มาดูสมเด็จกัน

ล้างได้เยี่ยมจริงๆครับ....ดูท่า ท่านกวินพันจะพบความสุขกับการล้างพระสนามซะแล้ว ฮ่าๆๆๆๆ ดีมากครับ...เห็นเนื้อชัดดี พระแท้...ไม่ได้แท้เพราะมีคราบกรุเป็นตัวเสริมความเก่า

ขยายความเพิ่มเติม...ที่เพื่อนๆสมาชิกเห็นว่าช่วงนี้บุพนิมิตเชียร์ท่านกวินพันซะเหลือเกิน (อิอิอิ) ต้องออกตัวตามสไตล์ว่า...ไม่ใช่หน้าม้านะครับ ไม่ได้สนิทสนมเป็นการส่วนตัว และไม่มีส่วนได้ส่วนเสียใดๆทั้งสิ้นกับท่านกวินพันนะครับ (จำสำนวนมาจากรายการวิทยุชุมชนที่ขายยา/ขายปุ๋ย สูตรวิเศษครับ ฮ่าๆๆๆ)

แค่บังเอิญเห็นอาการท้อของท่านกวินพันที่กระทู้สมเด็จกระทู้หนึ่ง(ที่ไม่ใช้กระทู้นี้ครับ) เลยได้โต้ตอบให้กำลังใจกันเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา แล้วเลยมาถึงกระทู้นี้ด้วย ต้องขออภัยๆสมาชิกทุกๆท่านด้วย

เมื่อวานไปศิริราช (ครบสามเดือน..ไปทำ CT Scan ตับ) ใจนึกอยากข้ามฝากไปเดินดูพระเล่นท่าพระจันทร์เหมือนกัน แต่ด้วยความมุ่งมั่นที่มีน้อยกว่าท่านกวินพัน เลยคิดใหม่...มาดักรอพระสนามที่ท่านกวินพันไปเซาะหาแล้วผ่านการ screen จากเพื่อนๆในกระทู้นี้จะง่ายกว่า ฮ่าๆๆๆ(ไปเดินเอง...คงตาส่อนกลับมา อิอิอิ) น่าเห็นใจคนต่างจังหวัดที่นานๆจะเข้า กทม ซักหนน่ะครับ

ผมลองเดินสนามพระในตลาดของสระบุรี ลพบุรี เจอแต่เก๊ปลายแถว(อิอิอิ ยืมภาษาเซียนมาใช้มั่งน่ะ) ต้องยอมรับครับว่า...กระทู้นี้สร้างความรู้เรื่องพระสมเด็จให้ผมมากพอๆกับการศึกษาเรื่องใดเรื่องหนึ่งในมหาลัยเลยทีเดียว

แต่อย่างไรก็ดี...ความรู้ที่มี จะก่อให้เกิดความเข้าใจอย่างกระจ่าง ก็ต้องผ่านภาคปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง อย่างที่ท่านกวินพันได้ปฏิบัติอยู่ขณะนี้ ซึ่งผมคงต้องใช้เวลานานกว่าเพื่อนๆสมาชิกหลายสิบเท่าจึงจะตามทัน(คงไม่มีวันทันครับ อิอิอิ)

ปล. หากท่านกวินพันได้พบพระสมเด็จดังใจฝันมากเกินพอที่จะแบ่งปัน ผมก็ยินดีที่จะเป็นผู้รับปันน้ำใจครับ (อิอิอิ...พูดเข้าข้างตัวเองมากไปป่ะเนี่ย ฮ่าๆๆๆๆ)

ต้องไปประชุมแล้วครับ...ขอส่งความสุขสมปรารถนาไปยังเพื่อนๆสมาชิกทุกคน
ด้วยความเคารพครับ
บุพนิมิต

 

สวัสดีครับพี่บุพนิมิตร และพี่ทุกท่าน

โดนพี่วาซาบิแซวจนได้ เดี๋ยวพี่ท่านจะว่าเราเป็นกิ๊กกันละแย่เลย (พี่บุพนิมิตร คงไม่ใช่พวกแอบน่ะครับ ลูก 2 แล้ว 555+)

