ไม่เคยฝึกมโนมยิทธิ แต่สิ่งที่ตัวเองสื่อได้ คล้ายๆจะมาทางด้านนี้

"ทอดผ้าป่าประจำปี" ศูนย์พุทธศรัทธา "วันวิสาขบูชา" วันศุกร์ที่ ๒๘ พฤษภาคม ๒๕๕๓

สวัสดีค่ะ ท่านสมาชิกเรือธรรมทุกท่าน ตามที่พวกเรา ทีมฉก. (คณะทำงานเฉพาะกิจ) (ฮา.. เห็นช่วงนี้ชื่อย่อ เค้ามาแรง..) ได้ขอร่วมบุญจัดผ้าป่า 1 กอง ในนามคณะชุมชนมโนมยิทธิศิษย์หลวงพ่อฤาษีลิงดำ เว็บพลังจิต ไปร่วมทอดผ้าป่าประจำปี ณ ศูนย์พุทธศรัทธา สำนักปฏิบัติพระกรรมฐานสาขาวัดท่าซุง อ.บ้านหมอ สระบุรี ในวันวิสาขบูชา วันศุกร์ที่ ๒๘ พฤษภาคมนี้

ตามที่แจ้งในทราบแล้วนั้น ตามสรุปรายชื่อที่มีกัลยาณมิตรแจ้งยอดปัจจัยร่วมบุญผ้าป่า ตามที่น้องเบนจดไว้ (หน้า ๓๐๗) มีรายชื่อดังนี้ค่ะ

ทุกท่านสามารถแจ้งยอด และโอนเงินเข้าบัญชีกลาง
ธนาคารกสิกรไทย สาขาซีคอนสแควร์
ชื่อบัญชี จันทนา โชติกาญจนวิทย์ และ สุนันทา ใจดี
บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 095-2-70865-3

ปิดรับ วันที่ 21 พ.ค. 53 ค่ะ<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->

ด้วยอานิสงค์ผลบุญนี้ ขอให้กัลยาณมิตรทุกท่านมีความเจริญในธรรมยิ่งๆ ขึ้นไป อย่าได้พบกับคำว่าไม่มี ไม่ได้ ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพานเทอญ. สาธุ..

 

ว้าวว....ได้ฤกษ์โอนตังค์ผ้าป่าศูนย์พุทธศรัทธากันแล้วววว .. เย้! (^_^)
ก่อนอื่นขออนุโมทนาบุญกับพี่สาว,คุณหนิง,น้องตู่,น้องเบน,น้องเล้ง,น้องฝน และคณะด้วยนะคะ
ที่กรุณาเอาบุญมาฝากทั้งทริปหนองคาย และสร้างกุฏิหลวงปู่ จ.สระบุรีค่ะ...
ขอบพระคุณและอนุโมทนาบุญกับทุกๆ ท่านด้วยนะคะ....สาธุ สาธุ สาธุ (^_^)

กบเองก็หายต๋อมไปเสียนานเลย..อิ อิ ..หยุดยาวววววว
แต่ยังไงก็กลับมาแล้วนะค่า .. เอาบุญมาฝากทุกท่านด้วยนะคะ
งานแรกก่อนเลย - วันที่ 3-5 เม.ย.เป็นงานหล่อสมเด็จองค์ปฐมที่วัดสันป่าสัก อ.แม่แตงจ.เชียงใหม่
มีกบ+คุณแม่+น้องฝน เดินทางจากกทม.ไปสมทบกับคณะทั้งหมดที่เชียงใหม่ค่ะ
ได้พบน้องอ้อย(แม่แจ่ม)พร้อมคุณแม่และครอบครัว,พี่ว่าน,น้องพุทธ,พ่อพจน์ ฯลฯ
ดีใจกันมากมายที่ได้พบหน้ากัน ราวกับไม่ได้เจอกันนานแสนนานอย่างนั้นแหละ..
ร่วมช่วยกันเทปูนหล่อพระอย่างสนุกสนาน และมีความสุข ...เข้าไปชมภาพกันได้นะคะที่
http://palungjit.org/threads/4-เมษายน-53-ร่วมเป็นเจ้าภาพหล่อพระองค์ปฐม-วัดสันป่าสัก-ศรีภูมินทร์-อ-แม่แตง-จ-เชียงใหม่.221284/
และน้องอ้อยได้มีเมตตาพากบไปกราบพระพุทธบาท 4 รอยด้วยค่ะ ..ดีใจและประทับใจมาก
ได้ไปกราบหลวงปู่สังข์ด้วยค่ะ ..

