ไม่เคยฝึกมโนมยิทธิ แต่สิ่งที่ตัวเองสื่อได้ คล้ายๆจะมาทางด้านนี้

ขออีกสักภาพนะคะ สำหรับงานหล่อพระ ยกช่อฟ้าและงานบวชเนกขัมมะ ที่ศูนย์พุทธศรัทธา เมื่อวันที่ 12 สิงหาคมที่ผ่านมา



ภาพสมเด็จองค์ปฐม ที่งามที่สุดในโลก(ของหนิง)

 

ขอตรวจสอบรายชื่อคนที่จะไปร่วมกฐินวัดบ้านหลวงหน่อยค่ะ เพราะจะได้เตรียมการว่าจะไปกันยังไง ถ้าคนน้อยจะได้ไปกันเองง่ายๆ ตามที่คุยกันในกลุ่ม ก็มีความเห็นดังนี้นะคะ

เราจะเริ่มออกเดินทางคืนวันศุกร์ที่ 22 ถึงบ้านหลวงตอนสายๆของวันที่ 23 เอาของเข้าที่พัก หลังจากนั้นก็ไปเที่ยวในตัวเมืองเชียงของ ไหว้พระตามวัด แล้วก็กลับมาดูสถานที่โบราณของบ้านหลวง นอนพัก เช้าวันที่ 24 ออกเดินทางแต่เช้าไปเชียงแสน ไปไหว้พระธาตุจอมกิตติแล้วก็เที่ยวดูสถานที่อื่นๆ (รายละเอียดจะแจ้งอีกครั้ง) กลับมาพักที่บ้านหลวง ตอนเช้าวันที่ 25 ก็เตรียมงานกฐิน พักผ่อนตามอัธยาศัย ช่วงบ่ายทอดกฐิน และมีพิธีบายศรีสู่ขวัญแบบล้านนา เลี้ยงขันโตก จากนั้นเดินทางกลับในคืนวันที่ 25 มาถึงกรุงเทพ วันที่ 26 ค่ะ

ท่านใดสนใจจะร่วมเดินทางไป ให้ไปลงชื่อแจ้งไว้ในเว็บชุมชนนะคะ เพราะเราต้องติดต่อประสานงานกับบ้านหลวงเรื่องสถานที่พัก ขอสำหรับคนที่คิดว่าไปได้แน่นอนนะคะ เพราะจะต้องเตรียมเรื่องรถด้วย เรื่องราคาค่ารถและอื่นๆยังไม่ได้คิดค่ะ ขอดูจำนวนคนก่อน

แต่ ณ ตอนนี้รู้สึกว่าจะมีคนเอารถไปกันเองซะส่วนใหญ่ ถ้าเป็นแบบนั้นก็จะได้ไม่ต้องลำบากจัดหารถค่ะ เพราะก็ไม่ถนัดในการจัดทริปเหมือนกัน ขอเช็คก่อนนะคะว่าใครจะไปบ้าง ไปกันยังไง ขอบคุณค่ะ

 

ต้องเขียนใบลาพักร้อนไว้ตั้งแต่เนิ่นๆซะแล้ว

 

ที่มาของการจัดกฐินวัดบ้านหลวง เชียงของ

ขออนุญาต คัดลอกข้อความของท่านกัปตัน จากหน้า 331 ที่เขียนไว้หลังจากกลับมาจากการไปตามหา "วัดบ้านหลวง" อ.เชียงของ จ.เชียงราย เมื่อต้นเดือนพ.ค. มาให้ทุกท่านได้อ่าน เพื่อทราบถึงที่มาในการไปร่วมบุญ กฐินสามัคคี ที่วัดบ้านหลวง วันที่ 25 ต.ค. นี้ค่ะ
===============================

Me, myself : สวัสดีค่ะท่านกัลยาณมิตรทั้งหลาย ดิฉันเพิ่งกลับจากไปเชียงของมาค่ะ การเดินทางไปเชียงของนี้ไม่เคยมีความคิดเลยนะคะ แต่ว่ามีเหตุบางประการทำให้ต้องเดินทางไปค่ะ สืบเนื่องมาจากคืนวันที่ 5 เม.ย. ดิฉันได้ขึ้นไปกราบพระศาสดาแล้วก็ได้นั่งสนทนากับพระองค์ท่าน แล้วท่านก็สั่งว่าให้ไปวัดบ้านหลวง พร้อมทั้งมอบภาพองค์พระยืนมาให้กับดิฉัน แล้วท่านก็ไม่ตรัสอะไรอีก ดิฉันก็รับมาอย่างงงๆ แล้วก็คิดในใจว่า มีด้วยเหรอวัดชื่อนี้ ไม่เคยได้ยิน แล้วอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้ จากนั้นตัวเองก็หลับไป ตื่นมากลางดึกก็จำได้เรื่องที่ท่านสั่งให้ไปวัดบ้านหลวง ก็ทวนๆชื่อวัดนี้แล้วก็จดลงสมุดตรงหัวนอน จากนั้นก็หลับต่อ เช้าขึ้นมาก็เข้าเนทเสริทหาวัดนี้ ก็ตกลงว่าเจอค่ะ มีอยู่จริงๆอยู่ที่หมู่บ้านหลวง อ.เชียงของ ตอนที่อ่านประวัติวัดไปก็ขนลุกไปนะคะ ก็คิดว่าต้องไปที่วัดตามที่พระศาสดาสั่งมา ทั้งๆที่ยังไม่รู้ว่าท่านจะให้ไปทำอะไร

