ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    ที่บ้านพึ่งกลับมาจากชัยภูมิ บอกว่าที่เขื่อนตรงชัยภูมิ น้ำแล้งชาวบ้านขาดน้ำ เค้าเลยปล่อยน้ำ ไม่รู้อะไรจริง
     
  2. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    วันนี้แปลกมากเลยนะ แผ่นดินไหว กระจายทั่วโลกเลยนะ แล้วมีซึนามิเป็นโดมิโน่ แถมยังแผ่นดินไหวสุมาตรา 7.9 ริกเตอร์ เพื่อนที่ทำงาน บอกว่า ตึกของบริษัทที่ KL Malaysia สั่นประมาณ 4-5 นาทีได้
     
  3. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    [​IMG]
     
  4. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    <big>2009-09-30 11:17:51 - Earthquake - Indonesia</big>

    EDIS CODE: EQ-20090930-23359-IDN
    Date & Time: 2009-09-30 11:17:51 [UTC]
    Area: Indonesia, Sumatra, , Padang

    Not confirmed information!
    Description:
    A powerful earthquake off the coast of Indonesia's Sumatra island has damaged houses and bridges, and caused fires in the city of Padang in Sumatra, a witness said on Wednesday.
     
  5. doodee1

    doodee1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    458
    ค่าพลัง:
    +1,718
    วันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2552 ปีที่ 19 ฉบับที่ 6880 ข่าวสดรายวัน


    ภาวะ"โลกร้อน"ส่งผล "เอลนิญโญ"เกิดถี่-เอเชียแล้ง




    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>อาจารย์มหาวิทยาลัยในสหรัฐอเมริกา เตือนว่า ภาวะโลกร้อนจะทำให้เกิดปรากฏการณ์ "เอลนิญโญ" บ่อยครั้งขึ้น และยังส่งผลให้พื้นที่บางจุดในทวีปเอเชียประสบปัญหาภัยแล้งรุนแรง

    วารสารวิทยาศาสตร์ "เนเจอร์" ตีพิมพ์ผลการศึกษาของ เบน เคิร์ตแมน อาจารย์มหาวิทยาลัยไมอามีและคณะ ชี้ว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ หรือภาวะโลกร้อน จะทำให้ปรากฏการณ์เอลนิญโญเกิดถี่ขึ้น เพราะนอกจากเกิดเอลนิญโญฝั่งตะวันออกของมหาสมุทรแปซิฟิกทุก 4-5 ปีแล้ว ยังจะเกิดเอลนิญโญทางตอนกลางของมหาสมุทรแปซิฟิกถี่ขึ้น แต่จะไม่เกิดพร้อมกัน ส่งผลให้เอเชียแห้งแล้งยิ่งขึ้น ขณะที่เฮอริเคนถล่มฝั่งตะวันออกของสหรัฐและประเทศในทะเลแคริบเบียนจะรุนแรงขึ้น

    รายงานแจ้งว่า เอลนิญโญเป็นปรากฏการณ์กระแสน้ำอุ่นในทะเลบริเวณเส้นศูนย์สูตรทางมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันออก ไหลไปแทนที่กระแสน้ำเย็นบริเวณเส้นศูนย์สูตรทางมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตก และชายฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของทวีปอเมริกาใต้

    ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นทำให้อินโดนีเซีย ออสเตรเลีย อินเดีย และภาคตะวันออกของบราซิลแห้งแล้ง แต่ในประเทศสหรัฐ อเมริกาบริเวณฝั่งอ่าวเม็กซิโก และหลายพื้นที่ของภูมิภาคอเมริกาใต้ จะพบภัยธรรมชาติฝนตกหนัก ทำให้ผิวน้ำทะเลแคริบเบียนและมหาสมุทรแอตแลนติกมีอุณหภูมิลดลง ช่วยบรรเทาการก่อตัวและความรุนแรงของเฮอริเคน

    สู้น้ำมันแพง "พลังงาน...กู้วิกฤตไทย"

    มาสุทธิ ตั้งภควัตกุล /รายงาน



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>"น้ำมันกำลังจะหมดโลก" ไม่ใช่คำขู่ แต่เป็นเรื่องจริงที่จะเกิดขึ้นในอีก 30-40 ปีข้างหน้า

    หน่วยงานด้านพลังงานของโลกสำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ (Energy Information Administration : EIA) ระบุถึงปริมาณสำรองน้ำมันที่พิสูจน์แล้ว (proved reserves) ว่าน้ำมันโลกมีเหลืออยู่ 1,208 พันล้านบาร์เรล หรือมีพอใช้อีก 40 ปี

    ส่วนก๊าซธรรมชาติมีพอใช้อีก 63 ปี ถ่าน หิน 147 ปี

    ที่น่าสนใจคือแหล่งน้ำมันส่วนใหญ่ 60% กระจุกตัวในแถบตะวันออกกลาง ส่วนปริมาณน้ำมันสำรองในพื้นที่อื่น อาทิ ยุโรป สหรัฐ มีพอใช้ไปเพียง 20 ปีเท่านั้น จึงทำให้ราคาน้ำมันในช่วงนี้ผันผวนมาก

    หนักสุดคงเป็นปีที่แล้วที่ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกปรับขึ้นสูงถึง 147 เหรียญสหรัฐ/ บาร์เรล และปรับลดลงเหลือ 40 เหรียญสหรัฐ/ บาร์เรลในปีเดียวกัน

    ราคาน้ำมันเป็นพื้นฐานของราคาเชื้อเพลิงชนิดอื่นๆ เมื่อราคาน้ำมันแพงราคาเชื้อเพลิงอื่นๆ แพงตามกันไปในลักษณะลูกโซ่ ที่เกี่ยวโยงกันไม่รู้จบ

    ราคาพลังงานมักจะถูกผูกติดกับราคาน้ำมัน โดยเฉพาะก๊าซธรรมชาติ

    ไทยเองในฐานะผู้นำเข้าน้ำมันปีละกว่า 9 แสนล้านบาท ได้รับผลกระทบไปเต็มๆ เมื่อเกิดปัญหาขึ้นกับน้ำมัน

    แล้วเราจะทำอย่างไรดีเมื่อน้ำมันกำลังจะหมดโลก!

    อยากรู้คำตอบต้องไม่พลาดงาน "พลังงาน กู้วิกฤตไทย" ที่รอยัลพารากอนฮอลล์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าสยามพารากอน ระหว่างวันที่ 1 - 4 ต.ค. 52

    งานนี้กระทรวงพลังงานร่วมกับเครือมติชน จัดขึ้นเพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในฐานะบิดาแห่งพลังงานทดแทน และเพื่อสร้างความเข้าใจในเรื่องพลังงานกับประชาชน เพราะปัญหาด้านพลังงานต้องอาศัยความร่วมมือกับทุกฝ่ายในการฝ่าฟันอุปสรรคให้ผ่านพ้นไปได้

    น.พ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รมว.พลังงาน กล่าวว่า ขณะนี้ไทยกำลังอยู่ภายใต้วิกฤตเศรษฐกิจ เป็นผลจากวิกฤตโลกที่ถดถอย รัฐบาลเองพยายามทุกวิถีทางที่จะทำให้เศรษฐกิจไทยปรับตัวดีขึ้น บางมาตรการดำเนินการไปแล้ว และบางมาตรการอยู่ระหว่างดำเนินการ ซึ่งเริ่มมีสัญญาณว่าเศรษฐกิจกำลังฟื้นตัวดีขึ้น ภาคพลังงาน ที่มีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจต้องเตรียมความพร้อมไว้เพื่อรับมือหากราคาพลังงานปรับสูงขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจที่ดีขึ้น <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    น.พ.วรรณรัตน์ กล่าวต่อว่า คนที่สนใจในเรื่องพลังงานต้องไม่พลาดงาน "พลังงาน กู้วิกฤตไทย" การจัดงานครั้งนี้ยังตรงกับวันครบรอบวันสถาปนาของกระทรวง วันที่ 3 ต.ค. กระทรวงจัดปาฐกถาพิเศษหัวข้อ "พลังงานทดแทน กู้วิกฤตไทย" ที่จะกล่าวถึงความสำคัญของการประกาศใช้พลังงานทดแทนอันเป็นวาระสำคัญของไทย ที่ทุกคนต้องร่วมมือกัน

    ในวันเปิดงาน 1 ต.ค. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้เกียรติมาเป็นประธานในพิธี และกล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ "พลังงานไทย...ไทยเข้มแข็ง" สอดคล้องกับนโยบายไทยเข้มแข้งที่รัฐบาลกำลังดำเนินการในขณะนี้

    ก่อนเข้างานจะพบกับเขื่อนภูมิพลจำลอง เพื่อให้ทราบถึงยุคแรกๆ ของการพัฒนาพลังงานน้ำ

    หากต้องการทราบถึงเรื่องวิกฤตพลังงาน หาคำตอบได้ที่โซน "วิกฤตพลังงานโลก" ที่จะฉายภาพให้ทราบถึงสถานการณ์พลังงานปัจจุบัน และสถานการณ์พลังงานในอนาคต ด้วยเทคนิคการนำเสนอในรูปแบบใหม่ที่ไม่เคยปรากฏที่ไหนมาก่อน ภายใต้วิดีโอ โดมผ่านจอ 360 องศาเป็นครั้งแรกในประเทศไทย

    หลายคนคงยังไม่ทราบว่าไทยพัฒนาในเรื่องพลังงานทดแทนมานานหลายสิบปี

    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำริให้พัฒนาพลังงานทดแทน อาทิ ไบโอดีเซล แก๊สโซฮอล์ มานาน 24 ปี ตั้งแต่ พ.ศ.2528 และด้วยพระปรีชาสามารถของพระองค์ท่านทำให้ไทยก้าวผ่านวิกฤตพลังงานมาได้อย่างไม่ยากลำบากนัก

    คนไทยหันมาใช้แก๊สโซฮอล์ และไบโอดีเซลกันมากขึ้น จนกลายเป็นหนึ่งในชนิดน้ำมันที่ขายในปั๊มแทนเบนซิน และดีเซลปกติในปัจจุบัน

    กระทรวงพลังงานจึงจัดโซน "รอยัลพาวิลเลี่ยน" เพื่อจัดแสดงนิทรรศการเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้วยเทคโนโลยีการฉายภาพผ่านม่านน้ำ ซึ่งจะมีเรื่องราวพระราชกรณียกิจด้านพลังงาน ผู้ทรงเป็นต้นแบบในการพัฒนาและแก้ปัญหาด้านพลังงานด้วยพลังงานทดแทน เห็นได้จากโครงการวิจัยส่วนพระองค์ในการนำพืชผลทางการเกษตรมาผลิตเป็นน้ำมันเชื้อเพลิงมีในหลายโครงการ

