ปริศนา "ZERO POINT"... แหล่งพลังงานแห่งการดำรงอยู่ของสรรพสิ่ง

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย kindred, 4 มกราคม 2010.

  1. su_ra

    su_ra เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    169
    ค่าพลัง:
    +736
    ขอบคุณข้อมูลเกี่ยวกับ Markaba
    ครับคุณเดรด ผมทึ่งกับ "การตื่น" ของคุณจริงๆ
    แต่สิ่งนี้มีพลังมาก คุณต้องมั่นใจว่าพร้อม
    และมีความสมดุลย์จริงๆ พลังงานมากมายจะ
    ถาโถมเข้าตัวเรา จะทำให้เราเสียสูญได้ที่เดียว
     
  2. su_ra

    su_ra เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    169
    ค่าพลัง:
    +736
    ขอบคุณข้อมูลเกี่ยวกับ Markaba
    ครับคุณเดรด ผมทึ่งกับ "การตื่น" ของคุณจริงๆ
    แต่สิ่งนี้มีพลังมาก คุณต้องมั่นใจว่าพร้อม
    และมีความสมดุลย์จริงๆ พลังงานมากมายจะ
    ถาโถมเข้าตัวเรา จะทำให้เราเสียสูญได้ที่เดียว
     
  3. Apinya17

    Apinya17 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    775
    ค่าพลัง:
    +3,023
    รออ่านอยู่ค่ะ ขอบคุณมาก
     
  4. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    ขอบคุณ คุณยิ้ม ค่ะ ที่แวะมาเยี่ยมเยียน แล้วหาทางเข้า Star Gate ได้ยังคะ

    สวัสดีค่ะ คุณ su_ra ขอบคุณที่มาเตือนค่ะ ตั้งรับไม่ค่อยทันเหมือนกันค่ะ
    ต้องรีบมาถ่ายเทความรัก ให้เพื่อนๆหน่อยค่ะ

    คุณ Apinya17 พักฟัง วิดิโอ นี่หน่อย แล้วค่อยไปกันต่อดีไหมค่ะ
    จะได้เคลียร์พลังงานกันด้วย

    เปิด แล้วปิดเสียงไว้ก่อน ให้เล่นให้จบไปก่อนนะคะ เผื่อของใคร เนทช้า
    จะได้ไม่เล่นๆ หยุดๆ แต่ถ้าเนทเร็ว พอ ลุยเลยค้า...
    จดจ่อดีๆนะค่ะ แค่ดูและฟัง อย่าคิดอะไรเน้อ...เงื่อนไขเดิม สบายๆ

    </EMBED><EMBED src=http://www.youtube.com/v/4iVBWgC_R6E&hl=en_US&fs=1&color1=0xe1600f&color2=0xfebd01&border=1 width=660 height=525 type=application/x-shockwave-flash allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true"></EMBED>



    <EMBED src=http://www.youtube.com/v/v2CvZ6MzMX0&hl=en_US&fs=1&color1=0xcc2550&color2=0xe87a9f&border=1 width=660 height=525 type=application/x-shockwave-flash allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true">

    และสุดท้าย...พวกเราไม่เคยโดดเดี่ยวเลย จริงๆ

    <EMBED src=http://www.youtube.com/v/Sn6qkqvTF_o&hl=en_US&fs=1&color1=0x006699&color2=0x54abd6&border=1 width=660 height=525 type=application/x-shockwave-flash allowfullscreen="true" allowscriptaccess="always">

    <EMBED src=http://www.youtube.com/v/xSdXUNQg9DI&hl=en_US&fs=1&border=1 width=660 height=525 type=application/x-shockwave-flash allowfullscreen="true" allowscriptaccess="always"></EMBED>
    </EMBED>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 กุมภาพันธ์ 2010
  5. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    ขอบคุณครับคุณเดรดเป็นบทความที่ขยายความรู้ได้อีกมากโขเลยครับ
    ต่อมไพเนียลและเมอร์คะบาห์นี่อาจารย์ปริญญาท่านพูดถึงไว้บ่อยๆนะครับ
    เรื่องของจุดญาณทวาร ยิ่งศึกษาลงไปก็ยิ่งพบเงื่อนงำที่ตรงกันไปหมด
    ไม่ว่าจะเป็นจุดตัดบนสัญญลักษณ์ไม้กางเขนของคริสต์ รวมทั้งแจกันกิ่งหลิวของพระแม่กวนอิมก็บอกรหัสนี้ไว้ แม้แต่การไหว้ประนมมือขึ้นจรดศรีษะก็ยังชื้บอกตำแหน่งไว้นั้นพอดีเช่นกัน..
    ตอนนี้เป็นยุควิทยาศาสตร์..การสื่อสารก็ไร้พรมแดน ความรู้ขยายกว้างลึกขึ้นไปแบบนี้เป็นโอกาสดีของพวกเราจริงๆครับ....ขอกลับไปอ่านทวนอีกสักรอบ อิอิ
     