จากนั้นก็ได้มาพูดคุยกับพวกน้องๆ ก็มีหลายคนอยากไปด้วย เริ่มแรกก็คิดกันว่าจะไปรถตู้กัน กำหนดเวลาไว้ประมาณกลางเดือนพฤษภาคม ตอนช่วงสงกรานต์น้องตู่กลับบ้านที่เชียงราย เลยให้แวะไปดูวัดนี้หาข้อมูลให้พลางๆก่อน ซึ่งน้องตู่ก็ได้กลับมาบอกเล่าว่าวัดนี้มีประวัติน่าสนใจ พอมาคุยกันเรื่องเวลาที่จะไปกันจริงๆ ก็มีหลายคนไม่ว่างเวลานั้นเวลานี้ ถ้าเป็นเดือนมิถุนายนก็ดี แต่ดิฉันมีความคิดว่า ช้าไป รอไม่ได้ ก็เลยคุยกับคุณหนิงว่า ดิฉันจะไปเองคนเดียว แบ๊คแพคไป คุณหนิงก็เลยว่างั้นขอไปด้วย ก็ตกลงกันว่าไปกันสองคน สุดท้ายน้องเบนตามไปอีกคน ก็โอเคสามคนพอแล้ว มากไปกว่านี้จะลำบาก เพราะเราไปแบบไม่มีโปรแกรมล่วงหน้าเลย ที่พักก็ไม่ได้จอง ทุกอย่างกะว่าไปหาเอาดาบหน้าหมด จากนั้นคุณหนิงก็ไปจองตั๋วรถทัวร์ไปเชียงของของคืนวันที่ 2 พฤษภาคม ขากลับยังไม่ได้จอง เพราะยังไม่แน่ใจว่าจะกลับจากที่ไหน เชียงของหรือว่าเชียงแสน

ดิฉันก็บอกคุณหนิงว่าให้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุไปด้วย ส่วนตัวดิฉันนำไปด้วยผอบหนึ่ง จะเอาไปถวายที่วัดค่ะ ก่อนที่จะไปก็ได้สอบถามพระศาสดามาเรื่อยๆถึงสิ่งที่ต้องไปทำ ท่านก็บอกว่าไปแล้วจะรู้เอง (แต่สิ่งที่รับรู้มาเอง เหมือนว่าจะต้องได้จัดกฐินไปที่วัดนี้แน่นอนในปีนี้ ซึ่งมาตรงกับน้องตู่วันที่น้องตู่ไปดูวัดมาก่อนแล้วว่า มีความรู้สึกว่าพวกเราจะได้จัดกฐินมาที่วัดนี้) วันที่ออกเดินทาง ดิฉันก็ได้ขึ้นไปกราบขอพรกับพระศาสดาว่า ขอให้เดินทางโดยปลอดภัย ปราศจากอันตรายทั้งปวง ขอให้ทุกสิ่งทุกอย่างราบรื่นไม่มีอุปสรรคใดๆ ขอให้ทุกคนในหมู่บ้านให้การต้อนรับด้วยดี รวมถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในที่นั้นด้วย และขอให้ได้พักที่วัดเพื่อที่จะได้มีเวลาศึกษาหาข้อมูลของวัด ขอให้อากาศเป็นใจอย่าร้อนมากและอย่าให้ฝนตก เพราะจะทำให้ลำบาก ซึ่งพระศาสดาก็ประทานพรนั้นว่าให้สมความปรารถนาทุกประการ