พระ 7 องค์หลังนี่ไม่ใช่พระสนามครับ ที่มาค่อนข้างดีเสียด้วย ข้าม 3 องค์ที่พี่ XL วิจารณ์แล้วไป ผมอยากตั้งข้อสังเกตุจุดหนึ่งครับ

เรื่องการฝนขอบพระ

จะเห็นได้ว่ามี 2 องค์ ที่มีการฝนขอบในลักษณะของคนสมัยก่อนเขาฝนไปใช้เพื่อทำการรักษาโรค อย่างที่พี่ XL เคยชี้ให้เห็น หากเป็นการฝนเพื่อ ลบขอบ มุม ที่ส่วนเนื้อหาเกินจากการถอดพิมพ์ ไม่น่ามีลักษณะแบบนี้ กล่าวคือ (น่าจะ) ฝนทั้งขอบจากด้านหลัง หรือข้าง เนื้อพระน่าจะหายไปทั้งแถบถึงด้านหน้า หรือฝนไปครึ่งหนึ่งจนมองเห็นได้ชัดจากด้านข้าง เพื่อลบรอยเส้นเกินที่พี่วาซาบิเคยชี้ไว้ (ผมเองก็เคยลงไว้องค์หนึ่ง สีขาวไม่ทราบจำกันได้ไหม?)

<-- ลองดูที่ขอบล่าง กับด้านขวามือเรานะครับ (ส่วนคราบตัวประสาน ตอนนี้น่าจะเห็นชัดเจน)

องค์ชายจีวรบางสีขาวที่พี่ XL เคยวิจารณ์ไว้ องค์นั้นก็โดนฝนนะครับ แต่เป็นการฝนหลังทั้งแผงแผ่วๆ ลองพิจารณากันดูได้ครับ

เรื่องพิมพ์ทรงนี่ผมไม่สันทัดเลยครับผม ยังมีพระสมเด็จอีกหลายแม่พิมพ์ที่ผมไม่มีข้อมูล :boo:

<-- องค์นี้นั้น โดนฝนหลัง ทั้ง 4 ขอบ เนื้อดูนวลตามากๆ เหมือนไม่เคยผ่านการใช้งานเลย ตรงเส้นฐานระหว่าง 2 กับ 3 มีเส้นแซมเล็กๆด้วย หู ทั้ง 2 ข้างและพระพักตร์ ติดชัดเจน ส่องดูด้านหลังมีผงที่สะท้อนแสงได้มากมายอยู่ประปราย ระยิบระยับ รอยตัดข้างไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่ แต่เอาไว้ก่อนครับ ว่าเรื่องเนื้อกับพิมพ์ทรง เนื้อหา กับจุดสังเกตุใหญ่ๆที่เห็นชัดก่อน สิ่งที่เคลือบอยู่ในตอนแรกมีลักษณะคล้ายน้ำตาลปิ๊ป แข็งไม่สามารถล้างออกได้ด้วย น้ำร้อน (ปัจจุบันกระจุยไปหมดแล้ว น่าเสียดายที่มีเศษเส้นสีแดง คล้ายเกสรดอกไม้หลุดออกมาจากซอกพระบริเวณอกด้วยตอนล้าง)



ส่วน 2 องค์นี้นั้น ผิวมีความเก่า และผมสังเกตุเห็นรอยขรุขระคล้ายเสี้ยนแม่พิมพ์ มากมาย เนื้อหา และความเก่า ผมว่าน่าจะผ่านครับ (จากประสบการณ์อันน้อยนิดของผม)

พระแท้ สำหรับผม ต้องแท้ร้อยตาเท่านั้นครับ (พี่ วาซาบิ 50 + พี่ XL 50 อิอิ แต่ถ้ารวมท่านอื่นด้วยจะว่าแท้ 1000 ตาผมก็ไม่รังเกียจนะครับ ... ฮา)

เรียนตามตรง ถ้าพี่ทั้งสองว่าพระสนาม ผมก็คงไม่ติดใจอะไรแล้วครับ จึงต้องรบกวนให้ท่านพี่วาซาบิ และพี่ XL วิจารณ์อีกรอบครับผม เพราะผมเชื่อว่า พระที่ล้างมานั้นแตกต่างจากเดิมมากมาย

