::: วรวุฒิคุณอนุสรณ์ ประวัติและวัตถุมงคลหลวงปู่ครูบาอิน อินโท ครูบาฟ้าหลั่ง :::

สวัสดีครับพี่ๆ น้องๆ ทุกท่าน

หลังจากห่างหายการอัพเดทกระทู้มาเปนเวลาร่วมสองเดือน
เนื่องจากติดภาระกิจงานประจำ จนขาดช่วงไปนาน

วันนี้ผมมีข่าวด่วนมาแจ้งแก่พี่ๆ น้องๆ ลูกศิษย์ลูกหา
ผู้เคารพศรัทธาในหลวงปู่ครูบาอิน .... เรื่องมีอยู่ว่า

เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ประมาณวันพฤหัส ผมต้องไปทำธุระแถวๆ เกือบจะถึงวัดฟ้าหลั่ง
ระหว่างทางก็ได้ไปแวะที่แผงพระทุ่งเสี้ยว... ซึ่งถ้ามาจากเชียงใหม่ ก็จะเลยสี่แยกทุ่งเสี้ยวไปนิดหน่อย
ผมเดินดูพระไปเรื่อยๆ ก็เจอพระในท้องถิ่นที่น่าสนใจหลายรายการอยู่เหมือนกัน
แต่ในขณะเดียวกัน ก็มี "ของเล่น" ปะปนอยู่ไม่น้อย ส่วนใหญ่เป็น "สำเนาไม่ถูกต้อง" ดูง่ายครับ
แต่หนึ่งในรายการ "ของเล่น" ที่อยากจะเอามาบอกกล่าวกัน ก็คือ
"เหรียญรุ่นแรก หลวงปู่ครูบาอิน"
อันที่จริง เหรียญหลวงปู่ครูบาอิน "ไม่แท้" มีมานานแล้วครับ
ซึ่งปกตินานๆ จะเจอหลงมาให้เห็นสักเหรียญนึง
แต่ที่แปลกก็คือ วันนั้นเจออยู่ 2-3 เหรียญ แผงหนึ่งมีถึง 2 เหรียญ

ผมจับมาเพ่งๆ ดู (ตาเปล่า) ก็ดูออกเลยว่าไม่แท้ ตำหนิคือหลุมด้านหลังพยายามทำ
แต่ทำได้ไร้ฝีมือมากครับ... ผมลองถามราคา แผงหนึ่งเปิดผมไว้ 3000
โอ๊วววว... วางไว้.... เดินต่อไป

อีกแผงหนึ่ง เขามองหน้าผม เหมือนจะจำได้ๆ ก็เลยบอกผมว่า
เขาซื้อมา เหรียญละ 200 จะเอาไหมเขาออกให้ต่อ 300
แต่ถ้าไม่เอาของเล่น... ของแท้ก็มี... แล้วเค้าก็ถอดจากที่คอมาให้ผมดู
อืม... เหรียญนี้แท้ครับ...
แต่ผมซื้อเหรียญ "ของเล่น" มา ตั้งใจว่าจะเอามาถ่ายรูปโพสเป็นความรู้

ผ่านไปสองสามวัน ยังไม่มีเวลาได้ถ่ายรูปเลย
ก็มาเจอเหรียญ ซึ่งน่าจะเป็นล็อตเดียวกันนี้ โพสขายในกระดาน พระล้านนา.คอม
เจ้าของพระ อาจจะตั้งใจถ่ายรูปให้เบลอๆ หน่อย มองเห็นไม่ค่อยชัด
แต่พอดีผมเคยผ่านตามาทั้งของแท้ และของเล่น ก็เลยพอจะมองออก
แต่ที่น่าเป็นห่วงก็คือ มีคนมาเข้าประมูลไปด้วย แต่เจ้าของพระยังไม่เคาะปิด

ผมเลยอยากขอเตือนไปยังพี่ๆ น้องๆ ที่จะบูชาเหรียญรุ่นแรกของหลวงปู่
กรุณาตรวจสอบให้ดีกะผู้รู้ ต้องให้เขารับประกัน และอย่าเห็นแก่ของถูก

ผมคงไม่สามารถเอารูปพระที่เขาโพสขายมาโพสตรงนี้ได้
เดี๋ยวรอผมถ่ายรูปเหรียญ (ของผม) แล้วจะเอามาลงเพิ่มเติมให้ชมครับ


ธีระยุทธ

 

ขอสลับฉากด้วย "ภาพเก่าเล่าเรื่อง"
ชุดนี้ เป็นภาพพิธี "ลงอุโบสถ" สวดปาฏิโมกข์ ของหลวงปู่ครูบาอิน
และคณะสงฆืในเขต ตำบลสันติสุข-ยางคาม
ณ อุโบสถ วัดทุ่งปุย เมื่อปี พ.ศ.2545 ซึ่งน่าจะเป็นการลงอุโบสถ
ครั้งสุดท้ายของหลวงปู่ เพราะหลังจากนั้น ท่านก็เริ่มอาพาธ
จนไม่สามารถปฏิบัติศาสนกิจนานๆ ร่วมกับคณะสงฆ์ได้

พระสงฆ์ที่มาร่วมพิธีครั้งนี้ ล้วนแล้วแต่เป็นบรรดาลูกศิษย์ลูกหาของหลวงปู่
หลายๆ รูปเป็นพระที่หลวงปู่ได้บวชให้ และเมื่อถึงวาระ ก็มาร่วมลงอุโบสถ
และสวดปาฏิโมกข์ โดยมีหลวงปู่ครูบาอินเป็นองค์ประธาน

เป็นอีกหนึ่งบันทึก ที่น้อมละลึกถึงหลวงปู่ครูบาอิน แม้ในวัย ๑๐๑ ปี
ท่านก็ยังปฏิบัติศาสนกิจ ตามกำลังสังขาร ตราบจนวาระสุดท้าย














ธีระยุทธ

 

สวัสดีครับ...