    พลาดไม่ได้กับโซน "นิทรรศการของกระทรวงพลังงาน" ที่จะทำให้ทราบถึงการส่งเสริมและพัฒนาพลังงานทดแทนตามแผนพลังงานทดแทน 15 ปี ซึ่งมีเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนพลังงานจากปัจจุบัน 6.4% เป็น 20% ภายในปีพ.ศ.2565 จะทำให้รู้จักพลังงานจากธรรมชาติในแต่ละชนิดมากขึ้นทั้งพลังงานลม พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานน้ำ พลังงานจากเชื้อเพลิงชีวภาพ พลังงานจากชีวมวล <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    บรรยากาศวันแถลงข่าว

    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    นิทรรศการนี้ยังจะช่วยตอบคำถามได้ว่าเมื่อพลังงานจากฟอสซิล คือ น้ำมัน ถ่านหิน และก๊าซธรรมชาติหมดจากโลก เราจะอยู่กันอย่างไร รู้จักกับการลดภาวะโลกร้อนกับพลังงานทดแทนว่าจะเชื่อมโยงกันได้อย่างไร

    คนที่กำลังจะมีบ้านใหม่ หรือต้องการปรับปรุงบ้านต้องไม่พลาดโซน "บ้านประหยัดพลังงาน" ที่พิสูจน์แล้วว่าทำได้ และลดการใช้พลังงานได้จริง พร้อมฟังการเสวนาในหัวข้อ "แต่งบ้านมุมสบายคลายร้อน" จากอาจารย์สิงห์ อินทรชูโต ผู้นำขยะมาผลิตเป็นเฟอร์นิเจอร์แสนสวย

    สำหรับขาช็อป ต้องไม่พลาดกับการเลือกซื้อสินค้าลดโลกร้อน ในโซน "กรีน มาร์เก็ต" จะมีตั้งแต่รถยนต์ประหยัดพลังงานจาก 5 ค่าย อาทิ โตโยต้า มิตซูบิชิ เชฟโรเลต อีซูซุ และสามารถเลือกซื้อผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ในบ้านเบอร์ 5 หลากหลายชนิดตั้งแต่ หลอดไฟ ตู้เย็น พัดลม โดยมีผู้ประกอบการมาร่วมออกบูธกว่า 30 ราย

    หากเบื่อกับนิทรรศการแล้ว สามารถไปร่วมเล่นเกมตอบคำถามชิงรางวัลใหญ่ กิจกรรมแจกพาสปอร์ตเที่ยวงานลุ้นโชค เพียงนำใบเสร็จค่าไฟฟ้า 2 เดือนที่มีค่าไฟลดลงมาแสดงหน้างานรับกระเป๋าลดโลกร้อนไปฟรีๆ

    ผ่อนคลายความเครียดจากข้อมูลหนักๆ ทางวิชาการ กับมินิคอนเสิร์ตจากศิลปินชั้นนำ อาทิ บอย พีซเมกเกอร์ แคลอรี่ บลาห์ บลาห์ ลุลา แบล็กเฮด ที่จะผลัดกันมาสร้างความบันเทิง

    ผู้เข้าร่วมงานจะได้รับหนังสือฟรี 2 เล่ม 2 รส คือ "ชีวิต ประหยัดพลังงาน" รวบรวม 6 กลยุทธ์ในการใช้ชีวิตอย่างประหยัดพลังงานง่ายๆ ตั้งแต่การเลือกซื้อบ้าน เทคนิคปลูกบ้าน การตกแต่งบ้าน จนถึงการเลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน

    ส่วนอีกเล่มคือ "8 ขั้นตอนในการลงทุนพลังงานทดแทน" ซึ่งเป็นการแนะนำการลงทุนในธุรกิจพลังงานต่างๆ อาทิ พลังงานชีวมวล พลังงานชีวภาพ

    หนังสือมีจำนวนจำกัดเพียงไม่กี่พันเล่ม ต้องรีบไปจับจอง ก่อนที่จะมาเสียดายทีหลัง

    ชมนิทรรศการแล้ว มานั่งพักเหนื่อยฟังสัมมนาจากกูรูด้านพลังงาน ผู้บริหารจากหน่วยงานรัฐและเอกชน ผู้ทรงคุณวุฒิด้านพลังงานตัวเป็นๆ ตบเท้ามาร่วมเสวนาไขข้อข้องใจเรื่องพลังงาน ทั้งเรื่องไฟฟ้า น้ำมัน พลังงานทดแทน

    ที่น่าสนใจ คือการเสวนาของผู้บริหารสูงสุด 4 องค์กรที่ทรงอิทธิพลด้านพลังงาน (บิ๊กโฟร์ เอนเนอร์จี) คือ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม หรือปตท.สผ. และสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ในวันที่ 1 ต.ค.

    นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารปตท. นายสมบัติ ศานติจารี ผู้ว่าการกฟผ. นายอนนต์ ศิริแสงทักษิณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ปตท.สผ. และ นายวีระพล จิรประดิษฐ์กุล ผู้อำนวยการสนพ. แท็กทีมมาจ้อในหัวข้อ "บิ๊กโฟร์ เอนเนอร์จี กับเรื่องร้อนๆ น่ารู้" ในวันที่ 1 ต.ค.

    หากต้องการทราบว่า "การแปลงขยะเป็นน้ำมัน" ทำได้อย่างไร ต้องมาฟังจากปากของ นายพีระพล สาครินทร์ อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน และตัวแทนจากเทศบาลจ.ระยอง ในวันที่ 2 ต.ค. และชมทอล์กโชว์สดๆ จากอาจาร์จตุพล ชมภูนิช เป็นเวลา 1 ชั่วโมงเต็ม ในวันที่ 3 ต.ค.

    วันสุดท้าย 4 ต.ค. พบกับผู้บริหารจาก ปตท.สผ. และ นายคุริจิต นาครทรรพ อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ ในหัวข้อ "ขุมทรัพย์น้ำมันของไทยในต่างประเทศ" และตัวแทนจากบริษัทรถยนต์มิตซูบิชิ โตโยต้า จะมาพูดถึงเทคนิคการเลือกซื้อรถยนต์ประหยัดพลังงานและรถยนต์พลังงานทดแทนให้ฟัง

    หากใครสนใจประกอบอาชีพที่เกี่ยวข้องด้านพลังงาน สามารถเลือกชม เลือกฟังจากผู้เชี่ยวชาญที่ผลัดเปลี่ยนกันมาให้ความรู้ อาทิ การสาธิตวิธีการเปลี่ยนขยะรีไซเคิลเป็นเงินแสนง่าย เทคนิคการล้างแอร์สร้างรายได้ ปลูกพืชพลังงานสร้างรายได้ สอนทำพวงกุญแจตุ๊กตาจากผ้า สาธิตการผลิตไบโอดีเซลจากน้ำมันพืชใช้แล้ว การทำไบโอดีเซลเขย่ามือ

    เมื่อได้ฟังแล้วเกิดไอเดียจากการสร้างธุรกิจ กระทรวงพลังงานจัดคลินิกพลังงาน มีผู้เชี่ยว ชาญพลังงานที่จะมาให้คำปรึกษาด้านพลังงาน รวมถึงการลงทุนในธุรกิจพลังงาน

    ผู้เข้าชมงานสามารถหาคำตอบให้กับตัวเองอย่างเต็มอิ่มว่าควรจะปฏิบัติตัวอย่างไรในภาวะวิกฤตพลังงาน

    งานนี้พลาดแล้วจะเสียใจ ถือเป็นงานใหญ่สุดของกระทรวงพลังงานเท่าที่เคยจัดมาเลยทีเดียว

    "ควาย"จีนแสนรู้ ใช้ฟันกดเปิดไฟ



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>เมื่อ 29 ก.ย. หนังสือพิมพ์อู่ฮั่น อีฟนิ่ง โพสต์ รายงานเรื่องราวของควายแสนรู้ในเมืองหนานตัน มณฑลหูเป่ย ที่รู้จักเปิดสวิตช์ไฟเอง ทำให้มันเป็นดาวดังได้ออกทีวี และมีชาวบ้านทั้งใกล้และไกลเดินไปดูกันอย่าง คึกคัก

    นายมู่ จ้าวกวง ชาวนาเจ้าของควายตัวนี้ เล่าว่า ตอนแรกไม่รู้ว่า ใครเป็นคนไปเปิดกดไฟในโรงนาอยู่เสมอ เพราะเช้าขึ้นมาก็เห็นไฟเปิดอยู่เรื่อย ทั้งๆ ที่ตอนกลางคืนปิดแล้ว เป็นอย่างนี้มา 5 ปี ตนและภรรยามักโทษกันว่า อีกคนหลงๆ ลืมๆ ในที่สุดตนจึงไปนอนค้างในโรงนาเพื่อพิสูจน์ และได้เห็นว่า ที่แท้เป็นเจ้าควายตัวนี้นี่เอง ต่อมาจึงจับสังเกตได้ว่า มันมักใช้ฟันกดเปิดสวิตช์ไฟเวลามองหาน้ำและอาหาร ทั้งยังกดปิดๆ เปิดๆ เรียกร้องความสนใจเวลารางให้อาหารของมันว่าง ตอนแรกตนเล่าให้เพื่อนบ้านฟัง ไม่มีใครเชื่อ ถึงขนาดมีคนท้าพนัน ถ้าควายเปิดไฟได้ ซึ่งตนชนะในที่สุด
    กิสนามาแล้ว-เตือน41จว.รับมือ



    เมื่อวันที่ 29 ก.ย. กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเตือนภัย"พายุ "กิสนา" ฉบับที่ 6 ว่า พายุไต้ฝุ่น "กิสนา" บริเวณทะเลจีนใต้ เมื่อเวลา 16.00 น.วันนี้ เคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณเมืองดานัง ประเทศเวียดนามแล้ว โดยมีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 340 ก.ม. ทางทิศตะวันออกของจ.อุบลราชธานี หรือที่ละติจูด 15.4 องศาเหนือ ลองจิจูด 108.8 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 130 ก.ม.ต่อชั่วโมง พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกด้วยความเร็ว ประมาณ 15 ก.ม.ต่อชั่วโมง จะเคลื่อนตัวผ่านประเทศลาวเข้าสู่ประเทศไทย แนวจ.มุกดาหารและอุบลราชธานีในวันที่ 30 ก.ย. นี้ และจะอ่อนกำลังลงอย่างรวดเร็ว ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกหนาแน่นมากขึ้น โดยมีฝนตกหนักถึงหนักมากได้ในหลายพื้นที่

    นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวว่า พายุกิสนาจะส่งผลให้ประเทศไทย มีฝนตกชุกหนาแน่นและฝนตกหนักในระยะ 3-4 วันนี้ โดยเริ่มจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน ส่วนภาคอื่นๆจะได้รับผลกระทบในระยะต่อไป ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่มในพื้นที่เสี่ยงภัย 41 จังหวัด ได้แก่ หนองคาย อุดรธานี เลย หนองบัว ลำภู สกลนคร นครพนม มุกดาหาร ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ มหาสารคาม ขอนแก่น อุบลราชธานี อำนาจเจริญ ศรีสะเกษ ยโสธร กำแพงเพชร พิจิตร นครสวรรค์ อุทัยธานี พิษณุโลก สุโขทัย เพชรบูรณ์ อุตรดิตถ์ แม่ฮ่องสอน ตาก ลำปาง เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา แพร่ น่าน ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด ระนอง ภูเก็ต พังงา กระบี่ ตรัง และสตูล

