชีอยู่สำนักสวนสันติธรรม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี



    "คม ชัด ลึก" จะย้อนกลับไปดูตัวตนก่อนจะเป็นพระปราโมทย์ ปาโมชโช ในวันนี้



    พระปราโมทย์ ปาโมชโช หรือชื่อเดิม ปราโมทย์ สันตยากร เคยเล่าชีวประวัติโดยย่อ สมัยที่ยังเป็นฆราวาส โดยโพสต์กระทู้ในเว็บไซต์ลานธรรม ใช้ชื่อว่า "สันตินันท์" เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2542

    "ผมเกิดเมื่อปี 2495 เป็นชาวจังหวัดพระนครโดยกำเนิด บ้านเกิดอยู่ที่ถนนบริพัตร ริมคลองโอ่งอ่าง อำเภอป้อมปราบฯ ตั้งแต่อายุ 3 เดือน แม่ก็พาเข้าวัดฟังธรรมไม่ได้ขาด (ความจริงแม่เขาฟัง ส่วนผมฟังไม่รู้เรื่องหรอก) วัดที่ไปก็ได้แก่วัดพระพิเรนทร์ (วัดเดิมของท่านเจ้าคุณประยุทธิ์) กับวัดโพธิ์ พออายุ 7 ขวบ พ่อก็พาไปวัดอโศการามของท่านพ่อลี ได้รับคำสอนในเรื่องอานาปานสติ ก็นำกลับมาปฏิบัติเองที่บ้าน และเนื่องจากอยู่ห่างอาจารย์และยังไม่มีสัมมาทิฐิ การปฏิบัติตั้งแต่เด็กจึงเป็นเรื่องการส่งจิตออกนอกทั้งสิ้น คือพอสงบแล้วก็เที่ยวออกรู้เห็นภายนอก หาสาระแก่นสารอะไรไม่ได้เลย"


    พระปราโมทย์จบชั้นประถมปลายที่โรงเรียนวัดพลับพลาชัย

    จากนั้นไปเรียนมัธยมที่โรงเรียนโยธินบูรณะ จบแล้วเรียนปริญญาตรี-โทที่คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ ในช่วงที่เรียนปริญญาตรีนั้น เข้าร่วมกิจกรรมกับศูนย์นิสิตโดยตลอด งานหลักไม่ใช่การเรียนหนังสือ แต่ได้แก่งานล้มรัฐบาลในช่วง 14 ตุลาคม หลังจากนั้นก็ออกชนบทในฐานะผู้ประสานงานของศูนย์นิสิต ซึ่งพระปราโมทย์ระบุว่า จะว่าเป็นบุญก็คงได้ เพราะชนบทที่เลือกไปนั้นคือภาคอีสาน นับจากนั้นเป็นต้นมาก็คุ้นเคยกับภาคอีสาน แล้วเป็นโอกาสให้เข้าไปศึกษาธรรมตามวัดป่าในเวลาต่อมา


    หลังเรียนจบพระปราโมทย์ ทำงานเป็นลูกจ้าง กอ.รมน. (2518-2521), เจ้าหน้าที่วิเคราะห์นโยบายและแผน 3-7 สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (2521-2535), ผู้ชำนาญการ 8-10 องค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย (2535-2544)

    พระปราโมทย์ ในนาม "สันตินันท์" ยังเล่าประวัติทางธรรมไว้อย่างน่าสนใจว่า "ช่วงต้นปี 2525 ได้อ่านอริยสัจจ์แห่งจิตของหลวงปู่ดูลย์ แล้วรู้สึกดูดดื่มอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน จึงขึ้นไปกราบท่านที่สุรินทร์เมื่อ 23 กุมภาพันธ์ 2525 หลังจากนั้นก็ปฏิบัติเรื่อยมาในสายพระป่า จากนั้นก็วนเวียนไปหาประสบการณ์ตามสำนักครูบาอาจารย์เป็นจำนวนมาก เช่น หลวงพ่อพุธ เจ้าคุณอริยเวที หลวงปู่สาม หลวงปู่เทสก์ หลวงปู่สิม หลวงปู่เหรียญ หลวงปู่บัวพา หลวงปู่หลุย หลวงปู่ชอบ หลวงตามหาบัว ท่านอาจารย์บุญจันทร์


    หลังจากรับราชการจนได้ชั้นพิเศษแล้ว พระปราโมทย์ระบุว่า เกิดเบื่อหน่ายในระบบราชการ ก็เลยลาออกมาเป็นผู้ใช้แรงงาน

    ทำหน้าที่รับจ้างวิเคราะห์งานไปวันหนึ่งๆ พอไม่ให้อดตาย เริ่มรู้จักอินเทอร์เน็ต เมื่ออายุมากแล้ว ครั้งแรกเข้าไปที่พันทิป ไปเจอกลุ่มนักเขียนเข้าก่อน แล้วต่อมาเจอกระทู้ "พบพระพุทธเจ้าให้ฆ่าพระพุทธเจ้า" ของอาจารย์วันวิสาข์ ก็เลยอยู่ในกระทู้ธรรมะเรื่อยๆ มา


    "อนาคตกะว่า ถ้าหมดภาระต้องเลี้ยงพ่อแล้วจะพาภรรยาออกบวชครับ เพื่อพยายามทำธุระชิ้นสุดท้ายที่ตั้งใจไว้ให้เสร็จเสียที" สันตินันท์ (19 ส.ค. 2542)


    พระปราโมทย์อุปสมบทครั้งแรกในสมัยที่ยังเป็นนักศึกษา ณ วัดชลประทานรังสฤษฏ์ จ.นนทบุรี หลวงพ่อปัญญา นันทภิกขุ เป็นพระอุปัชฌาย์, อุปสมบทครั้งที่ 2 ณ วัดบูรพาราม จ.สุรินทร์ เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2544 พระราชวรคุณ (สมศักดิ์ ปณฺฑิโต) เป็นพระอุปัชฌาย์ สถานที่จำพรรษา 5 พรรษาแรกอยู่ที่สวนโพธิญาณอรัญวาสี อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ของท่านพระอาจารย์สุจินต์ สุจิณโณ และพรรษาที่ 6 ณ สวนสันติธรรม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี


    ท่านยังเล่าประวัติไว้ใน "ธรรมเทศนา 4 วัน ในสวนสันติธรรม" ตอนหนึ่งว่า "ตอนทำงานอยู่สภาความมั่นคงฯ เป็นงานเครียด ตอนหลังเหนื่อยแล้ว ก็เลยย้ายมาอยู่องค์การโทรศัพท์ฯ งานสบายกว่ากัน การภาวนาพอเป็นฆราวาสเราก็ภาวนาอยู่ได้แค่นั้นแหละ มันไปต่อไม่ได้ มันห่วงเมียนะ จนกระทั่งมาบวช มาบวชแล้วการภาวนามันง่าย แต่ว่าไม่ใช่ต้องบวชนะ"


    พระปราโมทย์ เดิมมีภรรยาที่สมรสตามกฎหมายคือ นางอรนุช สันตยากร ภายหลังนางอรนุชได้ปลงผมมาปฏิบัติธรรมอยู่ที่สวนสันติธรรมด้วย แต่ยังไม่ได้หย่าขาดจากกัน เป็นเหตุที่ทำให้เกิดคำถามอยู่ในคำฟ้องร้องของ น.ส.ฐิตินาถ ณ พัทลุง นักเขียนชื่อดัง ถึงข้อสงสัยในการยักย้ายถ่ายเทเงินบริจาคซื้อที่ดินสำนักสงฆ์เข้าบัญชีอดีตภรรยาจนเป็นเรื่องราวในทุกวันนี้


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  9. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    เผย 400 คนไทย จะไปพิธีฮัจญ์ ถูกเรียกวีซ่าคืน

    [​IMG]
    ที่มูลนิธิเพื่อศูนย์กลางอิสลามแห่งประเทศไทย นายพิเชษฐ สถิรชวาล เลขาธิการคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ทราบจากกรมศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม ว่าวีซ่าของชาวไทยมุสลิมจำนวน 400 คน ที่จะเดินทางไปแสวงบุญประกอบพิธีฮัจญ์ มีกำหนดเดินทางวันที่ 9 ตุลาคมนี้ ทางสถานทูตซาอุฯ ขอเรียกคืนวีซ่ากลับไปไว้ที่สถานทูต โดยไม่ได้แจ้งสาเหตุ
    ทำให้เกรงว่าจะไม่สามารถเดินทางได้ตามกำหนด ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณอย่างหนึ่งว่าเรื่องดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับปัญหาการ แต่งตั้งโยกย้าย พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม เป็นผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติหรือไม่
    จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาโดยด่วน รวมถึง ส.ส.และ ส.ว.ที่เป็นชาวมุสลิมต้องเข้ามาร่วมแก้ปัญหาด้วย เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องการเมือง แต่นักการเมืองต้องเข้ามาแก้ปัญหา เพราะผลกระทบที่เกิดขึ้นไม่ได้มีเฉพาะเรื่องการเดินทาง แต่จะส่งผลต่อด้านธุรกิจ เช่น การจองที่พัก ตั๋วเครื่องบิน.
    สำนักข่าวไทย

