เยือนเมืองเก่า“สุโขทัย”อัศจรรย์ใจพระพุทธรูปพูดได้

ในห้อง 'ท่องเที่ยว - อาหารการกิน' ตั้งกระทู้โดย NoOTa, 26 สิงหาคม 2010.

  1. NoOTa

    NoOTa Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    20,125
    กระทู้เรื่องเด่น:
    349
    ค่าพลัง:
    +64,489
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>เยือนเมืองเก่า“สุโขทัย” อัศจรรย์ใจพระพุทธรูปพูดได้ </TD><TD vAlign=baseline align=right width=102>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>25 สิงหาคม 2553 15:53 น.</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย มรดกไทยและมรดกโลกอันทรงคุณค่า</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>“พระพุทธรูปพูดได้” เรื่องนี้อาจฟังดูเหลือเชื่อ แต่ว่าทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) เขาการันตีความพิศวงด้วยการ ชูพระพุทธรูปพูดได้ในเมืองเก่าสุโขทัยให้เป็นหนึ่งในอันซีนไทยแลนด์(2)อันน่าทึ่ง ซึ่งนี่ถือเป็นหนึ่งในสิ่งชวนค้นหาจากบรรดาหลากหลายสิ่งในเมืองเก่าสุโขทัย

    สำหรับเมืองเก่าสุโขทัยมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า “อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย” เป็นทั้งมรดกโลกและเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวอันสำคัญของเมืองไทย ที่แม้วันเวลาจะผ่านมากว่า 700 ปีแล้ว แต่ว่ารอยอดีตอันยิ่งใหญ่แห่งราชธานีสุโขทัย และร่องรอยแห่งความงดงามของดินแดนแห่งนี้ยังปรากฏให้คนรุ่นหลังเห็นกันอยู่ทั่วไป จนทำให้“ตะลอนเที่ยว”อดใจไม่ไหว ต้องเดินทางกลับมาสัมผัสกับอดีตราชธานีอันรุ่งโรจน์แห่งสยามประเทศอีกครั้งหนึ่ง


    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>วัดมหาธาตุ วัดสำคัญบ้านคู่เมืองอาณาจักรสุโขทัย</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>สุโขทัยเมืองแห่งรุ่งอรุณ

    คำว่า“สุโขทัย” มีความหมายว่า “รุ่งอรุณแห่งความสุข” ที่มาจากคำว่า“สุข”ผสมกับคำว่า“อุทัย” โดยในศิลาจารึกสุโขทัยหลักที่ 2 ได้บันทึกเรื่องราวยุคต้นของอาณาจักรสุโขทัยไว้ว่า

    ...เมื่อพ่อขุนศรีนาวนำถม เจ้าเมืองสุโขทัยสิ้นพระชนม์ลง ภายในเมืองก็เกิดความวุ่นวายเนื่องจาก “ขอมสบาดโขลญลำพง” เข้าปกครองเมืองสุโขทัย จนทำให้พ่อขุนผาเมืองเจ้าเมืองราดผู้เป็นโอรสของพ่อขุนศรีนาวนำถม ต้องชวนสหายคือ พ่อขุนบางกลางท่าวมาช่วยร่วมรบชิงเอาเมืองสุโขทัยคืนมาได้

    เมื่อยึดเมืองสุโขทัยคืนได้ พ่อขุนผาเมืองก็ยกเมืองให้แก่พ่อขุนบางกลางท่าว พร้อมทั้งมอบพระขรรค์ชัยศรี และนามศรีอินทราทิตย์ อันเป็นนามเกียรติยศให้แก่พ่อขุนบางกลางท่าว ซึ่งนับแต่นั้นมาพ่อขุนบางกลางท่าวจึงเป็นที่รู้จักกันในนาม “พ่อขุนศรีอินทราทิตย์” อันถือกันว่าเป็นกษัตริย์องค์แรกแห่งราชธานีสุโขทัย...


    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>อนุสาวรีย์พ่อขุนรามคำแหงมหาราช</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>สำหรับยุคทองของสุโขทัยนั้น อยู่ในยุคที่“พ่อขุนรามคำแหง”ขึ้นครองราชย์ในตอนต้นพุทธศตวรรษที่ 19 ซึ่งบ้านเมืองสมัยพ่อขุนรามฯนั้น มีความสงบร่มเย็น มีความเป็นปึกแผ่นกลมเกลียว และยังมีอาณาจักรขยายออกไปอย่างกว้างขวาง มีความเจริญรุ่งเรืองในพุทธศาสนา และสิ่งโดดเด่นมากๆของพ่อขันรามฯก็คือ การให้กำเนิดตัวอักษรไทย(ลายสือไทย)ขึ้นมา

    อนึ่งจากหลักฐานที่แสดงถึงความเป็นยุคทองแห่งสุโขทัยในยุคนั้นก็คือ คำบอกเล่าในศิลาจารึกพ่อขุนรามคำแหง ที่ได้จารึกข้อความเอาไว้ว่า

    “...เมื่อชั่วพ่อขุนรามคำแหง เมืองสุโขทัยนี้ดี ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว เจ้าเมืองบ่เอาจกอบในไพร่ลู่ทาง เพื่อนจูงวัวไปค้า ขี่ม้าไปขาย ใคร่จักใคร่ค้าช้าง ค้า ใครจักใคร่ค้าม้า ค้า ใครจักใคร่ค้าเงือนค้าทองค้า ไพร่ฟ้าหน้าใส...”

