ขอเชิญร่วมทำบุญสงเคราะห์พระภิกษุสงฆ์อาพาธ

ในห้อง 'ตลาด พระเครื่องเพื่อการกุศล' ตั้งกระทู้โดย พันวฤทธิ์, 29 พฤศจิกายน 2007.

  1. narongwate

    narongwate เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    885
    ค่าพลัง:
    +3,840
    ขอประชาสัมพันธ์สำหรับท่านที่ได้จองที่ดินกับหลวงปู่เคราเอาไว้ครับ

    <TABLE border=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center>[​IMG]</TD><TD vAlign=center>ไฟฟ้าที่ดินแปลงใหม่
    « เมื่อ: พฤษภาคม 31, 2010, 09:45:14 AM »

    </TD><TD style="FONT-SIZE: smaller" height=20 vAlign=bottom align=right>[​IMG]อ้างถึง </TD></TR></TBODY></TABLE>

    <HR class=hrcolor SIZE=1 width="100%">ท่านที่ซื้อที่ดินไว้สำหรับปฏิบัติธรรมเป็นการส่วนตัวนั้น บัดนี้ท่านทนายไสวจะขายเขตุไฟฟ้าเข้าในพื้นที่แล้ว ต้องใช้งบประมาณจำนวน 60,000 บาท จึงขอให้ท่านเจ้าของที่ดินช่วยบริจาคในกิจกรรมนี้ด้วย เพราะกิจนี้.....ไม่ใช่กิจของสงฆ์....หลวงปู่ก็ได้ช่วยไปแล้วตามที่มี

     
  2. เฮียปอ ตำมะลัง

    เฮียปอ ตำมะลัง ทุกสิ่งจบสิ้นลงด้วยความตาย วุ่นวายทำไม ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    24,969
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +91,130
    <TABLE class=MainTb cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR class=SubIntroR><TD class=BorderA colSpan=3>รายการเสร็จสมบูรณ์</TD></TR><TR class=SwapR><TD class=LeftCL>โอนจากบัญชี</TD><!--<td width="100">SAVING-01 </td> <td width="150" class="BorderR">THB 85,003.25</td>--><TD class=RightCL colSpan=2>419-2-10***-5</TD></TR><TR class=SwapBR><TD class=LeftCL>ชื่อบัญชีผู้โอน</TD><TD class=RightCL colSpan=2>นาย บุรักษ์ ศาลากิจ </TD></TR><TR class=SwapR><TD class=LeftCL>เลขที่บัญชีผู้รับโอน</TD><TD class=RightCL colSpan=2>348-1-23245-9</TD></TR><TR class=SwapBR><TD class=LeftCL>ธนาคารผู้รับโอน</TD><TD class=RightCL colSpan=2>ธ.กรุงศรีอยุธยา - BAY</TD></TR><TR class=SwapR><TD class=LeftCL>ชื่อบัญชีผู้รับโอน</TD><TD class=RightCL colSpan=2>pratom foundation</TD></TR><TR class=SwapBR><TD class=LeftCL>จำนวนเงิน</TD><TD class=RightCL colSpan=2>500.00</TD></TR><TR class=SwapR><TD class=LeftCL>ค่าธรรมเนียม </TD><TD class=RightCL colSpan=2>0.00</TD></TR><TR class=SwapBR><TD class=LeftCL>วันที่ได้รับยอดเงินโอน</TD><TD class=RightCL colSpan=2>03/06/2010 17.30 น.</TD></TR><TR class=SwapR><TD class=LeftCL>วันที่ตัดยอดเงินจากบัญชี</TD><TD class=RightCL colSpan=2>02/06/2010</TD></TR><TR class=SwapBR><TD class=LeftCL>หมายเลขอ้างอิงรายการ</TD><TD class=RightCL colSpan=2>tmbi2438303</TD></TR></TBODY></TABLE>
    ..............................................................

    อิทัง ปุญญะผะลัง ผลบุญใด ที่ข้าพเจ้าและครอบครัวได้บำเพ็ญแล้ว ณ โอกาสนี้ ข้าพเจ้าและครอบครัวขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย ที่เคยล่วงเกินมาแล้ว แต่ชาติก่อนก็ดี ชาตินี้ก็ดี ขอเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย จงโมทนาส่วนกุศลนี้ ขอจงอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้าและครอบครัว ตั้งแต่บัดนี้ ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพาน

    และข้าพเจ้าทั้งหลาย ขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่เทพเจ้าทั้งหลายที่ปกปักรักษาข้าพเจ้า และเทพเจ้าทั้งหลาย ทั่วสากลพิภพและพระยายมราช ขอเทพเจ้าทั้งหลาย และพระยายมราช จงโมทนาส่วนกุศลนี้ ขอจงเป็นสักขีพยาน ในการบำเพ็ญกุศล ของข้าพเจ้าและครอบครัวในครั้งนี้ด้วยเถิด และขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่ท่านทั้งหลาย ที่ล่วงลับไปแล้ว ที่เสวยความสุขอยู่ก็ดี เสวยความทุกข์อยู่ก็ดี เป็นญาติก็ดี มิใช่ญาติก็ดี ขอท่านทั้งหลาย จงโมทนาส่วนกุศลนี้ พึงได้รับประโยชน์ ความสุข เช่นเดียวกับข้าพเจ้า จะพึงได้รับ ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด

    ผลบุญใดที่ข้าพเจ้าและครอบครัวได้บำเพ็ญแล้ว ณ โอกาสนี้ ขอผลบุญนี้ จงเป็นปัจจัย ให้ข้าพเจ้าและครอบครัว ได้เข้าถึง ซึ่งพระนิพพานในชาติปัจจุบันนี้ด้วยเถิด หากแม้นยังไม่ถึงพระนิพพานเพียงใด ขอคำว่า ไม่รู้ ไม่มี ไม่สำเร็จ จงอย่าได้บังเกิดแก่ข้าพเจ้าและครอบครัวเลย ขอผลบุญทั้งหลาย ที่ข้าพเจ้าและครอบครัว ได้กระทำแล้ว จงบังเกิดผล ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด
    .................................................
     