    MThai SMS News : ข่าวด่วนถึงมือคุณ ทันทุกเหตุการณ์ ไม่พลาดทุกข่าวร้อน
    สนใจรับข่าวกด *48259080066 แล้วโทรออก ทดลองใช้ฟรี 15 วัน
    สอบถามเพิ่มเติมโทร 02-1007000


    ผวา! คาด อีก 7 ปี ภาคกลาง กลายเป็นเมืองบาดาล

    [​IMG]
    ผวา! คาด อีก 7 ปี ภาคกลาง กลายเป็นเมืองบาดาล
    ภาวะโลกร้อน ในปัจจุบันกำลังเป็นสาเหตุให้โลกของเราเคลื่อนเข้าสู่ภาวะวิกฤติ สอดคล้องกับคำให้สัมภาณ์ของ ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา อดีตนักวิทยาศาสตร์จากองค์การนาซ่า และผู้เชี่ยวชาญด้านภาวะโลกร้อน ที่กล่าวว่า
    อีก 7 ปีข้างหน้า หรือปี พ.ศ.2560 โลกจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ ปริมาณน้ำแข็งที่กำลังละลายมีมากขึ้น ปริมาณน้ำเหล่านี้จะไหลลงสู่ทะเลและมหาสมุทร ส่งผลให้แกนขั้วโลกมีการเปลี่ยนแปลงและเปลือกโลกเริ่มเคลื่อนไหวมากขึ้น
    ทั้งนี้ ประเทศไทยได้รับผลกระทบโดยตรงเช่นเดียวกัน คือ
    -ภาคกลางจะจมอยู่ใต้น้ำ เกิดสึนามิทางอ่าวไทยที่ไม่เคยเกิดขึ้น
    -ภาคเหนือ เกิดแผ่นดินไหวอย่างรุนแรงและบ่อยครั้งมากขึ้น โดยเฉพาะบริเวณรอยเลื่อนของเปลือกโลก แต่ความรุนแรงอาจไม่เกิน 6 ริกเตอร์

    อย่างไรก็ตาม ที่กล่าวมาข้างต้นเป็นเพียงการคาดการณ์ สิ่งที่สามารถป้องกันขณะนี้คือ หันมาช่วยเหลือกันมากขึ้น ลดการบริโภคนิยม ลดการฟุ่มเฟือยและใช้ชีวิตอย่างพอเพียง
    เรียบเรียงข่าวโดย Mthai news
     
  10. aossv

    aossv เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    80
    ค่าพลัง:
    +279
    อย่างงี้ถือเป็นการออกนอกคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าหรือ เปล่าครับ เคยได้ยินแต่ว่า ศีลคือแม่ของพระธรรม สมาธิจะทรงตัวได้ก้อเพราะศีลบริสุทธิ์ เมื่อ สมาธิทรงตัว ปัญญามันก้อ เกิด เมื่อปัญญาเกิด ก้อ สามารถตัดกิเลส เข้านิพพาน แล้ว สัจจะ ที่ว่านี้ คือ อะไรครับ ช่วยอธิบายขยายความหน่อย
     
  11. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    สาเหตุที่ทำให้ดวงอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตก

    [​IMG]

    จากคำพยากรณ์ของ อ.ปริญญา ตันสกุล ได้กล่าวถึงเหตุการณ์วันชำระโลกเอาไว้ว่า ดาวเคราะห์โลกจะค่อย ๆ ม้วนตัวก้มหัวเอาขั้วโลกเหนือ คว่ำลงแทนที่ตำแหน่งขั้วโลกใต้อย่างช้า ๆ โดยมีน้ำหนักจากขั้วโลกเหนือที่ไหลลงสู่ด้านล่าง และก้อนน้ำแข็งขนาดยักษ์ทางด้านขั้วโลกใต้ช่วยส่งเสริม กระบวนการทางเทคนิคนี้ให้แนบเนียนกลมกลืนยิ่งขึ้น ​

    เมื่อขั้วโลกเหนือย้ายตนเองไปสู่ขั้วโลกใต้แล้วก็จะค่อย ๆ พลิกม้วนตัวขึ้นเพื่อย้อนคืนสู่ตำแหน่งเดิมของตนต่อไป โดยไม่ย้อนรอยเดิม แนวแกนหมุนรอบตัวเองตำแหน่งใหม่ ในยุคพลังงานใหม่ก็คือ 22 องศากับแนวดิ่ง เพื่อสร้างฤดูกาลใหม่ที่สมดุลให้กับมนุษย์ยุคพลังงานใหม่แห่งโลกเสรี ระยะเวลาที่โลกม้วนตัวตีลังกาครบ 1 รอบ จะใช้เวลาดำเนินการทั้งสิ้น 30 วัน ​

    คำพยากรณ์นี้สอดคล้องกับคำทำนายของศาสนาอิสลาม ที่บอกเอาไว้ว่าในวันเกิดภัยพิบัติครั้งใหญ่นั้น ผู้คนจะได้เห็นพระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตก ซึ่งถ้าเกิดปรากฎการณ์โลกม้วนตัวตีลังกา เกิดขึ้นจริงก็จะทำให้ทิศต่างๆ เกิดการกลับด้านขึ้นเนื่องจากโลกหมุนผิดทิศทางไปจากเดิมนั่นเอง จึงทำให้ผู้คนมองเห็นว่าพระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตก ​

    ในปัจจุบันนี้นักวิทยาศาสตร์ก็กำลังค้นพบแล้วว่า สนามแม่เหล็กโลกกำลังพลิกกลับขั้วจากขั้วโลกเหนือเป็นขั้วโลกใต้อย่างช้าๆ ถ้าในวันข้างหน้าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วภายใน 30 วัน (ทำให้เกิดแผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิดพร้อมกันหลายๆ ลูก) ก็จะเป็นวันล้างโลกตามที่ได้ระบุไว้ในคำพยากรณ์โบราณอย่างไม่ต้องสงสัย ​

    สิ่งที่น่าจะเป็นสาเหตุทำให้โลกตีลังกา?

    [​IMG]
    ดาวหางมรณะ Nibiru
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กันยายน 2010
  12. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>"ขอนแก่น"เตือนระวังน้ำท่วม24ช.ม.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>ขอนแก่น - นายพยัต ชาญประเสริฐ รองผู้ว่าราชการรักษาราชการแทนผวจ.ขอนแก่น

    เป็นประธานแถลงข่าวการเตรียมพร้อมรับมือน้ำท่วม ดินถล่มในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น ซึ่งขอนแก่นมีพื้นที่เสี่ยงดินถล่มอยู่ใน อ.ภูผาม่าน ขณะนี้ทุกหมู่บ้านได้เตรียมพร้อมตลอด 24 ชั่วโมง ส่วนสถานการณ์น้ำเขื่อนอุบลรัตน์ถือว่ามีปริมาณสูงกว่าปีที่ผ่านมา แต่เป็นระดับที่สามารถควบคุมได้ อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ที่น่าเป็นห่วงหากมีมรสุมเข้ามาช่วงนี้ และฝากให้ประชาชนที่อยู่สองฝั่งลำน้ำชีและลำน้ำพองได้เฝ้าระวังและติดตามข่าวจากทางราชการตลอดเวลา

    ในช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากเข้าไปในพื้นที่ บ้านเรือนราษฎร

    จังหวัดขอนแก่นจึงได้ประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติฯ ตั้งแต่วันที่ 10 สิงหาคม ขณะนี้มีพื้นที่ประสบภัยครบทั้ง 26 อำเภอ จำนวน 173 ตำบล 1,535 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 693,756 คน ถนนชำรุดเสียหาย 756 สาย ฝายคอนกรีต 4 แห่ง พื้นที่การเกษตรเสียหาย 16,090 ไร่, บ่อปลา 357 บ่อ เสียหายร้ายแรง 2 อำเภอ คือ อำเภอแวงใหญ่และอำเภอชนบท มูลค่าความเสียหายเบื้องต้น 67 ล้านบาท การให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นเข้าช่วยที่อำเภอภูผาม่าน มีการมอบผ้าห่มถุงยังชีพรวมทั้งซ่อมแซมบ้านที่เสียหายใช้เงินสำรองราชการไปแล้ว 18 อำเภอ จำนวน 17.9 ล้านบาท

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>นายกฯ พบอุปทูตซาอุฯ เคลียร์ปมตั้ง“สมคิด” </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD class=A14 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD class=A14 vAlign=top>“มาร์ค” แวะบ้านพิษณุโลกพบอุปทูตซาอุฯ คาดเคลียร์ปมตั้ง “สมคิด” กระทบสายสัมพันธ์ไทย-ซาอุฯ


    วันนี้ 18 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 08.15 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ และ นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกฯ ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกฯ ได้เดินทางมายังบ้านพิษณุโลก เพื่อพบกับ นายนาบิล เอช. อัชรี อุปทูตซาอุดิอาระเบีย ประจำประเทศไทย เพื่อหารือถึงปัญหาการแต่งตั้ง พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 5 ที่เป็นผู้ต้องหาคดีการหายตัวไปของ นายมูฮัมหมัด อัลรูไวลี่ นักธุรกิจชาวซาอุดีอาระเบีย ให้ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งส่งผลกระทบความสัมพันธ์ระหว่างไทย-ซาอุดิอาระเบีย

    โดยล่าสุดมีข่าวว่า ส่งผลต่อการออกวีซ่าให้กับคนไทยที่จะเดินทางไปร่วมพิธีฮัจญ์ ที่ประเทศซาอุดิอาระเบีย

    และข่าวการเตรียมปิดสถานเอกอัครราชทูตซาอุดิอาระเบีย ประจำประเทศไทย ทั้งนี้ การหารือดังกล่าวใช้เวลาประมาณ 45 นาที จากนั้น นายกฯ ได้เดินทางออกจากบ้านพิษณุโลก เพื่อไปปฏิบัติภารกิจที่ทำเนียบรัฐบาล ขณะที่ อุปทูตซาอุดิอาระเบียฯ ไม่ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเช่นกัน.



