'พระสงฆ์'ญี่ปุ่น สวดแนวฮิพ-ฮ็อพเพื่อโดนใจหนุ่มสาว

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>'พระสงฆ์'ญี่ปุ่น สวดแนวฮิพ-ฮ็อพเพื่อโดนใจหนุ่มสาว</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>8 กุมภาพันธ์ 2553 23:32 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> “พระสงฆ์”ญี่ปุ่นเต้นแร็พ แล้วท่านก็สวดมนต์ และในเดือนนี้ ท่านยังขึ้นเวทีเต้นแท็พอีกด้วย ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่ คันโช ทากาอิ พระสงฆ์ญี่ปุ่นเจ้าของฉายา "Mr Happiness" ใช้เป็นกลยุทธ์ในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาให้โดนใจวัยรุ่น

พระทากาอิ เป็นเจ้าอาวาสวัดเคียวโออูจิ อายุราว 400 ปี ซึ่งตั้งอยู่กลางกรุงโตเกียว ปกติแล้วท่านจะสวดมนต์เสียงแผ่วเบาตลอดทั้งวันท่ามกลางบรรยากาศของเสียงระฆังและควันธูป

แต่มีบางครั้งท่านจะปรับระดับเสียงสวดมนต์ให้ดังขึ้น และเปลี่ยนจังหวะการสวดเสียใหม่ แล้วออกไปยืนต่อหน้าผู้ที่มาวัด จากนั้นสวดมนต์หรือเทศน์ด้วยท่วงทำนองแนวแร็พหรือฮิพ-ฮ็อพเป็นภาษาญี่ปุ่นสมัยใหม่แทน

นอกจากนั้น พระสงฆ์วัย 49 ปีรูปนี้ยังจัดงานอีกหลากหลายรูปแบบเพื่อชักชวนให้กลุ่มคนหนุ่มสาวมาเข้าวัด บ่อยครั้งเป็นการเชิญเด็กๆ และศิลปินมาร่วมงานอย่างไม่เป็นทางการ และเปิดเวทีพูดคุยเพื่อผสมผสานการใช้ถ้อยคำสมัยใหม่เข้ากับคำสอนของพุทธศาสนา ทั้งนี้ก็เพื่อให้ศรัทธามีความสอดคล้องกับยุคสมัยปัจจุบันนั่นเอง

“อาตมาหวังว่าวิธีการใหม่ของเราจะช่วยให้คนรุ่นใหม่มองเห็นด้านที่สนุกสนานของพุทธศาสนา และหันมาสนใจศาสนาอย่างแท้จริง” พระทากาอิกล่าว

Manager Online</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

แปลกแหวกแนวดีครับ...แต่สงฆ์ควรที่จะสำรวมกายวาจาใจมิใช่หรือครับ...เมื่อศรัทธาเกิดเดี๋ยวคนก็จะเข้าวัดเองครับ

 

ก็เป็นเรื่องการเผยแพร่ศาสนาในแบบของเขา อาจจะเหมาะกับคนในประเทศนั้น

แต่คงไม่เหมาะในบ้านเมืองเรา

 

พระในประเทศญี่ปุ่น จะคนล๊ะนิกายกับพระสงฆ์ในบ้านเราน๊ะครับ เห็นบอกว่ามีเมียได้ด้วย
ซ้ำไป ฉนั้นอย่าเอามาปนเปกับพระสงฆ์บ้านเราเลยครับ

 

พระญี่ปุ่นนับถือศาสนาพุทธเหมือนกัน แต่อยู่ในสังกัดนิกายชินโตครับ ไม่เหมือนกับนิกายเถรวาทอย่างประเทศไทยครับ และข้อกำหนดของเค้าต่างจากของเรามากครับ เค้าสามารถอย่างไรก็ได้ที่ไม่ผิดจากข้อกำหนดนั้นๆ ที่จะสามารถทำให้คนเข้าวัดให้ได้มากที่สุด มันเป็นสิ่งที่จำเป็นของเค้าครับ

 

ก็เขาไม่เคยสอนสั่งเรื่องโทษภัยอันเกินแต่ตัญหา เขามิเคยมุ่งทำลายกองอาสวะกิเลสแห่งตน เขามุ่งแต่เพียงการดึงผู้คนให้สนใจ เขาจึงทำเช่นนั้น จะกล่าวว่าอย่างไรได้อีกหนอ สาธุ

 

มันเป็นเช่นนั้นเอง

โทษการไม่มีครูบาอาจารย์ที่เข้มงวดสอนสั่ง
มักจะทำตามกระแแสโลก มากกว่า

 

สมัยนี้ พระญี่ปุ่นมีเมียไม่ได้แล้วครับ
สมัยที่มีเมียได้ คือสมัยที่จักรพรรดิองค์หนึ่งของญี่ปุ่นต้องการทำลายพระพุทธศาสนา
จึงออกกฏหมายให้พระมีเมียได้ แต่สมัยนี้ไม่ได้แล้วครับ

ส่วนเรื่องการสวดนั้น ถ้าคุณไม่ติดการปรุงแต่งว่าเป็นทำนอง ก็ไม่เป็นไรนะครับ
เพียงแต่สวดให้เร็วๆ เท่านั้นเอง ของอย่างนี้ ขึ้นอยู่กับกุศโลบายครับ
ถ้ามีประโยชน์จริงๆก็ควรทำนะครับ ไม่ใช่ว่าทำอะไรใหม่ๆแล้วว่าผิดหมด
นั่นมันตร่ำครึครับ ดูประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นดีกว่า

 

สำหรับส่วนตัวผมนะครับถ้าสวดฮิพ-ฮ็อพ แล้วทำให้คนจากไม่รักษาศีลมารักษาศีลได้ จากไม่สนใจธรรมะก็มาสนใจได้ก็สวดไปเถอะครับ

 

มันไม่เหมือนกัน.....