พระทั้ง 4 องค์ตอนนี้อยู่ในช่วงระหว่างฟื้นฟูสภาพผิว ถ้าพี่ๆว่า ดูเข้าท่า อีกประมาณ 1 สัปดาห์ กระผมจะถ่ายรูปนำมาลงให้ชมอีกครั้ง

กราบขอบพระคุณทุกท่านอย่างสูงครับ

ปล. พี่บุพนิมิตร ลองสูตรที่ผมบอกครับ work มาก เขาทำกันมาแต่โบราณ ชินบัญชร 1 ต่อด้วย อิติปิโส 108 ครับ ขอให้หายไวๆนะครับ ^^

 

เคยได้ยินว่าพระล้างตา คงจะจริง ฮา...........โม.นี่ ได้เห็นกันคราวนี้แหละ
สุภาษิตใหม่ "พระแท้ ล้าง 10 ครั้ง แท้ 10 ครั้ง" เกี่ยวไหมนี่
รอท่าน wsb ดีกว่า

 

<!-- google_ad_section_end -->
ก่อนอื่นต้องขออภัยคุณ กวินพันธ์ ด้วยนะครับ....เนื่องจากพระองค์นี้นั้นผมมองทีแรกไม่ประทับใจในพิมพ์เนื่องจากผิดพิมพ์หลายจุด....ก็เลยไม่ได้คลิกเข้าไปดูทำให้พลาดในรายละเอียดของเนื้อพระไปครับ....

เมื่อกลับมาพิจารณาดูเนื้อพระใหม่อีกรอบพบว่า....
เป็นเนื้อปูนเปลือกหอยแน่นอนครับ.....ผิวมีความขรุขระ (ผิวเปิดมีความเก่าระดับหนึ่ง)

ส่วนตัวประสานนั้นเป็นน้ำอ้อยเคี่ยวที่เข้มมากเกือบดำเลยทีเดียว....ที่สำคัญสีของน้ำอ้อยเคี่ยวก่อนล้างนั้นมีทั้งสีน้ำตาลอ่อน ไล่ไปหาน้ำตาลแก่ จนถึงน้ำตาลอมดำเลยทีเดียว...

เมื่อคุณกวินฯ ล้างพระองค์นี้แล้วปรากฎว่าคราบน้ำอ้อยเคี่ยวจางลงก็จริงแต่ยังหลุดไม่หมด...การล้างยังไม่ถึงกับเนื้อขาวก็แสดงว่าเป็นคราบน้ำอ้อยเคี่ยวที่ฝังเข้าไปในเนื้อพระเก่าจริง...
(เริ่มจะเข้าตาแล้วครับ)

ความที่เป็นพระแก่ปูน + แก่น้ำอ้อยเคี่ยว + มีการคลุกเคล้าน้ำอ้อยได้ทั่วถึงสม่ำเสมอกันดี
จึงทำให้พบการแตกลานในองค์พระได้น้อย...

สิ่งที่น่าเสียดายก็คือ...พิมพ์นี้นั้นไม่ใช่พิมพ์ที่สากลนิยมกันครับ...
มีเส้นกรอบกระจกด้านซ้ายขององค์พระ...เจตนาของพิมพ์นั้นถ้ามีกรอบกระจกแบบนี้....
จะต้องเป็นพระที่สร้างในยุคหลังๆ ช่วงที่สมเด็จท่านน่าจะอายุประมาณ 82 หรืออาจจะมากกว่านี้ครับ...

จุดที่น่าเสียดายอีกจุดก็คือ....การยุบตัวของมวลสารนั้น....
องค์นี้มีการยุบตัวของมวลสารน้อยไปนิดครับ...
จริงอยู่ถึงแม้ว่าองค์นี้จะใช้ปูนเปลือกหอยของจริงในการสร้างพระ...
น้ำอ้อยเคี่ยวก็อาจจะเก่าใกล้เคียงกับยุคนั้น...

ผงดำก็มีจริง...
แต่ผงเกสรดอกไม้นั้นแทบจะไม่มีเอาซะเลย...
เนื้อว่านก็ไม่ปรากฎให้เห็น....

