ปรึกษาปัญหาสารพัดโรค ด้วยหลักการแพทย์แผนไทย / วิธีฝึกและใช้พลัง(ปราณยาม)ในการรักษาโรค

กำลังคิดทำอยู่พอดี
รออีกสัก สองสามวันนะครับ

 

ความจริงอาการนี้เกิดจาก เลือดลม(ปราณ-พลังชีวิต)ไหลไปหล่อเลี้ยงบริเวณเปลือกตา หัวตาและใต้เปลือกตาไม่พอ
เพียงนวด ที่หัวคิ้ว หัวตา และ ลูปที่ใต้เปลือกตาด้านล่าง สักสองสามคร้งก็จะดีขึ้น (ถ้าใช้พลังนวด จะหายเร็ว)
ทำบ่อยๆ วันละ สองสามครั้ง ไม่นานก็หายแล้ว

 

ตอนแรกงงๆกับคำถามนี้ ด้วยที่รู้มาไม่เคยมีใครแพ้ห่วงคุมกำเนิดมากมายเพียงนี้<O</O
ถามใครๆที่รู้จักและพอถามได้ ก็ไม่เคยมีใครแพ้ห่วงคุมกำเนิด<O</O
จึงเซอร์ทดูในกลูเกิล จึงรู้ว่า<O</O
ห่วง mirena เป็นอุปกรณ์คุมกำเนิดแบบใหม่ ที่รวมเอาห่วงคุมกำเนิดแบบเก่า+ยาคุมกำเนิด อยู่ในอุปกรณ์ตัวเดียวกันเลย<O</O
<O</O

ห่วงนี้จะค่อยๆ ปล่อยยาคุมกำเนิดในปริมาณพอเหมาะ เข้าในมดลูก<O</O
ทำให้สภาพผิวภายในมดลูกไม่เหมาะแก่การเกาะตัวของชีวิตใหม่<O</O
ทำให้ชีวิตใหม่ไม่สามารถเกาะตัวและเจริญเติบโตได้และหลุดล่อนออกไปในที่สุด<O</O
<O</O

เมื่อร่างกายสร้างสารเพื่อการเตรียมพร้อมรับชีวิตใหม่ในแต่ละรอบเดือน<O</O
และถูกสกัดกันด้วยสารเคมีแปลกปลอม(ยาคุมกำเนิดที่อยู่กับห่วง)ที่ใส่เข้าไป
<O</O
จึงเกิดการต่อต้านกัน ร่างกายก็พยายามเอาชนะ<O</O
จึงเกิดอาการต่อต้านไม่ยอมรับการใส่ห่วงคุมกำเนิด<O</O
จึงเกิดอาการอย่างที่เป็นอยู่
<O</O
<O</O
อาการแพ้ที่เป็นอยู่ จะทำให้ร่างกายอ่อนแอลงไปเรื่อยๆ<O</O
อาจมีโรคแทรกเข้ามามาก จนไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร<O</O
<O</O

ยาที่ได้ส่งไปให้ จะมียาที่สามารถแก้อาการทั้งหมดได้(แก้วจินดา)<O</O
พิจราณาใช้ให้ดี<O</O
วิบากกรรม แม้สามารถระงับได้ด้วยอำนาจ<O</O
แต่ผลของมัน สงบได้ชั่วคราว และรอเวลาปะทุอีกครั้ง
<O</O
<O</O
แต่ถ้าใช้ทั้งพระคุณ พระเดช และการต่อรองที่ไม่ประมาทก็จะทำให้วิบากทั้งปวงอยู่ในภาวะอโหสิ เลิกแล้วต่อกันอย่างถาวรได้<O</O
<O</O

พิจารณาใช้ให้ดี ทุกอย่างมีพร้อมอยู่ในตัวแล้วทั้งยา(อำนาจ) และบุญ<O</O
ยังรอวิธีการตัดสินใจ ที่จะก่อให้เกิดการกระทำ ที่จะระงับเรื่องทั้งปวง<O</O

 