  3. sophon2009

    sophon2009 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2009
    โพสต์:
    64
    ค่าพลัง:
    +1,311
    ข้าพเจ้า โสภณ ศิริดำรงค์ศักดิ์ และครอบครัว ขอร่วมบุญด้วย 500 บาทครับ

    <TABLE border=0 cellSpacing=1 cellPadding=0 width="95%" bgColor=#bdc9d5 align=center><TBODY><TR><TD height=22 background=/krungsri_thai/pic_ib/bullet/bar1.gif> </TD><TD background=/krungsri_thai/pic_ib/bullet/bar1.gif>
    ชื่อเรียกแทนบัญชี
    </TD><TD background=/krungsri_thai/pic_ib/bullet/bar1.gif>
    ชื่อบัญชี
    </TD></TR><TR bgColor=#ffffff><TD bgColor=#ffffff width="32%">บัญชีผู้โอน</TD><TD width="34%">
    5381011891 ​
    </TD><TD bgColor=#ffffff width="34%">
    SOPHON ​
    </TD></TR><TR bgColor=#ffffff><TD>บัญชีผู้รับโอน</TD><TD>
    Monk Donate ​
    </TD><TD bgColor=#ffffff>
    PRATOM F. ​
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD background=/krungsri_thai/pic_ib/bullet/dot_18.gif>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="95%" align=center><TBODY><TR><TD width="59%">
    จำนวนเงินที่ต้องการโอน​
    </TD><TD width="41%">
    500.00 บาท ​
    </TD></TR><TR><TD>
    ค่าธรรมเนียมการโอนข้ามเขต​
    </TD><TD>
    0.00 บาท ​
    </TD></TR><TR><TD>
    ค่าคู่สาย​
    </TD><TD>
    0.00 บาท ​
    </TD></TR><TR><TD>บันทึกช่วยจำ</TD><TD>
    </TD></TR><TR><TD>
    ค่าธรรมเนียม SMS​
    </TD><TD>
    ฟรี​
    </TD></TR><TR><TD>
    การแจ้งให้ทราบ​
    </TD><TD>
    ต้องการ​
    </TD></TR><TR><TD>
    แจ้งโดย​
    </TD><TD>
    SMS​
    </TD></TR><TR><TD>
    การแจ้งให้ผู้รับทราบ​
    </TD><TD>
    ไม่ต้องการ​
    </TD></TR><TR><TD>
    แจ้งโดย​
    </TD><TD>
    -​
    </TD></TR><TR><TD>
    หมายเลขอ้างอิง​
    </TD><TD>
    bayi15937873​
    </TD></TR><TR><TD>
    วัน / เวลา ​
    </TD><TD>
    03/06/2010 11:27:27 AM ​
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  4. ชิน9

    ชิน9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    46
    ค่าพลัง:
    +247
    สวัสดีครับทุกท่าน ผมได้โอนเงินบริจาคจำนวน 2,000.-บาท

    04/06/2010 15:35 น.โอนผ่าน bay 4838


    ด้วยบุญอุทิศนี้ให้อาม่า,ป๋า,แม่,อาโกว,ชิน9,น้องๆ,หลานๆ,เพื่อนๆ,บริวารทุกคน,ผู้มีพระคุณทุกท่าน,ครู,อาจารย์,คนไทยทุกคน,ลูกค้าทุกคน,ผู้เช่าบ้านและร้านของชิน9

    ขอเชิญเพื่อนๆพี่ๆน้องๆมาร่วมอนุโมทนาบุญด้วยกันนะครับ<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
     
  5. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,782
    ค่าพลัง:
    +16,097


    ขออนุโมทนาและสาธุบุญกับทุกๆ ท่านด้วยครับ เท่าที่สังเกตุดูจากหลาย รพ.ในต่างจังหวัด ต่างก็แจ้งให้ทราบว่าในระยะหลายเดือนที่ผ่านมา พระสงฆ์ที่มารักษาส่วนใหญ่จะเป็นด้วยโรคเรื้อรังต่างๆ เช่นปอด ตับ เบาหวาน หรือความดัน โดยส่วนใหญ่จะมารักษาในลักษณะที่เป็นคนไข้นอก การให้การรักษา จะให้ยาตามอาการที่พบ ทำให้สิ้นเปลืองค่ายามากขึ้น พยาบาลให้ข้อสังเกตุว่า อาการของโรคเหล่านี้อาจจะเป็นด้วยจากการที่โภชนาการของพระที่ขึ้นอยู่กับอาหารที่โยมถวาย มักจะซ้ำกันเช่น เป็นแกงใส่กะทิ หรือเป็นเนื้อสัตว์มาก หรือขนมก็เป็นพวกแป้งและไข่เป็นส่วนใหญ่ และส่วนใหญ่ขาดการออกกำลังกาย จึงทำให้แต่ละ รพ.มีคนไข้ที่เป็นพระภิกษุรายใหม่ๆ มามาก แต่หากท่านเหล่านี้ปล่อยไว้นานและการรักษาสุขภาพไม่ดีพอ อาการของโรคจะลุกลามขึ้นกลายเป็นโรคเฉพาะทางที่ยากแก่การรักษาหรือต้องใช้ค่าใช้จ่ายมากในอนาคต แต่อย่างไรก็ตาม เงินที่ทุนนิธิฯ บริจาคให้รวมกับระบบสุขภาพของรัฐในขณะนี้ทำให้ทุก รพ.ยังสามารถให้การบริการได้เป็นอย่างดี ผมจึงขออนุโมทนาบุญกับทุกๆ ท่าน ข้างต้นอีกครั้งที่ได้มีส่วนร่วมในการบริจาคผ่านทุนนิธิฯ นี้ และอุทาหรณ์สำหรับเรื่องนี้ก็คือ การเลือกอาหารใส่บาตรพระ อาหารที่จถวายท่านก็น่าจะเป็นแกงจืด แกงเลียง หรือผัดผักต่างๆ บ้างก็จะดีที่สุด หรือหากเป็นขนม ก็ควรงดเว้นทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง สังขยาหรือขนมหม้อแกงโดยควรเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นเท่าที่หาได้จะดีกว่าเช่นคุกกี้โฮลวีทฯ หรือไม่ก็ถวายผลไม้ตอนใส่บาตรด้วยก็จะดีมาก บุญได้เช่นเดียวกัน แต่เสริมสร้างสุขภาพท่านด้วย บางทีอาจจะเป็นบุญสองทาง เพราะทำให้เรามีความประณีตในจิต ในการเลือกอาหารที่ดีที่สุดมีคุณค่าที่สุด ถวายแด่พระสงฆ์ ฝากให้พิจารณากันด้วยครับ



    พันวฤทธิ์




    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 มิถุนายน 2010
  6. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,782
    ค่าพลัง:
    +16,097
  7. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,782
    ค่าพลัง:
    +16,097
    อานิสงส์ของการถวายสัพพทาน
    <HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->...ดูกรภิกษุทั้งหลาย ทานของสัปบุรุษ ( คนที่มีคุณธรรม) เหล่านี้ 8 อย่าง
    1. ให้ของที่สะอาด
    2. ให้ของประณีต
    3. ให้ถูกกาล
    4. ให้ของที่สมควร
    5. เลือกให้
    6. ให้เสมอ
    7. กำลังให้ยังจิตให้เลื่อมใส
    8. ครั้นให้แล้วปลื้มใจ