จะบอกว่าเป็นพระยุคปลายมวลสารแก่ปูน + ผงดำ + น้ำอ้อยเคี่ยว ก็ไม่น่าจะใช่

เพราะถ้าเป็นพิมพ์วัดระฆังมีกรอบกระจกจริงนั่นหมายความว่าเป็นพิมพ์ที่สร้างขึ้นก่อนที่จะสร้างสมเด็จบางขุนพรหมซะอีก...

การจะบอกว่ามวลสารพวกเกสร กับว่านหมดไม่น่าจะเป็นไปได้นะครับ...

ที่สำคัญคือ....
ผงพุทธคุณในเนื้อพระนั้น...ผมมองไม่เห็นเอาซะเลย....
ธรรมดาของพระสมเด็จก็คือต้องมีผงพุทธคุณด้วยนะครับ...ผงพุทธคุณคือ สาเหตุทำให้พระเกิดการยุบตัว บางทีก็ผุดขึ้นบนผิวพระจับตัวแข็ง...

บางทีก็จับตัวกันเองเป็นก้อนๆ ฝังอยู่ในเนื้อพระ...

ดังนั้น ผมจึงพอสรุปให้คุณ กวินฯ ได้ว่าองค์นี้นั้น...

สรุป เป็นพระที่เก่าจริง....แต่ยังไม่ถึงยุคสมเด็จโต ถ้าถึงยุคสมเด็จโตก็อาจจะเป็นพระสมเด็จยายขำ เป็นคนสร้างก็ได้ครับ....

โดยส่วนตัวผมถือว่าองค์นี้เป็นพระเก่าสวยประทับใจในเนื้อ 60% แต่ยังไม่โดนใจอยู่ดีครับ

ปล. อย่าลืมครับว่าพระสมเด็จนั้นแม้แต่ในยุคของท่านก็เริ่มมีการทำปลอมกันมานานแล้วนะครับ....จุดตายจึงต้องดูที่ผงพุทธคุณประกอบด้วยครับว่ามีหรือไม่

 

ก่อนล้างผมประทับใจโคตรๆ .....
หลังล้างผมเสียดายแทนโคตรๆ เลยครับ 555+

เห็นผลการล้างแล้วหมดแรงบรรยายเลยครับ....พูดได้คำเดียวว่า....
เสียดายจังงงงงงง.......หุหุหุ

 

อุทธรณ์ องค์ที่ 3


น่าจะเป็นสมเด็จยายขำ....เหมือนองค์ที่อุทธรณ์องค์ที่ 1 นะครับ....

จริงอยู่ถึงแม้ว่าจะใช้ปูนเปลือกหอยจริง....และพบเศษปูนเปลือกหอยหยาบผสมอยู่ในเนื้อพระ....

แม่พิมพ์เป็นแม่พิมพ์ไม้จริง...เพราะพบเส้นเสี้ยนเป็นทางยาวบริเวณช่องว่างระหว่างเศียรด้านขวาของพระ....แต่จุดนี้ก็ไม่ได้หมายความว่าของปลอมห้ามใช้แม่พิมพ์ไม้นะครับ...

ถ้าเป็นของปลอมถอดพิมพ์ยุคใหม่ก็ใช้แม่พิมพ์ยาง...พิมพ์จะถูกแต่เส้นเสี้ยนจะไม่ติด...

แต่ถ้าเป็นการปลอมถอดพิมพ์แบบแม่พิมพ์ไม้ในสมัยก่อนนั้น...ต้องแล้วแต่ฝีมือช่างว่าจะแกะได้ใกล้เคียงของจริงแค่ไหน.....

เท่าที่ดูนั้น
....องค์นี้เศษปูนเปลือกหอยมี
....ผงดำมี
....ผงเกสรน้อยมาก
....เนื้อว่านไม่ปรากฎ
....การยุบตัวน้อยมาก

ตัวประสานน้ำอ้อยเคี่ยว....เก่าได้ระดับหนึ่ง

แต่ผงพุทธคุณในองค์พระกลับยังไม่ปรากฎให้เห็น....การยุบตัวน้อยเกินไปครับ

สรุป องค์นี้ยังไม่โดนใจเหมือนเดิมแหละครับ

 

