ปัญญาธิกะ ฉลาดกว่า บำเพ็ญบารมีน้อยกว่าศรัทธาธิกะ หรือวิริยาธิกะ ?

จากข้อความตอนนึงในกระโถนข้างธรรมาสน์ของหลวงพี่เล็ก สุธมฺมปญฺโญ ฉบับที่31 หน้า2


"...................
ถาม: อ่านในเว็บครับ เขาเขียนว่าปัญญาธิกะ ฉลาดกว่า บำเพ็ญบารมีน้อยกว่าศรัทธาธิกะ ?

ตอบ: เขาเข้าใจอย่างนั้นจริง ๆ บางฉบับ เขาเปรียบเทียบว่า เด็กโง่กับเด็กฉลาดเลย คนจะเป็นพระพุทธเจ้าโง่ มีหรือ ? ก็เอาอย่างเขาว่าแล้วกัน ที่เขาเปรียบมาน่ะมันใช่ของเขา เราเองรู้สึกว่าใกล้ปรามาสพระรัตนตรัย เราก็เลี้ยวออกมาซะ
................."


http://www.grathonbook.net/book/

 

เป็นลักษณะที่แตกต่างกันบ้างเล็กน้อย

แต่สุดยอดพอๆกันครับ ทุกแบบเลย..

 

ทำไมเวลาถึงแตกต่างกันมากจังครับ
4 / 8 / 16 ....

 

ก็ลัดได้ก็ลัดสิครับ

อันไหนไม่จำเป็น ก็ตัดๆไป

ใช่ไหม ...

เค้าฉลาดกว่าจริงๆนะ .. ให้ตายสิ
ผมหมายถึงว่า เค้าฉลาดเร็วกว่า คือ ฉลาดตอนที่เราโง่.. ก็เลยเรียกว่าฉลาดกว่านะ
.......................................

อ่ะฝาก..อีกอัน พอดีมีคนบอกมา คนจริงๆนะ ----> ใครจะไปบอกทางให้คนทำถนนได้ เมื่อทำถนนคนละสายกัน

 

เรียนรู้ด้วยวิธีที่ต่างกัน แต่ความรู้ที่ได้มาเป็นความรู้ตัวเดียวกัน

 

แตกต่างกันที่ความละเอียดของบารมีครับ วิริยะธิกะ เนี่ยเก็บบารมีได้ละเอียดกว่าแบบอื่นๆครับ และกว่าจะรู้หลายๆอย่างก็หลายชาติและเจอสารพัด ซึ่งถ้าเป็นแบบ ปัญญาธิกะ เรียนรู้ได้เร็ว และจบได้เร็วครับ ความแตกต่างก็ตามชื่อครับ ปัญญาธิกะ ก็เด่นเรื่องปัญญา ศรัทธาธิกะ ก็เด่นเรื่องการใช้ศรัทธา แต่จุดที่บารมีเต็ม พระโพธิสัตว์ทุกท่านก็ฉลาดเท่าๆกันครับ จะเป็นพระพุทธเจ้า ท่านต้องมีความฉลาดทุกสิ่งครับ

 

ฉลาดกว่าครับ
ขอยืนยัน

แต่สุดท้ายฉลาดเท่ากันนะครับ
แต่ พระปัญญาธิกะเนี่ย ท่านรวดเร็ว ฉลาดมากๆ ไปเร็ว ติดจรวด แบบอึ้งกิมกี่ไปเลย ..
...แต่ฉลาดแบบของเค้าหนะครับ .. ซึ่งก็รวดเร็ว และชัดเจนดี

 

วิริยะธิกะ ใครเกิดศาสนาท่านี่ ต้องเป็นคนมีบุญเท่านั้นใช่ไหม...คนไม่ดีเกิดในศาสนาท่านไม่ได้ใช่หรือเปล่านะ....เพราะท่านบำเพ็ญบารมีมามาก....ศาสนาท่านจะไม่มีคนชั่วเลย...มีแต่คนดีมีศ๊ลธรรม ใช่หรือเปล่านะ.

 

วิริยะ,ศรัทธา,ปัญญา บารมี ก็บอกถึงความหมายของแนวทางของการสร้างบารมี....แต่โปรดพิจารณาดังคำที่ว่า สิ่งที่ไม่ควรคิด(อจินไตย)....หนึ่งในนั้นคือ การคิดถึงวิสัยของพระพุทธองค์ไม่ควรคิด....เพราะอยู่เหนือวิสัยการคิด...ถึงแม้จะห้ามคิดไม่ได้เพราะเป็นวิสัยพุทธภูมิแต่ระวังการแสดงออกจะผิดพลาดได้...ระวัง...ระวัง....นะครับ

 

ไม่ควรเปรียบใด แค่ระยะเวลาที่ต่าง
16อสงขัย วิริยา
8 อสงขัย ศรัทธา
4 อสงขัย ปัญญา

 

ที่ผมตัดสินว่าฉลาดกว่านะ เพราะว่าเค้ารู้แจ้งเร็วกว่า

แต่ว่าสุดท้ายก็รู้เรื่องเดียวกัน

ถ้าเริ่มจุดเดียวกัน เขาจึงเป็นผู้สอนเรา ..เพราะเขารู้เร็วกว่า

 

ปัญญา คือ การ เลือกที่จะเชื่อธรรมต่าง ๆ อย่างแยบคาย ในพุทธ 28 พระองค์มีปัญญาธิกะ องค์เดียว ศรัทธา 3 นอกนั้น วิริยะธิกะ