ช่วยหาข้อมูลต้นข้าวสาลีอ่อนมาดังนี้ค่ะ

คลอโรฟิลล์ ที่ได้จากการคั้นน้ำจากต้นข้าวสาลีอ่อนจะมีปริมาณสูงถึง 70%
นายแพทย์ ยอร์จ โคลเล่อ ได้บรรยายต่อที่ประชุม วิชาการแพทย์ว่าในอนาคต
มนุษย์เราจะพยายามขวนขวายหาพลังสุริยะ จากพืชเพื่อนำมาฟื้นฟูสมรรถภาพ
ร่างกายน้ำคั้นจากต้นข้าวสาลี อุดมไปด้วยสารคลอโรฟิลล์สดๆ และสามารถนำมาดื่มได้อย่างปลอดภัย หรืออาจนำไปรับประทานในรูปอื่น ๆ โดยไม่ต้องกังวลว่าจะมีผลร้ายต่อร่างกาย กล่าวกันว่า คลอโรฟิลล์ เปรียบเสมือนเลือดหล่อเลี้ยงชีวิตต้นพืช โมเลกุลของคลอโรฟิลล์มีความคล้ายคลึง กับโมเลกุลของเม็ดเลือดแดงของมนุษย์ คลอโรฟิลล์ เป็นต้นกำเนิดของชีวิตพืชทั้งมวล



คลอโรฟิลล์ เป็นน้ำหล่อเลี้ยงที่เปี่ยมไปด้วยพลังสุริยะ


คลอโรฟิลล์ เป็นยาขนานวิเศษที่ธรรมชาติประทานให้มาเพื่อช่วยบำบัด
อาการผิดปกติต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับร่างกาย ทั้งภายใน และภายนอก


คลอโรฟิลล์ ให้ความอยู่รอดแก่ชีวิต เนื่องจากให้สารอาหารที่เปี่ยมด้วยพลังแก่ร่างกายโดยที่ร่างกายไม่จำเป็นต้องสูญเสียพลังงานในการรับ สารอาหารวิเศษนี้มา


คลอโรฟิลล์ ดูดซับพลังงานจากแสงอาทิตย์เพื่อนำมาสร้างน้ำตาล แป้ง
และโปรตีนวงการวิทยาศาสตร์ได้พิสูจน์แล้วว่า คลอโรฟิลล์ไม่เพียงแต่ไปหยุดยั้งการเจริญเติบโตระงับการแพร่ของเชื้อแบคทีเรียเท่านั้นแต่ยังมีโครงสร้างที่คล้ายคลึงกับเม็ดเลือดแดงในร่างกายมนุษย์อีกด้วย


จากการศึกษาทดลองที่ได้ทำขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1911 ได้พบว่าคลอโรฟิลล์มี สูตรโครงสร้างทางเคมีคล้ายคลึงกับโครงสร้างของฮีโมโกลบินที่เป็นส่วน
ประกอบสำคัญของเม็ดเลือดแดง สิ่งที่แตกต่างกัน เพียงอย่างเดียวก็คืออะตอม
ของธาตุที่ประกอบเป็นสารฮีโมโกลบิน นั้นคือธาตุเหล็ก ส่วนในคลอโรฟิลล์ นั้นเป็นธาตุแมกนีเซียมโมเลกุลของฮิมินท์ในเม็ดเลือดแดง โมเลกุลของคลอโรฟิลล์


คลอโรฟิลล์จากวีทกลาส (ต้นข้าวสาลี) ช่วยในการสร้างเม็ดเลือดแดงจาก
การศึกษาทดลองในสัตว์ทดลองหลายชนิด ได้พบว่า คลอโรฟิลล์ ไม่ก่อให้เกิด
อันตรายใดๆ ต่อ ร่างกายมนุษย์ทั้งสิ้น เมื่อรับประทานคลอโรฟิลล์เข้าไปเพียง
4-5 วันติดต่อกัน ปริมาณเม็ดเลือดแดงที่สูญเสียไปจะกลับคืนสู่ระดับปกติ หรือ
แม้แต่ในสัตว์ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่ามีอาการของโลหิตจาง หรือมีปริมาณเม็ดเลือดแดงต่ำกว่าปกติ ในการทดลองในห้องทดลองที่ได้ทำกันอย่างกว้างขวางได้ชี้ให้เห็นว่าเมื่อร่างกายได้รับสารคลอโรฟิลล์เข้าไป การทำงานของเซลล์เนื้อเยื่อและการฟื้นคืนสภาพของเซลล์ จะเป็นไปอย่างแข็งขันและเร็วขึ้น