งานที่สอง - ช่วงหยุดสงกรานต์เริ่มตั้งแต่ 10-17 เม.ย.เลยค่ะ..ทริปนี้ลุยมาก
1. ไปจ.เพชรบูรณ์ ถวาย cd และหนังสือธรรมะกับหลวงพ่อสี ที่ธุดงถ์สถาน
2. ร่วมทำบุญทุกอย่าง และถวายเพลกับหลวงพ่อวิรัช วัดป่าธรรมยาน จ.เพชรบูรณ์
3. ไปกราบพระพุทธบาท 4 รอย, ปิดทองลูกนิมิต,ทำบุญสร้างถนน,ทำบุญซื้อกระเบื้อง ฯลฯ จ.เชียงใหม่
4. ไปกราบหลวงปู่สังข์ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่
5 ไปกราบสมเด็จองค์ปฐมที่วัดสันป่าสัก อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่
6 ไปกราบพระที่วัดบ้านเด่น ครูบาเทือง (ตอนไปไม่เจอครูบาค่ะ)เลยทำบุญหยอดตู้
7 ไปกราบพระธาตุศรีจอมทอง อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ ร่วมทำบุญถวายตุง,
สรงน้ำหลวงพ่อเพชร,ถวายสังฆทาน,ทำบุญผ้าป่า,ทำบุญผ้าห่มเจดีย์,หยอดตู้ต่างๆ,
และซื้อบาตรทองเหลืองใส่เหรียญเงิน-ทองเต็มบาตร ถวายพระบรมสารีริกธาตุ
8 ไปเยี่ยมพี่ว่าน,น้องทราย และพ่อพจน์ที่บ้านจอมทองด้วยค่ะ ร่วมทำบุญหนังสือด้วยค่ะ
เสียดายที่ไม่ได้เข้าแม่แจ่มไปเยี่ยมน้องอ้อย..เนื่องจากรถไม่เอื้ออำนวยและเวลาไม่พอด้วยค่ะ
ไว้โอกาสหน้านะจ๊ะน้องอ้อย .. แล้วพี่จะไปหาน้องที่แม่แจ่มให้ได้เลย..อิ อิ
9. ไปกราบหลวงตาพวง วัดป่านาบุญ อ.แม่แตง แต่ไม่เจอท่านค่ะ
10. ไปทำบุญปิดทองฝังลูกนิมิตที่วัดเมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่
11. ไปไหว้พระที่ถ้ำเชียงดาว อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่
12. ไปกราบสมเด็จองค์ปฐมที่สนส.พระธาตุผาชุม อ.พาน จ.เชียงราย
(ทาสีใหม่)และได้ถวายผ้าตาดดิ้นทองปักคริสตัลแก่พระองค์ด้วยค่ะ
13. ไปกราบหลวงปู่อิน ตาทิพย์ อายุ 96 ปี วัดห้วยประสิทธิ์ อ.พาน จ.เชียงราย
14. นำปัจจัย+แผ่นทอง+พระบรมสารีริกธาตุ ของทางคณะอจ.เล็ก และคณะพี่สาว
ถวายเป็นผ้าป่าที่สนส.ใต้ร่มโพธิญาณเจ้า จ.กำแพงเพชร
15. ร่วมทำบุญสร้างโบสถ์วัดมอสำราญ จ.กำแพงเพชร
16. ร่วมทำบุญหล่อพระ และสร้างเจดีย์กับแม่ชีไน้ วัดปากอ่าง(อุทัยทอง)จ.กำแพงเพชร
อ่านเรื่องแม่ชีได้ทีเว็บนะคะ -> http://www.santidham.com/ETC/BOOKDHAM/maenai/maenai.html

ขอทุกท่านได้อนุโมทนาบุญด้วยกันทุกประการนะคะ .. สาธุ (^_^)

 

ขออนุโมทนาบุญกับผู้ร่วมทอดผ้าป่าประจำปี 2553 ทุกคน และอนุโมทนากับบุญ
อันยาวเหยียดของคุณกบ-สังสารวัฎค่ะ

วันนี้จินมีข้อสงสัยบางประการ อยากเรียนถามพี่สาว และท่านผู้รู้ในนี้ช่วยให้ความกระจ่าง
การกินเจเป็นบุญหรือไม่
ถ้าใช่ ทำไมพระพุทธองค์ไม่ทรงบัญญัติไว้ในศีลที่เราควรปฎิบัติ
หรือ อย่างน้อยก็บุญกิริยาวัตถุ 10 ก็ยังดี

เรื่องของเรื่องก็คือ...
มีคนพยายามชวนให้จินรับธรรมะค่ะ
จินก็พยายามบ่ายเบี่ยงไปเรื่อย
เพราะหลักปฎิบัติของเขาก็คือ
ต้องกินเจตลอดชีวิต
เขาบอกว่าได้บุญมหาศาล
เรื่องอย่างนี้จินว่าต้องเชื่อพระสัพพัญญู
คือพระพุทธองค์เท่านั้น ..จริงไหมคะ

 

เอามาให้อ่านกันค่ะ

ตอบ: ต้องหลวงปู่แหวน คนไปคุยหลวงปู่แหวนบอกว่า เขาเป็นมังสะวิรัต เขาคุยลักษณะที่ว่าดีกว่าคนอื่นเขา หลวงปู่แหวนก็เปรย ๆ ขึ้นมา ท่านบอกว่าเห็นวัวเห็นควายมันกินหญ้าทั้งชีวิต ไม่เห็นว่าเป็นพระอรหันต์ซะที ( หัวเราะ) นั้นท่านพูดเปรย ๆ นะท่านไม่ได้ว่าใครคือเวลาคนคุยใส่ท่านมาก ๆ ท่านก็คงเซ็งในอารมณ์ โดยเฉพาะที พระเทวทัต ขอพระพุทธเจ้าว่าขอให้พระภิกษุในธรรมวินัยนี้ฉันมังสะวิรัตทุกองค์ พระพุทธเจ้าบอกว่า ผู้ใดต้องการเป็นมังสะวิรัต ก็ให้ฉันมังสะวิรัต ผู้ใดต้องการฉันอาหารปกติ ก็ให้ฉันปกติ เพื่อจะได้ไม่ลำบากแก่ญาติโยมที่เขาให้อาหารไม่อย่างนั้น สมมุติว่าพระสององค์ไปบ้านเดียวกัน ก็แย่ละสิ ต้องอาหารปกติชุดหนึ่งอาหารมังสะวิรัตชุดหนึ่ง ลำบากเขาเยอะ