    นายอนุชากล่าวว่า ขอเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยทั้ง 41 จังหวัดให้ติดตามพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิด และระมัดระวังอันตรายที่อาจเกิดจากพายุกิสนา หากมีฝนตกหนักติดต่อกันเป็นเวลานานในพื้นที่และสังเกตพบสัญญาณผิดปกติทางธรรมชาติ เช่น ระดับน้ำในลำห้วยเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วและมีสีขุ่นข้น สัตว์ป่ามีอาการแตกตื่น มีเสียงดังมาจากป่าต้นน้ำให้รีบอพยพและขนย้ายสิ่งของไปยังที่ปลอดภัย เพราะอาจเกิดน้ำป่าไหลหลากหรือน้ำท่วมฉับพลันขึ้นได้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ที่ สายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง

    วันเดียวกัน ที่จ.อุบลราชธานี เกิดในตกหนักติดต่อกันเป็นเวลานาน ทำให้การสัญจรในจังหวัดติดขัด ยานพาหนะต้องเปิดไฟหน้าแล่น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ ด้านกรมอุตุนิยมวิทยาระบุในพื้นที่มีฝนตกชุกหนาแน่น และในวันที่ 30 ก.ย. ให้เตรียมรับมือพายุกิสนาที่กำลังเคลื่อนตัวเข้าประเทศไทยด้าน จ.อุบลราชธานีและ จ.มุกดาหาร สำหรับระดับน้ำในแม่น้ำมูล ที่สถานีวัดน้ำสะพานเสรีประชาธิปไตย อ.เมือง สูงขึ้น 1-3 ซ.ม. ความสูง 6.64 เมตร สูงกว่าตลิ่ง 1.64 เมตร

    ที่จ.ชัยภูมิ เมื่อเวลา 17.00 น. เกิดน้ำป่าบนเทือกเขาภูแลนคา ต.ห้วยต้อน ไหลหลาก พัดอ่างเก็บน้ำแตก 2 แห่งซ้อน ชาวบ้านเดือดร้อนกว่า 500 หลังคาเรือนในเขต ต.ห้วยต้อน อ.เมืองชัยภูมิ ก่อนไหลเข้าสู่เขตเทศบาลเมืองชัยภูมิ ท่วม 3 ชุมชนระดับน้ำสูง 50 ซ.ม. ทำให้ถนนในชุมชนตัวเมืองบางส่วนรถจักรยานยนต์ รถยนต์เล็ก ไม่สามารถวิ่งผ่านได้ บางส่วนต้องมีกานำแผงเหล็กมากั้นไว้ห้ามรถเล็กทุกชนิดผ่าน เพราะมีระดับน้ำสูงกว่า 70 ซ.ม. รวมทั้งหน่วยงานราชการสถานีวิทยุแห่งประเทศไทย (สวท.ชัยภูมิ) ถูกน้ำไหลผ่านเข้าท่วมด้วยเช่นกัน

    ที่จ.ตาก แม่น้ำวังจากจ.ลำปาง ไหลเข้าสู่พื้นที่ ต.ยกกระบัตร ต.วังหมัน อ.สามเงา แล้ว ล่าสุดกระแสน้ำได้เอ่อล้นคันดินริมตลิ่ง เข้าท่วมพื้นที่การเกษตรเพาะปลูกฝรั่ง กล้วยไข่ และข้าวโพดหวาน 10 หมู่บ้าน รวมพื้นที่กว่า 400 ไร่ ระดับน้ำสูงประมาณ 5 เมตร เจ้าหน้าที่อบต.ได้เร่งประชาสัมพันธ์เตรียมอพยพผู้คน เก็บสิ่งของหนีน้ำท่วม พร้อมจัดเวรยามคอยตรวจสอบระดับน้ำตลอด 24 ชั่วโมง


    หมอผีเผยถูกจ้างทำคุณไสยโรนัลโด้



    หมอผีรายหนึ่งส่งจดหมายถึงสโมสรรีล มาดริด ว่าได้รับการว่าจ้างให้ทำคุณไสยใส่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ให้ได้รับบาดเจ็บหนักๆ

    หนังสือพิมพ์ เอล มุนโด้ ของสเปนเปิดเผยว่า หมอผีรายหนึ่งได้ส่งจดหมายไปบอกกับต้นสังกัดของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ว่าตนเองได้รับการว่าจ้างด้วยเงินก้อนโตจากคนดังคนหนึ่ง ให้ใช้เวทมนตร์ทำให้ปีกทีมชาติโปรตุเกสได้รับบาด เจ็บอย่างรุนแรง โดยที่ผู้ว่าจ้างรู้จักกับโรนัลโด้เป็นการส่วนตัวด้วย โดยข้อความในจดหมายของหมอผีคนดังกล่าวระบุว่า "ผมไม่ได้มีปัญหาอะไรกับสโมสรรีล มาดริดเลย แต่มันเป็นอาชีพของผมและผมก็ได้รับการว่าจ้างด้วยเงินก้อนโต เพื่อให้ผมใช้พลังที่ผมมีเพื่อทำให้คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรง ผมไม่ได้รับปากว่าผมจะทำได้แบบนั้น อย่างแน่นอน แต่ผมบอกได้ว่าเขาจะได้รับบาดเจ็บบ่อยกว่าเดิมแน่ๆ คนที่จ้างให้ผมทำแบบนี้เป็นคนดังคนหนึ่ง และรู้จักกับโรนัลโด้เป็นการส่วนตัวด้วย"

    ด้านรีล มาดริดได้รับทรัพย์อีก 60 ล้านยูโร หลัง "บีวิน" บริษัทรับพนันถูกกฎหมายของออสเตรีย ตกลงต่อสัญญาเป็นสปอนเซอร์เสื้อแข่งของทีมออกไปอีก 3 ปี หรือจนถึงปี 2013 ด้วยมูลค่าปีละ 20 ล้านยูโร

    หน้า 12
     
  6. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,680
    ค่าพลัง:
    +51,926
    *** คำเตือนจากสิ่งศักดิ์สิทธิ ****

    ดินฟ้าอากาศ...กำลังเตือน เป็นภัยรอบบ้าน
    โลกุตตระมีเวลาให้จำกัด....

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  7. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ยกเลิกเตือนภัยสึนามิจากแผ่นดินไหว 7.9 ริกเตอร์ที่อินโดนีเซีย

    [​IMG]

    สิงคโปร์ 30 ก.ย. - ศูนย์เตือนภัยสึนามิแปซิฟิก แถลงว่า ได้ยกเลิกการประกาศเตือนภัยคลื่นยักษ์สึนามิในภูมิภาค หลังเกิดแผ่นดินไหวขนาด 7.9 ริกเตอร์ นอกชายฝั่งเกาะสุมาตราของอินโดนีเซีย

    ขณะที่อินเดียไม่ได้ออกคำเตือนภัยสึนามิ เนื่องจากไม่พบว่าจะเป็นอันตรายต่ออินเดีย ส่วนที่มาเลเซียก็ไม่ได้ออกประกาศเตือนภัยสึนามิเช่นกัน แต่มีรายงานว่าบางรัฐแถบชายฝั่งตะวันตกรู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวครั้งนี้ ขณะที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประชาชนหลายร้อยคนสิ่งออกมาจากอาคารสำนักงาน ขณะที่บนเกาะสุมาตรามีรายงานอาคารขนาดใหญ่หลายหลังเสียหาย และการสื่อสารขัดข้องจากเหตุแผ่นดินไหว สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐรายงานว่า แผ่นดินไหวล่าสุดมีขนาด 7.6-7.9 ริกเตอร์ และอยู่ลึกลงไป 85 กม. - สำนักข่าวไทย

    2009-09-30 19:05:36

    มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 113 คน จากแผ่นดินไหว-สึนามิที่ซามัวและตองกา

    [​IMG]

    อาปีอา 30 ก.ย. - เจ้าหน้าที่ของรัฐบาลและโรงพยาบาลซามัว กล่าวว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 113 คน หลังจากเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงและคลื่นสึนามิ ถล่มหมู่เกาะซามัวและตองกา

    เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลในซามัว เปิดเผยว่า ยอดผู้เสียชีวิตเมื่อถึงเวลา 14.00 น. มี 84 คน ส่วนที่อเมริกันซามัว มีผู้เสียชีวิต 22 คน ที่ตองกามีผู้เสียชีวิต 7 คน และอีกหลายสิบคนสูญหาย เกรงว่าจะเสียชีวิตแล้ว เจ้าหน้าที่ของซามัว กล่าวว่า การติดต่อสื่อสารกับหมู่บ้านจำนวนมากใช้การไม่ได้

    นายไมเคิล ซาลา ผู้อำนวยการฝ่ายความมั่นคงมาตุภูมิของอเมริกัน ซามัว กล่าวว่า คลื่นสึนามิซึ่งเกิดขึ้นหลังเหตุแผ่นดินไหวประมาณ 20 นาที สร้างความเสียหายในพื้นที่ส่วนใหญ่ ยอดผู้เสียชีวิตที่ได้รับการยืนยันในอเมริกัน ซามัวมี 22 คน และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีก เขาบอกว่าแผ่นดินไหวทำให้เกิดคลื่นสูง 7.5 เมตร กวาดอาคารบ้านเรือนที่อยู่ชายฝั่งทะเล

    แผ่นดินไหวที่เกิดเมื่อเวลา 06.48 น.ตามเวลาท้องถิ่น ทำให้พื้นที่ด้านตะวันออกของอเมริกันซามัว ไม่มีน้ำและไฟฟ้าใช้ ส่วนที่ตองกามีรายงานจากทางการว่ามีผู้เสียชีวิต 7 คน และอีก 3 คนสูญหายบนเกาะนีอูอาทูพูตาปู เจ้าหน้าที่เดินทางด้วยเครื่องบินไปยังเกาะดังกล่าว แต่ไม่สามารถนำเครื่องลงจอดได้เพราะสนามบินได้รับความเสียหาย จึงเปลี่ยนแผนเดินทางทางทะเลในคืนนี้เพื่อประเมินค่าความเสียหาย.-สำนักข่าวไทย

    2009-09-30 17:29:03

    ยอดผู้เสียชีวิตจากพายุกิสนาในเวียดนามเพิ่มเป็น 74 คน

    [​IMG]

    ดานัง 30 ก.ย. - ยอดผู้เสียชีวิตจากพายุไต้ฝุ่นกิสนาพัดกระหน่ำเวียดนามล่าสุด เพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 74 คน หลังจากสร้างความเสียหายให้แก่ฟิลิปปินส์เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 246 คน