คลอโรฟิลล์ไม่ว่าจะอยู่ในรูปของน้ำคั้นชนิดขี้ผึ้งหรือผงจะมีสรรพคุณอย่างน่า
ทึ่งในการใช้รักษาแผลติดเชื้อเรื้อรังหรือแผลพุพองโดยจะออกฤทธิ์ยับยั้งการ
เจริญเติบโต และการแพร่ขยายของเชื้อแบคทีเรียทันที


คลอโรฟิลล์ (ที่ได้จากต้นข้าวสาลี) จะก่อให้เกิดสภาวะที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย มากกว่าที่จะออกฤทธิ์ทำลายเชื้อแบคทีเรียโดยตรงน้ำคั้นคลอโรฟิลล์ ได้มาจากพืชหลายชนิดด้วยกัน แต่น้ำที่คั้นจากวีทกลาสได้รับความนิยมมากกว่าพืชชนิดอื่นๆ เพราะว่าให้สารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายมากกว่า



คลอโรฟิลล์ รักษาอาการป่วยเรื้อรังต่างๆ อย่างได้ผล

คลอโรฟิลล์ ถูกดูดซึมเข้าไปในเซลล์เม็ดเลือดได้ทันที
น้ำคั้นคลอโรฟิลล์จะซึมผ่านเข้าไปในเนื้อเยื่อช่วยฟอกเลือดให้
บริสุทธิ์และช่วยฟื้นฟูเซลล์ให้กลับสู่สภาพปกติสมบูรณ์ได้อย่างรวดเร็ว
น้ำคั้นคลอโรฟิลล์ จะช่วยชำระล้างสารของยาที่ตกค้างอยู่ในร่างกาย
คลอโรฟิลล์ ช่วยต้านฤทธิ์สารพิษที่รับประทานเข้าไปในร่างกาย
คลอโรฟิล ช่วยชำระล้างตับให้ปราศจากพิษ และทำให้ตับทำงานได้
อย่างแข็งขันตามปกติ
คลอโรฟิลล์ ช่วยรักษาแผลให้หายเร็วขึ้น




ดร.ซิว นันไล แห่งศูนย์ระบบมะเร็งในมหาวิทยาลัยเท็กซัสได้ทดลองพบว่า
คลอโรฟิลซึ่งเป็นสารสำคัญในน้ำคลอโรฟิลคั้นจาก ต้นข้าวสาลีอ่อนจะช่วยต้านฤทธิ์ของสารก่อมะเร็งในปี ค.ศ. 1940 น.พ.เบนจามิน กรัสคิม ได้เขียนยกย่องสรรพคุณของวีทกลาสไว้ในวารสารศัลกรรมศาสตร์ของอเมริกันว่ามีคุณสมบัติทางฆ่าเชื้อโรคและมีคุณประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายในการรักษาอาการต่างๆ เช่นระงับกลิ่นตัว ต่อต้านอาการติดเชื้อต่างๆ ที่เกิดจากเชื้อสเตรปโตคอคคัส รักษาแผลรวมทั้งไปสมานแผลให้หาย เป็นปกติเร็วขึ้น



คลอโรฟิลล์ใช้รักษาอาการโพรงจมูกอักเสบเรื้อรัง และรักษามะเร็งส่วนขาลดอาการโป่งพองของเส้นเลือดดำ รักษาอาการอักเสบเรื้อรังและอาการติดเชื้อในช่องหูส่วนใน ใช้ในการรักษาแผลพุพองและตุ่มต่างๆ บริเวณทวารหนักอาการติดเชื้อพยาธิในช่องคลอด ลดอาการของไข้ไทฟอยด์ และรักษาโรคเหงือกอักเสบในระยะลุกลามโภชนากรเบอร์นาร์ด แจนเซ่น ได้ยกย่องสรรพคุณของ คลอโรฟิลล์ว่าสารช่วยย่อยในคลอโรฟิลล์เป็นตัวนำแม่เหล็กและประจุไฟฟ้า ทำให้ดูดซึมเข้าไปในร่างกายได้รวดเร็ว และร่างกายแทบจะไม่ต้องสูญเสียพลังงานใด ๆ ในการนี้เลย ขณะที่ตามปกติร่างกายจะต้องใช้เวลาเป็นชั่วโมง ๆ ในการย่อยอาหารแข็งซึ่งใช้พลังงานไปใม่ใช่น้อยทีเดียว



