สถานภาพของสถานปฏิบัติธรรมของพระมหาโพธิสัตว์ หลวงปู่ทองทิพย์ พุทธปัญโญ

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย Aunyasit, 20 พฤษภาคม 2008.

  1. คุณพยัคฆ์

    คุณพยัคฆ์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +25
    วันนึงถ้าคุณ AUNYASIT สำนึกได้ คุณอาจได้กลับเข้ามาสร้างบารมีในเขตหลวงปู่ทองทิพย์ ตามที่คุณบอกว่าระบบปิดอยู่ จริง ๆ ไม่มีอะไรปิดกั้นคุณหรอก เพียงแต่ใจคุณเองต่างหาก ที่ปิดกั้นตัวเองไม่ให้เข้าไปที่แห่งนั้น และคุณก็ปิดตัวเองให้มากกว่าเดิมด้วยการไปสร้างคดีความจนเข้าไม่ได้จริง ๆ ยอมรับถึงความจริงเถอะ สิ่งที่เกิดขึ้น อย่าฝืนความจริง การตั้งกระทู้ในลักษณะนี้ ทำร้ายคนอื่น คนดีเขาไม่ทำกันหรอก ที่นี่คุณย่อมรู้ดีว่าไม่เหมาะสม จึงไม่เคยเปิดเผยชื่อเสียงตัวเองจริง ๆ ที่นี่แม้แต่ข้อมูลประวัติของคุณก็ไม่ใช่ของจริงใช่ไหม คนบุญคนจริงเขาไม่ทำแบบนี้กันหรอก มันไม่ลูกผู้ชายที่มีศักดิ์ศรี แล้วแบบนี้คำพูดของคุณมันจะจริงได้อย่างไรครับ ผู้พันหนุ่ย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 สิงหาคม 2010
  2. Aunyasit

    Aunyasit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    1,312
    ค่าพลัง:
    +13,053
    คุณพยัคฆ์ ยอมรับเองว่าพระตู่ล้มละลายก่อนบวชและระหว่างที่ทำพิธีบวชนั้นอยู่ในระหว่างล้มละลาย จะแปรเจตนาเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้ ถือว่าการบวชเป็นโมฆะหรือเปล่า และใบสุทธิที่ใช้อยู่ในขณะนี้นั้นเป็นใบสุทธิที่บวชในระหว่างการล้มละลายนั้นแหละ ไปอ่าน พรบ. สงฆ์ซะก่อนนะ เรื่องการพิสูจน์ใบสุทธินั้นเป็นเรื่องของการหาหลักฐานมาสนับสนุนแต่เรื่องของการล้มละลายในระหว่างบวชนั้น หลักฐานชัด เมื่อไปประกอบกัน ก็จะเข้าใจว่า การบวชนั้นสมบูรณ์หรือเปล่า

    ยกตัวอย่าง คนมีคดีติดตัวหนีไปบวช ซึ่งเป็นเรื่องต้องห้าม การบวชนั้นก็จะไม่สมบูรณ์ ในกรณีพระตู่ตอนที่บวชนั้นกำลังหนีหมายจับของตำรวจอยู่ด้วย(มีหลักฐานชัด)

    ส่วนเรื่องของพระสงฆ์ที่มาร่วมงานวางศิลาฤกษ์กับพระสงฆ์ที่ท่านเป็นผู้นิมนต์นั้น ก็เป็นเรื่องของสงฆ์ที่ท่านจะต้องพูดคุยกันเอง ส่วนพระสงฆ์ที่ผมนิมนต์มานั้นจะมีลายมือชื่อผมลงไว้ทุกใบฏีกา และผมก็จัดซองถวายใส่ให้ด้วยตนเองทุกรูป

    ดูรูปการณ์แล้วก็สรุปได้ว่า ช่วงที่ผ่านมาคงไม่ค่อยจะมีใครเขาเข้าไปทำบุญในเขตที่พักสงฆ์ของหลวงปู่ ผู้ที่อยู่ข้างในกรงจึงขัดสนในเรื่องของปัจจัยละมั้ง

    ปัจจุบันนี้ลูกศิษย์เก่าๆของหลวงปู่เข้ามาร่วมทำบุญอยู่กับผมจำนวนมาก เขารู้ว่าหลวงปู่ท่านเคยบอกอะไรไว้ ส่วนใหญ่คนทำบุญในปัจจุบันเขาก็สามารถตรวจสอบข้อมูลได้หลายทาง ลูกศิษย์หลวงปู่มีเยอะแยะ เขาสอบถามข้อมูลได้เองแหละ หรือจะถาม สนง.พระพุทธศาสนา สถานีตำรวจ คณะสงฆ์ จ. หนองคาย เขารู้เรื่องพระตู่กันทั้งนั้น เขาจึงรู้ว่าใครเป็นอย่างไร

    เมื่อถึงเวลาผมก็ได้ไปทำบารมีในเขตของหลวงปู่่แหละ ปัจจุบันนี้ผมก็เข้าไปในที่พักสงฆ์ ไปกราบหลวงปู่ ก็ไม่เห็นมีอะไร

    ผมเข้าใจว่า คุณพยัคฆ์ ก็คงเป็นคนเดิมๆ ในกระทู้เก่าๆ แล้วมาเปลี่ยนชื่อใหม่นั่นแหละ

    ผมเข้าใจว่า คุณพยัคฆ์ นี่คงจะกลัดกลุ้มที่หัวหน้าหน่วยงานของตนเองกดดันไม่ให้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับพระตู่ โดยห้ามเข้าพื้นที่ ต. สีกายละมั้ง จะช่วยลูกพี่ไหวเหรอ ตัวเองก็เอาตัวแทบไม่รอด

    ทำใจไว้นะ หลวงปู่ทวดท่านบอกผมว่า ด้วยวิบากกรรมที่ทำเอาไว้ อีกไม่นานลูกพี่คุณพยัคฆ์จะคุ้มคลั่งออกมาอาละวาดหลังจากสร้างกรงขังตัวเองมานาน จริงเท็จประการใดผมจะรอดู ครับ

    จะสร้างบารมีช่วยหลวงปู่ปราบมาร ก็ไม่แตกต่างกับการรบในรามเกียรติ์ แหละครับ ยังไงเสียทศกรรณ์ก็จะมีจุดจบในสถานที่เดิม สถานที่ชื่อป่าสีดาพระรามลักษณ์ฯ แต่ที่จริงนั้นเป็นที่ตายของทศกรรณ์ในอดีต เมื่อมาเกิดใหม่ก็จะต้องมาตายในที่เดิมอีก
     
  3. emperron

    emperron เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    352
    ค่าพลัง:
    +432
    ผู้ประกอบด้วยโลกุตรปัญญาอันลึกซึ้ง
    ได้มองเห็นว่า โดยธรรมชาติแท้แล้ว ขันธ์ทั้งห้านั้นว่างเปล่า
    และด้วยเหตุที่เห็นเช่นนั้น จึงได้ก้าวล่วง พ้นจากความทุกข์ทั้งปวงได้
    รูปไม่ต่างจากความว่าง ความว่าง ก็ไม่ต่างไปจากรูป
    รูปคือความว่างนั่นเอง และความว่างก็คือรูปนั่นเอง
    เวทนา สัญญา สังขาร และวิญญาณ ก็เป็นดังนี้ด้วย
    สารีบุตร ธรรมทั้งหลาย มีธรรมชาติแห่งความว่าง ไม่ได้เกิดขึ้นและไม่ได้ดับลง
    ไม่ได้สะอาดและไม่ได้สกปรก ไม่ได้เพิ่มขึ้นไม่ได้ลดลง
    ดังนั้น ในความว่างจึงไม่มีรูป ไม่มีเวทนา หรือสัญญา ไม่มีสังขาร หรือวิญญาณ
    ไม่มีตาหรือหู ไม่มีจมูกหรือลิ้น ไม่มีกายหรือจิต ไม่มีรูปหรือเสียง ไม่มีกลิ่นหรือรส
    ไม่มีโผฏฐัพพะหรือธรรมารมณ์ ไม่มีโลกแห่งผัสสะ หรือวิญญาณ
    ไม่มีอวิชชา และไม่มีความดับลงแห่งอวิชชา ไม่มีความแก่และความตาย
    และไม่มีความดับลงซึ่งความแก่ และความตาย ไม่มีความทุกข์
    และไม่มีต้นเหตุแห่งความทุกข์ ไม่มีความดับลงแห่งความทุกข์
    และไม่มีมรรคทางให้ถึง ซึ่งความดับลงแห่งความทุกข์
    ไม่มีการประจักษ์แจ้งและไม่มีการลุถึง เพราะไม่มีอะไรที่จะต้องลุถึง
    พระโพธิสัตว์ผู้วางใจในโลกุตรปัญญา จะมีจิตที่เป็นอิสระจากอุปสรรคสิ่งกีดกั้น
    เพราะจิตของพระองค์เป็นอิสระจาก อุปสรรคสิ่งกีดกั้น
    พระองค์จึงไม่มีความกลัวใดๆ ก้าวล่วงพ้นไปจากมายาหรือสิ่งลวงตา
    ลุถึงพระนิพพานได้ในที่สุด พระพุทธในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต
    ผู้ทรงวางใจในโลกุตรปัญญา ได้ประจักษ์แจ้งแล้วซึ่งภาวะอันตื่นขึ้น
    อันเป็นภาวะที่สมบูรณ์และไม่มีใดอื่นยิ่ง ดังนั้น จงรู้ได้เถิดว่า โลกุตรปัญญา
    เป็นมหาธรรมอันศักดิ์สิทธิ์ เป็นธรรมแห่งความรู้อันยิ่งใหญ่
    เป็นสิ่งอันไม่มีสิ่งอื่นยิ่งกว่า เป็นมนต์อันไม่มีสิ่งอื่นใดมาเทียบได้ซึ่งจะตัดเสียซึ่งความทุกข์ทั้งปวง
    นี่เป็นสัจจะ เป็นอิสระจากความเท็จทั้งมวล ในใจของตน
    "อัตนา โจทยัตตานัง" จงกล่าวโทษเตือนตนไว้เสมอ
    "สัพพะปาปัสะอกรณัง ละเว้นความชั่ว
    กุสลัสสูปสัมปทา ทำแต่ความดี
    สจิตตะปริโยทปนัง ทำจิตใจให้ผ่องใส
    เอตังพุทธานะสาสะนัง" พระพุทธเจ้าทรงสอนเช่นนี้เหมือนกันหมด
    "อัตตาหิอัตโนนาโถ ตนแลเป็นที่พึ่งแห่งตน
    โกหินาโถปโรสิยา ใครเล่าจะเป็นที่พึ่งได้
    อัตตาหิสุทันเตนะ เมื่อฝึกตนดีแล้ว
    นาถังลภะติทุลภัง" จะได้ที่พึ่งอันบุคคลอื่นหาได้ยาก
     
  4. คุณพยัคฆ์

    คุณพยัคฆ์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +25
    เรื่องจริงของ AUNYASIT ที่คนไม่ค่อยรู้ ตอนที่ 3:cool:

    สวัสดีคุณ AUNYASIT
    ก่อนอื่นต้องเรียนว่ารู้สึกผิดหวังที่ คุณยังคงไม่มีสำนึกที่ดีนัก ที่ยุติกระทู้แย่ๆ แบบนี้ งั้นผมคงต้องแฉคุณต่อไปเพื่อไม่ให้คนที่พลั้งเผลอไปปรามาสพระรัตนตรัยโดยขาดสติ ในเรื่อง พรบ สงฆ์ ผมคงไม่มานั่งอ่านทบทวนหรอกครับ และเชื่อว่าคุณเองก็ไม่ได้รู้ดีไปกว่าผมหรอก เพราะดูจากสำนวนในคดีที่อัยการตอบเพื่อยกฟ้องหลวงพี่นั้นก็ชัดเจนดีอยู่แล้วว่า สิ่งที่คุณเคยเขียนลงกระทู้นี้มันก็แค่การคาดเดา คิดเข้าข้างตัวเอง ดีนะครับที่หลวงพี่ยังเมตตาไม่ฟ้องคุณกลับ อย่ามาอ้างหลักฐานอะไรเลย หลักฐานของคุณมันเบาจนไร้น้ำหนัก หรือแย่มาก ๆ น่ะครับ อัยการท่านจึงไม่เอามาพิจารณาเลย