 

ปัญญาธิกะ คือ ผู้ที่สามารถ บรรลุสัตตธรรมในสี่อสงไขย แสนกับ

 

ปัญญาธิกะ จะใช้ปัญญานำหน้าในการสร้างบารมีจึงทำให้ย่นระยะเวลาในการสร้างบารมีได้เยอะมาก สมมติเช่นคนรู้เรื่องกฎแห่งกรรมกับคนไม่มีความรู้เรื่องกฎแห่งกรรม เวลาให้ทานย่อมจะมีการวางเจตนาและทำในใจเอาไว้แตกต่างกัน ผู้รู้เยอะและละเอียดกว่าย่อมได้เปรียบตรงจุดนี้ ในการสร้างบารมีด้านอื่นๆก็เช่นเดียวกันครับ ฯลฯ

แต่ศรัทธาธิกะ กับ วิริยะธิกะ ก็อาจจะได้บารมีด้านอื่นเพิ่มเติมขึ้นมาแทน เหมือนเอตทัคคะของพระอรหันต์ที่แม้จะบรรลุธรรมเหมือนกันแต่ก็มีความถนัดแตกต่างกันน่ะครับ

 

มีท่านผู้รู้เคยเปรียบไว้ดังนี้ หากเปรียบการสั่งบารมีเป็นการสร้างบ้าน
ปัญญาธิกะ ท่านสร้างบ้านเสร็จเร็วที่สุด
ศรัทธาธิกะ ท่านสร้างเสร็จเป็นลำดับที่สอง บ้านทาสีสันสวยงาม อาจมีสวนหย่อม สระน้ำ ฯลฯ เพิ่มเติมมากกว่าปัญญาธิกะ
วิริยาธิกะ ท่านสร้างเสร็จทีหลังสุด แต่ตัวบ้านแกะสลักลวดลายตั้งแตต่บรรไดจจนถึงหน้าจั่ว อาจประดับมุกพลอย และองค์ประกอบอื่น ๆ อีกบานตะเกียง(จนพอใจ)
สรุปว่าทุกท่านมีบ้านอยู่อาศัยเหมือนกันแต่อย่างอื่นไม่เหมือนกัน

ขอแถมนิด(ความคิดผมเอง) อย่าเอาเรื่องของปัญญาไปเปรียบกับศรัทธา อย่าเอาเรื่องของศรัทธาไปเปรียบกับวิริยะ เดี๋ยวก็จะมีคนอุตริบอกว่า ปัญญาธิกะ มีความเพียรน้อยกว่า วิริยาธิกะ เข้าอีก เรื่องมันก็จะยุ่งกันไปใหญ่เกรงว่ามันจะเฉียดหรือพลาดตกลงไปอบายภูมิกันซ๊ะก่อนได้ข้อยุติกันนะ ท่านจะเดินสายไหนเป็นเรื่องความพอใจและกมลสันดานของท่านนั้น ๆ เป็นปัจจัยน่าจะไม่ได้อยู่ที่ใครมีปัญญามากกว่ากันตามกระทู้ที่ตั้งไว้ดังนี้แล ขอความสำเร็จงมีแด่ท่าน

 

พุทธภูมิบางคน อาจจะเคยบำเพ็ญบารมีหลายแบบนะครับ
เท่าที่เห็น เริ่มแรกเน้น ปัญญาธิกะก่อน แล้วมาต่อวิริยะธิกะก็มี

 

แล้วทำไม ไม่เริ่ม เดินทาง ไปหา ทางเดิน กันล่ะ? รออะไรหรือ?

 

เอาซักอย่างก็รู้เองแหละ มันไม่เกี่ยวหรอกว่าแบบไหน

แบบ 4 ก็หนักสุดๆ หนักไม่บันยะบันยัง
แบบ 8 ก็หนักน้อยลงมาหน่อย
แบบ 16 ก็หนักน้อยสุดแต่หนักนานๆ ฮ่าๆ

เจอแบบไหนก็หนักหมด สุดท้ายก็ต้องตัดหมดอยู่ดี
ขึ้นอยู่กับว่าตัดช้าตัดเร็ว ถ้าคิดจะเป็นพุทธภูมิ

 

หลวงพี่เล็กบอกให้เลี้ยวออกมาซะ
เข้าใจไหม คมอ้วน
อย่าไปคิด

 

ว้ายยยย โลกจะแตกค่า.... แหมทั้งๆ ที่รู้ว่าวันหนึ่งทุกอย่างจะสูญยังยึดกันไว้อีกค่ะ
ด่วน ใครสละเรือนทุกอย่างได้ก่อนจะได้รางวัลเป็นพระพุทธเจ้าก่อนค่ะ (เนกขัมมะ)
ใครมัวอยากและยึด สุดท้ายก็สลายสิ้นอยู่ดีค่ะ ไหนๆ ปัญาธิกะ หดหัวไปไหน?
เห็นโอกาสสละเลยสิคะ


ว้ายๆๆๆ หนู๋หนีแล้ว ไปแล้วสละเรือนค่า...
(ไปจริงนะคับ ตอนนี้จะหมดเงินแย้ว ฮือๆ)


...จากนู๋น้องกาต่ายตื่นตุ้ม (วิริยะธิกะปัญยาน้อยฮ่ะ)