อิอิ ขอบคุณครับ

พระไม่แท้ ล้างอย่างไรก็ไม่แท้ครับ ที่ว่าเสียดายคือเรื่องอะไรครับพี่ xl

เพื่อหาความจริงครับ ได้ความรู้แก่ท่านอื่นด้วยครับ พระชุดนี้ตกทอดมาจากบุคคลร่วมสมัยรัชการที่ 6 น่ะครับ มีหลักฐานยืนยันตัวตนได้ และเนื่องจากเป็นข้าราชการผู้ใหญ่ จึงมีคนนำพระมามอบให้กับบุคคลท่านนี้มากมาย จนตกทอดมาถึงผมนี่แหละครับ

 

พระของคุณกวินฯ องค์ที่อุทธรณ์ องค์ที่ 2 นั้นน่าจะเป็นพระแท้ทันยุคนะครับ....
เสียดายที่ล้างซะหมดกันเลย....คราบสวยๆ ของน้ำอ้อยเคี่ยวกระจุยหมดแล้ว....

สิ่งที่ยังคงเหลืออยู่ก็คือ ผงพุทธคุณ ที่จับเป็นเม็ดเล็กๆๆๆๆๆๆ เต็มไปหมด
และเนื้อของพระที่เหลืองเก่าที่ล้างอย่างไรก็ยังเหลืองวันยังค่ำเท่านั้น

ผงดำมี....ผงเกสรมี....
ผงพุทธคุณจับเป็นแผ่นฝ้าเคลือบผิวพระ....ส่วนที่ไม่ค่อยถูกสัมผัสจะออกขาว...
ส่วนบริเวณเศียร....ลำตัว...แขน...ฐาน ถูกสัมผัสบ่อยผงหลุดคราบผงพุทธคุณจึงหลุดไป...

ขนาดล้างอย่างแรง....ผงพุทธคุณจับเป็นแผ่นๆ ยังไม่หลุดเลย...
(ลองสังเกตบริเวณยอดเกศด้านซ้ายของพระดูสิครับ....คราบขาวด่างๆ นี่แหละคือผงพุทธคุณหละ....)

แต่ก็อย่างว่าแหละ....โดนล้างไปซะแล้ว...เป็นอันจบข่าวครับ 555+

ปล. ล้างพระแบบนี้...น่าจับตีมือเหลือเกินครับ....หุหุหุ

 

อุทธรณ์ องค์ที่ 4

ถึงจะล้างแล้วเนื้อก็ยังตึงเกินไปอยู่ดีครับ.....ความเก่ายังไม่พอ.....

สรุป ผมยังไม่ประทับใจเหมือนเดิมครับ

 

กระบวนการล้างของผม จะใช้แปรงขนอ่อนเท่านั้น ปัดองค์พระ ร่วมกับการใช้สารเคมีต่างๆ ที่ไม่มีผลกับปูนและมวลสารหลัก (แต่อาจจะมีผลกับผงพุทธคุณรึเปล่า อันนี้ผมไม่แน่ใจ)

หากไม่ล้างก็คงไม่ได้เห็นเนื้อเหลืองๆ กับรอยแตกรานในชั้นลึกและตัวประสานนะครับ

ถ้าองค์นี้เข้าตาเดี๋ยวสภาพพระเข้าที่ ผมจะถ่ายรูปให้พิจารณาใหม่ครับ

อนึ่ง ... ระหว่างการล้างเพื่อเปิดผิวดูเนื้อแท้ด้านในนั้น จะทำเพียงแค่ครั้งเดียวครับ ไม่มีการทำซ้ำๆ สิ่งที่หลุดออกไปจากการล้างพระเก่าถึงอายุนั้น ผม (คาดเดาเอาเอง) ว่าน่าจะเป็นสิ่งที่เจ้าของ คนก่อนๆหน้าผมนี้ นำมาเคลือบไว้ครับ พระบางองค์ก็อาจจะผ่านการใช้งานมาอย่างหนัก เจ้าของจึงสรรหาบางอย่างมาเคลือบ มาทาไว้(งวดหน้า รบกวนพี่ xl ชี้จุดที่น่าจะเป็นพวกว่านให้ชมด้วยนะครับ)

ขอบคุณมากครับ ^^

 

