เรียนถามท่านผู้รู้ครับ เรื่องพระอาจารย์จวน และพระอาจารย์วัน ที่ท่านมรณะภาพจากเครื่องบินตกนะครับ

เรียนถามท่านผู้รู้ครับ เรื่องพระอาจารย์จวน และพระอาจารย์วัน ที่ท่านมรณะภาพจากเครื่องบ

เนื่องจากผมได้เข้าไปอ่านเกี่ยวกับหลวงพ่อฤษีลิงดำแล้วได้มีกระทู้หนึ่งกล่าวเกี่ยวกับเหตุการณ์เครื่องบินตกไว้ดังนี้ครับ

เรื่องที่ ๓๓
พระสงฆ์มรณภาพเนื่องจากเครื่องบินตกแล้วไปเกิดเป็นพรหมกับเป็นเทวดา

 

ท่านก็ได้รับคำชมจากหลวงปู่มั่น
ว่าเป็นผู้มีกาย วาจา สมควรแก่การบรรลุธรรม
ตรงผนังเจดีย์พิพิธภัณฑ์พระอาจารย์จวน

แต่ที่อ่านผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับเรายังเป็นปุถุชน เราจะคาดคะเนให้ท่านถึงนั้นถึงนี้ไม่ได้.......

อันนี้หลวงปู่มั่น ท่านได้กล่าวถึงท่านพระอาจารย์จวน ครับ

​

<TABLE width=500><TBODY><TR><TD>

​

</TD></TR><TR><TD>

พระธาตุหลวงปู่จวน กุลเชฏฺโฐ ได้รับจากสามเณรผู้อุปัฏฐา่กหลวงปู่ที่วัดภูทอก​

</TD></TR></TBODY></TABLE>


<TABLE width="88%" align=center border=0><TBODY><TR><TD>

​

</TD></TR><TR><TD><TABLE width=500 align=center><TBODY><TR><TD>

พระธาตุหลวงปู่จวน กุลเชฏฺโฐ
​

</TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE>


<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD background=../../../../bg/c.gif><TABLE width="88%" align=center border=0><TBODY><TR><TD width="99%">

<TABLE width=500><TBODY><TR><TD>

​

</TD></TR><TR><TD>

​

</TD></TR></TBODY></TABLE>​

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD bgColor=#ffd013></TD></TR><TR><TD bgColor=#ffd013></TD><TD background=../../../../bg/c.gif></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ปัจจัตตัง

 

เดี๋ยวก็ทะเลาะกันอีก

ปัจจัตตังจริงๆ

 

<st1ersonName w:st="on" ProductID="สุพัฒ สุขกาโม">เรื่องปัจจัตตัง รู้ได้เฉพาะตนครับ </st1ersonName>

 

เรื่องไม่ควรคิดครับ แต่ก็ยัง งงๆๆสงสัยอยู่ดี

 

ผมก็เคยอ่านเจอเรื่องนี้นานมากแล้วเหมือนกันครับและก็ได้แต่เก็บความสงสัยไว้กับตัวเองมาตลอด มาเห็นกระทู้ไม่นึกจะมีคนสงสัยแบบเดียวกันเลย....

ที่จริงมีหลาย ๆ เรื่องที่เคยเจอและทำให้สงสัย บางทีทำไมครูบาอาจารย์ ที่ต่างก็ได้รับการยอมรับว่ามีคุณธรรมระดับสูง ๆ และเป็นที่เคารพของเราทั้งสองท่าน จึงยังกล่าวขัดแย้งกันได้ในบางเรื่อง..
ไม่อยากบังอาจคิดครับว่ามีญาณรู้ของท่านใดท่านหนึ่งที่ผิดพลาดอย่างนั้นหรือ...

