คำสอนของท่าน ว วชิรเมธี จากรายการวูดดี้เกิดมาคุย (แรงมาก)

อันนี้เป็นคลิปนะมีทั้งหมด 4 ตอน

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=tQSFP6qIuWk&feature=related"]YouTube - พระมหาวุฒิชัย (ว.วชิรเมธี) Woody เกิดมาคุย [1/4][/ame]



บทความที่ถอดมาจากบางตอน

วู้ดดี้ : ท่าน ว. ตั้งแต่โตขึ้นมาผมสังเกตว่าคนมักจะชวนผมเข้าวัด ไปทำบุญกันเถอะ ไปนั่งสมาธิในวัด ไปไหว้พระแล้วคุณจะมีความสุข แต่ผมเห็นหลายคนเขาไปเพราะเขามีความทุกข์เรื่องเพื่อน เรื่องงาน เรื่องแฟน ชีวิตเป็นทุกข์เลยต้องเข้าไปในวัด แต่ผมเอง ผมมีความรู้สึกว่าผมไม่มีตรงนั้น ผมไม่ได้มีความต้องการที่จะไปไหว้พระ ไม่มีความต้องการที่จะไปเข้าวัด ถามว่าแล้วสุดท้ายวู้ดดี้จะต้องเข้าวัดทำไมล่ะครับพระอาจารย์

ท่าน ว.วชิรเมธี : จริงๆ วัดก็ไม่เคยเรียกร้องให้ใครมาเข้านะ พระอาจารย์ก็ไม่เคยเห็นพระพุทธเจ้าบอกว่ามาเข้าวัดกันเถอะ พระพุทธเจ้าตรัสรู้ธรรมะแล้วพระองค์ก็เดินไป ใครอยากฟังธรรมก็มาฟังเท่านั้นเอง ก็มีแต่เราคนไทยนี่แหละที่บอกว่าเข้าวัดๆๆ

วู้ดดี้ : ต้องไปไหว้วัดนี้อยู่บนภูเขา วัดนี้ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด ต้องบินไปถึงเชียงใหม่ ต้องมาเชียงราย ต้องลงมาภาคใต้ ต้องวัดนี้ โห...สุดยอดมาก อยู่ใต้น้ำ พระธาตุนี้ศักดิ์สิทธิ์มาก คนก็ต้องบินไป แล้วบางทีเราก็คล้อยตามไปด้วย อ๋อเหรอ ถ้าไหว้พระวัดนี้ที่องศาแบบนี้ ไหว้ทิศอย่างนี้แล้วกราบอย่างนี้ คุณจะมีบุญมากกว่าทุกคนในประเทศชาตินี้ จริงหรือเปล่า

ท่าน ว.วชิรเมธี : พระอาจารย์ฟังดูมันยิ่งไม่ใช่ไหว้พระตามแนวพุทธเลยนะ เพราะว่าไหว้พระตามแนวพุทธมันไหว้ที่ใจ ฉุดเข้าวัดนี่ประเสริฐมั้ยล่ะ

วู้ดดี้ : ครับ

ท่าน ว.วชิรเมธี : เพราะฉะนั้นโชคดีขนาดไหนที่มีคนชวนคุณเข้าวัดมาตลอดเวลา คนที่โชคร้ายก็คือ ไป...คืนนี้ไปผับมั้ย คืนนี้ไปอาร์ซีเอมั้ย


วู้ ดดี้ : แต่ถ้าไปแล้วไม่ดื่มเหล้าล่ะพระอาจารย์ ไปแล้วมันเต้นแล้วมีความสุข ผมก็มีความสุข มันร้องเพลงไปด้วย แล้วมันได้ปลดปล่อย นั่นมันคือความสุข มันไม่ใช่ความทุกข์ไม่ใช่เหรอพระอาจารย์