    เจ้าหน้าที่จากคณะกรรมการควบคุมพายุและอุทกภัย กล่าวว่า นอกจากผู้เสียชีวิต 74 คน ยังมีรายงานผู้สูญหายไปอีก 12 คน และพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด ได้แก่ พื้นที่ตอนกลางของประเทศ บรรดาผู้ประสบภัยต่างร้องเรียนว่า ได้รับการช่วยเหลือจากรัฐบาลล่าช้า เจ้าหน้าที่ประมาณว่ามีประชาชนราว 200,000 คน ต้องอพยพออกจากบ้านเรือน พายุกิสนาได้อ่อนกำลังเมื่อคืนที่ผ่านมา กลายเป็นพายุดีเปรสชั่น และเคลื่อนตัวไปทางตะวันตก

    ส่วนที่กัมพูชามีผู้เสียชีวิต 11 คน และบาดเจ็บ 35 คน จากพายุกิสนา และที่ลาวมีระดับน้ำท่วมสูงถึง 1 เมตร ในวันนี้. -สำนักข่าวไทย

    2009-09-30 19:37:34

    สหภาพยุโรปพร้อมส่งความช่วยเหลือให้กับเหยื่อสึนามิในซามัว

    [​IMG]

    บรัสเซลส์ 30 ก.ย. - นายคาเรล เดอ กุชต์ คณะกรรมาธิการความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแห่งสหภาพยุโรปแถลงว่า สหภาพยุโรปพร้อมส่งความช่วยเหลือฉุกเฉินให้แก่หมู่เกาะซามัวที่ถูกคลื่นสึนามิพัดถล่ม

    นายเดอ กุชต์ แถลงว่า สหภาพยุโรปพร้อมจะให้ความช่วยเหลือในทุกกรณีที่สามารถทำได้ นอกจากนี้ยังกล่าวว่า สหภาพยุโรปขอแสดงความเสียใจไปยังครอบครัวที่สูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักจากเหตุดังกล่าว และขอแสดงความเสียใจไปยังทางการหมู่เกาะซามัว อเมริกันซามัว รวมถึงประเทศอื่น ๆ ในแถบมหาสมุทรแปซิฟิก ซึ่งได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติครั้งนี้

    นายเดอ กุชต์ กล่าวว่า คณะกรรมาธิการยุโรปและสำนักงานความช่วยเหลือเพื่อมนุษยธรรมของสหภาพยุโรป กำลังตรวจสอบสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งยังได้ร่วมมือกับกลุ่มความร่วมมือทางมนุษยธรรมอื่น ๆ ในกรณีต้องการความช่วยเหลือฉุกเฉิน. -สำนักข่าวไทย

    2009-09-30 17:10:55

    พายุกิสนาส่งผลน้ำท่วมตอนใต้ของลาว

    [​IMG]

    ฮานอย 30 ก.ย. - เกิดน้ำท่วมสูง 1 เมตร ในพื้นที่ตอนใต้ของลาวในวันนี้ ขณะที่พายุโซนร้อนกิสนาพัดกระหน่ำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ส่งผลให้เกิดความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สิน

    แต่ในลาวไม่มีรายงานการเสียชีวิตจากอิทธิพลของพายุกิสนา นอกจากมีรายงานน้ำท่วมสูง 60 ซม. ถึง 1 เมตร ในเมืองสาละวัน และหมู่บ้านริมฝั่งแม่น้ำเซกอง แหล่งข่าวสหประชาชาติรายงานว่า ในแขวงเซกอง มีรายงานหมู่บ้าน 2 แห่ง จมอยู่ใต้กระแสน้ำ นอกจากนี้ยังมีรายงานน้ำท่วมในแขวงอัตตะปือ ทางตอนใต้สุดของประเทศ

    ทางการลาวได้ร้องขอให้สหประชาชาติจัดพาหนะช่วยเหลือในการอพยพผู้ประสบภัย ซึ่งยังไม่ทราบแน่ชัดว่ามีประชาชนจำนวนเท่าใดกำลังต้องการความช่วยเหลือ แต่โฆษกรัฐบาลลาวรายงานว่า ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตในลาวแต่อย่างใด. -สำนักข่าวไทย

    2009-09-30 18:15:27

    อินเดียแห้งแล้งที่สุดในรอบ 37 ปี

    [​IMG]

    นิวเดลี 30 ก.ย. - อินเดียประสบกับภัยแล้งหนักที่สุดในรอบ 37 ปี โดยวัดปริมาณน้ำฝนได้ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยถึง 23% เมื่อสิ้นสุดฤดูมรสุมซึ่งกินระยะเวลา 4 เดือน

    นาย พี.เค. บันโดพัดเย โฆษกกรมอุตุนิยมวิทยาของอินเดีย กล่าวว่า ปริมาณฝนในช่วงฤดูมรสุมปีนี้น้อยที่สุดนับตั้งแต่ปี 2515 โดยในปีดังกล่าวมีปริมาณน้ำฝนต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 24% ส่วนปีที่มีฝนตกน้อย เช่น ปี 2522 ปี 2530 และปี 2545 มีปริมาณฝนต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 19%

    ฝนที่ตกน้อยในช่วงฤดูมรสุมนำความแห้งแล้งมาสู่พื้นที่หลายแห่งแตกต่างกันไป โดยพื้นที่บริเวณคาบสมุทรทางใต้ของอินเดียมีฝนตกต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 7% ขณะที่พื้นที่ภาคตะวันตกเฉียงเหนือมีฝนตกต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 36% ฝนที่ตกน้อยได้สร้างปัญหาแก่เกษตรกรอินเดีย 235 ล้านคน ซึ่งต้องพึ่งพาน้ำฝนในการเกษตร เนื่องจากพื้นที่ชนบทขาดแคลนการชลประทาน นอกจากนี้ยังมีผลไปถึงปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำซึ่งมีความสำคัญต่อการผลิตกระแสไฟฟ้าและการชลประทานในช่วงฤดูหนาว

    ราคาอาหาร เช่น น้ำตาลพุ่งสูงขึ้น เพราะผลผลิตน้อย และคาดว่าการขาดแคลนฝนจะส่งผลต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของอินเดียในปีนี้ด้วย
    นายกรัฐมนตรีมานโมฮัน ซิงห์ กล่าวเมื่อเดือนที่แล้วว่า อินเดียเผชิญกับภาวะแห้งแล้งอย่างรุนแรง แต่ปริมาณอาหารในคลังมีเพียงพอที่จะรับประกันได้ว่าไม่เกิดภาวะหิวโหย ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญสินค้าโภคภัณฑ์กล่าวว่า ปริมาณอาหารในปัจจุบันของอินเดียเพียงพอเลี้ยงคนยากจน ซึ่งจะขอรับความช่วยเหลือจากรัฐบาลเป็นเวลา 3 เดือน. - สำนักข่าวไทย

    2009-09-30 16:08:30

    ที่มา http://news.mcot.net
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  8. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ภาพ “สึนามิ” ล้างผลาญแปซิฟิก ยอดตายแตะ 113 แล้ว</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>30 กันยายน 2552 19:11 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
    ความเสียหายในชายฝั่งกรุงปาโกปาโก ประเทศอเมริกันซามัว

    เอเอฟพี - รายงานล่าสุด ระบุ มีผู้เสียชีวิตจากสึนามึในมหาสมุทรแปซิฟิกตอนใต้แล้วอย่างน้อย 113 คน แต่ยืนยันอย่างเป็นทางการ 76 คน

    สำนักสำรวจทางธรณีวิทยาของสหรัฐฯ ระบุว่า เกิดแผ่นดินไหวรุนแรง 8.0 ริกเตอร์ ณ เวลา 06.48 น.วานนี้ (29) ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งตรงกับเมืองไทยเวลา 00.48 น.วันนี้ (30) นอกชายฝั่งหมู่เกาะซามัว ห่างจากกรุงเอเพีย บนเกาะซามัว ไปทางตะวันตกเฉียงใต้ 190 กิโลเมตร ลึกลงไปใต้ทะเล 18 กิโลเมตร

    ผลของแผ่นดินไหวคราวนี้ ก่อให้เกิดคลื่นสึนามิสูงหลายเมตร ใน 20 นาทีต่อมา ซึ่งถาโถมเข้าใส่กรุงปาโก ปาโก บนเกาะอเมริกันซามัว และกรุงเอเพีย ของซามัว และเกิดความเสียหายอย่างหนัก

    เจ้าหน้าที่เผยว่า ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 76 คนแล้ว และคาดว่า จะเพิ่มขึ้นสูงเกิน 100 คนในไม่ช้า โดยมีผู้เสียชีวิต 47 คนในซามัว อเมริกันซามัว 22 คน และอีก 7 คนในเกาะเล็กๆ แห่งหนึ่งของตองกา ทั้้งนี้ มีการยืนยันว่า ในซามัว มีนักท่องเที่ยวชาวเกาหลีใต้ 2 คน และออสเตรเลีย 1 คน อยู่ในกลุ่มผู้เสียชีวิต ระหว่างที่พวกเขามาพักผ่อนบนเกาะที่พังพินาศจากคลื่นยักษ์นี้

    อย่างไรก็ตาม ความเคลื่อนไหวล่าสุด เอเอฟพี รายงานว่า ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 113 คนแล้ว จากการรวมรวมของเจ้าหน้าที่ฉุกเฉินในซามัวและตองกา แต่ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการ

    ด้านผู้อำนวยการความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของอเมริกันซามัว ซึ่งเป็นดินแดนของสหรัฐฯ ห่างจากเกาะซามัว ประมาณ 100 กิโลเมตร ยืนยันว่า พบผู้เสียชีวิต 22 คนแล้ว หลังจากเกิดคลื่นสึนามิสูงประมาณ 7.5 เมตร เข้าล้างผลาญสิ่งปลูกสร้างชายฝั่งทะเลด้านตะวันออก ทำให้ขาดแคลนน้ำดื่มและกระแสไฟฟ้าถูกตัดด้วย

    นอกจากนี้ จากการเปิดเผยของกรมอุตุนิยมวิทยาแดนปลาดิบ เผยว่า แผ่นดินไหวครั้งใหญ่คราวนี้ ยังทำให้เกิดคลื่นสึนามิขนาด 10 เซนติเมตร บนเกาะทางตอนใต้ของญี่ปุ่น รวมถึงทางเหนือของเกาะฮอนชูด้วย ก่อนหน้านี้ ญี่ปุ่นได้ประกาศเตือนภัยสึนามิขนาด 50 เซนติเมตร แต่ยกเลิกไปในเวลาอีก 6 ชั่วโมงต่อมา

    หลังจากเกิดสึนามิ ประธานาธิบดี บารัค โอบามา ประกาศว่า “เกิดภัยพิบัติรุนแรง” ในอเมริกันซามัว และจะให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่และโดยเร็ว ขณะที่คณะกรรมาธิการด้านมนุษยธรรมแห่งกลุ่มสหภาพยุโรป (อียู) ประกาศว่า จะให้เงินช่วยเหลือฉุกเฉินเบื้องต้นแก่ซามัวมูลค่า 150,000 ยูโร