    สัปปุริสทาน 8 อย่างนี้ประเสริฐยิ่งหนักหนา

    ในกาลครั้งนั้น องค์สมเด็จพระพุทธเจ้าก็สถิตสำราญอยู่ในป่าเชตวันอันเป็นอารามของนายอนาถปิณฑิกมหาเศรษฐีอยู่ใกล้ๆนครสาวัตถี ในกาลครั้งนั้นมีพระยาองค์หนึ่ง ชื่อ มหานามะ ก็เอาธูปประทีปคันธรสของหอม แล้วพาหมูบริวารทั้งหลายเข้าไปสู่ที่เฝ้าพระสัพพัญญูเจ้า แล้วก็นั่งในที่อันสมควรแห่งหนึ่ง จึงทูลถามพระสัพพัญญูเจ้าว่า " ภันเต ภควา ข้าแต่องค์สมเด็จพระพุทธเจ้า บุคคลผู้ใดเลื่อมใสศรัทธา มาก่อสร้างสัพพทานหลายๆชนิด ก็จักมีอานิสงส์หรือพระเจ้าข้า " องค์สมเด็จพรพุทธเจ้าจึงเทศนาว่า " ดูกรมหาบพิตร นรชนหญิงชายทั้งหลายมีใจเลื่อมใสศรัทธามาก่อสร้างสัพพทานหลายๆชนิดเป็นต้นว่า
    สร้างพระพทธรูป ก็จักได้อานิสงส์ 9 กัลป
    สร้างพระไตรปิฏกธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ก็จักได้อานิสงส์ 10 กัลป
    ผู้ใดได้บวชตนเป็นสามเณร ก็จักได้อานิสงส์ 12 กัลป
    ผู้ใดได้บวชตนเป็นพระภิกษุ ก็จักได้อานิสงส์ 24 กัลป
    ผู้ใดได้สร้างพระธาตุเจดีย์ ก็จักได้อานิสงส์ 80 กัลป
    ผู้ใดได้ปลูกต้นไม้ศรีมหาโพธิ์ ก็จักได้อานิสงส์ 9 กัลป
    ผู้ใดให้โภชะนังยังข้าวน้ำ โภชนะอาหารให้เป็นทานแก่ภิกษุสามเณร ก็จักได้บริวารแสนหนึ่ง
    ผู้ใดได้สร้างเจดีย์ทราย ก็จักได้อานิสงส์ 60 กัลป
    ผู้ใดได้สร้างกุฏีให้เป็นทาน ก็จักได้อานิสงส์ 40 กัลป
    ผู้ใดได้สร้างอุโบสถให้เป็นทาน ก็จักได้อานิสงส์ 40 กัลป
    ผู้ใดได้สร้างกฐินให้เป็นทาน ก็จักได้อานิสงส์ 80 กัลป
    ผู้ใดได้สร้างอารามให้เป็นทาน ก็จักได้อานิสงส์ 40 กัลป
    ผู้ใดได้สร้างพัทธสีมาให้เป็นทาน ก็จักได้อานิสงส์ 100 กัลป
    ผู้ใดได้บวชบุรุษอื่นให้เป็นพระภิกษุ ก็จักได้อานิสงส์ 8 กัลป
    บวชบุตรตนเองให้เป็นภิกษุ ก็จักได้อานิสงส์ 16 กัลป
    ภรรยาบวชสามีของตนให้เป็นสามเณร ก็จักได้อานิสงส์ 16 กัลป
    ภรรยาบวชสามีของตนให้เป็นพระภิกษุ ก็จักได้อานิสงส์ 32 กัลป
    สามีบวชภรรยาให้เป็นภิกษุณี ก็จักได้อานิสงส์ 64 กัลป
    ผู้ใดได้สร้างพระเจดีย์ธาตุข้าวเปลือกให้เป็นทาน ก็จักได้อานิสงส์ 31 กัลป
    ผู้ใดได้สร้างพระเจดีย์ธาตุข้าวสารให้เป็นทาน ก็จักได้อานิสงส์ 42 กัลป
    ผู้ใดได้สร้างพระเจดีย์ธาตุข้าวเหลือให้เป็นทาน ก็จักได้อานิสงส์ 64 กัลป
    ผู้ใดสร้างรั้วล้อมอาราม ก็จักได้อานิสงส์ 16 กัลป
    ผู้ใดปัดกวาดขยะมูลฝอยถอนเสียจากเขตอาราม ก็จักได้อานิสงส์ 16 กัลป
    ผู้ใดสร้างศาลาสะพานบ่อน้ำให้เป็นทาน ก็จักได้อานิสงส์ 30 กัลป
    ผู้ใดได้ถวายดอกไม้ธูปเทียน ก็จักได้อานิสงส์ 8 กัลป
    ผู้ใดได้สร้างอัฏฐให้เป็นทาน ก็จักได้อานิสงส์ 36 กัลป
    ผู้ใดได้ถวายจีวรเถราภิเษก ก็จักได้อานิสงส์ 32 กัลป
    ผู้ใดได้ถวายผ้าป่า ก็จักได้อานิสงส์ 40 กัลป
    ผู้ใดให้ฝาผนังและเพดาเป็นทาน ก็จักได้อานิสงส์ 16 กัลป
    ผู้ใดสร้างธงฝ้าย ธงผึ้ง ธงชัย ธงชาย ธงเหล็ก บูชาพระรัตนตรัย ก็จักได้อานิสงส์ 64 กัลป
    ผู้ใดสร้างขันหมากเบ็งบูชาพระรัตนตรัย ก็จักได้อานิสงส์ 16 กัลป
    ผู้ใดถวายซึ่งข้าวพันก้อนบูชาพระรัตนตรัย ก็จักได้อานิสงส์ 16 กัลป
    ผู้ใดถวายผ้าอาบน้ำฝน และผ้าจำนำพรรษา ก็จักได้อานิสงส์ 16 กัลป
    ผู้ใดสร้างปราสาทดอกผึ้งให้เป็นทาน ก็จักได้อานิสงส์ 3 กัลป
    ผู้ใดสร้างต้นกัลปพฤกษ์ให้เป็นทาน ก็จักได้อานิสงส์ 16 กัลป
    ผู้ใดสร้างฆ้อง กลอง แคน ซอ หอยสังข์ ปี่ แตร แตรวง ดนตรีให้เป็นทาน ก็จักได้อานิสงส์60 กัลป
    ผู้ใดได้ถวายเสื่อสาดอาสนะ ก็จักได้อานิสงส์ 4 กัลป
    ผู้ใดถวายเตียงเก้าอี้ฟูกเบาะให้เป็นทาน ก็จักได้อานิสงส์ 16 กัลป
    ผู้ใดได้ปลูกกุฏีกรรมให้พระภิกษุเข้าปริวาสกรรม และมานัตตกรรม ก็จักได้อานิสงส์ 16 กัลป
    ผู้ใดได้สร้างบั้งไฟจุดบูชาพระรัตนตรัย ก็จักได้อานิสงส์ 4 กัลป
    ผู้ใดสร้างพัทธสีมาน้ำ ก็จักได้อานิสงส์ 67 กัลป
    ผู้ใดได้สร้างธรรมาสน์ ก็จักได้อานิสงส์ 32 กัลป
    ผู้ใดได้สร้างเวจกุฏี ก็จักได้อานิสงส์ 40 กัลป
    ผู้ใดได้เผาซากศพที่ตกเรี่ยราดอยู่ตามป่าตามดง ได้บริวารหมื่นแสน
    ผู้ใดได้เผาศพญาติมิตรสหาย ได้บริวาร 3 หมื่น
    ผู้ใดได้เผาศพบิดามารดา ได้บริวารหนึ่งแสน
    ผู้ใดได้เผาศพอุปัชฌาย์อาจารย์ ได้บริวารโกฏิหนึ่ง
    ผู้ใดได้ถวายโอ่งน้ำ และส้อมอาบน้ำ และครุตักน้ำ ก็จักได้อานิสงส์ 16 กัลป