วันนี้ผมมีภาพมาฝากอีกแล้วครับ...




มีสุภาษิตฝรั่งเขาว่า... A picture says a thousand words.
คงจะแปลความได้ประมาณ "หนึ่งรูปแทนคำนับพัน"

ผมขอเพิ่มถ้อยคำที่เกินพันนั้นลงไปอีกสักหน่อย

รูปนี้ ถ่ายบริเวณด้านหน้ากุฏิหลังใหม่ ของหลวงปู่ที่วัดทุ่งปุย
ประมาณปลายๆ ปี 2545 เพราะตอนนั้นกุฏิสร้างเสร็จแล้ว
พื้นที่บริเวณที่สร้างกุฏิ แต่เดิมเป็นทุ่งนา ที่เจ้าของขายให้กับทางวัดในราคาถูกมาก
เพื่อใช้เป็นที่สร้างกุฏิถวายหลวงปู่...

ท่านที่เคยไปกราบหลวงปู่ที่วัดทุ่งปุย ประมาณปี 43-45 คงจะจำได้
ว่าท่านพักอยู่ในห้องเล็กๆ ด้านหลังพระประธาน...
ซึ่งเป็นห้องที่ท่านพักนับตั้งแต่ย้ายกลับมาที่วัดทุ่งปุย
จวบจนกระทั่งคณะลูกศิษย์ลูกหา ได้ซื้อที่ดินแปลงนี้และสร้างกุฏิใหม่ถวายท่าน

สังเกตุว่า กำแพงวัดก็ยังไม่ได้สร้าง และเสนาสนะหลายๆ อย่าง (ด้านขวามือ)
ยังอยู่ระหว่างการบูรณะ ทั้งนี้เหตุผลหนึ่งที่หลวงปู่ย้ายกลับมาวัดทุ่งปุย
ก็เพื่อกลับมาบูรณะถาวรวัตถุต่างๆ ไม่ว่า สร้างศาลาการเปรียญ
บูรณะ อุโบสถ วิหาร พระธาตุเจดีย์ สร้างกำแพง สร้างกุฏิเจ้าอาวาส
และสร้างกุฏิวรวุฒิคุณอนุสรณ์ ๑๐๐ ปี...
หลายสิ่ง หลายอย่าง สำเร็จอย่างรวดเร็ว ด้วยเมตตาบารมี
และความช่วยเหลือของบรรดาลูกศิษย์ลูกหาจากทั่วสารทิศ
ที่ได้มาร่วมบุญกับหลวงปู่ ในช่วงเวลา 3-4 ปีนั้น

และก็เป็นกุฏิหลังนี้เอง ที่ได้ตั้งศพบำเพ็ญกุศล สรีระสังขารของหลวงปู่
ก่อนที่จะได้ทำพิธีพระราชทานเพลิงศพ ไปตามเจตนารมณ์ของหลวงปู่
ท่านเคยสั่งไว้ครับว่า หากท่านละสังขารไปแล้ว อย่าได้เก็บร่างท่านไว้นาน มากนัก
เมื่อปัจจัยพร้อมแล้ว ก็ให้เผาร่างไปตามทำเนียมประเพณีล้านนาที่ถือปฏิบัติกันมา

เคยมีผู้สอบถามมาว่าทำไมทางวัดไม่เก็บร่างของท่านไว้เจริญศรัทธาของบรรดาลูกศิษย์ลูกหา
คำตอบก็คงจะต้องบอกว่า "เป็นความประสงค์ของหลวงปู่ครับ"

สำหรับผูที่กำลังเข็นรถเข็นให้หลวงปู่ก็คือ พระอาจารย์ไพบูลย์ อินทปัญโญ หรือ "ท่านพิณ"
ซึ่งเป็นพระอุปัฏฐาก (หรือเรียกง่ายๆ ว่าเป็นพระเลขา) ของหลวงปู่ที่วัดฟ้าหลั่ง
เมื่อหลวงปู่ย้ายกลับมาที่วัดทุ่งปุย ท่านพิณก็ย้ายไปเป็นอาจารย์สอนพระเณรอยู่ที่วัดท่าตอน
แต่เมื่อมีเวลาก็แวะเวียนมาอุปัฏฐากดูแลหลวงปู่อยู่บ่อยครั้ง

มาต่อกันที่รูปถัดมา...



รูปนี้ถ่ายหลังจากที่หลวงปู่ได้ทำพิธีอธิษฐานจิตวัตถุมงคลชุด วัฒนมงคล ๑๐๐ ปี
"ขอให้รวย ขอให้อยู่ดีมีสุข" ที่ทางวัดได้จัดสร้างขึ้น ด้วยทุนทรัพย์ของทางวัดเอง
เพื่อรวมรวมปัจจัย ไว้สำหรับรักษาพยาบาลอาการเจ็บป่วยของหลวงปู่
และเตรียมไว้สำหรับพิธีพระราชทานเพลิงศพในอนาคต

หลวงปู่ท่านทราบถึงวัตถุประสงค์ชัดเจนนี้ครับ
เพราะท่านเป็นคมปรารภกับพระอาจารย์อินทร และพระอาจารย์พรชัย
ให้ตรวจสอบเงินทุนของทางวัด เพราะใช้ไปกับการสร้างเสนาสนะต่างๆ จนหมด
และเมื่อท่านทราบว่า เงินสำรองของทางวัดเหลือน้อยมากแล้ว
ท่านจึงอนุญาติให้พระอาจารย์อินทร และพระอาจารย์พรชัย จัดสร้างวัตถุมงคลรุ่นนี้ขึ้น
รายละเอียด วัตถุมงคลจำได้ว่าเล่าไปแล้วตอนต้นๆ กระทู้นี้ครับ เลยขอข้ามไป