    คุณนี่ทำตัวเก่งใน internet โลกแห่งจินตนาการเป็นอย่างเดียวนะครับ ชีวิตจริงคงเก่งแบบผิด ๆ มา ขอยกตัวอย่างสักประโยคที่เขียนมาล่าสุด "จะสร้างบารมีช่วยหลวงปู่ปราบมาร ก็ไม่แตกต่างกับการรบในรามเกียรติ์ แหละครับ ยังไงเสียทศกรรณ์ก็จะมีจุดจบในสถานที่เดิม สถานที่ชื่อป่าสีดาพระรามลักษณ์ฯ แต่ที่จริงนั้นเป็นที่ตายของทศกรรณ์ในอดีต เมื่อมาเกิดใหม่ก็จะต้องมาตายในที่เดิมอีก " ไม่ทราบคำพูดนี้ใช้จินตนาการส่วนไหนคิดครับ ปราบมารยังงี้ ทศกรรณ์ตายอย่างนี้ ดูหนังรามเกียรติ์อินมากไปหรือเปล่าครับ มาคุยแบบเหตุและผลกับผมบ้างสิ สำหรับเรื่องที่ผมพาดพิงคุณกระทู้ที่แล้ว เรื่องที่คุณติดหนี้สงฆ์ อันนี้อย่าไปโกหกประชาชนเลยครับ บาปนะครับ เพราะถ้าประชาชนที่ว่า เกิดสงสัยไปถามรองเจ้าคณะจังหวัดแล้วคุณจะหน้าแตกเย็บไม่ติดนะครับ จริง ๆ ใครยังศรัทธาแบบไม่ลืมหูลืมตาในคุณ AUNYASIT ไปถามได้ครับ ถ้าไม่ใช่แบบที่ผมพูดผมน้อมรับโทษทุกประการครับ ส่วนที่คุณ AUNYASIT ชอบอ้าง ตำรวจ สนง พุทธ หรือ 108 1009 นั้นผมการันตีครับ ว่าล้วนยกเมฆมาเต็มเลย

    สำหรับเรื่องคนมาทำบุญที่วัดนี้หรือไม่จะไม่มาทำบุญ อันนี้อยู่ที่จิตและศรัทธาแต่ละคนนะครับ ผมมาเผยแพร่เรื่องจริงในปัจจุบันว่าวัดสงบดีแล้ว เพื่อให้คนที่เขาเคยมาได้กลับกราบไหว้สังขารหลวงปู่ที่ไม่เน่าเปื่อย และมีความศักดิ์สิทธิ์จริงๆ กลับมาช่วยบำรุงวัดวาอารามให้สงบร่มเย็นเหมือนก่อน อันนี้ผิดหรือครับ เกิดมาผมก็เคยเจอคนแบบคุณนี่แหละ ไม่อยากให้คนเข้าวัด ไม่มาเคารพกราบไหว้อาจารย์ตัวเอง ทำลายชื่อเสียงของคนทุกคนที่ไม่ยอมก้มหัวให้คุณ คุณไม่อยากเห็นวัดนี้พัฒนา เจริญหรือครับ หรือถ้ามันไม่ได้เกิดจากบารมีของคุณหรือศรัทธาญาติโยมที่คุณพามาแล้วก็ถือว่าไม่ดีหมด คิดผิดคิดใหม่นะครับ ต่อไปผมเชื่อว่าวัดนี้ต้องดีขึ้นเรื่อย ๆ ครับ เพราะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ปัญญาของหลวงพี่ ศรัทธาญาติโยมที่บริสุทธิ์ อย่างน้อยผมเชื่อว่าปัญญาหลวงพี่มากกว่าคุณน่ะ เพราะท่านรูปเดียว ใช้ กฎหมาย ย้อนศร กำหลาบคุณซะอ่วมเลย ก็อย่างที่ผมเคยบอกไงว่า อยากให้เขาฉิบหาย ตัวเองวายวอด ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว

    และที่คุณชอบอ้างว่า ลูกศิษย์เก่าๆ ของหลวงปู่เข้ามาร่วมทำบุญอยู่กับคุณจำนวนมาก หรือ หลวงปู่บอกอะไรไว้ อันนี้ระวังลูกศิษย์เก่า ๆ จริง มาเห็นข้อความกระทู้ของคุณนะครับ เพราะดูจะแอบอ้างเกินเลย และอ้างคำพูดหลวงปู่เกินไป ผมเชื่อว่า ยังมีลูกศิษย์อีกหลายคนถูกคุณปั่นหัวอยู่ และเชื่อว่าหลายคนไม่เห็นด้วย กับการกระทำของคุณ ผมเองก็คนหนึ่งล่ะ เรื่องที่โกหกว่าทุกวันนี้คุณยังเข้าวัดได้ไปกราบหลวงปู่ คุณแน่ใจหรือ ? คุณแอบย่องเข้าไปตอนไหนหรือครับ ดึก ๆ หรือ เท่าที่ทราบและอ่านคำสั่งศาลที่ติดในวัดก็ใหญ่ชัดเจนดี ระบุว่า คุณและพวกมาบุกรุกที่วัดและมาทำร้าย พระภิกษุสามเณรที่นี่ จนต้องมีการฟ้องร้องต่อศาลเพื่อขับไล่คุณและพวกออกไป และถ้าคุณยังคงกระทำตามที่คุณว่ามา ว่าเคยเข้าไปวัดโดยสะดวก ผมเชื่อว่า ถ้าลูกศิษย์หลวงปู่ หรือหลวงพี่เขามีกล้องถ่ายรูปในเวลานั้น คงจะถ่ายเก็บไว้และบังคับคดีคุณ ให้คุณมาแถลงต่อศาล เหมือนครั้งนึงที่คุณเคยโดนมารอบหนึ่งแล้ว ใช่ไหมครับผู้พัน ทหารที่ถูกหัวหน้าไม่ให้เข้ามันเป็นคุณหรือเปล่าล่ะนี่ ถ้าผมเจอกะคุณที่วัดนี่ผมคงจะอดไม่ได้ขอถ่ายรูปด้วยนะครับ อยากรู้จริง ๆ ว่าคุณ AUNYASIT ที่อวดดีตอนนี้กับผู้ต้องหาในคำสั่งศาลมันคนเดียวกันหรือเปล่า (ใครรู้จัก คุณ AUNYASIT ก็เตือน ๆ เขาหน่อยนะครับ ใช้สติบ้าง สิ่งไม่เห็นตัวของเขาทำไมแนะนำให้เขาทำผิดพลาดแบบนี้ได้อย่างไร ทำไมไม่แนะนำสิ่งดี ๆ บ้าง บางทีเขาอาจเชื่อถือมากกว่าเชื่อคนเป็น ๆ พูดให้ฟัง และถ้า AUNYASIT ยังมาหาเรื่องอะไรที่วัดนี้อีก ผมเองก็ไม่ปล่อยมือคุณแน่นอนครับรอบนี้)

    สำหรับที่คุณเดาว่าผมเป็นคนเดิมๆ ในกระทู้เก่าอันนี้ หัวหน้าหน่วยไม่ให้ยุ่งเกี่ยวอะไรนี้ก็เดาต่อไปนะครับ คุณชอบเดาอยู่แล้วนี่ครับ หรือว่าสงสัยว่าทำไมรู้เรื่องคุณดีจัง ก็แหง๋ล่ะครับ เพราะผมติดตามเรื่องนี้มาตลอด เคยเข้าใจผิดในหลวงพี่ เพราะเรื่องที่คุณ AUNYASIT ปั้นแต่งไว้ ซะเกือบตกนรก เลยสัญญากับตัวเองว่าต่อไปต้องมีสติให้มากกว่านี้ครับ ใครเขียนกระทู้อะไรมานี่ผมต้องหาความจริงพิสูจน์ถึงจะเชื่อได้น่ะครับ

    ส่วนเรื่องหลวงปู่ทวดบอกคุณอะไรคุณนี่ ผมเองไม่เชื่อล้านเปอร์เซ็นครับ ผมไม่ได้ลบหลู่หลวงปู่ทวดที่คุณ AUMYASIT นับถือ แต่พฤติกรรมคุณเองต่างหากที่ผมไม่เชื่อ เพราะที่ผ่านมาคุณก็แสดงให้เห็นแล้วว่า มักอ้างสิ่งไม่เห็นตัวตน ระบบศีลธรรมสั่งมาแบบนั้นแบบนี่ หลวงปู่ หลวงพ่อ อะไรไม่รู้มั่วไปหมด จนทำให้เรื่องปกติ ๆ มันไม่ปกติ นี่ผมเริ่มถามตัวเองแล้วนะครับว่าผมถามตอบกับคนสติดีอยู่หรือเปล่า ยังไงก็เรียนถาม หลวงปู่ทวด ด้วยนะครับ ว่า เมื่อไหร่ตัวคุณ AUNYASITจะลดทิฏฐิมานะตัวเองไปขอขมาหลวงพี่ได้ ผมเชื่อว่าหลวงพี่คงให้อภัยในความผิดของคุณ เมื่อนั้นท่านคงอนุญาตให้คุณเข้านอกออกในวัดได้ดังเดิม ผมเชื่อว่า บารมีหลวงปู่ทวด ท่านน่าจะแนะนำคุณแบบนี้นะครับ จะเป็นการอโหสิกรรมกันมากกว่า ผมขอแนะนำว่าไม่ต้องฟังสิ่งไม่เห็นตัวมากหรอกครับ มันจะไปกันใหญ่ ขอให้คุณอยู่กับปัจจุบัน คิดดี พูดดี ทำดี ทำจิตใจให้ผ่องใส ก็พอแล้ว ถ้ายิ่งทาน ศีล ภาวนาได้ยิ่งดีใหญ่

    สุดท้ายตอนที่ 3 ที่ผมเขียนผมเชื่อว่า คงมีหลายคนเริ่มทราบความจริงเกี่ยวกับ คุณ AUNYASIT คนนี้บ้างแล้วไม่มากก็น้อย หรือถ้าใครไม่เชื่อผมจะเชื่อคุณ AUNYASIT ก็สุดแต่ใจจะคิดได้ ผมมาให้สติท่านทั้งหลาย ถ้าอยากทราบผมเป็นใคร กล้าดียังไงมาว่าคุณ AUNYASIT ก็เมล์มาคุยกันได้นะครับ ปกติผมไม่ได้ตำหนิใครแบบนี้ เพียงแต่คิดว่าผลดีมากกว่าผลเสีย จึงเข้ามาช่วยทำสีดำให้เป็นขาวมากที่สุดเท่าที่จะทำได้

    ผมจะคอยดูต่อไปนะครับว่า คุณ AUNYASITจะสำนึกตัวได้หรือไม่ ขอบคุณ คุณ emperron ที่ผ่านมาให้ข้อคิดดี ๆ ครับ

    ------------------------------------------------------------------------------
    นะทรงฟ้า โมทรงดิน พุทธทรงศีล ธาทรงสมุทร ยะทรงอากาศ พุทธังแคล้วคลาด ธัมมังแคล้วคลาด สังฆังแคล้วคลาด ศัตรูภัยพาลวินาศสันติ

    เมล์ผม ntk2555@hotmail.com


    _/\_
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 กันยายน 2010
  5. คุณพยัคฆ์

    คุณพยัคฆ์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +25
    วันนึงถ้าคุณ AUNYASIT สำนึกได้ คุณอาจได้กลับเข้ามาสร้างบารมีในเขตหลวงปู่ทองทิพย์ ตามที่คุณบอกว่าระบบปิดอยู่ จริง ๆ ไม่มีอะไรปิดกั้นคุณหรอก เพียงแต่ใจคุณเองต่างหาก ที่ปิดกั้นตัวเองไม่ให้เข้าไปที่แห่งนั้น และคุณก็ปิดตัวเองให้มากกว่าเดิมด้วยการไปสร้างคดีความจนเข้าไม่ได้จริง ๆ ยอมรับถึงความจริงเถอะ สิ่งที่เกิดขึ้น อย่าฝืนความจริง การตั้งกระทู้ในลักษณะนี้ ทำร้ายคนอื่น คนดีเขาไม่ทำกันหรอก ที่นี่คุณย่อมรู้ดีว่าไม่เหมาะสม จึงไม่เคยเปิดเผยชื่อเสียงตัวเองจริง ๆ ที่นี่แม้แต่ข้อมูลประวัติของคุณก็ไม่ใช่ของจริงใช่ไหม คนบุญคนจริงเขาไม่ทำแบบนี้กันหรอก มันไม่ลูกผู้ชายที่มีศักดิ์ศรี แล้วแบบนี้คำพูดของคุณมันจะจริงได้อย่างไรครับ ผู้พันหนุ่ย<!-- google_ad_section_end -->
     