ปล : เพื่อนสนิทของข้าเจ้าก็ปลูกเองขายเอง มาตั้งหลายปีแล้วค่ะ เป็นชนิดเข้มข้น ไม่ใช่แบบที่เป็นน้ำสีเขียวใส เหมือนที่ใส่ขวดขายในท้องตลาด

โดยจะใช้เมล็ดข้าวสาลีอ่อนที่สมบูรณ์ เฉพาะเดือน มาปลูกแบบออแกนิค ไม่ใช้ยาฆ่าแมลง แล้วพอมันแตกหน่ออายุ 8 วัน จะทำการเก็บมาคั้นเป็นน้ำ กินครั้งละ 30 ซีซี ขาย 60-70 บาท ต่อครั้งนั้น แล้วดื่มน้ำตาม หรือนำไปบดเป็นผง แล้วชงกันกับน้ำ ขวดละประมาณ 800 บาท ต่อ 1200 กรัม


ข้าเจ้าเคยซื้อของเพื่อนสนิทมากิน อุดหนุนกัน แล้วพบว่า รอบเดือนมาดีมาก สดสะอาด ตอนเช้าตื่นมาไม่เพลีย ไม่ง่วงหงาวหาวนอน แต่จะสดชื่นแจ่มใส ถ่ายท้องดีมาก ถ้ากินก่อนอาหาร พอหลังอาหารไปพักหนึ่ง มันจะขับของเสียที่ค้างในลำไส้ออก เรียกว่าใครถ่ายไม่สุด ไม่หมดท้อง ก็จะช่วยได้


แต่ตอนนี้ไม่ได้กิน เพราะกินยาคุณสุวิอยู่ค่ะ ขายหลายสตางค์ด้วย ถ้ากินสองอย่าง เดือดร้อนเงินเดือนแย่

 

ท่านหมอคะ
ทำไงดี พักนี้ความสวยเพิ่มทั้งปริมาตรและน้ำหนัก สงสัยเพราะทานแซนวิชแฮมซีสทุกเช้าอ่ะ เห็นผลทันตาเลย :'(

 

อ่านข้อมูลต้นข้าวสาลีอ่อน ของคุณ atidtarn แล้วก็ เอ่อ...อยากทานมั่งน่ะค่ะ ไม่ทราบว่าพอจะบอกได้ไหมค่ะว่า จะสั่งซื้อได้ที่ไหน อย่างไรค่ะ ขอบพระคุณมากค่ะ

 

ท่านหมอ

มีคนฝากคนไข้เป็นอัมพฤกษ์มา 2 ราย เขาถามว่าท่านจะรักษาเขาได้ไหม เขาไปรักษาหลายที่ พอดีญาติทราบว่าวรรณนันท์รักษากับท่านหมอเลยสนใจ

รายแรกเป็นหญิงอายุอานามเจ็ดสิบกว่า เป็นอัมพฤกษ์ที่ร่างกายซึกขวา หลานสาวเป็นคนถาม

รายที่สองเป็นชาย อายุประมาณสี่สิบห้าปี เป็นอัมพฤกษ์ที่ร่างกายซึกซ้าย ภรรยาเป็นคนถาม

ถ้าท่านหมอดูแล้วอยู่ในข่ายที่รักษากันได้ ครั้งแรกวรรณนันท์คงต้องพาเขาไปค่ะ วรรณนันท์ให้เขาโทรหาท่านหมอดีไหมคะ

 