รูปถัดมานี้ น่าจะถ่ายวันเดียวกัน เพียงแต่หลวงปู่อยู่บริเวณด้านหน้าศาลาการเปรียญ
"พี่หล้า" หลานหลวงปู่ นั่งอยู่ข้างๆ
บรรดาหลานๆ ญาติของหลวงปู่ ส่วนใหญ่ยังอยู่แถวๆ วัดทุ่งปุย
เมื่อท่านย้ายกลับมาที่วัดนี้ บรรดาลูกหลานก็มามารถมาอุปัฏฐากดูแลได้ง่ายขึ้น

ภาพถ่ายเมื่อประมาณปลายๆ ปี 2545 เช่นกันครับ
ระยะนี้อาจจะมีภาพมาให้ชมกันเรื่อยๆ นะครับ เพราะผมเพิ่งได้ไปค้นกรุมา
แล้วทะยอมเอารูปเก่าๆ ของหลวงปู่ (ฟิล์มหายไปหมดแล้ว) เอารูปมาสะแกนเก็บไว้
เพราะรูปเปนใบๆ เหล่านี้ ไม่นานก็สีซีดสีจาง ชำรุดไปตามกาลเวลา
ต้องสะแกนเก็บไว้เป็นไฟล์ดิจิตอล เป็นการอนุรักษ์รักษา และเตรียมไว้เผื่อใช้งานในอนาคตครับ

ธีระยุทธ

 

สาธุๆ

สวัสดีครับพี่ไก่

ไม่เจอะกั่นนาน ......

ลูกหลานขอกราบพ่อแม่ครูบาอาจารย์ ด้วยเคารพขอรับ __^/|^__

______________________________
hello9
กลุ่มพลังจิตพิชิตภัยพิบัติ สายอีสาน
กลุ่มพลังจิตพิชิตภัยพิบัติ สายอีสาน มารายงานตัวกันหน่อยครับ

โครงการถวายพระบรมสารีริกธาตุทั่วทุกวัดฯ ทั่วภาคเหนือตอนล่าง
โครงการถวายพระบรมสารีริกธาตุทั่วทุกวัด สำนักสงฆ์สำนักปฏิบัิติธรรม ทั่วภาคเหนือตอนล่าง<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->

 

สวัสดีครับ คุณสิริชัย...

ไม่ได้คุยกันนานจริงๆ ครับ
ติดภาระกิจที่ทำงาน จนไม่มีเวลาออกไปหาวัตถุดิบมาเขียนเล่าสู่กันฟัง
แต่ตอนนี้เริ่มซาๆ บ้างแล้ว คงจะได้นำข้อมูลอะไรดีๆ มารับใช้กันครับ

ขอบารมีหลวงปู่คุ้มครองคุณหมูและครอบครัวนะครับ

ธีระยุทธ

 

คุณธีระยุทธ

ไม่เป็นไรครับ ขอบคุณมากนะครับ ผมไม่รีบร้อนครับเพราะกว่าจะกลับไปอีกทีก็เดือนกันยายนครับ เพียงแค่แจ้งไว้ไม่ให้ชื่อตกหล่นเท่านั้นครับ

ขอบคุณมากนะครับที่มาเล่าเรื่องราวดี ๆ ให้ฟัง พอไม่มีเรื่องราวต่าง ๆ เข้ามาในนี้แล้วรู้สึกเหงา ๆ ครับ

ไว้กลับไปเมืองไทยแล้ว อาจจะชวนแฟนคลับคุณธีระยุทธรวมกลุ่มขึ้นเหนือเยี่ยมคุณธีระยุทธ แล้วไหว้สาครูบาแถวนั้นครับ

ศิวฤทธิ์

 

สวัสดีครับคุณธีระยุทธ
วันนี้แวะมาเยี่ยมเยียนครับ วันก่อนผมโทรไปกราบเรียนสอบถามกับท่านอาจารย์อินทร ถึงได้รู้ว่าวัตถุมงคลหลายอย่างของหลวงปู่หมดไปอย่างรวดเร็วเหมือนกัน บางอย่างก็เหลือน้อย ผมได้ขอบูชาผ้ายันต์กุณพระเจ้า (ผ้ายันต์คุณพระพุทธเจ้า)เพียงไม่กี่ผืน ทางวัดก็มีไม่พอ ท่านอาจารย์ได้เมตตาช่วยรวบรวมจากวัดที่หลวงปู่เคยพักอยู่มาให้ ต้องขอกราบขอบพระคุณท่านอาจารย์เป็นอย่างสูงด้วยครับ และขอขอบคุณคุณธีระยุทธด้วยที่กรุณานำข้อมูลดีๆมาให้กับเพื่อนสมาชิกโดยตลอด วัตถุมงคลของหลวงปู่ทุกรุ่นน่ามีไว้บูชามากครับ ต่อไปหากหมดไปจากวัดแล้ว คงจะหาได้ยาก อาจต้องเสี่ยงดวงไปเช่ากับศูนย์ซึ่งไม่ค่อยแน่ใจถึงความแท้แน่นอนนะครับ ตอนนี้ผมได้ส่งผ้ายันต์กุณพระเจ้าไปให้คนที่รักและห่วงใยที่เมืองนอกเรียบร้อยแล้วครับ

 

อ้ายไก่กลับมาแล้วววว

 

สวัสดีครับ....

เรียนคุณศิวฤทธิ์... ขออนุโมทนาบุญร่วมกับคุณศิวฤทธิ์ และครอบครัวครับ
กับการร่วมบุญกับหลวงปู่ ทั้งเรื่องสร้างอาคารพิพิธภัณฑ์ และ เรื่องทุนการศึกษา
ปีนี้ ทุนการศึกษามีน้อยกว่าปีที่แล้วครับ... ตอนแรก ผมก็รู้สึกใจหาย
คิดถึงครูบาอาจารย์ของทั้งสามโรงเรียนที่เราเคยอุปถัมภ์กันมา
นึกถึงน้องๆ นักเรียน ที่เคยมาเข้าแถวรับทุนการศึกษา
รู้สึกสะท้อนใจนิดๆ และถึงแม้จะเตือนตัวเองด้วยความจริงที่ว่า
สภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน มันค่อยดี ทำมาค้าขายอะไรก็ค่อนข้างจะฝืดเคือง
ทุกสิ่งทุกอย่างก็ให้มันเป็นไป "ตามหน้าบุญ" ...

