เรื่องเด่น สืบสานปณิธาน "ณรงค์ เพ็งลาภ" ผ่าน ۩۞۩ สโมสรบุญ ☀★☀ เพื่อพระพุทธศาสนา

บุญที่ทำสำเร็จอีกงานบุญ ยังเนื่องด้วยทองคำในพระพุทธศาสนา อยู่นะครับ
คือทำพระบัลลังก์ประดิษฐาน พระพุทธรูปทองคำ>> ขอเชิญร่วมทอดผ้าป่าสร้างพระอุโบสถและฐานพระพุทธเจ้าสมเด็จองค์ปฐมทองคำ



พระทองคำ จะเป็นพระพุทธรูปที่หวงแหน ของชาวพุทธ ของผู้สร้าง
เพราะทำด้วยทองคำที่ล้ำค่า สมควรช่วยกันรักษาให้อยู่คู่พระพุทธศาสนาสืบต่อไปนานเท่านาน
สร้างพระบัลลังให้สมพระเกียริต ของพระพุทธรูปทองคำนี้ครับ
ขอร่วมผ้าป่าสรัางพระบัลลังก์ ตรัยรัตนะบูชา 1,000 บาท(เงินในสโมสร)
ขอให้ผลบุญกุศลนี้จงถึงทุกท่านที่ร่วมปัจจัยไว้ในสโมสรจงทุกประการ ตามที่ตั้งใจไว้แต่แรกด้วยเทอญ<!-- google_ad_section_end -->

 

วัดบนเชิงเขาที่เงียบสงบ แถบใกล้ อ.วังน้ำเย็น









ตั้งอยู่บนข้างเขาขนาดย่อม แค่เดินขึ้นก็เหนื่อยเหมือนกันสำหรับผู้ที่มีกำลังน้อย
ภายในวัดเงียบสงบมาก ผมเข้าไปทีแรกนึกว่าวัดร้าง ไม่เห็นพระสักรูป
เดินไปที่ศาลาใหญ่ จึงพบพระหนุ่มรูปหนึ่ง ไม่ได้ถ่ายรูปท่านไว้ ก็ถามท่านในหลายเรื่อง
มีพระจำอยู่ทั้งหมดขณะนี้ อยู่สองรูป ก็มีพระไปๆมาๆ ท่านมาอยู่ได้สามพรรษา

เท่าที่ผมเดินดู มีกุฏิหลังเล็กๆดังในภาพจำนวนหลายหลัง สามารถพักได้เกือบ 10 รูป
เหตุที่พระไม่ค่อยมี อาจเพราะห่างไกล ชุมชน ความเจริญ แต่การบิณฑบาตร นั้นพอเพียงครับ
เนื่องจากเงียบและสงัดมาก จะต้องเป็นพระที่ตั้งใจบวชเพื่อปฏิบัติจริง จึงจะอยู่ได้

 

มาพูดถึงเรื่องถ้ำกันบ้าง ถ้ำแบ่งออกเป็นสามชั้น สามห้อง มีห้องแรก ห้องกลางลึกลงไปหน่อย และห้องล่างสุด
ในภาพที่ขยายมมาให้ดูนี้ เป็นห้องล่างสุดครับ มีทางเดินจงกลมไว้ด้วย
เป็นเรื่องแปลกที่ธรรมชาติมีครับ คือบริเวรใกล้ปากถ้ำเป็นต้นไป อากาศจะแบ่งอุณหภูมิอย่างเด่นชัด
ในขณะที่อากาศอันร้อนอบอ้าวในรอบนอกทั่วไป แต่พอเดินเข้าใกล้ปากถ้ำกลับมีอากาศที่เย็นสบายเหมือนติดแอร์
ให้ความรู้สึกสัมผัสได้ทันที ยิ่งเดินเข้าในถ้ำยิ่งเหมือนเดินเข้าห้องแอร์เช่นนั้น
พระท่านบอกว่า อุณหภูมิในถ้ำจะไม่เปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล จะคงไว้ที่ 23-25 องศาเท่านั้น ไม่ว่าข้างนอกจะร้อนหรือหนาวเพียงไร