    สัพพทานทั้งหลายชนิดเหล่านี้ บุคคลผู้ใดมีศรัทธากล้าหาญอาจสละสมบัติออกสร้างวัตถุประสงค์ดังแสดงมานี้ ก็มีอานิสงส์ผลบุญพูนสุขในชาตินี้และชาติหน้า

    อานิสงส์ที่ได้รับในปัจจุบันคือ จะไปมาทางใดก็มีคนนับหน้าถือตา ไม่ได้เป็นที่รังเกียจของบุคคลใดบุคคลหนึ่ง มีแต่ผู้อยากให้ร่วมกินร่วมอยู่ทั้งนั้น เราจะเข้าไปสู่สมาคมใดๆก็ไม่ครั่นคร้ามสยดสยองเกรงกลัวต่ออำนาจผู้ใด การทำมาหากินก็สมความมุ่งมาตรปราถนาสมประสงค์ ครั้งสิ้นบุพกรรมมนุษย์ในโลกนี้แล้ว ก็จะถือเอาตนเมื่ออุบัติขึ้นบนสวรรค์ชั้นดาวดึงสยามาตุสิตาโดยลำดับ จนถึงพรหมโลก ครุนจุติจากพรหมโลกลงมาเกิดในโลกมนุษย์ก็ไม่ได้ไปเกิดในหินกุลชั่วร้าย และจักได้ไปเกิดในตระกูลท้าวพระยามหากษัตริย์ หรือตระกูลพราหมณ์ผู้มั่งมีเศรษฐีกฎุมพี แก็จักได้ทัวร์วัดไปมา บารมีแกกล้าก็จะได้บ่ายหน้าเข้าสู่เมืองแก้วนิพพาน"


    พอจบธรรมเทศนาแห่งองค์สมเด็จพระพุทธเจ้าลง สมเด็จพระเจ้ามหานามะก็ได้ตั้งอยู่ในไตรสรณคมณ์ ส่วนบริษัททั้งหลาย ก็ได้ถึงโสดาสกิทาคา อนาคา อรหันต์


    อานิสงส์ของการถวายสัพพทาน - อภิญญา - อภิญญา.คอม : apinya.com
     
  8. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,782
    ค่าพลัง:
    +16,097
    ยามว่างเอามาลงอีกชุดหนึ่งครับ ทั้งหมดเป็นพระพิมพ์สกุล "เจ้าคุณกรมท่า" โดยในภาพจะเห็นเป็นน้ำรักสองสีคือสีน้ำเงินและสีออกแดงเลือดหมู โดยสีน้ำเงินนั้นเป็นการผสมกันระหว่างรักพม่าและคราม ส่วนสีเลือดหมูนั้น เป็นการผสมกันระหว่างรักไทยและชาดจอแสจากประเทศจีน ส่วนพิมพ์ที่เห็นนั้น เป็นพิมพ์ "คะแนนร้อย" โดยสังเกตุได้จากขอบมนด้านบนแทนที่จะเป็นสี่เหลี่ยมสองมุมเหมือนพระพิมพ์สมเด็จโดยทั่วไป และหากเป็นพิมพ์ "คะแนนพัน" ก็จะเป็นขอบมนทั้งสี่ด้าน แทนมุมสี่มุม ส่วนอีกสองรูปนั้น เป็นพระพิมพ์ในสกุล "เจ้าคุณกรมท่า" เหมือนกัน แต่เป็นพิมพ์ "พระพรหมชินะปัญชระ" โดยพระพิมพ์ตามที่ลงให้ดูนี้สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยรัชกาลที่ 5 แต่หากด้านหลังเป็นตราสมอเรือนั่นหมายถึงเป็นการสร้างในสมัยรัชกาลที่ 4 ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCN0522.JPG
      DSCN0522.JPG
      ขนาดไฟล์:
      315.1 KB
      เปิดดู:
      86
    • DSCN0523.JPG
      DSCN0523.JPG
      ขนาดไฟล์:
      317.5 KB
      เปิดดู:
      79
    • DSCN0525.JPG
      DSCN0525.JPG
      ขนาดไฟล์:
      318 KB
      เปิดดู:
      82
    • DSCN0528.JPG
      DSCN0528.JPG
      ขนาดไฟล์:
      298.4 KB
      เปิดดู:
      81
    • DSCN0533.JPG
      DSCN0533.JPG
      ขนาดไฟล์:
      353.5 KB
      เปิดดู:
      94
    • DSCN0534.JPG
      DSCN0534.JPG
      ขนาดไฟล์:
      342.6 KB
      เปิดดู:
      83
    • DSCN0535.JPG
      DSCN0535.JPG
      ขนาดไฟล์:
      347.5 KB
      เปิดดู:
      92
    • DSCN0536.JPG
      DSCN0536.JPG
      ขนาดไฟล์:
      357.3 KB
      เปิดดู:
      91
    • DSCN0546.JPG
      DSCN0546.JPG
      ขนาดไฟล์:
      293.8 KB
      เปิดดู:
      103
    • DSCN0548.JPG
      DSCN0548.JPG
      ขนาดไฟล์:
      306.5 KB
      เปิดดู:
      104
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 มิถุนายน 2010
  9. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,782
    ค่าพลัง:
    +16,097
    บัญชีการใช้เงินบริจาคจากทุนนิธิฯ ของ รพ.สมเด็จพระยุพราชด่านซ้าย จ.เลย ประจำเดือน พ.ค. 53 นำมาลงให้โมทนาบุญกันครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  10. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,782
    ค่าพลัง:
    +16,097
    ทิ้งท้ายไว้สำหรับเมนูอาหารถวายพระข้างบน ทีนี้มาดูชุดเต็มๆ ของเมนูชุดนี้กันครับว่ามีความละเอียดและประณีตเพียงใด สวยมากจนอยากเป็นลูกศิษย์ต่อเลยจริงๆ

    อาหารอันประณีต ถวายพระ
    +โพสต์เมื่อวันที่ : 9 พ.ย. 2552
    <table align="center" cellpadding="5"><tbody><tr><td style="border: 1pt solid rgb(204, 204, 204);" align="center" bgcolor="white">[​IMG]</td></tr><tr><td>ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต

    พอดีมีคนส่งเมลล์มาค่ะ

    ไม่รู้ว่าใครเค้าถวายหันแบบนี้


    ไฮโซมักๆ

    </td></tr></tbody></table>.....
    <table align="center" border="0" cellpadding="3" cellspacing="0" width="100%"> <tbody> <tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="2" cellspacing="2" width="95%"> <tbody> <tr> <td valign="top"> <table align="center" bgcolor="#f5f5f5" border="0" cellpadding="2" cellspacing="2"> <tbody> <tr> <td>[​IMG]</td> </tr> <tr> <td align="center">ขนมไทยอะไรซักอย่าง ไฮโซสุดๆ</td> </tr> </tbody> </table>

