ผมอยากพ้นทุกข์ครับ

ใครที่สามารถสอนกรรมฐานได้ไม่หลอกลวงช่วยกรุณาโปรดสัตว์โลกผู้มีปาปหนาคนนี้ด้วยผมเป็นคนใจเย็นมากๆคร้าบไม่ชอบเบียดเบียนใครและเป็นคนให้อภัยคนอื่นเสมอชอบศึกษาหลักคำสอนของพระพุทธเจ้าสม่ำเสมอครับและไม่เคยคิดร้ายกับใครด้วย

 

เข้ามาอนุโมทนาครับ
ผมก็อยาก
จากคุณธรรมที่ท่านกล่าวมาผมยังเป็นคนบาปกว่าท่านซะอีก คงสอนท่านไม่ได้
แต่หลักที่ใช้เป็นเครื่องมือในการปฏิบัติของผมเองคือ ต้องมีสติอยู่ในกายในใจตนเป็นหลัก และเป้าหมายคือการดับทุกข์ในใจตน เทียบผลจากตนโดยดูว่า เป็นผู้ทำความดีมากขึ้นไหม ละเว้นความชั่วมากขึ้นไหม และจิตใจบริสุทธิ์มากขึ้นไหม หากใช่ย่อมเข้าใกล้ปลายทาง
การปฏิบัติมีหลายสายหลายเส้นทางหลายอุบายเพื่อการดับทุกข์ ขอให้ท่านได้พบเส้นทางที่ถูกกับจริต ถูกต้องกับวิบากเพื่อถึงความพ้นทุกข์ตามที่ท่านปารถนาครับ สาธุ

 

ขอให้บุญกุศลที่ท่านทำมา ประกอบกับการถือศีลห้าได้อย่างบริสุทธิ์แล้ว กับความสนใจในธรรม ยึดพระพุทธพระธรรมพระสงฆ์เป็นที่พึ่งสูงสุด ช่วยนำพาท่านไปสู่หนทางแห่งการปฎิบัติดี ปฏิับัติชอบ ได้พบผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ที่สามารถช่วยฝึกท่านได้ด้วยเทอญ สาธุ

 

ลองหาดูในบอร์ดนี้ดูคับ มีคนใจดีแยอะ
ลองถามดู สาธุคับ
​

_______________________________________________________________________

เล่ม 1. หนทางแห่งการพ้นทุกข์.rar
เล่ม 2. หนทางแห่งการบรรลุ.rar ​

 

ให้กรรมฐานอานาปานสติแบบจดจ่อที่ลมหายใจสิ คือกำหนดพุท หายใจเข้า
โธ หายใจออกสิ ทำสัก 10-30 ครั้ง เด่วจะได้เอง

 

อนุโมทนาสาธุ ครับ ขอบให้พบกับท่านที่สามารถสอนท่านได้ นะครับ

 

ที่ผ่านมาทุกข์มาก ๆ ใช่มั้ยคะ
ในวันนี้ตัวคุณเองรู้สึกว่า สบายใจ โล่งใจโปร่งใจมั้ยคะ สบายใจแบบบอกไม่ถูก สังเกตุดูบ้านเมืองของเรามั้ยคะว่า สะอาดตา สบายใจ ป้ายโฆษณาต่าง ๆ รู้สึกว่าสะอาดตา มองแล้วมีชีวิตชีวา มีความสุขใจ ถ้ามีสีเหลืองเป็นพื้นมองแล้วเหมือนสีทอง อร่ามเลย ในเวลานี้ ทุกคนมีความสุข ไม่มีใครมีเจ้ากรรมนายเวรแล้ว ทำความดีให้มาก ๆ นะคะ สวดมนต์ รักษาศีลให้ดี โลกของเราจะได้เป็นสีทองนาน ๆ
เวลานี้ บ้านของเรา เป็นแผ่นดินธรรม แผ่นดินทอง แล้วนะคะมีความสุข ความเจริญรุ่งเรืองเร็ว ๆ นี้แล้ว
ไปลองสังเกตุดูนะ ถ้ามีความสุขตา สบายใจ อย่าลืมบอกต่อให้คนรอบข้างมีความสุขใจด้วย