พระอาจารย์ท่านก็เตือนสติอยู่เรื่อยๆ ว่า อย่าไปกังวลกับมัน
ได้เท่าไหร่ก็เอาเท่านั้น...
งานนี้ต้องขอขอบพระคุณ และขออนุโมทนาบุญกับพี่ๆ เพื่อนๆ
บรรดาลูกศิษย์ลูกหาของหลวงปู่ในเวปนี้ ที่มาร่วมทำบุญกัน
ผมได้ลองส่งอีเมลลืไปยังเพื่อนร่วมงาน ก็มีการตอบรับกลับมาหลายทุนอยู่เหมือนกัน
สุดท้าย (แม้จะไม่ได้ตามหวัง) แต่ก็รู้สึกสุขใจครับ
ที่เจตนารมณ์ของหลวงปู่ ได้รับการสืบสาน โดยมีพระอาจารย์อินทร
เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงใหญ่ ให้บรรดาลุกศิษย์ลูกหาได้ร่วมสะพานบุญไปด้วย

หลวงปู่ท่านชอบทำบุญครับ...
เวลาท่านทราบว่าที่วัดไหนๆ มีงาน จะเป็นงานบุญ งานก่อสร้างเสนาสนะต่างๆ
หลวงปู่ท่านจะร่วมอนุโมทนาบุญด้วยเสมอ...

ผมจำได้ว่าเคยเห็นใบอนุโมทนาบัตร ที่แต่ละวัดออกถวายให้หลวงปู่ ยามที่ท่านได้ร่วมทำบุญด้วย
มีเป็นตั้งๆ... สินนิษฐานว่า น่าจะยังอยู่ที่วัดทุ่งปุย
หากมีโอกาสคงจะได้ ถ่ายรูป (หรือสะแกน) มาให้ดูกันนะครับ

อาจจะเป็นความบังเอิญ หรือเปล่า ที่พอพุดถึงเรื่องนี้แล้ว
เมื่อเช้าผมได้สะแกนภาพจากนิตยสาร "ศักดิ์สิทธิ์"
ที่พอดีมีเนื้อหาสอดคลอ้งกับเรื่องการทำบุญของหลวงปู่
เลยเอามาฝากกันชมครับ




ผมตัดตอนมาเฉพาะส่วนที่เป็นรูปหลวงปู่
เพราะเนื้อหาบทความ ผู้เขียนเน้นเนื้อหาไปที่เรื่องราวของ หลวงปู่สิม พุทธาจาโร
และเรื่องวัดพระพุทธบาทสี่รอย... ผมเห็นว่าเนื้อหาไม่ได้เกี่ยวข้องกันสักเท่าไหร่
ก็เลยขอตัดมาให้ชมเฉพาะ รูปนี้ครับ

---------------------------

เดี๋ยวมาต่อครับ

 

ขออนุญาต ตอบคุณรักษ์พระ (คุณพยงค์) ต่อเลยนะครับ

คุณพยงค์สบายดีนะครับ...
ขออนุโมทนาบุญกับการร่วมทำบุญของคุณพยงค์ ด้วยดีตลอดมานะครับ

ขอพูดเรื่องผ้ายันต์รุ่นนี้สักหน่อยครับ
ผมเคยโพสประวัติไว้ ว่า รุ่นนี้ จัดสร้างออกมา 2 แบบ
คือ 1. ผ้าทายันต์กุณพระเจ้า (คุณพระพุทธเจ้า) ใช้ไปในทางแคล้วคลาดปลอดภัย
และ 2. ผ้ายันต์ จั๊กกิ้ม (จิ้งจก) ล้อมโลก เด่นไปในทางเมตตามหานิยม
ผู้ที่ลงอักขระเลขยันต์ คือ พ่อหนานจันทร์ ไจยสิทธิ์ ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องกับหลวงปู่
พ่อหนานจันทร์จะเชี่ยวชาญเรื่องศาสตร์ล้านนา
หลายต่อหลายครั้ง ที่มีผู้มาขอความช่วยเหลือจากหลวงปู่
แต่หลวงปู่ท่านไม่ทำให้ ด้วยเหตุที่ว่าเป็นกิจที่ไม่เหมาะกับสถานภาพบรรพชิต
บางครั้งท่านก็แนะนำให้ไปขอความช่วยเหลือจากพ่อหนานจันทร์
วันดีคืนดี (หมายถึงเมื่อมีฤกษ์งามยามดี) หลวงปู่ท่านก็จะเรียกพ่อหนานจันทร์
มาลงตะกรุดบ้าง ทำผ้ายันต์บ้าง ลงยันต์แผ่นทองสำหรับปิดตามร้านค้าบ้าง
และผ้ายันต์รุ่นนี้ (ทั้งสองแบบ) ก็เป็นฝีมือการลงอักขระของพ่อหนานจันทร์ เช่นกันครับ

ในส่วนของอักขระที่นำมาใช้ลงผ้ายันต์นี้
ผมเห็นมีตั้งแต่ผ้ายันต์รุ่นแรกๆ ของหลวงปู่ครับ
ทั้งยันต์จิ้งจก ยันต์เมตตา และอักขระคุณพระเจ้า ที่นำมาผูกรวมกันเป็นผ้ายันต์ทั้งสองแบบ
หรืออาจจะสรุปได้ว่า... นี่คือยันต์ที่หลวงปู่ใช้บ่อยๆ เวลาทำผ้ายันต์ก็ได้ครับ