    </td> </tr> </tbody> </table> </td> </tr> <tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="2" cellspacing="2" width="95%"> <tbody> <tr> <td valign="top"> <table align="center" bgcolor="#f5f5f5" border="0" cellpadding="2" cellspacing="2"> <tbody> <tr> <td>[​IMG]</td> </tr> <tr> <td align="center">วุ้นสีสดใส</td> </tr> </tbody> </table>
    </td> </tr> </tbody> </table> </td> </tr> <tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="2" cellspacing="2" width="95%"> <tbody> <tr> <td valign="top"> <table align="center" bgcolor="#f5f5f5" border="0" cellpadding="2" cellspacing="2"> <tbody> <tr> <td>[​IMG]</td> </tr> <tr> <td align="center">น้ำพริกผักจิ้ม</td> </tr> </tbody> </table>
    </td> </tr> </tbody> </table> </td> </tr> <tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="2" cellspacing="2" width="95%"> <tbody> <tr> <td valign="top"> <table align="center" bgcolor="#f5f5f5" border="0" cellpadding="2" cellspacing="2"> <tbody> <tr> <td>[​IMG]</td> </tr> <tr> <td align="center">อันนี้ขนมไม่ทราบชื่อค่ะ</td> </tr> </tbody> </table>
    </td> </tr> </tbody> </table> </td> </tr> <tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="2" cellspacing="2" width="95%"> <tbody> <tr> <td valign="top"> <table align="center" bgcolor="#f5f5f5" border="0" cellpadding="2" cellspacing="2"> <tbody> <tr> <td>[​IMG]</td> </tr> <tr> <td align="center">ขนมอะไรซักอย่างกับลูกชุบ</td> </tr> </tbody> </table>
    </td> </tr> </tbody> </table> </td> </tr> <tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="2" cellspacing="2" width="95%"> <tbody> <tr> <td valign="top"> <table align="center" bgcolor="#f5f5f5" border="0" cellpadding="2" cellspacing="2"> <tbody> <tr> <td>[​IMG]</td> </tr> <tr> <td align="center">ขนมอีกแล้ว</td> </tr> </tbody> </table>
    </td> </tr> </tbody> </table> </td> </tr> <tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="2" cellspacing="2" width="95%"> <tbody> <tr> <td valign="top"> <table align="center" bgcolor="#f5f5f5" border="0" cellpadding="2" cellspacing="2"> <tbody> <tr> <td>[​IMG]</td> </tr> <tr> <td align="center">สังเกตุแตงโมที่พระฉันสิคะ</td> </tr> </tbody> </table>
    </td> </tr> </tbody> </table> </td> </tr> <tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="2" cellspacing="2" width="95%"> <tbody> <tr> <td valign="top"> <table align="center" bgcolor="#f5f5f5" border="0" cellpadding="2" cellspacing="2"> <tbody> <tr> <td>[​IMG]</td> </tr> <tr> <td align="center">
    </td> </tr> </tbody> </table>
    </td> </tr> </tbody> </table> </td> </tr> <tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="2" cellspacing="2" width="95%"> <tbody> <tr> <td valign="top"> <table align="center" bgcolor="#f5f5f5" border="0" cellpadding="2" cellspacing="2"> <tbody> <tr> <td>[​IMG]</td> </tr> <tr> <td align="center">กุ้งเผาตัวโต๊โต</td> </tr> </tbody> </table>
    </td> </tr> </tbody> </table> </td> </tr> <tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="2" cellspacing="2" width="95%"> <tbody> <tr> <td valign="top"> <table align="center" bgcolor="#f5f5f5" border="0" cellpadding="2" cellspacing="2"> <tbody> <tr> <td>[​IMG]</td> </tr> <tr> <td align="center">สาคูใส้หมู ข้าวเกรียบปากหม้อ และ....</td> </tr> </tbody> </table>
    </td> </tr> </tbody> </table> </td> </tr> <tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="2" cellspacing="2" width="95%"> <tbody> <tr> <td valign="top"> <table align="center" bgcolor="#f5f5f5" border="0" cellpadding="2" cellspacing="2"> <tbody> <tr> <td>[​IMG]</td> </tr> <tr> <td align="center">ปูจ๋า 15 ตัวเน้นๆ</td> </tr> </tbody> </table>
    </td> </tr> </tbody> </table> </td> </tr> <tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="2" cellspacing="2" width="95%"> <tbody> <tr> <td valign="top"> <table align="center" bgcolor="#f5f5f5" border="0" cellpadding="2" cellspacing="2"> <tbody> <tr> <td>[​IMG]</td> </tr> <tr> <td align="center">ส้มตำ ไก่ย่าง</td> </tr> </tbody> </table>
    </td> </tr> </tbody> </table> </td> </tr> <tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="2" cellspacing="2" width="95%"> <tbody> <tr> <td valign="top"> <table align="center" bgcolor="#f5f5f5" border="0" cellpadding="2" cellspacing="2"> <tbody> <tr> <td>[​IMG]</td> </tr> <tr> <td align="center">อันนี้น่าจะเป็นข้าวเหนียวมูนค่ะ</td> </tr> </tbody> </table>
    </td> </tr> </tbody> </table> </td> </tr> <tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="2" cellspacing="2" width="95%"> <tbody> <tr> <td valign="top"> <table align="center" bgcolor="#f5f5f5" border="0" cellpadding="2" cellspacing="2"> <tbody> <tr> <td>[​IMG]</td> </tr> <tr> <td align="center">ผลไม้</td> </tr> </tbody> </table>
    </td> </tr> </tbody> </table> </td> </tr> <tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="2" cellspacing="2" width="95%"> <tbody> <tr> <td valign="top"> <table align="center" bgcolor="#f5f5f5" border="0" cellpadding="2" cellspacing="2"> <tbody> <tr> <td>[​IMG]</td> </tr> <tr> <td align="center">สะเดาน้ำปลาหวาน

    ที่มาที่เดียวกันกับเวบข้างบนนี่ครับ


    </td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table>
     
  11. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,782
    ค่าพลัง:
    +16,097
    [​IMG]