ท่าน ว.วชิรเมธี : พระอาจารย์อยากจะบอกว่านั่นเป็นความทุกข์ที่รอเวลาอยู่

วู้ดดี้ : ยังไงครับ

ท่าน ว.วชิรเมธี : ผลไม้ทุกผลมีโอกาสที่จะหล่นมั้ย

วู้ดดี้ : มีครับ

ท่าน ว.วชิรเมธี : คนทุกคนก็เหมือนผลไม้ ขณะที่มันมีความสุขก็มีความทุกข์แฝงอยู่ในนั้นตลอดเวลา แต่ถ้าคนที่ไม่เคยเข้าวัดไม่เคยเรียนธรรมะเลยนะ วันนี้คุณจะสุข พรุ่งนี้คุณจะทุกข์ ชีวิตคุณจะสุขๆ ทุกข์ๆ กระเด็นกระดอน

วู้ดดี้ : เพราะมีอบายมุขล้อมรอบเหรอ

ท่าน ว.วชิรเมธี : คุณมีโอกาสที่จะทุกข์ได้ตลอดเวลา วันนี้ทุกข์ยังไม่มาถึงแต่ไม่ได้หมายความว่ามันไม่มา ทุกข์ไม่ได้เกิดจากข้างนอก ทุกข์เกิดจากในนี้ เมื่อเรามีความเห็นผิด คิดชั่ว พูดชั่ว ทำชั่ว ทุกข์อยู่ตรงนั้น นรกก็อยู่ตรงนั้น


วู้ดดี้ : มาพูดถึงเรื่องนี้ดีกว่าครับพระอาจารย์ เรื่องของกรรม ช่วงนี้จะมีคนพูดถึงเยอะมาก แปลกนะทำไมมันกลายเป็น trend เมื่อปีที่ผ่านมา แก้กรรม จนกระทั่งศาสนาพุทธเองหลายๆ วัดผมก็ยังเห็น อ้าว...มาที่วัดนี้แล้วเราจะมาแก้กรรมได้ ชาติที่แล้วคุณมีกรรม ชาตินี้คุณจะต้องแก้แล้วชาติหน้าคุณจะได้ดีขึ้น ถามนะครับว่าตกลงมันจริงมั้ย การแก้กรรมด้วยการตัดกรรม
ท่าน ว.วชิรเมธี : คนไทยนี่ชอบแก้กรรม ก็ทำเหมือนว่าเรากำลังถูกมัดเอาไว้ก็เลยต้องมาแก้ หรือบางทีก็ต้องทำพิธีตัดกรรม ก็เหมือนกันว่ากรรมมันเป็นผ้าผืนหนึ่งหรือยังไง เป็นเชือกเส้นหนึ่งหรือยังไง กรรมก็คือตัวความคิดของเรานั่นเอง ฉะนั้นมันง่ายนิดเดียวนะถ้าจะตัดกรรมก็เปลี่ยนความคิด

วู้ดดี้ : แล้วมันมีกรรมจริงมั้ยครับ โลกใบนี้ มันมีเวรมันมีกรรมมั้ย ถามจริงๆว่ามันมีชาติที่แล้ว ชาตินี้ ชาติหน้า มันมีจริงมั้ย

ท่าน ว.วชิรเมธี : คือตามหลักพุทธมันมี

วู้ดดี้ : แต่มันพิสูจน์ไม่ได้น่ะพระอาจารย์

ท่าน ว.วชิรเมธี : แล้วมันจะเสียหายตรงไหนถ้ามันพิสูจน์ไม่ได้

วู้ ดดี้ : วู้ดดี้มีความรู้สึกว่าเวลาคนเราตาย มันก็แค่กลายเป็นผงธุลี แล้วมันก็ลงไปฝังในดินหรือเป็นขี้เถ้า มันจะไปชาติหน้าได้จริงเหรอ มันมีจริงเหรอ