 

ขอบคุนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน

 

ต้องไปเข้าหลักสูตร 10 วันครับ ขณะปฏิบัติมี อาจารย์แนะนำข้อสงสัยหรือติดขัดจะได้ชี้แนะให้ ลองดูที่นี่ครับ จะถูกจริตหรือไม่ยังไม่ทราบนะครับ ต้องไปปฏิบัติดูก่อน
ThaiDhamma - ˹

 

ขอเชิญมาทดลองฝึกปฏิบัติธรรม ด้วยซีดีภาวนาครับ
ฝึกแล้วก้าวหน้าทางธรรมแน่นอน และสามารถทำ ฌาน ได้ด้วย ... ลิงค์นี่เลยครับ
http://www.luangputo.com/Menu04/Mainmenu.htm

 

อยากพ้นทุกข์ ไม่มีวันพ้นทุกข์ นอกจากตายไม่มีสังขารจึงไม่มีทุกข์สุข พระพุทธเจ้าไม่ได้สอนให้หาทางพ้นทุกข์ไม่ได้สอนให้ทิ้งสังขารหรือฆ่าทำลายสังขาร พระพุทธองค์สอนให้รู้จักความจริงของธรรมชาติของจิตของสังขาร รู้จักและอยู่กับความจริงของธรรมชาติ อย่างที่มันเป็นอยู่ให้ได้ เราจะอยู่กับทุกข์อย่างไรให้มีความสุข นั้นคือพระธรรมะของพระพุทธเจ้า เป็นวิชชาที่พระพุทธองค์บำเพ็ญเพียรปฏิบัตรจนตรัสรู้ด้วยพระองค์เอง แล้วให้สาวกรวบรวมเป็นพระธรรม กฏวินัยข้อควรและไม่ควรปฏิบัติยึดถือ อย่าเพิ่งไปถึงขั้นเข้าสมาธิอะไรเลย จะกลายเป็นฟุ้งเลอะเทอะกลายเป็นบ้าไปเปล่าๆ ลองหาหยิบยืมพระธรรมของพระพุทธเจ้ามาอ่าน ลองดูซิพระพุทธเจ้าบันทึกอะไรไว้ พระบรมครูได้จัดเตรียมให้เราอย่างพร้อมสรรพ เข้าใจง่ายสำหรับทุกระดับปัญญาที่ปกติของมนุษย์ ไม่มีอะไรที่ต้องลงทุน เป็นของฟรีที่มีค่าที่สุดในโลก ในนั้นมีคำตอบทำอย่างไรให้ทุกข์น้อยลง..สาธุ.

 

ตามที่เราได้ทำอยู่ตามหลักคำสอน
หากมีสติ รู้ทันทุกข์ ความทุกข์ก็เบาบางลงค่ะ
อนุโมทนาค่ะ
เจริญในธรรมค่ะ

 

ตอบเรื่องความอยากพ้นทุกข์

อยากพ้นทุกข์นับว่าเป็นสัมมาทิฐฐิ จะอยากโดยไม่ปฏิบัติก็จัดเป็นสมุทัย ถ้าลงมือศึกษาและปฏิบัติ ได้ชื่อว่าดำเนินตามทาง ปริยัติ ปฏิบัติ ปฏิเวช ธุระในพระศาสนามีแบ่งไว้ 2 คือ คันถะธุระ๑ วิปัสสนาธุระ๑ ควรทำให้ครบทั้งสองส่วน หลักธรรมที่อ้างอิงจากอริยสัจจ์สี่ที่แนะนำคือ ศีล สมาธิ ปัญญา ถ้าเดินตามทางนี้แล้วพ้นทุกข์แน่นอน..........