    เมื่อรู้เรื่องราวคร่าวๆของสุโขทัยแล้วทีนี้ก็ได้เวลาไปเที่ยวชมเมืองเก่าสุโขทัยกันได้แล้ว


    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=350>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>เจดีย์ทรงดอกบัวตูมเอกลักษณ์อันโดดเด่นของสถาปัตยกรรมยุคสุโขทัย</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>ตามรอยอดีตอันรุ่งโรจน์ในกำแพงเมืองเก่าสุโขทัย

    สำหรับวัดวาอารามและสิ่งที่น่าสนใจในเมืองเก่าสุโขทัยนั้น ส่วนใหญ่จะอยู่ในเขตกำแพงเมืองสุโขทัย หรือในเขตอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ซึ่งมีวัดวาอารามสำคัญมากมาย โดยวัดที่สำคัญและโดดเด่นที่สุดก็เห็นจะเป็น “วัดมหาธาตุ” อันเป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองสุโขทัย ที่ตั้งอยู่ใจกลางกำแพงเมือง

    วัดมหาธาตุประกอบด้วยเจดีย์ประธาน อุโบสถ 1 หลัง วิหาร 10 หลัง มณฑป 8 องค์ ตระพังหรือสระน้ำ 4 แห่ง และเจดีย์รายกว่า 200 องค์ มีเจดีย์ทรง“พุ่มข้าวบิณฑ์”หรือทรงดอกบัวตูมที่ถือเป็นหนึ่งในเอกลักษณ์ของศิลปะสุโขทัยเป็นเจดีย์ประธาน ส่วนบริเวณรอบๆเจดีย์ประธานก็มีเจดีย์รายรอบอยู่อีก 8 องค์ ซึ่งเมื่อไปเที่ยวยังเมืองเก่าสุโขทัยแล้วมองจากด้านหน้าวัดมหาธาตุเข้าไปก็จะเห็นเสาศิลาแลงของวิหารที่ยังหลงเหลืออยู่ตั้งเรียงรายเป็นแถวนำสายตาสู่พระประธานองค์โตที่ประดิษฐานอยู่บนฐานที่ยกระดับสูงไปจากพื้นดินประมาณ 1 เมตร


    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=350>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>พระประธานวัดมหาธาตุ</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>ส่วนที่ด้านหลังองค์พระประธานก็จะโดดเด่นไปด้วยองค์เจดีย์ประธานทรงดอกบัวตูม นับเป็นองค์ประกอบแห่งความงามทางพุทธศิลป์ที่ดูเคร่งขรึมแต่ว่าก็แฝงไปด้วยความงดงามอ่อนช้อยไม่น้อยทีเดียว

    นอกจากนี้ยังเชื่อกันว่า บริเวณลานวัดด้านหนึ่งของพระประธาน“ขอมดำดิน” เคยมาพบกับ“พระร่วง”และด้วยวาจาอันสิทธิ์ของพระร่วงทำให้ขอมกลายเป็นหินอยู่ ณ ที่ตรงนั้น ส่วนทางฝั่งตะวันออกขององค์เจดีย์ประธานมีแท่นก่อด้วยศิลาแลง ที่ในอดีตเคยเป็นที่ประดิษฐานของพระศรีศากยมุนี อันเป็นพระพุทธรูปสำริดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันประดิษฐานอยู่ที่วัดสุทัศน์ฯ ในกรุงเทพฯ


    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=350>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>“พระอัฎฐารศ” ยืนโดดเด่นตระหง่านอยู่ข้างองค์เจดีย์ประธานแห่งวัดมหาธาตุ</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>ส่วนอีกหนึ่งความโดดเด่นของวัดมหาธาตุก็คือที่ด้านข้างทางทิศเหนือขององค์เจดีย์ประธานนั้นมี “พระอัฎฐารศ” ที่เป็นพระพุทธรูปยืนมีความสูงประมาณ 10 เมตร ยืนโดดเด่นตระหง่านและเปี่ยมไปด้วยพลังแห่งศรัทธา