  6. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    เดรดเคยอ่านหนังสือ ของอ.ปริญญา เมื่อ 4-5 ปีที่แล้ว ตอนนั้นยังไม่ค่อยเก็ท
    คาดว่าตอนนี้ น่าจะเก็ทขึ้น(มั้ง) เดี๋ยวกลับไปอ่านอีกรอบ...เพียบเรย อะ

    แล้ว...
    ขยายความ ตรงนี้อีกหน่อยได้ไหมคะ
    ...ว่าสัญลักษณ์ที่ว่า หมายถึงอะไรบ้าง
    สั้นไป เดรดไม่เก็ทค่ะ สมองซีกซ้ายเป็นอัลไซเมอร์ อยู่ค่ะ อิอิ
     
  7. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    แถมเรื่องความฝันหน่อยนึง(แอบเล่า)
    ปกติ เดรดชอบฝันถึง Twin Flame ส่วนตัวที่มาในรูปลักษณ์ต่างๆไป
    แต่ทำไมถึงรู้ว่าใช่ เพราะความรู้สึกค่ะ
    เค้าจะมาบอก มาเล่า แล้วปกป้องเราตลอดเวลาทั้งยังรักเรามากๆด้วย

    แต่เมื่อคืน กลับมาในรูปลักษณ์ของตัวข้าพเจ้าเอง งงอะ
    แล้ว มานอนหลับอยู่ข้างๆ ไม่ทำไรเลย หน้าผากด้านขวามีรอยช้ำเหมือนปาน
    ผิวบริเวณต้นคอก็เป็นจุดๆ เหมือนเป็นไข้เลือดออก
    เห็นตัวเองชัดเจนมาก ทั้งๆที่ตอนนี้ ก็ดูดีออก ผิวไม่เห็นเป็นไรเลย

    ตีความออกมาได้ว่า กายเนื้อของมิติที่สาม อยู่ในข้อจำกัดมาก
    ไม่ค่อยสมบูรณ์เลย ตัวตนในฝัน บอกให้เห็นความบกพร่องของกายเนื้อ
    น่าจะเป็นพลังงานส่วนลบที่ยังค้างคาอยู่
    รอยช้ำของปานน่าจะเกี่ยวข้องกับการพัฒนาสมองซีกขวาที่ยังไม่สมบูรณ์พอ
    จุดๆที่คอ น่าจะเกี่ยวอะไรกับ จักระลำคอ โอย...งง???

    ตอนมองดูร่างตัวเอง รู้สึกเหมือนมองคนอื่นๆ
    ไม่แปลกแยกใดๆ ไม่รู้สึกว่าเป็นตัวเองด้วย

    เดรดกำลังเรียบเรียงเรื่องเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงเซลล์ในร่างกายอยู่
    เช่น การใช้ Hologram Of Love
    การจินตนาการ การส่งความรักให้กับเซลล์ในร่างกาย เพราะเค้าก็มีชีวิต
    หรือคล้ายๆข้อมูลที่ อ.อนาลัย เคยกล่าวไว้ในจิตวิญญาณประสานกาย

    คาดว่า น่าจะเกี่ยวข้องกัน เพราะก่อนนอนก็ตั้งสมาธิ ขอฝัน
    คำตอบก็มาแบบ ให้ตีความ 8 ตลบ
    เดี๋ยวตีออกเมื่อไหร่ จะมาโพสต์ต่อจ้า ต้องรอข้อมูลนิดส์นึง นะ นะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 กุมภาพันธ์ 2010
  8. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    อ้อ...ในยุคก่อนๆเรื่องนี้เป็นปริศนาต้องบอกกันตัวต่อตัวเท่านั้นนะครับ
    เพราะมันเป็นตำแหน่งที่สำคัญมากกก เค้าจึงต้องให้เป็นปริศนาต่อไปไงล่ะ
    ไม่บอกดีก่า แต่ไปอ่านในกระทู้เก่าๆเอาเองจ้า อิอิ
    ปริศนา "ตาที่สาม"
     
  9. เซลล์

    เซลล์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 เมษายน 2008
    โพสต์:
    661
    ค่าพลัง:
    +310
    ขอบคุณครับคุณเดรด ไม่ทำให้ผิดหวังจริงๆ :)
    ลองทำตามดูแล้วครับ เป็นวิธีที่ทรงพลังจริงๆ