    ด้านรัฐบาลอังกฤษ ประกาศว่า จะให้ความช่วยเหลือทุกทางที่ช่วยได้ หลังจากเชื่อว่า มีเด็กชาวอังกฤษเสียชีวิตจากภัยธรรมชาติครั้งใหญ่นี้ด้วย

    ที่มา http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9520000114992
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 กันยายน 2009
  9. k_isara

    k_isara เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    246
    ค่าพลัง:
    +119
    30 ก.ย. 52
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    ทำไมถึงรีบ ?
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    เวลา 3ปี ที่เหลือสำหรับผู้นำอย่างผม ผมถือว่าน้อย เพราะ<O:p</O:p
    ระยะทางไกล การขึ้นลง กรุงเทพฯ-เชียงคานระยะทาง 600ก.ม. แต่ละครั้งมีค่าใช้จ่ายที่ตัวเองออกมากพอสมควร
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    ผู้ที่จะพาไปอยู่ด้วยมีจำนวนมาก การเตรียมความพร้อมเรื่องน้ำดื่ม น้ำใช้ สถานที่ตั้งเต็นท์นอน สุขา ทุกอย่างต้องทำรอไว้ก่อน
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    เรื่องเงินที่จะนำมาทำ ผู้ตามไปอยู่ต้องช่วยกันออก
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    เรื่องสุดท้ายคือ ความเชื่อของผู้ตาม ถ้าผู้ตามมีความเชื่อแบบกล้าๆกลัวๆ โอกาสที่จะไปอยู่มีค่าเป็น 0
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    ในตอนแรกคิดว่าจะเปิดเบอร์โทรฯให้ติดต่อเมื่อคิดดูแล้ว จำนวนคนนอกที่ผมจะพาไป ผมกันที่ให้แค่ 100คน ส่วนที่เหลือ ผมจะเก็บไว้ให้กับคนที่กินเจสายดอนเมือง ตามคำสั่ง
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    คนนอกที่เป็นสมาชิกในเว็บฯ ที่อยู่ ขอนแก่น ขอผมไว้ 2หน่วย( 10คน) ผมได้รับทราบไว้แล้ว ยังเหลือที่อยู่สมุทรปราการอีกราย ผมรอคำตอบอยู่ ถ้าไม่มีคำตอบกลับมา ผมก็ถือว่าสละสิทธิ์ ท่านเหล่านี้ถ้าแจ้งมา ท่านจะต้องช่วยเงินครอบครัวละ 1หมื่น เงินนี้มิใช่ให้ผมนะครับ เงินเหล่านี้คือเงินที่ผมจะต้องซื้อโอ่งยักษ์ให้ 4ใบ พร้อมท่อน้ำและมิเตอร์ 1ลูก สำหรับน้ำประปาหมู่บ้าน ทำในพื้นที่เท่านั้น ห้องสุขาเคลื่อนที่ 1ห้อง พื้นสำเร็จปูไว้รองรับเต็นท์นอนของท่าน 16ตารางเมตร เงินส่วนเกิน ก็จะนำมารวมกันเพื่อซื้อท่อน้ำ พีอี ท่อประปาสีดำ ระยะประมาณ 1ก.ม. แผ่นสำเร็จปูพื้นที่ตั้ง สุขา ที่ตากผ้า เต็นท์หอประชุม(สวดมนต์)
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    เมื่อเสร็จจากการเกิดภัย ตุ่มน้ำพร้อมอุปกรณ์ แผ่นปูนสำเร็จ สุขาเคลื่อนที่ ท่านนำไปใช้ที่อื่นได้อีก
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    ท่านใดที่เข้ามาก่อน ถ้าผมตรวจสอบดูแล้วว่าไปกันได้ ผมก็จะรับไว้<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    จำนวนคนที่รับไว้(คนนอก) ขณะนี้อยู่ที่ 30 คน ผมขีดเอาไว้ ที่ 100คนก่อน

    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    คลื่นซ้ำ กรรมซัด พัดชาวบ้าน<O:p</O:p
    ซึนามิฟาด เข้าซ้ำ กรรมสนอง<O:p</O:p
    เกาะซามัว เป็นตัวอย่าง ให้เกรงกลัว<O:p</O:p
    ต้องละชั่ว ทำดี หนีความตาย
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    พูดซ้ำๆ ซากๆ ให้เข้าจิต<O:p</O:p
    ต้องเร่งคิด หาพื้นที่ หนีเพศภัย<O:p</O:p
    เข้าอาศัย ยามภัยมา ช้าไม่ได้<O:p</O:p
    กาลไม่ให้ เวลาหมด จบลงเอย<O:p</O:p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 กันยายน 2009
  10. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    อย่างที่มีครูบาอาจารย์ท่านเตือนว่าหลังออกพรรษาปีนี้ ภัยพิบัติจะรุนแรงขึ้น

    นี่ใกล้ออกพรรษาก็ปรากฏผลแรงพอสมควรครับ

    และแม้แต่คืนนี้ก็อย่าเพิ่งได้ประมาทครับ มีที่ท่านเตือนเรื่องน้ำของจริงมากลางคืออีก

    มีสติและเตรียมพร้อมเอาไว้
     
  11. tamm16

    tamm16 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2008
    โพสต์:
    218
    ค่าพลัง:
    +466
    รุนแรงมาก ภัยพิบัติมันเกิดขึ้นทั่วโลกจริงๆ ราวกับบอกอนาคตว่าอะไรกำลังจะเกิด ซึ่งผมก็ไม่แคลล์อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด
     
  12. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>แผ่นดินไหวอิเหนาตายแล้ว 75 คน บ้านเรือนพังยับนับร้อย</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>30 กันยายน 2552 20:56 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]
    ชาวอินโดนีเซียอพยพออกมาจากห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในเมืองเมดัง หลังจากเกิดแผ่นดินไหวบนเกาะสุมาตรา

    เอเอฟพี/เอเจนซี- เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ซึ่งวัดระดับความรุนแรงได้ 7.6 ริกเตอร์ บริเวณนอกชายฝั่งเกาะสุมาตราของอินโดนีเซียเมื่อวันนี้(30) ทำให้อาคารบ้านเรือนจำนวนมากได้รับความเสียหาย สะพานพังพินาศ และเกิดไฟไหม้หลายๆ จุด นอกจากนั้นศูนย์เตือนภัยสึนามิแห่งมหาสมุทรแปซิฟิก ได้ออกประกาศเตือนภัยการเกิดคลื่นยักษ์สึนามิบริเวณอินโดนีเซีย มาเลเซีย อินเดีย และไทย ก่อนจะยกเลิกในเวลาต่อมา

    แผ่นดินไหวขนาด 7.6 ริกเตอร์ครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 17.16 น. ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งตรงกับเวลาเดียวกันในไทย โดยจุดศูนย์กลางของแผ่นดินไหวอยู่ห่างจากเมืองปาดัง ในจังหวัดสุมาตราตะวันตก ไปทางตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ 78 กิโลเมตร และอยู่ลึกลงไป 85 กิโลเมตร โดยมีรายงานว่าอาคารบ้านเรือนจำนวนหลายร้อยหลังถล่มลงมาจากแรงสั่นสะเทือน รวมทั้งเกิดไฟไหม้ และสะพานพังถล่มในบางพื้นที่ ทั้งนี้แรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวครั้งนี้สามารถรู้สึกได้ไกลถึงกรุงจาการ์ตา สิงคโปร์ และมาเลเซีย

    หลังเกิดแผ่นดินไหว ทางศูนย์เตือนภัยสึนามิแห่งมหาสมุทรแปซิฟิกได้ออกประกาศเตือนการเกิดคลื่นสึนามิใน 4 ประเทศ คือ อินโดนีเซีย มาเลเซีย อินเดีย และไทย แต่ก็ได้มีการประกาศยกเลิกการเตือนภัยในเวลาต่อมา

    ขณะที่ทางการอินเดียไม่ได้ออกคำเตือนภัยคลื่นสึนามิแต่อย่างใด เนื่องจากไม่พบว่าจะเป็นอันตรายต่ออินเดีย ส่วนทางการมาเลเซียก็ไม่ได้ออกประกาศเตือนภัยสึนามิเช่นกัน แม้จะมีรายงานว่า บางรัฐแถบชายฝั่งตะวันตกของมาเลเซีย สามารถรับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวครั้งนี้ได้ ขณะที่ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประชาชนจำนวนหลายร้อยคนต่างพากันวิ่งออกมาจากอาคารสำนักงานเนื่องจากเกรงว่าจะได้รับอันตรายจากแผ่นดินไหว

    ด้าน ฮิวจ์ กอยเดอร์ ที่ปรึกษาสำนักงานยุทธศาสตร์ระหว่างประเทศเพื่อการลดผลกระทบจากภัยพิบัติ ซึ่งเป็นหน่วยงานในสังกัดขององค์การสหประชาชาติ และ แดนนี ฮิลแมน นาตาวิดจาจา ผู้เชี่ยวชาญด้านธรณีวิทยาจากสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งชาติของอินโดนีเซีย ออกมาเตือนว่ารัฐบาลอินโดนีเซียจำเป็นต้องตระหนักถึงความสำคัญของการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ เช่น ถนนและเส้นทาง

    สำหรับการอพยพในสถานการณ์ฉุกเฉินของเมืองปาดัง ที่มีประชากรอาศัยราว 900,000 คนให้ดีขึ้นกว่านี้ เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดหายนะครั้งใหญ่ เนื่องจากผลการศึกษาทางธรณีวิทยาพบว่าเมืองแห่งนี้ตั้งอยู่ในพื้นที่เสี่ยงที่จะได้รับอันตรายจากการเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ และมีแนวโน้มว่าพื้นที่บริเวณนี้อาจเกิดแผ่นดินไหวถึงระดับ 8.9 ริกเตอร์ได้ในอนาคต

    ที่มา http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9520000115185

    แผ่นดินไหวอินโดนีเซียยอดดับแล้ว 75 ราย

    [​IMG]

    อินโดนีเซีย 30 ก.ย. 52.-เหตุแผ่นดินไหวความรุนแรง 7.6 ริคเตอร์ นอกชายฝั่งเกาะสุมาตราประเทศอินโดนีเซีย เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 75 คนแล้ว

    รองประธานาธิบดียูซุฟ คัลลา ของอินโดนีเซีย เผยว่า ยอดผู้เสียชีวิตน่าจะเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่า เนื่องจากยังมีผู้คนติดอยู่ใต้ปรักหักพังของอาคารบ้านเรือน โรงแรม และโรงเรียนอีกหลายแห่งในเมืองปาดัง ใกล้ศูนย์กลางแผ่นดินไหว ที่พังถล่มลงมาเพราะแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวอีกหลายพันคน ขณะที่มีรายงานว่าแรงสั่นสะเทือนยังทำให้หลังคาอาคารผู้โดยสารของสนามบินเมืองปาดังพังถล่มด้วย ขณะที่ผู้คนต่างแตกตื่นวิ่งหนีตายมารวมตัวบนท้องถนน