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ปัญหาการบริโภคเนื้อสัตว์ โดยหลวงพ่อฤาษีลิงดำ

ผู้ถาม : " เรื่องการถวายอาหารพระนะครับหลวงพ่อ เวลาอุบาสิกานำอาหารไปถวายพระ แล้วก็เอาอาหารพวกเนื้อสัตว์ไปถวาย จะบาปไหมครับ...? "
หลวงพ่อ : " ถามไม่ละเอียดนี่ อาตมาตอบไม่บาปเลยก็ได้ คือ เนื้อสัตว์ที่เขาฆ่าแล้วและไปซื้อมา เราไปบังคับให้เขาฆ่าเมื่อไรละ ใช่ไหม...? "

ผู้ถาม : " ถ้าเราไม่กินเขาก็ไม่ฆ่า "
หลวงพ่อ : " ถ้าเขาไม่ฆ่าเราก็ไม่ซื้อ เราไม่ซื้อเขาก็ฆ่า เราไม่ซื้อคนอื่นซื้อ เขาก็ฆ่า ถ้าเราสั่งให้เขาฆ่าซิ "วันนี้ไก่ ๓ ตัวนะ" "วันนี้ขอหมูให้ฉัน ๑ ขานะ" "พรุ่งนี้จะแต่งลูกสาว เอาวัว ๓ ตัว หมู๓ ตัวนะ" อย่างนี้บาป ตั้งแต่เริ่มสั่ง พระยายมบันทึกแล้ว บันทึกตั้งแต่สั่งแล้ว ถ้าตายไปก่อน รับวัวรับหมูนะ ลงเลย "

ผู้ถาม : " ก็หมายความว่าบาปเฉพาะ คนสั่งฆ่า กับ คนฆ่า...! "
หลวงพ่อ : " คนไหนฆ่าสัตว์คนนั้นก็บาป คนไหนสั่งคนนั้นก็บาป เราซื้อที่เขาฆ่ามาขาย กินเท่าไรเราก็ไม่บาป เพราะไม่เป็นบาปพระพุทธเจ้าจึงไม่ห้าม ที่ไม่ห้ามเพราะว่าเขาฆ่าเป็นปกติอยู่แล้ว
คำว่า บาป นี้แปลว่า ชั่ว บุญ แปลว่า ดี ทำชั่วแปลว่าบาป ทำดีเรียกว่าบุญ ทีนี้ชีวิตเขามีอยู่เราไปฆ่าเขา ชีวิตของเรา เราก็ไม่ต้องการให้คนอื่นเขาฆ่า ถ้าเราไปฆ่าเขาเราก็เป็นคนชั่ว ฉะนั้นถ้าเขาไปฆ่ามาแล้ว เราไปซื้อกิน อันนี้ไม่ชั่วเพราะไม่ได้สั่งให้เขาฆ่า แต่ว่าถ้าเอาเนื้อมาแล้วบอก "เฮ้ย พรุ่งนี้เพิ่มหน่อยซีเว้ย" ทีนี้เอาแน่ ต้องว่ากันอย่างนี้นะ "

ผู้ถาม : " มีคนเขาบอกว่า การฆ่าสัตว์ คนฆ่าไม่บาปเท่าไรแต่คนกินบาป และเขายังบอกอีกว่า ถ้าไม่กินแล้วใครจะฆ่า "
หลวงพ่อ : " คิดเอาเองมากกว่า คนกินเขาไม่ได้สั่งให้ฆ่า นี่เขาฆ่าขาย ถ้ามีขายเขาก็ซื้อกิน จะไปโทษคนกินเขาไม่ได้หรอก ถ้าคนกินสั่งให้เขาฆ่าอันนี้จึงบาป ไม่งั้นพระพุทธเจ้าคงจะห้ามพระฉันเนึ้อสัตว์ นี่เขาว่ากันเอาเอง ไม่ถูกหลักเกณฑ์อะไรหรอก พระพุทธเจ้าตรัสว่า

"เจตนาหัง ภิกขเว กัมมัง วทามิ"
"ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราถือเจตนาเป็นตัวกรรม"

เจตนา แปลว่า ตั้งใจ ถ้าตั้งใจคิดจะฆ่าแล้วลงมือฆ่าอันนี้บาปแน่ "