  6. Aunyasit

    Aunyasit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    1,312
    ค่าพลัง:
    +13,053
    คุณพยัคย์ไม่ไปช่วยลูกพี่ตีกับเขาเหรอ
    ตำรวจบ้านเดื่อบอกกับผมว่าเดือนก่อนข้างในที่พักสงฆ์ตีกันอีกแล้ว

    <O:pคู่แรก ลูกพี่ของคุณพยัคฆ์ตีกับตาปะขาวที่มาอาศัยอยู่ที่วัด
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    คู่สอง ลูกพี่ของคุณพยัคฆ์ตีกับเด็กที่มาอยู่ในที่พักสงฆ์
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    คู่สามลูกน้องของลูกพี่คุณพยัคฆ์ตีกับเด็กที่มาอยู่ในที่พักสงฆ์<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    เดือดร้อนถึงตำรวจบ้านเดื่อ ต้องมาระงับเหตุ ท่านใดอยากทราบรายละเอียดโทรศัพท์สอบถามได้ที่ สภ.บ้านเดื่อ ครับ
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    สัปดาห์ก่อนผมเข้าไปในที่พักสงฆ์บรรยากาศเงียบเหงามาก<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ไปสำรวจเห็นศาลาพระศพหลวงปู่มีน้ำไหลนองตามขอบผนังและตามพื้น
    <O:p</O:pลุกพี่ของคุณพยัคฆ์ ไม่คิดจะดูแลซ่อมแซมเลยเหรอหรือกลัวจนไม่กล้าออกมานอกลูกกรงซะแล้ว
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    อีกไม่นานทราบข่าวว่าเจ้าหนี้บางรายที่ถูกลูกพี่ของคุณพยัคฆ์ เซ็นต์เช็คเด้งให้เขาไปเมื่อหลายปีก่อน เขาจะไปเยี่ยมลูกพี่คุณพยัคฆ์น่ะ
    บางรายโทรศัพท์มาถามผม เขาบอกว่าตามหามาหลายปีแล้ว รายนึงบอกว่าจะแวะไปเยี่ยมลูกพี่คุณพยัคฆ์ตอนงานบั้งไฟพญานาคนี้แหละ<O:p</O:p
     
  7. คุณพยัคฆ์

    คุณพยัคฆ์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +25
    เรื่องจริงของ AUNYASIT ที่คนไม่ค่อยรู้ ตอนที่ 4:cool:

    ก่อนจะตอบกระทู้ต่อ ผมต้องขออนุญาตถามว่า ผมคุยกับผู้พันหนุ่ย คุณวีระพงศ์ คงสวัสดิ์ ใช่หรือไม่ครับ (ขอคำตอบด้วยนะครับ..ใช่ หรือ ไม่ใช่ ) เพราะ ถ้า "ใช่" ผมจะให้คนอ่านเขาคิดต่อว่า "ทำไมคุณ AUNYASIT ถึงมาเขียนกระทู้นี้" และถ้าไม่ใช่คุณ AUNYASIT ควรรู้ไว้ เหตุผลนั้นผู้อ่านลองพิจารณาดูนะครับ ถ้าไม่ใช่ท้วงติงได้ ผมจะลบออกโดยทันที

    เหตุผลที่ 1 ผู้พันหนุ่ยเป็นหนึ่งในผู้ต้องหาในคดีบุกรุกวัดป่าสีดา ฯ ตามคำสั่งศาล โดยมีพระสุวิทยา หรือ หลวงพี่ตู่ เป็นผู้กล่าวโทษ และผู้พันหนุ่ยก็มีตำแหน่งเป็น ประธานมูลนิธิพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ ที่แอบอ้างวัด และเอาเงินบริจาคมา ซื้อที่ดินข้างวัด เพื่อโครงการสร้างเจดีย์ และนำพระพุทธรูปที่สร้างปีกลาย ที่มีข่าวครึกโครม ไปประดิษฐานไว้ โดยอ้างว่า เป็นปรารภของหลวงปู่ทองทิพย์ จากการไต่สวนพยานและหลักฐานของโจทย์และจำเลยของศาล จ.หนองคาย เมื่อปีกลาย สุดท้ายศาลมีคำสั่งให้ "ผู้พันหนุ่ยและพวก ห้ามยุ่งเกี่ยวที่วัดนี้ และห้ามใช้ชื่อ วัดป่าสีดาพระรามลักษณ์รัตนโคตร หรือ ชื่อหลวงปู่ทองทิพย์ พุทธปัญโญ ในการทำกิจกรรมใด ๆ "


    เหตุผลที่ 2 ใครเคยอ่านกระทู้ "เรื่องจริงของพระศรีที่คนทั่วไปไม่ค่อยรู้ "ที่เขียนโดย AUNYASIT เมื่อ 2 ปีก่อน คงพอทราบว่า คุณ AUNYASIT เคยเขียนในแง่ที่ดีเกี่ยวกับวัดนี้ แต่สมัยนั้นทางวัดไม่เคยรู้เรื่องเกี่ยวกับการทำกิจกรรมใด ๆ ของคุณ AUNYASITเลย (หลวงพี่ตู่ และโยมอุปัฏฐากสมัยหลวงปู่ ที่วัดบอกผม) คุณ AUNYASIT ไม่เคย พูดถึงหลวงพี่ตู่ ว่า ท่านเป็นใคร อย่างไร และพระภิกษุและโยมอุปัฏฐากดูแลวัด ขณะนั้นคือมีใครบ้าง คุณ AUNYASITมักสอดแทรกแต่การทำบุญของตนเองในเชิงปาฏิหาริย์ตลอดมา เพื่อให้ดูน่าสนใจตื่นเต้น สุดท้ายเมื่อมีคนสนใจมากขึ้น คุณ AUNYASITก็เริ่มมีการรับบริจาคผ่านบัญชีธนาคารของตนเอง ซึ่งคนที่บริจาคไปเคยได้ใบอนุโมทนา หรือไม่ อันนี้เป็นความไว้ใจซึ่ง ถ้าคุณ AUNYASIT ไม่ทำบุญจริงคงไม่มีใครรู้ แต่ถ้าทำจริงแล้วอะไรเป็นหลักฐานยืนยันได้ มีบัญชีไหม เคยเห็นกันไหม? ผมเชื่อว่าใครที่เคยเจอกระทู้ลักษณะนี้ ถ้าทำแบบโปร่งใส การบอกบุญตามวัดจะพบว่า ถ้าเขาไม่เปิดเผยชื่อจริง เขาจะบอกชื่อเจ้าอาวาส หรือบัญชีวัด หรือพระในการร่วมทำบุญใด ๆ ก็ตาม(ถ้ามี) แต่ถ้าแบบไม่โปร่งใส หรือ อาจมีปัญหา มักเปิดเผยชื่อในนามตัวเอง หรือคนอื่น อันนี้น่ากลัวครับถ้าคนอ่านไม่ได้เดินทางไปด้วย เป็นการทำบุญที่อันตรายมากในยุคไฮเทคนี้ ว่าจะถึงบุญจริงไหม (เท่าที่ทราบและมีพยานบุคคลยืนยัน คนที่เขาเคยทำบุญกับผู้พันหนุ่ย เขาแยกตัวออกมาเยอะครับ ใครไม่เชื่อผม ลองเมล์มาคุยดู และจะรู้ว่าคนใกล้ชิดเขา หรือคณก.ในมูลนิธิเขาเองแยกตัวออกมาทำไม และมีใครบ้าง ผมให้ลองถามเจ้าตัวเองเลยครับ ถ้าเขายินดีเล่าให้ฟัง)

    เหตุผลที่ 3 ลองดูตามลำดับเหตุการณ์ว่า "วัดป่าสีดาพระรามลักษณ์รัตนโคตร " เป็นชื่อที่มีมาแต่สมัย หลวงปู่อยู่ เหตุใด เมื่อแรกเริ่มคุณ AUNYASIT กับวัดยังไม่มีปัญหารุนแรง และคุณ AUNYASIT สามารถใช้ชื่อวัดในการบอกบุญในเว็บนี้ อ้างอิงได้ ในระหว่างมีการไต่สวนความที่ศาลกระทู้นี้ถือกำเนิดขึ้น และใช้คำใหม่จากชื่อ "วัดป่าสีดา ฯ" เป็น "ที่สาธารณะประโยชน์" "สถานปฏิบัติธรรมหลวงปู่ทองทิพย์" เหตุผลอีกด้านที่เป็นคำตอบ คือ ผู้พันหนุ่ย แถลงต่อศาลในขณะนั้นว่า ที่นี่ไม่ใช่วัด และเป็นเพียงที่สาธารณะประโยชน์ ไม่มีโฉนด การกระทำใด ๆ ของมูลนิธิและชาวบ้านกลุ่มหนึ่งเป็นสิทธิ์โดยชอบ และยืนยันสิ่งที่ทำมาตลอดว่าถูกต้อง แต่ต่อมาเมื่อศาลตัดสินออกมาดังที่กล่าวข้างต้น ให้ผู้พันและชาวบ้านกลุ่มดังกล่าวห้ามยุ่งเกี่ยว ผู้พันหนุ่ยจึงไม่อาจอ้างชื่อเดิมต่อไปได้ ก็เพียงมีสิทธิ์ในที่ดินข้างวัดที่เอาเงินบริจาคชาวบ้านที่คิดว่าทำเพื่อวัดป่าสีดาฯ ทำเพื่อหลวงปู่ทองทิพย์ มาซื้อไว้ ในนามของมูลนิธิที่ตนเองเป็นประธาน และก็ให้คนไปติดป้ายข้างทางผ่านมูลนิธิ ฯ ของตนเองก่อนถึงวัดว่า "ทางไปวัดพระเจ้าห้าพระองค์ " เพราะเหตุว่า ตนเองใช้ชื่อวัดเดิมไม่ได้แล้ว และเพื่อให้สอดคล้องกับชื่อมูลนิธิของตนเอง เวลาใครมาทำบุญที่วัดก็มักอ้างว่าเป็นวัดเดียวกันทำบุญที่มูลนิธิได้เลย เพราะที่นี่มีพระภิกษุทุศีล ประจำอยู่ที่แม้แต่ศีลข้อ 4 มุสา ก็รักษาไม่ได้ครับ เพราะสมัยก่อน ก่อนศาลมีคำสั่งพระกลุ่มนี้เป็นพระที่มาจากมูลนิธิแต่อ้างตนเป็นพระวัดป่าสีดา ฯ เฉยเลย และที่แย่มากคือ พระเหล่านี้เคยรวมตัวกันจะทำร้ายหลวงพี่ตู่ และเอาชาวบ้านนักเลงมาทำร้ายลูกศิษย์วัด เพราะมากลุ่มใหญ่ มีคดีนึงที่รุมทำร้ายหลวงพี่ในวันวิสาขบูชาที่ผ่านมาจนหลวงพี่ต้องเข้าโรงพยาบาล และไปแจ้งความและสุดท้ายพระกลุ่มนี้ก็ต้องขอขมาหลวงพี่ตู่ทั้งหมด เพื่อยุติคดี อ้างตนว่า เป็นพระวัดป่าสีดา ฯ แถมตีพระที่ท่านอยู่อีก จะเรียกว่าอะไรล่ะนี่ แต่ปัจจุบันสงบแล้วครับ ผมเคยเจอและก็ว่าไปทีนึง ทำตัวเหมือน...ไม่ทราบใครเคยโดนบ้าง เมล์มาเล่าสู่กันฟังหน่อย ทั้งที่เป็นพระมาจากถิ่นอื่น และเคยมีปัญหากับคณะสงฆ์ จ.หนองคายมาแล้ว และ สุดท้ายเงินทำบุญไม่เข้าวัดสักบาทครับ และ ปัจจุบันวัดป่าสีดา ฯ กับมูลนิธินี้ ก็ไม่เกี่ยวข้องกันแต่อย่างใดตั้งแต่เริ่มต้นจนขณะนี้ แต่น่าสงสัยไหมครับ ว่า "วัดพระเจ้าห้าพระองค์ "นั้นไม่มีตัวตนอยู่จริง ๆ แล้วเค้ามีเพื่ออะไรล่ะครับ อยากเรียนฝากถามไปยังผู้พันหนุ่ย และอยากให้ทุกท่านลองพิจารณาดูเอาเองเถอะ ว่าทำไม "ผู้พันหนุ่ย ที่อ้างตนว่าเป็นลูกศิษย์หลวงปู่ทองทิพย์ ทำไมไปเปลี่ยนชื่อวัดที่หลวงปู่ทองทิพย์ เป็นผู้สร้างและตั้งชื่อนี้มา แล้วผู้พันหนุ่ย มีสิทธิ์อะไรไปอุปโลกภ์ชื่อวัดที่ไม่มีอยู่จริง เพื่อให้คนมาทำบุญ แถมเอาพระจากที่อื่นมาอ้างว่าเป็นพระวัดป่าสีดาฯ ทำไม ทำไมถึงไม่ใช้ชื่อมูลนิธิของตนเองโดยตรง"