ผมมีภาพผ้ายันต์ยุคเก่าๆ มาให้ชมครับ




เรื่องประสบการณ์ผ้ายันต์รุ่นนี้... ผมมีมาให้พิจารณาครับ

คุณศิวฤทธิ์ เขียนตอบไว้ในกระทู้ ที่เวปไซต์ หลวงปู่ครูบาอินว่าดังนั้ครับ

----------------------
สวัสดีครับ คุณธีระยุทธ

กลับมาถึงเมืองไทยแล้วครับ แต่ขอแก้ข่าวนิดครับ ผมได้รับเฉพาะเต่าสำลี ผ้ายันต์ และของที่ระลึกส่วนตัวจากคุณธีระยุทธครับ แต่ยังไม่ได้รับของที่ระลึกจากการร่วมสร้างอาคารพิพิธภัณฑ์นะครับ

รบกวนเรียนนมัสการพระอาจารย์อินทรด้วยนะครับ

ขอบคุณล่วงหน้าครับ

ศิวฤทธิ์

ป.ล. ผ้ายันต์จิ๊กกิ้มล้อมโลก ผมบูชาเผื่ออาอีกคนเป็นร้านขายกาแฟนะครับ ตอนนี้ชงจนมือหงิก ชงไม่ทันแล้วครับ ค้าขายดีมาก ๆ ครับ ขนาดอาผมไม่ค่อยเชื่ออะไรง่าย ๆ ยังเอ่ยปากออกมาเลยครับ ผมก็ได้แต่อมยิ้ม ผมเชื่อว่าเป็นเพราะบารมีครูบาอินครับ

ที่มา: ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพจัดสร้างอาคารพิธภัณฑ์หลวงปู่ครูบาอิน | ข่าวสารจากผู้ดูแลเวปบอร์ด

-----------------------------

เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ท่านใด มีประสบการณ์อื่น ลองเอามาแชร์กันนะครับ


อีกเรื่องหนึ่ง... ตอนนี้... วัตถุมงคลเก่าๆ ที่ทันหลวงปู่ปลุกเสก
ก็ค่อยๆ ลดจำนวนลงเรื่อยๆ เพราะมีพี่ๆ น้องๆ มาบูชากันไปเรื่อยๆ ครับ
แม้จะไม่มากมาย หวือหวา เมือนสมัยที่หลวงปู่ยังอยู่
แต่ก็เป็นเสมือ "น้ำบ่อซึมทราย" ที่ค่อยๆ ซึมไปเรื่อยๆ
สืบสานเจตนารมณ์ ร่วมสร้างเสนาสนะ ร่วมกองบุญกองกุศล
ของทั้งที่วัดฟ้าหลั่ง และวัดใหม่หนองหอย ไปเรื่อยๆ
วัตถุมงคลเก่าๆ เหล่านี้ ยังราคาถูกมาก เมื่อเทียบกับการบูชาจากแผงพระ
ท่านพี่เคารพศรัทธา และพอมีกำลัง บูชาไว้เถอะครับ
อีกหน่อย ท่านอาจจะรู้สึกเสียดาย ที่ราคาไปไกลแล้ว
เหมือนเหรียญรุ่นดังหลายๆ รุ่น ที่กลายเป็นแค่ "ความฝัน"
สำหรับเราๆ ท่านๆ ไปแล้ว

ประสบการณ์ตรงของผมเลย... เมื่อประมาณปี 37-38
น้าผมไปทำบุญที่วัดดอนปิน อ.แม่วาง กับเพื่อนที่ทำงานอยู่ใน เทศบาลด้วยกัน
ไปกราบครูบาคำ สีลสังวโร ตอนนั้นท่านกำลังออกเหรียญรุ่นหนึ่ง
ให้บูชาเหรียญละ 20 บาท... เพื่อนของน้าผม พอมีฐานะหน่อย
ควักเงินทำบุญถวายท่านไป 2000 ท่านหยิบเหรียญให้มาถุงหนึ่ง (ร้อยเหรียญ)
น้าผมเพิ่งทำงานใหม่ๆ ไม่ค่อยมีเงิน บูชามา 10 เหรียญ
เอามาแบ่งๆ กันกะญาติๆ พี่น้อง คนละเหรียญสองเหรียญ

เหรียญรุ่นนี้ปัจจุบันเล่นหากันที่หลักร้อยแก่ไปจนถึงเกือบๆ พัน
เนื่องด้วยประสบการณ์เข้มขลังดีเหลือเกิน

จริงอยู่ใช่ว่าเหรียญจะดัง จะแพงกันเสียทุกรุ่น
แต่สำหรับพระเถระแบบหลวงปู่ครูบาอิน อินฺโทแล้ว...
ผมเชื่อมั่นครับว่า วัตถุมงคลของท่านที่ก่อประสบการณ์มาโดยตลอด
จะทำให้ได้รับความนิยม จนท่านสามารถแขวนบูชาได้อย่างมั่นใจ
และไม่อายใครเลย แน่นอน...

ธีระยุทธ





ธีระยุทธ

 

หวัดดีครับ...

คิดถึงเน่อ... ว่าจะเข้าไปขอขุนแผน กับพระหลวงปู่ทวด
ที่โต้งสร้างถวายครูบาจันทร์แก้ว จะเอาไปฝากเพื่อนด้วย
เดี๋ยวจะโทรหาเน่อ...

อ้ายไก่

 

(deejai)ถ้าจะฝากขอด้วยแล้วผมขึ้นไปรับกับคุณธีระยุทธ จะได้ไหมครับเนี่ย ผมเนี่ยเจ้ากรมฝากของแท้ ฝากบอกคุณโต้ง สายครูบาด้วยนะครับว่าผมกลัวของดีจะหมดก่อนครับ

ศิวฤทธิ์

 

ได้เลยครับคุณศิวฤทธิ์
เพราะผมเองก็เจ้ากรมขอตัวจริงเหมือนกันครับ
ว่าแต่ว่า ท่านเจ้าภาพโต้ง จะว่าประการใด... แฮะแฮะ

ธีระยุทธ

 

เหรียญเงิน ครูบาอิน วัดฟ้าหลั่ง PRALANNA.COM
มีเนื้อเงิน......น่าสนใจครับ คุณ <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->wannabexcite<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_3286527", true); </SCRIPT> ช่วยบอกรายละเอียด
ให้ทราบด้วยครับ

 

สวัสดีครับ คุณ fujiayu...