    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>'อาร์พีจี'หาย! มาร์คฉุน จี้กองทัพเคลียร์</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD class=A14 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle>นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ</TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD class=A14 vAlign=top>นายกฯอภิสิทธิ์ ยอมรับ"อาร์พีจี"หายจากคลังแสง ฉุนสั่งกองทัพลากคอหนอนบ่อนไส้ ชี้การข่าวเตือนคนนอกสัญชาติเข้ามาป่วนในไทย ยืนยันพร้อมรับมือระวังป้องกัน มั่นใจควบคุมสถานการณ์ได้

    เมื่อวันที่ 17 ก.ย.นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวที่ลูกระสุนปืนอาวุธอาร์พีจีหายจากคลังแสงจ.ลพบุรี จำนวน 72 ลูกว่า ทราบข่าวมาระยะหนึ่งแล้ว ขณะนี้มีการตรวจสอบอยู่ แต่จำนวนอาวุธที่หายไปที่ฟังมาไม่ใช่ 72 ลูก ต้องให้ทางกองทัพเป็นผู้ชี้แจง

    "ผมพอทราบข่าวมาระยะหนึ่งแล้ว ของอย่างนี้เกิดขึ้นไม่ได้หรอกถ้าคนที่เป็นคนในไม่เกี่ยวข้อง กองทัพต้องตรวจสอบและดำเนินการเพราะเป็นเรื่องที่กระทบกระเทือน"นายกรัฐมนตรี กล่าว

    ผู้สื่อข่าวถามว่า พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร.เข้าพบในช่วงเช้า หารือเรื่องอะไรเป็นพิเศษหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ผบ.ตร.มาหารือเรื่องตอบกระทู้ถามในสภาฯ ไม่ได้รายงานสถานการณ์ แต่ทางศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน(ศอฉ.)ประชุมกันมีการเฝ้าระวังอยู่แล้ว

    เมื่อถามว่า พล.ร.อ.บรรณวิทย์ เก่งเรียน อดีตรองปลัดกระทรวงกลาโหม ระบุจะมีคนกัมพูชาเชื้อสายเวียดนามเข้ามาก่อเหตุในไทย การข่าวพบข้อมูลดังกล่าวหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทางหน่วยงานที่รับผิดชอบเขาติดตามข่าวคราวทำนองนี้อยู่แล้ว มันไม่ใช่พูดเฉพาะสัญชาติที่ว่า มีความเคลื่อนไหวอยู่หลายส่วนที่เราจับตาอยู่ ขอไม่ลงรายละเอียด แต่ย้ำอีกครั้งว่า การเคลื่อนไหวและข่าวคราวเหตุการณ์อย่างนี้ น่าจะเป็นการยืนยันได้เป็นอย่างดีว่า ยังมีกลุ่มคนซึ่งไม่ลดละในเรื่องการใช้ความรุนแรง เป็นสิ่งที่ทำให้เราจำเป็นที่จะต้องพยายามสื่อสารไปยังคนที่เคลื่อนไหว โดยไม่เชื่อในเรื่องความรุนแรงว่า จะทำอย่างไรที่จะป้องกันให้คนเหล่านี้ฉวยโอกาส ทั้งนี้ยืนยันควบคุมสถานการณ์ได้




    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  13. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    โรคไข้หวัดระบาดหนักขึ้นมากในหลายพื้นที่ทั่วโลกครับ

    ระวังรักษาสุขภาพกันเอาไว้ด้วยครับ

    มีข่าวว่าเข้าไประบาดในรัฐสภาแล้วครับ

    และตอนนี้มีเรื่องเล่าที่ลูกชายคุณหมอท่านหนึ่งซึ่งอายุเพียง 14ปี ป่วยเสียชีวิต หลังจากการป่วยเพียง 3 วันเท่านั้น

    เชื้อครั้งนี้เป็น เชื้อดื้อยาแล้วครับ ต้องใช้การแพทย์ผสมผสาน การแพทย์แบบองค์รวมเสริมในการรักษาดูแลสุขภาพ
     
  14. nut_20036

    nut_20036 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    185
    ค่าพลัง:
    +1,776
    <TABLE border=1 cellSpacing=0 borderColor=blue cellPadding=5 width=600 bgColor=white><TBODY><TR><TD bgColor=blue align=middle>Typhoon FANAPI (12W) Cat3 # 15 : ประกาศเตือนภัย เรื่อง “ไต้ฝุ่น FANAPI (ฟานาปี/12W) ระดับ 3” ฉบั </TD></TR><TR><TD>
    <TABLE border=0 width=590 align=center><TBODY><TR><TD>Typhoon FANAPI (12W) Cat3 # 15 : ประกาศเตือนภัย เรื่อง “ไต้ฝุ่น FANAPI (ฟานาปี/12W) ระดับ 3” ฉบับที่ 15
    ประกาศศูนย์ร่วมการเตือนภัยไต้ฝุ่น ฮาวาย, สหรัฐฯ (Joint Typhoon Warning Center หรือ JTWC )
    สภาวะโดยทั่วไปของพายุหมุนเขตร้อนเมื่อเวลา 13.00น.
    ประจำวันที่ 18 กันยายน 2553 ออกประกาศเวลา 16.00 น. ตามเวลาประเทศไทย

    ภาพถ่ายดาวเทียมบริเวณมหาสมุทรแปซิฟิคด้านตะวันตกตอนเหนือ ทะเลจีนใต้ และอ่าวไทย วันที่ 18 กันยายน 2553 / 15.01 น. ปรากฎพายุหมุนเขตร้อน 1 ลูก / หย่อมความกดอากาศต่ำ 1 ลูก
    1)Typhoon FANAPI (12W,23.8N 124.8E,105kts) : เมื่อเวลา 13.00น.วันนี้(18ก.ย.2553) ไต้ฝุ่น FANAPI (ฟานาปี/12W) ระดับ 2 ซึ่งมีศูนย์กลางปกคลุมทะเลจีนตะวันออก ล่าสุดได้ทวีกำลังเป็นไต้ฝุ่นระดับ 3 แล้ว อยู่ที่ละติจูด 23.8องศาเหนือ ลองจิจูด 124.8 องศาตะวันออก หรือมีศูนย์กลางอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้จากกรุงไทเป ประเทศไต้หวัน ห่ างประมาณ 407 กิโลเมตร. กำลังเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกค่อนทางเหนือเล็กน้อยด้วยความเร็ว 8 นอต(15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) เมื่อ 6 ชั่วโมงที่ผ่านมาอย่างช้าๆ. มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 105 นอต(195 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) ลมกระโชกแรงสูงสุดประมาณ 130นอต(241 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) ความกดอากาศที่พื้นผิวน้ำทะเลประมาณ 944 มิลลิบาร์ คลื่นทะเลสูงสุดประมาณ 8 เมตรในช่วง 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา... ภาพถ่ายดาวเทียมเคลื่อนไหวหลายระบบและภาพเรดาร์ จากอิชิกาคิจิม่า ประเทศญี่ปุ่นชี้ให้เห็นว่าตาพายุมีความกว้าง 19 กิโลเมตรประกอบกับมีการก่อตัวของพายุฝนฟ้าคะนองอย่างรุนแรงบริเวณใจกลางและกำแพงตาพายุ. ตำแหน่งของพายุล่าสุดมีความเชื่อถือสูงอ้างอิงจากตาพายุที่ชัดเจนในภาพถ่ายระบบ VIS และจากภาพเคลื่อนไหวเรดาร์. ความรุนแรงของพายุล่าสุดอ้างอิงตามมาตรวัด DVORAK จากหน่วย RJTD PGTW และ KNES ที่ 90-102 นอต รวมถึงข้อมูลตาพายุจาก PGUA เมื่อช่วง 09.49น.(18ก.ย.53) ที่ชี้ให้เห็นว่าความเร็วลมที่พื้นผิวประมาณ 105 นอต. รัศมีลมมีความเชื่อถือปานกลาง จากข้อมูลของ ดอตสตาร์ และจากการสำรวจ ณ อิชิกาคิจิม่า ***งออกไปทางตะวันออกเฉียงใต้จากพายุ เมื่อช่วง 14.00น./18ก.ย. ชี้ให้เห็นว่าทางด้านเหนือของพายุมีกระแสลมพัด 44 นอต ลมกระโชกแรง 61 นอต และมีความกดอากาศที่ 987 มิลลิบาร์. จากภาพถ่ายระบบความหน่าแน่นของปริมาณไอน้ำ แสดงให้เห็นว่าที่ระดับชั้นกลางของพายุมีการแผ่ขยายออกไปต่อเนื่องมากขึ้น, อย่างไรก็ตามการคลายตัวที่ขั้วพายุค่อนข้างอ่อนกำลังลงเนื่องจากการแผ่ของกระแสลมที่มีกำลังแรงขึ้นพัดผ่านมาจากเขตละติจูดกลางพัดไปทางตะวันออก. ที่ลมระดับชั้นบนเผยว่ากระแสลมในแนวดิ่งที่พัดมาจากทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือของพายุมีกำลังแรงขึ้นประมาณ 15-20 นอตเนื่องจากอิทธิพลของกระแสลมแอนติไซโคลนทางด้านเหนือของพายุ . / คาด ไต้ฝุ่น FANAPI (ฟานาปี/12W) ระดับ 3 จะมีทิศทางเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกมากขึ้นในอีก 12-24 ชั่วโมงข้างหน้าตามปลายลิ่มความกดอากาศสูงเหนือเขตร้อนที่พัดปกคลุมบริเวณด้านตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศจีน. คาดว่าพายุนี้จะทวีกำลังแรงขึ้นอีกอย่างช้าๆก่อนที่จะเคลื่อนผ่านเกาะไต้หวันในอีก 24 ชั่วโมงข้างหน้าหรือช่วงประมาณ 13.00น.พรุ่งนี้(19ก.ย.53) . โดยในช่วง 36 ชั่วโมงข้างหน้าหรือช่วงประมาณ 01.00น.(20ก.ย.53) คาดว่าจะเคลื่อนเข้าสู่ชายฝั่งประเทศจีนด้านตะวันออก จากนั้นจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อน ดีเปรสชันอย่างรวดเร็ว และสลายตัวในระยะต่อไป… : ประกาศศูนย์ร่วมการเตือนภัยไต้ฝุ่น (Joint Typhoon Warning Center หรือ JTWC )