    แต่ขั้นตอนเยอะจริงๆครับ
    ต้องปรับขั้นตอนช่วงแรกๆ ตามที่ถนัดก่อน

    แต่ขั้นตอนหลังๆจะข้ามไปไม่ได้เลย เพราะสำคัญมากๆ

    ตำแหน่งที่ท้อง เป็นตำแหน่ง void
    ทางโยคะ เรียกว่า ตำแหน่งคุรุในตนเอง

    แต่วิธีที่คุณเดรดนำมา มีการเคลื่อนตำแหน่งมาที่หัวใจ และเคลื่อนพลังงานไปสั่นสะเทือนที่ตำแหน่งตาที่สาม เพื่อให้เปิดออก
    amazing มากๆครับ

    ขอบคุณข้อมูล ปริศนาตาที่สาม ด้วยครับคุณ mead มีอีกๆหลายอย่าง ที่ข้อมูลเริ่มมาเชื่อมต่อ เป็นองค์ความรู้เดียวกันแล้ว




     
  10. ^ ^

    ^ ^ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    569
    ค่าพลัง:
    +1,279
    หาเจอแล้วครับ ไปยืนอยู่หน้าประตูเลยด้วยนะ แต่ไม่ได้เข้าประตูไปจ้า
    ทุกวันนี้เวลานึกถึงประตูนั้นแล้ว ทำให้รู้สึกใจมันสงบดีครับ อยากหาทาง
    ไปเข้าประตูใหม่แต่ดันหาไม่เจอซะนี่ - -"

    ปล.เรียกว่า Star Gate แต่ไม่เห็นมีประตูซักบาน 55
     
  11. angsana p

    angsana p สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    23
    ค่าพลัง:
    +12
    มาติดตามอ่านด้วยคนค่ะ
     
  12. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    ขอบคุณ สำหรับ กระทู้ปริศนาตาที่สามจ้า คุณmead คุ้นๆ นิ..อิอิ

    คุณเซลล์ ท่านไปไกลเกินแล้วมั้ง กลับมาก่อน รอกันด้วยซิท่าน

    ^^....จริงด้วยนิ Stargate บ่มีประตู ซักกะบานของข้าพเจ้าเป็นหลุมดำ 555

    จุ๊บๆ ...น้องอังสนา-พี คิดถึงน้า จุ๊กกรูวซ์!!!
     
  13. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    [​IMG]
    [​IMG]
    Love Is A Key To Healing
    ที่มา...Love As Therapy - Crystalinks

    ไม่มีการเยียวรักษาใดๆที่จะดีไปกว่า การใช้ความรัก
    หรือการมีประสบการณ์ในคลื่นความถี่ของความรักโรแมนติกชวนฝัน
    มันเหมือนเป็นยาบำรุงรักษา แต่เราควรต้องระวังผลข้างเคียงที่ตามมา
    อย่างเช่น การถูกครอบงำ ถ้าคุณไม่เคยรู้สึกรัก

    จิตวิญญาณของคุณจะแสวงหาความรักเพื่อการเยียวยา
    และจะดึงดูดประสบการณ์นี้เข้ามา คนบางคนมีความสุขขึ้น
    ทำตัวเป็นผู้เยียวยาและผู้มอบความรัก
    ขณะที่บางคน ต้องการรักเพื่อคงความสุขภาพที่ดีไว้

    ความรักที่สมดุลย์ คือ กุญแจสำคัญของการเยียวยา




    <CENTER>Love affects most species as</CENTER><CENTER></CENTER><CENTER>[​IMG]</CENTER><CENTER>they seek to create peace and balance in their experience here.</CENTER><CENTER>[​IMG]</CENTER><CENTER>The ultimate healing from love comes with union/reunion of self.</CENTER>
    <O:p



    เรามักแสวงหาอารมณ์ของความรักเป็นส่วนใหญ่
    แต่กว่าเราจะเรียนรู้มันได้จริงก็หลังจากผ่านการเดินทางในโลกแห่งความเป็นจริงของเราเสียก่อน
    ความรักชวนฝันที่ทำให้ลุ่มหลง ความต้องการครอบครองและยื้อยุดเอาไว้ เมื่อเรามีความรัก
    โลกทั้งใบสวยงามไปหมด เราถูกห่มคลุมด้วยความรักที่อบอุ่น สบาย
    เรารู้สึกซาบซึ้งในบุญคุณ ของความมหัศจรรย์แห่งรัก ที่สร้างสรรค์สิ่งงดงาม