มีโอกาสสัมผัสคุณสมบัติพิเศษของยาแก้วจินดาที่อ.สุวิ

ค้นคว้าเสียนานและหลายท่านตั้งหน้าตั้งตาคอย คนแรกที่

โชคดีได้รับรู้สึกจะเป็นคุณวรรณนันท์ เมื่อเดือนก่อนอ.สุวิ

บูชาครูแก่ อ.อาชวิน1 ห่อแต่อ.อาชวินไม่ยอมบอกของวิเศษต้องจ่าย

ก็เรียบร้อยไป อ.อาชวินได้ยาแล้วด้วยความใจบุญเจอคนไข้

มาที่บูธอาจารย์ก็แจกเขาไปบ้าง งานเข้าครับผ่านไปคนไข้โทรมา

ขอยาเพิ่มเกื่อบทุกวันแต่ยาที่อาจารย์เก็บไว้ไมทราบข้างบน

เก็บคืนหรือเปล่าอ.อาชวินหาเท่าไหร่ก็หาไม่พบ อย่างว่าละครับ

ขออย่างนี้ตอนได้ยาอยู่ใหม่คุณทอมเจอรี่(หนู)ยังแอบมานำไปเสีย 2เม็ด

สอบถามกับอ.สุวิๆบอกยามีไม่เยอะเพราะมีตัวยาบางอย่าได้จากเบื้องบน

จะให้ผลิตออกมาเยอะๆจะได้เพียงพอกับความต้องการก็เลยยาก ผมก็เลย

แซวอ.สุวิให้ขอเบื้องบนนำมาปลูก งานเข้าซิคราบ เบื้องบนบอกดีจะได้จับตัวอ.สุวิ

ขึ้นไปปลูกยาข้างบนเสียเลยงานนี้หวยเกือบออกที่อ.สุวิแล้วซิ๕๕๕๕๕๕๕

 

เห็นท่านหมอเล่าอยู่เหมือนกันว่าไปเอาของเขาซะครึ่งแปลง ตอนนี้วรรณนันท์เลยพยายามทำบุญทำกุศลให้ท่านหมองัย คงช่วยไถ่โทษให้ท่านหมอได้บ้างละน่า :VO

 

เรียนอาจารย์สุวิ ผมนำข้อมูลของต้นข้าวสาลีอ่อนมาให้ครับ
ต้นข้าวสาลีฤดูหนาว ช่วยในการ <?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-comfficeffice" /><o></o>
1. ปรับสภาพร่างกายไม่ให้เป็นกรด (PH7.4)<o></o>
2. ช่วยในกระบวนการล้างสารพิษในร่างกายและเซลล์เม็ดเลือด โดยปราศจากผลข้างเคียง<o></o>
3. เสริมสร้างระบบหมุนเวียนออกซิเจนในเลือด<o></o>
4. ช่วยในการสร้างเม็ดเลือดแดง เป็นประโยชน์อย่างมากกับผู้ป่วยโรคโลหิตจาง<o></o>
5. ฟื้นฟูการทำงานของตับ และช่วยทำความสะอาดตับด้วยการล้างสารพิษที่ตกค้าง<o></o>
6. ช่วยลดระดับความดันโลหิต<o></o>
7. ช่วยลดปัญหา อาการท้องผูกและปัญหาที่เกี่ยวกับการย่อยอาหาร<o></o>
8. ลดระดับน้ำตาลในเลือด<o></o>
9. ขจัดกลิ่นปาก กลิ่นลมหายใจที่ไม่พึงประสงค์<o></o>
10. ลดกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ในร่างกาย เช่นกลิ่นตัว ปัสสาวะ อุจจาระ<o></o>
11. ช่วยชะลอความแก่ชรา เนื่องจากต้นข้าวสาลีเป็นตัวต่อต้านอนุมูลอิสระที่ดี<o></o>
12. ช่วยเสริมสร้างระบบเผาผลาญในร่างกายและสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย<o></o>
13. ช่วยแก้ปัญหาโรคผิวหนังยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียทำให้แผลหายเร็วขึ้น<o></o>
14. บรรเทาอาการแผลเปื่อย แผลเรื้อรัง แผลพุพองและโรคริดสีดวงทวาร<o></o>
15. เสริมร้างสุขภาพโดยรวมต้นข้าวสาลีช่วยบำรุงเซลล์ในร่างกายเนื่องจากมีคลอโรฟิลล์ แร่ธาตุ วิตามิน กรดอะมิโนและเอนไซม์ที่ครบถ้วนมากมาย<o></o>
<o> </o>

 

ก็น่านน่ะซิ ต้นข้าวสาลีอ่อนมีประโยชน์มากขนาดนี้ โดยเฉพาะประโยชน์ข้อที่ 5,7,13,14 พระแพงมีปัญหาอยู่ จะหาซื้อได้ที่ไหนดีคะเนี่ย! !