    สรุป จากเหตุผลที่ 1-3 ในเมื่อกระบวนการทางศาล สรุปไว้ชัดเจนอยู่แล้ว ก็เป็นธรรมดาที่คุณ AUNYASIT หรือนายคุณ ผู้พันหนุ่ยคงต้องโกรธแค้น และระบายที่ไหนไม่ได้ก็เลยมาระบายออกทางเว็บนี้ เหตุผลต่างๆ นานาของคุณจะเห็นได้ว่า มักอ้างสิ่งไร้ตัวตน หรือ อุปโลกภ์บุคคล หน่วยงานต่าง ๆ หนังสือราชการยังไม่มีตราครุฑเลย แถมไปตรวจสอบดูชื่อบุคคลก็ล้วนถูกแอบอ้าง ดูที่ลูกศิษย์หลวงพี่ตู่เอามาลงเก่า ๆ ผมเห็นมีเป็นคำสั่งศาลตราครฑ แถมตัดชื่อผู้พันออกให้ด้วย ทั้งที่ไม่ผิดกฏหมายถ้าจะโชว์ไว้ แต่ดูหลวงพี่ท่านมีน้ำใจมากกว่าคุณอีก หรือบางครั้งคุณ AUNYASIT ก็มักอ้างไปดูเองเห็นกับตาแบบนั้นแบบนี้ เพื่อให้ดูน่าเชื่อถือ เพราะทราบดีว่าใครจะไปตรวจสอบจริง ๆ ล่ะ ง่าย ๆ ลองถ่ายรูปท่านในวัดจริง ๆ เลยมาให้ดูสิครับ ว่าท่านไปจริง ๆ ไหม ตำรวจ หรือ สนง พุทธ ที่ท่านว่า ก็ถ่ายเวลาคุยเสร็จให้ดูด้วยก็ดีครับ แต่เท่าที่ผมตรวจสอบไม่เป็นตามที่ท่านพูดเลย

    และผมขอท้าทายคำพูดของคุณ AUNYASIT กับผม ณ ที่นี้ครับ ว่าใครพูดจริง ใครโกหก ถ้าท่านไปค้นข้อมูลเก่า ๆ อ่านคำสั่งศาลเรื่องวัดนี้จะทราบดีว่า คำพูดของคุณ AUNYASIT เชื่อถือได้มากน้อยแค่ไหน ถ้าคุณได้ฟังมาจากผู้พันหนุ่ยก็ขอบอกตรงนี้ว่าเชื่อถือไม่ได้เลย กับการที่คุณ AUNYASIT สรุปในกระทู้นี้ว่าใคร เป็นคนดี หรือไม่ดีอย่างไร เป็นพฤติกรรมที่ต่ำเอามาก ๆ ครับ คุณ AUNYASIT เป็นคนไทย นับถือพุทธ เคารพกฏหมายรัฐธรรมนูญหรือเปล่าครับ ทำไมไม่เคารพสิทธิคนอื่น ไม่รู้จักสิทธิหน้าที่ว่าตนเองมีแค่ไหน และ ถ้าสำนึกได้ ควรหยุดพฤติกรรมใส่ร้ายป้ายสีแบบนี้ได้แล้วนะครับ เหมือนคุณเขียนด้วยอารมณ์ที่ปราศจากข้อเท็จจริง กฏของเว็บก็ห้ามใส่ร้ายป้ายสีใคร โดยเฉพาะภิกษุยิ่งแย่ใหญ่

    อีกประเด็นที่ผมกล่าวมา ก็เพื่อให้คนที่เข้ามาอ่านทราบว่าคุณ AUNYASIT อาจได้ข้อมูลผิด ๆ มาจากผู้พันหนุ่ย ผมพูดถึงพฤติกรรมของผู้พันหนุ่ยประมาณ 50% เท่านั้น เนื่องจากคิดออกแค่นี้เวลานี้ แต่ถ้าคุณ AUNYASIT ไม่ใช่ ผู้พันหนุ่ย ก็รู้ไว้ก็ไม่เสียหายครับ จะได้ไม่เป็นกระบอกเสียงให้เขาในทางปรามาสพระรัตนตรัยแบบผิด ๆ เพราะเวลาลงนรกผู้พันแกไม่ได้มาลงกับคุณ AUNYASIT ด้วยนะครับ และคุณ AUNYASIT คงไม่จำเป็นต้องมาเป็นผู้พิทักษ์ศาสนาพุทธ เหมือนชื่อตัวเองที่ตั้งมา ในเว็บนี้หรอกครับ องค์กรดูแลเขามีหน้าที่อยู่แล้ว และ ถ้า หลวงพี่ตู่ผิดจริง ทำไมคุณถึงได้แต่เสียดสีในกระทู้นี้ล่ะครับ มีข้อมูลหลักฐานอะไรก็ส่งไปให้ตำรวจ หรือจะกล่าวโทษท่าน แจ้งความเลยก็ไม่แปลกนะครับ ศาสนาจะได้ไม่มัวหมองมัวรออะไรอยู่ล่ะครับ และที่สำคัญ ถ้ากล้าเขียนต้องกล้าเปิดเผยตัวตน ว่าสิ่งที่คุณเขียนโพสมา คุณกล้ารับผิดชอบทุกคำพูดของคุณนะครับ

    ++++ข้อความล่าสุดของคุณ ถามผม :cool:

    คุณพยัคย์ไม่ไปช่วยลูกพี่ตีกับเขาเหรอ
    ตำรวจบ้านเดื่อบอกกับผมว่าเดือนก่อนข้างในที่พักสงฆ์ตีกันอีกแล้ว
    คู่แรก ลูกพี่ของคุณพยัคฆ์ตีกับตาปะขาวที่มาอาศัยอยู่ที่วัด

    คู่สอง ลูกพี่ของคุณพยัคฆ์ตีกับเด็กที่มาอยู่ในที่พักสงฆ์

    คู่สามลูกน้องของลูกพี่คุณพยัคฆ์ตีกับเด็กที่มาอยู่ในที่พักสงฆ์

    เดือดร้อนถึงตำรวจบ้านเดื่อ ต้องมาระงับเหตุ ท่านใดอยากทราบรายละเอียดโทรศัพท์สอบถามได้ที่ สภ.บ้านเดื่อ ครับ

    สัปดาห์ก่อนผมเข้าไปในที่พักสงฆ์บรรยากาศเงียบเหงามาก

    ไปสำรวจเห็นศาลาพระศพหลวงปู่มีน้ำไหลนองตามขอบผนังและตามพื้น
    ลุกพี่ของคุณพยัคฆ์ ไม่คิดจะดูแลซ่อมแซมเลยเหรอหรือกลัวจนไม่กล้าออกมานอกลูกกรงซะแล้ว

    อีกไม่นานทราบข่าวว่าเจ้าหนี้บางรายที่ถูกลูกพี่ของคุณพยัคฆ์ เซ็นต์เช็คเด้งให้เขาไปเมื่อหลายปีก่อน เขาจะไปเยี่ยมลูกพี่คุณพยัคฆ์น่ะ
    บางรายโทรศัพท์มาถามผม เขาบอกว่าตามหามาหลายปีแล้ว รายนึงบอกว่าจะแวะไปเยี่ยมลูกพี่คุณพยัคฆ์ตอนงานบั้งไฟพญานาคนี้แหละ

    ----คุณ AUNYASIT ก็ชอบแต่งเรื่องให้คนอ่านหดหู่เหมือนเดิมนะครับ เอาของจริงบ้างนะครับ พอดีผมเพิ่งจะไปงานบุญมาฆบูชาที่ผ่านมาคนมาทำบุญเป็นร้อยคน อยู่ที่วัดกันจนเย็นเลย และสงกรานต์ที่ผ่านมา มีคนไปสรงน้ำหอมหลวงปู่กันมาก ใส่ชุดขาวไปกันด้วยโดยเฉพาะลูกศิษย์สายเก่า ๆ สมัยหลวงปู่ ที่ทราบข่าวจำนวนไม่น้อย และมีท่านนึงผมจำชื่อไม่ได้ ท่านได้พูดเกี่ยวกับภัยพิบัติ ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าที่หลวงปู่ทำนายไว้ น่ากลัวครับ อีกท่านนึงมีจันทคราสหลวงปู่ด้วยครับ (หนึ่งในพระเครื่องที่หายาก) พามาทั้งครอบครัว พอดีลูกสาวจะไปเรียนต่ออเมริกา จึงมากราบหลวงปู่และให้หลวงพี่ตู่ให้พร หลายท่านในเมืองหนองคายปวารณาจะช่วยสร้างวิหารพระศรีอริยเมรตไตรย เพื่อประดิษฐานสังขารหลวงปู่ต่อหลังจากผ่านเรื่องเลวร้ายมา น่ายินดีมาก โครงการนี้หลวงพี่ตู่ท่านนำพาสร้างจนถึงเกือบถึงยอดวิหารแล้ว ยังเหลือเรื่องงานก่อผนังซุ้ม งานตกแต่ง และระบบต่าง ๆ

    ลูกศิษย์หลวงปู่ที่มามีทั้งในหนองคายเองและที่ต่าง ๆ ผมเชื่อว่าหลายคนไม่ทราบข่าวว่า วัดสงบดีแล้ว ลองไปดูรูปงานบุญล่าสุดที่วัดสิครับ ญาติโยมเขาถ่ายกันมาหลายอัลบั้ม บรรยากาศไม่ได้เงียบเหงาอย่างที่คิดเหมือนที่คุณ AUNYASIT กล่าวหรอก ก็คุณ AUNYASIT แอบไปวันธรรมดา มันจะมีคนได้อย่างไรล่ะครับ วัดนี้ก็เป็นวัดป่าที่อยู่ใกล้ลำน้ำโขงแล้ว ชายแดนแล้ว แถมพระท่านอยู่กรรมฐานตลอดถ้าไม่มีคน จะให้พลุกพล่านได้อย่างไรในวันธรรมดา สมัยหลวงปู่ผมไปก็แบบนี้ เงียบ ๆ ดูสงบดี ผมไม่ชอบวุ่นวาย


    แต่ผมก็แปลกที่ได้ยินเรื่องเก่าเดิม ๆ อีกแล้ว มันอะไรกันอีกครับ เรื่องเด็กตีกันมันจบไปเป็นปีแล้วคุณไปอยู่ไหนมา และตัวคุณเองถ้าเข้าไปที่วัดได้จริง ก็คงไม่น่าใช่ผู้พันหนุ่ย เพราะผู้พันหนุ่ยเข้าวัดนี้ไม่ได้แล้ว ดังนั้นไม่มีประโยชน์หรอกถ้าคุณจะเป็นกระบอกเสียงให้ผู้พันหนุ่ย และเรื่องที่คุณไปสำรวจอะไร ๆ มา ถ้าเป็นคนบุญจริง ๆ นี่อยากซ่อมแซมก็ไปคุยกับหลวงพี่ได้นี่ครับ (ลูกกรง นี่ ถือ เป็นคำพูดที่ไม่เหมาะสมนะครับ ไม่รู้คุณเกลียดชังอะไรท่านนักหนา) เพื่อให้คนอ่านจินตนาการหรือครับ ส่วนเรื่องเจ้าหนี้ มันก็หมดอายุความไปนานแล้ว กฏหมายมันจบไปแล้ว คุณก็ไปขุดมาอีกล่ะ นี่ตกลงคุณหาเรื่องนี้ไม่ได้ ก็หาเรื่องนั้นไปไม่สิ้นสุดจริง ๆ แบบนี้สังคมจะสงบได้อย่างไรครับ คุณ AUNYASIT -----

    ปล. อย่าลืมตอบคำถามผมด้วยนะครับ เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจให้คนอ่านและผมทราบว่าคุณเป็นใคร เชื่อถือได้มากน้อยขนาดไหน อย่าเพิ่งตอบไปไกลนะครับเดี๋ยวจะไม่รู้จักกัน :cool:
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 กันยายน 2010
  8. Aunyasit