    การดึงพลังงานจากแร่เหล็กไหลมาใช้ในด้านอภิญญา

    เหมาะสำหรับผู้ ที่ฝึกมาแบบอานาปานุสสติและการเดินลมปราณจักร

    ในทีนี้ จะใช้เฉพาะเหล็กไหลเท่านั้น เพราะถือว่าเป็นแร่ที่มีอานุภาพมากที่สุด การดูดพลังงานจากเหล็กไหลมาใช้นี้ สามารถทำได้ง่ายๆ แค่อุปจารสมธิก็ทำได้แล้วโดยอย่างแรกผู้ที่ทำการดูดพลังจากเหล็กไหลจะต้อง ฝึกสมาธิแบบอานาปานุสสติหรือแบบเดินลมปราณมาก่อน จึงจะสามารถดูดพลังได้โดยง่ายปกติร่างกายมนุษย์จะเป็นตัวดูดพลังงานรอบตัวมา ใช้อยู่แล้ว เช่น การหายใจ แต่การฝึกสมาธิแบบอานาปานุสสติหรือแบบเดินลมปราณ จะทำให้เราสามารถดูดพลังงานทางผิวหนังมาใช้ได้ ซึ่งเป็นพลังงานที่ละเอียดกว่ามาก โดยจุดที่รับพลังงานได้ดีจะอยู่ที่ ปลายนิ้ว ฝ่ามือ ฝ่าเท้า จุดกลางหน้าผาก ณ ที่นี้จะเน้นเฉพาะ จุดรับพลังงานทางฝ่ามือ เพราะเป็นจุดที่รับและปล่อยพลังได้ง่ายที่สุด ส่วนจุดที่กลางหน้าผาก โดยส่วนมากจะเป็นจุดที่ไว้ใช้สำหรับรับข้อมูล การสื่อสาร การติดต่อต่างๆ เช่นโทรจิต การควบคุมสมองระยะไกล ซึ่งเกี่ยวข้องกับพลังจิตระดับการสั่งการ เพราะถือว่าเป็นจุดที่ใกล้สมอง เพื่อให้สมองได้ทำการแปลสัญญาณที่ได้รับมาและ เกิดการกระทำตอบกลับได้อย่างฉับพลันเป็นที่ทราบกันดีว่า พลังที่สามารถดูดซับจากรอบตัวมาได้นั้น เมื่อใช้ไปแล้วก็ต้องหมดไป จึงต้องมีการดูดซับซับเข้ามาเรื่อยๆ เพื่อสะสมไว้ใช้เหมือนกับการรองน้ำให้เต็มอยู่เสมอ เพราะถ้าหากพลังงานหมดย่อมส่งผลทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย หรืออย่างหนักคือถึงขั้นเสียชีวิตได้พลังงานจากเหล็กไหลจึงเป็นพลังงานที่มี ความเสถียรมากที่สุดเพราะ ไม่มีวันหมด สามารถดูดพลังมาใช้ได้เรื่อยๆ โดยตัวเหล็กไหลเองเมื่อถูกดึงพลังงานไปก็จะสร้างพลังงานเพิ่มขึ้นเองได้ เรื่อยๆ ตรงกันข้ามคือเหล็กไหลจะมีพลังงานมากกว่าเดิม เพราะเหมือนเป็นการไปกระตุ้นให้เหล็กไหลเกิดการแตกตัว คือแตกพลังออกงานได้มากขึ้นเรื่อยๆ

    การดูดพลังจากเหล็กไหลในไว้ในตัว
    อย่าง แรกให้สังเกตลมหายใจเข้าออกก่อน จนคิดว่าเราสามารถหายใจเข้าออกได้เบาในระดับหนึ่งแล้ว ทีนี้ให้สังเกตช่วงที่หายเข้าออกนั้น บริเวณมือเราทั้งสองข้างมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง (แนะนำให้ปิดพัดลมและหน้าต่างให้หมดก่อนจะได้สังเกตได้ง่ายขึ้น) อาการที่เกิดขึ้นคือสังเกตุว่า...

    1. ขณะหายใจเข้าจะรู้สึกว่ามีกระแสบางอย่างดูดเข้ามาอยู่ในมือ
    2. ขณะหายใจออกจะรู้สึกว่ามีกระแสบางอย่างถูกปล่อยออกไปทางฝ่ามือ

    หรือ จะรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างกำลังยืดออกและหดเข้าจากปลายนิ้วและฝ่ามือ

    พูด ง่ายๆ ก็คือจะรู้ได้ทางกายเนื้อเลยว่า มือเรากำลังหายใจเข้าออกอยู่พร้อมกับการหายใจเข้าออกทางจมูก แต่การหายใจเข้าออกทางฝ่ามือนี้ เป็นการดูดพลังงานรอบตัวเข้ามาและปลดปล่อยออกไป ในทษฤฏีเดียวกัน พลังของเหล็กไหลก็เช่นดียวกัน หากเรานำมาวางไว้บนฝ่ามือแล้วลองสังเกตดู จะรู้สึกได้ถึงพลังงานไฟฟ้าที่วิ่งเข้ามาตามเส้นเลือดต่างๆในช่วงที่หายใจ เข้า และคายพลังงานที่ไม่ใช้ออกไป แล้วก็ดูดเข้ามาอีกเรื่อยๆแบบนี้ เพื่อดูดพลังงานมาสะสมไว้ และใช้เมื่อยามที่ต้องการ โดยจุดที่จะเอาไว้สะสมพลังงานนั้นก็มีอยู่หลายจุด แต่ตัวข้าพเจ้าเองจะรวบรวมเก็บไว้ที่ฝ่ามือมากกว่าเพราะสะดวกต่อการใช้งาน โดยพลังงานนี้สามารถใช้ในการเล่นฤทธิ์ช่วยคนและการรักษาคนก็ได้

    (ถ้า สังเกตเทวดาที่มีฤทธิ์มากๆ ฝ่ามือจะมีสีแดงจัดที่บ่งบอกได้ถึงมีพลังงานจำนวนมากรวมตัวกันบริเวณฝ่ามือ)

    การ ฝึกแบบนี้ ถ้าถามว่ามีประโยชน์ตรงไหน ก็ตอบแบบเข้าใจง่ายๆคือ สามารถดูดพลังงานใช้ได้เร็วกว่าเดิมเมื่อพลังงานของเราใกล้หมด เรียกว่ามีประโยชน์อย่างมาก เพราะการจะสะสมพลังงานด้วยตัวเองนั้นต้องอาศัยเวลาพอสมควร ไม่เหมือนกับการดูดพลังงานจากเหล็กไหลมาใช้ เพราะประหยัดเวลาและรวดเร็วกว่ามาก

    เรียบเรียงโดย ๛ชมรมผู้สนใจพลังลี้ลับ๛.[/COLOR]​



    [​IMG]


    การดูด พลังงานในทีนี้ คล้ายกับการขอบารมีจากสิ่งศักสิทธิ์ เมื่อเราขอบารมีไปแล้ว เราก็มีพลัง ความเป็นทิพย์ก็เพิ่ม แต่เมื่อพลังที่ขอมานั้นหมด ก็ต้องมีการขอมาใหม่เรื่อยๆ เพื่อให้ความเป็นทิพย์มีความเสถียรตลอดเวลา โดยสังเกตว่าเวลาที่เราขอบารมีจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์มาใช้นั้น เราจะสามารถรับได้ทางกายและใจเช่น จะมีอาการเย็นสบาย สงบ มีความสว่างไสวในจิตกว่าเดิมเป็นต้น และการขอบารมีจากสิ่งศักดิสิทธิ์จะรับทางจุดกลางหน้าผาก เพราะพลังจะวิ่งจากบนลงล่างจุดที่รับได้ง่ายที่สุดก็คือจุดบริเวณกลางหน้า ผาก และบริเวณกลางกระหม่อม

    แต่การดูดพลังจากเหล็กไหลเป็นการรับพลัง จากสิ่งศักดิ์สิทธิ์โดยตรง (เพราะนำมากำไว้ในมือเลย) โดยไม่ผ่านสื่อทางอากาศแต่อย่างใด ทำให้เราสามารถดูดซึมซับพลังได้ง่ายกว่า เพราะจิตมีสมาธิ มีการจดจ่อในวัตถุที่กำลังสัมผัส

    ***ในวิธีการดูดซึมซึบพลังนี้สามารถใช้ได้กับแร่ กายสิทธิ์ทุกชนิด รวมถึงพระธาตุและวัตถุมงคล เพราะวัตถุมงคลส่วนใหญ่มักมีส่วนประกอบของแร่กายสิทธิ์ ที่นำมาเป็นส่วนผสมด้วย

    http://www.dhammakid.com/board


    ใครมีของดีลองดูนา ฝึกได้จริงๆ นา จะบอกให้...
     