ท่านพาผมเดินลงไปถึง ห้องในสุด จะมีความเงียบสงัดจากเสียงรบกวนโดยสิ้นเชิง ท่านนอนและปฏิบัติในห้องในสุดนี้
สัมผัสได้ถึงความสงัด สงบ เย็นกาย เย็นใจ ยังคิดไว้ว่าจะหาโอกาสเข้า กรรมฐาน ณ ที่นี้บ้างหากมีโอกาส
เป็นวัดที่มีความพร้อม น้ำกินน้ำใช้ ที่พัก อาหารจากชาวบ้าน สัปปายะ มากๆครับ
ท่านใดสนใจรายละเอียด ติดต่อผ่านผมได้จะแนะนำให้ครับ หรือจะให้ผมพาไปก็ยินดี
สถานที่อย่างนี้เมื่อเข้าไปแล้ว สงบดีมาก ใครอยากหนีความวุ่นวายที่นี่เลยครับ แจ่มมากทีเดียว

 

วัดบนเชิงเขาที่เงียบสงบ แถบใกล้ อ.วังน้ำเย็น(วัดที่สอง)







วัดนี้อยู่ไม่ไกลกับวัดด้านบนนัก มีถ้าเช่นเดียวกันแต่ไม่ใหญ่และลึกเท่าวัดแรก
มีพระจำอยู่เพียงรูปเดียวปักหลักที่นี่นานถึง 25 พรรษาโดยไม่ไปไหนเลย
ท่านเป็นคนกรุงเทพฯ มีข้อวัตรปฏิบัติ เหมือนพระป่าทั่วไป ผจญกับมารในรูปแบบต่างๆ
สนทนากับท่านนานมาก ท่านพูดถึงพบครูบาอาจารย์มาสอนที่ในถ้ำหลายองค์ด้วยกัน
แม้แต่องค์หลวงพ่อพระราชพรหมญาณมหาเถระ วัดท่าซุง ก็มาโปรดท่าน
ผมก็ซักถามท่านไปเรื่อยๆ มีตอนหนึ่งผมถามท่านว่า บวชนานอย่างนี้มีท้อถอยเบื่อหน่ายต่อสมณะเพศ บ้างไหม
ท่านว่ามี นะ ถึงขั้นถามตัวเองเป็นคำหยาบๆ ว่ามึงบวชมาทำไม อยากเป็นทาสพระพุทธเจ้าหรือพระศาสนาหรือ
มาอยู่เฝ้าวัดทำไมให้เสียเวลา ไปทำอย่างอื่นไม่ดีกว่าเหรอ ทำนองนี้
แต่ท่านก็พิจารณา ต่ออารมที่เกิดขึ้น และครูบาอาจารย์มาช่วยแนะนำ จึงผ่านพ้นมาได้จนทุกวันนี้
ผมถามท่านว่า ไม่คิดที่จะสึกออกไปหาทางโลกอีกแล้วเหรอ ท่านตอบว่า ไม่คิดกลับไปอีกแล้ว จะอยู่ในผ้าเหลืองเพื่อสร้างบามีต่อไป
ก็สาธุ..โมทนากับท่านครับ แม้วันหน้าไม่เที่ยงแท้แน่นอน แต่วันนี้ความดียังมีให้ได้ทำอยู่

เราทั้งหลาย จงยังความไม่ประมาทให้ถึงพร้อม ตลอดไปเทอญ

 

สวัสดีค่ะคุณอาณรงค์

ขอร่วมบุญด้วยนะคะ ทำบุญหลังสอบเสร็จ^^

โอนจาก KTBA

TIME : 19.04

AMOUNT : 200.00

ขอบคุณมากๆนะคะ

 

น้อมโมทนาสาธุการ กับหลาน daradora ด้วยครับ
ก็เป็นการเติมปัจจัยใส่ไว้ในธนาคารบุญ จะนำเงินไปทำบุญตรงไหน เมื่อไร ท่านก็ได้บุญรับอานิสงส์ ทุกครั้งครา
เหมือนน้ำในตุ่ม ที่หลายคนช่วยกันตักใส่ เมื่อจะเอาน้ำในตุ่มไปใช้อะไร ก็เป็นน้ำที่ทุกคนที่ตักใส่
สโมสรจะร่วมบุญตามสถานที่ต่างๆที่เดือดร้อน แค่เราได้มีโอกาสช่วยหรือร่วมบุญ ก็ได้รับอานิสงส์แล้วครับ

