เรื่องเล่า ก่อนนอนคืนนี้..ของเหล่าคนผู้มีตาทิพย์

ขอบคุณสำหรับรูปภาพค่ะพี่เห็ดหอม สระมรกตกับวัดพระศรีมหาโพธิ์ ร่มรื่นมากเลย ได้แต่ดูเพราะไม่ได้ไป

วันอาทิตย์ที่ผ่านมาเจอสมาชิกหลายคน ได้สัมภาษณ์พี่ที่ไปเปิดกรรม แล้วเจอวิบากเต็มๆแล้ว
อย่างกะเปิดหน้าต่างให้นายเวรเห็นชัดๆ ทั้งๆที่นายเวรเขาหาโจทก์ไม่เจอ ก็แปลกดีนะคะ

ยินดีในบุญกับพี่เห็ดหอมทุกอาทิตย์เลย คราวนี้ไปเกริงกระเวีย เมืองกาญจน์ เอ่อ เขาว่าเป็นamazingอีกที่
แต่คิดไป น่าสงสาร พอทำเขื่อนคนลำบากคือ ชาวบ้านแถวนั้น ดูไปดูมาเหมือนประจานการตัดสินใจแบบนี้เหมือนกัน
ที่รู้สึกตะขิดตะขวงใจ คือ พอน้ำท่วมพวกจัดทัวร์ก็พากันมาเที่ยว ว่ายน้ำแถวๆนั้น แหะๆ ข้าน้อยก็เอากะเขาด้วย
มาคิดอีกที มันไม่เหมาะ ถึงจะเป็นวัดเก่าก็เหอะ ข้างล่างที่เราๆไปว่ายน่ะพุทธสถาน ขอขมาในความไม่รอบคอบของตัวเองด้วยค่ะ
จัดใหม่ช่วงน้ำท่วม น่าจะ ลอยพวงมาลัย นั่งสมาธิเหนือลำน้ำนะคะ คิดถึงความเจริญความเสื่อมทางวัตถุ ท่าทางจะเวิร์คกว่า
ตอนน้ำลดยังไม่เคยไป เห็นแต่ในรูปอีกแล้ว เหอๆ ขอบคุณรูปสวยๆของช่วงปีนะคะพี่เห็ดหอม

 

<object type="application/x-shockwave-flash" data="http://widget-9a.slide.com/widgets/slideticker.swf" style="width: 426px; height: 320px;" width="426" height="320">





</object>

 

วันนี้ 16 ก.ค. 2553 เวลา 11.42 น. โอนเงินร่วมบุญ สร้างเสาและหลังคาโบสถ์
คลุมหลวงปู่ศุข เป็นเงิน 300 บาทค่ะ อนุโมทนาบุญกับทุกท่านค่ะ

 

อ่านเจอจากคลังกระทู้เก่าในพันทิพ
ว่าอาจารย์สามารถสแกนดูโรคในร่างกายได้ด้วย
ถ้าอยากไปพบอาจารย์ สามารถไปพบได้ที่ไหนคะ (สถานที่และเวลา)

พอดีช่วงนี้มีอาการคันๆ เคืองๆ ตา แล้วก็รู้สึกลูกตามันเต้นตึบๆ ตลอด
ไปหาหมอมาแล้ว หมอก็ว่าไม่เป็นอะไร ปกติดี แต่ก็ยังกังวลค่ะ

ขอบคุณค่ะ

 

วุ้ววว จบซักทีพี่น้อง 555
กระทู้นี้ตั้งแต่ พ.ย.2008 ถึงบัดนี้ ก.ค.2010
ใช้เวลาอ่าน คร่าวๆ ร่วม 3 อาทิตย์อะค่ะ
เรียกว่า อ่านเอาโล่ห์ กันเลยทีเดียว แหะๆ

ขอบพระคุณทุกท่านค่า.... เปิดโลกกว้าง ยิ่งกว่า
Next Step ซะอีก ....
เอิ่ม ... หมายถึง ทีวีเคเบิ้ล รายการสารคะดีน่ะค่ะ