  12. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,782
    ค่าพลัง:
    +16,097


    [​IMG]

    ภูเขาบุญ คือ กองบุญใหญ่ที่หลวงปู่ดู่อาราธนาบุญของพระพุทธเจ้าทั้งหลายมาประดิษฐานที่นี้หลวงปู่ท่านเมตตาต้องการสงเคราะห์ วิญญาณที่อยู่ที่นั่น รวมทั้งที่ผ่านไปผ่านมา จะได้อนุโมทนาเอาจากกองบุญอันนี้ เพราะการตั้ง จิตแผ่เมตตาย่อมให้ผลเป็นคราว ๆ ไป แต่การทำอย่างนี้(ตั้งภูเขา บุญ) วิญญาณเหล่านั้นไม่ต้องรอคนแผ่เมตตาให้ เขาสามารถโมทนาบุญเอาได้ตลอด
    จะ ได้เป็นเหตุเป็นปัจจัยให้คลายทุกข์ยากลงบ้าง

    ในสมัยหลวงปู่ดู่มีชีวิต ท่านจะอธิษฐานซ้ำเข้าไปเรื่อย ๆ เรียกว่า เพิ่มพูนภูเขาบุญให้แน่นหนามั่นคงยิ่ง ๆ ขึ้นไป
    นอกจากนี้ ท่านยังส่งเสริมให้ลูกศิษย์กรรมฐาน เมื่อเวลาปฏิบัติดี ๆ ก็ช่วยกันอธิษฐานบุญสมทบเข้าไปอีกเรื่อย ๆ
    จึงนับเป็นหนทางทำบุญอีกทาง หนึ่งด้วย ซึ่งเชื่อเหลือเกินว่าด้วยบุญบารมีของหลวงปู่ ภูเขาบุญแห่งนี้จะอยู่ไป
    ตราบนานเท่านาน


    การอธิษฐานจิตตั้งภูเขาบุญนั้น ต้องเริ่มจาก
    ๑. ทำจิตของเราให้เป็นสมาธิ ให้สว่าง หรือมีปีติอื่น ๆ เช่น ขนลุก กายโปร่งเบา ฯลฯ เพื่อให้การอธิษฐานได้ผลสัมฤทธิ์เต็มที่ (แปลว่าต้องทำตอนจิตมีกำลัง)

    ๒. ต่อไปก็ระลึกถึงหลวงปู่ทวด หลวงปู่ดู่ ขอท่านเมตตาอัญเชิญบุญบารมีพระพุทธเจ้า ตั้งเป็นภูเขาบุญ (กรณีที่มีภูเขาบุญอยู่แล้ว เช่นที่วัดสะแก ก็เปลี่ยนเป็นอธิษฐานสมทบกองบุญเดิม) ซึ่งขั้นนี้แล้วแต่ผู้ปฏิบัติ หากเห็นแสงสว่างที่ลงมาที่ภูเขาบุญก็จะเกิดปีติและความเลื่อมใสยิ่งขึ้นไป อีก หากไม่เห็น ก็ให้น้อมจิตเลื่อมใส แล้วกำหนด (สมมติ) เป็นแสงสว่างลงมาที่กองบุญ

    สิ่ง ที่ควรทราบเพิ่มเติมก็คือ
    ก. การอธิษฐานบุญบารมีพระพุทธเจ้า (และครูบาอาจารย์) มาตั้งเป็นภูเขาบุญ ใช้ในกรณีที่พิจารณาเห็นว่าในบริเวณนั้นมีวิญญาณมาก และยากที่ให้บุญคราวเดียวจะคลายทุกข์เขาได้ จึงจำเป็นต้องตั้งกองบุญเป็นการถาวร (อยู่ได้นานขนาดไหนก็ขึ้นอยู่กับกำลังจิตของผู้อธิษฐานด้วยเหมือนกัน)

    ข.ในขณะอธิษฐาน ก็ให้วางจิตด้วยเมตตาและกรุณาในฐานะเพื่อนร่วมเกิดแก่เจ็บตาย
    เสร็จแล้ว ก็วางจิตด้วยอุเบกขาว่า สุดท้ายแล้วก็ขึ้นอยู่กับเหตุปัจจัย ใครรับได้หรือไม่ได้ ก็สุดแต่กรรม
    เราก็ทำหน้าที่ของเราเท่านั้น สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม


    ค.การอ ธิษฐาน สามารถทำซ้ำ ๆ ในโอกาสอื่น ๆ ได้อีก เพื่อให้กองบุญอยู่มั่นคง ยาวนาน

    ง. สิ่งที่ต้องตระหนักก็คือ การอธิษฐานจิตตั้งกองบุญนั้นยังเป็นขั้นของการปรุงแต่ง เพียงแต่เป็นการปรุงแต่งเพื่อพัฒนาคุณภาพจิต กล่าวคือสร้างความชำนาญในการทำภาวนา(ความตั้งมั่นของจิต)ประการหนึ่ง แล้วยังจะช่วยสร้างเสริมเมตตาจิตอีกประการหนึ่งด้วย


    ***เรียบเรียงจากบทความของ คุณสิทธิ์
    เขียนโดย Akenutyos panicpaisankul ที่ <a class="timestamp-link" href="http://powerprotectionss.blogspot.com/2009/12/blog-post.html" rel="bookmark" title="permanent link"><abbr class="published" title="2009-12-24T00:49:00-08:00">0:49</abbr>
    ป้ายกำกับ: วิธีตั้ง ภูเขาบุญ, แก้วจักรพรรดิ์

    พลังแก้วจักรพรรดิ: วิธีตั้ง ภูเขาบุญ
     
  13. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,782
    ค่าพลัง:
    +16,097


    สมัยก่อนหลวงปู่ดู่จะพูดส่ง เสริมให้ลูกศิษย์หาโอกาสไปโรงพยาบาล ไม่ใช่ว่าให้ไปรักษาตัวแต่อย่างใด หากแต่ท่านให้ไปดูตัวเกิด ตัวแก่ ตัวเจ็บ ตัวตาย

    ท่านว่า "ที่โรงพยาบาลนี้เป็นโรงเรียนสอนธรรมะอย่างดี"
    พวกเราพากันประมาท
    ประมาท ในความไม่มีโรค
    ประมาทในวัย
    ประมาทในชีวิต ฯลฯ

    ท่านจึงให้ ไปดูผู้คนที่ถูกความทุกข์ครอบงำ
    ทั้งความทุกข์จากการพลัดพรากจากบุคคล อันเป็นที่รัก
    ความทุกข์จากทุกขเวทนาที่แรงกล้า ฯลฯ
    ถึงขนาดว่า หากจะร้องไห้ให้กับความตาย ก็ให้ร้องไห้ให้กับการเกิดเสียดีกว่า
    เพราะ หากไม่เกิดก็คงไม่ต้องแก่ ไม่ต้องเจ็บ ไม่ต้องตาย