 

แจกฟรี เป็นหนังสือเรื่องราวของ พระเดชพระคุณท่านเจ้าคุณนรรัตนราชมานิต
มีความหนาประมาณ 60 กว่าหน้ากระดาษ ภายในบรรจุเรื่องราวของท่านและธรรมะของท่าน น่าอ่านน่าติดตามมากทีเดียว
มีอยู่หลายสิบเล่มครับ ได้รับมาจาก น้องปู คุณ เบญญภา จากอเมริกาครับ ฝากมาไว้แจก
ส่วนหนึ่งผมก็จะเอาเข้าห้องหนังสือตามวัด หากมีโอกาสผ่านไปตามวัดต่างๆ
หากใครสนใจ ลงชื่อไว้ในกระทู้ นี้ได้เลยครับ จะส่งไปให้ทุกท่านที่ขอมาเป็นระยะๆ<!-- google_ad_section_end -->

..........................................................................................

สำหรับหนังสือเล่มนี้ ขอเวลาในเรื่องจัดส่งสักเล็กน้อย เพราะหนังสืออยู่ที่จังหวัดนนทบุรี
ผมจะได้เดินทางไป นนทบุรี วันที่ 24 ก.พ. นี้ครับ แต่ก็หลายวันกว่าจะได้เดินทางกลับ
พร้อมรับหนังสือมาไว้ที่ บ้านวังน้ำเย็น ด้วย เพื่อจัดส่งให้กับทุกท่านที่ขอมาต่อไป

 

เกษตรธรรมชาติสู่เกษตรพอเพียง




มาเปลี่ยนบรรยากาศจากเรื่องบุญกุศล มาเป็น เรื่องปาก เรื่องท้อง ความอยู่รอดของสังคม ของประเทศไทยกันบ้างนะครับ
เมื่อวันที่ 12-16 กุมภาพันธ์ ผมได้มีโอกาสเข้าร่วมฝึกอบรม วิชาเกษตรพึ่งตนเอง
เป็นเกษตรธรรมชาติแบบพอเพียงตามทฤษฎี ขององค์ในหลวงของพวกเรา
เหตุที่เข้าไปอบรม เพราะสนใจเรื่องเกษตรเป็นทุนเดิม และอยากเรียนรู้ให้กระจ่างในองค์ความรู้ในถาคทฤษฎี
เพื่อนำมาใช้ในเชิงปฏิบัติ ตามความเป็นจริง และก็ทำได้จริง ในงานเกษตร

จากการได้ศึกษาในการเข้าอบรม ก็พอจะสรุปได้คร่าวๆ(เท่าที่จำได้) ดังนี้

1 เพื่อให้คนไทยพึ่งตนเองได้ แม้โลกจะเปลี่ยนแปลงอย่างไรก็ตาม ทั้งในด้านการเมือง ด้านเศรฐกิจ
2 ช่วยให้ประเทศไทยอยู่รอดได้ แม้ในยามทั่วโลกเดือดร้อน และสามารถแข่งขันกับประเทศอื่นๆในเรื่องของเกษตร
3 เป็นการเลิกใช้สาร เคมี หันมาใช้ธรรมชาติ เป็นปุ๋ย เป็นสาร ในการทำเกษตร
4 เพื่อฟื้นฟูผืนดินที่เสื่อมสภาพ ให้กลับมามีความอุดมสมบูรณ์เหมือนในอดีต
5 ผลิตพืชผลเกษตรให้มีคุณภาพและปลอดสารพิษ เพื่อสุขภาพของคนทั้งโลก