    2)Tropical Disturbance 90W (16.2N 154.0E,15kts) : เมื่อเวลา 13.00น.วันนี้(18ก.ย.2553) หย่อมความกดอากาศต่ำ 90W มีศูนย์กลางปกคลุมกลางทะเลแปซิฟิค อยู่ที่ละติจูด 16.2องศาเหนือ ลองจิจูด 154.0 องศาตะวันออก หรือมีศูนย์กลางอยู่ทางทิศตะวันออกจากเกาะกวม ประเทศสหรัฐฯ ห่ างประมาณ - กิโลเมตร. กำลังเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกด้วยความเร็ว 5 นอต(9 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) เมื่อ 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา . มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 15 นอต(28 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) ลมกระโชกแรงสูงสุดประมาณ 25นอต(46 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) ความกดอากาศที่พื้นผิวน้ำทะเลประมาณ 1010 มิลลิบาร์ คลื่นทะเลสูงสุดประมาณ - เมตรในช่วง 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา... / คาด หย่อมความกดอากาศต่ำ 90W จะมีทิศทางเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกต่อไปอีก 12-24 ชั่วโมงข้างหน้า ยังไม่มีแนวโน้มทวีกำลังเป็นพายุหมุนเขตร้อนใน 48-72 ชั่วโมงนี้ : ประกาศศูนย์ร่วมการเตือนภัยไต้ฝุ่น (Joint Typhoon Warning Center หรือ JTWC )

    <เพิ่มเติม/ความเห็น> พายุทั้งหมดไม่มีแนวโน้มเคลื่อนเข้าไทย …. ร่องความกดอากาศต่ำกำลังค่อนข้างแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออก เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำ บริเวณทะเลจีนใต้ ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีฝนตกชุกหนาแน่นและมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย ที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงราย เชียงใหม่ ตาก สุโขทัย กำแพงเพชร พิษณุโลก พิจิตร เพชรบูรณ์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี นครสวรรค์ อุทัยธานี กาญจนบุรี และราชบุรี ระมัดระวังอันตรายจากสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากที่จะเกิดขึ้นในระยะนี้ ส่วนผู้ที่อาศัยตามที่ราบลุ่มบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง ยังคงต้องระมัดระวังอันตรายจากสภาวะน้ำล้นตลิ่งต่อไปอีก …. … ส่วน 90W มีแนวโน้มเคลื่อนตัวไปยังประเทศญี่ปุ่น …. ปีนี้นับตั้งแต่กรกฎาคม เป็นปีที่ร่องความกดอากาศต่ำพาดผ่านประเทศไทยตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำ เป็นจำนวนมากและนานต่อเนื่องมากกว่าปกติ ทั้งนี้เนื่องจากอิทธิพลปรากฎการณ์ลานีญามีกำลังแรงขึ้น ลักษณะเช่นนี้ทำให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมประเทศไทย อ่าวไทย และทะเลจีนใต้ โดยเฉลี่ยมีกำลังค่อนข้างแรงติดต่อ ต่อเนื่องและนานกว่าปกติ จะส่งผลให้หย่อมความกดอากาศต่ำที่ก่อตัวบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลางถึงตอนล่างมีแนวโน้มสูงที่จะทวีกำลังเป็นพายุหมุนเขตร้อน และอาจเคลื่อนตัวเข้าสู่อ่าวไทย ภาคใต้ของประเทศไทยช่วงประมาณ ตุลาคม 2553 – มกราคม 2554. จึงขอให้ติดตามอย่างใกล้ชิด / สำหรับวงสีเขียวคือบริเวณที่มีแนวโน้มพัฒนาเป็นพายุหมุนเขตร้อนในอนาคต (ถ้ามี)
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]
     
  15. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,704
    ค่าพลัง:
    +51,933
    *** สัจจะ คือ ธรรมเที่ยง ****

    สัจจะ...ไม่ได้ออกนอกคำสอนพระพุทธเจ้า
    เพราะ พระพุทธเจ้าสอนให้ปลดลดกิเลสนิสัย มานะทิฐิ ความเชื่อผิดๆ ด้วยสัจจะ เพื่อนำตนเองหลุดพ้นทุกข์ มีข้อสัจจะปลดลดนิสัยตนเองในแต่ละวัน
    สัจจะ คือ ธรรมของโลกุตตระ
    ศีล มีอยู่ก่อนพระพุทธเจ้าพระโคดมตรัสรู้สัจจะธรรม
    ปู่ย่าตายายของพระพุทธเจ้า ถือศีลมาก่อนพระพุทธเจ้าพระโคดมประสูติ
    สิ่งที่เราอ่านในปัจจุบัน ไม่ตรงความจริง
    เราถือศีลมาหลายสิบปีแล้ว แต่นิสัยสันดาน ความเชื่อ มานะทิฐิ ก็ไม่หมดสิ้นสักที
    จนเรามาพบสัจจะ ได้ปฏิบัติเอง เห็นผลเอง รู้ตัวได้เอง
    ผู้ที่ไม่เชื่อสัจจะ ก็อาจจะเสียใจภายหลัง ที่เราเตือนแล้วแต่มีทิฐิมานะไม่เชื่อเอง
    ตอนนี้...สุดสายป่านแล้ว จะเอาอะไรไปเหนี่ยวไปรั้งไม่ได้อีกแล้ว
    ต่อไปนี้ เป็นเรื่องส่วนบุคคล โลกเขาช่วยผู้มีสัจจะ อยู่ที่ไหนก็รอดพ้นภัย

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  16. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,704
    ค่าพลัง:
    +51,933
    *** ความจริงปรากฏ ****

    ศาสนศาสตร์โลก ...มีหนึ่งเดียว
    โลกุตตระธรรม....นำพาสัตว์โลกหลุดพ้นทุกข์

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "




     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กันยายน 2010
  17. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    ตำนานดาวนิบิรุมาเยือนโลกเมื่อครั้งอดีตกาล...
    (เป็นเรื่องของตำนาน ท่านผู้อ่านโปรดใช้วิจารณญาน)

    [​IMG]

    [​IMG]

    เมื่อกาลครั้งหนึ่งในอดีตประมาณ 500,000 ปี ล่วงมาแล้ว โลกของเราหรืออีกนามหนึ่ง"เทียมัต" เป็นสถานที่ที่ต่างจากปัจจุบันอย่างสิ้นเชิง ชื่อเทียมัตนี้เป็นชื่อดั้งเดิม ส่วนคำว่าโลกหรือไกอาเป็นชื่อที่เพิ่งใช้เมื่อเร็วๆ นี้

    เมื่อ 500,000 ปีก่อนเทียมัตไม่ได้อยู่ในตำแหน่งที่อยู่ในปัจจุบันนี้ วงโคจรของมันอยู่ห่างจากดวงอาทิตย์คือ ณ ตำแหน่งระหว่างดาวอังคารกับดาวพฤหัสบดี ส่วนดาวอังคารนั้นจะโคจรรอบดวงอาทิตย์ในระยะที่ใกล้กว่าปัจจุบันนี้ซึ่งทำให้ดาวอังคารเหมาะที่จะใช้อยู่อาศัยได้เพราะมีอุณหภูมิพอเหมาะและมีน้ำในรูปของของเหลว ข้อมูลเหล่านี้ได้รับการยืนยันจากทางนาซาและนักวิทยาศาสตร์ ยกเว้นก็แต่เรื่องวงโคจรที่แตกต่างจากปัจจุบัน ทั้งนี้เพราะกลุ่มนักวิทยาศาสตร์โดยทั่วไปไม่ยอมรับเรื่องการวิวัฒนาการโดยสิ่งกระตุ้น