ไม่ทราบว่าวัตถุมงคลของคุณสุดีพร และ คุณภัทราวรรณ ที่ขาดไป ได้รับรึยังครับ
ถ้ายังไม่ได้รับ หรือติดขัดยังไง ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ก่อน
และขอรบกวนโทรแจ้งได้ตลอดเวลาเลยนะครับที่ 085-9124161

เข้าเรื่องเหรียญตามลิ้งค์ที่ส่งมานะครับ
เหรียญรุ่นนี้ ชื่อว่า รุ่น "ชยมํคลํ"... ปี 2537 ถ้านับตามรุ่นก็เป็นรุ่นที่ 13 ครับ

เหรียญรุ่นชยมังคลัง (ชะยะมังคะลัง) ผู้สร้างถวายเป็นพระครับ สังเกตุตรงจีวรหลวงปู่จะแกะพิมพ์เป็นฉายา "สิริธมฺโม" ไว้... ผู้สร้างท่านไม่อยากให้เปิดเผยชื่อ ก็ขอบอกไว้เพียงเท่านี้นะครับ ส่วนผู้ที่ดำเนินการจัดสร้างในครั้งนั้น คือ พระอาจารย์ไพบูลย์ อินทปัญโญ (หรือท่านพิณ) พระอุปัฏฐากของหลวงปู่ กับลูกศิษย์ของหลวงปู่อีกกลุ่มหนึ่ง ซึ่งเป็นอาจารย์ และเป็นเจ้าหน้าที่อยู่สำนักทะเบียนและประมวลผล มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ สร้างขึ้นเพื่อให้หลวงปู่แจก ส่วนหนึ่งเอาใส่ตู้ให้คนบูชา

เหรียญนี้มีเนื้อเงิน จะตอกโค้ต (เป็นรูปดอกจันทร์แฉกๆ) ตรงสังฆาฏิ 2 โค้ต, เนื้อนวโลหะ 1 โค้ต, เนื้อทองแดง ไม่ตอกโค้ต... จำนวนการสร้างเนื้อทองแดงประมาณ 5,000 เนื้อนวโลหะ ประมาณ 300 เหรียญ และเนื้อเงิน 119 เหรียญ

((หมายเหตุ: ก่อนหน้านี้ ผมได้แจ้งจำนวนการสร้างโดยใช้คำว่า "ประมาณ" เพราะผู้สร้างที่ผมได้สนทนาด้วย ไม่ได้จดบันทึกจำนวนไว้ อาศัยข้อมูลจากความจำเท่านั้น .... แต่ต่อมา ผมได้ทราบข้อมูลเพิ่มเติมจากทีมงานผู้สร้างเหรียญรุ่นนี้อีกท่านหนึ่ง จึงได้ทราบจำนวนแน่นอน)))

หลวงปู่ปลุกเสกเดี่ยว... ผมเองก็แขวนเหรียญรุ่นนี้อยู่เหมือนกันครับ (สลับกับรุ่นอื่นบ้าง)... เพราะชอบพระคาถาด้านหลัง ซึ่งเขียนเป็นภาษาล้านนา อ่านว่า... เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โหนตุเต ชยมังคลัง... ซึ่งตัดตอนมาจากพระคาถาพระเจ้าชนะมาร... แล้วก็มียันต์พระเจ้าห้าพระองค์ อีกด้วย...

เหรียญดีครับ ราคายังไม่แพง ...ยังพอหาได้และไม่มีปลอม...
หากสนใจเนื้อทองแดง บูชาได้ที่วัดฟ้าหลั่งครับ

สำหรับตามลิ้งค์ที่ คุณ fujiayu ส่งลอง้ค์ให้ดูนั้น ผมได้โทรสอบถามแล้วครับ
เจ้าของพระเปิดราคาบูชาไว้ที่ 3,500 หากต่อรองกันจริงๆ น่าจะได้ประมาณ 3,300-3,200
ถือว่าราคาค่อนข้างสูงครับ... แต่ความศรัทธา คงตีเป็นตัวเลขราคาได้ยาก
สิ่งที่ถือว่าแพงสำหรับคนหนึ่ง อาจจะไม่แพงเลยสำหรับอีกคน ขึ้นอยู่กับความพอใจครับ

ธีระยุทธ

 

สวัสดีครับ....คุณ <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->wannabexcit ได้รับของครบแล้ว ผมเองยังคิดจะบูชาเหรียญ
รุ่นนี้เพิ่ม แต่คงไม่ใช่เหรียญเงิน (ราคาสูงไปนิด) เพราะได้บูชาประคำแล้วมีเหรียญ
นี้ติดอยู่ด้วย ไม่ทราบว่าที่วัดใหม่หนองหอยยังมีอยู่หรือเปล่า.....
เหรียญรุ่นไหนครับที่เด็กแขวนแล้ว เข็มขีดยาไม่เข้า น่าสนใจอีกแล้วครับ

 

อยากรบกวนคุณธีระยุทธ ให้ความรู้เรื่องการสังเกตุเหรียญรุ่น 1 หลวงปู่ด้วยครับ ว่ามีจุดสังเกตุแท้ไม่แท้อย่างไร อยากดูภาพเปรียบเทียบด้วยครับ

 

สวัสดีครับ...