ผู้ถาม : " ถ้ารับประทาน อาหารมังสวิรัติ จะตัดกิเลสได้ หรือเปล่าคะ...? "
หลวงพ่อ : " ถ้าตัดได้จริง พระพุทธเจ้าคงยอมตามที่พระเทวทัตขอพรแล้ว ฉันลองมา ๓ ปี เมื่อบวชใหม่ ๆ ฉันไม่กินเนื้อสัตว์ด้วย แล้วฉันหนเดียวด้วย และฉันไม่บอกชาวบ้านด้วย ถ้าบอก ชาวบ้านก็ต้องทำอาหารลำบาก ก็ไปบิณฑบาตธรรมดา แต่เนื้อสัตว์เราไม่กิน บางวันไม่มีอะไรมาให้เลย ก็กินเกลือกับหัวหอมกินผักเป็นอาหาร ลองมา ๓ ปี ไม่เห็นกิเลสมันลดเลย แต่ว่าถ้าไม่กินได้นี่ดีนะ ฉันสรรเสริญ ถ้าเป็นฆราวาสนะ เพราะว่าจะได้ไม่กังวลเรื่องเนื้อสัตว์ จิตของเราก็ตัดบาปไปจุดหนึ่ง ใช่ไหม ...
ในปฐมบัญญัติของสิกขาบท สังฆาทิเสส ข้อที่ ๑๐ มีเรื่องเล่าว่า พระเทวทัตเข้าไปหาพระโกกาลิกะ โอ้โฮ ... นี่อยู่อเวจีทั้งคู่ ใครไปอเวจี ไปมอง ๆ ดูนะ พระเทวทัตยีนกางแขนกางขา โกกาลิกะนั่งชันเข่า หอกเสียบสบาย ๆ แล้วก็พระกฏโมรกติสสกสะ พระที่เป็นบุตรของนางขัณฑเทวี และ พระสมุทททัต ชักชวนให้พระสงฆ์แตกกัน ใครบ้างล่ะ ... พระเทวทัต เป็นหัวหน้าโจก โกกาลิกะ รองประธาน พระกฏโมรกติสสกสะ และ พระสมุทททัตชักชวนให้สงฆ์แตกกัน พร้อมทั้งบอกแผนการที่จะเสนอแผนการให้เคร่งครัดยิ่งขึ้น มี ๕ ข้อ ซึ่งเข้าใจว่าพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงไม่อนุญาต และตนจะนำข้อเสนอขึ้นประกาศแก่มหาชน

ข้อเสนอ ๕ ข้อนั้น คือ อันนี้ฟังให้ดีนะ ข้อนี้ดีมาก เวลานี้คนที่ปฎิบัติผิดมีเยอะ ไปหลงผิดว่าไอ้ที่เราทำนี่ดีนี่หว่า ข้อเสนอของพระเทวทัต ๕ ข้อ เวลานี้พระสาวกของพระเทวทัตก็มีเยอะเหมือนกัน ถือว่า ๕ ข้อ ที่พระเทวทัตขออนุญาตนี้ นึกว่าเป็นของดีกันนัก สงสารชาวบ้าน ข้อเสนอของเทวทัต ๕ ข้อ คือ

๑. ภิกษุพึงอยู่ป่าตลอดชีวิต เข้าละแวกบ้าน ต้องมีโทษ หมายความว่า พระทุกองค์ที่บวชแล้ว ห้ามเข้าหมู่บ้านโดยเด็ดขาด ต้องอยู่เฉพาะในป่า ห้ามโผล่หน้าเข้ามาในบ้าน

๒. ภิกษุถือบิณฑบาตเป็นวัตรตลอดชีวิต เป็นวัตร หมายถึง ปฎิบัติ ต้องบิณฑบาตตลอดชีวิต ผู้ใดรับนิมนต์ไปฉันตามบ้านต้องมีโทษ นี้เป็นความต้องการของพระเทวทัต รู้แล้วว่าทำไม่ได้ แต่แกล้งขอ

๓. ภิกษุพึงใช้ผ้าบังสุกุล หมายความว่าผ้าเปื้อนฝุ่น ผ้าเศษผ้าที่เขาทิ้งตามกองขยะบ้าง ตามที่ต่าง ๆ บ้าง ตามที่เขาพันผีไว้บ้าง นำมาซัก นำมาย้อม มาปะติดปะต่อเป็นจีวรจนตลอดชีวิต ผู้ใดรับจีวรที่ชาวบ้านถวายต้องมีโทษ

๔. ภิกษุพึงอยู่โคนไม้ตลอดชีวิต ผู้ใดเข้าที่มุงที่บังที่มีหลังคาต้องมีโทษ

๕. ภิกษุไม่พึงฉันเนึ้อสัตว์ ผู้ใดฉันต้องมีโทษ

เห็นไหม ... การขอนี่เขาขอเพื่อเป็นการลบล้างไม่ใช่ทำได้ ภิกษุเหล่านั้นเห็นมีทางชนะร่วมด้วยว่า พระพุทธเจ้าแพ้แหง ๆ พระเทวทัตต้องชนะการเสนอญัตติแบบนี้ พระเทวทัตจึงได้เข้าไปเฝ้าสมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า กราบทูลข้อเสนอ ๕ ประการนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า

"ดูก่อน เทวทัต ผู้ใดปรารถนาจะอยู่ป่า ก็จงอยู่ป่า
ผู้ใดปรารถนาจะอยู่ในละแวกบ้าน ก็จงอยู่ในละแวกบ้าน
ผู้ใดปรารถนาจะเที่ยวบิณฑบาต ก็จงเที่ยวบิณฑบาต
ผู้ใดปรารถนาจะใช้ผ้าบังสุกุล ก็จงใช้ผ้าบังสุกุล
ผู้ใดปรารถนาจะใช้ผ้าไตวจีวรจากฆราวาสถวาย ก็จงรับได้
เราอนุญูาตที่นอนที่นั่ง ณ โคนไม้ตลอด ๘ เดือน หมายความว่าที่ไม่ใช่ฤดูฝน เป็นฤดูหนาว หรือฤดูแล้ง ถ้าจะไปยังงั้นก็ได้