แต่ถึงจะสงสัย ผมก็ไม่ได้ใส่ใจมากนักหรอก พยายามสลัดทิ้งไปจากใจเสีย คิดมากไปก็อาจทำให้ศรัทธาความเชื่อมั่นในครูอาจารย์ของเราคลอนแคลนได้ และจะเป็นอุปสรรค์ต่อความเจริญก้าวหน้าในธรรมของเราเปล่า ๆ ตัดใจคิดเสียว่าวันหน้าหากมีบุญวาสนาปฏิบัติไปเรื่อย ๆ เมื่อภูมิรู้ภูมิธรรมถึงขั้นก็คงได้รู้เองเห็นเองนั่นแหละครับ ความสงสัยแบบนี้ไม่ได้ช่วยอะไรเลย กลับทำให้เราลังเลสงสัย เผลอๆ ไปคิดปรามาสครูบาอาจารย์เข้าให้อีกจะบาปกรรมกันไปใหญ่...

เรื่องแบบนี้ก็อย่างที่เขาว่านั่นแหละครับ ..ปัจจัตตัง.. ปฏิบัติไปเรื่อยๆ เมื่อทุกอย่างถึงพร้อมก็คงได้รู้เองเห็นเอง...คิดแบบนี้นะครับ

 

ด้วยความเคารพครูบาอาจารย์ทุกองค์ ผมเคยอ่านเจอเหมือนกัน ตอนแรกก็ไม่เข้าใจ ทำไมครูบาอาจารย์รับรองไม่ตรงกัน ทั้งท่านพระอาจารย์จวน พระอาจารย์สิงห์ทอง ผมเคยได้ยินองค์หลวงตาพระมหาบัว เทศถึงคุณธรรมของท่านอาจารย์ทั้งสองบ่อยๆว่าไม่กลับมาเกิดอีก

 

เรื่องนี่ผมคิดว่าอุปมาอุปมัยได้ดังนี่ เปรียบเสมือนครูบาอาจารย์องค์หนึ่งเห็นน้ำ อีกองค์เห็นน้ำแข็ง ทั้งที่ๆๆครูบาอาจารย์สองท่านนึ้เห็นสิ่งเดียวกันแต่ต่างกัน ซึ่งความรู้เห็นแต่ล่ะท่านไม่เหมือนกัน ! ผมเคยถามเรื่องนึ้เหมือนกันว่าทําไมหลายองค์เป็นพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ แต่ทําไมญาณทัศนะไม่เหมือนกัน ท่านบกว่า เพราะบางเรื่องเป็นเรื่องที่รู้เห็นไม่เท่ากัน บางองค์อาจจะเลิศด้านนึ้ แต่องค์นึ้เลิศด้านนึ้ หรือ บางองค์ได้ขั้นนึ้ อีกองค์หนึ่งได้ขั้นนึ้

 

สุดหัวใจข้าน้อย หลวงปู่วัน หลวงปู่จวน หลวงปู่สิงห์ทอง อรหันต์แน่นอน เกินล้าน เปอร์เซนต์ในหัวใจขั้น้อย

 

เรื่องอย่างงี้ใครจะไปรู้ และรู้ไปแล้วได้อะไร

รีบปฎิบัติพิจารณาความแก่ความตาย

ให้มันคลายความมัวเมาในวัฏสงสาร ดีกว่า อันนี้สิที่มีอยู่จริงและเป็นของจริง

ที่ผมรู้แน่ๆคือพระอาจารย์ใหญ่ เรียกได้ว่าเป็นสุดยอดพระอรหันต์แห่งยุคก็ว่าได้

ปฎิทาตามรอยบาทแห่งพระศาสดาโดยเคร่งครัด เปรียบดั่งพระสมัยพุทธกาล

ศิษแต่ละองค์ของท่านก็ทรงคุณธรรมวิเศษอันเลิศปรากฎให้ปุถุชนได้เห็นกันชัดถ้วนหน้า

อย่างไม่ต้องสงสัย หลวงตามหาบัวก็ทรงคุณธรรมวิเศษบารมีสูงส่ง

สำเร็จกิจพระพุทธศาสนา อันหาผู้ใดจะเสมอเทียบได้ในยุคปัจจุบัน ไม่มีอีกแล้ว

และที่แน่ๆ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ไม่เป็นพระอรหันต์ก็ต้องเป็นพระโพธิสัตว์อย่างแน่นอน