    แต่มากไปกว่านั้น ความรู้สึกของความรักนำพาเราไปสู่การมีสุขภาพที่ดีขึ้นอีกด้วย

    <O:pเราต้องแยกให้ออกระหว่างความแตกต่าง ในเรื่อง “การตกหลุมรัก” และ “การรู้สึกรัก”
    การตกหลุมรักเป็นขั้นแรกเริ่ม ของความสัมพันธ์ เราจะถูกดึงดูดทางอารมณ์และร่างกาย
    ด้วยความปรารถนาอย่างแรงกล้า ร่วมไปกับผู้อื่น ถ้าเราโชคดีพอ
    ขั้นตอนนี้จะนำไปสู่ห้วงรักอย่างที่อ่อนหวานชวนฝัน และอาจพัฒนาไปสู่ความรักที่ลึกซึ้งได้

    ความรู้สึกรักจะคล้ายคลึงกับการตกหลุมรักเป็นอย่างมาก
    เราสามารถรู้สึกรักใครก็ได้ที่ไม่ใช่คู่รักโรแมนติก นั่นก็คือ
    เรามักจะรู้สึกรักได้บ่อยครั้งโดยปราศจากการถูกรัก

    พวกเรามีคลื่นความถี่ของความรักที่ขยายตัวและสามารถมีความรักได้ทั่วไป
    ไม่ใช่เฉพาะแต่ ญาติพี่น้อง เพื่อนๆ หรือ สัตว์เลี้ยงที่คุ้นเคยเท่านั้น

    <O:pความรักมีไว้เพื่อปรับปรุงสุขภาพให้ดีขึ้น ความรักไม่ได้มีเฉพาะเรื่องความรักระหว่างเพศ
    ที่นำไปสู่เรื่อง การแต่งงานเท่านั้น แต่ข้องเกี่ยวกับทุกสังคมทั่วๆไปด้วย
    การสนับสนุนและการติดต่อกับผู้อื่น มันเป็นบททดสอบด้านสัมพันธภาพ
    ทั้งในการที่จะอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมทั่วไป
    และความรู้สึกรักที่จำเพาะเจาะจงกับใครสักคน<O:p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กุมภาพันธ์ 2010
  14. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    <CENTER>Romantic Love....</CENTER><CENTER></CENTER><CENTER></CENTER><CENTER>[​IMG]</CENTER>
    ความรักเป็นอารมณ์ที่มีความถี่ด้านบวกสูงที่จะเยียวยาและช่วยให้เราชนะอุปสรรคทั้งปวงได้
    ในการเฝ้ามองดูผู้ป่วยที่กำลังตกอยู่ในความรัก –
    บ่อยครั้งเหมือนเป็นการมองดูปาฎิหารย์ มันเป็นเรื่องของจิตใจมากกว่าสิ่งที่เป็นรูปธรรม
    เมื่อคุณมีความรัก คุณจะรู้สึกมั่นใจ คุณจะเหมือนโบยบิน
    คุณจะไม่ป่วยไข้ หรือมีสิ่งใดมาทำความเสียหายกับพลังงานของคุณ
    เหมือนกับคุณได้อยู่ในภาวะของพลังงานที่สูงส่งนั้นตลอดกาล

    [​IMG]

    ความรัก เป็นตัวแทน รูปร่างของอารมณ์
    ยิ่งไปกว่านั้นโดยเฉพาะบริเวณจักระหัวใจ ศูนย์รวมความรู้สึกรัก
    จิตวิญญาณ – เราอยู่ที่นี่เพื่อคอยเยียวยา!

    ถ้าเราคอยบำบัดเยียวยาหัวใจตนเอง เราจะสามารถสร้างสมดุลย์
    ในการแสวงหาของเรา และ เราก็สามารถจะออกมาจากกรอบ
    ของประสบการณ์ทางอารมณ์ในโลก 3 มิติที่นี้ได้

    ในปริมณฑลทางกายเนื้อ จิตวิญญาณของพวกเราถูกแบ่งแยกเป็นสองขั้วของทวิภาวะ
    เราอยู่ในกายเนื้อนี้ ใช้ชีวิตในชาติภพนี้ เพียงเพื่อการแสวงหาความรัก
    และพยายามที่จะเยียวยารักษาความเจ็บปวดที่ถูกแบ่งแยกนี้
    เพียงเพื่อให้จิตวิญญาณที่ถูกแบ่งแยกได้กลับมาหลอมรวมกันเป็นหนึ่งเดียว