ท่าน ว.วชิรเมธี : มี หลายสิ่งหลายอย่างที่เราเอาเข้าห้องแล๊ปไม่ได้นะ มันก็มีจริงๆ ฉะนั้นเราอย่าไปคิดว่าความจริงมันต้องเป็นความจริงที่พิสูจน์ได้เท่านั้น อย่างความรักก็ดี ความโลภก็ดี ความโกรธก็ดี ความหลงก็ดี อิจฉาตาร้อนก็ดี เอาเข้าห้องแล็ปได้มั้ย

วู้ดดี้ : ไม่ได้

ท่าน ว.วชิรเมธี : แล้วมันมีมั้ย ความรักมีมั้ย ความโลภน่ะมีมั้ย กามารมณ์น่ะมีมั้ย

วู้ดดี้ : เยอะ

ท่าน ว.วชิรเมธี : เอาไปพิสูจน์ได้มั้ยของพวกนี้

วู้ดดี้ : ไม่ได้

ท่าน ว.วชิรเมธี : นั่นสิ แต่มันมี เพราะฉะนั้นชาติหน้าเราก็ไม่ต้องไปคิดว่าพิสูจน์ยังไง พิสูจน์ไม่ได้แล้วมันจะมียังไง

วู้ดดี้ : อาจารย์ไม่เคยเห็นใช่มั้ยฮะ

ท่าน ว.วชิรเมธี : ของพวกนี้เขาไม่เห็นด้วยตา ต้องเห็นด้วยปัญญาสิ ใช่มั้ยล่ะ เพราะฉะนั้นเรื่องพวกนี้คุณจะสงสัยก็ได้ไม่ได้ทำให้พุทธศาสนาสูงขึ้นหรือ ต่ำลง สิ่งสำคัญไม่ได้อยู่ที่โลกหน้ามีหรือไม่มีนะ มันอยู่ที่ว่าโลกนี้มันมีแล้วคุณใช้ชีวิตในโลกนี้ยังไง


credit: pantip

 

สมมุติว่า หนูไปฆ่าคน ที่พี่รัก พี่จะเอาเรื่องหนูไหม
หนูอยู่กับปัจจุบันอยู่คือ หนูหนีและหาทางเอาตัวรอด
เพื่อป้องกันพี่จะมาทำร้ายหนู แล้วพี่ล่ะ จะไม่ทำร้ายหนูใช่ไหม.. .. .. ใช่ มะ ใช่ม๊ะ ใช่ม๊า

ตอบ: อ้างอิงจากบทความที่ถอดมาจากคลิป

เมื่อวู้ดดี้เดินเข้ามาที่ศูนย์วิปัสสนาอาศรมอิสรชน จ.เชียงราย ผมแปลกใจเลยล่ะครับ เพราะจะมีป้ายติดตามต้นไม้เต็มไปหมด ท่าน ว.วชิรเมธีบอกผมว่า เหล่านี้คือต้นไม้พูดได้

วู้ดดี้ : พึงชนะคนชั่วด้วยความดี มีให้อ่านทุกต้น

ท่าน ว.วชิรเมธี : มี คุณโยมเดินไป คุณโยมจะเห็นทุกหนทุกแห่ง อาตมามีความรู้สึกว่าเวลาเดินมาถ้าพระอาจารย์ไม่อยู่ ต้นไม้เทศน์แทนก็ได้

วู้ดดี้ : ผมกลัวมากว่าที่แห่งนี้ห้ามฆ่าสัตว์ แต่มดมันเยอะมาก ถ้าผมเหยียบมดตายผมจะตกนรกมั้ยครับ

ท่าน ว.วชิรเมธี : เจตนาจะเหยียบมีมั้ยล่ะ
วู้ดดี้ : ไม่มี

ท่าน ว.วชิรเมธี : ก็ไม่บาปก็แค่นั้นเอง วัดกันที่เจตนา กรรมไม่มี บาปไม่มีแก่ผู้ไม่เจตนาแค่นั้นเอง

วู้ดดี้ : ขับรถบนไฮเวย์เหยียบ 180 เพราะจะรีบไปหาภรรยาที่กำลังคลอดลูก แต่ดันไปชนคนแก่ตาย ไม่มีเจตนา บาปมั้ยครับ