    ในช่วงนั้นเทียมัตอยู่ใกล้กับดาวซิริอุส (หรือโซทิสตามที่ชาวอียิปต์โบราณเรียกขาน) ระบบสุริยะและระบบดาวซิริอุสนั้นมีความเกี่ยวโยงกันทางด้านแรงโน้มถ่วงซึ่งข้อเท็จจริงเรื่องนี้เริ่มได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในแวดวงวิทยาศาสตร์ ระบบซิริแอนนี้จะโคจรรอบดาวฤกษ์อคลีออนในกระจุกดาวลูกไก่ (พีลอาดีส) หรือที่จะเรียกขานว่าเขตพีลอาดีส พื้นที่อันกว้างใหญ่นี้จะโคจรรอบศูนย์กลางกาแลกซี่ในทิศทางของกลุ่มดาวคนยิงธนู (Sagittarius) ในรอบระยะประมาณ 200 ล้านปี และรอบการโคจรของระบบซิริแอนและเขตพีลอาดีสจะมาบรจจบอยู่ในแนวเดียวกับศูนย์กลางกาแลกซี่ในวันที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2555 (ค.ศ.2012) โปรดเตรียมพร้อมสำหรับสิ่งเหนือความคาดหมาย!!!

    วกกลับมาคุยถึงเรื่องประวัติของนิบิรุ และ เทียมัต โลกของเราในช่วงนั้นมีสภาวะอากาศที่หนาวเย็นกว่าปัจจุบันมาก ประชากรมนุษย์ในยุคนั้นตามที่นักโบราณคดีเรียกคือมนุษย์นีแอนเดอทัลจะมีขนดกหนาและสันทัด ล่ำสันกว่าพวกเราในปัจจุบัน พวกเขาล้วนอาศัยอยู่ในโพรงถ้ำเพื่ออาศัยประโยชน์จากความอบอุ่นจากพื้นพิภพ เหล่าชาวพิภพแห่งเทียมัตนี้สืบเชื้อสายมาจากบรรพบุรุษจากพีลอาดีสซึ่งข้อเท็จจริงนี้สามารถยืนยันได้จากตำนานและนิทานปรัมปราของหลายชนชาติ เช่นชาวมายาและชาวโพลีนิเชีย แต่ในที่นี้จะขอเว้นที่กล่าวถึงจุดกำเนิดของชาวพีลอาดีสบนเทียมัตไว้ก่อน

    เมื่อ 500,000 ปีก่อนระบบสุริยะนั้นมีเสถียรภาพแต่เนื่องด้วยเหตุเหนือความคาดหมาย ดาวเคราะห์ขนาดใหญ่ดวงหนึ่งในระบบดาวซิริแอนได้เกิดพลัดออกนอกแนวทางโคจรและมุ่งเข้าสู่ระบบสุริยะ ซึ่งดาวเคราะห์นี้ได้ถูกจับไว้เป็นบริวารของระบบสุริยะโดยที่มีวงโคจรที่รีคล้ายวงโคจรของดาวหางซึ่งมีคาบการโคจรหนึ่งรอบในเวลา 3,600 ปี และมีระยะห่างจากดวงอาทิตย์ที่สุดในบริเวณกลุ่มเฆมออร์ด โดยที่คาดกันว่าดาวเคราะห์ดวงนี้มีขนาดประมาณดาวเนปจูน ประชากรบนดาวนี้จะมีลักษณะคล้ายสัตว์เลื้อยคลานที่ปกครองโดยชนชั้นปกครองที่เรียกว่า “เนฟิลิม” (ข้อมูลเพิ่มเติมสามารถหาอ่านได้จากพระคริสต์ธรรมคำภีร์) ประชาชนทั่วไปจะเป็นที่รู้จักกันในนาม “อนูนากิ” (Anunaki ตามที่เรียกขานโดยชาวสุเมเรียน) หรือ”อนาคิม” (ในพระคัมภีร์เก่า) ในช่วงนั้นผู้ปกครองสูงสุดคือจักรพรรดิ์ อลาลู และจักรพรรดินี ลิลิตู

    ภายหลังที่ถูกจับเป็นบริวารโดยดวงอาทิตย์ดาวเคราะห์นิบิรุได้เริ่มประสบกับภาวะสภาพอากาศที่ไม่เหมาะกับการอยู่อาศัย สภาผู้ปกครองทั้งสิบสองนำโดยจักรพรรดิ์อลาลูได้มีการประชุมฉุกเฉินและได้สรุปถึงวิธีป้องกันเพื่อความอยู่รอดของดาวเคราะห์โดยการสร้างโล่ห์ความร้อนที่ทำขึ้นมาจากทองเพื่อปกป้องชั้นบรรยากาศจากการสูญเสียความร้อนซึ่งจะเป็นผลร้ายต่อสิ่งมีชีวิตแบบสัตว์เลื้อยคลานที่ต้องขึ้นกับแหล่งความร้อนภายนอกเพื่อให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย พวกเขาได้เริ่มทำการสำรวจระบบสุริยะใหม่นี้ทันที กองยานอวกาศได้ถูกส่งไปยังดาวเคราะห์ต่างๆ รวมทั้งเทียมัตเพื่อค้นหาทอง

    ผู้บังคับการมกุฏราชกุมาร อนู พร้อมทั้งราชโอรสทั้งสอง เอนกิ และ เอนลิล และราชธิดา นินคูซัคได้ร่อนลงในบริเวณที่ปัจจุบันคืออ่าวเปอร์เซียและย่างเท้าบนฝั่งในดินแดนที่ปัจจุบันคือประเทศคูเวต ในที่สุดก็ได้ก่อตั้งท่าจอดยานอวกาศในบริเวณเมโสโปเตเมียในตำแหน่งที่มีตำนานว่าเป็นสวนอีเดน โดยความช่วยเหลือชาวพื้นเมืองเทียมัตพวกเขาได้พบกับขุมทองบนเทียมัตและสามารถนำทองนี้เป็นสร้างเป็นโลห์กักความร้อนได้สำเร็จ อย่างไรก็ดีโลห์นี้มีความจำเป็นต้องได้รับการดูแลบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอ นี้จึงเป็นเหตุที่ต้องมีชาวอนูนากิประจำอยู่บนเทียมัตเพื่อทำหน้าที่ขุดทองและส่งทองกลับไปยังนิบิรุอย่างสม่ำเสมอ
    ครั้งนึงอันแสนเนิ่นนานมาแล้วในช่วงที่นิบิรุโคจรรอบบดวงอาทิตย์มีอยู่ครั้งหนึ่งประมาณราวๆ 26,000 ปีของเทียมัตนิบิรุได้โคจรเฉียดเข้าใกล้เทียมัตมากจนก่ออันตรายร้ายแรง หนึ่งในดวงจันทร์บริวารได้พุ่งชนเข้ากับเทียมัตทำให้เกิดมหาสมุทรแปซิฟิค และได้ทำให้ทวีปเลอมูเกิดการเปลี่ยนแปลง

    ลักษณะของประชากรนิริบุจะมีความสูงในราว 10 – 20 ฟุต (3 – 6 เมตร) มีผมดกหลายสี แต่ขนตามตัวจะมีน้อยมากเพศผู้จะมีหนวดเคราบ้าง และส่วนมากจะมีเขาคล้ายเขาแพะบนศีรษะ ส่วนเพศหญิงส่วนมากจะมีปีก พวกเขาจะไม่มีเหงื่อและไม่มีกลิ่นตัวซึ่งนี่เองเป็นเหตุผลที่พวกเขาไม่ได้ให้ชาวพื้นเมืองเทียมัตทำหน้าที่ขุดทองหรืออยู่ใกล้กับพวกเขาเพราะพวกเขารู้สึกว่าพวกชนพื้นเมืองนี้มีกลิ่นตัวแรง ชาวนิริบุมีนิ้วมือนิ้วเท้าข้างละเจ็ดนิ้ว อาหารของพวกเขามักจะเป็นอาหารเหลว และนิยมแต่งตัวด้วยเครื่องแต่งตัวที่ทำมาจากแผ่นทอง เมื่อเวลาผ่านไปคนงานชาวเหมืองเริ่มกระด้างกระเดื่องจนในที่สุดได้นำไปสู่การปฏิวัติและปฏิเสธการทำเหมือง