พวกเราเดินทางกันคืนวันที่ 2 ไปถึงเชียงของของเช้าวันที่ 3 พอไปถึงเชียงของก็ได้ถามน้องที่ขายตั๋วรถทัวร์ว่า "วัดบ้านหลวงอยู่ที่ไหน ไปยังไง" น้องก็ว่า"วัดหลวงหรือวัดบ้านหลวง ถ้าวัดหลวงก็ไปอีกไม่ไกล แต่ถ้าเป็นวัดบ้านหลวง พี่ต้องนั่งรถย้อนกลับไปอีกประมาณสามสิบกว่ากิโล (ไม่รู้ข้อมูลมาก่อนว่า วัดบ้านหลวงอยู่ก่อนถึงตัวเมืองเชียงของ เข้าใจว่าเลยออกไปจากตัวเมืองไปทางเชียงแสน ไม่อย่างนั้นคงลงรถตรงหน้าวัดเลย)" ก็ถามน้องว่า "ไปยังไงมีรถผ่านไหม" น้องบอกว่า "มีรถแดงวิ่งไป ค่ารถประมาณสิบบาท" คุณหนิงถามต่อว่า "มีรถเหมาไปไหม" น้องก็ว่า "พี่จะเหมาไปทำไม มีก็มีแหละ แต่ราคาต้องไปตกลงกันเอง" มีน้องอีกคนมาบอกคร่าวๆว่าประมาณห้าร้อยบาท (แพงจัง) ก็เลยตัดสินใจว่า นั่งรถแดงไปกันดีกว่า

ตอนไปเรามีข้อมูลของวัดหลวงกับวัดพระแก้วที่อยู่ตรงตัวเมืองเชียงของ ซึ่งมีประวัติน่าสนใจเหมือนกัน ก็กะกันว่าจะไปที่สองวัดนี้ด้วย แต่จริงๆจุดหมายหลักของดิฉันคือต้องการไปแค่วัดบ้านหลวงเท่านั้นเอง เรื่องอื่นอาจจะเป็นผลพลอยได้ แต่พอรู้ว่าวัดบ้านหลวงต้องนั่งรถย้อนกลับไป ก็เลยคิดกันว่า จะไปที่ไหนก่อน แรกๆว่าจะไปวัดหลวงกับวัดพระแก้วก่อน แล้วค่อยไปวัดบ้านหลวง แต่ก็มาคิดว่าถ้าไปวัดบ้านหลวงที่หลังแล้วหาที่พักไม่ได้ก็ต้องนั่งรถกลับเข้ามาตัวเมืองเชียงของอีกเพื่อหาที่พัก มันจะมืดไปไหม เลยตัดสินใจว่าไปวัดบ้านหลวงก่อนดีกว่า เพราะคงต้องมีอะไรทำมากอยู่ ในใจก็คิดว่าต้องได้พักที่นั่นแน่ๆ ไม่ได้มาพักที่ต้วเมืองเชียงของหรอก

พวกเราก็ไปหาอาหารเช้ากินกันก่อน กินเสร็จรถแดงก็มาเข้าคิวรอรับคนพอดี มีแต่คนชี้บอกให้หมดว่า คันนี้เลยไปวัดบ้านหลวง (คือพอไปถามคน เขาก็เลยบอกกันต่อๆไป รู้กันหมดเลยแถวนั้น) ก็ขึ้นไปนั่งรอบนรถ คุณหนิงเห็นมีคนนั่งอยู่ข้างหลังดิฉัน บอกว่าให้ถามเรื่องวัดบ้านหลวง ดิฉันเลยหันไปถามว่า "พี่รู้จักวัดบ้านหลวงไหม" พี่เขาก็ว่า "ข้าเจ้าก็เป็นคนบ้านหลวงนี่แหละ" อะไรจะบังเอิญขนาดนั้น เลยบอกว่า "ถึงแล้วพี่ช่วยบอกด้วยนะคะ" พอรถออกวิ่งไปจนถึงบ้านหลวง พี่คนนั้นก็ลงก่อนถึงวัดหน่อยเดียว แล้วก็บอกให้คนขับรถ กระเป๋ารถว่า ให้จอดหน้าวัดบ้านหลวงให้พวกเราลงด้วย ซึ่งพี่ๆทั้งสามก็ใจดีช่วยเหลือเป็นการดี ขอให้พี่ๆทั้งสามจงเจริญยิ่งๆขึ้นไปด้วยเทอญ

พวกเราลงจากรถก็เดินเข้าไปที่วัด ระหว่างเดินไป ผ่านตลาดของหมู่บ้าน มีผู้เฒ่าผู้แก่นั่งอยู่ ก็มองพวกเรากันเป็นตาเดียวเลย คงคิดมั้งว่าคนแปลกหน้าพวกนี้เป็นใครมาทำอะไรกัน เดินไปจนเกือบถึงหน้าวัด มีศาลาห้องสมุดประจำหมู่บ้าน มีน้องๆกลุ่มหนึ่งนั่งอยู่ ยังกับนั่งคอยพวกเรางั้นแหละ พอเราเดินไปถึง น้องๆถามว่า "พวกพี่มาวัดเหรอคะ" ก็บอกน้องไปว่า "ค่ะ" น้องๆบอกว่า "เจ้าอาวาสไม่อยู่ค่ะ " "อ้าว แล้วทำไงละ" น้องก็ว่า "แต่หนูมีกุญแจค่ะ เปิดให้พวกพี่เข้าไปในโบสถ์ไปไหว้พระได้" แล้วน้องๆก็พาไปไหว้พระ แล้วบอกว่า เจ้าอาวาสไปงานศพ สักพักคงกลับ ไม่ได้ไปไหนไกลๆ