    ความรักโรแมนติก ช่วยเยียวยาเราได้
    มันมักถูกโปรแกรมให้ติดตั้งได้อย่างรวดเร็ว และหายากที่จะยั่งยืน
    เราควรรู้ว่าระดับฮอร์โมนอเดรนาลินที่สูงขึ้นของความรักไม่ได้อยู่ตลอดกาล
    มีผู้คนมามายที่ลดค่าความรักลงเรื่อยๆ ไปตามเวลา อาจกินเวลาหลายวัน..
    หลายสัปดาห์...หรือหลายเดือน...จนถึง 3 ปี
    จนถึงวาระสุดท้าย ที่มันจบลง จากนั้นก็กลายเป็นปัญหาทางอารมณ์
    จากความรู้สึกของรักที่ถูกบั่นทอนลง บางครั้งมันจมลึกอยู่มากเกินไป
    อย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

    การช่วยเหลืออย่างมืออาชีพจึงต้องถูกแสวงหาเพื่อการณ์นี้

    ความรักที่ดีที่สุดสำหรับการเยียวยา –
    คือความรักที่สมดุลย์ ด้วยความเห็นอกเห็นใจกัน
    การยอมรับและมีความเข้าใจ
    คุณต้องมีจิตวิญญาณและระดับอารมณ์ที่สูงพอ ถึงจะรักอย่างโรแมนติกได้
    และมันจะยิ่งมีพลังอำนาจมากขึ้นจวบจนวาระสุดท้าย

    <O:p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กุมภาพันธ์ 2010
  15. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    Chemistry

    Falling in love causes our body to release a flood of feel-good chemicals that trigger specific physical reactions
    Science Daily - February 14, 2009


    การตกหลุมรัก สร้างการเปลี่ยนแปลงปฎิกิริยาทางเคมีในร่างกาย
    ที่ส่งผลในระดับของฮอร์โมนเหมือนกับการสร้างอารมณ์อื่นๆที่ไม่สอดคล้องกันในระดับสูง
    ด้วยวิธีการนี้ในการเยียวยา ความรักที่อยู่ในจิตใจเป็นเหมือนเป็นเชื้อเพลิงให้กับปฏิกิริยาทางเคมี
    เช่น สารบางอย่างที่อยู่ในช๊อคโกแล๊ตที่มีผลต่อกระบวนการเคมีในสมอง –
    ดังนั้น เราจึงมักมอบช๊อคโคแล๊ตสำหรับความรัก- หรือให้ช็อคโคแล๊ตเมื่อมีความรัก

    [​IMG]

    เมื่อคนสองคนถูกดึงดูดซึ่งกันและกัน
    ฮอร์โมน หรือ สารหลั่ง( nuerochemicals) จะพุ่งออกมา
    PEA หรือ phenylethylamine คือสารเคมีที่ให้ผลใกล้เคียงกับแอมเฟตามีน
    ซึ่งจะมีฤทธิ์ทำให้แรงดันเลือด และระดับกลูโคสในเลือดสูงขึ้น
    ทำให้มีความรู้สึกตื่นตัว กระปรี้กระเปร่า
    เช่น ที่เหมือนฮอร์โมนอเดรนาลิน(adrenaline)
    เพื่อไปเร่งการส่งข้อมูลข่าวสาร ระหว่างเซลล์ประสาท ให้เร็วขึ้น
    รวมถึงสารโดพามีน(dopamine)และ สารnorepinephrine <O:p

    โดพามีน(dopamine…สารเคมีที่ผลิตขึ้นในร่างกาย ในสมอง
    โดพามีนสามารถใช้เป็นยา ซึ่งมีผลต่อระบบประสาทซิมพาเทติก
    (sympathetic nervous system) ทำให้เรารู้สึกดี <O:p

    และ norepinephrine ...สารกลุ่มเดียวกับ อดรีนารีล ทำหน้าที่เป็นสารสื่อประสาท
    ต้องไปจับกับตัวรับ ที่แตกต่างกัน จึงทำให้ผลแตกต่างกัน
    ยกตัวอย่างเช่น adrenalin ทำให้หัวใจเต้นเร็ว noradrenalin ทำให้หัวใจเต้นช้า
    สารตัวนี้จะเป็นสารสื่อประสาท ของระบบประสาทอัตโนมัติ sympathetic
    ทำให้มีผลกับร่างกายคือ "fight or flight"
    หรือคือการให้ร่างกายตื่นตัว ต่อสู้หรือหนีในสถานะการณ์ต่างๆนั้นเอง )
    ผลลัพธ์คือ อัตราการเต้นของหัวใจเพิ่มขึ้น แรงดันโลหิตเพิ่มขึ้น