    Aunyasit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    1,312
    ค่าพลัง:
    +13,053
    คุณพยัคฆ์ท่าทางจะคุ้มคลั่งตามลูกพี่ ลัชชี ไปอีกคนแล้วล่ะ จะฟอกตัวลูกพี่ก็ทำให้เนียนหน่อย

    ผมไปขอดูหลักฐานมาแล้ว บักตู่ถูกศาลสั่งล้มละลายเมื่อปี 2532 หนีคดีมาบวชเมื่อปี 2537 เพิ่งจะถูกปลดปล่อยจากการล้มละลายเมื่อปี 2547 (บทลงโทษตามกฏหมายเก่าก่อนมีการแก้ไข)

    หากบักตู่ไม่ได้บวชใหม่หลังปี 2547 ก็ถือว่าบักตู่ยังไม่ได้เป็นพระสงฆ์ และยังเป็นอลัชชี หลอกชาวบ้านอยู่เหมือนเดิม

    คุณพยัคฆ์ไม่รู้เลยเหรอว่า สมัยก่อนหลวงปู่ทองทิพย์ เคยไล่บักตู่ออกจากวัดป่าสีดาฯถึง 2 ครั้ง ไปถามตาลุน ที่บ้านโคกดูได้ ตาลุนเป็นคนขับรถไปส่งบักตู่ตอนที่หลวงปู่ไล่ออกจากวัด บักตู่เขาอาฆาตหลวงปู่มาตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว

    ลูกหลานหลวงปู่ทางร้อยเอ็ดและลูกศิษย์หลวงปู่รุ่นก่อนๆเขาจะรู้ว่า บักตู่นั้นเป็นมารใหญ่ของหลวงปู่ ลูกหลานหลวงปู่และลูกศิษย์ของหลวงปู่ จึงไม่ยอมรับบักตู่มาตั้งแต่สมัยหลวงปู่ยังอยู่โน่นแล้ว

    อย่างพวกผู้พันหนุ่ย และพวกทหารนั้นเขาก็โดนบักตู่หลอกอีกทีนึง ยังดีที่แยกตัวออกมาได้

    ผมเคยคุยกับผู้พันหนุ่ยและก็บอกว่ารอให้บักตู่มันมีอันเป็นไปซะก่อนแล้วค่อยไปช่วยกันสร้างในเขตวัดของหลวงปู่ ต่อไปจะได้เห็นบักตู่สติวิปลาส ตอนนี้พวกผมจะช่วยพวกผู้พันหนุ่ยเขาสร้างพระเจ้าห้าพระองค์ ตามที่หลวงปู่ท่านสั่งไว้ก่อน หลวงปู่ท่านก็บอกให้พวกผมสร้างพระเจ้าห้าพระองค์ ก่อนพวกผู้พันหนุ่ยซะอีก แต่ตอนนั้นยังไม่พร้อม ท่านบอกว่าใครทำพระเจ้าห้าพระองค์ก็ให้มาช่วยกันสร้าง แต่เท่าที่ติดตามดู ก็เห็นว่าพวกบักตู่มันเป็นมารคอยขัดขวาง มันขวางเขาไปหมดตั้งแต่ตอนหลวงปู่ยังอยู่แล้วล่ะ ใครจะทำอะไรในวัดหลวงปู่ มันขวางเขาหมด ก็มารมันก็ทำหน้าที่ของมาร

    ผมเป็นใครนะเหรอ บักตู่มันรู้จักผมดี เจอหน้าผมแล้วมันจะหลบหน้า ออกพรรษานี้ ผมจะพาเจ้าหนี้บักตู่ ไปหาถึงที่วัดหลวงปู่เลยล่ะ บักตู่โกงเขามา รวมกันแล้ว 20 กว่าล้านบาทคงจะลอยนวลอยู่ได้ไม่นาน

    ที่เขาห้ามคนมีหนี้สินล้นพ้นตัวเข้ามาบวชในพุทธศาสนา ก็ด้วยเหตุแห่งความวุ่นวายแบบนี้แหละมั้ง

    คุณพยัคฆ์ คงจะเป็นเหยื่อรายใหม่ของบักตู่ละสิ ลองถามลูกศิษย์หลวงปู่รุ่นก่อนๆบักตู่ดูสิ ว่าบักตู่เป็นอย่างไร
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 กันยายน 2010
  9. yaba150

    yaba150 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    983
    ค่าพลัง:
    +636
    ทั้งสองท่านเล่านิทานคนละเรื่องเดียวกันสนุกมากครับ ได้ข้อคิด ข้อโกหก ข้อแก้ตัว และข้อบรรยายที่ได้น้ำได้เนื้อดีมากครับ ความจริงหลายเรื่องที่ผมรู้มาก็ตรงกัน หลายเรื่องก็เป็นความรู้ใหม่ อยากฟังอีกจังเลยครับ ใครหว่านพืชเช่นไรย่อมได้ผลเช่นนั้นแน่นอน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กันยายน 2010
  10. din555

    din555 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 เมษายน 2010
    โพสต์:
    520
    ค่าพลัง:
    +544
    เกิดอะไรขึ้นเหรอ ครับ ไม่รู้เรื่องไรเลย อยากรู้เรื่องบ้าง
     
  11. คุณพยัคฆ์

    คุณพยัคฆ์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +25
    เรื่องจริงของ AUNYASIT ที่คนไม่ค่อยรู้ ตอนที่ 5 :cool:

    ตกลงก็แสดงว่า คุณ AUNYASIT ไม่ใช่ผู้พันหนุ่ย นะครับ ตามที่เขียนมา ผมเชื่อท่านนะครับ ผมเชื่อว่าถ้าเป็นลูกศิษย์หลวงปู่จริงไม่โกหกแน่นอน ถ้าแบบนั้นก็ดีครับ จะได้เล่าอะไร ๆ ได้ถนัดหน่อย ใจจริงเราไม่ควรจะมาพูดเรื่องแบบนี้ในที่สาธารณะว่าใครดี ไม่ดียังไง ผมไม่ได้มาฟอกตัวหลวงพี่ แต่วันนึงผมเห็นคนผิดมาใส่ร้ายคนบริสุทธิ์ ผมรับไม่ได้ครับ และสิ่งที่คุณเล่ามามันก็เรื่องเก่า ๆ เดิม ๆ ก็เหมือนสิ่งที่ผู้พันหนุ่ยแถลงให้ศาลฟัง แล้วไงครับ คุณมาเล่าให้ผมเชื่อผมจะเชื่อไหม ไปถามคุณลุนที่บ้านโคกหรอครับ โหไกลไปไหมครับ ในเมื่อศาลยังไม่เชื่อข้อความที่คุณนำมาเขียนเลย แต่เหตุที่มาพูดเพราะ ไม่อยากเห็นลูกศิษย์ ลป.จำนวนมากที่ผ่านมาดู เอาความเป็นมิจฉาทิฏฐิ ของคุณ AUNYASIT และผู้พัน ติดตัวไปสร้างเวรกรรมให้ตัวเองมากกว่านี้ และไม่ควรตัดสินใครแบบฟังกระทู้เล่ามาก็เชื่อแบบคนโง่เลย คนที่มีหน้าที่ตัดสินความยุติธรรมในบ้านเมืองเขามี

    แม้วันนี้คุณ AUNYASIT ดูจะเข้าใจอะไรคลาดเคลื่อนก็ตาม แต่เชื่อว่า วันนึงท่านจะเข้าใจ เห็นถูกต้องตามทำนองคลองธรรมมากขึ้น

    สำหรับข้อความที่โพสมานั้น ผมเชื่อนะครับว่า ทุกอย่างล้วนอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา จริงๆ ไม่ได้มีความรู้สึกอะไรกับคุณ AUNYASIT ที่เข้ามาโพสเกี่ยวกับผมเลยสักนิด เพราะทีแรกนึกว่าท่านเป็นผู้พันหนุ่ยแฝงตัวมา แต่เรื่องที่ผมจะเชื่อหลวงพี่นั้น ก็อย่างที่บอกว่า เข้ามาอ่านข้อความคุณแรก ๆ ก็สบสน เกือบจะเกลียด หลวงพี่ตามคุณซะแล้ว สุดท้ายจึงรู้ว่าอะไรเป็นอะไร และลูกศิษย์หลวงปู่ที่ว่าเก่า ๆ ของคุณ AUNYASIT ผม
    อยากเตือนไว้ครับว่า ใครเจอที่บอกเป็นลูกศิษย์หลวงปู่ดูให้ดี ๆ นะครับ คนที่บอกว่าเป็นศิษย์ใครก็ตาม จะดูกันได้ก็ตอนอาจารย์ตกต่ำ หรือมี ปัญหานี่ล่ะครับ ลูกศิษย์อยู่ไม่กลัวเจ็บกลัวตายนี่คงจะได้ดี แต่ลูกศิษย์ประเภทอาจารย์รุ่งกูอยู่ อาจารย์มีปัญหากู
    หายนี่เยอะครับ อันนี้ไม่เรียกลูกศิษย์หรอกครับ ส่วนจะเรียกว่าอะไร ก็สุดแท้ แต่ที่แย่คิดลูกศิษย์ทรพีนี่ อันตรายสุด ๆ คนที่ผมคุยด้วยนั้นก็มีหลายยุคสมัย แต่ที่ผมฟังหูไว้หูนี่เยอะครับ อิจฉากันเองบ้าง กูดีกว่ามึง มึงเลยกว่ากูนี่ ก็มากครับ ถึงบอกไงถ้าจะดูอะไรดูที่อดีต ปัจจุบัน อนาคตดีกว่า มันบอกอะไรได้เยอะ และทุกอย่างล้วนอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา จริงๆ

    รู้ไหมสิ่งที่ผมเสียใจมากเรื่องนึงที่ผ่านมาแล้ว พอดีนึกได้ ก็คือ เรื่องที่มีการขัดแย้งเรื่องสังขารหลวงปู่ และถึงขนาดทำร้ายกันในวัดวา และข้าวของของหลวงปู่ถูกชาวบ้าน(ที่อ้างตัวว่าเป็นลูกศิษย์หลวงปู่ทั้งเก่าและใหม่ อย่างที่คุณ AUNYASIT ให้ผมไปถามนี่ล่ะ) กลุ่มเดียวกับผู้พันหนุ่ย รื้อค้นเอาเครื่องบูชาไปทิ้งและของมีค่าออกไปขายกินกัน ซึ่งสิ่งเหล่านี้ ผมจำได้ว่า สมัยหลวงพี่ตู่ ยังปกครองที่วัดสมัยหลวงปู่ละสังขารใหม่ๆ มันเคยเกิดขึ้นแล้วครั้งนึง ครั้งนั้นจำได้ว่า safe 2 ตู้ บรรจุเครื่องธรรมของหลวงปู่ถูกเอาออกมา จากแผนการของญาติหลวงปู่เองและชาวบ้านกลุ่มนึง ที่ก็อ้างตัวเป็นศิษย์หลวงปู่เหมือนกัน สุดท้ายได้ยินว่า ญาติท่านจากร้อยเอ็ด ปลอมแปลงเอกสารของศาลเพื่อขอเป็นผู้จัดการมรดกหลวงปู่ และศาลก็คำสั่งให้ญาติร้อยเอ็ดที่ว่าก็เปิด safe ออกและนำ ของมีค่า และอื่น ๆ ใน safe มาแบ่งกัน ไป นั่นก็หดหู่แล้ว

    แต่มาสมัยที่ผู้พันหนุ่ยเข้ามาในวัดนั้น หดหู่หนักกว่าหลายเท่านัก เพราะลูกศิษย์ที่เป็นทหารและรุ่นน้องผู้พันเล่า ว่า " ผู้พันมักชอบใช้เงินทำบุญในทางที่ไม่เหมาะสม " กล่าวคือ ญาติโยมมักฝากมาทำบุญ เพราะเหตุที่วัดอยู่ไกล ยกตัวอย่าง เช่น ผ้าไตรไหมทองสำหรับเปลี่ยนหลวงปู่ในวาระสำคัญ สมัยก่อนที่ผู้พันกับหลวงพี่ตู่ยังไม่มีปัญหากัน
    ผู้พันแกมักบอกบุญคนที่นับถือหลวงปู่ ว่าจะเปลี่ยนผ้าไตรหลวงปู่ก็มาบอกบุญในราคาที่เกินจริง (ไม่เกินหมื่นแต่บอกเป็นแสน)ทำนองนี้ หรือเงินเหลือจากทำบุญให้หลวงปู่ที่ศรัทธารวมๆ กันมา ไม่ว่าผ้าป่า กฐิน มีเงินที่คนฝากแกมาร่วม แกกลับเอามาเป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัวซะงั้น และอันนี้เป็นสาเหตุหนึ่งที่ผู้พันโจมตีหลวงพี่เพราะหลวงพี่จะรู้พฤติกรรมดังกล่าวดี เนื่องจากผู้พันขอเป็นเจ้าภาพจัดงานบุญที่วัดในหลายครั้ง จนมีปัญหามากขึ้นผู้พันจึงแยกมาทำมูลนิธิ และเอาชื่อเสียงหลวงปู่มาหากิน อันนี้คนพูดให้ผมฟังเขามีหน้าที่การงานเชื่อถือได้ครับ ถ้าให้เขามาพูดเองนี่มากกว่าที่ผมเล่ามา และถ้าเกิดดันแจ้งความผู้พันนี่ผมเป็นห่วงชีวิตรับราชการของผู้พันน่ะครับจะไม่รุ่ง และคนที่ถูกผู้พันบอกบุญดังกล่าวก็มีตัวตนอยู่จริงสามารถยืนยันได้ เค้าไม่กล้าทำบุญกลับผู้พันอีกเลยครับหลังจากทราบว่า อะไรเป็นอะไร