 

หมายความว่าอะไรหรอคะ
หรือว่าที่อาจารย์หมอหายไปหลายวัน จะเป็นเหมือนกับที่หนูคิดไว้ในใจ:'(

จริงหรือไม่จริงอย่างไร พรุ่งนี้ พระแพงจะไปถวายสังฆทานที่วัดท่าซุงให้เจ้ากรรมนายเวรอาจารย์หมอนะคะ

 

ท่านหมอยังซำบายดีอยู่จ๊ะ ทำบุญเป็นสิ่งดี ได้บุญทั้งคนทำเองและคนที่เราอุทิศให้ แต่บุญที่ให้คนเป็นทำแล้วต้องบอกเจ้าตัวเค้าให้อนุโมทนาเองด้วยนะ;20

 

ตามนี่้เลยค่ะ

เท่าที่ทราบ ถ้าซื้อจำนวนหนึ่ง จะสามารถจัดส่งได้ค่ะ หรือเขาจัดงาน event บ่อย ๆ ก็ลองไปซื้อได้ค่ะ หรือลองโทรไปถามดูค่ะ พนักงานที่นี่ทุกคนน่ารักมาก

<table class="contentpane" width="100%" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody> <tr> <td class="contentheading" width="100%"><table width="100%"> <tbody> <tr> <td width="100%">บริษัท เฟิร์ส ออร์แกนิค ฟาร์ม จำกัด 2003 </td></tr></tbody></table></td></tr> <tr> <td width="100%"> <table width="100%"> <tbody> <tr> <td> <table width="100%" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody> <tr> <td rowspan="6" width="40" align="left" valign="top"> </td></tr> <tr> <td valign="top">ถนนเกษตร-นวมินทร์ </td></tr> <tr> <td valign="top">จรเข้บัว/ลาดพร้าว </td></tr> <tr> <td valign="top">กรุงเทพ </td></tr> <tr> <td valign="top">ไทย </td></tr> <tr> <td valign="top">10230 </td></tr></tbody></table>
<table width="100%" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody> <tr> <td width="40" align="left"> </td> <td> <script language="JavaScript" type="text/javascript"> <!-- var prefix = 'ma' + 'il' + 'to'; var path = 'hr' + 'ef' + '='; var addy12688 = 'marketing' + '@'; addy12688 = addy12688 + 'dailygreen' + '.' + 'net, pr'; document.write( '<a ' + path + '\'' + prefix + ':' + addy12688 + '\'>' ); document.write( addy12688 ); document.write( '<\/a>' ); //-->\n </script> marketing@dailygreen.net, pr <script language="JavaScript" type="text/javascript"> <!-- document.write( '<span style=\'display: none;\'>' ); //--> </script> อีเมลนี้จะถูกป้องกันจากสแปมบอท แต่คุณต้องเปิดการใช้งานจาวาสคริปเพื่ออ่านมันได้ <script language="JavaScript" type="text/javascript"> <!-- document.write( '</' ); document.write( 'span>' ); //--> </script> </td></tr> <tr> <td width="40" align="left"> </td> <td>02-9403188 </td></tr> <tr> <td width="40" align="left"> </td> <td>02-5707652 </td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table>


ส่วนเว็บข้างล่างนี้ เป็นรายละเอียดค่ะ ที่บ้านเพือนเขาทำสินค้าการเกษตรหลายตัว ทั้งหมดทั้งปวง มีทั้งที่ส่งออกต่างประเทศ และขายในประเทศ

ที่ต้องส่งออก เพราะคนไทยไม่ค่อยให้ความสำคัญกับสินค้าเกษตร ก็เลยต้องส่งออกกว่าครึ่งต่อครึ่ง ทั้งที่ของไทยเราดีๆ ก็มีเยอะ