    แรงสั่นสะเทือนยังรู้สึกได้ไกลถึงกรุงจาการ์ต้า ที่อยู่ห่างออกไป 940 กิโลเมตร รวมถึงในมาเลเซียและสิงคโปร์ก็รับรู้ได้ถึงแรงสั่นสะเทือนเช่นกัน มีการประกาศเตือนภัยสึนามิในอินโดนีเซีย มาเลเซีย อินเดียและไทย ก่อนยกเลิกในเวลาต่อมา. -สำนักข่าวไทย

    2009-09-30 23:27:49

    ที่มา http://news.mcot.net
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  13. โนอาร์

    โนอาร์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    86
    ค่าพลัง:
    +82
    ..เรื่องแผ่นดินไหวและเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นเหมือนราวกับปาฏิหาริย์ นั้น เหมือนเป็นสัญญาณเตือนให้มวลมนุษย์ทั่วโลกรับรู้ว่าจะเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้นแน่นอนในอนาคตอันใกล้ บางท่านอาจคิดว่าเป็นสาเหตุจาก ภาวะโลกร้อน บางท่านอาจคิดว่า เป็นเพราะคำทำนาย อะไรต่างๆนาๆ ผมคิดว่าขึ้นอยู่กับใครจะคิดอย่างไร ส่วนตัวผมเอง เตรียมตัวเตรียมใจแล้วครับ.....และผมเชื่อว่า ท่านทั้งหลายที่เข้ามาอ่านกระทู้เหล่านี้ เชื่อเหมือนที่ผมเชื่อ.... ผมขออวยพรให้ทุกท่านที่เข้ามาอ่าน....รอดพ้นจากภับพิบัติที่จะเกิดขึ้นทุกท่านนะครับ....ทุกคนเกิดมาบนโลกล้วนแต่มีกรรม...หมั่น..ทำทาน รักษาศีล และหมั่นภาวนา..นะครับ สุดท้ายเบื้องบนท่านอาจเห็นใจ..เรา
     
  14. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    เกิดแผ่นดินไหวรุนแรงระลอกใหม่ที่เกาะสุมาตรา

    [​IMG]

    จาการ์ตา 1 ต.ค.-หัวหน้าสำนักธรณีวิทยาและอุตุนิยมวิทยาอินโดนีเซีย รายงานว่า เกิดแผ่นดินไหวระลอกใหม่ขนาด 7 ริกเตอร์ บนเกาะสุมาตราของอินโดนีเซียวันนี้ มีจุดศูนย์กลางทางใต้ของจุดที่เกิดแผ่นดินไหวรุนแรงเมื่อวานที่คาดว่าจะทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 1,000 คน

    แผ่นดินไหวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 08.52 น.ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งเป็นเวลาเดียวกันในไทย ห่างจากจุดที่เกิดแผ่นดินไหวขนาด 7.6 ริกเตอร์ นอกชายฝั่งตะวันตกของเกาะสุมาตราเมื่อวานนี้ไปกว่า 150 กม. ด้านสำนักสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐ ระบุว่า แผ่นดินไหวมีขนาด 6.9 ริกเตอร์ และอยู่ห่างจากจุดศูนย์กลางที่เกิดแผ่นดินไหวรุนแรงกว่าเมื่อวานนี้ไปราว 280 กม.

    ขณะนี้ยังไม่มีรายงานความเสียหายในชีวิตและทรัพย์สินจากแผ่นดินไหวระลอกล่าสุดวันนี้ แต่เจ้าหน้าที่กำลังเร่งกู้ภัยที่เมืองปาดัง ในจังหวัดสุมาตราตะวันตก ซึ่งเป็นพื้นที่ได้รับความเสียหายหนักที่สุดจากแผ่นดินไหวเมื่อวานนี้ มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 200 คน และคาดว่าอีกหลายพันคนติดอยู่ภายใต้ซากอาคาร บ้านเรือนที่พังถล่มลงมา.- สำนักข่าวไทย

    2009-10-01 09:58:57

    เกิดเหตุแผ่นดินไหวที่รัฐแคลิฟอร์เนีย

    [​IMG]

    วอชิงตัน 1 ต.ค. - ศูนย์สำรวจธรณีวิทยาสหรัฐ รายงานว่า เกิดเหตุแผ่นดินไหวปานกลางขนาด 5.1 ริกเตอร์บริเวณพื้นที่ใจกลางรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐในเช้าวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่น

    เว็บไซต์ศูนย์สำรวจธรณีวิทยาสหรัฐระบุว่า แผ่นดินไหวครั้งนี้เกิดขึ้นในบริเวณที่ไม่ค่อยมีประชากรอาศัย ห่างไปทางใต้ในเขตคีเลอร์ของรัฐแคลิฟอร์เนียราว 12 กิโลเมตร และอยู่ห่างไปทางตะวันตกของนครลาสเวกัสในรัฐเนวาดาราว 237 กิโลเมตร แต่ยังไม่มีรายงานทรัพย์สินเสียหายหรือผู้บาดเจ็บ .-สำนักข่าวไทย

    2009-10-01 18:06:22

    มีผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวในอินโดฯ แล้วอย่างน้อย 200 คน

    [​IMG]

    อินโดนีเซีย 1 ต.ค. - ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในอินโดนีเซียเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 200 คนแล้ว

    นายปรียาดี คาร์โดโน โฆษกสำนักงานจัดการภัยพิบัติแห่งชาติอินโดนีเซีย แถลงว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว 7.6 ริกเตอร์ นอกชายฝั่งเมืองปาดัง บนเกาะสุมตรา เมื่อช่วงเย็นวานนี้ เพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 200 คนแล้ว และคาดว่าจำนวนผู้เสียชีวิตจะเพิ่มขึ้นอีกหลังจากที่ทางการได้ออกสำรวจพื้นที่บริเวณอื่นๆ ในจังหวัดสุมาตราตะวันตก

    นายคาร์โดโน ระบุด้วยว่า อาคารราว 500 หลัง ในเมืองปาดังพังเสียหาย ขณะที่ศูนย์รับมือวิกฤติของกระทรวงสาธารณสุขคาดว่าผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวในครั้งนี้อาจมีมากกว่า 1,000 คน.-สำนักข่าวไทย

    2009-10-01 09:44:18

    อินโดนีเซียอนุมัติ 26 ล้านดอลลาร์สหรัฐช่วยเหลือเหยื่อแผ่นดินไหว

    [​IMG]

    จาการ์ตา 1 ต.ค.–นางศรี มุลยานี อินทราวตี รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของอินโดนีเซียเปิดเผยว่า รัฐบาลอินโดนีเซียอนุมัติงบประมาณ 26 ล้านดอลลาร์สหรัฐ(ประมาณ 870 ล้านบาท) เพื่อช่วยเหลือเหยื่อแผ่นดินไหว ซึ่งคาดว่าจะทำให้มีผู้เสียชีวิตสูงถึงหลายพันคนบนหมู่เกาะสุมาตรา

    รัฐมนตรีกระทรวงการคลังกล่าวว่า การจัดสรรงบประมาณจำนวน 250,000 ล้านรูปี(ประมาณ 870 ล้านบาท) จะเพียงพอต่อการดำเนินการช่วยเหลือเป็นเวลา 2 เดือนในพื้นที่ประสบภัยแผ่นดินไหว ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวานนี้ และทำให้เกิดความเสียหายอย่างรุนแรงในเมืองปาดัง รวมถึงพื้นที่โดยรอบ นอกจากนี้ รัฐมนตรีกระทรวงการคลังยังได้กล่าวอีกว่า แผ่นดินไหวขนาด 7.6 ริกเตอร์นี้ มีแนวโน้มที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจภายในประเทศและงบประมาณของรัฐบาลอินโดนีเซีย

    เจ้าหน้าที่ยืนยันว่า มีประชาชนอย่างน้อย 529 คนเสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหว แต่คาดว่าตัวเลขดังกล่าวจะสูงขึ้นอีก เนื่องจากหลายพันคนยังติดอยู่ภายใต้ซากอาคารที่พังถล่มลงมา เจ้าหน้าที่กล่าวว่า กำลังประสบปัญหาขาดแคลนเครื่องมือขนาดใหญ่ที่ใช้ในการช่วยเหลือ แต่ความช่วยเหลือด้านอื่นๆ เช่น เต็นท์ ผ้าห่ม และยาถูกส่งไปยังพื้นที่ประสบภัยแล้ว.-สำนักข่าวไทย

    2009-10-01 17:21:29

    มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 118 คนจากสึนามิที่หมู่เกาะซามัว

    [​IMG]

    อาปีอา 1 ต.ค.-หายนะภัยจากคลื่นสึนามิที่หมู่เกาะซามัว ในมหาสมุทรแปซิฟิก ล่าสุดมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 118 คนแล้ว และอีกจำนวนมากที่สูญหาย

    นายเบ็ตตี อาห์ซูน โฆษกกระทรวงความมั่นคงมาตุภูมิของอเมริกัน ซามัว กล่าวว่า พบผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 5 คน ทำให้ล่าสุดมีผู้เสียชีวิตรวม 27 คน ส่วนที่ซามัวมีผู้เสียชีวิต 84 คน และที่ตองกา 7 คน นายเบ็ตตี้ เผยว่า การค้นหากู้ภัยยังคงดำเนินอยู่ และเชื่อว่าจะมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นมากเมื่อหน่วยกู้ภัยเดินทางไปถึงหมู่บ้านที่ได้รับความเสียหาย และร่างผู้เสียชีวิตถูกคลื่นพัดสู่ชายหาด .-สำนักข่าวไทย

    2009-10-01 07:54:28

    พายุกิสนาลดความรุนแรง แต่คร่าชีวิตประชาชนไปแล้วอย่างน้อย 325 คน

    [​IMG]

    ซีเอ็นเอ็น ออนไลน์ 1 ต.ค.-พายุกิสนา ลดระดับความรุนแรงจากไต้ฝุ่นมาเป็นดีเปรสชั่นแล้ว แต่ที่ผ่านมาได้คร่าชีวิตประชาชนไปแล้วอย่างน้อย 325 คนใน 3 ประเทศที่พายุพัดผ่าน โดยมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 246 คนที่ฟิลิปปินส์ 74 คนในเวียดนาม และอีก 9 คนในกัมพูชา

    อิทธิพลของลมพายุยังคงทำให้เกิดฝนตกหนักที่เวียดนาม ถนนสายสำคัญหลายสายถูกปิดและเกิดน้ำท่วม แต่ท่าอากาศยานที่เมืองดานัง ซึ่งปิดให้บริการมานาน 3 วัน ได้เปิดทำการได้แล้วตั้งแต่เมื่อวานนี้ รัฐบาลเวียดนาม กล่าวว่า นอกจากผู้เสียชีวิต 74 คนแล้ว ยังมีผู้บาดเจ็บ 179 คน แต่คาดว่าจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นอีกเนื่องจากยังไม่สามารถเข้าไปในหลายพื้นที่ที่ถูกตัดขาดจากโลกภายนอก