    แต่อันนี้ก็ไม่หนักหนาเท่าสัจจะวาจา เรื่องมีอยู่ว่า วันงานบุญของมูลนิธิวันนึงที่จัดกันหน้าวัดคนมากันมาก ขณะนั้นหลวงพี่ยังอยู่ในวัด แต่ก็เริ่มมีปัญหากันแล้ว สังขารหลวงปู่ยังอยู่ที่ ๆ ท่านละสังขารด้านในที่หลวงพี่อยู่จำวัด หลวงพี่ท่านว่า กำลังสร้างวิหารครอบ การเข้าไปสักการะหลวงปู่อาจลำบาก ก็ขอให้ญาติโยมอดทน เมื่อสร้างเสร็จจะยกหลวงปู่ให้สูงขึ้นอีก ที่ทางจะสะดวกขึ้น เล่าย้อนกลับไปที่ผู้พัน เมื่อเสร็จสิ้นงานในพิธีของมูลนิธิ ที่จัดกันข้างวัด โดยทางวัดไม่ได้เกี่ยวข้องใด ๆ เมื่อเสร็จพิธีทางผู้พันหนุ่ยก็ถือโอกาสพาคนที่มาทำบุญส่วนนึงพาเข้ามาตรงที่ไหว้สังขารหลวงปู่(ที่ว่าทางเข้าดูลำบาก) และใช้สาเหตุนี้มาโจมตีหลวงพี่ และเข้ามาด่าว่าหลวงพี่ต่อหน้าสาธุชนที่มาร่วมงานวันนั้น ว่าทำไม่เหมาะสม สิ่งนึงที่หลวงพี่จำมาจนวันนี้และท่านปรารภให้ผมฟังว่า ผู้พันตะโกนขึ้นเสียงดังว่า "จะนำร่างหลวงปู่ออกมาจากตำแหน่งที่ท่านละสังขาร" หลวงพี่ไม่ยอมเพราะท่านดูแลอยู่ โยมจะมาถือสิทธิ์อะไรที่ทำแบบนี้ ถ้ามีเรื่องเสียหายเกิดขึ้นจะรับผิดชอบไหวมั้ย ปรากฏว่า ผู้พันตอบกลับมาว่า "ถ้าเอาร่างหลวงปู่ออกมา เกิดอะไรขึ้นจะรับผิดชอบ ...." และตั้งแต่วันนั้นสถานการณ์ที่วัดก็เริ่มแย่ลง จวบจนหลวงพี่ถูกกลุ่มของผู้พันทำร้ายจนต้องออกมา ตามที่ผมเคยเล่ามา และข้าวของเครื่องใช้สมัยหลวงปู่ที่หลวงพี่ดูแลรักษาอย่างดี ตลอดจนของมีค่าที่ญาติโยมนำมาถวายบูชารอบโลงแก้วหลวงปู่ กลับถูกรื้อค้นเอาออกมาทิ้งบ้าง เผาบ้าง เอาไปชั่งกิโลขายบ้าง จนเกือบหมดสิ้น

    ทำไมแทนที่ผู้พันจะดูแลวัดให้เหมือนที่ตนได้ลั่นวาจาไว้ แต่ทำไมกลับตรงกันข้าม ตกลงผู้พันเป็นผู้มีสัจจะดีไหม เทวดาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไม่ชอบนะครับแบบนี้จะบอกให้ และเป็นที่มาเรื่อง กรุแตก ที่คนไม่รู้หลายท่านเคยนำพระชุดดังกล่าวส่วนนึง มาออกให้เช่าบูชาในหลายเว็บ พอดีตอนมีเรื่องใหม่ ๆ พระชุดนี้คนเอาออกมาขายกันมาก อ้างว่า หลวงปู่ให้เปิดกรุ ให้เช่าบูชา เอาเงินมาสร้างวัด อ้าวว หลวงปู่ละสังขารจะ 10 ปีแล้ว โกหกกับแบบนี้เลยหรือ ช่างน่ากลัวถึงอาถรรพ์จริง ๆ ครับ ลูกศิษย์หลวงปู่จริง ๆ ไม่มีแบบนั้นหรอกครับ ผมเอาชีวิตเป็นเดิมพันได้เลย คนที่มันทำแบบนี้ได้นรกอเวจีรออยู่แน่นอนครับ สรุป คือ จริง ๆ แล้วไม่ใช่กรุแตก แบบปกติทั่วไปครับ ร่องรอยการทุบทำลายยังมีให้เห็นรอบวัด ถ้าใครไปวัดจะเห็นได้ พระสงฆ์ที่มูลนิธินำมาอยู่แทนหลวงพี่ในเวลานั้นก็น่าสมเพชนัก ที่เอาพระ ที่หลวงปู่บรรจุไว้ออกมาแจกคนมาทำบุญ ทั้งพระนั่งโลก ,พระศรี และอื่น ๆ รูปหลวงปู่นี่เอาออกมาอัดขายกันจนมั่วไปหมดครับ ทั้งที่หลวงปู่ท่านบรรจุพระไว้วัตถุประสงค์ไม่ใช่แบบนี้แน่นอนครับ แถมพระสงฆ์ที่มูลนิธินำเข้ามาโกหกในหลายเรื่องที่พูดมา นี่ไม่รู้ว่า ท่านบวชเพื่ออะไรกัน

    ผมเล่ามาถึงตรงนี้ อยากให้ข้อคิดว่า ถ้าหลวงพี่ท่านไม่ดีจริงที่คุณ AUNYASIT กล่าวไว้ หลวงพี่ขายวัตถุมงคลของหลวงปู่ แบบพระสงฆ์ที่มูลนิธิแล้ว แต่ทำไมหลวงพี่ไม่แตะต้องของเหล่านี้เลย กลับกันพอกลุ่มของมูลนิธิเมื่อเข้ามาในวัดช่วงเวลาไม่ถึงปี ทำไมกลับทำให้ข้าวของในวัด ของเครื่องธรรมหลวงปู่ถูกรื้อค้นออกมาได้อย่างไรกัน และมากกว่าที่ญาติหลวงปู่วางแผนรื้อออกมาปี 2544 อีก ชาวบ้านคนนึงที่เห็นเหตุการณ์วันที่มีขนของกัน เล่าให้ผมฟังว่า มีรถกระบะขนของในวัดออกมาหลายเที่ยว ของบางอย่างมีการทะเลาะแย่งกัน บางรายจะฆ่ากันก็มี ภายหลังจากนั้นหลวงพี่ ได้คำสั่งศาลกลับมาที่วัด คนของมูลนิธิบางส่วนยังอยู่ และต่อต้านจะทำร้าย โดยมีผู้พันอยู่เบื้องหลัง ศาลต้องบังคับคดีให้คนเหล่านั้นออกมา ผมจำได้เพราะผมมาวัดช่วงนั้นพอดี ตั้งใจมากราบหลวงปู่ ไม่รู้นึกยังไง พอเข้ามาพร้อมกับหลวงพี่ มาสำรวจภายในวัดรกมาก ของเกะกะ หลังจากหลวงพี่ออกไป ด้านในกุฏิทุกแห่งในวัดที่เคยมีพระพุทธรูป เครื่องบูชา โล่งและราบเรียบ เครื่องกรรมฐานในเขตหลวงปู่ถูกนำออกมาเกือบหมดสิ้น แม้แต่ดิน บริเวณที่สังขารหลวงปู่เคยอยู่ ยังถูกขุดขึ้นมาหลายแห่ง ยังกับจะค้นหาสมบัติอะไร

    และแบบนี้คนที่กล่าวว่าจะรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้น ถ้าร่างหลวงปู่ออกมาเวลานั้น ตอนนี้ไปอยู่ที่ไหนครับ ใช่ผู้พันหนุ่ยไหมที่พูด และนี่คือ สิ่งที่หลวงพี่ท่านจำมาจนทุกวันนี้ เมื่อเอ่ยถึงชื่อ ผู้พันวีระพงศ์ คงสวัสดิ์ และใครจะเชื่อถือใคร ใครเล่านิทานยังไง ก็ตาม วันที่ผมโพสนี้เป็นวันพระ การที่ผมมาโพสไม่ได้โกรธแค้น ผู้พัน
    หรือคุณ AUNYASIT แต่ไม่เข้าใจว่า ทำไมผู้พันที่เคยบอกว่าเป็นลูกศิษย์หลวงปู่ และดูน่าเชื่อถือในสมัยก่อนที่ผมเคยเจอ กลับเป็นคนละคนกลับปัจจุบันยิ่งนัก และยิ่งผมได้เห็นคำสั่งศาล และคนที่เดือดร้อนจากการกระทำของผู้พันหลายคน ยิ่งสะท้อนให้เห็นว่า สิ่งที่ผู้พันได้เป็นผู้ก่อไว้ ได้สร้างความเสียหาย ทั้งร่างกายและจิตใจของทั้งพระเณร ชาวบ้าน และลูกศิษย์หลวงปู่ส่วนหนึ่ง จนไม่สามารถที่จะคุยกันได้แบบเพื่อนมนุษย์ต่อกันได้เลย มันไม่ใช่การมองคนละมุม หรือเรื่องการขัดแย้งผลประโยชน์ แต่มันเป็นถูก กับ ผิด ใช่ กับ ไม่ใช่ และข้อเท็จจริง

    ฝ่ายผู้พันก็จะหัวแข็ง ว่าทำไม ศาลที่เข้ามาไกล่เกลี่ยจึงเข้าข้างอลัชชีในความคิดของตัวเอง ไม่เข้าข้างตนเอง หรือเพราะคุณลุน ไม่มาเป็นพยานให้ หรือเพราะศาลไม่ชอบทหาร ผู้ที่ปกป้องชาติ ศาสนาหรืออย่างไร นะ อันนี้ท่านลองคิดดูว่า คนระดับผู้พิพากษาจะมาเข้าข้าง ฝ่ายไหนทำไมกัน

    ดังนั้นสิ่งที่คุณ AUNYASIT มาเป็นปากเสียงให้ผู้พันหนุ่ย แรก ๆ ก็ตื่นเต้นดี ตอนนี้ยิ่งแก้ปม เหมือนปมจะใหญ่ขึ้น ผมอ่านข้อเขียนแล้วรู้สึกหดหู่ การสรุปของผู้พันที่ให้คุณ AUNYASIT มาโพสโจมตีหลวงพี่นั้นล้วนไร้สาระนัก ข้อมูลแบบนี้ถูกนำมาเสนอในชั้นไต่สวนศาล จ.หนองคาย และแถมปล่อยข่าวลือ จนเค้ารู้กันทั้งจังหวัดแล้ว ตามที่คุณ AUNYASIT เขียนมาก็ในกระทู้นี้ แบบเดียวกับที่ผู้พันแถลงศาลเลยเปะเลย แปลกใจว่า สุดท้ายทำไมผู้พันที่มีอำนาจมากมาย เป็นถึงประธานมูลนิธิ และรู้จักผู้หลักผู้ใหญ่มากมาย กลับไม่สามารถทำให้คณะผู้พิพากษาศาลรับฟังได้สักนิด หรือ เพราะความไม่มีสัจจะวาจา หรือเปล่าลองคิดดูนะครับ