    สารเคมีทั้งสาม ร่วมกันสร้างความลุ่มหลงให้แก่เรา
    นี่จึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไม คู่รักโรแมนติกที่กำลัง อินเลิฟ ใหม่ๆ
    จึงมีเรี่ยวมีแรงกันนัก นี่เป็นคุณสมบัติของปฏิกิริยาเคมีที่เกิดขึ้น
    หรือ การปะทุขึ้นของความรัก ที่พวกเราทั้งหมดแสวงหา


    ในบางครั้งบรรดาคนโสดที่มองหา คู่ที่สมบูรณ์แบบในทุกด้าน
    ก็อาจพบเจอบุคคลที่สมบูรณ์แบบ อย่างที่ตัวเองจินตนาการไว้
    แต่เมื่อพวกเขาพบเจอคนที่ดูแสนจะพิเศษนี้แล้ว แต่มันกลับไม่ใช่
    ไม่มีอะไรสอดคล้องกัน ไม่มีอะไรที่ดึงดูดกัน
    พวกเรามักแสวงหาคุณสมบัติที่ดึงดูดทางเพศ ในระดับสูงๆอยู่เสมอ(รูปลักษณ์ภายนอก)
    <O:p

    <O:p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กุมภาพันธ์ 2010
  16. Mr.Lawrence

    Mr.Lawrence เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    1,520
    ค่าพลัง:
    +3,542

    ชอบ จังเลยค้ะ
    ขอบคุณสำหรับ เปเปอร์ดีดีจาก science ค้า
     
  17. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    ชอบ...งั้นต่อ นะคะ

    ความรักของบางคนกลับกลายเป็นความไร้ค่า
    พวกเขาต้องการเพียงคุณสมบัติที่ดึงดูดทางเพศ
    หรือปฏิกิริยาทางเคมีที่มันทำให้พวกเขารู้สึกมีความสุข
    และ หลงระเริงในชีวิตเท่านั้น

    เมื่อไหร่ที่ปฏิกิริยาทางเคมีเริ่มเสื่อมถอยสักครั้งหนึ่งแล้วละก็
    ความสัมพันธ์ของพวกเขามักแตกหัก

    การสืบค้นในสิ่งที่แสวงหา จะถูกติดตั้งอย่างรวดเร็วลงไปที่อารมณ์ที่สิ้นหวังของพวกเขา:

    ความลุ่มหลง ทำให้เกิดอาการทางเคมีอย่างอื่นสูงขึ้น
    ความรักที่ไร้ค่าเหล่านี้ก่อให้เกิดปัญหาอื่นๆอีกตามมาด้วย
    ร่างกายจะสร้างการสะกดกลั้นต่อปฏิกิริยาทางเคมีเหล่านี้
    แล้วมันก็สำแดงอาการทางเคมี มากยิ่งขึ้นไปอีก
    เพื่อที่จะให้รู้สึกถึงความรักที่พิเศษนี้ให้ได้
    พวกเขาจึงกระหาย ในความหลงระเริงและความลุ่มหลง ของอาการเหล่านี้....

    หมายเหตุ: บทความนี้ จริงๆ ยาวมากๆ
    เดี๋ยวขอสรุปย่อๆ ละกันนะค่ะ
    (ถ้าต้องการรายละเอียด ให้เข้าไปอ่านได้ตามลิงค์ที่วางไว้ค่ะ)

    ในบทความส่วนที่เหลือ กล่าวถึงการวิจัย ใน้รื่องความรัก
    กับกลุ่มของความสัมพันธ์ในระดับต่างๆ
    จากการสุ่มตัวอย่างและวิเคราะห์มากมาย อาทิเช่น

    การศึกษาอัตราการเต้นของหัวใจ ที่มีผลต่อระบบประสาท
    "เมื่อเวลาที่เราเกิดความรู้สึกตึงเครียด คุ้มคลั่ง และกังวล
    รูปแบบการเต้นของหัวใจแตกกระจายไม่เป็นระเบียบ
    และมีผลกระทบขัดขวางต่อ brain's cortex

    "เมื่อเรารู้สึกมีอารมณ์รัก และซาบซึ้ง
    หัวใจจะสวิซท์กลับไปเต้นอย่างมีจังหวะจะโคนอย่างยิ่ง
    " จังหวะของหัวใจที่มีระเบียบนี้ เป็นเหตุให้เกิด
    การเชื่อมต่อที่สอดคล้องอย่างพร้อมเพรียงกันภายใน
    ("inner synchronization") ที่ส่งผลในสิ่งที่เราคิดและทำ อย่างไร
    และ ห่างไกลจากโรค