ขอสารภาพว่า โฉบไปโฉบมา หลายสิบรอบแล้วล่ะค่ะ
กระทู้นี้ .... ไม่เค้ยย ไม่เคย คิดจะเปิดมาอ่านเล้ยยย
มิใช่มิเชื่ออันใดเลยนะคะ แต่เพราะคิดว่า คงอ่าน..
ไม่รู้เรื่อง แหะๆ .... แต่ปรากฏว่า.... อ่านรู้เรื่องแฮะ
แต่.... มิเข้าใจ 5555 แต่ก็... มันส์มากพะยะค่ะ

วาสนาพามาให้อ่านกระทู้นี้ เพราะ อ.วิษณุนะคะ
แบบว่า มาเรียนสมาธิอยู่กระทู้ข้างๆอะค่ะ
เห็นบ่อยๆ ก็เลย ... ขอลองอ่านหน่อยซิ
555 ติดเลย

อ.สามตาท่าทางเหมือนคุณอา ที่รู้จักในเวปท่านนึง
เลยนะคะ ท่านนั้น ไม่เคยเจอตัวจริงเหมือนกัน
เห็นแต่รูป ตัวผอมๆ ท่าทางใจดีเหมือนกันเลยอะค่ะ

อย่าพึ่งย้ายบูธไปไหนนะคะ หนูจะหาโอกาสไปพบ

 

เรื่องเล่าก่อนนอนคืนนี้(ต่อ)
บนเส้นทางสู่สด๊คก๊กธม

.....................................................
ไม่ได้ เข้ามาหลายวัน..มีคนเอารูปมาแทรกเพื่อ ขยายความ ตามที่เล่า
ขอขอบคุณ คุณ "เห็ดหอม" และ คุณ " วิษณุ" ในการเอารูปขึ้นให้
ต้องกลับไป อ่านย้อนหลัง เพื่อ ดู ว่า ..เล่าถึงไหน แล้ว... หว่า
อ้อ...มาจบลงที่ ต้นศรีมหาโพธิ์..จาก ลังกา
............................................................
หลังจาก จบ จากการเข้าบูชา ต้นศรีมหาโพธิ์อันศักดิ์สิทธิ์ แล้ว
ก็พากันเดินออกมา ทางประตูหน้า..ข้ามไปอีกฝั่ง
ก็เห็น ว่า บนซุ้มประตูวัด มีรูปปูนปั้น..
เล่า การเดินทางขนย้ายต้นศรีมหาโพธิ์ จากศรีลังกา
มาทางเรือ ทางบก เดินเท้า กันอย่างไร
.........................................................
ฝั่งตรงข้าม..มองเห็น ร้านเพิงหมาแหงน..ขายน้ำ
ก็เข้าไปพัก กินน้ำแข็งใส่ น้ำอัดลม
ไม่บอกยี่ห้อน้ำอัดลม..เดี๋ยวหาว่าได้ ค่า โฆษณา
บางคนไม่ชอบน้ำเย็น..ก็ ซื้อมะพร้าวอ่อน..ที่ รถเข็น ใกล้ๆๆ
ต่างคน ต่าง กิน ต่างดื่ม..พักผ่อนกันไป
..............................................................

 

กำลังจะจบการดื่มน้ำ..พักเหนื่อย
ก็ได้ ยิน เสียง มาทางโสตประสาท..ชัดเจน
"มาหาปู่..หน่อย"
เสียงแหบ พูดช้าๆๆ..อย่างนี้ คุ้นหู..แห่ะ
ก็มองหาที่มาของเสียง..ว่ามาทางด้านหลัง
ก็หันไป มอง ด้านหลัง..พบว่า เป็น ผนัง กำแพง ขาว
เพิงขายน้ำนี้ เอา ผนัง กำแพง เป็น ฝาหลัง
........................................................
ก็เลยลุก ออก เดิน ไป ดู.ว่า ข้างในหลังกำแพง มีอะไร
พบว่า มีประตู ขนาด ค่อนข้างกว้าง..ที่ไม่ได้ สังเกตุ ตอนมา
เงยหน้า ขึ้นมอง..อ้อ นี่เป็น ประตู วัด
เอ๊า...มี วัด อยู่ ด้วย อยู่ตรงข้าม ต้นศรีมหาโพธิ์
.............................................................
มองเข้าไป ข้างใน..อ้อ เป็น วัดเล็กๆๆแต่สะอาดตา..
แปลว่า มีการดูแล รักษาค่อนข้างดี
มี สิ่งก่อสร้าง อยู่ สอง หลัง..ซ้าย และ ขวา
ขวามือ เป็น โบสถ์เล็กๆๆ..สวยงาม
........................................................
มีทางเดิน..เทคอนกรีต ตรงเข้าไป
เราเดินไป ตามนั้น..เข้าประตู โบสถ์ เข้าไป..ด้วยใจระทึก
ว่า จะเจอ หลวงปู่ ที่ ส่งเสียงเรียก ไปตามให้ เข้ามา
............................................................
ภายในโบสถ์ มี พระประธาน เป็น องค์ พุทธ
มี องค์โมคคัลลา สารีบุตร ยืนเรียง ตามตำแหน่ง
ด้านหน้า.มีรูปปั้น สง่างาม ของ พระสงฆ์ เกจิอาจารย์ แห่ง ภาคใต้
นั่งอมยิ้ม เมื่อ เห็น เรา
หลวงปู่ทวด แห่ง วัดช้างไห้..ปัตตานี..นั่นเอง