ท่าน ว.วชิรเมธี : ก็เป็นแค่กิริยาไม่ถือเป็นกรรม แต่อย่าทำบ่อยๆ

วู้ดดี้ : โอเค อันนั้นผมแค่ยกตัวอย่างมันไม่เกี่ยวกับผมนะครับพระอาจารย์
ท่าน ว.วชิรเมธี : เจริญพร

" ศาสนาพุทธไม่ใช่เป็นศาสนาแห่งการขอ แต่เป็นศาสนาแห่งการลงมือทำ "

 

ได้ดูเหมือนกันคะ .. ดูกันทั้งบ้านเลยคะ .. ดีมากๆๆเลย

 

ชอบธรรมะที่ท่านว.วชิรเมธีสอนมากค่ะ

ท่านตอบคำถามแบบ เอาความรู้มาตอบ

ไม่ใช้สคริปต์

เห็นท่านตอบแล้ว ทำให้นึกว่าในสมองท่านมีแต่ความรู้แน่นๆ

สุดยอดเลยค่า ตอบแต่ละอัน แฝงความรู้ แล้วแต่ละคำเนี่ยทำให้ธรรมะ สนุกขึ้น

สาธุค่าา

 

ไม่มีเจตนาก็ไม่มีมโนกรรม
แต่กายกรรมที่ทำไปก็เรียกได้ว่าเป็นกายกรรม
กายกรรมก็ส่วนหนึ่ง มโนกรรมก็ส่วนหนึ่ง
ไม่มีเจตนา จึงเรียกว่าไม่มีมโนกรรม
แต่กรรมอื่นๆ เกิดได้ มีได้


แค่แจ้งให้ทราบเท่านั้นค่ะ ไม่จำเป็นต้องเชื่อนะคะ

 

เทศน์ให้คนเชื่อ นั้น.......ง่าย
เทศน์ให้คนชอบก็ยัง..... ง่าย


แต่เทศน์ให้คนเกิดปัญญานั้น ... ยาก

 

พระที่แท้จริง


พึงตั้งใจให้ผู้คนเกิด "ปัญญา"
ไม่พึงสักแต่ว่าให้เขาเชื่อ
ไม่พึงสักแต่ว่าให้เขาชอบ


เพราะพระพุทธองค์ทรงสอนให้เกิดปัญญา

 

เคยมั้ยฟังเทศน์แล้ว


กลับมารู้สึกสมองปลอดโปร่ง คิดอะไรได้มากมาย ปัญญาเกิด



เคยไหม?


ฟังเทศน์กลับมาแล้วอิ่มบุญผ่องใส แต่คิดอะไรไม่ออก บอกไม่ถูก อธิบายก็ไม่ได้



มันได้ต่างกัน ไปฟังธรรมเอาบุญ หรือเอาปัญญา

 

ความเห็นแบบนี้ไม่ถูกต้องด้วยพระธรรมวินัยเลย พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงทั้งโลกนี้และโลกหน้าไว้อย่างมากมาย ไม่เคยมีในที่ใดเลยที่แสดงว่าโลกหน้าไม่สำคัญ คำกล่าวนั้นเป็นแค่โวหารของชนชั้นหลังที่คิดขึ้นมาเอง ไม่เกี่ยวกับพระธรรมวินัยเลยแม้แต่น้อย

พระพุทธองค์ทรงแสดงเรื่องของโลกนี้และโลกหน้าไว้อย่างมากมายนับไม่ถ้วน ทรงจำแนกผลของกรรมดีกรรมชั่วที่ส่งผลไปยังภพเบื้องหน้าเพื่อให้ดำเนินชีวิตได้อย่างถูกต้อง ถ้าไม่รู้เรื่องของโลกหน้าอย่างถูกต้อง ก็ยากที่จะปฏิบัติตนในโลกนี้ได้อย่างถูกต้องสมบูรณ์ ซึ่งมีหลักฐานมากมายในพระไตรปิฎกที่แสดงถึงความสำคัญของโลกนี้และโลกหน้า ดังเช่น