    ครูบาอาจารย์อีก ท่านหนึ่งที่สอนในเรื่องนี้คล้ายหลวงปู่ดู่ นั่นก็คือ หลวงปู่ชา
    โดย หลวงปู่ชาได้พาคณะพระลูกศิษย์ไปโรงพยาบาล คนที่นั่นถามว่ามาทำไม
    หลวง ปู่ชาตอบว่า "พาคนป่วยมาเยี่ยมคนไข้"
    หมายความว่าพาคนที่ยังมี โรคทางใจ (ยังมีกิเลส ยังมีความประมาท ฯลฯ) มาดูคนเจ็บไข้ จะได้เห็นทุกข์ และตั้งอยู่ในความไม่ประมาท



    ***จากบทความของ คุณสิทธิ์
    ที่มา Luangpudu.com / Luangpordu.com

    หากท่านใดที่มีเวลา อยากมาโรงเรียนสอนธรรมะตามที่พ่อแม่ครูอาจารย์แนะนำที่ รพ.สงฆ์ ร่วมกับคณะทุนนิธิฯ และผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรมทุกคน ขอเรียนเชิญมาร่วมกับพวกเราได้เลยโดยไม่ต้องมีห่วงกังวลใดๆ ทั้งสิ้น และในเดือนนี้คาดว่าจะเป็นวันที่ 20 มิ.ย. 53 นี้ครับ วางโปรแกรมไว้ล่วงหน้าเลย โรงเรียนนี้เป็นโรงเรียนบุญ โรงเรียนกุศล และโรงเรียนธรรมะ เพื่ออนุสสติโดยแท้....


     
  14. kbuttercake

    kbuttercake เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +102
    ขอร่วมอนุโมธนาบุญด้วยนะคะ โอนเงินให้แล้วค่ะ
    Transaction Successful

    From Account Holder Name น.ส. รัชตวรรณ มลิวัลย์
    Transfer To Account Bank Bank of Ayudhya - BAY
    Transfer To Account Number 348-1-23245-9
    To Account Holder Name PRATOM F.
    Amount (Baht) 500.00
    Transfer Fee 25.00
    Transfer Date 07/06/2010 08:36:45 AM
    Transaction Reference Number tmbi2497468

    ขอผลบุญที่ข้าพเจ้าได้กระทำนี้ จงส่งผลบุญให้แก่บิดา มารดา และผู้มีพระคุณที่เลี้ยงดูข้าพเจ้ามา ญาติพี่น้องทั้งหลาย เจ้ากรรมนายเวรทุกภพทุกชาติ พระมหากษัตริย์ พระแม่ธรณี เจ้าพิภพ แผ่นดินที่เกิด และแผ่นดินที่อาศัยอยู่ก็ดี รวมไปถึงบุคคลที่ข้าพเจ้าเคยล่วงเกินทั้งโดยเจตนาก็ดี ไม่เจตนาก็ดี จงได้รับส่วนบุญส่วนกุศลที่ข้าพเจ้าได้กระทำในครั้งนี้ เมื่อได้รับอานิสงฆ์แล้ว จงปลดปล่อยกรรม งดเว้นการจองเวรซึ่งกันและกัน ขอความสุข ความเจริญมาสู่ข้าพเจ้าและครอบครัวขอข้าพเจ้าด้วยเทอญ
     
  15. zombine

    zombine Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    160
    ค่าพลัง:
    +88
  16. zombine

    zombine Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    160
    ค่าพลัง:
    +88
    ไปทำบุญกันมั๊ย
     
  17. chaid8800

    chaid8800 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    40
    ค่าพลัง:
    +711
    ผม คุณแม่และเพื่อนๆ ขอร่วมทำบุญสงเคราห์พระภิกษุสงฆ์อาพาธ 2000 บาท โอนเข้าบัญชีแล้วครับ วันนี้ 8 มิย. 2553
    ขออนุโมทนากับทุกๆท่านครับ(deejai)<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
     
  18. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,782
    ค่าพลัง:
    +16,097



    <TABLE cellPadding=5 border=3><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>

    พระป่า.... กับบาตรใหญ่

    ธรรมมะ หลวงพ่อชา คนเลี้ยงไก่
    <!-- Main -->[SIZE=-1]หลวงพ่อชา … “คนเลี้ยงไก่”

    มีคนเลี้ยงไก่ 2 คน
    คนที่ 1 ทุกเช้าจะเอาตะกร้าเข้าไปในโรงเรือนเลี้ยงไก่
    แล้วก็ เก็บ "ขี้ไก่" ใส่ตะกร้ากลับบ้าน!!
    แล้วทิ้งไข่ไก่ให้เน่าไว้ในโรงเรือน
    เมื่อเขาเอาขี้ไก่กลับถึงบ้าน ทั้งบ้านก็เหม็นหึ่ง ไปด้วยกลิ่นขึ้ไก่ !!!
    คนทั้งบ้านต้องทนกับกลิ่นเหม็น!!!

    คนเลี้ยงไก่คนที่ 2 เอาตะกร้าเข้าไปในโรงเรือนเลี้ยงไก่
    เก็บ "ไข่ไก่" ใส่ตะกร้าเอากลับบ้าน
    เขาเอาไข่ไก่ลงเจียว กลิ่นหอมอบอวลไปทั่วบ้าน คนทั้งบ้านได้กินไข่เจียวแสนอร่อย
    ไข่ไก่ที่เหลือ เขาก็เอาไปขาย แล้วได้เงินมาใช้จ่ายในบ้าน
    ทุกคนในบ้านมีความสุขมาก.....

    ในชีวิตของเรา พวกเรา เป็นคนเก็บ "ไข่ไก่ " หรือ เก็บ"ขี้ไก่"

    เราเป็นคนเก็บ "ขี้ไก่" โดยเฝ้าแต่เก็บเรื่องร้ายๆ แย่ๆที่เกิดขึ้นในชีวิตเราไว้ในหัวของเรา
    และมีความทุกข์ตลอดเวลาที่คิดถึงมัน!!!


    หรือเราเป็นคนที่เก็บ "ไข่ไก่" เราจดจำสิ่งที่ดีๆที่เกิดในชีวิตของเรา
    และมีความสุขทุกครั้งที่คิดถึงมัน!!


    คนเราส่วนใหญ่ชอบเป็นคนเก็บ "ขี้ไก่"
    เราถึงต้องเป็นทุกข์ตลอดเวลา เรื่องความเสียใจ ความผิดพลาด ความเจ็บใจ ฯลฯ
    มักจะติดอยู่ในใจของเรานานเท่านาน

    ถ้าเราอยากมีความสุขในชีวิต
    เลือกเก็บ "ไข่ไก่" กับชีวิต
    ทิ้ง "ขี้ไก่" ไปเถอะ
    ชีวิตของเราจะได้มีความสุขซักที...[/SIZE]


    BlogGang.com : : natcmu :
     
  19. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,782
    ค่าพลัง:
    +16,097
  20. ไชยชุมพล

    ไชยชุมพล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    246
    ค่าพลัง:
    +1,873
    วันนี้เวลาประมาณ ๑๑ โมงเช้า คุณแม่ร่วมทำบุญกับทุนนิธิ ฯ จำนวน ๕๐๐ บาทเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...