อึ้ง2วันถูกหลอก โอนเงิน สูญเกือบ7แสน

ในห้อง 'ข่าวทั่วไป' ตั้งกระทู้โดย ธิตะวัน, 4 เมษายน 2010.

  1. ธิตะวัน

    ธิตะวัน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    51
    ค่าพลัง:
    +165
    [​IMG]

    ขณะที่ยอดคนร้องเรียนพุ่งต่อวันจากวันละ 20 สาย เป็น 30 กว่าสายต่อวัน ขณะเดียวกัน ธปท.เล็งปรับไกด์ไลน์การติดตามทวงหนี้ให้เข้มมากขึ้น หลังจากประชาชนร้องเรียนเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง....

    เมื่อวันที่ 4 เม.ย.นายกำธร ประเสริฐธม หัวหน้าศูนย์ประสานงานแก้ปัญหาการปล่อยสินเชื่อ (ศปส.) สายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ธปท.รู้สึกเป็นกังวลต่อปัญหาประชาชนถูกหลอกลวง โดยโทรศัพท์มาแจ้งว่าเป็นหนี้ธนาคารพาณิชย์ และให้ไปกดเอทีเอ็ม หรือโอนเงินตามคำสั่งในโทรศัพท์ จนสูญเสียเงินจำนวนมาก เพราะหลังจากที่ธปท. พบความผิดปกติ เนื่องจากเห็นว่า อาชญากรรมดังกล่าวกลับมาระบาดเพิ่มขึ้นอีกครั้ง จากยอดที่ประชาชนการโทรศัพท์มาร้องเรียนเรื่องการได้รับโทรศัพท์หลอกลวงเข้า มายัง ศปส.จำนวนมาก และได้มีการแถลงข่าวเพื่อเตือนประชาชนไปเมื่อวันที่ 31 มี.ค.ที่ผ่านมา ปรากฏว่าใน 2 วันทำการต่อมา มีประชาชนโทรเข้ามาเพื่อร้องเรียนเรื่องการถูกหลอกลวงเพิ่มมากขึ้น โดยยอดการโทรเข้ามาแจ้งร้องเรียนต่อ ศปส.ในเรื่องนี้ เพิ่มขึ้นจากประมาณวันละ 20 สายเพิ่มขึ้นเป็น 30 กว่าสายต่อวัน และมีผู้ร้องเรียนด้วยว่าเสียทรัพย์จากการถูกหลอกลวงด้วยพฤติกรรมดังกล่าว สูงถึงมากกว่า 700,000 บาท ทำให้ธปท.อยากจะเตือนซ้ำอีกครั้งให้ประชาชนตระหนักถึงเรื่องนี้ และอย่าหลงเชื่อพฤติกรรมการโทรศัพท์หลอกลวงดังกล่าว

    “ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ยอดการร้องเรียนการถูกโทรศัพท์หลอกลวงเพิ่มมากขึ้นเป็น วันละ 20 สายต่อวันจากช่วงก่อนหน้าที่หายไปพักใหญ่ ทำให้ธปท.ต้องออกมาแถลงข่าวเตือนประชาชน แต่หลังจากที่ประกาศเตือนไปแล้ว ยอดร้องเรียนกลับมีมากขึ้นเป็นกว่า 30 สายต่อราย และมีประชาชนที่ถูกหลอกจนเสียเงินไปกว่า 700,000 บาทในช่วง 2 วันที่ผ่านมา ซึ่งในเรื่องนี้ ธปท.ได้ประสานยังเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ช่วยสืบสวนสอบสวนและติดตามจับกุมแล้ว”

    นายกำธร กล่าวต่อว่า ประชาชนที่ร้องเรียนเข้ามาส่วนใหญ่ยังไม่ทันเสียทรัพย์ เพราะหากประชาชนไม่เชื่อ แก๊งมิจฉาชีพพวกนี้ก็จะให้เบอร์ธปท.ไป แล้วบอกให้ประชาชนโทรมาตรวจสอบ เมื่อโทรมาธปท.ก็ชี้แจงไปว่า ไม่มีเจ้าหน้าที่ของธนาคารพาณิชย์ หรือเจ้าหน้าที่ของธปท.คนใด รวมทั้งไม่มีนโยบายให้มีการชำระหนี้ด้วยการโอนเงินผ่านระบบเอทีเอ็ม ตามคำสั่งของคนที่โทรศัพท์ไปแน่นอน หากพบพฤติกรรมนี้ให้คิดเลยว่าเป็นการหลอกลวง แต่มีประชาชนบางคนเหมือนกันที่เสียทรัพย์ไปโอนเงินผ่านเอทีเอ็มให้คนพวกนี้ ไปแล้ว