 

ถ้าต้องการจริง บวช ครับ

 

สมุทัย

กล่าวเพิ่มเติมครับ ความอยากขึ้นชื่อว่าความอยาก เช่น อยากบรรลุธรรม อยากเป็นพระอรหันต์ก็จัดเป็นสมุทัยทั้งสิ้น ถ้าจะบรรลุธรรมเราต้องไม่อยากเป็นนั่นเป็นนี่ วางใจให้เป็นกลาง สงัด พ้นห่างจากกิเลสและความอยาก เราปฏิบัติธรรมชิลล์ๆ ใจเราไม่มีความอยาก จะได้ไม่ได้ช่างมัน เราช่างมันไว้ก่อน ไม่ต้องอยาก แล้วเราลงมือปฏิบัติ นี้คือทางที่ถูกต้อง..........

 

ระวัง สร้าง กรรมหนัก ปิดกั้นมรรคผล ไม่รู้ตัวนะครับ

บอกว่า อยากทำดี อยากทำบุญ เป็น กิเลส เป็น กาม สมุทัยทั้งสิ้น เหอๆ

เปลี่ยนความคิดได้แล้วนะ

สอนผิดๆ เค้าจะบอกกันว่า อยากบรรลุธรรม อยากเป็นพระอรหันต์ คือ กิเลสสมุทัย


เดี่ยวนี้ ปัจจุบัน อยากบรรลุธรรม อยากทำดี
จัดเป็น มรรค เป็นบุญ

ว่างๆ ฟังธรรม ของพระอรหันต์ บ้างนะครับ มีหลายองค์

 

ก็ยืนยันครับว่าการอยากบรรลุธรรมหรืออยากเป็นพระอรหันต์นั้นเป็นความอยาก ความอยากคือสมุทัย มันอยากที่ใจ อธิบายด้วยความเป็นมิตรนะครับ ผมเน้นภาคปฏิบัติภาวนา คือความอยากนั้นน่ะถ้าเรามีความอยากผมก็ไม่รู้ว่ามันจะเป็นอนุสัยหรือเปล่า แต่จากประสบการณ์ในการภาวนา ความอยากมันจะปิดกั้นการบรรลุธรรม เพราะใจเราไม่นิ่ง ใจเราพะวง ใจเราได้สมาธิที่เป็นสมาธิเทียมๆ ผมไม่ได้ว่าคุณนะครับ แต่ผมปฏิบัติอย่างนี้และนี้เป็นทางที่ผมปฏิบัติจึงนำมาแบ่งปัน ไม่จำเป็นต้องเชื่อผม เพราะผมไม่ใช่พระอรหันต์ แต่แบ่งปันเพราะเป็นสมาชิกคนหนึ่งของเว็บ แต่ที่ผมภาวนาน่ะผมระลึกรู้ได้ว่า เออนะ เรามัวแต่อยากเป็นโน่นเป็นนี่ การปฏิบัติธรรมเลยไม่ก้าวหน้า ความหมายของผมเป็นอย่างนี้ ด้วยความเป็นมิตรครับ.........*_*

 