.....................................................
กัมลงกราบ องค์ พุทธะ และ พระสงฆ์ ที่เรียงราย
แล้วจึงกราบหลวงปู่..ท่านก็ เอามือ ลูบหัว..ให้พรตามที่เคย
ความเย็น ซาบซ่า แล่นไปทั้งตัว..ให้มีปิติ.และสุขใจ
ก่อนจะลากลับ..เสียงท่านบอก
" ให้ไปบอกอีกคน ที่บุญแยะ เข้ามาด้วย"
...........................................................

 

เสียเวลา ไป เกิอบ 10 นาที..ก็เดินออกมาที่ รถ
ทุกคนรออยู่บนรถแล้ว..สงสัยแต่ว่า สามตา หายไปไหน
ตามที่หลวงปู่ สั่ง..เราก็รู้ว่าหลวงปู่ หมายถึง ใคร
เขาก็เช่นกัน..เมื่อ หลวงปู่ ไม่ทัก..ก็ไม่รู้ว่า..ตรงข้ามนี้ มีวัด
..............................................................
บอก..เอ้า.."เห็ดหอม"..หลวงปู่ ทวด ถามหา..ไปหาท่านหน่อย "
พร้อมกับชี้ เข้าไปในวัด..สำทับ..เพื่อไม่ให้เสีย เวลา
"อยู่ในโบสถ์ น่ะ "..อย่าง กะ นก รู้ กระโดดผลุงไปเลย
หายเข้าไป เกือบ10นาที....กลับออกมาหน้า แป้น สะบายใจ
.................................................................

 

นี่..ไม่ใช่ ครั้งแรกที่ หลวงปู่ ส่ง ซิกแนลทางจิต มาให้
จำได้ ว่า ครั้งแรก เกิด ขึ้นเมื่อ ประมาณ 5-6ปี ก่อน
ที่ วัดคงคาที่อยู่ระหว่าง บางใหญ่ กับ ตลิ่งชัน