ภายในโบสถ์มีพระประธานองค์ใหญ่ ส่วนด้านข้างๆซ้ายขวา มีพระพุทธรูปเก่าแก่หลายองค์ แต่ได้ทำกรงเหล็กกั้นไว้ เพื่อป้องกันขโมย ซึ่งดูแล้ว ทำให้ใจสลด เหมือนนำท่านไปขังไว้ เรื่องประวัติการทำกรงกั้นองค์พระไว้ เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังตอนหลังค่ะ จากนั้นน้องๆ ได้พาไปชมกองหินโบราณ ซึ่งก็มีประวัติเหมือนกัน แล้วก็พาไปดูไม้สักทองกับไม้พญางิ้วดำที่จมอยู่ในลำน้ำอิงมานาน ตอนที่ไปดู น้องเบนถามดิฉันว่า "ผู้หญิงใช่ไหม" ดิฉันก็ตอบว่า "ใช่" แต่พอฟังพวกน้องๆเล่าประวัติบอกว่า ไม้สักทองเป็นผู้หญิง ส่วนไม้พญางิ้วดำเป็นผู้ชาย ดิฉันก็มาคิด "เอ..มโนฯเราเพี้ยนหรือนี่" แต่ตอนหลังมาคุยๆกันสามคนก็เห็นเหมือนกันหมดว่าเป็นหญิงทั้งสอง เป็นรุกขเทวดาหญิงทั้งคู่ แต่คนที่นั่นเข้าใจผิดว่าเป็นชายหญิง เป็นคู่กัน

จากนั้นไม่นาน ผู้ใหญ่บ้านก็มา พร้อมทั้งแนะนำตัวว่าเป็นผู้ใหญ่บ้าน เด็กๆโทรไปตามว่ามีคนมาดูวัด ตอนแรกเข้าใจว่ามาเป็นคณะใหญ่ (ฮา) ก็เลยได้สอบถามเรื่องราวกัน แล้วผู้ใหญ่ก็ถามว่า จะไปไหนกันต่อ มีที่พักหรือยัง ก็บอกว่าจะมาหาข้อมูลวัด จะมาคุยกับคนเฒ่าคนแก่ที่นี่ มาแบบยังไม่มีที่พัก ผู้ใหญ่ก็เลยเชิญว่าให้พักที่บ้าน พวกเราก็ว่า เกรงใจค่ะ แต่ท่านก็ว่าไม่เป็นไร ก็เลยได้พากันไปที่บ้านผู้ใหญ่บ้านกัน

-----------------------------------------------------------------------

มโนมยิทธิเป็นเรื่องรู้ได้เฉพาะตน โปรดอย่าเชื่อในทันทีตามกฏกาลามสูตร เพื่อใช้ปัญญาพิจารณาในการอ่าน

จากหน้า 331 ค่ะ

 

ช่วงที่อยู่วัดบ้านหลวง ตอนที่เข้าไปกราบพระภายในโบสถ์ เมื่อเห็นพระพุทธรูปเก่าแก่ มีคุณค่าทั้งทางจิตใจ และถือเป็นโบราณวัตถุที่บรรพบุรุษมอบไว้ให้แก่ลูกหลาน ประดิษฐานอยู่ในกรงเหล็ก

ด้วยเหตุเพราะพ่ออุ้ย แม่อุ้ย หลายๆ ท่าน เกรงว่าพระพุทธรูปที่มีค่าจะโดนขโมย (เคยโดนขโมยไปแล้ว 1 ครั้ง หายไป 2 องค์ มั้งค่ะแต่ได้กลับคืนมา 1 องค์) ทางพ่ออุ้ย ก็เลยหารือกัน สร้างลูกกรงเหล็กขึ้นมาแล้วนำพระไปไว้ที่นั่น ซึ่งพวกเราได้คุยกับพ่ออุ้ยท่านหนึ่ง ท่านบอกว่า พ่อเองก็ไม่สบายใจที่นำพระท่านไปขังกรงไว้

สอดคล้องกับเจตนาของคนพื้นที่ ว่าอยากหาทางนำพระพุทธรูปที่มีค่า ออกมาจากกรงเหล็ก และนำมาประดิษฐานยังที่ ที่เหมาะสม ทางหลวงพ่อเจ้าอาวาสก็มีความต้องการเช่นเดียวกัน เมื่อทุกฝ่ายเห็นพ้องต้องกัน แต่กำลังเงินของพวกเรายังมีอยู่น้อย การที่จะให้ทุกคนได้มีส่วนร่วมในบุญครั้งนี้ ท่านกัปตันจึงเห็นควรว่าจะจัดเป็นกฐินสามัคคีเพื่อช่วยทางวัดหาเงินทำนุบำรุงพระศาสนาทั้งการสร้างวิหารทาน และการเคลื่อนย้ายพระพุทธรูปมายังสถานที่ที่เหมาะสม รวมถึงการรักษาความปลอดภัย

