ปรึกษาปัญหาสารพัดโรค ด้วยหลักการแพทย์แผนไทย / วิธีฝึกและใช้พลัง(ปราณยาม)ในการรักษาโรค

<TABLE id=post2870521 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_2870521 class=alt1>ในกระทู้ข้างๆ ได้เอาสมุนไพรแก้โรคไตวายมาเล่าเอาไว้
จึงขอปรับปรุง ตั้งเป็นสูตรยา เลย

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-RIGHT: 1px inset" class=alt2>ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ aries
เรื่องสมุนไพรรักษาไต ผมแนะนำหญ้าไผ่น้ำครับ เป็นสมุนไพรจีน หาได้ที่ปากซอยเจริญกรุง 16 ราคากิโลกรัมละประมาณ 70-80 บาท
ใช้ต้มกับน้ำรับประทานครับ รายละเอียดตามนี้เลยครับ

</TD></TR></TBODY></TABLE>

หญ้าไผ่น้ำ มีสรรพคุณในเรื่องขับปัสสาวะดี เป็นยาเย็น
เมื่อกิไปสักพัก (แต่ละคนเร็วช้าไม่เท่ากัน) จะได้โรคทางตับแถม
อาการทางไตยังไม่ทันหาย ก็ได้โรคใหม่แถมเข้ามาให้
มีอาการให้บวมน้ำที่แขนที่ขา อันเกิดจากไฟธาตุ ไม่พอ ทำให้ลมนิ่ง จึงเกิดการอั้นเลือดลม(น้ำเหลือง) จึงบวมไปทั่วตัว

การกินหญ้าไผ่น้ำที่ดีจึงควรเข้าสูตรยาดังนี้

๑ หญ้าไผ่น้ำ ๑ กอบมือ(ใช้สองมือกอบ)
๒ ขิงแก่ สัก ๗-๑๑ แว่น (หั่นแฉลบเฉียงๆ) ผู้เป็นคนขี้หนาวใส่มากหน่อย
๓ น้ำตาลทรายแดงหนึ่งหยิบมือ

ต้ม กินน้ำ
เพียงเท่านี้ ก็กินได้นานจนโรคไตวายดีขึ้น


มีอีกสูตรหนึ่งอยู่ในกระทู้ข้างเคียง คือสูตร

เซี่ยงจี้หมู ต้ม/ตุ๋น กับเมล็ดลิ้นจี่ (ใช้เมล็ดลำไยแทนได้)

ต๋น กินแต่น้ำซุบ
สูตรนี้ก็ สามารถแก้ โรคไตวายได้ ดีทีเดียว
แต่ก็ยังมีปัญหา โรคตับแทรกเช่นกัน
ให้ใส่ ขิงแก่ลงไปต้ม หรือตุ๋น สัก ๕ แว่น
ยานี้ก็สมบูรณ์แล้ว

อ้อ..มีเคล็ดขัดยอกให้นิดหนึ่ง
เซี่ยงจี้หมูนะ
อย่าล้างให้สะอาดหมดจดนักนะ
เพราะ สิ่งที่จะใช้ทำยานะ คือฮอโมนจากต่อมหมวกไต ที่ติดมากับ ไตหมู(เวี่ยงจี้)

ได้เคยทอสอบแล้วพบว่า หากล้างไตหมู(เซี่ยงจี้)ให้สะอาดหมดจรดจริงๆแล้ว
ยาที่ทำนี้ จะใช้ไม่ได้ผล

<!-- google_ad_section_end -->

</TD></TR><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2> <SCRIPT type=text/javascript> vbrep_register("2870521")</SCRIPT> </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt1 align=right></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ในกระทู้ข้างๆ ได้เล่าถึงสตอเบอรี่ต้ม สามารถแก้โรค เบาหวานได้ และได้เข้าไปเขียนแนะนำเพิ่มเติมไว้
ท่านผู้นำมาเขียนนี้ท่านว่า เป็นสูตรยาของหลวงปู พระครูเทพโลกอุดร
จึงขอนำมาแปะไว้ในที่นี้ด้วย เพื่อประโยชน์ของผู้ที่เข้ามาภาหลัง