วันหนึ่ง หลวงปู่ทวด ส่งเสียงเรียก เจ้าอาวาสวัด ตอน สองยาม
ให้ เข้าไปในโบสถ์..แล้วหลวงปู่ ก็ เดินออกมาสนทนาและสั่งงาน
ว่า ท่าน มีวัด อยู่ ภาคใต้..คือ วัด ช้างไห้
แต่ภาคกลางท่านยังไม่มีวัด ของ ท่าน..
และ ท่านเลือก วัด คงคา เป็น วัด ของ ท่าน
.........................................................
ท่านสั่งเจ้าอาวาสวให้ ลงไป ที่ ภาคใต้
ไป หาพระสงฆ์ อายุมาก รูปหนึ่ง
บอกว่า ท่านให้ มาเอา..ผงดิน ศักดิ์สิทธิ์ ที่ ฝากไว้ เป็น ตุ่ม
ท่านได้ ผงดิน มาแล้ว..ก็เตรียมไว้
...............................................................
ต่อมาหลวงปู่ สั่งเจ้าอาวาส ให้ไปที่ บุรีรัมย์
บอก ชื่อ วัด วันและเวลาที่ แน่นอน
พอถึงเวลา ก็จะมีเหมือน หิงห้อย กระจายเต็ม ทุ่ง
นับพัน นับหมื่นต้อง ใช้ สวิง ช้อน..ได้มาเป็น อ่างใหญ่
.........................................................
สิ่งที่ว่า เหมือน หิงห้อยนั้น..พอ ช้อนได้ด้วยสวิง
ก็ กลายเป็น เศษเหล็ก เล็กๆๆ...นี่ คือ เหล็กไหล บินไ
เมื่อ ได้ ของ มา ครบ..ก็นำกลับมา..ตั้ง เบ้า สร้าง พระเครื่อง
สร้างพระพืมพ์.โดยหลวงปู่ทวด แห่ง วัด ช้างไห้
มาทำพิธีปลุกเสก ด้วย ตัวเอง
.............................................................
พระเครื่อง รุ่นนี้ จึง เป็น รูป หลวงปู่ทวด แห่งวัด ช้างไห้อยู่ด้านหน้า
และ มีเหล็กไหลบินได้ ฝัง อยู่...ศักดิ์สิทธิ์มาก
คนไทย..ไม่ค่อยรู้จัก..แต่ต่างประเทศ ฮ่องกงใต้หวัน
พากันมา เป็น รถ ทัวร์เต็มๆๆ
เวลา แค่5 ปี วัดและ โบสถ์มูล ค่า กว่า 100 ล้านบาท
เสร็จ เรียบร้อยแล้ว อย่าง น่า อัศจรรย์
.......................................................

 

ปกติ สามตา ไป ที่ วัดคงคานี้ บ่อยมาก
คราหนึ่ง มี สมาชิก ชมรม ไป ด้วย หลายคน
ก็พากันไป..ในโบสถ์ มี รูปบูชา และวัตถุมงคลมาก
แน่นอน..มีรูปหล่อโลหะ ของ หลวงปู่ ทวด ขนาด 9นิ้ว
วางเรียงเป็น แถว..ต่อๆๆกัน
..........................................................
ขณะพากันนั่งกราบ
สมาชิก คนหนึ่ง บอก..ว๊าว..อาจารย์..หลวงปู่ กวักมือ เรียก
เราก็ หันไปมอง...อ๊าวรูปหล่อ หลวงปู่ ธรรมดา อยู่ในท่านั่ง สมาธิ
แต่ขณะนั้น ท่าน ยกมือเรียก แบบ กวักมือ..ด้วยมือ ขวา
.................................................................
ผม ก็ บอก ไปว่า หลวงปู่ อยากไปอยู่ กันเรา
แสดง ว่า เรามีบุญ และ เคยเกี่ยวข้องกับท่าน
สมาชิก คนนั้น ก็ไม่รอ...เข้าไปอุ้ม องค์ ที่กวักมือ
เช่ากลับบ้านไป เลย..จำได้ ค่าเช่าประมาณ เจ็ดพันบาท
นี่เป็นครั้งแรกที่พบว่า หลวงปู่ ทวด แห่งวัดช้างไห้
แสดง ท่า...ส่ง ซิกแนล..มาให้
.........................................................
(มีต่อ)

 

อ.สามตา กลับมาอยู่กรุงเทพแล้วนะคะหลังจากไปอยู่ ที่อื่นมา อยากไปหานะคะ ไม่รู้จะมีโอกาสได้ไปหาวันไหน พอดีวันก่อนคิดถึงอ.ขึ้นมาตั้งนานแน่ะค่ะ ขอบคุณที่ช่วยไว้นะคะ และคุณวิษณุด้วย ขอบคุณค่ะ ไว้คงมีโอกาสได้ไปพบค่ะ

 

ชอบอ่านเรื่องเล่า อาจารย์สามตาคะ สนุกดี...ขอบคุณคะที่นำมาเล่าสู่กันฟัง

 

ขออนุญาติ ประชาสัมพันธ์ หน่อย ครับ

เปิดอบรม พลังเอกภพยูเรอัส ระดับ 1
วันอาทิตย์ที่ 1 ส.ค. 53

อ.กิตติชัย จะ เปิด อบรม พลังเอกภพยูเรอัส ระดับ 1
ในวันที่ อาทิตย์ที่ 1 สิงหาคม 53 นี้
ดูรายละเอียด ตามลิงค์ นี้ ครับ

http://palungjit.org/threads/พ�...192813.79/


สอบถาม เพิ่มเติม
081-497 2008 ดาว

ขอบคุณครับ

 