และที่เขาทำนี่ ก็ทำแบบออแกนิค คือไม่มีสารเคมี ดังนั้นราคาสินค้าบางอย่าง
อาจมีราคากว่าท้องตลาดเล็กน้อย แต่คุณภาพเน้นความเข้มข้นของสรรพคุณมากกว่า อันนี้รับรองได้ เพราะดิฉันและครอบครัวของเพื่อน รับประทานกันมาทุกคนแล้ว แม้แต่พนักงานที่บริษัทนี้ เขาก็ให้พนักงานได้กินกันมาแล้วทั้งนั้น

โดยเฉพาะวันเกิดของเจ้าของบริษัท อิอิ ดิฉันก็มีเอี่ยวได้กินของฟรีกับเขาด้วยในบางครั้ง (อ้าว ก็พ่อเพื่อนของข้าเข้าเองหนิจ๊ะ)


http://www.dailygreen.net/index.php?option=com_content&task=view&id=60&Itemid=93

 

ขอขอบพระคุณ คุณatidtarn มาก มากนะคะที่หาข้อมูลมาให้
แล้วพระแพงจะติดต่อไปที่บริษัทเค้าเองค่ะ

 

ค่ะ วันนี้พระแพงไปถวายสังฆทานชุดใหญ่ที่วัดท่าซุงมา
แล้วก็อุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวรของอาหมอ แบบเจาะจงคนเดียวเลย
อาจารย์หมอสุวิโปรดโมทนาด้วยนะเจ้าคะ

 

ต่อเคสเดิมนะคะอาจารย์suwi น้าที่เป็นเนื้องอกที่มดลูก ตัวกลมแว้บไปถาม อ.สามตาว่าต้องผ่ารึป่าว
ตอนนี้กินยา อ.suwiแล้ว อ.บอกว่ามีโอกาสไม่ผ่า พอคว้ารูปกลับ เลยถามเล่นๆว่า
น้าแกจะแก่ตายมั้ย เพิ่งจะ44ปีเอง ถามเล่นๆ แต่ว่าตอบแบบขนหัวลุก นับปีไม่ผ่าน
เลยนับเดือนไปตันตอนก่อนเดือนเกิด เลยนับวันให้อีก ง่ะ อีก 6เดือน ไม่ต้องผ่า
แล้วไหงมาเด้ดซะล่ะ อ.ว่าที่ตายน่ะไม่ลำบากหรอก หัวใจวายซะเฉยๆ แล้วก็แนะวิธี
ทำบุญให้ เจ้ากลมก็โทรไปบอกกับเขาตรงๆนี่แหละ เพราะเขาฝากมาให้ดู แล้วก็
ชอบผลัดวันประกันพรุ่ง(คุ้นๆนะำคำนี้ ) คราวนี้จะได้ทำเสียที

อาจารย์มียาอันใดที่จะป้องกันอาการหัวใจวายมั้ยคะ(น้าก็อ้วนด้วย) ตอนนี้คงเร่งทำบุญ
แล้วล่ะค่ะ อ.สามตาว่าบุญบาปคุณเํธอห่างกันแค่ฝ่ามือเอง

ส่วนเจ้ากลมเวลาวัดหัวใจ มันเต้นเร็วเกินร้อย อ.สามตาสแกนก็ว่าหัวใจสั่น
บางทีเต้นรัวแบบน่าตกใจ (เป็น2ครั้งในชีวิต จำได้แต่ตอนที่ผจก.ผ่านโต๊ะทำงาน
แฟนแกเพิ่งตายจากอุบัติเหตุ หัวใจงี้เต้นรัวจนต้องเอามือจับ )

พออาณาปานสติก็ลงมานิดๆ วัชรธาตุใช้ได้มั้ยคะ อิอิ อาจารย์ตัวกลมอยากได้
ยาจินดามณีด้วยเจ้าค่า

รวบรวมรายชื่อยา สรรพคุณ ราคาก็ดีเหมือนกันนะคะ ยาอาจารย์พัฒนาเรื่อยเลยค่ะ

 