อ้างอิง:
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-RIGHT: 1px inset" class=alt2>ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ suwi
ยาของหมอสุวิ แก้เบาหวาน ความดัน และไขมันสูง
ประกอบด้วยาเกือบสิบตัว เป็นยาที่ดีที่สุดที่ครูบาอาจารย์ให้มา
เทียบกับ สตอเบอรี่ต้มแล้ว เพียงสูสี และมีบางอย่างที่ด้อยกว่าด้วย

น่าแปลกนะ สตอเบอรี่สด กลับแก้เบาหวานได้ไม่ดีเท่าไหร่
แต่พอต้มเสร็จ สรรพคุณทางยาเพิ่มขึนอีกเป็นทบเท่าทวีคูณ(แก้ได้ทั้งเบาหวาน ความดัน และไขมันพอกตับ-เหตุที่ก่อเบาหวาน)

ที่ให้กินถึง ๒๕๐ กรัมนะ ถ้าเป็นสตอเบอรี่สด พอได้นะ
แต่ต้มแล้วจะมีกำลังยาสูงมาก เพียงกินมื้อละ ๒ ลูก วันละ ๓ มื้อ(เช้า เย็น ก่อนนอน ก็มากเกินพอแล้ว



</TD></TR></TBODY></TABLE>
อ้างอิง:
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-RIGHT: 1px inset" class=alt2>ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ gungwan
ผมยังไม่เข้าใจครับ ต้มแล้วกินอย่างไรครับ ที่ว่ากินมื้อละ2ลูก แล้วน้ำที่ต้มกินปริมาณเท่าไรครับ(กินทั้งน้ำและเนื้อด้วยใช่ใหมครับ)





</TD></TR></TBODY></TABLE>
เวลาต้ม เราไม่ไป ขยี้/กวน/คน มันมากนัก ต้มไฟอ่อนๆ จนน้ำแห้ง(จวนแห้งหมด-ระวังไหม้)
แล้วตักเนื้อขึ้นมา(เนื้อยังเป็นลูกอยู่) ผึ่งให้แห้ง(หมาดๆ)แล้วเก็บใส่ตู้เย็นไว้กิน
น้ำที่เหลือเล็กน้อย ก็ใช้แก้เบาหวานได้ อย่าทิ้ง
หรือจะใส่ถ้วยไว้ทั้งน้ำทั้งเนื้อ แช่ตู้เย็นไว้ก็ได้ แล้วค่อยๆหยิบกิน

หรือจะกวนให้เละเลยก็ได้ กวนจนน้ำแห้ง(เป็แเยมเลย-ห้ามใส่น้ำตาลนิ)
แล้วตักกินครั้งละ ช้อนโต๊ะ
น่าหย่อยนะ-ถ้าจะทาขนมปัง ใช้ขนมปังน้อยๆ แยมมากหน่อย-เพราะแป้งจากขนมปังเปลี่ยนเป็นน้ำตาลได้ง่ายจะ

แต่คงจะมีคนต่อรอง ขอใส่น้ำผึ้งลงในแยมแน่เลย
ใส่พอใส่ได้จ้า(น้ำผึ้งแท้ๆเท่านั้นนะ) และใส่แต่น้อยพอได้กลิ่นได้รสเท่านั้น
ถ้าจะให้หย่อย เหยาะเกลือสักนิด ตัดรสเปรี้ยว

โอ้ย..น้ำลายไหลนิ
(ไม่ได้พูดเล่นนะ มันยังแก้เบาหวานได้จิงๆ)

ได้ทดสอบ(ทางจิต) เทียบอายุของลูกสตอเบอรี่ดู ระหว่างผลอ่อน(ยังเขียวอยู่) และผลแก่(ที่เขาเก็บมาขาย) ว่าชนิดใด แก้เบาหวานได้ดีที่สุด

ปรากฏว่า สตอเบอรี่อ่อน ชนะขาดจ้า
เลื่อกเอา สตอเบอรี่อ่อนมาต้มกิน จะแก้เบาหวานได้ดีจ้า

ที่เขาเก็บมาขาย บางครั้งมีสตอเบอรี่ที่ยังไม่แก่จัดติดมามาก
เราก็เลือกเอาแบบไม่แก่จัดมาทำยานะ<!-- google_ad_section_end -->

 

อาจารย์ มีแต่ให้ และ ให้
เอื้ออาทร และ เอื้ออาทร

ยังติดตามอาจารย์อยู่เสมอ

 