ดังนั้นการจัดงานกฐินสามัคคีครั้งนี้ จึงเป็นกฐินสามัคคีที่พวกเราจะรวมปัจจัยและจัดเครื่องกฐินที่เป็นส่วนหลักๆ เช่นผ้าไตร ไปรวมกับคณะเจ้าภาพที่จองกฐินไว้แล้ว โดยทางเจ้าภาพได้เลือกวันทอดกฐิน ที่วัดบ้านหลวงเป็นวันจันทร์ที่ 25 ตุลาคม (ออกพรรษาวันที่ 23 ตุลาคม) เวลา 15.39 น. (ถ้าหนิงจำเวลาผิด กราบขออภัยค่ะ)

======================
กำหนดการคร่าวๆ ที่วางไว้ มีดังนี้ค่ะ

วันศุกร์ที่ 22 ต.ค. คณะฯ ออกเดินทางจากกทม. ไปยังวัดบ้านหลวง อ.เชียงของ จ.เชียงราย

วันเสาร์ที่ 23 ต.ค.
- ประมาณเวลา 8.00 น. ถึงวัดบ้านหลวง กราบนมัสการท่านเจ้าอาวาส และ เข้าที่พัก
- รับประทานอาหารเช้า แวะกราบท่านผู้ใหญ่บ้าน
- เดินทางเข้าไปที่อ.เชียงของ (ใช้เวลาประมาณ 20-30 นาที) ไหว้พระที่เชียงของ อาทิ หลวงพ่อเพชร วัดศรีดอนชัย พระคู่บ้านคู่เมืองของเชียงของ ,วัดหลวงและวัดแก้ว (พระเจดีย์วัดหลวงและพระเจดีย์วัดแก้ว เป็นที่ประดิษฐานผะอบทองคำที่บรรจุเส้นพระเกศาของพระศาสดา ครั้งที่เสด็จมาโปรดเวไนยสัตว์ ณ เมืองเชียงของ)
- กลับมาที่บ้านหลวง ชมโบราณสถานที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์
- พักผ่อน

วันอาทิตย์ที่ 24 ต.ค.
- เดินทางไปอ.เชียงแสน (ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง) : พระธาตุจอมกิตติ , พระธาตุผาเงา และวัดอื่นๆ (จะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง หลังจากวางโปรแกรมแล้ว)
- เย็นๆ ก่อนค่ำ เดินทางกลับบ้านหลวง
- พักผ่อน

วันจันทร์ที่ 25 ต.ค.
- เช้าตรู่ เตรียมงานกฐิน
- บ่ายสามโมง พิธีทอดกฐินสามัคคี วัดบ้านหลวง
- บายศรีสู่ขวัญตามแบบประเพณีล้านนา (ขนลุกแหะ)
- เดินทางกลับ

ถึงกทม. เช้าวันอังคารที่ 26 ต.ค. (ท่านที่ประสงค์จะเดินทาง เตรียมลางานได้เลยค่ะ หรือว่าจะไปทำงานในความชุ่มฉ่ำ อิ่มบุญ ตามแต่สภาพร่างกายของแต่ละคนนะคะ)

=============================

สิ่งที่คณะทำงาน ต้องการข้อมูลเพื่อประสานงานและดำเนินการต่อ คือ

1) รายชื่อ/จำนวน ผู้ร่วมเดินทาง เพื่อประสานเรื่องที่พัก เนื่องจากในพื้นที่ของวัดบ้านหลวง ไม่มีสถานที่พักแรมค่ะ ต้องเข้าไปพักที่ตัวเมืองเชียงของ ระยะทางประมาณ 30 กม.

2) การเดินทางของท่านที่ประสงค์จะไปร่วมงาน
2.1 นำรถไปเอง (เผื่อมีที่ว่าง ของทำคาร์พูล)
2.2 เดินทางโดยรถโดยสารสาธารณะ มีรถทัวร์กทม.-เชียงของ ผ่านหน้าวัดค่ะ ขอลงก่อนถึงตัวอ.เชียงของได้ (จะแจ้งรายละเอียดให้ทราบอีกครั้งนะคะ)
2.3 เดินทางจากจังหวัดอื่น ที่ไม่ใช่กทม. เช่น เชียงใหม่
*เผื่อว่ามีท่านที่อยากไปร่วมงาน กำลังมองหารถเดินทาง ส่วนท่านที่มีรถจะได้มีเพื่อนร่วมทางค่ะ =>_<=

3) ข้อมูลอื่นๆ (หนิงนึกไม่ออกค่ะ..)