- ดูก่อนอานนท์ เพราะในธรรมบรรยายนี้ เราจักได้จำแนกทั้งประโยชน์ในโลกนี้ ทั้งประโยชน์ในโลกหน้า(สุมังคลวิลาสินี อรรถกถาทีฆนิกาย สีลขันธวรรค)

- ก็ใครหนอจะรู้ (คติ) ของชีวิตทั้งหลาย ความว่า ท่าน ! ขึ้นชื่อว่าชีวิต มันก็เหมือนกับฟองน้ำ เหมือนหยาดน้ำค้างบนใบหญ้า มีการแตกกระจายในทันทีเป็นธรรมดา ใครจะรู้คติของชีวิตนั้นได้มันจักแตกสลายในขณะใด. บทว่า ภพหน้า จำต้องไป ความว่า ก็โลกหน้าเป็นของที่ต้องไปแน่นอนเทียว เพราะฉะนั้น กุลบุตรผู้เป็นบัณฑิตพึงรู้ ด้วยปัญญาในเรื่องนั้น (อรรถกถามหาโควินทสูตร)

- ชนทั้งหลาย ผู้ไม่รู้ประโยชน์ในโลกนี้ และประโยชน์ในโลกหน้าชื่อว่าพาล(พาลวรรควรรณนา เรื่องสุปปพุทธกุฏฐิ)

 

อนุโมทนา โดนด้วยเหมือนกัน
ปัจจุบันคุณอยู่โลกนี้แล้วใช้ชีวิตอย่างไร
โลกหน้าของคุณ ก็มีแน้วโน้มจะใช้ชีวิตอย่างที่คุณเป็นอยู่ปัจจุบัน

คนบางคน สมบูรณ์ด้วยโลกธรรม มีชื่อเสียง มียศ มีบริวาร มีทรัพย์สินมากมาย
แต่ก็ยังเป็นทุกข์ได้ทุกเรื่อง ไม่เคยพอใจในสิ่งที่มีที่เป็น ต้องการมากๆขึ้นไป
ไม่รู้จักคำว่า พอเพียง ย่อมเสวยทุกข์ในปัจจุบันและในอนาคต ถึงแม้จะได้ไปสู่
สุคติภพ แต่ใจมันก็ยังเป็นทุกข์ อยู่นั่นเอง โลกนี้ยังไม่หยุด โลกหน้าจะหยุด
เป็นหรือ โลกนี้ยังไม่เคยพอ โลกหน้าจะรู้จักคำว่าพอหรือ โลกนี้ยังคิดไม่หยุด
โลกหน้าจะหยุดคิดเป็นหรือ โลกนี้ยังถูกกิเลสบงการให้เป็นไป โลกหน้าจะห่าง
ไกลกิเลสได้จริงหรือ

 

ปัจจุบันดีที่สุด เมื่อเวลาผ่านไปก็จะเป็นอดีตที่ดีที่สุด และผลในภายหน้าก็จะเป็นอนาคตที่ดีที่สุด ดังนั้นพึงอยู่กับปัจจุบันและทำวันนี้ให้ดีที่สุด ดีมาและก็ดีไป

 