ใครว่า..
เห็นมะ สุวิขายยาเลี้ยงชีพ
มีคนว่า ยาของสุวิ แพ้งแพง
ขาย ๒๑ เม็ดตั้ง ๑,๘๘๘.- แถมเม็ดเท่าเมล็ดพริกไทยเอง
โค..ตะ..ระ...แพงเลย

 

คุณไม่ได้เป็นคนกำหนดราคาของยาเองโดยไม่ผ่านความเห็นชอบจากเบื้องบน ครูบาอาจารย์หนิค่ะ แล้วจะมาตำหนิตัวเองอันใด

 

แค่นึกก็อร่อยแล้ว ยาสตอเบอรี่เนี่ย เห็นท่าจะต้องรีบทำกินด่วน
ถ้ากินมาก มันก็ลดน้ำตาลมาก ดังนั้นคนที่ไม่ได้เป็นเบาหวานควรกินสูตรที่ใส่น้ำตาล ซ.ต.พ. อย่างนี้ละเปล่า ท่านหมอ

 

สวัสดีค่ะคุณสุวิวันนี้ได้เข้ามาอ่านเรื่องยาสมุนไพรและโรคที่หลายๆคนเข้ามาถามดิฉันมีญาติป่วยหลายคนอยากขอคำแนะนำด้วยค่ะ 1, แม่สามีอายุ82แล้วตอนนี้เห็นเขาบ่นให้ฟังทุกวันที่สามีโทรไปหาคือเขาอยู่ต่างจังหวัดค่ะบอกว่าเขาร้อนเนื้อร้อนตัวเป็นนานแล้วพาไปโรงพยาบาลหมอก็ไม่ว่าอะไรบอกว่าเป็นกรดไหลย้อนเอายามากินที่เป็นกรดไหลย้อนก็หายดีขึ้นแต่เรื่องแสบร้อนตัวไม่หายค่ะจะมียาอะไรที่จะแนะนำได้บ้างค่ะ 2, พี่ชายสามีเป็นอัมพฦษซีกด้านขวาเป็นมา4-5ปีแล้วค่ะสาเหตุเส้นเลือดในสมองแตกและจุกตันเป็นก้อนตอนเป็นใหม่ๆหมอบอกว่าถ้าผ่าตัด50-50 ไม่รับประกันว่าจะรอดหรือไม่ตอนนั้นก็เลยไม่กล้าให้ผ่าเที่ยวรักษาจนแทบจะหมดตัวแล้วใครมาบอกว่าที่ไหนดีไปหมดแต่ก็ไม่ดีไปกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้ช่วยเหลือตัวเองได้ในระดับหนึ่งแต่ไหลทรุดแล้วมือยังหงิกเกร็งอยู่เท้าก็หงิกเกร็งตรงนิ้วเท้าเดินเหินได้ไม่ต้องใช้ไม้เท้าเขาก็พยายามช่วยตัวเองด้วยเพื่อผ่อนแรงภรรยาเขาค่ะพอจะมียาที่ไปสลายลิ่มเลือดในหัวไหมค่ะหรือคุณสุวิว่าต้องใช้ยาอะไรดีค่ะรบกวนด้วยค่ะ3,ตัวเองค่ะคือว่าตอนนี้ดิฉันอายุ50เมื่อปีที่แล้วมีอาการหัวใจเต้นเร็วกว่าปรกติตอนที่เป็นกำลังช่วยเขาขายอาหารคนเยอะมากมาพร้อมๆกันเราก็รีบตักหันไปหันมารู้สึกตัวเองว่ามันจะวูบใจสั่นกว่าปรกติก็เลยไปโรงพยาบาลหมอบอกว่าอาจจะเป็นโรคของคนวัยทองเพราะตอนที่มีอาการนี้ประจำเดือนขาดหายไป7-8เดือนแล้วก็ให้ยามากินแล้วเช็คร่างกายอย่างละเอียดอีกครั้ง เจอะเลือด ดูทุกอย่างก็เจอความดันสูงกว่าปรกติปานกลางและไขมันสูงก็กินยาติดต่อกันมาเป็นเดือนๆแต่มา2เดือนกว่าๆนี้ได้ไปเดินออกกำลังกายทุกวันๆละ1ชั่วโมงประจำเดือนที่หายไปกลับมามีหลังจากได้ไปออกกำลังกายแค่เดือนเดียวตอนนี้ดิฉันออกกำลังมาเป็นเดือนที่3แต่ประจำเดือนหายไปอีกครั้งเมื่อเดือนที่แล้วนี้แล้วอาการใจเต้นรัวก็กลับมามีอาการอีกอยากทราบว่ามันสัมพันธ์กันใช่ไหมค่ะแล้วต้องกินยาอะไรบ้างค่ะถึงจะเป็นปรกติแล้วดิฉันเป็นคนมีไขมันที่พุง ต้นขา สะโพก ต้นแขน เป็นเฉพาะที่มียาอะไรที่สลายไขมันที่เป็นอยู่ช่วยแนะนำด้วยค่ะ 4,ลูกสาวไปทำงานต่างประเทศเพิ่งกลับมาตอนไปรูปร่างปรกติดีกลับมาน้ำหนักขึ้นมา3-4กิโลเขามีปัญหาเรื่องไขมันสะสมที่เดียวกับดิฉันแล้วเขาชอบให้ซื้อยาพวกเสริมอาหารที่ขายกันในห้างมากินเพื่อจะได้ลดแต่ดิฉันไม่เห็นด้วยขอให้คุณสุวิแนะนำด้วยค่ะต้องขอขอบคุณล่วงหน้าถามหลายคนช่วยตอบด้วยนะค่ะ