เรื่องเล่าขั้นรายการครับ
โดยส่วยตัวนั้น แรกเริ่มของการก้าวขาเข้ามาในพุทธศาสนาของผม ก็คือเรื่องพระเครื่อง และทุกข์
ในสมัยก่อนมีแต่ความอยาก อยากได้นั่นอยากได้นี่ แต่ไม่เคยได้ ตอนนี้ไม่ได้มีความอยากดันได้นั่นได้นี
ได้มาแล้วก็เป็นทุกข์ เบื่อมากครับ เป็นทุกอย่างไรก็จะเล่าให้ฟังแล้วกันครับ คือ เมื่อวันเสาร์ที่ฝ่านมา
ไปเจอรุ่นน้องที่ตอนนี้เค้าไปทำกิจการขายของเก่า เจอกันโดยบังเอิญที่จตุจักร์คุยไปคุยมา ปรากฏเจอ
พิษบอลโลกเลย บอกผมว่าตอนนี้มีพระองค์หนึ่ง จะมาปล่อยให้ได้มาจากสถานที่นึ่ง พอเราไปดูแว้บ
ใช้จิตดูก็รู้เลยว่า เอามาจากไหน แล้วราคาที่เค้าบอกมาก็ไม่ได้แพง แต่ปรากฏว่าจะเอาไปตั้งที่ไหน
พระหน้าตัก 19 นิ้ว ไม่รวมฐานบัวซึ่งใหญ่มาก ประมาณเด็ก นั่งขัดสมาธิ ก็เอาวะ ท่านบอกว่าเอาไปที่
ก็เอา ไปกดตังค์มา 2 หมื่นกว่าบาท ในใจก็เครียดว่าใช้ตังค์ไปเร็วมาก 5-5-5
เอามาตั่งที่บูท อาจารย์เห็นก็บอกสวยมาก เย็นดีมากรัศมีสีม่วงสว่างสุดหายไปในเมฆเลย เราก็เห็นจนชินแล้ว
ก็ยั่งนั่งคิดว่าจะเอากลับบ้านอย่างไร ก็พอดีนัดกับเพื่อนไว้ พอเพื่อนมาถึงก็เห็นและชอบมาก
มาตื้อจะเอา ก็เลยให้ในราคาที่เอามาไป ในใจคิดไว้ว่ารอดตายเลยเรา 5-5-5
แต่ก็ยังไม่วายคือ ช่วงนี้เป็นอย่างไรไม่รู้ได้แต่พระกรุ นี่ก็ได้พระร่วงลางปืนมาหลายองค์อยู่
แขวนก็แขวนไม่ค่อยได้ หนักก็หนัก แต่เห็นอาจารย์บอกดีแรงดี 30 กว่าเมตร เราเลยถามไปคำว่าใครจะใส่ได้ 5-5-5
สรูปได้มาก็เสียตังค์ไปเยอะ ก็เ็ก็บไว้ เดี๋ยวก็มีคนมาโกงเอาไปเอง 5-5-5

 

พระพุทธรูป ที่ วิษณุ เอาขิ้นจอ เต็มองค์...สมควรที่ ผู้ที่มีพลังจิตและจิตสัมผัสจะ ลองเพ่ง ดู แล้วจะเข้าใจ ใน อนุภาพ แห่ง พุทธ...เป็นการตรวจสอบตัวเองด้วยว่า...พลังจิต แรงเท่าใด

 

บนเส้นทางสู่สด๊คก๊กธม (ต่อ)
................................................
ออกจากหน้า วัด ศรีมหาโพธิ์..ก็เรื่อยๆๆมาเรียง..
ในใจมี แต่ความซาบซ่า ของ พุทธบารมี ที่ อยู่ในต้นศรีมหาโพธิ์
โดยที่ เรา ไม่ต้อง ไป ที่ ศรีลังกา..หรือ อินเดีย/ เนปาล แต่ อย่างใด

วิ่งมาได้ไม่ไกลนัก..ก็เข้าเขตตัวเมือง...รถเลี้ยวซ้าย อย่างช้าๆๆ
ทันพอ อ่านป้าย ขนาดกลางได้ ว่า..
กำลัง เข้าสู่.หน้า สภอ หรือ โรงพักตำรวจ.ประจำ เมือง