 

ปัจจัตตังครับ ไม่อยากให้ใส่ใจกับเรื่องเหล่านี้ให้มาก ผู้ที่รู้แจ้งทุกเรื่องนั้นมีเพียงพระพุทธเจ้าพระองค์เดียวเท่านั้น ส่วนพระอรหันต์นั้นท่านไม่ได้รู้แจ้งไปเสียทุกเรื่อง บางเรื่องในทางโลกพระอรหันต์ท่านย่อมอาจกล่าวผิดพลาดไปได้เหมือนกัน แต่สิ่งที่ท่านรู้แจ้งเหมือนกันนั้นก็คือในเรื่องทางธรรมเรื่องของอริยสัจสี่ ท่านสามารถดับตัณหาอวิชชาได้อย่างสิ้นเชิงเป็นผู้บริสุทธิ์เต็มส่วนเหมือนกันทุกรูปครับ

ที่จริงมีอีกหลายเรื่องครับที่เหล่าครูบาอาจารย์ที่พวกเราต่างเชื่อว่าท่านเป็นพระอริยะเป็นพระสุปะฏิปันโนมีคุณธรรมสูง แต่บางครั้งท่านเหล่านั้นก็กล่าวไม่ตรงกันในเรื่องบางเรื่อง อย่างที่เห็นชัด ๆ ก็เรื่องของสมเด็จเกี่ยว อุปเสโนเป็นต้น ถ้าใครที่มีความศรัทธาทั้งหลวงพ่อฤาษีลิงดำและหลวงตามหาบัวฯ ก็คงจะทราบเป็นอย่างดีในเรื่องนี้

หลวงพ่อฤาษีลิงดำท่านได้กล่าวยกย่องถึงคุณธรรมของสมเด็จเกี่ยวเอาไว้ว่าสมเด็จเกี่ยวนั้นท่านเป็นพระทองคำแล้ว ส่วนหลวงตามหาบัวฯ ท่านกล่าวถึงสมเด็จเกี่ยวไว้อย่างไรดุเด็ดเผ็ดร้อนขนาดไหนก็คงจะทราบกันดีอยู่แล้ว

ตัวผมเองก็ศรัทธาทั้งสองท่าน แรก ๆ ก็สับสนสงสัยไม่น้อยเหมือนกันทำไมครูอาจารย์ที่เราศรัทธาท่านถึงกล่าวขัดแย้งกันขนาดนี้ สงสัยอยู่นานเหมือนกัน คิดไปคิดมาไม่เกิดประโยชน์แน่ความสงสัยแบบนี้ เรื่องบางเรื่องมันก็เป็นปัจจัตตังรู้ได้เฉพาะตน หากไปวิตกวิจารณ์กับมันมากเกิน เลยเถิดไปคิดปรามาสพลาดพลั้งล่วงเกินต่อครูอาจารย์เข้าจะเป็นบาปกรรมติดตัวเปล่า ๆ

ครูอาจารย์ท่านสอนดีท่านปฏิบัติดีปฏิบัติชอบเราก็ควรดำเนินตามแนวทางที่ท่านพร่ำสอน พยายามฝึกหัดปฏิบัติัขัดเกลาตัวเองไปเรื่อย ๆ น่าจะดีกว่า ซักวันหนึ่งหากมีวาสนาก็คงจะได้รู้ได้เห็นเองนั่นแหละในเรื่องพวกนี้

 

ธรรมมะ มีหนึ่งเดียว หาใช่เห็นเป็นคนละมุม


....อย่างหลวงตาท่านเทศน์ การเป็นพระอรหันต์ เปรียบเสมือน แม่น้ำทั้งหลายไหลลงสู่ทะเล อรหันต์ คือ น้ำทะเล ไม่เรียกแยกว่าแม่น้ำสายนั้นสายนี้

....ธรรมมะ มีหนึ่งเดียว หาใช่เป็น 1 เป็น 2 .....