 

ถูกต้องนาครับ

ยารักษาเบาหวาน จะลดน้ำตาลในเลือดลง
บางวันอาจลดมากเกิน จนอาจเกิดอาการวูปได้ หมอปัจจุบันให้พกลูกอมหวานๆติดตัวไว้ หากรู้ตัวว่าจะวูปให้รีบอม ลูกอมไว้

แต่เทคนิคของหมอไทย ในการรักษาเบาหวานคือ
ท่านแก้โดยให้ยาเบาหวานที่ท่านปรุงนั้น ผสมน้ำผึ้งเป็นกระสายา ในปริมาณน้อยๆ โดยปั้นเป็นลูกกลอน

 

1, แม่สามีอายุ82แล้วตอนนี้เห็นเขาบ่นให้ฟังทุกวันที่สามีโทรไปหาคือเขาอยู่ต่างจังหวัดค่ะบอกว่า
เขาร้อนเนื้อร้อนตัวเป็นนานแล้วพาไปโรงพยาบาลหมอก็ไม่ว่าอะไรบอกว่าเป็นกรดไหลย้อนเอายามากินที่เป็นกรดไหลย้อนก็หายดีขึ้น
แต่เรื่องแสบร้อนตัวไม่หายค่ะจะมียาอะไรที่จะแนะนำได้บ้างค่ะ
ตอบ
ให้กินยาวัชรธาตุ ก่อนนอน ๓ เม็ด (ขยาย/ทำความสะอาดเส้นเลือดนสมอง)
และยา วัชรมณี เช้า ๑ เม็ด เย็น ๑ เม็ด ก็ ดีขึ้นแล้วครับ (ชำระโลหิตและน้ำเหลือง)