<meta http-equiv="Content-Type" content="text/html; charset=utf-8"><meta name="ProgId" content="Word.Document"><meta name="Generator" content="Microsoft Word 10"><meta name="Originator" content="Microsoft Word 10"><link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CADMINI%7E1%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><style> <!-- /* Font Definitions */ @font-face {font-family:"Angsana New"; panose-1:2 2 6 3 5 4 5 2 3 4; mso-font-charset:0; mso-generic-font-family:roman; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:16777219 0 0 0 65537 0;} /* Style Definitions */ p.MsoNormal, li.MsoNormal, div.MsoNormal {mso-style-parent:""; margin:0in; margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:12.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-fareast-font-family:"Times New Roman";} @page Section1 {size:595.3pt 841.9pt; margin:1.0in 1.25in 1.0in 1.25in; mso-header-margin:.5in; mso-footer-margin:.5in; mso-paper-source:0;} div.Section1 {page:Section1;} --> </style><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0in 5.4pt 0in 5.4pt; mso-para-margin:0in; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman";} </style> <![endif]--> [FONT=&quot]สวัสดีท่าน บุพนิมิต[/FONT]

[FONT=&quot]พอดีเดือนที่ผ่านมา ไม่ว่าง เกือบไม่ได้เข้าเวปนี้เลย [FONT=&quot]เพิ่งมาตามอ่านเจอรายการที่ท่านถามมา.....[/FONT][/FONT]

[FONT=&quot]การวิจารณ์ถือตามความรู้ที่ผมมีอยู่นะครับ....[/FONT] [FONT=&quot]ไม่ถือเป็นที่สุดในการตัดสินว่าพระใดจะใช่หรือ ไม่ใช่นะครับ....[/FONT]

[FONT=&quot]พระที่ท่านนำมาให้ชมทั้งสององค์นั้น ในสายตาผมแล้ว[/FONT] [FONT=&quot]เป็นพิมพ์ที่ยังไม่เคยเห็น สำหรับพระเมืองกำแพง..... ไม่เคยเห็น[/FONT] [FONT=&quot]ไม่ใช่ว่าจะไม่มี อาจมีหรือไม่ก็ได้นะคัรบ.....[/FONT]

[FONT=&quot]คราบขี้ดิน ขี้กรุ ที่เกาะตามผิวองค์พระ ดูแล้วก็ไม่เป็นธรรมชาติ[/FONT] คราบเกาะแบบหลวม ๆ ไม่ติดแน่นในเนื้อ ไม่[FONT=&quot]เหมือนพระที่อยู่ในกรุเลยนะครับ.....[/FONT]

[FONT=&quot]องค์พระดูเหมือนไม่แห้ง เหมือนพระใหม่[/FONT] [FONT=&quot]ไม่เหมือนพระที่มีอายุมาหลายร้อยปี......[/FONT]

[FONT=&quot]พิมพ์พระองค์แรก พิมพ์เหมือนนางพญา ทางพิษณุโลก ดูดีๆ เหมือนท่านสวมชฎาไว้[/FONT] [FONT=&quot]ส่วนองค์ที่สอง นั้นปกติพระซุ้มกอ ใต้องค์พระจะเป็นฐานบัว....[/FONT]

[FONT=&quot]เนื่องจากภาพพระองค์เล็กเกินไป จึงไม่สามารถเห็นมวลสารได้[/FONT]
[FONT=&quot]ขอให้ท่านสังเกตุดังนี้ครับ[/FONT]

[FONT=&quot]พระกำแพง ปกติจะมีแร่ หรือ ว่านดอกมะขามในเนื้อพระเสมอ ทุกองค์ก็ว่าได้[/FONT] [FONT=&quot]ลองดูมีไหม .....[/FONT]

[FONT=&quot]พระกำแพงเนื้อดำ นั้น ปกติ จะไม่ใช่สีดำสนิท แต่จะเป็นสีน้ำตาลเข้มออกดำ[/FONT] [FONT=&quot]บางส่วนจะเห็นสีน้ำตาลด้วยซ้ำไป..... ลองดูว่ามีไหม....[/FONT]

[FONT=&quot]โดยส่วนตัวแล้ว ผมว่าพระทั้งสองนี้ น่าจะเป็นพระยุคหลังครับ.....[/FONT]<o></o>

 

ลองชมพระกำแพง เม็ดขนุนกัน สัก 2-3 องค์ ..... เป็นพิมพ์นิยมหรือเปล่าไม่ทราบ แต่เป็นพระสภาพเดิม ๆ ไม่ผ่านมือคนมามากนัก.....