เนื่องจากเป็นงานของส่วนร่วม พวกเราทำงานเพื่อพระพุทธศาสนา การร่วมแรงร่วมใจของคณะทำงาน(ทีมีค่อนข้างจำกัด ทั้งจำนวนคนและเวลาในการทำงาน) จึงจำเป็นต้องขอข้อมูลของท่านที่จะไปร่วมงานล่วงหน้า เพื่อแจ้งและประสานกับชุมชนบ้านหลวงค่ะ

ทางชุมชน ดีใจมากที่คณะเราจะขึ้นไปช่วยเหลืองานพระพุทธศาสนาที่บ้านหลวงค่ะ อยากให้ได้ไปสัมผัสกับความมีน้ำใจของคนในชุมชน

กราบขออภัย และขอขมาต่อทุกท่านด้วยค่ะ หากหนิงเขียนข้อความที่ไม่เหมาะสม และไม่สมควร _/\_

 

ขออาศัยติดรถไปด้วยคนสองคนได้ไหมครับ ตามประสาคนไม่มีรถยนต์ขับมีแต่แมงกะไซด์

 

ข้อมูลเพิ่มเติมในการเดินทางไปร่วมงานกฐิน ที่วัดบ้านหลวง เชียงของค่ะ

การเดินทาง : กรุงเทพฯ - เชียงของ http://www.chiangkhong.com/map/howtogetthere.htm

มีรถโดยสารประจำทางของบริษัทขนส่งจำกัด (บขส.) ให้บริการทุกวัน วันละ 2 รอบ เช้า - เย็น ที่สถานีขนส่งสายเหนือ (หมอชิต 2) ระยะเวลาการเดินทาง กรุงเทพฯ - เชียงของ ประมาณ 12 ชม.


บริษัทขนส่งจำกัด กรุงเทพ 02-9363659-60<O</O
ค่าโดยสาร รถปอ.1 ราคา 491 บาท รถvip ราคา 573 บาท รถVIP 24 ที่นั่ง 760 บาท<O</O

นอกจากนี้ยังมีบริษัทเอกชนอีกหลายบริษัทที่ให้บริการ มีทั้งรถพัดลม รถปรับอากาศชั้นหนึ่ง และรถVIP

สยามเฟิร์ททัวร์ กรุงเทพฯ 02-9543601-7,02-9362953 เชียงของ 053-791066-9<O</O
ค่าโดยสาร VIP 32 ที่นั่ง 739 บ.
<O</O
สมบัติทัวร์ กรุงเทพฯ 02-9362495, 02-553 1753 เชียงของ 053-791644-5<O</O
ค่าโดยสาร VIP 24 ที่นั่ง 986 บ. , ชั้น 1 32 ที่นั่ง 634 บ.
<O</O
โชครุ่งทวีทัวร์ กรุงเทพฯ 02-02-9364275-6 เชียงของ 053-791625


ในการเดินทางครั้งที่แล้ว เมื่อช่วงวันหยุดวันแรงงานต่อเนื่องวันฉัตรมงคล (3-5 พ.ค.) พวกเราเดินทางโดยสมบัติทัวร์ค่ะ แนะนำให้ไปกับบริษัทนี้ เหตุเพราะในช่วงวันที่พวกเราเดินทางจะตรงกับวันหยุดต่อเนื่อง รถที่ออกจากกทม.มีปริมาณเยอะมาก สมบัติทัวร์จะมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ ถ.วิภาวดีรังสิต (เลยปตท.สำนักงานใหญ่ไปนิดเดียว) สามารถมารอและขึ้นรถได้ที่นี่ค่ะ การจราจรและคนจะน้อยกว่าในสถานีขนส่ง


หมายเหตุ : ไม่ได้มีเจตนาโฆษณาให้บริษัทเดินรถนะคะ แต่เพื่อความสะดวกในการวางแผนการเดินทางของทุกท่าน

 

สวัสดีค่ะ หนูเจี๊ยบไม่เข้ามาซะนาน ตามแทบจะไม่ทันอยู่แล้วค่ะ แต่ก็ขออนุโมทนาบุญกับพี่ๆๆด้วยนะค่ะ ขอแบงบุญด้วยคนค่ะ

 