    องค์จักรพรรดิ์อนู จึงได้ปรึกษากับราชินีนันคูซัคซึ่งราชินีนี้ได้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าเจ้าหน้าที่การแพทย์และพันธุศาสตร์ จักรพรรดิ์ได้ขอร้องให้ราชินีสร้างสิ่งมีมีชีวิตลูกผสมระหว่างชาวนิริบุกับชาวเทียมัต เพื่อทำหน้าที่เป็นแรงงานในเหมืองทอง องค์ราชินีได้ทรงรับหน้าที่ด้วยความรู้สึกท้าท้ายและในที่สุดก็ได้เป็นสิ่งมีชีวิตลูกผสมเพศชายจากไข่ของหญิงเทียมัติกับเชื้ออสุจิของเจ้าชายเอนกิ ราชินีเรียกลูกผสมนี้ว่า “อดามู/ อดัม” ในเบื้องต้นลูกผสมนี้มีแต่เพศชายทั้งสิ้น โดยที่ชาวนิริบุเพศหญิงจำนวนหนึ่งทำหน้าที่อุ้มท้อง และเป็นที่เรียกขานผู้ที่ทำหน้าที่เหล่านี้ว่า “เทพีแห่งการเกิด”

    และทุกอย่างก็ดำเนินไปด้วยดี นิริบุมีทอง ชาวอนูนากิเป็นอิสระจากการทำเหมือง ส่วนลูกผสมจำลองก็ได้รับการผลิตเพื่อให้เป็นแรงงานเหมืองที่ดีเลิศ แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์ดังที่เคยเกิดในอดีต บรรดาเทพีแห่งการเกิดเริ่มรู้สึกเหลือทนกับการต้องมาอุ้มท้องพวกอดามู ดังนั้นชาวนิบิรุจึงได้ประท้วงและปฏิเสธที่จะอุ้มท้องอีกต่อไป ครั้งนี้จักรพรรดิ์อนูรับสั่งให้ราชินีเข้าเฝ้าและหลังจากนั้นก็ได้ข้อสรุปว่าให้สร้างลูกผสมที่เป็นเพศหญิง (อีวา/อีฟ) เพื่อให้ทั้งสองเพศได้ผสมพันธุ์กันเองในธรรมชาติ ซึ่งแน่นอนว่าน่าจะเป็นสิ่งที่ง่ายดาย

    แต่ปรากฏว่าเพศทั้งสองนั้นเป็นหมันเนื่องจากว่าทั้งสองเพศเป็นลูกผสม ดังนั้นจักรพรรดิ์จึงได้มีกระแสรับสั่งให้เลิกกระบวนการที่ทำให้สิ่งมีชีวิตนี้เป็นลูกผสม ครั้งนี้ราชนีนินคูซัคได้ขอให้เจ้าชายเอนกิดำเนินการแทน เจ้าชายจึงให้ทั้งอดัมและอีฟกินสารบางอย่างเพื่อกลับกระบวนการที่ทำกับสิ่งมีชีวิต โดยหวังให้สิ่งมีชีวิตนี้มีลักษณะลูกผสมน้อยลง สิ่งมีชีวิตทั้งคู่ได้ลอกคราบผิวหนังชั้นนอกที่มีลักษณะของสัตว์เลื้อยคลานและเริ่มต้นจับคู่ผสมพันธุ์ แต่แล้วพระองค์ก็ได้ทรงทราบว่าสิ่งที่ทำไปเป็นความผิดพลาดอย่างร้ายแรงเพราะกระบวนการนี้ทำให้ไม่สามารถควบคุมสิ่งมีชีวิตนี้ได้ จักรพรรดิ์อนูจึงได้สั่งห้ามอดัมและอีฟเข้าไปในสวนอีเดนตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

    ด้วยเหตุนี้มนุษย์โครมันยองได้ถือกำเนิดขึ้นเมื่อประมาณ 20,000 ปีก่อน ส่วนมนุษย์นีแอนเดอทัลก็ได้ค่อยๆ ล้มตายลงไปโดยที่ไม่อาจหยุดยั้งได้อันเนื่องมาจากอากาศที่อบอุ่นขึ้นเนื่องจากโลกอยู่ใกล้ดวงอาทิตย์มากขึ้น และในที่สุดเมื่อประมาณ 10,000 ปีมนุษย์นีแอนเดอทัลก็ได้สูญพันธุ์จนหมดสิ้นเหลือแต่เพียงมนุษย์โคมันยองที่ครอบครองเทียมัต

    ในหนังสือเรื่องแผนร้ายสายรุ้ง (The Rainbow Conspiracy) แบรด สไตเกอร์ได้เขียนถึงโครงการทดลองฟิลาเดเฟียที่ซึ่งประธานาธิบดี แฟรงกลิน ดีลาโน รูสเวลล์ ได้พบกับมนุษย์ต่างดาวที่มีลักษณะเหมือนมนุษย์ในปีช่วงประมาณปี พ.ศ. 2473 – พ.ศ. 2483 พวกมนุษย์ต่างดาวนี้จะมีผิวกายสีเขียว และเพื่อที่จะให้ไม่เป็นที่สังเกตพวกเขาใช้สารฟอกสีเพื่อทำให้สีกายของพวกเขามีสีอ่อนลง อย่างไรก็ดีดูเหมือนจะมีความสอดคล้องกันของรูปวาดเก่าแก่ถึงพระเจ้าในอินเดียที่พระเจ้าที่มีลักษณะเหมือนมนุษย์ มีผิวกายในสีโทนน้ำเงิน ซึ่งหากสังเกตให้ดีพวกกิ่งก่า ตะกวด และจิ้งเหลนจะมีสีผิวในทำนองนี้ ที่มีผิวอ่อนนุ่ม ละเอียดเหมือนไหม

    นอกจากนี้ข่าวที่มีการรายงานทางโทรทัศน์ยังชี้ว่าคณะแพทย์ที่พยายามจะรักษาผู้ป่วยโดยการหาทางรักษาบาดแผลทางผิวหนังของผู้ป่วยพบว่าผิวหนังของงูนี้คล้ายคลึงกับของมนุษย์มาก ที่จริงแล้วผิวหนังที่ใช้ในการรักษาบาดแผลวิธีนี้เป็นหนังงูเลยทีเดียว ซึ่งนี่แสดงให้เห็นถึงความเกี่ยวข้องกันของมนุษย์และสัตว์เลื้อยคลาน และกระบวนการย้อนกลับของการทำพันธุวิศวกรรมมนุษย์ ซึ่งกระบวนการย้อนกลับของอดัมและอีฟ ทำให้สิ่งที่สละทิ้งกลับรวมเป็นรูปใหม่กลายเป็นงู และอาจจะอนุมานได้ว่าชาวนิริบุก็อาจจะมีความสามารถในการเปลี่ยนสีผิวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมได้เช่นเดียวกับสัตว์เลื้อยคลานจำพวกกิ้งก่า หรือจิ้งเหลน โปรดศึกษางานเขียนของ อาร์ เอ บัวเลย์ (R.A. Boulay) ในหนังสือเรื่องเล่าของงูและมังกรบิน (Flying Serpents and Dragons)

    เรื่องที่ต่อจากนั้นเป็นเรื่องที่มีบันทึกในประวัติศาสตร์ของเราเอง คือครั้งหนึ่งนิริบุได้เฉียดเข้าใกล้เทียมัตและทำให้เกิดภัยภิบัติทั้งน้ำท่วมและแผ่นดินไหวไปทั่วโลก ซึ่งในครั้งนี้สวนอีเดนและท่าจอดยานอวกาศได้จมไปในน้ำและถูกทำลายไปจนสิ้น เจ้าชายอูตูแห่งเนฟิลิมจึงได้รับบัญชาให้สร้างสถานีจอดยานอวกาศขึ้นใหม่ในบริเวณแหลมไซนาย และวิถีชีวิตบนเทียมัตก็ดำเนินไปตามปกติอีกครั้ง แต่ในไม่นานก็ได้เกิดสงครามปิรามิดขึ้น

    พระราชกุมารีเจ้าฟ้าหญิงอินันนาซึ่งเป็นหนึ่งในที่รักยิ่งของจักรพรรดิ์อนูได้รับพระบัญชาให้เป็นผู้ปกครองดูแลบริเวณที่เป็นอินเดียและเนปาลในปัจจุบัน พระองค์มีพระนามอีกพระนามคือพระลักษมี ซึ่งเป็นพระนามที่ได้รับการสักการะนับถืออยู่จนถึงปัจจุบัน ด้วยเหตุที่พระสวามีคือดยุคดูมูซิ (พระวิษณุหรือเปล่า)ได้มีเรื่องทะเลาะกับบารอนมาดุคจนในที่สุดได้นำไปสู่สงครามปิรามิด ในสงครามชิงอำนาจระหว่างพระราชกุมารีอินันนาและดยุคดูมูซิกับบารอนมาดุคและบารอนเนสศาพานิต ดยุคดูมูซิได้ถูกสังหาร

    ทำให้เจ้าชายอูตู และพระราชกุมารีอินันนาตัดสินใจทำสิ่งที่ไม่บังควรโดยการทำลายท่าเทียบยานอวกาศที่แหลมไซนายพร้อมทั้งศูนย์วิจัยและผักผ่อนคือเมืองบริวารโซดอมและโกโมราซด้วย (The satellite R&R cities ไม่ทราบว่า R&R แทนอะไรอาจจะเป็น Research and Development หรือ Research and Recreation) ทำให้เหมืองทองในเขตแอฟาริกาใต้เข้าสู่ความวุ่นวายด้วยเมื่อดยุคเนกอลและดัสเชสอีเรสกิกอลเข้าเป็นพันธมิตรกับบารอนมาดุค และทำให้เกิดความวุ่นวายในคณะผู้ปกครองแห่งเนฟิลิม