เราอนุญาตเนื้อสัตว์ที่บริสุทธิ์โดย ๓ ส่วน คือ
๑. ไม่ได้เห็นเขาฆ่า
๒. ไม่ได้ยินเขาฆ่าเพื่อถวายพระ
๓. ไม่ได้รังเกียจคิดว่า เนื้อสัตว์นึ้น่ากลัวเขาฆ่าเพื่อเรา เช่น เขาฆ่าเจาะจงเพื่อจะให้ภิกษุบริโภค

พระเทวทัตดีใจที่พระผู้มีพระภาคเจ้าไม่ยอมรับสมเจตนาจึงได้เที่ยวประกาศให้เห็นว่า พระพุทธเจ้าไม่ยอมอนุญาตข้อเสนอที่ดีของตน ทำให้คนที่มีปัญญาทราม คนไร้ปัญญูาบางคนเห็นว่า พระสมณโคดมเป็นผู้มักมาก

โอ้โฮ ... ดีจริง ๆ นะ พระผู้มีพระภาคเจ้ามักมากแล้วใครจะมักน้อยอีก แต่คนที่เข้าใจเรื่องดี กลับติเตียนพระเทวทัตเอาแล้วซิ ... นี่พระไม่ดีทำให้ชาวบ้านแตกกัน ความทราบถึงพระผู้มีพระภาคเจ้า จึงได้เรียกประชุมสงฆ์ ไต่สวนพระเทวทัตเป็นสัตย์แล้ว จึงได้ทรงติเตียนและทรงบัญญัติสิกขาบทว่า

"ห้ามภิกษุพากเพียรเพื่อทำลายสงฆ์ให้แตกกัน เมื่อภิกษุอื่นห้ามไม่ฟัง ภิกษุทั้งหลายพึงสวดประกาศเป็นการสงฆ์เพื่อเลิกข้อประพฤตินั้นเสีย ถ้าสวดถึง ๓ วาระยังไม่เลิก ต้องอาบัติสังฆาทิเสส"

จำไว้ให้ดีนะ นี่บท ๕ ข้อนี้ ทวนเสียอีกทีนะ

๑. ภิกษุพึงอยู่ป่าตลอดชีวิต เข้าละแวกบ้านต้องมีโทษใครเขาจะทำ
๒. ภิกษุพึงถือบิณฑบาตเป็นวัตรตลอดชีวิต ถูกรับนิมนต์ฉันตามบ้านต้องมีโทษ
๓. ภิกษุพึงใช้ผ้าบังสุกุล คือ ผ้าเปื้อนฝุ่น ผ้าเศษผ้าที่เขากองทิ้งไว้ หรือผ้าห่อผีห่อคนตายตลอดชีวิต ถ้ารับผ้าที่เขาถวายต้องมีโทษ
๔. ภิกษุต้องอยู่โคนไม้ตลอดชีวิต ตลอดฤดูน้ำฤดูฝนไม่รู้ ถ้าเข้าบ้านที่มีหลังคาต้องมีโทษ
๕. ภิกษุไม่ฉันเนื้อสัตว์ ผู้ใดฉันมีโทษ

ทั้ง ๕ ข้อนี้พระพุทธเจ้าไม่อนุญาตนะ

เมื่อเห็นคนด้วยเมื่อเจอะพระเขาทำอย่างนี้นะละก็ญาติโยม อย่าถือว่าเขาเป็นคนเคร่งครัดนะ ต้องถือว่าเขาเป็นคนละเมิดพระดำรัสสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็แล้วกัน ... "

ผู้ถาม : " กระผมเป็นฆราวาสกินอาหารมื้อเดียว ทำอย่างนี้โดยตลอด ไม่ทราบว่าจะมีอานิสงส์เป็นไปข้างหน้าอย่างไรครับ ... ? "
หลวงพ่อ : " อานิสงส์ปัจจุบัน คือ
๑. เปลืองอาหารน้อย เพราะกินเวลาเดียว
๒. มีเวลาทำงานมากขึ้น ข้างหน้าต่อไปอานิสงส์ใหญ่ คือตาย

... ก็แค่กินเวลาเดียวยังวัดฐานะอะไรไม่ได้เลย อย่าไปนึกว่ามันดีเด่นกับใครเขานะ กินเวลาเดียว กิน ๒ เวลา กิน ๓ เวลา มีความหมายเสมอกัน สำคัญว่า "ใจตัดกิเลสได้หรือเปล่า" เขาเอากันตรงนั้น ถ้าถือแค่กินนี่มันเป็นมานะทิฏฐิ เป็นกิเลสหยาบมาก อีกอย่างหนึ่งตายเร็วมาก อย่าไปนึกว่าดีนะ และถ้านั่งคุยว่านี่ฉันกินเวลาเดียว เสร็จเลย โอ้อวด นี่เป็นมานะกิเลสพังเลย "