ขอบคุณ ในไมตรีจิต ที่ทุกท่านมีให้หมอสุวิ

ข้าน้อย ขอโมทนาในบุญ ที่ท่านทั้งหลายที่ได้จงใจกระทำแล้วเพื่อข้าฯ
ด้วยอำนาจแห่งบุญนี้ ข้าฯขอน้อมอุทิศ ผ่านให้แด่ ครูบาอาจารย์ ทุกตน ทุกท่าน ทุกภพภูมิ
ขอให้ท่านทั้งหลายมีความสุข

และขอกลั่นบุญนี้ให้บริสุทธิ์ อุทิศกลับ แด่ทุกท่านที่มีไมตรีต่อข้าฯ
ด้วยอำนาจแห่งบุญนี้ ขอให้ทุกท่าน จงอยู่เย็นเป็นสุข จงอยู่เย็นเป็นสุข ทุกทิวาและราตรีเทอญ

 

วันนี้มีเรื่องมารบกวน ถามอ.เรื่องสุขภาพค่ะ หลายเดือนก่อนอยู่ๆก็ตื่นขึ้นมาแล้วหน้ามืด เวียนหัวอาเจียร ไปหาหมอ หมอก็บอกว่าไม่เป็นอะไร สงสัยไวรัสมันเข้าไปเกาะประสาทส่วนการทรงตัว เดาเข้าไปนั่น ที่แรกเค้าก็นึกว่าเป็นน้ำในหูไม่เท่ากัน ส่องหูอาการก็ปกติ ตรวจทุกอย่างปกติหมด ให้ยาแก้อาเจียรมากิน 2-3 วันก็ค่อยดีขึ้น

จากนั้นก็ไม่ได้เป็นอะไรอีก จนมาเมื่อ 3 อาทิตย์ที่ผ่านมาเป็นใข้หวัด อาการเวียนหัว บ้านหมุนก็กลับมาอีก วัดความดันก็ปกติ หัวใจเต้นปกติ 90-60 65 วัดตอนเช้าเพราะมันจะเป็นตอนตื่นนอน

แต่คราวนี้มีอาการปวดเมื่อยเนื้อตัวร่วมได้ ปวดมาก โดยเฉพาะที่น่องปวดจนนอนไม่หลับต้องลุกขึ้นมาทานยาแก้ปวด แต่ก็ไม่ค่อยทานทนได้ก็จะทนเอา เป็นมาเกือบ 4 อาทิตย์แล้ว ใข้หวัดหายแล้ว แต่อาการปวดเมื่อยตัวยังไม่หายเลยค่ะ ไม่อยากไปหาหมอเพราะรู้ว่าไปก็ไม่ได้อะไร ตอนนี้คือหันมากินผักผลไม้มากขึ้น งดเนื้อสัตว์ทานปลา ดื่มน้ำมากขึ้น


บางครั้งก็มีอาการเจ็บที่หัวใจแบบจี๊ดๆ แต่ไม่มาก ถ้าออกกำลังกายแบบหนักๆ จะเหนื่อยง่ายมาก หัวใจเต้นเร็วและก็มีอาการเจ็บนิดๆ แต่พอพักก็หาย เคยไปสแกนหัวใจหมอก็บอกว่าปกติ คอเรสเตอร์ลอร ก็ปกติ น้ำตาลปกติ จะตรวจสุขภาพประจำปีทุกปี ปกติดีทุกอย่าง แต่มาปีนี้ทำไมเหมือนป่วยแบบไม่มีสาเหตุ เหนื่อยง่ายมาก อ่อนเพลีย ปกติก็เป็นคนแข็งแรงดี ออกกำลังกายสม่ำเสมอค่ะ แต่ตอนนี้ต้องใช้เดินเอา เดินจงกรมแทนออกกำลังกายวันละ 1 ชม.

 

หมอครับกินยาวัชรธาตุเข้าไปร่างกายเริ่มดีขึ้นแล้วครับ ไม่หนาวตอนเย็นๆแล้วก็ไม่เวียนหัวตอนอ่านหนังสือแล้วครับแต่พอบางวันลืมกิน+นอนน้อยก็หนาวอีกครับอิอิ
ขอบคุณครับ