อย่าเพิ่งด่วนตัดสินผม ว่าแกล้งทำน้ำตาไหล เพราะมันเป็นบาปมหันต์

ท่าน ว.วชิรเมธี ท่านตอบคำถามแบบไม่เกรงใจใครของวู้ดดี้ได้ดีครับ วู้ดดี้ไม่ได้นับถือศาสนาพุทธ ไม่เชื่อเรื่องชาติหน้าหรือชาติไหนๆ นี่ถ้าท่าน ว.วชิรเมธีท่านตอบคำถามวู้ดดี้ไม่ดีพอ พระสงฆ์ คงจะถูกลดความน่าเชื่อถือลงไปมาก เหมือนกับเรื่อง "หมู่บ้านระลึกชาติ" ในรายการวู้ดดี้เมื่ออาทิตย์ก่อน ที่ใครๆดูก็ต้องบอกว่า โหเรื่องคนจำอดีตชาติได้นี่เป็นเรื่องลวงโลก(เหมือนจะบอกว่าคนที่เชื่อเรื่องนี้อย่างคนไทยหรืออย่างชาวพุทธเป็นคนงมงาย)เพราะการชี้นำ ปิดบังข้อมูล และโกหกของวู้ดดี้เอง และส่วนหนึ่งก็เกิดจากคนอยากดังเพียงคนเดียว ที่ทำเหมือนผีเข้าสิงแทรกเข้ามาในรายการ และความรู้เท่าไม่ถึงกาลของคนจำอดีตชาติรายหนึ่งที่ดันเออออไปกับเขาด้วย เลยทำให้เรื่องจริงที่เขาติดตามศึกษากันมานับ 10 ปี ถูกลดความน่าเชื่อถือลงไป...อย่างที่ไม่ควรจะเป็น....

คงต้องพึ่งหนังสือที่บันทึกเรื่องราวการจำอดีตชาติของ คนในหมู่บ้านตะคร้อ ไว้เมื่อ 10 ปีที่แล้ว แล้วละครับที่จะช่วยอธิบายความจริงให้ทุกคนได้รู้ ว่าเรื่องนี้คือเรื่องลวงโลก หรือเป็นเรื่องจริงของหมู่บ้านที่มีคนจำอดีตชาติได้มากที่สุดในโลก และเป็นผลงานศึกษาวิจัยที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกจริงๆ

หนังสือดีๆที่รวบรวมเรื่องราวทั้งหมดไว้นั้น เราเอามาแนะนำกันแล้วครับ

​

"ตะคร้อหมู่บ้านโลกตะลึง คนจำอดีตชาติ 16 กรณีศึกษา ตายแล้วเกิด"
คำนิยมโดย รศ.ดร.นัยพินิจ คชภักดี และ ดร.วิเชียร สิทธิประภาพร

เป็นเรื่องราวของหมู่บ้านแห่งเดียวที่มีคนจำอดีตชาติได้มากที่สุดในโลก คือ มีคนจำอดีตชาติได้ทั้งหมดมากกว่า 50 คน ลองหาซื้อมาอ่านดูนะครับ

เป็นเรื่องจริงที่ผู้เขียนเขาได้ทำการพิสูจน์สอบสวนและบันทึกเรื่องราวไว้เมื่อ 10 ปีที่แล้ว(2542) แต่ยังไม่นำออกมาเปิดเผย เขาได้ให้ข้อมูลและเบาะแสของคนจำอดีตชาติได้ในหมู่บ้านแห่งนี้ทั้งหมดกับคณะศึกษาวิจัยเรื่องคนจำอดีตชาติได้ จากมหาวิทยาลัยเวอร์จิเนีย ประเทศอเมริกา ได้เข้ามาพิสูจน์และเก็บข้อมูลไปตั้งแต่ พ.ศ.2544 เพื่อประโยชน์ทางการศึกษาวิจัย จนกระทั่งเมื่อเดือน มีนาคม 2552 คนเขียนเขาได้นำเรื่องราวทั้งหมดออกมาเปิดเผย ไว้ในเว็บไซต์ www.reincarnation.tk ของผู้เขียนเขาเอง ต่อมาเจ้าของนิตยสาร "ภควา" ไปพบข้อมูลนี้จึงขออนุญาตนำเรื่องราวบางกรณีศึกษาไปลงในนิตยสาร ก็มีผู้คนสนใจสอบถามเข้ามามาก เจ้าของนิตยสารภควาจึงติดต่อคนเขียนเพื่อนำเรื่องราวมาพิมพ์เป็นพ็อกเก็ตบุ๊ค ต่อมานักข่าว นสพ.คมชัดลึกทราบข่าวก็บุกเข้าไปพิสูจน์ถึงในหมู่บ้านแห่งนี้ด้วยตัวเอง สัมภาษณ์เด็กที่จำอดีตชาติได้เอง และได้นำเรื่องราวมาตีพิมพ์ใน นสพ.คมชัดลึกหน้าพระเครื่องฉบับวันที่ 8-11 กันยายน 2552 ติดต่อกัน 4 วัน หลังจากนั้นก็มีรายการทีวีไปติดต่อคนเขียนเพื่อถ่ายทำรายการ หลายรายการ แต่ที่ได้เข้าไปถ่ายทำรายการจริงๆมี 2 รายการ คือรายการ 9 ร่วมใจคนไทยไม่ทิ้งกัน ช่อง 9 เป็นรายการสด ออกอากาศไปเมื่อวันที่ 16 กันยายน 2552 จากนั้นก็เป็นรายการวู้ดดี้เกิดมาคุย ออกอากาศไปเมื่อวันที่ 27 กันยายน 2552