ผู้ถาม : " อย่างนี้แทนที่จะไปดี ก็เลยไป... "
หลวงพ่อ : " ก็ไปดี หมายความว่าก่อนจะไปก็เปลืองน้อย เพราะฉะนั้นอย่าถือเป็นเรื่องสำคัญนะ ไอ้กินเวลาเดียว ๒ เวลา กินเนื้อสัตว์ ไม่กินเนื้อสัตว์ นี่ อย่านะ อย่าถือเป็นเรื่องสำคัญ ถ้าคนที่ไม่กินเนื้อสัตว์ต้องตอบอย่าง หลวงปู่แหวน เคยมีคนมาเล่าให้ฟัง มีคนหนึ่งแกบอกหลวงปู่แหวนว่า
"เวลานี้ผมถือมังสวิรัติครับ ไม่กินเนื้อสัตว์"

หลวงปู่แหวนท่านบอก

"ไอ้วัวควายกินหญู้าตั้งนาน ไม่เห็นเป็นพระอรหันต์ซักตัว"

ตอบนำสมัย ไม่ไช่ทันสมัย ถ้าเรื่องเป็นความจริงตามนั้น แต่การกินไม่มีความหมายในการปฎิบัติ แต่ปฎิบัติจริง ๆ มันขึ้นอยู่กับ
๑. เข้าถึงสะเก็ดพระศาสนาแล้วหรือยัง
๒. เข้าถึงเปลือก เข้าถึงกระพี้ เข้าถึงแก่นแล้วหรือยัง
เข้าถึงแก่นนี่ยังใช้ไม่ได้นะ ยังเป็นเหยื่อของอบายภูมิ จะต้องเข้าถึงพระโสดาบันเป็นอย่างต่ำ เขาวัดกันตรงนี้ อย่าไปวัตกันแค่กิน "


ผู้ถาม : " คนทำบุญให้ทานที่กินเนื้อสัตว์ กับคนทำบุญให้ทานที่ไม่กินเนื้อสัตว์ อันไหนจะได้อานิสงส์มากกว่ากันคะ ... ? "
หลวงพ่อ : " อานิสงส์แบบไหนล่ะ อานิสงส์ไปนรก หรืออานิสงส์ไปสวรรค์ อานิสงส์มันมี ๒ อย่าง ทำบาปก็มีอานิสงส์จะลงขุมไหนแน่ ถ้าทำบุญก็มีอานิสงส์ อย่างเลวก็ไปสวรรค์ อย่างกลางไปพรหม อย่างดีที่สุดไปนิพพาน คนที่ไม่ทำบุญเลยแม้ไม่กินเนื้อสัตว์ก็มีสิทธิ์ไปอยู่กับเทวทัตได้ มีไหมคนไม่ทำบุญเลย คนที่ทำบุญไม่กินเนื้อสัตว์ อย่าลืมว่าพระพุทธเจ้าฉันเนื้อสัตว์นะ พระที่ฉันเนื้อสัตว์ไปนิพพานนับไม่ถ้วน เขาไม่ได้กินสัตว์เป็น เขาซื้อมากินไม่มีบาป "

ผู้ถาม : " ที่ไม่กินเนื้อสัตว์ก็เพราะว่าไปมองเห็นเนื้อสัตว์แล้วมีเลือดมีคาว เลยกินไม่ได้เจ้าค่ะ "
หลวงพ่อ : " อย่างนี้ไม่เป็นไร ถ้าเห็นว่าสกปรกเป็น อาหาเรปฏิกูลสัญญาอันนี้เป็นปัจจัยให้บรรลุพระอนาคามีหรือพระ อรหันต์ นี่เป็นพื้นฐานใหญู่นะ ถ้าเห็นแบบนั้นเกิดนิพพิทาญาณแล้ว นิพพิทาญาณเป็นปัจจัยให้ได้พระอนาคามี ต่อไปถ้าเว้นจริงเป็นสังขารุเปกขาญูาณ เป็นอรหันต์ คนที่จะเป็นอรหันต์ได้ ถ้าไม่คล่องในบทนี้เป็นไม่ได้ มี กายคตานุสสติ กับ อสุภกรรมฐานเป็นพื้นฐาน
พระพุทธเจ้าและพระสงฆ์ในสมัยพุทธกาล ไม่เสวยและฉันเนื้อสัตว์ เป็นต้น

๑. ต้องไม่ฉันเนื้อสัตว์ ๑๐ ประการ มีเนื้อมนุษย์ เป็นต้น
๒. เนื้อนั้นจะต้องเป็นปวัตตมังสะ คือ ที่เขาขายแกงกินกันตามปกติของเขา โดยพระไม่ได้เห็น ไม่ได้ยิน ไม่ได้รังเกียจสงสัยว่าเขาฆ่าเนื้อเจาะจงถวายตน
๓. ก่อนการฉันอาหารเนื้อทุกคราว จะต้องพิจารณาเสียก่อนเพื่อป้องกันไม่ไห้ฉันเนื้อต้องห้ามข้างต้น

 

ขออนุญาตนำไปบอกบุญต่อนะครับผม ^^

 

ขออนุโมทนาบุญกับผู้ร่วมทอดผ้าป่าประจำปี 2553 ทุกคน และอนุโมทนาบุญ
กับพี่กบ-สังสารวัฎ ทุกบุญด้วยค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ

 