    ส่วนที่กัมพูชามีรายงานว่าพายุพัดทำลายบ้านเรือน 92 หลังในจังหวัดกัมปง ธม ห่างจากกรุงพนมเปญไปทางเหนือประมาณ 130 กิโลเมตร องค์การกาชาดกัมพูชาจะบริจาคเงินให้ครอบครัวละ 120 ดอลลาร์สหรัฐ เพื่อให้นำไปประกอบพิธีศพแก่ญาติมิตรที่เสียชีวิตจากพายุกิสนา ส่วนผู้เสียชีวิตที่มีรายงานว่า 9 คนอยู่ที่จังหวัดกัมปงธม และมีผู้บาดเจ็บ 40 คน

    ขณะที่ฟิลิปปินส์ซึ่งได้รับความเสียหายมากที่สุดจากพายุกิสนา ประชาชนเริ่มเก็บกวาดความเสียหายและโคลนที่เกิดจากพายุ ขณะเดียวกันก็กำลังติดตามพายุอีกลูกหนึ่งในมหาสมุทรแปซิฟิก รัฐบาลฟิลิปปินส์ เปิดทำเนียบประธานาธิบดีเป็นศูนย์ให้ความช่วยเหลือ ขณะที่ประชาชนบางส่วนมองว่ารัฐบาลไม่ได้ให้ความช่วยเหลืออย่างรวดเร็วเพียงพอ

    พายุกิสนาส่งผลกระทบต่อชีวิตชาวฟิลิปปินส์เกือบ 2 ล้านคน ประชาชนราว 567,000 คนต้องอพยพออกจากที่อยู่อาศัย พื้นที่ 80% ของกรุงมะนิลาจมอยู่ใต้น้ำหลังจากที่อิทธิพลของลมพายุทำให้เกิดฝนตกและน้ำท่วมหนักที่สุดในรอบ 40 ปี

    ทางด้าน นายบัน คี มูน เลขาธิการสหประชาชาติ กล่าวว่า ยูเอ็นพิจารณาให้ความช่วยเหลือฉุกเฉินแก่ผู้ประสบภัย โดยโครงการอาหารโลกของสหประชาชาติจะนำอาหารปันส่วนให้ประชาชน 180,000 คน.-สำนักข่าวไทย

    2009-10-01 08:13:44

    ยอดผู้เสียชีวิตจากไต้ฝุ่นกิสนาในเวียดนามเพิ่มเป็น 86 คน

    [​IMG]

    ฮานอย 1 ต.ค.- คณะกรรมการควบคุมพายุและน้ำท่วมแห่งชาติของเวียดนามรายงานว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากพายุไต้ฝุ่นกิสนาพัดกระหน่ำเวียดนามเพิ่มเป็น 86 คนแล้วในวันนี้

    รายงานระบุว่า ในจำนวนผู้เสียชีวิตดังกล่าว 24 คน เสียชีวิตในจังหวัดคอนตูม ทางตอนกลางของประเทศซึ่งรายล้อมไปด้วยภูเขา นอกจากนี้ ยังมีรายงานผู้สูญหาย 16 คน บาดเจ็บ 124 คน ในพื้นที่ทั่วทั้งตอนกลางของประเทศซึ่งถูกไต้ฝุ่นกิสนาพัดถล่ม

    เวียดนามได้รับความเสียหายทุกปีจากทั้งพายุโซนร้อนและพายุไต้ฝุ่น แต่ในปีนี้มีรายงานยอดผู้เสียชีวิตสูงกว่าที่เคยบันทึกไว้เมื่อปี 2549 ซึ่งเวียดนามถูกพายุโซนร้อนทุเรียนพัดถล่ม คร่าชีวิตผู้คนไปอย่างน้อย 70 คน ในพื้นที่ทางตอนใต้ของประเทศ และพายุไต้ฝุ่นช้างสาร ซึ่งได้สร้างความเสียหายให้กับพื้นที่ทางตอนกลางของประเทศ ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 70 คน

    ไต้ฝุ่นกิสนาพัดกระหน่ำเวียดนามเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา หลังจากสร้างความเสียหายอย่างหนักและคร่าชีวิตผู้คนไปถึง 277 คน ในฟิลิปปินส์. - สำนักข่าวไทย

    2009-10-01 11:17:05

    ไต้ฝุ่นป้าหม่าทวีกำลังเข้าใกล้ฟิลิปปินส์

    [​IMG]

    มะนิลา 1 ต.ค.- สำนักอุตุนิยมวิทยาฟิลิปปินส์ รายงานวันนี้ว่า พายุไต้ฝุ่นป้าหม่าทวีกำลังขึ้นขณะเคลื่อนตัวไปทางภาคตะวันออกของฟิลิปปินส์ และอาจพัฒนาเป็น “ซูเปอร์ไต้ฝุ่น” ทำให้เกิดฝนตกหนักในหลายพื้นที่ของประเทศที่กำลังประสบกับอุทกภัยครั้งใหญ่

    โฆษกสำนักอุตุนิยมวิทยา ระบุว่า ฟิลิปปินส์กำลังเผชิญกับไต้ฝุ่นที่มีกำลังแรงมาก และอาจทวีกำลังขึ้นเป็นซูเปอร์ไต้ฝุ่น ดังนั้น จึงต้องเตรียมความพร้อมรับมือไต้ฝุ่นลูกนี้ในระดับสูงสุด คาดว่าไต้ฝุ่นป้าหม่า จะเข้าพัดถล่มเกาะลูซอน ทางภาคเหนือของฟิลิปปินส์ช่วงบ่ายวันเสาร์นี้ แม้จะทำให้เกิดฝนตกไม่ถึงครึ่งหนึ่งของปริมาณฝนจากอิทธิพลของพายุกิสนา แต่พายุป้าหม่าน่าจะยิ่งซ้ำเติมสถานการณ์น้ำท่วมในกรุงมะนิลา ซึ่งหลายพื้นที่ทางตะวันออกยังคงจมอยู่ใต้น้ำ และทางการพยายามเก็บกวาดซากความเสียหายจากอุทกภัยที่เกิดขึ้น

    โฆษกสำนักอุตุนิยมวิทยา กล่าวว่า สถานการณ์ในวันเสาร์จะเข้าขั้นวิกฤติโดยเฉพาะในกรุงมะนิลา พร้อมแนะนำให้ประชาชนเฝ้าระวัง และให้อพยพออกจากบ้านเรือนทันทีหากได้รับคำสั่งจากเจ้าหน้าที่

    รัฐบาลฟิลิปปินส์ จำกัดความ ซูเปอร์ไต้ฝุ่น หมายถึงพายุที่มีความเร็วลมสูงสุดใกล้จุดศูนย์กลาง 175-200 กม./ชม. และอาจก่อให้เกิดความเสียหายรุนแรง ขณะที่ไต้ฝุ่นป้าหม่ามีความเร็วลมสูงสุดใกล้จุดศูนย์กลางแล้ว 185 กม./ชม. เพิ่มขึ้นจากการเฝ้าติดตามครั้งก่อนที่ 650 กม./ชม. ขณะเคลื่อนตัวอยู่ทางตะวันออกของเกาะซามาร์เมื่อเช้าตรู่วันนี้.-สำนักข่าวไทย

    2009-10-01 14:39:41

    มีผู้เสียชีวิต 36 คนจากเหตุเรือล่มทางตอนใต้ของอินเดีย

    [​IMG]

    นิวเดลี1ต.ค.-เจ้าหน้าที่ตำรวจของอินเดียเปิดเผยว่าเจ้าหน้าที่กู้ภัยพบร่างผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 5 ศพในตอนเช้าวันนี้ หลังเรือนักท่องเที่ยว 2 ชั้นพลิกคว่ำลงในอ่างเก็บน้ำทางตอนใต้ของอินเดีย ส่งผลให้ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 36 คนแล้ว ขณะที่กว่า 10 คนยังคงสูญหาย

    เรือบรรทุกนักท่องเที่ยวจำนวน 74 คน พลิกคว่ำเมื่อตอนเย็นของวานนี้ หลังจากนักท่องเที่ยวจำนวนมากรีบกรูไปยังฟากหนึ่งของเรือ เพื่อชมช้างในเขตอนุรักษ์สัตว์ป่า โดยหน่วยกู้ภัยได้นำร่างของผู้เสียชีวิตทั้ง 36 คนขึ้นมาจากอ่างเก็บน้ำในพื้นที่ป่าของเมืองในรัฐเกรละ และยังคงทำการค้นหาผู้สูญหายอีก 18 คนต่อไป

    รายงานระบุว่า นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มาจากรัฐกรณาฏกะซึ่งอยู่ติดกัน และไม่มีนักท่องเที่ยวคนใดเป็นชาวต่างชาติ ซึ่งหลังเกิดเหตุผู้รอดชีวิต 20 คน ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล ในจำนวนนั้น 11 คนได้รับบาดเจ็บแต่ไม่ร้ายแรงถึงชีวิต
    เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นห่างจากกรุงนิวเดลีไปทางตอนใต้ประมาณ 2,100 กม. โดยรัฐเกรละเป็นจุดท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงสำหรับชาวอินเดีย และชาวต่างชาติ อุบัติเหตุทางเรือเป็นอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งในอินเดีย ที่เรือส่วนมากไม่มีความปลอดภัยและมีการบรรทุกเกินน้ำหนัก -สำนักข่าวไทย

    2009-10-01 14:59:47

    ที่มา http://news.mcot.net
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  15. nondanun

    nondanun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    5,980
    กระทู้เรื่องเด่น:
    13
    ค่าพลัง:
    +32,611
    “ซูเปอร์ไต้ฝุ่น” จ่อถล่มฟิลิปปินส์ซ้ำ-ตายเกือบ 400 จากกิสนา <table width="100%" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td bgcolor="#cccccc" height="1">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td class="body" align="left" valign="baseline">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="baseline">1 ตุลาคม 2552 13:16 น.</td> </tr> </tbody></table> <table width="100%" border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table width="486" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td width="486" align="center" valign="Top"> [​IMG] </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">เด็กที่ประสบภัยจากพายุโซนร้อนกิสนา กำลังรอรับอาหารในค่ายพักพิงฉุกเฉิน</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> เอเอฟพี- พายุหมุนเขตร้อนกำลังเพิ่มกำลังเป็นไต้ฝุ่นจ่อถล่มฟิลิปปินส์ซ้ำอีกระลอก หลังจากชาวฟิลิปปินส์ยังไม่พ้นจากสภาพภัยพิบัติจากพายุกิสนา ที่ซัดกระหน่ำเข้ามาจนทำให้เกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 227 คน และหากรวมยอดผู้เสียชีวิตในเวียดนามและกัมพูชาด้วย ตัวเลขเกือบถึง 400 คนเลยทีเดียว