    ถัดจากวัดมหาธาตุไปทางด้านทิศตะวันตก มีวัดเล็กๆที่น่าสนใจอยู่วัดหนึ่งนั่นก็คือ “วัดตระพังเงิน” ที่โดดเด่นไปด้วยโบสถ์กลางน้ำ ซึ่งโบสถ์แห่งนี้มีลักษณะที่แตกต่างไปจากโบสถ์ที่ทั่วไปก็คือ ตามปกติแล้วโบสถ์ทั่วไปจะมีใบเสมาเป็นเครื่องแสดงเขตสังฆกรรม แต่สำหรับโบสถ์ของวัดตระพังเงินนั้นไม่มีใบเสมา แต่ว่าได้มีการใช้สระน้ำเป็นเครื่องแสดงเขตสังฆกรรมแทน โดยเรียกว่า “อุทกสีมา” หรือ “นทีสีมา”


    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>อาทิตย์อัสดงที่วัดสระศรี</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>เช่นเดียวกันกับที่ วัดสระศรี ที่อยู่ไม่ไกลจากวัดตระพังเงินนัก วัดนี้มีโบสถ์ตั้งอยู่กลางสระน้ำตามคติอุทกสีมาเหมือนกัน ซึ่งถ้าวันไหนท้องฟ้าเป็นใจในยามเย็นเราจะได้เห็นดวงอาทิตย์ลูกกลมแดง ค่อยๆเคลื่อนดวงคล้อยหายไปในขุนเขาที่อยู่ด้านหลัง โดยมีฉากหน้าเป็นเงามืดของเจดีย์ที่ยามส่องต้องกับสายน้ำในสระจะดูเรื่อเรืองขรึมขลังดีแท้

    และเมื่อไปเที่ยวที่วัดสระศรีแล้ว ก็ไม่ควรพลาดการไปสักการะ “อนุสาวรีย์พ่อขุนรามคำแหงมหาราช” ที่อยู่ใกล้ๆกับสระน้ำของวัดสระศรี เพราะว่าคุณงามความดีที่พ่อขุนรามคำแหงได้สร้างไว้ให้กับลูกหลานคนไทยนั้นมากมายเหลือคณาจริงๆ


    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ขี่จักรยานชมเมืองเก่าสุโขทัย อีกหนึ่งทางเลือกของนักท่องเที่ยว</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>เที่ยววัดศรีชุม สดับรับฟังพระพุทธรูปพูดได้

    ของดีของเมืองเก่าสุโขทัยไม่ใช่มีแค่ในเขตกำแพงเมืองเท่านั้น แต่ว่าที่ภายนอกกำแพงเมืองสุโขทัยออกไป เพียงนิดเดียว ยังมีวัดที่น่าสนใจมากอยู่วัดหนึ่งนั่นก็คือ “วัดศรีชุม” ซึ่งคำเรียกชื่อวัดศรีชุมนั้น บ้างก็ว่ามาจากคำว่า สะหลีชุม หรือหมายถึงดงต้นโพธิ์ บ้างก็ว่าหมายถึง ฤๅษีชุม ซึ่งก็แล้วแต่จะว่ากันไป แต่สำหรับสิ่งที่น่าสนใจมากๆของวัดนี้อยู่ที่ คำเล่าลือที่ว่า พระพุทธรูปที่วัดศรีชุมนั้นพูดได้?!?

    เรื่องนี้จริง-เท็จอย่างไรคงต้องตามไปพิสูจน์เป็นดีที่สุด
    สำหรับพระพุทธรูปที่ว่าพูดได้นั้น มีนามว่า “พระอจนะ” ที่แปลว่าผู้ไม่หวั่นไหว ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยขนาดใหญ่ หน้าตักกว้าง 11.30 เมตร และมีความสูงถึง 15 เมตร โดยมีพุทธลักษณะงดงามมากทีเดียว ซึ่งตอนแรกที่ผมไปยืนเพ่งพินิจดูยังไงๆ ก็เห็นพระอจนะเป็นพระพุทธรูปธรรมดา ที่ยังมองไม่เห็นว่าท่านจะพูดได้อย่างไร


    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>พระอจนะพระพุทธรูปพูดแห่งวัดศรีชุม</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>จนเมื่อเราได้รับรู้ประวัติของพระอจนะองค์นี้ว่า ครั้งหนึ่ง เมื่อพระนเรศวรได้มาประชุมทัพเพื่อจะยกไปปราบเมืองสวรรคโลก ท่านต้องการสร้างขวัญและกำลังใจให้แก่เหล่าทหาร ดังนั้นจึงได้มีพิธีเสี่ยงทายกับพระพุทธรูป โดยได้เสี่ยงทายว่า การรบครั้งนี้หากจะได้ชัยชนะกลับมาก็ขอให้พระอจนะที่วัดศรีชุมแห่งนี้จงกล่าวตอบ แต่หากไม่ชนะก็ไม่ต้องตอบสิ่งใด