ความจริงเรื่องราวของคนที่จำอดีตชาติได้ทั้งหมดในหมู่บ้านตะคร้อแห่งนี้ น่าจะมีประโยชน์มากมายมหาศาลกับคนทั้งโลก แต่กลับถูกรายการทีวีอย่างรายการ "วู้ดดี้เกิดมาคุย" และคนอยากดังเพียงคนเดียวที่มีอาการเหมือนคนผีเข้า เข้ามาแทรกระหว่างถ่ายทำรายการ และความรู้เท่าไม่ถึงกาลของคนจำอดีตชาติรายหนึ่งที่ดันเออออไปกับเขาด้วย ทำให้มันกลายเป็นข้อมูลที่ไม่น่าเชื่อถือไปอย่างน่าเสียดาย

ซึ่งเป็นกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์กันมากหลังจากออกรายการ "วู้ดดี้เกิดมาคุย" ว่าเป็นเรื่องลวงโลก ทั้งๆที่เป็นเรื่องจริงที่มีคณะศึกษาวิจัยและนักข่าว นสพ.เขาเข้าไปพิสูจน์มาแล้ว

ลองหาซื้อหนังสือเล่มนี้มาอ่านดูนะครับ ภาพที่เห็นคือเล่ม 1 เขาทำเป็น 2 เล่มจบ เล่ม 2 จะออกจำหน่ายประมาณต้นเดือนพฤศจิกายน 2552 นี้ หรือเข้าไปอ่าน E-Book ฟรี หรือดูภาพในวันที่รายการวู้ดดี้เข้าไปถ่ายทำได้ ในเว็บไซต์ www.reincarnation.tk จะได้รู้กันไปว่า คนในหมู่บ้านเขาลวงโลก หรือรายการวู้ดดี้ ลวงโลกโดยการ ชี้นำ โกหก และปิดบังข้อมูลบางอย่าง เพราะตัววู้ดดี้เองไม่เชื่อเรื่องนี้ และเขาไม่ได้นับถือศาสนาพุทธ....อย่างที่หลายๆคนเข้าใจ

หนังสือมีขายที่ : ซีเอ็ดบุ๊คเซ็นเตอร์ เซเว่นอีเลฟเว่น บุ๊คสไมล์ร้านนายอินทร์ ดอกหญ้า แพร่พิทยา บุ๊ควาไรตี้ B2S และร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศครับ

 

ท่าน ว ท่านพูดโดยใช้ปัญญาครับ
ไม่ได้ใช้ ตำรา

หาก ท่าน ว ยกตัวอย่าง เรื่อง ชาตินี้ชาติหน้า โดยอาศัยคำสอนพระพุทธองค์

วูดดี้ มันจะเชื่อเหรอครับ

ท่านตอบได้สุดยอดแล้วครับ


ผมละเบื่อพวกที่เอะอะไร ก็ คำสอนๆๆๆ ไม่มีปัญญา ซะเลย

 

(||)

 