เรียกผมว่า ธีระยุทธ หรือ ไก่ ก็ได้ครับ จะได้สะดวกเวลาคุยกัน
ผมไม่ค่อยแน่ใจว่า คุณ fujiayu (ขออนุญาตเรียนถามชื่อด้วยนะครับ)
หมายถึงเหรียญรุ่นไหน เพราะเราเริ่มต้นคุยกัน เรื่องเหรียญปี 2537
แต่ถ้าเป็นเหรียญที่ "ห้อยติดประคำ" น่าจะหมายถึงเหรียญรุ่น "ตัดรุ้ง"
"ขอให้รวย ขอให้อยู่ดีมีสุข" ปี 2545 มากกว่า

เพื่อไม่ให้สับสน เลยขอพูดถึงทั้งสองรุ่นเลยละกันครับ

เหรียญรุ่น 2537 ที่วัดฟ้าหลั่งยังมีให้บูชาที่วัดฟ้าหลั่ง เนื้อทองแดงครับ
แต่เหรียญเงินไม่มีครับ ถ้าอยากได้คงต้องหาบูชาตามแผงครับ
ราคาอาจจะไม่ถึง 3500 อย่างที่ร้านนั้นเค้าเปิดราคาไว้
แต่ก็ต้องใจเย็นๆ ค่อยๆ หากันไปครับ

ส่วนเหรียญรุ่น ลายเซนต์ "ขอให้รวย ขอให้อยู่ดีมีสุข" ปี 2545
ที่วัดยังมีให้บูชาทั้งเนื้อทองแดงรมดำ และ เนื้อเงินครับ
ส่วนเนื้อเงินลงยาหมดไปแล้ว
ติดต่อบูชาที่วัดใหม่หนองหอยได้เลยครับ

เหรียญที่เด็กแขวนแล้ว ฉีดยาไม่เข้า เรื่องนี้เคยได้ยินมานานแล้วครับ
แต่ผมรู้แต่เพียงว่าเป็นเหรียญของหลวงปู่ครูบาอิน ไม่ทราบรุ่นไหนครับ
แต่เทียบเคียงเรื่องราว กับระยะเวลาที่เคยได้ยินคนเล่ามา
น่าจะเป็นเหรียญยุคปี 36-39 นี่แหละครับ
ช่วงนั้น วัดฟ้าหลั่งมีงานบ่อย หลวงปู่แจกพระเยอะมาก
น่าจะเป็นพระที่สร้าง และแจกกันในช่วงนั้นครับ
นี่ผมเดาเอานะครับ พี่ เพื่อนๆ ท่านไหนพอจะทราบเรื่อง
ช่วยมาเล่าให้ฟังหน่อยครับ

ธีระยุทธ

 

สวัสดีครับ เพื่อน พี่น้อง ทุกท่าน

วันอาทิตย์ที่ผ่านมา เป็นวัน “หวยออก” ครับ
หลายท่านที่ที่ชื่นชอบในการเรื่องนี้ ก็คงจะได้ “เสี่ยงโชค” กันไปบ้างมากน้อยตามแต่ความชอบ
ส่วนตัวของผมเองแล้ว เคยได้รับคำทำนายทายทัก ทั้งจากบรรดาพ่อหมอแม่หมอ
และครูบาอาจารย์หลายๆ ท่าน มาเนิ่นนานแล้วว่า “อย่าได้หวังกับสิ่งเหล่านี้เลย”
เพราะตามพื้นดวงชะตาแล้ว ไม่มีโชคกับ “ลาภลอย” อย่างนี้
และก็เหมือนจะเป็นจริงตามคำทำนาย เพราะตั้งแต่เกิดมาจนมีอายุสามสิบกว่าๆ
ยังไม่เคย “ถูกหวย” เลยแม้แต่ครั้งเดียวในชีวิต

ผมซื้อบ้างครับ นานนนนนนๆๆๆ ครั้ง ส่วนใหญ่จะเป็นล็อตเตอรี่การกุศล
เวลาเจอคนตาบอดบ้าง คนแก่บ้าง เอามาขาย เท่านั้น
เรื่องจะฝัน หรือจะลุกขึ้นมาดั้นด้นซื้อหวย ไม่เคยเกิดขึ้นเลยครับ

หลวงปู่ครูบาอินเอง ท่านก็ไม่นิยมให้คนเล่นหวย เล่นการพนันใดๆ
ใครมาถามขอหวย ขอโชคขอลาภจากท่าน ท่านก็จะไม่สนใจ
และหากยังไม่หยุดขอหวยจากท่าน อาจจะเจอเหตุการณ์ที่ท่าน
“เดินหนี” เข้ากุฏิไปเลย เรื่องนี้จำได้ว่าผมเคยเล่าไปแล้ว
หลังๆ มาลูกศิษย์ลูกหา เลยต้องทำป้ายติดไว้ที่หน้ากุฏิเลยว่า
“หลวงปู่ท่านเป็นพระปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ... ห้ามขอหวย”
และท่าไม่เชื่อ อาจจะโดนท่าน “ออกฤทธิ์” เอาได้... แฮะ แฮะ

แต่ที่ผมหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูดถึงในวันนี้ก็เพราะว่า
เมื่อบ่ายๆ วันอาทิตย์ ผมได้ไปทำธุระแถวๆ เวียงท่ากาน และได้แวะแผงพระตรงแยกทุ่งเสี้ยว
ผมไปเจอคุณลุงท่านหนึ่ง เป็นชาวบ้านทุ่งปุย เพิ่งกลับจากตลาดเลยมาแวะดูพระที่แผง เช่นกัน
หลังจากพูดคุยกันอยู่พักหนึ่ง ก็วกมาเรื่องหวย ซึ่งอีกไม่กี่ชั่วโมงจะถึงเวลาหวยออก
คุณลุงท่านนี้ท่านเล่าว่า ท่านก็เป็นผู้หนึ่งที่เคยได้โชคได้ลาภจากหวย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อครั้งหนึ่ง ที่ชาวบ้านทุ่งปุยถูกหวยกันถ้วนหน้า
จากเลขที่ได้โชคจากหลวงปู่ครูบาอิน....????!!!!!!