นี่เป็นจุดมุงหมายของเกษตรธรรมชาติทฤษฎีใหม่ ที่ได้รับมา ในอีกไม่ช้า 2-3 ปีข้างหน้านี้
โลกจะเปิดเสรีทางการค้า ทั่วโลกจะขายสินค้าได้อย่างเสรี มีถนนหนทางเชื่อมต่อกันกับทุกประเทศ
ประเทศไหนมีสินค้าที่ได้มาตรฐานก็จะเป็นที่ยอมรับของคนทั้งโลก ส่วนประเทศไหนที่สินค้าด้อยคุณภาพไม่ได้มาตรฐาน ก็จะถูกเมินต่อสังคมโลก
โดยเฉพาะในเรื่องของอาหาร เป็นสิ่งจำเป็นสูงสุด เพราะอาหารเลี้ยงโลกนั้นลดน้อยลงเลื่อยๆ
จวบกับภาวะแห้งแล้งอันเกิดจากโลกร้อน ยิ่งทำให้ชาวโลกประสบกับภาวะขาดแคลนอาหาร นี่เป็นเหตุ
ประเทศไทยจึงต้องเตรียมตัว รับกับสถานการณ์การแข่งขันกับนานาประเทศ ที่มีการค้าเสรี
จึงเป็นที่มาของการให้ความรู้แก่ภาคเกษตรกรรม ทั่วประเทศไทย เพื่อให้มีการผลิตผลเกษตร ที่ได้มาตรฐานนั่นเอง

 

นำภาพกิจกรรมมาฝากครับ

ปีนี้มีการฝึก 5 รุ่น ผมเข้าฝึกรุ่น 2 คือระหว่างวันที่ 12-16 ก.พ.53







มีประธานมาทำพิธีเปิดการอบรม เสร็จแล้วก็มาทำความรู้จักสร้างความคุ้นเคยกัน
ด้วยการเล่น ต่างๆการจับคู่เป็นเพื่อน การแนะนำตัวเองต่อเพื่อนๆในรุ่น
มีตั้งแต่ วัยรุ่น ไปจนถึง อายุ 80 กว่าปี ก็มีครับ
มีอาหารให้ทานฟรี มีที่นอนให้ น้ำดื่ม น้ำอาบ น้ำสมุนไพรรักษาสุขภาพ ตลอดงานครับ
ทุกคนที่นี่เป็นกันเอง แม้จะต่างบ้านต่างตำบล ต่างอำเภอ แต่ก็คนไทยทั้งนั้น
มีความรักสามัคคีต่อกันได้ดียิ่ง เหล่าบรรดาครูผู้สอน ซึ่งนำองค์ความรู้มาสู่พวกเรา ก็ล้วนด้วยน้ำใจอันดียิ่ง
เป็นครั้งแรกสำหรับผม ที่เข้าไปอบรมในลักษณะนี้ ก็ประทับใจเป็นอย่างยิ่ง

 

ต่อครับ







มีกิจกรรมที่ต้องทำในแต่ละวัน ไม่ว่าตอนเช้า ตื่นแต่เช้า มาฝึกโยคะ ดูวีดีโอทัศน์ เคารพธงชาติตอน 8 โมงเช้า
หลังจากนั้นรับประทานอารร่วมกัน พร้อมกัน แล้วเข้าห้องประชุม ฝึกร้องเพลง เกี่ยวกับการให้กำลังใจปลุกใจ
จากนั้นก็จะมี วิทยากรเข้ามาให้ความรู้ในเรื่องต่างๆเป็นระยะๆ กับหลายๆองค์ความรู้
และรวมถึงการออกไปปฏิบัติจริง ด้วยตัวของผู้เข้าฝึก นั่นคือความรู้ที่ทุกคนจะได้นำไปใช้เมื่อกลับไปบ้านตัวเองแล้ว
ผมดูแล้วนับเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง ความรู้ที่ได้นี้ จะนำพาประเทศไทยอยูรอดได้อย่างมั่นคง
มีเหตุผลครับจะกล่าวในช่วงท้ายๆก็แล้วกัน

 

ต่อครับ





ชุดนี้เป็นการเรียนรู้เกี่ยวกับพืชสมุนไพร ทดลองทำกันจริงๆ
เมื่อทำเสร็จแล้ว ก็นำมาใช้กันตรงนั้นเลยทีเดียว มีคนในกลุ่มมาลองใช้ ดังภาพสุดท้ายทนั่นและครับ
เป็นการนำเอาสิ่งที่เรามี สิ่งที่เราปลูกกันได้ มาทำประโยชน์ ทั้งในรูปของอาหาร และ เป็นยาจากพืชสมุนไพร
มีสรรพคุณเป็นที่ยอมรับ จากหน่วยงานต่างๆ จนขยายไปทั่วโลกแล้วในเวลานี้