    "เมื่อเราอยู่ในภาวะไม่รัก non-loving หรือเมื่อเราโกรธใครบางคน
    จะเกิดการไม่เชื่อมโยงกันระหว่างระบบประสาท สองส่วน
    ทำให้ จังหวะหัวใจไม่เป็นไปตามเกณฑ์ปกติเป็นอย่างมาก


    "เมื่อเราอยู่ในขั้นตอนของความรัก หัวใจของพวกเราจะมี จังหวะจะโคนที่เป็นระเบียบ,"
    "นี่เป็นเพราะ ทั้งสองครึ่งของระบบประสาท เชื่อมโยงและสอดประสานกัน
    และทำงานร่วมกัน อย่างมีประสิทธิภาพ มากขึ้น
    นั่นทำให้ร่างกายเข้าสู่ กระบวนการปฏิรูปตัวเองทางธรรมชาติ"

    "ถ้าพวกเรารู้สึกถึงความรักและความเอื้อเฟื้อ เห็นอกเห็นใจกัน
    มันจะไปเพิ่มประสิทธิภาพให้กับระบบภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายของพวกเรา."


    การมีอารมณ์โกรธ หรืออารมณ์ในทางลบ เพียงแค่ 5 นาที
    ระดับฮอร์โมน cortisol(สารเครียด) จะเพิ่มขึ้น มีผลยับยั้งระบบภูมิคุ้มกัน
    และหลั่งสารต่อต้าน แอนตี้บอดี้ IgA ในร่างกาย อยู่นานถึง 6 ชั่วโมง

    แต่ถ้าเรามีความรู้สึกรัก ความปลาบปลื้ม สำนึกบุญคุณ
    หรืออารมณ์ในด้านบวกใดๆ เพียง5นาที เช่นกัน
    ร่างกายจะผลิตสารแอนตี้บอดี้ อย่างผุดพลุ่ง หลังอารมณ์นี้ผ่านไป5นาที
    และจากนั้น จะค่อยๆผุดออกมาเรื่อยๆ อย่างช้าๆ นานนับหลายชั่วโมง

    เมื่อมีการทดลอง ให้กลุ่มตัวอย่างคำนึงถึงอารมณ์ในด้านบวก เรื่อยๆ
    ปรากฎว่า ระดับcortisol ลดลง และ DHEA (ที่รู้จักกันดีว่าเป็น ฮอร์โมนที่มีสารต่อต้านความชรา)
    กลับเพิ่มขึ้นมาอีกด้วย

    และยังมีสารเอนโดรฟิน("natural endogenous morphine-like) ที่ผลิตขึ้นในสมอง
    เมื่อเรารู้สึกรัก สารเอนโดรฟินจะหลั่งไหลไปครอบคลุมทุกส่วน
    สารเอนโดฟินไม่เพียงแต่สร้างสิ่งที่เป็นบวก, ความรู้สึกเปี่ยมสุข
    มีผลกระตุ้นให้เกิด ระบบภูมิคุ้มกันพิเศษในระดับเซลล์
    ที่เรียกกันว่า เซลล์ Natural Killer ซึ่งมีฤทธิ์ต้านโรคมะเร็งได้อีกด้วย
    ทั้งยังเพิ่มประสิทธิภาพในระบบการย่อยและขับถ่ายให้ดีขึ้นอีกด้วย

    อย่างไรก็ตามการเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากความรัก คุณไม่จำเป็นต้องมีคู่รัก
    หรือคู่สมรส คุณอาจจะรู้สึกรัก ผู้ร่วมทำงาน, พ่อแม่, ลูกๆ, หรือ ญาติพี่น้อง
    จริงๆแล้ว คุณสามารถรักได้แม้แต่สัตว์เลี้ยงหรือต้นไม้ของคุณ


    มีเทคนิค ที่จะนำไปประยุกต์ใช้ เพื่อสร้างอารมณ์บวกให้เกิดขึ้นบ่อยๆ
    คือ การรู้สึกสำนึกบุญคุณ หรือ ปลาบปลื้ม
    กับหนังที่คุณดู ฟังเพลง หรือทำกิจกรรมต่างๆที่ส่งเสริมอารมณ์ความรู้สึกในด้านบวก"

    แรกเริ่ม ให้ทำเทคนิคนี้โดยการจดจ่อกัความรู้สึกขอบคุณและปลาบปลื้มอย่างจริงใจ
    และจริงจัง สักชั่วขณะหนึ่ง อาจภาพประทับใจที่คุณจินตนาการไว้
    นึกถึงช่วงเวลาที่พิเศษสุด เข้าสู่ศูนย์กลางหัวใจของคุณ
    แล้วมันจะเปลี่ยนจินตภาพทั้งหมดนี้กลายมาเป็นสิ่งแวดล้อมทางกายภาพรอบตัวคุณ
    สิ่งเหล่านี้จะเปลี่ยนกลไกชีวภาพ ของคุณ
    และจะเปลี่ยนระบบประสาทอัตโนมัติของคุณให้ตรงตามความเป็นจริงทางชีวภาพ