อ้างอิง
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ R_numotana
ได้ฟังพระธรรมเทศน์มหาชาติ เวสสันดรชาดกทั้ง 13 กัณฑ์ และได้ร่วมถวายปัจจัยบูชากัณฑ์เทศน์ 13 กัณฑ์ ตลอดทั้ง 3 วันคือ 18-20 ส.ค. เมื่อเสร็จพิธี(เมื่อเย็นวาน)ได้อุทิศส่วนกุศลให้ทุก ๆ รูป ทุก ๆ นาม ทั้ง 3 ภพ แต่มีอาการปวดมึนศีรษะตลอดคืน คิดว่าคงเป็นที่ได้อ่านโพสของน้องฝน คุณme,myself มาก ๆ เข้าก็เลยซึมซับยึดเป็นแบบอุปทานอ่ะ เห็นเขาเป็น ก็เป็นมั่ง อะไรประมาณนั้น...(กำลังวิเคราะห์ตัวเอง) กลับบ้านแผ่เมตตาอีก 1 รอบก่อนนอน ตื่นมาตอนเช้าก็ยังมีอาการปวดมึนศีรษะอีก แต่คิดเองว่าคงแพ้อากาศที่เป็นอยู่ ก็สวดมนต์และแผ่เมตตาอีก 1 รอบ(รอบปกติ) เอะ… ทำไมหายมึนหัวได้แฮะ แปลกใจอ่ะ ขอถามคุณme,myself ค่ะว่า ตนเองเป็นอุปทานใช่ไหมค่ะfficeffice" /><O></O>
........................................................................
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ Me, myself
แหม...ก็อยากให้เป็นอุปทานเหมือนกันนะคะ แต่ที่พวกเราเผชิญมากันทั้งหมดสี่คน มันไม่ใช่ค่ะ มันเป็นจริงๆที่มีพวกเจ้ากรรมนายเวรหรือคนที่มาขอส่วนบุญมารอรับส่วนบุญจริงๆ แล้วให้สังเกตุว่าวันโกนกับวันพระจะเยอะเป็นพิเศษ แล้วก็จะปวดหัวมากด้วย ถ้าวันไหนมาเยอะมากก็หัวแทบจะระเบิดกันแหละค่ะ อุทิศกันทั้งวัน แล้วก็แปลกอีกอย่างบางทีเจ้าตัวอุทิศให้มักไม่ค่อยหาย พวกเราต้องผลัดกันอุทิศให้กัน อย่างดิฉันเอาบุญของดิฉันอุทิศให้เจ้ากรรมนายเวรน้องอ้อย ส่วนน้องอ้อยก็เอาบุญของตัวเองอุทิศให้เจ้ากรรมนายเวรของดิฉัน มันสลับกันจนมึนไปหมดเลยค่ะ<!-- google_ad_section_end -->
..........................................................................................
อนุโมทนา ด้วยค่ะ
อ่านมาถึงตอนนี้แล้วขนลุกเลยค่ะ เพราะเพิ่งเจอมากับตัวเหมือนกัน
(ก่อนอื่นต้องแนะนำตัวก่อนเป็นสมาชิกใหม่ ไม่ค่อยได้เข้ามาโพสเท่าไหร่ แต่ติดตามอ่านอยู่เรื่อย ๆ ค่ะ ในส่วนของการปฏิบัติตอนนี้กำลังอยู่ในระดับขั้นอนุบาลค่ะ ขั้นเริ่มต้น อาศัยต้องศึกษาหาความรู้เอง ฝึกปฏิบัติเอง ค่ะ)
ช่วงนี้รู้สึกว่าจะโดนทดสอบอยู่บ่อย ๆ ในฝันบ้าง ชีวิตจริงบ้าง ผ่านบ้างไม่ผ่านบ้าง
เมื่อก่อนไม่รู้ว่าสิ่งที่เจอคือการถูกทดสอบ พอดีเคยถามพี่สาว และจากการศึกษาค้นคว้าต่าง ๆ ทำให้รู้ว่ากำลังถูกทดสอบ ไม่ใช่เป็นเพราะอุปาทานไปเอง

จากข้อความข้างบน ตัวเองก็เพิ่งเจอมาเมื่อคืน ก่อนจะเข้านอนก็ไปสวดมนต์ไหว้พระ นั่งสมาธิ ขณะที่กำลังสวดมนต์ไหว้พระมีอาการปวดหัวมาก ๆ พอนั่งสมาธิจิตใจก็ไม่ค่อยจะนิ่งเท่าไหร่ นิ่งมั้งไม่นิ่งมั้งฟุ้งมั้ง (นั่งสมาธิธรรมดาโดยกำหนดลมหายใจเข้าออก แล้วนึกถึงภาพพระพุทธรูป) แต่ปวดหัวมาก ๆ สักแวบนึงเห็นภาพพระพุทธรูปลอยเข้ามา เป็นองค์ลอยครึ่งตัวตั้งแต่หน้าอกขึ้นไป (ประมาณ 3 วินาที) แล้วก็หายไป อาจจะด้วยความตกใจหรือดีใจเพราะเพิ่งเคยเห็นแบบนี้เป็นครั้งแรก ทำให้จิตไม่นิ่งภาพเลยหายไป พยายามใหม่ทีนี้ก็มืดตึบ เลยเห็นแต่ความว่างเปล่าแต่เป็นความว่างเปล่าที่มืดมาก ๆ (เหมือนในอาวกาศ) สักพักรู้สึกตัวว่าเหมือนจะสัปหงก(โหงก) แต่เรารู้อยู่ว่ากำลังนั่งสมาธิแต่มีความรู้สึกเหมือนตัวเองสัปหงก (ถ้าคนเราสัปหงกเพราะง่วงนอนจะต้องไม่รู้ตัวว่าตัวเองสัปหงก อันนี้เป็นความเข้าใจส่วนตัวอาจจะผิดก็ได้ค่ะ) แต่นี่รู้ว่าตัวเองว่าตัวเองกำลังสัปหงก และด้วยอาการปวดหัวที่ไม่หายสักที เลยต้องออกจากสมาธิ แล้วก็อุทิศแผ่ส่วนกุศล เสร็จแล้วอาการปวดหัวก็ไม่หายสีกที จนเข้านอนและเปิดฟังเทปเสียงคำสอนของหลวงปู่ฤาษีฯ ฟังไปจนหลับ(ทำเป็นกิจวัตร) มีความรู้สึกตัวเองอ่อนเพลีย เหนื่อย ไม่มีแรง บอกไม่ถูก เลยหลับแบบมึน ๆ คือหัวมันตื้อ ๆ ตื่นเช้ามา(ตื่นสายเพราะความเพลีย) ก็ยังไม่หาย พอมาถวายข้าวพระพุทธเจ้า สวดมนต์ไหว้พระและอุทิศแผ่ส่วนกุศล เสร็จ อาการปวดหัวหายไปเองเลย หายไปเลยอย่างรวดเร็ว อย่างงง ๆ จนมาอ่านเจอบทความนี้