    และผลของการเสี่ยงทายก็คือ พระอจนะก็ได้กล่าวตอบมาจริงๆ ซึ่งหลายๆคนคงนึกว่าเป็นปาฏิหารย์หรืออย่างไรที่ทำให้พระอจนะแห่งวัดศรีชุมพูดได้ แต่ว่าจริงๆแล้วเปล่าเลย แต่ว่าเหตุที่พระอจนะพูดได้นั้นเกิดจากกุศโลบายของพระนเรศวร ที่ได้ส่งคนขึ้นไปอยู่ด้านหลังเศียรพระและพูดตอบคำถามแทน เพื่อเป็นการปลุกปลอบขวัญทหารให้ฮึกเหิม โดยในผนังด้านหลังองค์พระอจนะจะมีอุโมงค์แคบๆที่คนสามารถเดินขึ้นไปยังหลังเศียรพระได้ เมื่อขึ้นไปแล้วพอส่งเสียงพูดก็จะมีเสียงจะก้องกังวานเหมือนว่าพระพุทธรูปนั้นพูดได้จริงๆ จากนั้นเป็นต้นมาก็กลายเป็นคำร่ำลือว่า พระอจนะแห่งวัดศรีชุมนี้พูดได้


    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=350>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>เจดีย์ทรงลังกาอีกหนึ่งความงามที่หาชมได้ในกำแพงเมืองเก่าสุโขทัย</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>“ตะลอนเที่ยว”เมื่อรับรู้ถึงภูมิปัญญาของคนรุ่นก่อนแล้วก็อดทึ่งไม่ได้ ซึ่งนี่แหละคือความสามารถของคนสมัยก่อนที่คนรุ่นหลังควรศึกษาไว้เป็นแนวทาง และเรียนรู้ถึงอดีตอันยิ่งใหญ่ในอดีตแห่งอาณาจักรสุโขทัย เมืองรุ่งอรุณแห่งความสุขที่ ณ วันนี้แม้ว่าจะผ่านกาลเวลามากว่า 700 ปีแล้ว แต่ว่ารอยอดีตอันยิ่งใหญ่ของอาณาจักรสุโขทัยยังคงมีเรื่องราวและความน่าสนใจให้คนรุ่นหลังได้ค้นคว้าศึกษากันไม่มีที่สิ้นสุด...


    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>*****************************************

    อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ตั้งอยู่ที่ ต.เมืองเก่า อ.เมือง จ.สุโขทัย ตรงข้ามพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ รามคำแหง จากตัวจังหวัดสุโขทัยไปตามทางหลวงหมายเลข 12 สายสุโขทัย-ตาก ประมาณ 12 กม. และมีรถประจำทางสายเมืองเก่า(รถสองแถว)จากบริเวณท่ารถใกล้ป้อมยามตำรวจมาลงที่หน้าอุทยานฯ ประมาณทุกๆ 20 นาที

    อัตราค่าเข้าชมอุทยานฯสุโขทัย นักท่องเที่ยว ชาวไทย 10 บาท ชาวต่างชาติ 40 บาท เปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งแต่เวลา 06.00-21.00 น. (ปิดจำหน่ายบัตรเวลา 18.00 น.) และตั้งแต่เวลาประมาณ 19.00-21.00 น. จะมีการส่องไฟชมโบราณสถาน ในกรณีที่นำยานพาหนะเข้าเขตโบราณสถานจะต้องเสียค่าธรรมเนียมอีกด้วย และที่บริเวณลานจอดรถของอุทยานฯ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวมีบริการ รถราง นำชมรอบๆ บริเวณอุทยานฯ อัตราค่าบริการ นักท่องเที่ยว ชาวไทย 10 บาท ชาวต่างชาติ 20 บาท นอกจากนั้นที่บริเวณด้านหน้าอุทยานฯ มีบริการ รถจักรยาน ให้เช่าในราคาคันละ 20 บาท

    หากต้องการเข้าชมเป็นหมู่เป็นคณะ ต้องการวิทยากรนำชม หรือต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่ ศูนย์บริการข้อมูลนักท่องเที่ยวอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย 0-5569-7310
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    Travel - Manager Online - ���͹���ͧ���ғ��⢷�” ��Ȩ����㨾�оط��ٻ�ٴ���
     
  2. ปรานต์

    ปรานต์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2009
    โพสต์:
    270
    ค่าพลัง:
    +668
    สุโขทัย สวย สงบ สะอาดมากๆ โดยเฉพาะเมืองเก่าศรีสัชนาลัย
     
  3. พงศ์830

    พงศ์830 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2008
    โพสต์:
    1,172
    ค่าพลัง:
    +1,196
    อนุโมทนาสาธุครับรวมกันรักษาเพื่อลูกหลานสืบต่อไปครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...