ขออนุญาตแนะนำนะคะ
ต้องศรัทธาในเรื่องของการกระทำก่อนว่าการกระทำของเราไม่ว่าจะเป็น
การคิด การพูด หรือสิ่งที่เรากระทำลงไปนั้น มีผลตามมาทุกอย่าง
แล้วพิจารณาตามความเป็นจริง จนเห็นตาม
อย่างที่สองก็คือการให้ การแบ่งปันแก่ผู้ที่กำลังเดือดร้อนอยู่ หรือผู้ที่เขาต้องการจากเรา
แต่เราต้องนึกอยู่เสมอว่าเราให้เพราะช่วยเหลือไม่ต้องการสิ่งตอบแทนใด ๆ
ทั้งนี้ต้องดูคนรับด้วยค่ะว่าสมควรหรือจำเป็นที่จะรับสิ่งใดแล้วจึงให้ ข้อนี้เป็นการละความตระหนี่
อย่างที่สามก็คือ พิจารณาดูด้านจิตใจของผู้ที่ให้ทานให้ละเอียด ว่าหากให้ทานน้อยเท่านี้
จิตใจก็จะกว้างได้เท่านี้ หากเราให้ทานได้มากขึ้นจิตใจของเราจะกว้างได้มากขึ้น
สิ่งเหล่านี้เราพิสูจน์ได้ค่ะ ว่าใจเราจะค่อย ๆ กว้างขวางมากขึ้น ไม่คับแคบเหมือนแ่ต่ก่อน
ผู้รับเมื่อเขาได้รับเขาก็จะรู้สึกถึงความมีน้ำใจอันนี้ของเรา จากที่เขาเคยเป็นแต่ผู้รับเขาก็จะ
เปลี่ยนใจมาเป็นผู้ที่อยากจะให้บ้าง อันนี้ถือเป็นกำไรค่ะ
อย่างที่สี่ก็คือ เมื่อการให้เต็มที่แล้วรู้สึกมีความสุขมากขึ้น รักษาศีลต่อเลยค่ะ
จะได้ผลและได้ความสงบเร็ว ศีลห้าหรือจะมากขึ้นตามลำดับก็ได้
อย่างที่ห้า เมื่อรักษาศีลได้ในระดับหนึ่ง ก็เจริญภาวนาได้เลย นำความทุกข์ใจในแต่ละวัน
ที่ได้พบเจอ หรือทุกขณะที่มีความทุกข์ มาพิจารณาถึงสาเหตุและหาทางแก้ไขให้เบาบางลง
ทำไปเรื่อย ๆ ค่ะ จากนั้นสมาธิเค้าจะเพิ่มกำลังขึ้นเรื่อย ๆ จนสามารถกำจัดกิเลสที่ละเอียด
ยิ่ง ๆ ขึ้นไปได้ ขอให้เจริญในธรรมนะคะ
หากปฏิบัติได้ดีอยู่แล้วก็ขออนุโมทนาด้วยค่ะ

 

แนะแนวครับ

คุณ จขกท.ครับ แนะแนวเพิ่มเติมนะครับ เข้าใจว่าคงจะมีความสนใจและศรัทธาในธรรมสูงหรือพอสมควรนะครับ การปฏิบัติธรรมควรทำให้ครบทั้งภาคปริยัติ ปฏิบัติ ปฏิเวชนะครับ ปริยัติคือการศึกษาเล่าเรียน การเรียนนั้นมีทั้งเรียนในชั้นเรียน หรือเรียนด้วยตัวเอง เช่น การอ่านหนังสือ การสอบถามคุณพ่อคุณแม่ หรือปู่ย่าตายาย หรือญาติผู้ใหญ่ในตระกูล การสนทนาธรรม ปฏิบัติคือภาคการทำสมาธิและภาวนา สมาธิคือการทำจิตใจให้สงบ เมื่อจิตใจสงบปัญญาก็จะดี เมื่อปัญญาดีเราก็ภาวนา หลักธรรมที่เราจะภาวนาเราก็เลือกมาจากภาคปริยัติ ในโพชฌงค์ 7 ท่านเรียกว่าการเลือกเฟ้นธรรม ในเบื้องต้นแนะนำว่าพยายามละสังโยชน์ 3 ให้ได้ด้วยนะครับ คือ 1.ละสักกายะทิฐฐิ 2.ละวิจิกิจฉา 3.ละศีลลัพพรตปรามาส แล้วปฏิเวชก็จะตามมา อ้อ! ศึกษาและทำความเข้าใจสติปัฐฐานสี่ด้วยนะครับ ทางนี้นิพพานได้.........