รถไปจอด เยื้องๆๆ กับ ตัวอาคารสถานี..เหมือนกับ จะมาแจ้งความ
ลงมายืน..ที่ีลาน จอดรถ..หันไป รอบๆๆ..อ้อ..บริเวณ กว้างขวางพอใช้
ตัวอาคารสถานีตำรวจ ค่อน ข้างใหญ่..สะอาด..อยู่ตรงหน้า เมื่อ มอง ตรงไป
ด้านซ้าย มีอาคารเล็กๆๆ ชั้นเดียว ขนาด พื้นที่ ไม่เกิน 5 คูณ 10 เมตร
ต้องขึ้นบันได ประมาณ 5 ขั้น..จึงจะถึงพื้นบน

มองตรงเข้าช่อง ประตูกว้าง
เห็น พระพุทธรูป สี ดำ-เทา.ที่ คล้ายๆๆเนื้อ ชิน..ยืนประทับ
เป็น พระพุทธรูป ปางยืน และ ยกพระหัตถ์ สอง ข้าง ขึ้นสูง
น่..กระมังที่เรียกว่า ปางห้ามญาติ
ช่างคล้าย สไตล์ เหมือนที่ ได้มีการแกะภูเขา ใน ประเทศ อาฟกานิสถาน
และ ถูกทำลายด้วยปืิน ของ เหล่า กลุ่มนักรบ ตาลีบัน

เมื่อ เข้าไป กราบแล้ว นั่งทำสมาธิ..พบว่า พลัง มีความแรงค่อนข้างสูง
แต่ที่ แปลก คือ มีความหนัก..ทำให้ หายใจฝืด...ไม่เหมือน เท่าที่ได้ เคยผ่านมา

อ่านประวุติ การค้นพบ..จาก เอกสาร
เล่า ไว้ ว่า...." มีกลุ่ม ศาสนาคริสเตียน..จะทำการก่อสร้าง สถายปฏิบัติ
ในแนวของ พวกเขา..ขณะที่ กำลัง ขุดเพื่อ วางฐานราก อาคาร
ก็พบ โลหะ..เมื่อ ขุดดู ก็ พบว่า เป็น รูปหล่ิอ บูชาในแนวศาสนาพุทธ

ก็ไม่รู้จะเอาไปไหน..จะเอาไว้ ก็ไม่ใช่ เพราะ คนละศาสนา
จึง เอามาวางไว้ ที่ โรงพัก..จะเป็นทา่งออก ที่ดี ที่ สุด
ต่อมา ชาวเมือง รู้ข่าว ก็มาไหว้ บูชา..และช่วยกันคนละนิด ละน้อย
สร้าง ศาลา..ให้ พระพุทธ รูปนี้..ได้ ประทับ...
ไม่ต้อง นอนประทับ ตากแดด..ตากฝน

กรมศิลปกร..ได้ มาศึกษา แล้ว บอก ว่า..เป็น พระพุทธรูป ในยุค ศรีวิชัย
อายุนับ พันปี...พวกเรา ดีัใจที่ได้ มีโอกาสมาเยี่ยมชม...สักการะ
ขอเชิญ สมาชิก ท่านอื่น.ถุ้้า ผ่านปราจีณ..ให้แวะ ด้วยจะไม่เสีย หลาย
...............................................................................

 

ออกจาก โรงพัก..ไปไม่ไกล...รถก็แวะ เข้าศูนย์ราชการของ จังหวัด
ไป จอด ในที่ร่ม ด้านซ้าย.เดินไป ตามทางแคบๆๆ..จะได้ไม่เหยียบหญ้า
เดินไป ได้ ประมาณ 120 เมตร..ก็พบ อาคารเล็กๆๆ สร้าง โดยเฉพาะ
อยู่ในตำแหน่ง ยกพื่นสูงมากๆๆ...บรรได หลายขั้น

แหงนหน้าขึ้นมอง...โอ้โฮ!!!!!
นาน ๆๆ เจอที..ตัวอาคาร เครื่องตกแต่ง สิ่งแวดล้อม..โดยรอบ
เป็น สีชมพู....หมด...สีชมพู หมายถึง ระหัส สี ของ วันอังคาร