ตอนหนึ่ง ท่านพูดถึง การปฎิบัติ บางจำพวก สามารถเหะเหินเดินอากาศได้ ท่านว่า ไม่สรรเสริญในทางนั้น เป้นเรื่อง ธรรมดา ในทางปฏิบัติ สรรเสริญ การบรรลุทางธรรมมากกว่า

วุ๊ดดิ๊ ถามว่า มีจริงหรือ ( คนที่เหาะได้ )

ท่านว่า เป้นเรื่องปรกติ ของการปฏิบัติ

ท่านว่า ของที่เราไม่เห้น จะว่า ไม่มีได้หรือ

วู๊ดดิ๊ ทำหน้างง พึมพัม ( จริง หรือ )

ท่านไม่ตอบ .... ( คำพูดอาจคลาดเคลื่อน แต่เนื้อหา โดยรวม แบบนั้น)

ท่านคงรู้เห้นอะไร ดีๆ มาก แต่ไม่คุย เพราะ ไม่เกิดประโยชน์
สอนให้ปัญญา มีประโยชนืมากกว่า สาธุ

 

ท่านเลือกที่จะไม่พูด เพราะไม่ใช่ประเด็นทางศาสนา

แต่กลับกันหากเป็นพวกยึดติดกับ อภิญญา ห็จะต้องรูปตอบว่า
ไม่จริง มีๆๆ มีจิรงแน่นอน คอนเฟริม ไม่เชื่อไปลองหาข้อมูลดี้ๆๆ นะ
อย่าลบลู่น้า ตีตายเลย

 

ดุเด็ดเผ็มมัน ได้ความรู้และหลากทัศนมากครับ เสียดายรู้จักเวปนี้ช้าไป ผมสนับสนุนและชอบแนวทางการตอบของท่าน ว. ครับ รวมทั้งทุกท่านที่อ้างเหตุแห่งการสนับสนุน... อยากบอกว่า วูดดี้ ออกจะพาล เขาไม่เชื่อในวิถีพุทธ ท่าน ว. ตอบได้เยี่ยมสุดแล้วครับ

 

ต่างคนต่างทำหน้าที่ของตน อานิสงค์จึงยาวไกล มาถึงนี่ ต้องขอบพระคุณท่านทั้งสองนั้น สาธุ555

 

ให้ความเป็นธรรมต่อวู้ดดี้ด้วยนะครับ เขาทิ้งท้ายไว้นอกการสัมภาษณ์หลายๆช่วง เกี่ยวกับสิ่งที่ได้รับจากการสนทนากับท่าน ว.
รวมถึงตอนหลังสุดก็ยอมรับว่าธรรมะเป็นเรื่องใกล้ตัว ครับ

(ดูให้จบ 4 ตอนด้วยนะครับ)

ส่วนตัวแล้ว ท่าน ว ตอบได้ดีทุกคำถาม
ส่วน วู้ดดี้ ก็ดูเป็นคนมีเหตุมีผล ยอมรับความเป็นจริงต่างๆ
ที่ติดใจก็เรื่องขับรถชนคนนั่นแหละ ท่าน ว. อาจจะขยายความถึงกรรมที่เกิดจากความประมาท หรือผลของการกระทำแห่งการขับรถเร็ว อะไรแบบนี้ ไม่แน่ใจว่าท่านได้กล่าวหรือไม่ เพราะในเทป ตัดไปเลยครับ

 

ตอนนี้เริ่มจะศรัทธาคำสอนท่าน ว. มากขึ้นมาเรื่อย ๆ แล้วครับ

แต่ก่อนคิดว่าท่านคงเป็นพระนักเทศน์

ที่อธิบายว่าสวรรค์อยู่ในอก นรกอยู่ในใจ เหมือนที่ผมเคยฟังมาหลายรูป

ตอนนี้ฟังคำสอนท่านแล้ว

บอกได้เลยว่า ท่านไม่ใช่ธรรมดาจริงๆ

แบบนี้กราบหมดใจ