ไม่ได้เข้าเวปมา3วัน มีบุญมาฝากค่ะ เมื่อวันจันทร์ได้อาศัยรถญาติชวนกันไปทำบุญถือศึล8 ที่วัดสันติวงศาราม ในเบอร์มิงแฮม 1คืน ได้ไปสมทบกับคณะลูกศิษย์หลวงพ่อฤๅษี ซื่งไปรอที่วัดก่อนแล้ว ร่วมกันถวายสังฆทานและ พระบรมสารีริกธาตุให้ประดิษฐานที่วัด เห็นว่าจะพยายามถวายให้ได้มากวัดที่สุด กฐินปีนี้ก็จะนำพระบรมสารีริกธาตุไปถวายพร้อมกฐินที่ ประเทศเยอรมันกัน ซึ่งพี่ก็ได้รับเป็นเจ้าภาพ 1องค์(มีพระธาติบรรจุในเจดีย์แก้ว1เจดีย์)
แล้วได้อยู่วัด1คืนกับญาติและหลานพร้อมเพื่อนรวม 6คน รุ่งขึุ้นก็ได้ทำอาหารถวายเพลพระ และ ถวายสังฆทาน ผ้าไตรจีวร ยาหลายอย่าง ถวายปัจจัย ค่าน้ำ ไฟ แก๊ส ,ซื้อที่ดินเพื่อขยายวัด, เพื่อจัดพิมพ์หนังสือธรรมทาน, และชำระหนี้สงฆ์

 

กฐินสามัคคี วัดบ้านหลวง อ.เชียงของ วันที่ ๒๕ ตุลาคม

มีบางท่านสอบถามเรื่องการร่วมบุญกฐินในครั้งนี้มา ขออนุญาตเรียนแจ้งให้ทราบตามนี้ค่ะ


เรื่องโอนปัจจัย..ขอเปิดให้โอนได้ ต้นเดือนตุลาคม ตั้งแต่วันที่ 1-19 ตุลาคมนะคะ 19 วันในการรับโอน ขอเวลา 2 วัน เคลียร์ยอด (ครั้งนี้ต้องเบิกเงินนำไปด้วยค่ะ)

ช่วงนี้ท่านใดประสงค์จะร่วมบุญ แจ้งยอดมาก่อนได้เลยค่ะ เหมือนเดิม..ขอเป็นที่เว็บนี้นะคะ จะได้ไม่เสียพื้นที่ในกระทู้เดิม..

ขอบคุณและขอโมทนากับทุกท่านค่ะ

คลิกลงชื่อร่วมบุญได้ที่นี่ค่ะ

 

ขออนุโมทนาบุญกับคุณ Me Myselt และเพื่อนๆกัลยาณมิตรด้วยครับ...

ผมเพิ่งเข้ามาอ่านกระทู้นี้ได้ 2-3 วัน ได้ความรู้ขึ้นมาหลายอย่าง...

คงเป็นเพราะว่าผมทำงานอยู่ใกล้วัดหลวงพ่อโต บางพลีมานานจึงรู้สึก

สัมผัสถึงบารมีธรรมของคุณ Me Myselt ถ้ามีวาสนาอยู่บ้างคงจะได้มี

โอกาสร่วมทำบุญด้วยครับ...ขออนุโมทนาครับ...

 

นำบุญมาฝากครับ วันนี้โอนเงินทำบุญ<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-comfficeffice" /><o></o>
๑.ร่วมเป็นเจ้าภาพเลี้ยงภัตตาหารพระภิกษุสามเณรสอบนักธรรม
๒.เป็นเจ้าภาพออกโรงทานก๋วยเตี๋ยวหมูน้ำข้น (ถ้ำนารายณ์) ในงานพิธีทำบุญครบรอบ การมรณภาพหลวงพ่อฤๅษี ณ วัดท่าซุง
๓.ร่วมสร้างฉัตรถวายเป็นพุทธบูชา วัดบางนมโค
๔.ร่วมถวายเงินโดยเสด็จพระราชกุศล
๕.ร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง สำนักสงฆ์ผาผึ้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ
<o> </o>
อนุโมทนาบุญด้วยกันนะครับ<o></o>

 

สาธุ กราบอนุโมทนาสาธุค่ะ

 

สวัสดีครับทุกท่าน
นำบุญมาฝากครับ
วันนี้ได้ไปร่วมงานบุญสงฆ์น้ำแสดงมุธิตาจิต แด่หลวงพ่อครูบาเจ้าเพชร วชิรมโน
ณ วัดอ้อมแก้วมณีโชติ อ.ดอนพุด จ.สระบุรี
พร้อมกันนี้ได้ทำบุญ สังฆทาน ธรรมทาน ชำระหนี้สงฆ์ ได้กราบสักการะ อัญเชิญพระอรหันตธาตุ และได้ร่วมซื้อที่ดินสร้าง สถานปฏิบัติอัญญาวิโมกข์โพธิ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ด้วยครับ
อนุโมทนาบุญด้วยกันนะครับ ^^

 

เอาบุญมาฝากครับวันนี้ได้ไปทำบุญและกราบหลวงพ่อจรัญมาครับ

 

วัดที่สองวัดพระนอนจักรสีห์ได้ทำบุญแผ่นทองหล่อพระด้วยครับให้น้องๆเขียนให้(กลุ่มชุมชนมโนด้วยครับ)องค์พระกำลังซ่อมแซมใหม่ครับจะเห็นเป็นสีดำๆครับ