    จักรพรรดิ์อนูจึงจำต้องโปรดให้สร้างสถานีจอดยานอวกาศขึ้นใหม่โดยครั้งนี้พระองค์มีพระบัญชาให้เจ้าชายเอนกิและเจ้าหญิงนินกิเป็นผู้ดูแล ทั้งสองพระองค์จึงได้ย้ายสถานที่ไปเป็นบริเวณทะเลสาบติติคาคา (Titicaca Lake) ในเปรู และที่ตรงนี้ก็คือบริเวณที่ราบนาซคาซึ่งมีทองคำจำนวนมหาศาลอยู่ในเทือกเขาแอนดีส ดังนั้นศูนย์การผลิตทองที่แอฟริกาใต้จึงถูกย้ายไปที่ทะเลสาบติติคาคาด้วย

    และนี่ก็เป็นเรื่องในอดีตหลายพันหลายหมื่นปีก่อน ซึ่งก็ไม่เป็นที่แน่ชัดว่าทำไมชาวนิริบุจึงดูเหมือนจะทิ้งเทียมัตไว้ อาจจะเป็นไปได้ว่าโลห์กักความร้อนนั้นสามารถคงรูปได้อย่างถาวรแล้วทำให้พวกเขาไม่มีความจำเป็นต้องใช้ทองจากเทียมัตอีกต่อไป ครั้งสุดท้ายที่ดาวเคราะห์พวกเขาเฉียดใกล้เทียมัตคือในปี 687 ก่อนคริสต์กาล แต่แน่นนอนถึงแม้ดาวเคราะห์ของพวกเขาจะมุ่งหน้าไปสู่การหลับไหลที่ยาวนานในกลุ่มเฆมออร์ดพวกเขาจะยังคงการติดต่อกับเทียมัตไว้บ้างบางส่วน อาทิเช่นสิ่งก่อสร้างใต้ดินในเทือกเขาแกรนด์เททอน หรือสิ่งอำนวยความสะดวกใต้ภิภพที่อเมริกาใต้ ในห้องเปล่าที่ซาอุดิอาระเบีย ในภูเขาหิมาลัย หรือแม้แต่ห้องโถงใต้ดินทางตะวันตกเฉียงใต้ของมหาปิรามิดแห่งอียิปต์ที่ชาวเนฟีลิมสร้างไว้เพื่อเชื่อมต่อกับสถานีอวกาศที่แหลมไซนาย ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นปริศนาให้ถกเถียงกันว่ามีไว้เพื่อให้มนุษย์ต่างดาวได้ใช้หรือไม่ ซึ่งเชื่อได้ว่าคำตอบสำหรับทุกปริศนาจะได้รับการเฉลยในอนาคตอันใกล้นี้

    ในขณะนี้คงจะมีคนจำนวนมากถามว่าแล้วดาวเคราะห์นิริบุอยู่ที่ใด แน่นอนมันต้องอยู่ในที่ใดที่หนึ่งในระบบสุริยะเป็นแน่ บางครั้งนักดาราศาสตร์จะบังเอิญไปพบมันแต่อาจะไม่รู้และเรียกมันว่าวัตถุลึกลับ อย่างเช่นกาแลกซี่ขนาดเล็ก บางทีรัฐบาลเองก็สงสัยว่าเจ้าสิ่งนั้นคือนิริบุเองแต่มีความเห็นว่าจำเป็นต้องปิดบังข้อมูลนี้จากการรับรู้ของสาธารณชน ผู้ที่เฝ้าสังเกตท้องฟ้าในสมัยโบราณทั้งในตะวันออกกลาง หรือชาวมายาในเมกซิโกต่างก็ได้พูดถึงการมาของนิริบุในกลุ่มดาวคนยิงธนู ซึ่งมันจะมาปรากฏให้เห็นเป็นระยะๆ โดยที่ดูเหมือนว่ามันจะจู่ๆ ก็ปรากฏขึ้นมา อีกทั้งจะมีสีทองเหมือนดวงอาทิตย์ขนาดจิ๋ว มีหางยาวคล้ายดาวหาง และมีบริวารโคจรอยู่รอบๆ และจะลอยให้เห็นดังอัญมณีที่ขั้วโลกเหนือของเทียมัตคล้ายกับการมาถึงของยุคแห่งพระเจ้า

    ข้อมูลจาก คุณ fernezzo

    ที่มา บทความ มารู้จักกับความลับของPlanetX กัน (ดาวปริศนาNibiru)และมันเกี่ยวอะไรกับปี2012...
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กันยายน 2010
  18. goldbell

    goldbell เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    183
    ค่าพลัง:
    +1,340
    ดอกเตอร์ อาจอง ชุมสาย ณ.อยุธยา กล่าวว่า จากนี้ไปโลกจะเกิดการเปลี่ยนแปลง 2 อย่าง อย่างแรงโลกเปลี่ยนแกน ขั้วโลกเหนือจะย้ายมาอยู่พื้นที่ประเทศสเปนตอนใต้ของยุโรปปัจจุบัน อุณหภูมิจะลดลงอย่างรวดเร็ว แต่คิดว่าไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ แต่สิ่งที่คาดว่าจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน คือเปลือกโลกเคลื่อนตัวเร็วขึ้นตามรอยเลื่อนรอยแยกต่างๆ จะมีความเร็วในการเคลื่อนตัวไม่เท่ากัน ซึ่งจะทำให้เกิดแผ่นดินไหว สึนามีจำนวนครั้งและความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น
    ส่วนประเทศไทยอยู่บนรอยเลื่อนยูเรเชียน เพลท(Eurasian Plate) จะถูกผลกระทบเช่นกัน คาดว่าจะเกิดสึนามิขึ้นบริเวณอ่าวไทย ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ภาคใต้จะได้รับผลกระทบหนักสุด ส่วนพื้นที่ภาคเหนือบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียวราย พะเยา น่าน ลำปาง อุตรดิตถ์ จะเกิดรอยร้าวขึ้น เกิดแผ่นดินไหวมากขึ้น แต่ความแรงไม่น่าจะเกิน 6 ริกเตอร์ จะเกิดน้ำท่วม น้ำป่าไหลหลากเพิ่มมากขึ้น แต่ถือว่ามีความปลอดภัย
    "ส่วนภาคกลางทั้งกรุงเทพ สมุทรสาคร สมุทรสงคราม สมุทรปราการ นนทบุรี อยุธยา อีกหลายจังหวัด จะจมใต้ทะเล และเชื่อว่าอีก 7 ปีข้างหน้ากรุงเทพจะไม่สามารถอยู่ได้เพราะถูกน้ำท่วม" นักวิทยาศาสตร์ชาวไทย ระบุ

    ท่านบรรยายพิเศษในงานสัมมนาโลกร้อน : ผลกระทบของชาวเชียงใหม่ ที่โรงเรียนพายัพเทคโนโลยีและบริหารธุรกิจ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ 17 ก.ย.2553
     
  19. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>กรุงเก่าอ่วม!ฝนตกหนัก น้ำท่วมซ้ำอีก</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle>ภาพประกอบข่าวจากอินเตอร์เนท</TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>พายุฝนที่ตกกระหน่ำ 2 วันติดต่อกันในพระนครศรีอยุธยา ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำน้อยสูงขึ้นมากกว่า 30 ซม. จนเอ่อล้นไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนเป็นรอบที่ 2 ของเดือนก.ย.

    เมื่อวันที่ 18 ก.ย.เวลา 14.00 น.เกิดพายุฝนตกหนักในเขต จ.พระนครศรีอยุธยา ตั้งแต่ช่วงเช้าจนถึงช่วงบ่าย ทำให้การจราจรขบถนนสายหลัก อย่างเช่น ถนนสายเอเชีย ประสบปัญหาเพราะถนนลื่น และมองไม่เห็นทาง โดยล่าสุด นายสุรชัย รัตนรังสรรค์ หัวหน้าสถานีอุตุนิยมวิทยา จ.พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า ปริมารน้ำฝนในวันนี้วัดได้ 18.7 มิลลิเมตร และถือว่ามาก โดยฝนจะตกในลักษณะนี้ พื้นที่พระนครศรีอยุธยา ไปอีกอย่างน้อย 3 วัน