    ใครจะเชื่อคุณ AUNYASIT ก็ลองกลับไปคิดดูนะครับว่า ที่คุณ AUNYASIT นำมาเล่าถ่ายทอดมาจากผู้พันที่แสนน่าเชื่อถือ และคุณ AUNYASIT บอกในทีนี้ว่าเป็นคนละคนกับผู้พัน ญาติหลวงปู่บางคน ผู้ที่อ้างตัวเป็นลูกศิษย์หลวงปู่บางคน รวมถึงคนที่ชอบอ้างแบบนี้แบบนี้ ระวังดี ๆ มีเยอะ มันมีน้ำหนักไหม เทียบกับที่ผมนำมาเล่า ใครจะจริง ลองใช้วิจารณาณดู

    แต่ที่แน่ ๆ ความรับผิดชอบจากผู้พัน ที่ความเสียหายในวัดเกิดขึ้น ไม่เห็นมีสักนิดครับ คนที่เข้ามาอ่านก็อย่าสงสัยว่าเรื่องอะไรเลยครับ เรื่องมันไม่เป็นเรื่องสักนิด หรือบางทีอาจเป็นเรื่องเอาดีเข้าตัวเอาชั่วให้คนอื่น

    อยากบอกว่า คุณ AUNYASIT ที่เขียนกระทู้นี้ผมก็พอจะทราบวัตถุประสงค์ แต่สงสัยว่าใช่ลูกศิษย์หลวงปู่จริงหรือเปล่า เพราะมาเขียนด่าพระด่าเจ้าแบบนี้ แถมบอกว่า วัดมีปัญหาแบบนั้นแบบนี้ ทั้งที่ผู้พันที่ตนเองรู้จักเป็นคนก่อเรื่องทั้งสิ้น หยุดซะทีเถอะครับ ถ้าอยากให้วัดเจริญขึ้น วัดนี้ปัจจุบันนี้ก็ปกติดีแล้ว เริ่มมีคนเข้าวัดมากขึ้นแล้ว และ คุณรู้ไหมว่า เพื่อน ๆ พี่น้อง ของคุณที่เคยทำบุญและรู้จักคุณ ใครหายไปบ้าง ลองสำรวจดูนะครับ และวันนึงคุณจะได้สติว่าคุณทำอะไรอยู่ ผมหวังว่าจะทำให้คุณได้สตินะครับที่มาเขียนวันนี้ ขอให้โชคดีครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กันยายน 2010
  12. Aunyasit

    Aunyasit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    1,312
    ค่าพลัง:
    +13,053
    ขอบคุณพี่เสี่ย ที่ช่วยมาตอบให้หน้านึงครับ

    คุณพยัคฆ์มั่วข้อมูล อีกแล้วครับ คิดอยากเขียนอะไรก็เขียน อยากจะกล่าวอะไรก็กล่าว แต่ความเท็จก็คือความเท็จ ครับ

    ที่จริงทุกคนยังยังเข้าออกที่พักสงฆ์ของหลวงปู่ได้ตามปกติ ศาลห้ามแค่พระ 2 รูปไม่ให้อยู่จำพรรษาในเขตที่พักสงฆ์ ไม่เกี่ยวกับผมหรือคนอื่นๆ ครับ สำหรับผมนั้น พระตู่ไปขอถอนฟ้องผมซะคนแรกเลย ด้วยเหตุผลที่พอจะคาดเดาได้ว่า หากสู้กับผมทางกฏหมายนั้น คงจะเหนื่อยเพราะผมรู้เรื่องของพระตู่มาก เช่นเรื่องใบสุทธิ เรื่องการบวชระหว่างศาลสั่งล้มละลาย เรื่องสิทธิ์ของพระตู่ในเขตที่พักสงฆ์ คูณพยัคฆ์ลองนำเอาคำสั่งศาลในคดีนั้น มาให้สาธารณะชนเขาพิจารณาดูสิ ผมว่าคุณไม่กล้าหรอกเพราะข้อมูลของคุณนั้นเป็นข้อมูลเท็จ

    อย่างเรื่องผ้าไตรไหมแท้ถวายหลวงปู่นั้น คุณพยัคฆ์มั่วสนิทเลยครับ เพราะผู้ที่ถวายผ้าไตรไหมเปลี่ยนให้หลวงปู่นั้น ไม่มีคนนอกเลยครับ มีแต่คนที่เป็นลูกศิษย์วัด เวียนกันเป็นเจ้าภาพ ไม่มีการเรี่ยไรเงินจากคนนอก จะใช้เงินตัวเองมาซื้อผ้าไตรกัน เพราะแต่ละคนก็อยากได้บุญเต็มๆ อย่างเมื่อสงกรานต์ 53 ที่ผ่านมา ผมก็ไปเปลี่ยนผ้าจีวร ให้หลวงปู่ ในวันสงกรานต์ (ผมถ่ายรูปเก็บไว้ด้วย) ผ้าไตรนั้นมีคนเขาศรัทธาหลวงปู่ ขอปวารณาหามาถวายให้และ หลวงปู่ท่านบอกให้ผมไปเปลี่ยนผ้าให้ท่าน ท่านบอกว่าท่านนอนเหม็นผ้าเก่ามาหลายปีแล้ว สรุปว่า ภายในของหลวงปู่ท่านไม่รับถวายของจากพระตู่มาเป็นเวลายาวนานแล้ ผมถือว่าเป็นโมฆะบุญ ครับ

    ผมรับรองว่าข้อมูลของผมถูกต้องและก็มีหลักฐานชัดเจน ข้อมูลที่พี่เสี่ยบอกเรื่องการล้มละลายและก็การบวชของพระตู่นั้น ผมมีหลักฐานตรงกันกับที่พี่เสี่ยมีครับ

    และที่พี่เสี่ยไม่สังเกต ก็คือ ในใบสุทธิพระตู่นั้นระบุว่า สังกัดวัดป่าสีดาพระรามลักษณ์ รัตนโคตร ครับ เมื่อไม่ได้มีวัดชื่อ วัดป่าสีดาพระรามลักษณ์รัตนโคตร อยู่ในระบบของกรมการศาสนา แล้วพระตู่สังกัดสำนักไหนละครับ

    แค่นี้ก็เพียงพอแล้วครับสำหรับข้อเท็จจริง เมื่อพระตู่เขาสังกัดวัดที่ไม่มีอยู่จริงในระบบของทางการ เขาก็คงไม่ได้เป็นพระสงฆ์ไทย ตามพระราชบัญญัติสงฆ์ นี่คือข้อเท็จจริง ครับ


    เรื่องใบสุทธิพระตู่ เป็นความจริงที่พิสูจน์ง่ายๆเลยครับ แต่คุณพยัคฆ์ ไม่กล้าพิสูจน์เรื่องใบสุทธิของพระตู่ มันน่าอายที่จะต้องพูดความจริงเหรอ ครับ หรือว่าคุณพยัคฆ์มีส่วนร่วมกับการหลอกชาวพุทธที่เขาอยู่ห่างไกล ให้เขาทำบุญที่เป็นโมฆะบุญด้วยเหรอ ช่วงนี้ไม่เห็นพิมพ์ซองประทับตราวัดป่าสีดาฯ ออกมาเรี่ยไรแจกญาติโยมอีกล่ะครับ ผมเองยังมีเก็บไว้หลายซอง ที่ไม่กล้าทำก็เพราะความจริงได้ถูกเปิดเผยละสิท่า


    พี่เสี่ยเคยถามผมว่า ถ้าพวกพี่จัดการสึกพระตู่ได้ แล้วใครจะอยู่เฝ้าที่พักสงฆ์หลวงปู่ อันนี้ผมยังไม่มีคำตอบให้ อาจจะให้พี่เสี่ยไปนิมนต์ลูกศิษย์หลวงปู่รูปใดรูปหนึ่งมาอยู่ละกัน

    และพี่เสี่ยถามผมว่า พระสงฆ์ปกครองในจังหวัดเขาว่ายังไง ก็เรียนตามตรงว่าพระในจังหวัดทราบข้อมูลทุกอย่างและมีหลักฐานทุกชิ้นเกี่ยวกับพระตู่ แต่ที่ยังรีรอยังไม่ทำอะไรเพราะรอข้อแนะนำของฝ่ายกฏหมาย พระท่านก็กลัวว่าจะต้องค้าความกับพระตู่ เพราะว่าที่พักสงฆ์ป่าสีดานั้นไม่ได้ขึ้นทะเบียนวัด การใช้อำนาจการปกครองสงฆ์จึงค่อนข้างลำบาก เจ้าคณะตำบลที่มีหน้าที่โดยตรงก็ไม่ยุ่งกับเรื่องนี้ ตอนนี้เจ้าคณะอำเภอท่านก็กำลังดำเนินการให้อยู่ครับ

    ท่านใดอยากทราบข้อเท็จจริง สอบถามได้ที่ สนง. พระพุทธศาสนา จ. หนองคาย หรือ ที่ สภ. บ้านเดื่อ ก็มีข้อมูลเพียบ ครับ


    ยิ่งมีเรื่องราวแบบนี้ ปรากฏว่าปัจจุบันนี้ยิ่งมีคนหลายหมู่ หลายคณะ ขอมาร่วมทำบุญกับผมที่พระพุทธเจ้าห้าพระองค์มากขึ้นเรื่อยๆ ส่วนใหญ่ครูบาอาจารย์ของเขาบอกให้มาช่วยกันทำและบางส่วนหลวงปู่ทองทิพย์จะคอยบอกเป็นเสียง ให้ทำโน่นทำนี่ พวกนี้เขามีสื่อญาณสัมผัส กันทั้งนั้น ออกพรรษานี้มีหลายคณะขอมาร่วมบุญและปฏิบัติธรรม บางคณะขอมาพักปฏิบัติธรรมหลายสิบคน ก็เป็นเรื่องแปลกที่ว่า ยิ่งมีเรื่องคนก็มาทำบุญกันมากขึ้น เดือนก่อนมีคณะนึงมาปวารณาขอร่วมสร้างสร้างปราสาทพระพุทธเจ้าห้าพระองค์ทั้งสี่ทิศ ก็คงจะถึงกาลเวลาตามที่หลวงปู่ท่านว่า เมื่อสวรรค์เปิด ก็สามารถทำสิ่งที่ทำได้ยากให้สำเร็จได้ แต่ก็ต้องมีมารมาผจญ นี่คือการสร้างบารมี ท่านบอกว่าผ่านธรรมโลกา(โลกธรรมแปด)ได้ ก็จะได้ธรรมโลกียะ

    หลวงปู่ท่านคือสุดยอดปรมาจารย์ ปัญญาเลิศ สำเร็จพระโพธิญาณสมบูรณ์แบบ รอคิวเป็นพระพุทธเจ้า พญามารตามไม่ทัน ก็ได้แต่ฟาดหัวฟาดหางไปตามเรื่องตามราว ตามหน้าที่ของมาร ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กันยายน 2010
  13. tarano

    tarano สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +3
    แม่ผมเพิ่งไปไหว้ หลวงปู่มา เมื่อวันที่15 ท่านเล่าให้ฝังว่า เหมือนวัดล้างมาก
    กลิ่นอับไปทั้งวัด เจอช่างที่คอยดูแลวัดอยู่ 1 คน บอกว่าหลวงพี่ตู่ อยู่คนที่ดูแล
    จึงพาไปไหว้หลวงปู่ แล้วเล่าให้ฟังว่า เมื่อวานได้ออกไปซื้อข้าวมากิน ถูกชาวบ้านทำร้ายจนซี่โครงหัก ผมอยากรู้ว่าที่วัดเกิดอะไรขึ้นแน่ ทำไมต้องทำร้ายกัน
    เห็นพระที่วัดใกล้เคียงเล่าให้ฟังว่า ในวัดหลวงปู่มีสมบัติเยอะ มีหีบทอง เวลาหลวงปู่สร้างอะไร ก็จะมีญาติโยมนำทองไปโยนที่ก้นหลุมก่อนจะสร้างจิงหรือเปล่าคับ
     
  14. Aunyasit

    Aunyasit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    1,312
    ค่าพลัง:
    +13,053
    กลิ่นเหม็นอับในวัดหลวงปู่ ส่วนใหญ่ก็มักจะมาจากกลิ่นบูดเน่าของเครื่องเซ่นไหว้ภูมิชั้นต่ำ เช่นพวกหัวหมู ไก่ รวมทั้งผลไม้เน่า เป็นต้น

    เดือน ส.ค. ในวัดก็มีการตีกันหลายวาระ เดือนนี้มีตีกันอีกแล้วเหรอครับ

    นี่แหละกรรม ดูไปเรื่อยๆครับ ว่าเทวดาเขาจะลงโทษอย่างไรต่อไป ก็คงจะหนักขึ้นเรื่อยๆ ครับ