ฟังถึงตรงนี้ผมก็เริ่มแปลกใจว่า มีด้วยเหรอ เลขจากหลวงปู่ครูบาอิน
เพราะอย่างที่เล่ามาข้างต้น ร้อยวันพันปี หลวงปู่ท่านไม่เคยชื่มชมส่งเสริมเรื่องนี้

คุณลุงท่านเล่าต่อว่า เป็นครั้งที่วัดทุ่งปุยมีงานอะไรสักอย่างหนึ่ง
มีคนมาร่วมงานจำนวนมาก ทั้งชาวบ้านทุ่งปุยเอง และลูกศิษย์ลูกหาจากที่อื่น
และมีเหตุการณ์อะไรสักอย่างเกิดขึ้น ซึ่งคุณลุงท่านก็จำเหตุการณ์ไม่ได้
แต่สรุปว่า... ท้ายที่สุดมีการพูดถึงตัวเลข และมีการนำเอาไปแทงหวยกัน
และวันนั้นเอง หวยก็ออกมาแบบตรงๆ อย่างไม่ต้องบวกเพิ่ม หรือหักลบอย่างไรเลย

ตอนที่ฟังเรื่องราว... ผมยังประติดประต่อเรื่องไม่ได้ แต่เก็บความสงสัยว่า “เรื่องนี้คุ้นๆ”
หลังจากกลับมาถึงบ้านเย็นวานนี้ ผมจึงได้เปิดดูบทความจากนิตยสารพระเครื่องเก่าๆ ที่ผมเก็บไว้
จึงได้รู้ว่า แท้ที่จริงแล้วเป็นเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นเมื่อครั้งพิธีพุทธาภิเษก วัตถุมงคลรุ่น “ไจยะเบงชร” ครับ
และคุณเนาว์ นรญาณ ได้นำเรื่องนี้ไปเขียนลงในนิตยสาร “พุทธคุณ” อีกด้วย
ผมขอยกตอนบทความตอนนั้นมาให้ทุกท่านลองอ่านกันดูครับ...
______________________

และก่อนที่จะได้เวลาอันเป็นอุดมฤกษ์ คือเวลา ๑๑ นาฬิกา ๒๙ นาที หลวงปู่วรวุฒิคุณก็ได้มีการบัญชาสั่งให้นำพระเครื่อง และวัตถุมงคลของท่านที่แช่อยู่ในบาตรน้ำมนต์ออกให้หมด
ไม่เคยปรากฏมีมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นการครั้งไหนทั้งสิ้น
นับได้ “๒๙” องค์อย่างพอดิบพอดี
ซึ่งการในครั้งนี้ ตกตอนบ่ายก็ “ได้เรื่อง” ในทันที
เสียงกรี๊ดสนั่นแทบจะลั่นไปทั่วบ้านทุ่งปุยด้วยความสะใจและสมใจไปตามๆ กัน เมื่อเลขท้าย ล็อตเตอรี่รัฐบาลในวันเดียวกันนั้น ออกเลข “๙๒” อย่างไม่ต้องเอาต้องดักหน้าดักหลังอะไรให้มากความ
หลวงปู่วรวุฒิคุณท่านคงจะ “โปรยทาน” ด้วย “มหาโชค มหาลาภ” เริ่มต้นที่ประเดิมแห่งปฐมมงคลฤกษ์เบิกดิถีมหาพิธีชินไจยะเบงชรพุทธาภิเษก อันสูงสุดนี้หรอกกระมัง
______________________

เสียดายที่ตอนคุยกับคุณลุงท่านนั้น ผมจำไม่ได้ว่าเรื่องนี้เคยลงนิตยสารมาก่อน
ไม่งั้นคงจะคุยกับคุณลุงท่านได้ออกรสมากกว่านี้...

เหตุการณ์นี้ อาจจะเป็นแค่ความ “บังเอิญ” ในทัศนะของผู้ที่เชื่อในหลักวิทยาศาสตร์
ที่สิ่งที่เกิดขึ้น ต้องมีเหตุ มีผล มีหลักฐานพิสูจน์ได้
แต่สำหรับปุถุชนที่ยังเชื่อมั่นในสิ่งมหัศจรรย์ที่นอกเหนือการอธิบายของวิทยาศาตร์
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คงเป็นอีกหนึ่งเมตตาบารมี ขององค์หลวงปู่ครูบาอิน
ดั่งที่คุณเนาว์ นรญาณ เปรียบไว้ ว่าเป็นการ “โปรยทาน” ของหลวงปู่ท่านนั่นเอง

พี่ๆ เพื่อนครับ โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชมนะครับ...

ธีระยุทธ

 

สวัสดีครับคุณธีระยุทธ
เรื่องของครูบาอินนั้นมีความอัศจรรย์อยู่หลายครั้ง ผมเองเคยอธิษฐานถามผลการแข่งขันบอลโลกในสมัยนั้นกับพระของหลวงปู่ ถูกทุกคู่ครับ แต่ไม่เคยเอาไปเล่นพนันใดๆ เพียงแต่อยากรู้เฉยๆ เชื่อเต็ม 100 ครับ
อยากถามคุณธีระยุทธด้วยว่าพอทราบประวัติพระขุนแผนรุ่น 1 ของครูบาเผือกวัดไชยสถานรุ่นสร้างเจดีย์หรือเปล่าครับ เห็นพระท่านว่าครูบาอินและพระสายทางเหนือเก่งๆหลายรูปร่วมเข้าพิธีด้วย มีการโฆษณากันตามเวปศูนย์พระคิดว่าคนคงนิยมกันพอสมควร
และฝากถามอีกเรื่องนะครับ พระผงและเหรียญต่างๆที่วัดหนองหอยยังให้ทำบุญราคาเดิมที่เคยแจ้งไว้หรือเปล่าครับ วันก่อนผมสอบถามกับท่านอาจารย์อินทรเห็นท่านว่าบางอย่างท่านจะต้องเก็บไว้ตอบแทนกับผู้มีอุปการะคุณกับทางวัดที่ร่วมเป็นเจ้าภาพงานบุญต่างๆ เกรงใจท่านไม่ค่อยกล้าซักถามท่านถึงเรื่องราคาครับ
ขอบคุณครับ
รักษ์พระ