2, พี่ชายสามีเป็นอัมพฦษซีกด้านขวาเป็นมา4-5ปีแล้วค่ะ สาเหตุเส้นเลือดในสมองแตกและจุกตันเป็นก้อน
ตอนเป็นใหม่ๆหมอบอกว่าถ้าผ่าตัด50-50 ไม่รับประกันว่าจะรอดหรือไม่ตอนนั้นก็เลยไม่กล้าให้ผ่าเที่ยวรักษาจนแทบจะหมดตัวแล้ว
ใครมาบอกว่าที่ไหนดีไปหมดแต่ก็ไม่ดีไปกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้ช่วยเหลือตัวเองได้ในระดับหนึ่งแต่ไหลทรุดแล้วมือยังหงิกเกร็งอยู่เท้าก็หงิกเกร็งตรงนิ้วเท้า
เดินเหินได้ไม่ต้องใช้ไม้เท้าเขาก็พยายามช่วยตัวเองด้วยเพื่อผ่อนแรงภรรยาเขาค่ะพอจะมียาที่ไปสลายลิ่มเลือดในหัวไหมค่ะหรือคุณสุวิว่าต้องใช้ยาอะไรดีค่ะรบกวนด้วยค่ะ
ตอบ
มียาอยู่ตัวหนึ่ง ในตระกูลวัชรธาตุ ชื่อวัชรบาต
ใช้เพื่อแก้อาการโอปักมิกาพาต(อาการอันเกิดจากเลือดคั่งอันเกิดจากการทุบถองโบยตี-ตกจากที่สูง)
ซึ่งรวมถึงอาการเลือดคั่งในสมองด้วย (ละลายลิ่มเลือดช้ำ)
ยาตัวนี้กำลังทำอยู่จะเสร็จในเดือน กุมภาพันธ์
ในช่วงนี้ ให้ใช้ยา วัชรธาตุแทนไปก่อน
ยาที่ใช้จะมี
๑.วัชรธาตุ ครั้งละ ๓ เม็ดวันละ ๓-๔ ครั้ง (เพื่อชำระเส้นเลือดฝอยในสมองให้สะอาด)
๒.ปลาหมอสีทอง ครั้งละ ๑ เม็ด วันละ ๓-๔ ครั้ง(เพื่อชำระน้ำเหลือง)

และเมื่อสมองสามารถสั่งงานกล้ามเนื้อได้ระดับหนึ่งแล้ว ให้เรื่มนวดเพื่อกระชับเส้นเอ็นและกล้ามเนื้อ

3,ตัวเองค่ะคือว่าตอนนี้ดิฉันอายุ50เมื่อปีที่แล้วมีอาการหัวใจเต้นเร็วกว่าปรกติตอนที่เป็นกำลังช่วยเขาขายอาหารคนเยอะมากมาพร้อมๆกันเราก็รีบตักหันไปหันมารู้สึกตัวเองว่ามันจะวูบใจสั่นกว่าปรกติ
ก็เลยไปโรงพยาบาลหมอบอกว่าอาจจะเป็นโรคของคนวัยทองเพราะตอนที่มีอาการนี้ประจำเดือนขาดหายไป7-8เดือนแล้ว
ก็ให้ยามากินแล้วเช็คร่างกายอย่างละเอียดอีกครั้ง เจอะเลือด ดูทุกอย่าง
ก็เจอความดันสูงกว่าปรกติปานกลางและไขมันสูง ก็กินยาติดต่อกันมาเป็นเดือนๆ
แต่มา2เดือนกว่าๆนี้ได้ไปเดินออกกำลังกายทุกวันๆละ1ชั่วโมงประจำเดือนที่หายไปกลับมามีหลังจากได้ไปออกกำลังกายแค่เดือนเดียว
ตอนนี้ดิฉันออกกำลังมาเป็นเดือนที่3แต่ประจำเดือนหายไปอีกครั้งเมื่อเดือนที่แล้วนี้แล้วอาการใจเต้นรัวก็กลับมามีอาการอีกอยากทราบว่ามันสัมพันธ์กันใช่ไหมค่ะ
แล้วต้องกินยาอะไรบ้างค่ะถึงจะเป็นปรกติแล้วดิฉันเป็นคนมีไขมันที่พุง ต้นขา สะโพก ต้นแขน เป็นเฉพาะที่มียาอะไรที่สลายไขมันที่เป็นอยู่ช่วยแนะนำด้วยค่ะ
ตอบ
ให้กินยา
๑.มณีนพเก้า ครั้งละ ๕ เม็ด วันละ ๑ ครั้ง ก่อนนอน (บำรุงร่างกายวัยทอง)
๒.มะรุมกาญจนา ครั้งละ ๒ เม็ด วันละ ๒ ครั้ง เช้า เย็น (ลดไขมัน)