 

ชมชุดสุดท้ายของรายการเกษตรธรรมชาติครับ

ไปทัศนาศึกษานอกสถานที่

รับฟังความรู้ในป่าธรรมชาติและเล่นสนุกสนานกันในหมู่ผู้เข้าอบรม

ออกเดินชมป่่าด้วยกัน

เดินชมป่่า

ฝึกการผสมทำอิฐดินและอิฐลูกรัง

ฝึกปั้นอิฐ

ฝึกย่ำดิน

เตรียมปฏิญาญตนในการนำความรู้ไปใช้

ภาพนี้วันอำลาอาลัย ก่อนแยกย้ายกันกลับบ้าน

ใบประกาศนียบัตรของผู้ผ่านการเข้าฝึกอบรม

ชุดนี้ เป็นการทัศนะศึกษานอกสถานที่ฝึกอบรม
โดยไปดูการปลูกป่า 7 ชั้น ซึ่งเป็นป่าเรียนแบบธรรมชาติ มีพืชแทบทุกชนิดในพื้นที่
รวมทั้งเรื่องการเผาถ่าน เตาถัง 200 ลิตร เรื่องน้ำส้มควันไม้ การทำบ้านดิน
การเรียนรู้ธรรมชาติที่พึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน การอยู่ร่วมกันแบบธรรมชาติ
และก็ได้รับประทานอาหาร ด้วยกันในสวนป่่าเป็นการซึมซับกับธรรมชาติได้เป็นอย่างดีครับ
และก็จบลงด้วยดีกับความประทับใจ ในหลายสิ่งอย่าง กับการที่ได้รับมาในครั้งนี้
เป็นสิ่งย้ำเตือนจิตสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ขององค์ในหลวงพ่อของคนไทยทั้งประเทศ
ปรัชญาของท่านถูกนำไปใช้ทั่วโลกและได้ผลมาแล้ว
อีกไม่นานจะเห็นการเปลี่ยนแปลงของโลกใบนี้ วิถีชีวิตพอเพียงจะถูกนำมาใช้แก้ปัญหาของโลกครับ
การพึ่งตนเองได้เท่านั้นจึงจะอยู่ รอดปลอดภัยจากเภทภัยทั้งหลายทั้งปวง
ขอให้ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระเจ้าแผ่นดินของชาวไทย จงทรงพระเจริญหายจากพระประชวร มีสุขภาพพลานามัย แข็งแรงตลอดไปเทอญ

 

ขอร่วมโครงการบุญด้วยครับ จำนวน 500 บาท
โอนเงินวันที่ 23/02/53 เวลา 20.38น.
โมทนาบุญทั้งมวลด้วยครับ

 

อนุโมทนาบุญด้วยค่ะ มาร่วมทำบุญในสโมสรบุญแห่งนี้ค่ะ

 

ขอรับหนังสือ 1 เล่มครับ รบกวนจัดส่งที่
นายสัญชาติ เชียงการ
ศาลจังหวัดนครพนมแผนกคดีฯ
ถ.อภิบาลบัญชา อ.เมือง จ.นครพนม 48000
ขอบพระคุณล่วงหน้าและขออนุโมทนาบุญด้วยครับ./

 

วันมาฆบูชาปีนี้(28 กุมภาพันธ์ 2553) _กระผมและคณะขอร่วมโอนปัจจัย
เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับงานมหากุศลอันยิ่งใหญ่กับคุณณรงค์ทุกประการครับ
เป็นจำนวนเงิน 1009 บาท
ดีใจนะครับได้ร่วมบุญใหญ่กับคุณณรงค์อีกครั้งครับ
ขอน้อมอนุโมทนากับคุณณรงค์และทุกท่านเป็นอย่างสูงยิ่งครับ(*)(*)(*)

 

ขออนุโมทนาบุญกับคุณ pomsakda และคณะอีกงานบุญหนึ่งนะค่ะ

 