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับปริมาณน้ำฝน ที่ตกหนักในเขตพระนครศรีอยุธยา 2 วันที่ผ่านมา ประกอบกับการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยาในวันนี้ที่ 1,700 ลบ.ม./วินาที ทำให้แม่น้ำสายหลักที่ไหลผ่านพระนครศรีอยุธยา อาทิ แม่น้ำน้อย เพิ่มสูงขึ้นกว่า 30 เซนติเมตร จนล้นตลิ่งไหลเข้าท่วมวัดบางปลาหมอ ต.น้ำเต้า อ.บางบาล ซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำน้อย ส่วนร้านค้าที่อยู่ข้างวัดต้องถูกน้ำท่วมไปด้วย ขณะที่สถานีอนามัยวัดตะกู ต.น้ำเต้า อ.บางบาล ซึ่งตั้งอยู่ด้านหลังวัดตะกู ถูกน้ำจากแม่น้ำน้อย ไหลเข้าท่วมตัวอาคาร และถนนโดยรอบของสถานีอนามัยแล้ว ซึ่งพบว่า กระแสน้ำค่อนข้างแรง เนื่องจากน้ำจากแม่น้ำน้อยไหลจากที่สูงลงยังที่ต่ำ ชาวบ้านต้องนำเสาไม้มาปักริมถนนเพื่อบอกระยะ เพราะเกรงว่ารถที่สัญจรผ่านเข้า – ออก ลุยน้ำ จะประสบอุบัติเหตุ นอกจากนี้พบว่า มีประชาชนอาศัยช่วงที่น้ำท่วม ทำการล้างรถยนต์ของตนเอง โดยการจอดกลางถนนที่ถูกน้ำท่วม แล้วใช้ถังน้ำตักน้ำที่ไหลบ่าข้ามถนนสาดเข้าไปที่ตัวรถเพื่อล้างรถในเบื้องต้น ล่าสุดชาวบ้านต้องใช้เรือสัญจรไป – มา ระหว่างถนนกับตัวบ้านแล้ว

    น.ส.นงนารถ หวังเทพอนุเคราะห์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลน้ำเต้า กล่าวว่า ใน ต.น้ำเต้า อ.บางบาล มีทั้งหมด 28 หมู่บ้าน และถูกน้ำท่วมทั้งหมดแล้ว ซึ่งน้ำที่ท่วมในวันนี้เป็นการท่วมครั้งที่ 2 ในรอบเดือนก.ย.ก่อนหน้านี้ระดับน้ำขึ้นมาและไหลเข้าท่วมแล้ว 1 รอบ จนน้ำลดระดับลงเมื่อ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งชาวบ้านได้มีการทำความสะอาดบ้านไปแล้ว กระทั่งเกิดฝนตกหนัก 2 วันติดต่อกัน ทำให้น้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว กว่า 30 เซนติเมตร และถือเป็นกรรมของชาวบางบาล เนื่องจากปกติจะถูกน้ำท่วมเพียงรอบเดียวเท่านั้น แต่ระยะหลายปีที่ผ่านมาชาวบางบาล ถูกน้ำท่วมปีละไม่ต่ำกว่า 2 ครั้ง

    สำหรับ จ.พระนครศรีอยุธยา มีน้ำท่วม 14 อำเภอ จากทั้งหมด 16 อำเภอ รวม130 ตำบล 823 หมู่บ้าน พื้นที่การเกษตรที่คาดว่าจะเสียหาย 86,639 ไร่ ประชาชนเดือนร้อนกว่า 10,827 ครัวเรือน ซึ่งทางจังหวัดฯ การประกาศเขตภัยพิบัติแล้ว 14 อำเภอ คงเหลือเพียง อ.บางซ้าย และ อ.ลาดบัวหลวง ที่ยังไม่ประกาศ


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ไต้หวัน-จีน เผชิญไต้ฝุ่น'ฟานาปี'รุนแรงที่สุด</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    พายุไต้ฝุ่น "ฟานาปี" พัดขึ้นชายฝั่งไต้หวัน-จีน ลูกที่ 11 ของปี และรุนแรงมากที่สุด อาจก่อให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน ดินโคลนถล่มอีกระลอก...

    สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า พื้นที่่ชายฝั่งภาคตะวันออกไต้หวันเผชิญพายุ "ฟานาปี" ไต้ฝุ่นลูกแรกของปีนี้ และอาจถือเป็นพายุรุนแรงที่สุดของปี พายุมีความเร็วลมศูนย์กลาง 155 - 177 กิโลเมตร/ชั่วโมง อาจก่อให้เกิดน้ำท่วมหนักและดินถล่ม

    นักท่องเที่ยว และชาวบ้านในพื้นที่เสี่ยงภัยได้รับการช่วยเหลืออพยพ เกษตรกรเร่งเก็บเกี่ยวผลผลิตทางการเกษตรเพื่อลดความเสียหาย ขณะที่ชาวประมงได้รับคำเตือนเร่งกลับเข้าฝั่งเพื่อความปลอดภัย ส่วนรัฐบาลจีนประกาศให้พื้นที่ภาคตะวันออก เป็นเขตอันตรายจากไต้ฝุ่นฟานาปี พายุลูกที่ 11 ของปีนี้.


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
    โดย :จิ้มจุ่ม (สมาชิก) โพสเมื่อ [ วันอาทิตย์ ที่ 19 กันยายน 2553 เวลา 10:16 น.] [​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]
    เมีย รูนีย์ นักบอลชื่อดัง ด่ากรุงเทพฯ เป็นเมืองหลวงแห่งโสเภณี
    รายงานข่าวจากประเทศอังกฤษ อ้างแหล่งข่าวหนึ่งในกลุ่มภรรยาและแฟนสาวของนักเตะทีมชาติอังกฤษ เผยว่า คอลีน รูนีย์ วัย 24 ปี ภรรยาของนักเตะชื่อดัง เวย์น รูนีย์ นักฟุตบอลทีมชาติอังกฤษ
    โดยคอลีน อ้างว่าเธอจะขัดขวางไม่ให้สามีมาเหยียบกทม.เด็ดขาด เนื่องจากตนรู้มาว่า Bangkok ได้ชื่อว่าเป็น “เมืองหลวงแห่งโสเภณีโลก” ไม่ไว้ใจว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากสามีตนเดินทางมา พร้อมทั้งย้ำอีกว่า กรุงเทพจะเป็นสถานที่สุดท้ายบนโลกนี้ ที่เธอจะยอมให้สามีเดินทางมา หากเธอไม่ได้เดินทางมากับเขาด้วย
    [​IMG]
    อย่างไรก็ตาม ข่าวฉาวดังกล่าว เกิดขึ้นเนื่องจาก ทีมชาติอังกฤษจะเดินทางมาเตะฟุตบอลกับทีมชาติไทยในวันที่ 8 มิถุนายน 2554 แต่ยังไม่ได้ประกาศอย่างเป็นทางการ ซึ่งการเดินทางมานี้เพื่อแลกกับที่ไทยจะช่วยสนับสนุนให้ทีมชาติอังกฤษเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกใน ปี 2018 หรือ 2022
    เรียบเรียงข่าวโดย Mthai news
     
  20. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    ฝนอุกกาบาต

    [​IMG]

    พ.ธรรมรังสี ท่านได้เล่าให้ฟังว่า ภัยพิบัติที่ได้เกิดขึ้นไปแล้วนั้น(สึนามิ) ท่านเองก็ทราบมาก่อนเหมือนกัน และมันก็ได้เกิดขึ้นไปแล้วจริงๆ แต่ที่ท่านบอกว่าท่านอกสั่นขวัญแขวนก็คือ ภัยภิบัติที่กำลังจะมาถึงในอนาคตนี้ต่างหากล่ะ

    ท่านบอกว่าท่านเห็นลูกไฟมากมายตกลงมาจากท้องฟ้า(ในนิมิต) เป็นห่าลูกไฟห่าใหญ่ ท่านก็พาคนกลุ่มหนึ่งวิ่งเข้าไปหลบในถ้ำได้อย่างปลอดภัย ส่วนคนที่วิ่งหนีกระเจิดกระเจิงเข้าป่าไปนั้น ก็ถูกลูกไฟตกใส่ เผาไหม้ร้องโอดโอยทั้งคนทั้งป่า ไหม้หมดเลย

    ที่มาhttp://www.soccersuck.com/<!-- google_ad_section_end -->

    [​IMG]

    [​IMG]

    หมายเหตุ

    เรื่องลูกไฟมากมายตกลงมาจากท้องฟ้านี้ ผมคิดว่าอาจจะเกี่ยวกับดาวหางนิบิรุก็เป็นได้ เพราะจากข้อมูลทั้งหลายที่ได้รวบรวมมา บ่งบอกว่าดาวหางนิบุรุนี้มีมวลที่ใหญ่มาก ใหญ่กว่าโลกเรา 2-3 เท่า และมันมาพร้อมกับบริวารดวงจันทร์และเศษอุกกาบาตจำนวนมหาศาลตามมาอีกด้วย

    จึงเป็นไปได้มากว่าเมื่อดาวหางนิบิรุนี้โคจรมาใกล้โลก เศษอุกกาบาตจำนวนมหาศาลนี้ อาจจะถูกแรงดึงดูดของโลก ดึงดูดลงมาในชั้นบรรยากาศของโลกจนเกิดการเสียดสีเป็นลูกไฟจำนวนมหาศาลตามที่ท่าน พ.ธรรมรังสี ได้เห็นในนิมิตนั้นก็เป็นไปได้ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • nibiru.jpg
      nibiru.jpg
      ขนาดไฟล์:
      28.9 KB
      เปิดดู:
      1,425
    • nibiru-planet-4.jpg
      nibiru-planet-4.jpg
      ขนาดไฟล์:
      15.4 KB
      เปิดดู:
      1,497
    • 1_display.jpg
      1_display.jpg
      ขนาดไฟล์:
      16.7 KB
      เปิดดู:
      102
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 กันยายน 2010

แชร์หน้านี้

Loading...