4,ลูกสาวไปทำงานต่างประเทศเพิ่งกลับมาตอนไปรูปร่างปรกติดีกลับมาน้ำหนักขึ้นมา3-4กิโลเขามีปัญหาเรื่องไขมันสะสมที่เดียวกับดิฉันแล้วเขาชอบให้ซื้อยาพวกเสริมอาหารที่ขายกันในห้างมากินเพื่อจะได้ลดแต่ดิฉันไม่เห็นด้วยขอให้คุณสุวิแนะนำด้วยค่ะ
ตอบ
พวกผลิตภัณพ์เสริมอาหาร หลายอย่างทำจากสมุนไพรสกัด
เมื่อกินรวมกัน(บางตัวกินรวมกันจะเป็นพิษ) จะกลายเป็นยาที่ดี รักษาโรคได้หลายโรค เช่น
กิงโก๊ะ กินร่วมกับ กาโน่ จะแก้เส้นเลือดอุดตันได้ระดับหนึ่ง และทำให้เลือดหมุนเวียนดี
กินวันละ ๑ ครั้งเท่านั้น-กินมากในบางคนจะบวม-แก้โดยกินยาปลูกเตโช
ผู้สูงอายุกินจะดีมาก(ระวังบวมน้ำในบางท่าน)

น้ำมันปลา + แลคซิติน กินร่วมกันอย่างละ ๑ แคปซูล วันละ ๒ ครั้ง สามารถลดไขมันได้ (กินนานจะเกิดโรคเลือดไหลไม่หยุดได้)

 

ชื่อยาท่านหมอนี่สุดยอด "มะรุมกาญจนา" ใช้คู่มือการตั้งชื่อเล่มใหนน๊า

 

ท่านหมอ ยาลูกสาวคนกลาง (น้องแอ๊นท์) ใกล้หมดแล้ว พักนี้รู้้สึกนอนไม่่ค่อยเพียงพอ ปกติเค้าเข้านอนค่อนข้างดึกคือหลับได้ประมาณตีหนึ่ง แล้วตื่น 8-9 โมงเช้า แต่ตอนนี้มักตื่นประมาณตีห้าแล้วรู้สึกว่านอนไม่เต็มอิ่ม ทำให้สิวขึ้น อ้อแล้วเวลานอนเค้าจะต้องเปิดไฟสว่างไสว แอบปิดก็ไม่ได้ ส่วนอาการหนังศีรษะลอกเป็นแผ่นๆหลังสระผมเป็นน้่อยลง พักนี้ได้ยาสระผมสำหรับรักษารังแคค่อนข้างดีทำให้อาการดีขึ้นอีก

ยาที่ทานอยู่
ยาแก้ภูมิแพ้เบอร์ 3 (7 เม็ด ก่อนอาหาร เช้า-เย็น)
ปลูกเตโช (1 เม็ด ก่อนอาหาร เช้า-เย็น)
ไพลทอง (2 เม็ด ก่อนอาหาร เช้า-เย็น)

 

หนูไปตรวจสุขภาพที่พญาไทมา เจอก้อนเนื้อที่ตับ หมอให้ไปตรวจดูอีกครั้งว่าเป็นเนื้อดีหรือเนื้อร้าย หนูไม่กล้าที่จะไปตรวจอีก กลัวน่ะค่ะ แต่พอมาเปิดอ่านที่นี่รู้สึกดีมากๆเลย ถึงผลจะออกมาอย่างไร ก็ไม่กลัวแล้ว เพราะมีหมอเทวดาอย่างคุณsuwiอยู่ที่นี่

 

ท่านหมอ มะหัดสะจอรอหันการันยอ (มหัศจรรย์) เสริมวัชรธาตุก่อนอาหารมื้อละเม็ด (เล็กๆเนี่ยแหละ) เวิร์คค่ะ เลือดไปเลี้ยงสมองได้ดีขึ้นทันตา ทำให้คอ และในหัว ไม่เกร็งแล้วหละ นอนได้อย่างมีความสุขขึ้น ขอให้คุณหมอและครอบครัวมีความสุขกาย สุขใจ พ้นและแคล้วคลาดจากภยันตรายทั้งหลายทั้งปวง ปรารถนาสิ่งใดที่เป็นธรรมขอให้สมปรารถนาทุกประการ และเจริญและบันเทิงในธรรมยิ่งๆขึ้นไปเจ้าค่ะ

 

สวัสดีครับอาจารย์
ปรึกษาทีครับ ผมอยู่ดีๆก็หมดเรี่ยวแรง รู้สึกเพลียมากๆเหมือนนอนไม่เต็มอิ่ม
มีอาการหนาวเย็นโดนพัดลมหน่อยก็หนาวแล้ว ขอคำแนะนำทีครับ ขอบพระคุณครับ

 