กลับมาครั้งนี้เว็บพลังจิตกำลังปรับปรุง จึงทำให้การโพสยากอยู่สักหน่อย
เป็นธรรมดานะครับ ทุกอย่างบนโลกใบนี้ ล้วนต้องต่อสู้เพื่อการดำเนินไปได้

ขอขอบคุณน้องดอกแก้วด้วยครับที่เข้ามาช่วยโพสกระทู้ พี่ไม่อยู่ น้องสาวทำแทนให้ เยี่ยมครับ

ผมขอกราบโมทนา ในบุญกุศลของทุกท่าน ที่ร่วมปัจจัยไทยทาน ไว้ในสโมสร ของพวกเรา
เป็นธนาคารบุญครับ ท่านเอาเงินใส่ไว้ ผสมในบัญชีสโมสร ก็เป็นบุญของทุกท่านตลอดกาลสมัย
ผมมีโอกาทำบุญตรงไหนเมื่อไร ท่านมีส่วนร่วมด้วยทุกครั้ง แม้ท่านจะทำเพียงบาทเดียวก็ตาม ตราบใดบัญชีนี้ยังไม่ปิดลง

สำหรับท่านที่ขอรับหนังสือ ผมขอเวลาสักนิดนะครับ ผมพึ่งไปเอามาเมื่อวานนี้เอง มีจำนวน 50 เล่มทั้งหมด
ใครขอก็ให้ทุกคนครับ โดยจัดส่งให้ฟรี ขอให้ท่านเอาไปแล้วอ่าน เมื่ออ่านแล้วท่านจะนำไปให้ใครก็ได้
หรือจะนำไปไว้ห้องสมุด สาธารณะ ก็ยิ่งดีนะครับ เปิดโอกาสให้คนอื่นได้อ่านกันต่อไป<!-- google_ad_section_end -->

ได้มีโอกาสเดินทางไปที่ต่างจังหวัด จากสระแก้ว ไปถึงสิงห์บุรี อ่างทอง อยุทธยา และ ชลบุรี เป็นที่สุด
นอกจาก นนทบุรีด้วย การไปสิงห์บุรีมีจุดประสงค์ ไปกราบนมัสการ องค์หลวงปู่ จรัญ วัดอัมพวัน
ท่านอายุมากแล้ว การได้ไปกราบนมัสการท่าน เป็นบุญอย่างยิ่ง
ท่านมีสังขารอันผ่องใสยิ่งนัก เป็นบุญตา บุญจิตอย่างยิ่ง กราบนมัสการท่านด้วยความเย็นจิตเย็นใจอย่างยิ่ง
ได้อัญเชิญ ภาพขององค์หลวงปู่ ของวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2553 ถ่ายด้วยมือของผมเองมาให้ชมกันครับ
มีหลายภาพ แต่ขอลงเพียงภาพเดียว อันเนื่องด้วยองค์หลวงปู่



เป็นภาพ ที่เห็นสังขารอันผ่องใสยิ่งนัก ท่านบริสุทธิ์ยิ่งแล้วนะครับ



ในภาพต่อมาเป็นภาพอลค์หลวงปู่เยี่ยม ฉายาเต็มๆผมไม่ได้ถามมา ได้ทราบข่าวเรื่องท่านอาพาธ มาจากเพื่อนสมาชิกพลังจิตนี่แหละ
องค์หลวงปู่ท่านอาพาธ และจำอยู่วัดประดู่ทรงธรรม จ.พระนครศรีอยุธยา ท่านอาพาธมาหลายปีแล้วครับ
เดินไม่ได้ พูดไม่ค่อยได้เนื่องจากมีการเจาะที่คอ สังขารซีกขวาไม่มีแรง ต้องนอนอย่างที่เห็นในภาพเป็นส่วนใหญ่
มีลูกสาว ที่เป็นแม่ชี คอยปฏิบัติดูแลตลอดเวลา องค์หลวงปู่ท่านมีเมตตามากครับ
ลูกสาวท่านที่เป็นแม่ชี ก็มีจิตใจเปี่ยมด้วยเมตตา เป็นบุญกุศลที่รักษาสงฆ์อาพาธกันถึงที่ ในครั้งนี้

 