 

นี่ก็เป็นอีกองค์หนึ่ง แต่คนละพิมพ์กัน.....

 

นี่ก็เป็นพระกำแพงเม็ดขนุน อีกพิมพ์หนึ่งเช่นกัน

 

ท่าน cc192...นานๆมาที แต่มาทีไร แรงได้ใจจริงๆทั้ง 3 องค์ครับ
ขอบพระคุณในข้อแนะนำดีดีครับ ว่าแล้วก็ลุ้นสมเด็จของคุณกวินพันต่อดีกว่า อิอิอิ

 

หวัดดีครับท่านวาซาบิท่านxlmenและเพื่อนสมาชิกครับ...เห็นพระสมเด็จ...เงียบๆก็เลย
นำพระนางพญาเข่าโค้งองค์ดำมาให้พิจารณาครับ...พร้อมกับการยุบตัวเป็นหลุมเนินแบบสุดๆเนื้อพระสีดำอาจพิจารณาเนื้อได้ลำบาก...ดูส่วนประกอบอื่นๆกันครับ...ติชมกันนะครับผิดถูกไม่ว่ากันอยู่แล้ว....

 

เห็นองค์นี้แล้วเหมือนจะเจอฝาแฝด....อิอิอิ
นางพญางิ้วดำ หลวงพ่อแกร วัดบางแก้ว นครสวรรค์ (ขอด้วยครับที่ภาพไม่ชัด ว่างๆจะงัดออกจากตู้เซฟภรรยาแล้วถ่ายใหม่ ฮ่าๆๆๆ)

 

หวัดดีครับท่านบุพนิมิต..ขอบคุณครับที่เข้าติชม..นางพญางิ้วดำหลวงพ่อแกร..นครสวรรค์ของท่านก็สวยไม่เบาเหมือนกัน(ขนาดภาพไม่ชัดนะเนี่ย5)เล่นเก็บไว้ในเซพก็ลำบากแบบนี้แหล่ะท่าน..รอชมภาพสวยๆครับ...

 

พระของคุณ เจนัย องค์นี้เท่าที่ผมดูพิมพ์ด้านหน้าแล้ว....เหมือนว่าจะเป็นการใช้แม่พิมพ์ยางมากกว่าจะเป็นแม่พิมพ์ไม้ หรือแม่พิมพ์หินนะครับ...

เดี๋ยวคงต้องรอคุณวาซาบิ มาช่วยวินิจฉัยอีกแรงจะดีกว่าครับ
----------------------------------------------------------------------

องค์นี้น่าจะเป็นพระยุคหลังออกวัดอื่นนะครับ...
เดี๋ยวรอคุณวาซาบิมาร่วมวินิจฉัยอีกทีละกันครับ

 

เรียนคุณกวินพัน....ณ ตอนนี้ ตับของผมไม่พบเซลมะเร็งแล้วครับ แต่ยังต้องไปหาหมอตามนัด (ช่วงนี้หมอนัด follow up ประมาณ 3 เดือนครั้งครับ) เจาะเลือด เข้าเครื่อง CT จนชินแล้ว ฮ่าๆๆๆ

ผมมีชินบัญชร ติดอยู่บนโต๊ะทำงานตลอด แต่ไม่ค่อยได้ท่อง เพราะมัวแต่อ่านกระทู้นี้น่ะแระ ฮ่าๆๆๆๆ ตอนนี้อธิษฐานจิตขอมีตังส์ในบัญชีเงินฝากสักร้อยล้าน แต่ก็ยังปรารถนาจะได้พระสมเด็จฟรีเพิ่มอีกนะครับ ฮ่าๆๆๆๆ (ผมเป็นคนประหลาดนิดหนึ่งครับ...ชอบแต่ของฟรีอ่ะ น่าเกลียดมากมาย ต้องขออโหสิกรรมจากเพื่อนๆสมาชิกด้วย)

"ของถูกไม่เคยดี...ของฟรีไม่มีในโลก" ผมไม่ชอบสำนวนนี้เอามากๆเลยครับ