    เรื่องทองคำในวัดหลวงปู่่นั้น แต่ก่อนอาจจะมีจริง แต่หลวงปู่ท่านสำเร็จธาตุขั้นสูง ท่านคงแปรธาตุเคลื่อนย้ายไปอยู่ที่อื่นหมดแล้วก่อนท่านละสังขาร หากไม่อยู่ในเมืองบังบด ก็อยู่ในเมืองพญานาคล่ะ ส่วนผู้ที่โลภต้องการยึดครองทองคำและแสวงหาทรัพย์อื่นๆที่หลวงปู่ท่านถวายเป็นพุทธบูชาไว้ในศาสนา ก็คงรอกาลเวลาแห่งความวิบัติครับ

    หลวงปู่ท่านไม่ได้ยึดติดกับสิ่งเหล่านี้เลยแม้แต่น้อย และท่านสอนให้สานุศิษย์ทุกคนสร้างบารมีเพื่อสั่งสมอริยทรัพย์ แต่ก็มีคนจำนวนมากที่สอบไม่ผ่านเรื่องการสร้างอริยทรัพย์ จิตจึงวนเวียนอยู่กับทรัพย์สมบัติของศาสนาและของโลก ตายไปก็คงจะไปได้ไม่เกินอบายภูมิสี่ ครับ
     
  15. ณ มาตุธรรม

    ณ มาตุธรรม Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มกราคม 2010
    โพสต์:
    22
    ค่าพลัง:
    +43
    ไม่ธรรมดานะที่ยังปล่อยให้พะบู้พระปลอมอย่างนายสุวิทยาหรือตู่พาเมียและแม่ยายกลับเข้าไปอยู่ในที่พักสงฆ์ ที่หลวงปู่ผู้เป็นอริยะทั้งหลายได้ทำให้สถานที่แห่งนั้นเป็นนาบุญขึ้นมา
    หรืออาจจะดีต่อคนกลุ่มหนึ่งก็ได้ พระปลอมผู้ผัวก็ห่มผ้าเหลืองตบตาชาวบ้าน เมียก็คอยหุงหาอาหารเป็นหูตาหาเหยื่อ แม่ยายก็เป็นไกด์ประจำสถานที่
    อย่างว่าแหล่ะไม่แปลกคนระดับมีตำแหน่งทั้งนั้นที่เคยฮั๊วกันหลอกเอาเงินสาธุที่ผู้คนมีศรัทธาต่อหลวงปู่ทองทิพย์ ไปแบ่งกันใช้ตั้งเป็นสิบๆล้าน ถ้าตัดสินเอาโทษคนชั่วทำผิดก็คงจบเห่กันทั้งยวง (ว่าแล้วก็อยากลงรูปทหารทั้ง 5 นายให้คนได้เห็นตะหงิดตะหงิด)

    แต่อย่าคิดว่าผู้ที่เอาศาสนาแห่งองค์พุทธะมาหลอกศรัทธาสาธุชนกอบโกยผลประโยชน์สนองกิเลสตนเอง จะอยู่ดีมีสุขนะ ดาบและหอกสังหารของกรรมมันปักแทงหลังรอลูกดอกแจ๊กพ็อต ตูม ! เท่านั้นเอง อีกนิดเดียว?

    และแล้ว...พระพุทธปฏิมากรพระพุทธเจ้า ๕ พระองค์ ที่สร้างขึ้นครั้งหลัง ก็สำเร็จเป็นไปตามที่หลวงปู่ทองทิพย์ท่านสั่งไว้ว่า จะมีพระสงฆ์กายธรรมหลวงปู่เทพโลกอุดรมาช่วยนำพาการสร้างให้สำเร็จพร้อมกันทั้ง ๕ พระองค์ (น่าสงสารพระรูปนั้นนะท่านอุตส่าห์ใช้บารมีนำพาการสร้างจนสำเร็จ แต่ทำมั๊ย?ทำไม?ค่าหล่อองค์พระถึงไปค้างสต๊อก ยังจ่ายให้โรงหล่อไม่ครบเลย)
     
  16. คนนะ

    คนนะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    76
    ค่าพลัง:
    +221
    คงเหนื่อยกันใช่เล่น ทั้งคนดีคนชั่ว

    อีกไม่นาน ทุกอย่างจะคลี่คลายทั้งหมด
     
  17. leoknit

    leoknit Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กันยายน 2010
    โพสต์:
    56
    ค่าพลัง:
    +38
    เออ ไม่ค่อยอยากยุ่งนะครับ กระทู้เรื่องวัดป่าสีดานี้ คุณ AUNYASIT เคยโพสไว้ในกระทู้เก่า แล้วนี้ครับไม่ทราบว่า จะตั้งกระทู้ใหม่ขุดหาเพื่ออะไร และต้องการอะไร หรือต้องการให้คนยอมรับว่า พระที่บวชนั้นไม่ใช่พระ ว่างมากไปปฏิบัติธรรม ดีกว่าไหมครับผมไม่ทราบหรอกว่าคุณทำอะไรมามั่งระบบศีลหรืออะไรบารมีจะล้นฟ้าขนาดไหน แต่มองดูแล้วเหมือนมาเรียกร้องอะไรที่ตัวเองไม่ได้รับ หรือต้องการแก้แค้นใครบางอย่าง ผู้อ่านลองอ่านดีๆนะครับ ครูบาอาจารย์ท่านมรณะภาพไปแล้วแทนที่ตัวเองจะปฏิบัติทางจิตไปเพื่อให้รุ้แจ้งเห็นธรรมกลับมาตั้งกระทู้ใหม่ขุดเรื่องเก่ามาไม่จบสิ้นเหมือนฟื้นฝอยหาตะเข็บ หลายๆคนที่อ่านในกระทู้เก่าเอื้อมระอากันเต็มทนแล้ว ปลงซะมั่งครับเขาจะผิดจริงหรือไม่จริงก็ให้มันเป็นไปตามกรรมของเขาเถอะ เหมือนกระจกส่งหน้าทำอย่างไรได้อย่างนั้น วันนี้คุณทำอะไร ตั้งกระทู้มาเพื่อให้คนอื่นคนถามให้คนสงสัย ต้องการตีแผ่เพื่ออะไร แบบนี้ถ้ามีข้อมูลจริงๆ ไปกระทรวง หรือไปหาออกรายการอะไรทางทีวีเลยสิครับว่างมากนัก เห็นตั้งกระทู้ถึงที่วัดป่าสีดานี้ ไม่คิดถึงครูบาอาจารย์หรอกหรอครับว่าเขาให้ยึดติดสถานที่ให้ยึดติดสังขารศพครูบาอาจารย์ สิ่งเหล่านี้มันช่วยให้คุณได้เขาถึงธรรมแท้จริงหรือเปล่า ขอให้คุณหยุดการกระทำโดยการโพสเพื่อเรียกร้อง ให้คนมาอ่านของคุณเถอะ มันไม่ได้มีอะไรดีขึ้นเลยคนอ่านเขาไม่ได้มองว่าคุณดีขึ้นหรอกครับ หัวข้อกระทู้นี้นี้สำหรับพุทธภูมิไม่ต้องเอาหลวงปู่มาอ้างนะครับ เพราะไม่เกี่ยวอะไรกับหลวงปู่เลย คุณไม่ได้เอาธรรมหรือข้อวัตรหลวงปู่มานำเสนอ แต่กลับเป็นการจองล้างลองผลาญ พระตู่ ผมเองไม่ได้เป็นลูกศิษย์หลวงปู่เลย แต่ถ้าหลวงปู่ยังมองดูอยู่ท่านจะบอกคุณว่าอะไรครับ ว่าให้ไปเอาเรื่องพระตู่ให้ได้หรือ นี่มันวิสัยของผู้ปฏิบัติ หรือเปล่า ยึดติดอะไรมากเกินไปไหม ถ้าว่างมากๆและต้องการแก้แค้นพระตู่ที่คุณว่าก็หาหลักฐานไปหาออกรายการทีวี ที่มันตีแผ่ความจริงไปเลยคุณรวมกลับคณะศิษย์ที่คิดว่ามั่นใจกลับความจริงที่มีอยู่ไปเลยครับ ไม่ต้องมาหลายแนวร่วมในนี้แล้วเหมือนต้องการหาพวกหาพ้องเพราะทำอะไรไม่ได้เลยมาระบายออกทางนี้ โพสในนี้มันได้อะไรขึ้นมา หรือต้องการให้คนรู้ว่าพระตู่ไม่ดี หรือถ้ารู้ว่าเขาไม่ดีแล้วมันมีอะไรขึ้นครับตัวคุณเองได้อะไรกลับมา ได้ความภาคภูมิใจหรือ คุณจะได้การเข้าถึงธรรมอย่างแท้จริงหรือ ครูบาอาจารย์ จะสรรเสริญคุณหรือ กลับไปกระทู้เก่าเถอะครับไปกระทู้ที่คุณสร้างไว้อย่างได้เอาเรื่องนี้มาไว้ในหัวข้อกระทู้พุทธภูมินี้อีกเลย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 กันยายน 2010
  18. yaba150

    yaba150 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    983
    ค่าพลัง:
    +636
    ผมก็รอดูอยู่เหมือนกันครับ
     
  19. Aunyasit

    Aunyasit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    1,312
    ค่าพลัง:
    +13,053
    คุณ ดอมม์

    การสร้างบารมีก็ต้องเหนื่อยแบบนี้แหละครับ มารบ่มีบารมีบ่เกิด ครับ

    คุณ yaba150

    ตอนเช้าวันออกพรรษา ถ้าคุณyaba150 ว่างก็เชิญมาร่วมเททองหล่อพระอุปคุตในอิริยาบทปราบมาร เป็นปางสมาธิ มีพญานาคปรก 9 เศียร ที่ลานหน้าพระพุทธเจ้าห้าพระองค์ครับ ก็ถึงกาลเวลาที่จะต้องอาราธนาพระอาจารย์ท่านขึ้นมาช่วยปราบพญามารอีกวาระนึงแล้ว

    เมื่อเดือนก่อนพระอุปคุต ท่านมาแสดงรูปร่างลักษณะเดิมของท่านให้ดู ผมก็พยายามให้ช่างทำให้เหมือนท่าน แต่ช่างก็ทำได้ใกล้เคียงแค่ 70-80 เปอร์เซ็นต์ ตอนนี้ช่างกำลังปั้นพญานาค 9 เศียร ท่านบอกให้ใช้รูปแบบพญานาค แบบเดียวกับที่วงเวียนหน้าเมืองหนองคาย ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • P2.JPG
      P2.JPG
      ขนาดไฟล์:
      10.7 KB
      เปิดดู:
      122
    • P1.JPG
      P1.JPG
      ขนาดไฟล์:
      7.8 KB
      เปิดดู:
      120
  20. เกษรธรรม

    เกษรธรรม สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +4
    คุณ AUNYASIT อ่านข้อความของคุณเหมือนนั่งอ่านฎีกา ดูเหมือนคงชอบเรียนกฏหมาย คืออธิบายว่า " แล้วไม่ได้เป็นยังงั้น จะเป็นอย่างนี้ได้ยังไง " ดูเป็นเหตุเป็นผลเหลือเกิน ฟังเสียงจากคนนอกที่ไม่รู้เรื่องว่าเรื่องนี้เป็นไงมาไงบ้างนะ หลวงพ่อถาวร จิตตถาวโร เคยสอนลูกศิษย์ลูกหาว่า ธรรมมะไม่ใช่กฎหมาย ไม่ได้มีไว้ให้ท่องจำแต่ไม่ปฏิบัติ แต่เท่าที่ฟังคุณกล่าวมาทั้งหมด น่าเชื่อว่าคุณคงเคยได้เรียนกฏหมาย แต่เอามาปรับใช้กับคุณพระคุณเจ้า ไม่ถูกส่วน เอาความเก่งกาจทางโลกของคุณไปใช้ทางโลกดีกว่า ใบสุทธิต่างๆที่คุณว่ามาหนะ คุณเขียนอธิบายตัวตนคุณออกมาว่า คุณยังหลงติด ยึดมั่นกับกฏเกณฑ์ทางโลกอยู่มากนัก แล้วอย่าไปเที่ยวใช้ปัญญาทางโลกของคุณตัดสินผู้ใดเลย หากจำเลยที่คุณกล่าวหากระทำผิดจริง แม้อัยการสั่งไม่ฟ้อง หรือศาลยกฟ้อง กฏแห่งกรรมจะยิ่งใหญ่กว่า รวมทั้งคุณด้วย
     

แชร์หน้านี้

Loading...