    “ที่ผ่านมา มียอดการเสียทรัพย์บางราย 20,000-30,000 บาท บางรายเสียเงินไปกว่า 50,000 บาท และรายที่สูงๆ กว่า 500,000 บาทก็มี โดยเท่าที่ประมวลได้ตั้งแต่วันที่ 18 พ.ค.2552 ถึง 26 มี.ค.2553 ซึ่ง ธปท.เปิด ศปส. ให้ประชาชนร้องเรียนเรื่องการให้บริการทางการเงิน มีประชาชนที่แจ้งเข้ามาว่าสูญเงินจากการถูกโทรศัพท์หลอกลวงมากกว่า 4 ล้านบาท ซึ่งยอดนี้เป็นยอดเฉพาะที่กล้าที่จะแจ้ง ศปส.เข้ามา แต่เชื่อว่า ยอดเงินที่ประชาชนสูญไปจากการถูกหลอกลวงนี้น่าจะมากกว่ายอดที่ว่านี้มาก” นายกำธร กล่าว

    ด้านนายสรสิทธิ์ สุนทรเกศ ผู้ช่วยผู้ว่าการสายกำกับสถาบันการเงิน ธปท. กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกเหนือจากเรื่องการโทรศัพท์หลอกลวง ซึ่งเป็นปัญหาอันดับ 1 แล้ว เรื่องที่สองที่ได้รับร้องเรียนเข้ามามาก คือ รองลงมาเป็นการร้องเรียนเจ้าหน้าที่ธนาคารพาณิชย์ การติดตามทวงหนี้ที่ไม่เป็นไปตามไกด์ไลน์ของธปท. และมีกริยาวาจาที่ไม่สุภาพ จำนวนมากถึง 946 ราย ซึ่งในช่วงที่ผ่านมา ธปท.ได้ทำเรื่องแจ้งไปยังธนาคารพาณิชย์ที่ได้รับร้องเรียนเรื่องดังกล่าว อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ดำเนินการกับเจ้าหน้าที่ธนาคารพาณิชย์ รวมทั้งบริษัทรับช่วงงานการติดตามทวงหนี้ ที่ได้รับการว่าจ้างจากธนาคารพาณิชย์แล้ว โดยให้ความเห็นว่า หากเป็นบริษัทรับช่วงไปดำเนินการ แล้วได้รับการร้องเรียนเข้ามามากควรจะพิจารณาการว่าจ้างบริษัทดังกล่าวว่า ควรดำเนินการต่อไปหรือไม่ ซึ่งได้รับรายงานกลับมาว่า ได้มีการตักเตือนจนถึงขั้นเลิกจ้างบริษัทรับช่วงไปหลายรายแล้ว

    อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ต่อกรณีนี้ ธปท.ยอมรับว่า บางครั้ง การเจ้งเรื่องไปยังธนาคารพาณิชย์ เพื่อร้องเรียนการติดตามทวงหนี้ที่ไม่ดีของเจ้าหน้าที่ธนาคาร และบริษัทรับช่วงงานยังไม่ได้รับการตอบสนองที่ดีพอ เพราะบางรายมีข้ออ้างต่างๆ นาๆ และไม่ยอมรับความผิด ธปท.จึงอยู่ระหว่างการพิจารณาว่า มีความจำเป็นที่จะต้องเพิ่มอำนาจ บทลงโทษ หรือความเข้มของไกด์ไลน์การติดตามทวงหนี้ของธนาคารพาณิชย์ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งความรับผิดของบริษัทรับช่วงให้มากขึ้นหรือไม่ เพื่อให้การติดตามทวงหนี้ และพฤติกรรมที่ปฏิบัติต่อลูกค้าเหมาะสมมากขึ้น.

    [​IMG]
    <LABEL>ไทยรัฐออนไลน์</LABEL>

    <SMALL>วันอาทิตย์ที่ 4 เมษายน พ.ศ.2553</SMALL>
    <SMALL></SMALL>
    <SMALL>อึ้ง2วันถูกหลอก โอนเงิน สูญเกือบ7แสน - ข่าวไทยรัฐออนไลน์</SMALL>
     
  2. nutbeauty

    nutbeauty เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2009
    โพสต์:
    75
    ค่าพลัง:
    +272
    เคยเจอค่ะมีโทรเข้ามาบอกว่าเราเป็นหนี้ธนาคารอยู่ เราบอกว่าไม่เคยมีเพราะเราไม่มีบัตรเครดิตแล้วเรากดสายทิ้งเลย
     

แชร์หน้านี้

Loading...