บุญต่อเนื่องอันเนื่องด้วยการสร้างพระพุทธรูป

จากการที่ได้ไปวัดประดู่ทรงธรรม เยี่ยมพระสงฆ์อาพาธ ก็ได้มีโอกาสร่วมสร้างพระพุทธรูปกับ ท่านแม่ชี
ท่านแม่ชี บอกว่าท่านฝัน(นิมิต)เห็นหรือมีผู้มาบอกให้สร้างพระพุทธรูปปาง ปาลิไลย์(เรียกถูกไหมนี่) ดูในภาพนะครับ



ในภาพนี่แหละครับ ที่ท่านแม่ชี ผู้สมถะและเมตตาเล่าให้ฟัง
องค์ที่รับอาหาร จากลิงและช้างนั้น ได้ส่วนพระพุทธรูปเก่ามาผสมด้วย
คือมีส่วนเอวบ้าง แขนบ้าง ที่เป็นของเก่ามาประกอบใส่ จึงเท่ากับว่า ได้ทั้งซ่อมและได้ทั้งสร้าง ในคราเดียวกัน
ก็เป็นมหาอานิสงส์อย่างยิ่งครับ ยังขาดปัจจัยอยู่อีกมาก ท่านทำตามมีตามได้ คือตามกำลังของท่าน
มีผู้มาบริจากช่วยอยู่มากรายเหมือนกัน แม่ชีท่านดีใจ ที่องค์พระออกมาได้ถึงวันนี้ ก็ขอโมทนาสาธุการกับท่านแม่ชีด้วยครับ

ทั้งหมดที่กล่าวนำมาแล้วนั้น ทุกท่านที่ได้เติมเงินปัจจัย ไว้ในสโมสร มีส่วนร่วมด้วยช่วยทุกงานครับ
คือ..ผมได้เบิกเงิน สโมสร 500 บาท (ยังหาบิลใบเสร็จไม่เจอ)
1 ถวายทำบุญกับ องค์หลวงปู่จรัญ 200 บาท>>คุณสุชาดา เพิ่มให้เต็ม 1000 บาทแล้วถวาย
2 ถวายรักษาสงฆ์อาพาธ หลวงปู่เยี่ยม 200 บาท>>คุณสุชาดา เพิ่มให้เป็นถวาย 500 บาท
3 ร่วมสร้างพระพุทธรูปกับท่านแม่ชี 100 บาท>>คุณสุชาดา เพิ่มให้เป็นถวาย 500 บาท

เป็นบุญที่ถึงทุกท่านที่ร่วมปัจจัยไว้แล้วครับ ก็ได้ร่วมสร้างอานิสงส์กันต่อไปเรื่อยๆครับ

 

ณ ชลบุรี

วันที่ 28 กุมภาพัน 2553 วันมาฆบูชา
ณ ชลบุรี เดิมตั้งใจไป วัดเนินสุทธาวาส แต่ปรากฎว่าไม่ค่อยคุ้นทาง
ทำให้หลงทางเสียเวลาเป็นประจำ เลยได้แค่วัดเนินฯในวัด ไม่ได้ไปที่ก่อสร้างพระเจดีย์ พุทธคยาจำลอง
กับวัดอ่างศิลา ติดชายทะเล ทางไปหาดบางแสน เป็นวัดที่มีพระอุโบสถเก่าแก่มาก วัดหนึ่งทีเดียว
อยู่ในความดูแลของกรมศิลฯ แต่ทางวัดยังเปิดให้เข้าไปชมภายในได้อยู่ เห็นความเก่าแก่ภายในสวยงามมากครับ

พระพุทธรูปที่วัดเนินสุทธาวาส งดงามมาก

พระพุทธรูปในพระอุโบสถเก่า วัดอ่างศิลา

ภาพวาดบนผนังพระอุโบสถ

ณ ที่นี้ได้เข้าไปสวดมนต์นั่งสมาธิ สงบจิตใจ นานพอสมควรหลังจากนั้นก็เดินทางกลับสู่จังหวัดนนทบุรี
ครับก็เป็นการ นำสถานที่ต่างๆมาแบ่งกันชม ประเทศไทยยังมีของดีๆอีกมากมายครับ