ให้หาวิตามิน B คอมเพล็ก หรือ วิตามิน B1,6,12 กินเสริม วันละ ๒-๓ ครั้ง หลังอาหาร เช้า เย็น (ก่อนนอน)
และช่วงแรก อาจเพิ่มปลูดเตโชสัก เม็ด สองเม็ด สักพัก
พออาการดีขึ้นให้ค่อยๆลดยาที่เพิ่มลง

 

ยาวัชรธาตุ เป็นยาครู
สรรพคุณ ชำระหลอดโลหิตฝอยที่ตีบตัน(ทั้งตัว) โดยเฉพาะเส้นเลือดฝอยในสมองและก้านสมอง
ทำให้แก้เส้นเลือดตีบในสมองได้
เมื่อเส้นเลือดปลอดโปร่ง ร่างกายก็เป็นสุข

 

เมื่อเช้าสุวิเดินไปในตลาด ผ่านร้านขายปลา เห็นปลารูปร่างแปลกๆ เขาควักใส้ในออกมาวางโชว์ เห็นตับปลาออกมาวางหรา ก้อนโต
รู้สึกสดุดตา จึงถามคนขายว่าปลาอะไร เขาว่านี่คือ ปลาแป้ง มีตับใหญ่เนื้อแข็ง คนชอบกันมาก

กำลังจะเดินผ่าน ไอ้เจ้าปลาที่วางอยู่บนแผงก็ตะโกนเรียก พี่ๆ ดูตับหนูหน่อยซิ เขาว่าตับหนูไม่ดี เนี่ยตั้งนานแล้วไม่มีคนซื้อเลย
เอ้อแนะ โดนผ่าท้องแล้วยังพูดได้ด้วยโว้ย

เอ้าดูหน่อยก็ได้วะ ชะโงกหน้าเข้าไปดูไอ้เจ้าก้อนตับ ใจนึก เอ ก้อนโตจัง
ไอ้เจ้าก้อนตับมัน รีบเด้งตัวขึ้นทันที พูดออกมาว่า
ที่มันก้อนโตนะ มันไม่ได้เป็นอะไรนะ ตับก็ไม่แข็ง ซีสต์ก็ไม่มี มะเร็งก็ไม่เป็น ไอ้คนที่เห็นนะมันคิดไปเองทั้งนั้น
หนูนะ แค่อักเสพนิดหน่อยเอง
เดี๋ยวให้ลูกพี่ว่ายไปบนเขา หาเห็ดหลินจือกินสักหน่อยก็หายแล้ว ถ้าได้โสมเกาหลีสักหน่อย ก็จะหายเร็วขึ้น

อ้อ.. เราได้แต่อมยิ้ม มันเป็นอย่างนี้นี่เอง
ตับอักเสพนี่กินเห็ดหลินจือ กะโสมเกาหลีหน่อยหนึ่ง ก็หายแฮะ
แต่สงสัย ลูกพี่เองโดนผ่าท้องยั้งงี้ จะว่ายไปบนเขาไหวรึ

ได้ยินเสียงแว่วๆ
ไอ้เฒ่า ตื่นๆๆๆ ตื่นเร็ว สายแล้ว เดี๋ยวไปใส่บาตรไม่ทัน
อ้าว ฝันไปรึนี่ หันมองนาฬิกา ๖.๔๐ แล้ว สายไปจริงๆ

ปล.
เห็นมีหลินจือเขาเอามาขายตามร้านขายยาจีนห่อละ ห้าสิบบามเอง
โสมเกาหลี ถ้าใช้เป็นกระสายยานี่ ก็อาจใช้ ยาปลูกเตโชแทนได้นะ

เห็ดหลินจือ + ปลูกเตโช แก้ตับอักเสพ อันเกิดจากไว้รัสได้

 

เจ้านี้ให้เพิ่มยาปลูกเตโช อีก ๑ เม็ด(เป็น ๒ เม็ด)
และอื่นๆให้กินเหมือนเดิม

 

กราบขอบพระคุณอย่างมาก ๆ เลยนะคะ อ่านไปก็น้ำตาไหลไปด้วย ที่บอกว่าฝันไปน่ะ จริงหรือเปล่าคะ หรือว่าหลวงพ่อฤาษีดลจิตให้คุณลุงสุวิฝัน เพื่อที่จะมาบอกหนูน่ะค่ะ

 

ขอบคุณเจ้าค่ะ