(แปลกจังวันนี้ขณะที่นั่งพิมพ์ข้อความนี้อยู่ รูปภาพพระพุทธรูปที่นั่งดูอยู่ทุกวัน เหมือนท่านยิ้มเลย ปกติท่านจะไม่ยิ้มเท่าไหร่ แต่ทำไมวันนี้เราถึงมีความรู้สึกว่าท่านยิ้มล่ะ อิอิ )

 

กราบขอบพระคุณพี่สาวค่ะ
สำหรับคำตอบ
ชัดเจนแจ่มแจ้งเลย

อนุโมทนาค่ะ...

 

อนุโมทนาบุญ กับทุกท่านที่สร้างทานศีลบารมีนะคัรบผม สาธุๆ

 

ลุงได้โอนเงินร่วมทำบุญผ้าป่าศูนย์พุทธศรัทธาจำนวน 500 บาทไปแล้ว และขอโมทนากับทุกๆท่านที่ได้ร่วมทำบุญในครั้งนี้.....ซาตุ๊...ซาตุ๊...ซาตุ๊

 

ขอแจ้งยอดการโอนนะครับ
30/04/2010 เวลา 14.31
200 บาทครับ

 

อนุโมทนาบุญ กับ ลุงพจน์ และน้อง rehacked ด้วยค่ะ

รับทราบการโอนแล้วนะคะ ขอบคุณค่ะ

 

แวะเอาบุญมาฝากจ้า วันนี้พาเพื่อนที่มาจากพะเยาไปไหว้พระ ที่วัดอโศการาม บางปูคะ เก็บรูปมาฝากเล็กๆๆ น้อยๆๆคะ

ร่วมอนุโมทนาบุญด้วยกันนะค่ะ ขอให้เพื่อนกัลยาณมิตรทุกท่านได้ดวงตาเห็นธรรมได้ไปพระนิพพานในชาตินี้กันทุกคนนะค่ะ สาธุ

 

ท่าน อ.ชนะคะอย่างนี้ วิจะขอรับพระคำข้าวเพื่อมาบูชาได้ไหมคะ แต่ถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไรค่ะ ของวิคือรายการ วิภา สเตซีย์และครอบครัว ร่วมบุญ 999บาทค่ะ

 

อ้าว...พี่วิไม่บอก ไม่งั้นวันที่ไปเจอที่สนามบินจะได้เอาไปให้ด้วย เพราะที่สาวก็มีอยู่ค่ะ แล้วอย่างนี้จะให้ส่งยังไงดีคะ

อ้อ...อีเมล์พี่ที่สาวมี ไม่แน่ใจว่าถูกหรือเปล่า ส่งอะไรไปตีกลับหมดเลยค่ะ ทั้ง hotmail และ yahoo ยังไงหลังไมค์มาบอกใหม่นะคะ

 

โอนแล้วครับ ๑๐๐๐ บาท เวลา ๑๑.๓๐ น วันนี้ครับ ขออนุญาติรับพระธาตุมาบูชาครับ
รบกวนฝากไว้กับคุณสาวก่อนนะครับแล้วมีโอกาสจะให้น้องผมไปรับกับคุณสาวครับ ขอคุณมากครับ

 

ร่วมทำบุญทอดผ้าป่าด้วยครับ
โอนแล้วนะครับ 200 บาท เวลา 12.00 น. ครับ
อนุโมทนากับทุกท่านด้วยครับ สาธุ

 

ได้โอนเข้าบ/ชกสิกรวันนี้ตอนเที่ยงกว่าๆ 1000 บาทค่ะ
ขออนุโมทนากับทุกๆท่านด้วยค่ะ

 

ได้โอนเงินทอดผ้าป่า เมื่อเวลา 17.40 น. กว่านิดหน่อยไปเรียบร้อยแล้วนะขอรับ
จำนวนเงินที่โอน 500 บาทขอรับ
โอนผ่านทาง อินเตอร์เน็ท นะขอรับ ฝากตรวจสอบทีขอรับ พึ่งลองทำเป็นครั้งแรก คิคิคิ