วันอังคาร เป็น วัน ประสูติ ของ สมเด็จพระปิยะมหาราช..ร.5 นั่นเอง
หมายความว่า เรากำลัง มาเยี่ยมชม และสักการะ..ลายพระหัตถ์ ของ พระองค์
ที่ จังหวัด ขยายใหญ่มากๆๆ..โตกว่า 1 ฟุต...ยาวเกือบเมตร

ตั้งไว้ ให้ชมกัน อย่างชัดเจน..ด้านหลัง แบ๊คกราวน์ เป็น รูปพระองค์ ท่าน
ในชุด ราชปะแตน..ประทับยืน กอดพระอุระ...สวยงาม

 

พระองค์ เป็นต้นกำเนิด..การศึกษา ในประเทศไทย
ทรงตั้งโรงเรียนมหาดเล็กหลวง..เพื่อให้ บุตรหลาน ของ เหล่า บริพาร
ได้ มีโอกาส เรียนศึกษาชั้นสูง...ใครเรียนเก่ง มีแวว
ก็ คัด ส่ง ไป เรียน ต่อ ต่างประเทศ..เช่นเดียว เหล่า โอรส และ ราชวงศ์

เมื่อ จบกลับมา..ก็ได้ เป็นกำลังสำคัญ ในการพัฒนาประเทศสยาม
โดย บรรดา ราชโอรสที่กลับมา ก็ ได้ เป็นเจ้ากระทรวง..
ก่อตั้งกระทรวง ..หน่วยงานต่างๆๆมากมาย..เช่น

กรมหลวงราชบุรี ดิเรกฤทธิฺ ด้านกฏหมาย
กรมพระกำแพงเพชร อัครโยธิน..คมนาคม รถไฟ
กรมพระยาดำรง ราชานุภาพ..การปกครอง และ มหาดไทย
กรมหลวง ชุมพร เขตอุดมศักดิ์..ระบบทหาร..โดยเฉพาะ ทหารเรือ
กรมหลวง สงขลา นดรินทร์..ด้านพยาบาลและ อนามัย
ฯลฯ

 

จากการเริ่มต้น ทีี่่ โรงเรียน มหาดเล็กหลวง..
เพื่อการศึกษาของ เหล่า เยาวชนสยาม

ในที่สุด ก็กลายเป็น จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย เช่นในปัจจุบัน
จุฬา ฯ จึงใช้สีชมพูเป็นสี ประจำมหาวิทยาลัย.
เนื่องจากเป็น สี วัน สมภพ ของ ร.5..นั่นเอง

ต้นไม้ที่คล้ม ทั่ว จุฬาฯ..เป็น ต้น จามจุรี..ดอกสีชมพู
ต้นจามจุรีที่ว่า..ถ้าใครเดินผ่าน แล้ว ฝัก ตกใส่หัว..จะสอบตก
พวกนิสิตจุฬาฯ ทุกสมัย กลัวกันนัก

ต้นไม้ รอบตึก ที่ มีรูปขนาดใหญ่พระองค์ ประทับ ..ก็เป็น ต้นชงโค
สี ชมพู ..เช่นกัน.....รอบๆๆ ตึก ทุกทางขึ้น ที่มากกว่า 10 ทาง
จะมีรูปปั้นปูน นาคพร้อมเศียร ชู หรา..เป็น บันได นาค
เป็นการป้องกัน สิ่งชั่วร้าย เข้าตึก....ให้ มีความปลอด ถัย

ตอนที่เคยเรียนอยู่..เศียรบันได นาคที่ ว่า...เห็นทุกวัน
ก็คิดว ่า เป็น งานศิลป์ ของ ช่างที่ สวยงาม..เท่านั้น
แต่ พอ มีตาทิพย์..เท่านั้น..มองเห็น อีกแบบ
บรื๊อๆๆๆๆๆ...เหยียบบันได นาค อยู่ ได้ ตลอด 4 ปีที่เรียนอยู่
เหยียบ กว่า พันครั้ง...ไม่รู้ว่า จบมาได้ อย่างไร
...................................................................
(มีต่อ)

 

อาจาร ครับ ไม่ทราบว่า ช่วงวันที่ 8-9 สิงหาว่างรึเปล่าครับ จะไปหาที่บู้ต