 

ดูที่พระธาตุซิครับ ของยืนยันให้เห็นจะจะแก่สายตา ดูก็รู้ว่าภูมิธรรมท่านระดับไหน

ลงว่าได้เป้นพระธาตุละก็ขาดใจเลย พระอรหันต์ พันเปอร์เซ็นต์ ล้านเปอร์เซ้น

 

มิอาจรู้ มาหาความจริงกันเถอะ ใครที่สงสัย ลองนั้งสมาธิ ปฏิบัติธรรม เอาจนได้รู้ความจริง จนหายสงสัย มีใคร อยากลอง มั๊ยคราบ

 

มีความเห็นให้ 2 ข้อมูลครับ

1. ผมมีความสงสัยอย่างนี้เช่นกัน จึงเคยกราบเรียนถามหลวงปู่สรวง สิริปุญโญ วัดป่าศรีฐานใน จ.ยโสธรครับ ท่านเล่าให้ฟังว่าครั้งนั้นมีหลายองค์ที่ได้รับนิมนต์รวมถึงหลวงปู่อ่อน วัดหนองบัวบาน ซึ่งท่านไม่ยอมรับนิมนต์ ท่านกล่าวเพียงว่า เฮาบ่ไป เฮายังบ่อยากตาย

ส่วนท่านอาจารย์จวนและองค์อื่นๆนั้นหลวงปู่สรวงเล่าว่าแม้ตอนที่รถตู้มารับพวกท่านไปขึ้นเครื่องบินท่านก็ยังรีรอปรึกษากันอยู่ จนท่านอาจารย์จวนกับท่านอาจารย์วันตัดสินใจว่าไปก็ไป ท่านทั้งหลายจึงขึ้นรถตู้คันนั้นไปขึ้นเครื่องบิน

เช้ามืดวันนั้นหลวงปู่สรวงท่านจำวัดอยู่ที่วัดป่าแก้วชุมพลซึ่งเป็นวัดของท่านอาจารย์สิงห์ทอง ท่านฝันไปว่าอาจารย์จวนมาลาท่าน พอช่วงสายๆก็มีคนมาบอกข่าวว่าเครื่องบินตก นอกจากนี้หลวงปู่สรวงท่านไม่ได้กล่าวอะไรอีก

ส่วนข้อมูลที่ 2 ยาวสักหน่อย บันทึกอยู่ในหนังสืองานพระราชทานเพลิงศพท่านอาจารย์จวน จะทยอยพิมพ์ให้ได้อ่านกันครับ

 

ในหนังสือเล่มนี้คุณหญิงสุรีย์พันธ์ มณีวัต ศิษย์ใกล้ชิดเล่าว่าท่านอาจารย์จวนและอาจารย์วันเคยว่าไว้ว่าท่านทั้งสองจะมรณภาพเมื่ออายุ90กว่าปีคืออายุยืนมากๆ เป็นที่รับรู้กันของศิษย์ทั่วไป จนกระทั่งวันหนึ่งท่านถามคุณหญิงว่าถ้าท่านตายจะช่วยทำศพให้ท่านได้ไหม คุณหญิงก็ย้อนถามว่า ท่านจะตายได้อย่างไรหละคะก็ท่านอาจารย์เคยบอกว่าท่านจะอายุยืนมาก ท่านก็ตอบว่า ก็ถ้ามันต้องเปลี่ยนหละ

ก่อนท่านจะขึ้นเครื่องท่านก็บอกว่าไปครั้งนี้ก็เป็นครั้งสุดท้ายจะไม่ได้กลับมา และไปได้แค่วัดพระศรีมหาธาตุซึ่งต่อมาก็เป็นที่พระราชทานเพลิงศพของท่าน

 