    .....................................................................................<O:p
    <O:p
     
  18. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    ขอสรุป

    เราคงต้องยอมรับว่า เราไม่สามารถหลีกหนีเรื่องความสัมพันธ์ ไปได้
    มีการเชื่อมต่อทั้งในระดับเล็ก ในครอบครัว ไปถึง ชุมชน สังคมใหญ่ๆ
    หากเรา อยู่ในความสัมพันธ์แบบติดลบ ผลที่ได้ก็ติดลบตามไปเป็นลูกโซ่

    เราเป็นผู้สร้างสิ่งแวดล้อมรอบๆตัวให้ เกิดผลอย่างใดก็ตาม
    ขึ้นอยู่กับเรา หาใช่ผู้อื่นไม่

    หากเรามีความรัก ความสำนึกบุญคุณ ในสังคม และทุกความสัมพันธ์

    เราย่อมจะดึงดูด ในสิ่งทีเหมือนกันเข้ามาหา อย่างไม่มีทางเป็นอื่น

    สังเกตุสิ่งรอบๆตัว เราให้ดี มีอะไรที่ผิดปกติ มีอะไรที่ขัดแย้ง และมีอะไรที่อยากหลุดพ้น
    สิ่งเหล่านั้นเป็นคำตอบที่มารออยู่ก่อนแล้ว คำถามเกิดขึ้นเพราะความไม่เข้าใจ

    คำถามและคำตอบคือ สิ่งเดียวกัน
    แต่มันถูกแยกออก ด้วยความขัดแย้ง
    และ ความเป็นทวิภาวะภายในบุคคล

    การประสานหลอมรวมกับผู้อื่น และสิ่งอื่น ต้องเข้าสู่ความสมดุลย์
    เข้าหาจุดศูนย์กลาง ที่ทุกสิ่งไม่แบ่งแยก ทั้งหมดนั้นคือ การไม่ให้ค่าใดๆ
    จุด 0.....Zero Point Merge
     
  19. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    Balance Partners and Messengers<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
     
  20. somemaybe

    somemaybe เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2009
    โพสต์:
    218
    ค่าพลัง:
    +143
    สมมุติว่า จักรวาล คือ รูปทรงกว้างขวาง
    wร้ข้อจำกัดในเรื่องของพื้นที่ และมีเพียงเหรียญเท่านั้น
    เหรียญ 1 เหรียญ บรรจุอยู่ในจักรวาล

    คนเป็นอะไรอย่างหนึ่งที่ยืนอยู่ในด้านหนึ่งของเหรียญ
    ส่วนด้านที่เหลือนั้นคืออะไรก็ไม่รู้

    ว่าแต่ สงสัยมั๊ยว่าทำไมเราต้องยืนอยู่เพียงที่ด้านเดียวของเหรียญ
    หนูก็ไม่เข้าใจสมมุติฐานอันนี้เหมือนกัน

    แต่หากว่า จักรวาล ไม่ได้ถูกบรรจุด้วยเหรียญ 1 เหรียญ
    แต่มีเหรียญลอยอยู่เต็มจักรวาลไปหมด
    ทุกเหรียญ มี แค่ 3 ด้าน คือ ความรู้ /ความไม่รู้ / และ 0
    ความใช่/ ความไม่ใช่/ และ 0


    ความหมายของ 1 ก็คือไม่ใช่ 0
    ขณะที่เลข 0 ถูกเขียนอยู่ แสดงว่าตัวมันก็ไม่ใช่ เลข 1 หรือเลขใดใดเลย
    แต่มันอาจจะเกิดมีเลข 1 และ/หรือ เลข 2 และ/หรือ เลข.... หรือ ฯลฯ
    ถูกบรรจุแทนที่ทันที ที่ความเป็นศูนย์ถูกลบทิ้ง

    .

    .

    .


    ขอบคุณที่อ่านจนจบ


    เป็นกระทู้ที่วิชาการมากๆเลย
    อ่านแล้วนึกไปถึงบรรยากาศตอนอยู่ในวัดที่มีคนไหว้พระสวดมนต์และพยายามทำใจให้เป็นสูญ

    อ่านแล้วเหนื่อยมากเลย อยากเอาตีลังกาเดินจัง (ping-love
     

แชร์หน้านี้

Loading...