 

วัดที่สามวัดโพธิ์เก้าต้นครับ

 

วันนี้ทำบายศรีพานพระ และ บายศรีหมากเบ็ง เพื่อถวายพระทุกๆพระองค์ที่บ้าน เพื่อเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา และสังฆบูชา

 

สวัสดีอีกครั้งครับ ท่านกัปปิตัน และท่านสมาชิก ที่น่ารัก ท่านผู้เจริญทุกท่าน

วันนี้มาแบบสั้นๆนะครับ
เนื่องจากผมเองที่ผ่านมาสองสัปดาห์ ยุ่งตลอดครับจัดเวลาได้ยาก เลยไม่ได้เข้ามาเล่าความคืบหน้าครับ
ต้องขออภัยครับ ถ้าเช่นนั้น ผมก็ขออนุญาตมาเล่าต่อจากครั้งที่แล้ว
ความต่อจากตอนที่แล้ว ในขณะนี้ เครื่องกฐินต่างๆ ได้จัดส่งมาจากเมืองไทยแล้วครับ ขึ้นเรือมาโดยใช้เวลาประมาณ สองเดือนครับ
คาดว่ากลางเดือนตุลาคม คงจะถึงที่บ้านผมครับ แล้วจะถ่ายรูปมาให้ชมครับว่าเครื่องกฐินทั้งหมด ที่เตรียมถวายเป็นเช่นไรบ้าง

ขอเล่าอีกนิดครับว่า รายชื่อคณะกรรมการที่จัดพิมพ์ในใบฎีกานั้นมีประมาณ ๑๔๐ ท่านครับ และพร้อมที่จะจัดพิมพ์ใน สองสามวันนี้ครับ

พิมพ์ที่กรุงเทพครับ แล้วจะแบ่งซองบางส่วนมาที่ผม และบางส่วนไว้ที่เมืองไทย

ผมพิมพ์ ๔๐๐ ซองครับ คาดว่าจะพิมพ์เสร็จภายในสัปดาห์นี้ครับ
จากนั้นแจกจ่ายครับ
หากว่าท่านใดสนใจว่าจะรับซอง ก็ขอได้ปรดแจ้งให้ทราบด้วยครับ

วันนี้ขอแจ้งเพียงเท่านี้ก่อนครับ
บุญรักษา สวัสดีครับ

 

อัพเดทเรื่องงานกฐินที่วัดบ้านหลวงค่ะ

ได้คุยกับพ่อผู้ใหญ่ ท่านว่าได้ประชุมกันกับคณะกรรมการ ทางโน้นได้ขอมาว่าขอให้ทางเราจัดผ้าไตรเก้าชุดได้ไหม ซึ่งทางเราก็ตอบตกลงไปแล้วว่าได้ค่ะ

ส่วนราคานี่ยังไม่ได้สรุป ว่าจะโทรไปถามที่บ้านหลวงก่อนว่า จะใช้เป็นการตัดเย็บแบบไหน ห้าขันธ์หรือเก้าขันธ์ เพราะราคาจะต่างกันค่ะ


พระพุทธรูป ขนาดหน้าตัก ๙ นิ้ว - ปิดทองธรรมดาองค์ละ 3,000 ถ้าแบบสวยงามก็องค์ละ 3,500
ผ้าห่มองค์พระประธาน - ผ้าตาด ราคา 150 ถ้าเป็นตาข่ายสีทอง 900
หมอนกฐิน - ราคา 650
สัปทน - ราคา 750 บวกค่าปักอีก 150
บาตร - ราคา 900
ย่าม - ราคาประมาณ 300 กว่าบาท พร้อมปัก (ต้องการ 9 ใบ)
ตาลปัตร - ราคา 650 พร้อมปัก
ฐานที่ปักตาลปัตร - ไม้ธรรมดา 150
เทียนปาติโมกข์ - ราคา 100
ธงธรรมจักร - ราคาคู่ละ 100
ธงจระเข้ มัจฉา - ราคาคู่ละ 60
หนังสือพระไตรปิฎกฉบับประชาชน - ราคาเล่มละ 550
ที่กรวดน้ำ - ราคา 250


เรื่องที่พักที่บ้านหลวง ไม่มีปัญหาอะไร ทางโน้นยินดีต้อนรับทั้งหมด แต่ต้องการทราบจำนวนคนที่จะไป ซึ่งทางเราก็กำลังเช็คกันอยู่ค่ะ

เรื่องซองกฐิน ตอนนี้กำลังรอตราประทับจากทางบ้านหลวงค่ะ ขอแจ้งไว้เท่านี้ก่อนนะคะ มีข่าวคืบหน้าอย่างไรจะมาแจ้งให้ทราบใหม่ค่ะ