อีกเรื่องที่แปลกมากคือ บาตรของท่านอาจารย์นั้นเมื่อเครื่องบินตกได้ถูกแรงอัดจนฝาบาตรบุบยุบลงไปต้องออกแรงงัดกันนานจึงจะเปิดออก ภายในนอกจากเครื่องใช้ของท่านแล้ว ยังพบซองจดหมายปึกหนึ่งเป็นซองราชการ ผนึกอย่างดี ตีตราลับของกระทรวงมหาดไทย มุมซองระบุว่าเป็นเอกสารจากผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมซึ่งเมื่อเครื่องตก ทางราชการหาเอกสารชิ้นนี้กันแทบพลิกแผ่นดิน

ซึ่งต่อมาท่านผู้ว่านครพนมที่เดินทางมาเที่ยวบินนี้ด้วยและบาดเจ็บสาหัสกล่าวว่า

อะไรนะครับ ซองเอกสารนั่นหรือครับ ได้มาจากบาตรท่านอาจารย์จวน
ผมไม่ทราบเลย เพิ่งทราบเดี๋ยวนี้เอง ผมขนลุกไปหมด
ก็ผมไม่ได้เอาไปฝากท่าน อยู่กับตัวผมตลอดเวลาจนเครื่องตก เอกสารลับความเป็นความตายอย่างนั้น ใครจะให้คลาดจากตัว แล้วเข้าไปอยู่ในบาตรท่านได้อย่างไร บาตรบุบยุบอัดแน่นจนพระต้องช่วยกันงัด เท่ากับท่านช่วยไว้ไม่ให้ใครไปพบก่อนพวกเราจะไปพบ

 

มีคำถามว่า ท่านรู้ล่วงหน้าไหม ถ้ารู้แล้วทำไมถึงมา
ทำไมพระอริยะเจ้าต้องมาตายเยี่ยงนี้

คืนพระราชทานเพลิงศพคืนแรกท่านผู้ใหญ่ท่านหนึ่งเล่าให้คุณหญิงฟังว่า โหรหลวงเขาทำนายไว้ ว่าปีนี้(2523)ชะตาเมืองไทยจะตกต่ำถึงขีดสุด อาจจะมีข้าศึกยกเข้ามาในเมืองไทย หรือมิฉะนั้นก็จะต้องเสียพระอริยะเจ้าหลายองค์ในเวลาเดียวกัน

ในปีนั้นเองญวนบุกเข้ามาถึงโนนหมากมุ่น คิดเล่นๆว่าถ้าท่านอาจารย์ทุกองค์ไม่จากไป เหตุการณ์แผ่นดินจะเป็นอย่างไรวิกฤติถึงเพียงไหน ............โอ้พระคุณของท่าน

 

เรื่องราวเหล่านี้ต้องหาอ่านจากหนังสือ กุลเชฏโฐภิวาท ครับ และแน่นอนว่าครูบาอาจารย์ทั้ง5รูปที่มรณภาพในวันนั้นเป็นพระอริยเจ้าแน่นอน
๑. หลวงปู่บุญมา ฐิตเปโม
วัดสิริสาลวัน บ้านโนนทัน ต.โนนทัน อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู
๒. หลวงพ่อวัน อุตฺตโม
วัดถ้ำอภัยดำรงธรรม (วัดถ้ำพวง) ต.ปทุมวาปี อ.ส่องดาว จ.สกลนคร
๓. พระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ
วัดเจติยาคิรีวิหาร (วัดภูทอก) ต.นาแสง อ.ศรีวิไล จ.หนองคาย
๔. พระอาจารย์สิงห์ทอง ธมฺมวโร
วัดป่าแก้วชุมพล ต.บ้านชุม อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร
๕. พระอาจารย์สุพัฒน์ สุขกาโม
วัดป่าประสิทธิ์สามัคคี
ต.บ้านต้าย อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร

เนื่องจากอัฐิทุกองค์แปรสภาพเป็นพระธาตุหมด