 

คุณเคยไปญี่ปุ่นเพื่อศึกษาพุทธศาสนาหรือไม่

พระญี่ปุ่นยังแบ่งแยกออกไปมาก มีหลายนิกายนะครับ

บางนิกาย ใช้วิธีสืบทอดเจ้าอาวาสทางสายเลือดต้องแต่งงาน มีลูกชาย ลูกชาย 1 คนจะต้องเป็นเจ้าอาวาสต่อถ้ามีลูกสาว ลูกเขยจะต้องมาเป็นเจ้าอาวาส

พระที่ผมรู้จัก ท่านจะมีชุดพระไว้ในรถ เวลามีงานท่านก็จะขับรถไปสวด
เอาชุดพระมาสวมเพื่อสวดทำพิธี เสร็จงานก็ถอดชุดออก ดื่มเหล้าสาเกกับพวกเจ้าภาพ

พระอีกท่านที่ผมรู้จัก ท่านใส่เสื้อผ้าเป็นชุดสูท เพียงแต่เสื้อสูทด้านใน มีเหมือนจีวรเย็บแบ่งส่วนเป็นคันนาเหมือนจีวรทุกประการเพียงแต่ขนาดเล็ก ๆ แปะอยู่ด้านใน

พระญี่ปุ่นแตกออกไปมาก ใครเคยทำงานด้านศาสนาในญี่ปุ่นจะรู้ดีครับ

 

สรุป.....

พระญี่ปุ่นมีหลายนิกาย หลักปฏิบัติก็ต่างกัน วัตรก็ต่างกัน เปรียบเทียบกับเมืองไทยไม่ได้เลย

เมื่อคราวฉลอง 25 พุทธศตวรรษ รัฐบาลสมัยนั้นนิมนต์พระสงฆ์มาทั่งโลกเพื่อเจริญจิตภาวนาปลุกเศก พระเครื่อง 25 พุทธศตวรรษ ที่ท้องสนามหลวง แต่เกิดการโกลาหนเพราะ
ปรากฎว่าพระญี่ปุ่นจะเอาเมียมาขึ้นธรรมาสด้วย เดือดร้อนไวยาวัจกรต้องไปนิมนต์ลงมา
หลวงพ่อเกจิอาจารย์ประเทศไทยเป็นงงยิ่งนัก....

เพื่อนชาวญี่ปุ่นเล่าให้ฟังว่า พิธีกรรมทางศาสนาในญี่ปุ่นเป็นธุรกิจอย่างหนึ่งที่ทำรายได้ให้วัดและพระเป็นจำนวนมาก ยกตัวอย่างการสวดมนต์.....เค้าคิดเงินเป็นนาที ครับ

การจัดพิธีกรรมต่างๆในงานศพ งานแต่งงานหรือทุกงานมงคล มีเรตติ้งให้พิจารณาค่าธรรมเนียม ครับ จะเอาพิธีเล็ก-ใหญ่ จำนวนพระ ความยาวของพิธีกรรม มีอัตราให้ประชาชนได้ทราบ ก่อนตัดสินใจ.....

เลยไม่รู้จะเทียบอย่างไรกับพระพุทธศาสนาในบ้านเรา ครับ.....ขออนุโมทนา...สาธุ

 

ออ นั้นไม่ถือว่าเป็นพระนะครับ บางคนยังไม่โกนหัวเลยด้วยซ้ำไป - -
ประมาณๆว่า สาธุคุณอะครับ เป็นโยมใส่เครื่องแบบ ประมาณนั้น...
ส่วนที่ถือว่าเป็นนักบวชจริงๆ ต้องโกนผม ถือศีลเคร่งครัด และออกบิณฑบาตร
ถึงจะเรียกว่านักบวชหรือพระได้ ไม่มีปัญหา ส่วนที่นอกเหนือจากนี้
แม้ดูคล้ายๆพระ แต่ก็ไม่ใช่ ถือว่าเป็นสาธุคุณ... ไม่คู่ควรกับคำว่า "สังฆะ"
คล้ายๆสาธุคุณโปรฯของคริสต์โปรฯ ที่ไม่มีบาทหลวงครับ ^^

 

ถูกต้องที่สุดครับ พระญี่ปุ่นและชาวญี่ปุ่นที่นับถือ จะเชื่อว่านั่นคือพระ แต่เมื่อคิดตามหลักความจริงแล้ว แม้จะสอนและสืบหลักธรรม(บางส่วน)ของพระพุทธศาสนาเหมือนกันแต่ก็ยังต่างจากพระสงฆ์ที่แท้จริง มากมายนัก

 

ผมเคยได้ยินในรายการวิทยุที่เผยแผ่นพระพุทธศาสนาแล้วไปฟังกิจวัตรของสงฆ์หรืออะไรไม่แน่ใจ ในคลิปเห็นเล่าว่า

มิให้ภิกษุเทศน์ลากเสียงยาว เหมือนร้องมโหศพ ไม่ใช่หรือครับ จริงหรือปล่าว