    กรมอุตุนิยมวิทยาฟิลิปปินส์ รายงานว่า เช้าวันนี้ (1) ล่าสุด ไต้ฝุ่นปาร์มา มีกำลังลมวัดได้ 185 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ก่อตัวอยู่ห่างจากเมืองบอรอน ทางตะวันออกของประเทศ ราว 650 กิโลเมตร และคาดว่า พายุลูกนี้อาจจะเพิ่มกำลังลมเป็น “ซูเปอร์ไต้ฝุ่น” ที่มีกำลังลมราว 175-200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งจะเข้ากระหน่ำพื้นที่ทางเหนือของฟิลิปินส์ในวันเสาร์ (3)

    โดยอิทธิพลจากไต้ฝุ่นลูกนี้จะทำให้เกิดฝนตกหนักอีกระลอกบนเกาะลูซอน ขณะที่หน่วยงานฉุกเฉินของฟิลิปปินส์ได้ประกาศเตรียมพร้อมรับมือกับพายุลูก นี้แล้ว

    เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา พายุโซนร้อยกิสนา ทำให้เกิดฝนตกหนักนาน 9 ชั่วโมงในกรุงมะนิลาและจังหวัดใกล้เคียง ทำให้เกิดน้ำท่วมสูงถึง 6 เมตรก่อนจะค่อยลดระดับลงไปแล้ว

    ล่าสุด ทางการฟิลิปปินส์ เผยว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 227 คนแล้ว ขณะที่มีผู้ประสบภัยอีกว่า 2.5 ล้านคน ทั้งนี้ พายุลูกเดียวกันนี้ ยังแผลงฤทธิ์ทั้งในเวียดนาม กัมพูชา และลาว อีกด้วย โดยที่เวียดนามมีผู้เสียชีวิต 92 คน กัมพูชา 14 คน ขณะที่ยังไม่มีรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตในประเทศลาว และพายุลูกนี้ก็ทำให้ประชาชนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นี้ได้รับผลกระทบรวม กันเกือบ 3 ล้านคนด้วย


    ยอดตายสึนามิถล่มซามัวพุ่งเป็นเกือบ 150 ราย <table width="100%" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td bgcolor="#cccccc" height="1">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td class="body" align="left" valign="baseline">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="baseline">1 ตุลาคม 2552 11:19 น.</td> </tr> </tbody></table> [​IMG]
    เอเอฟพี - คลื่นยักษ์สึนามิ ซึ่งเกิดจากแผ่นดินไหวรุนแรงขนาด 8.0 ริกเตอร์ บริเวณหมู่เกาะซามัวในแถบมหาสมุทรแปซิฟิก ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 148 ราย และสูญหายอีกจำนวนมาก เจ้าหน้าที่หลายคนบอกกับเอเอฟพีวานนี้ (30) ตามเวลาท้องถิ่น

    ทั้งนี้ หมู่เกาะซามัวซึ่งตั้งอยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิก ประกอบด้วย 2 ส่วน คือ ประเทศเอกราชซามัวและอเมริกันซามัว ซึ่งเป็นดินแดนของสหรัฐฯ

    ยอดผู้เสียชีวิตในประเทศซามัวเพิ่มเป็น 110 ราย ขณะที่เจ้าหน้าที่หลายคนในอเมริกันซามัวยืนยันพบผู้เสียชีวิต 31 ราย

    ส่วนเหยื่ออีก 7 ราย เสียชีวิตขณะที่คลื่นสึนามิพัดถล่มประเทศตองกา ซึ่งอยู่ห่างจากซามัวราว 1,000 กิโลเมตร

    “จนถึงตอนนี้มีผู้เสียชีวิต 110 รายในซามัว” เจ้าหน้าที่รัฐบาลผู้หนึ่งบอกกับเอเอฟพี โดยขอไม่เปิดเผยชื่อ

    “ตอนนี้เรากำลังปฏิบัติภารกิจค้นหาและกู้ชีพในเวลาเดียวกัน และเรากำลังเก็บกู้ศพเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายที่ติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังหรือ ถูกซัดออกไปกลางทะเล” เจ้าหน้าที่คนเดิมกล่าว “เราจะแถลงยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดอย่างเป็นทางการภายในวันนี้”

    ภาพหายนะ “ธรณีพิโรธอิเหนา” - ยอดตายพุ่ง 529 ศพแล้ว <table width="100%" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td bgcolor="#cccccc" height="1">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td class="body" align="left" valign="baseline">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="baseline">1 ตุลาคม 2552 13:56 น.</td> </tr> </tbody></table> <table width="2" border="0" cellpadding="4" cellspacing="0" height="5"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle">
    </td></tr></tbody></table>[​IMG] [​IMG]

    เอ เอฟพี/เอเจนซี - เจ้าหน้าที่อินโดนีเซียกำลังค้นหาผู้รอดชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหว 7.6 ริกเตอร์ บนเกาะสุมาตรา ซึ่งรุนแรงมากจนรู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนไกลออกไปถึงกรุงจาการ์ตา ประเทศมาเลเซีย และสิงคโปร์ ขณะที่ยืนยันแล้วว่า มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 529 คนแล้ว และคาดว่ายอดผู้เคราะห์รายจะเพิ่มสูงขึ้น 1,000 คน หลังจากประชาชนจำนวนมากยังติดอยู่ใต้ซากอาคารที่ถล่มลงมา

    เกิดแผ่นดินไหวขนาด 7.6 ริกเตอร์ เมื่อเวลา 17.16 น.เมื่อวานนี้ (30) ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งตรงกับเวลาในไทย มีศูนย์กลางห่างจากเมืองปาดัง ไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ 53 กิโลเมตร ลึกลงไปใต้ทะเล 87 กิโลเมตร แรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวได้ทำให้อาคารขนาดใหญ่หลายแห่ง ในจำนวนนั้นรวมไปถึงโรงพยาบาล โรงแรมต่างๆ และอาคารบ้านเรือนถล่มลงมา และเกิดไฟไหม้หลายๆ จุด ในเมืองปาดัง ซึ่งมีประชากรอาศัยอยู่เกือบ 1 ล้านคน ขณะที่ระบบคมนาคมและไฟฟ้าถูกตัดขาดหลายชั่วโมง

    ล่าสุด เจ้าหน้าที่ด้านข้อมูลของกระทรวงกิจการสังคมอินโดนีเซีย เผยว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 529 คน บาดเจ็บ 105 คน ในพื้นที่ 6 เขตของจังหวัดสุมาตราตะวันตก ขณะที่ รัสตาม ฟากายา ผู้อำนวยการศูนย์วิกฤตของกระทรวงสาธารณสุขคาดการณ์ ว่า จะมีผู้เสียชีวิตถึง 1,000 คน โดยขณะนี้ เจ้าหน้าที่กู้ภัยจากกองทัพกละกระทรวงสาธารณสุขได้ลงไปพื้นที่ประสบหายนะ เพื่อค้นหาผู้รอดชีวิต ซึ่งเต็มไปด้วยความยากลำบาก เจ้าหน้าที่ต้องคลานเข้าไปใต้ซากอาคารถล่ม ขณะที่ฝนตกโปรยปรายลงมาด้วย

    ด้านโฆษกกองทัพ เผยว่า เครื่องบินกำลังขนผ้าห่มและเต็นท์ไปให้แก่ผู้ประสบภัยที่ต้องพลัดถิ่นฐานนับ พันคนแล้ว ขณะที่ประธานาธิบดี ซุซิโล บัมบัง ยุโธโยโน เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่รัฐระดมให้ความช่วยเหลือประชนอย่างเร่งด่วนและเต็ม ความสามารถ

    สำหรับความช่วยเหลือจากต่างชาติ ออกซแฟม องค์การการกุศลที่มีฐานในอังกฤษ ได้มอบเวชภัณฑ์และสิ่งบรรเทาทุกข์มูลค่า 320,000 ดอลลาร์ให้ ขณะที่องค์กรเวิลด์วิชั่น ซึ่งได้ส่งคนไปช่วยกู้ภัยแล้ว ประกาศว่าจะมอบเงินให้ด้วย 1 ล้านดอลลาร์


    แผ่นดินไหว 5.1 ริกเตอร์รัฐแคลิฟอร์เนีย ไม่พบความเสียหาย-ผู้บาดเจ็บ <table width="100%" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td bgcolor="#cccccc" height="1">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td class="body" align="left" valign="baseline">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="baseline">1 ตุลาคม 2552 18:41 น.</td> </tr> </tbody></table> <table width="100%" border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table><table width="100%" border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td class="body" align="center" valign="top"> <table width="100%" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> ศูนย์สำรวจธรณีวิทยาสหรัฐฯ รายงานว่า เกิดเหตุแผ่นดินไหวปานกลางขนาด 5.1 ริกเตอร์บริเวณพื้นที่ใจกลางรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐฯ ในเช้าวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่น
    เว็บไซต์ศูนย์สำรวจธรณีวิทยาสหรัฐฯ ระบุว่า แผ่นดินไหวครั้งนี้เกิดขึ้นในบริเวณที่ไม่ค่อยมีประชากรอาศัย ห่างไปทางใต้ในเขตคีเลอร์ของรัฐแคลิฟอร์เนีย ราว 12 กิโลเมตร และอยู่ห่างไปทางตะวันตกของนครลาสเวกัสในรัฐเนวาดา ราว 237 กิโลเมตร แต่ยังไม่มีรายงานทรัพย์สินเสียหายหรือผู้บาดเจ็บ

    </td> </tr> </tbody></table> </td> </tr> </tbody></table> [​IMG]ที่มา Manager Online

    เรื่องลึกลับในโลก โดยมากก็มักเป็นเรื่องลึกลับกันมานาน อาจจะนับได้เป็นพันปี หรือ ร้อยปี หรือสิบปี หากถึงกระนั้น ณ วันนี้เรื่องราวเหล่านั้นก็ยังคงลึกลับอยู่ เพราะคนที่จะไขได้ย่อมต้องเป็นผู้รู้จริง แตกฉานในศาสตร์นั้น ๆ เรื่องราวนั้น ๆ จริง

    และเมื่อรู้จริงก็มักไม่ยอมพูดเสียด้วย

    เรื่อง ของสิ่งมีชีวิตในอีกมิติหนึ่งซึ่งยากที่คนทั่วไปจะรู้ตาม เป็นสิ่งอันยากต่อการพิสูจน์ ด้วยเพียงปรารภขึ้นว่า ‘อีกมิติหนึ่ง’ คนทั้งหลายก็ล้วนตั้งป้อมรอท่าไว้ก่อนแล้วว่ากำลังจะได้รับฟัง ‘นิยาย’

    ทว่า นิยายนี้ พระพุทธเจ้าศาสดาองค์เอกของโลกก็ทรงรับรองถึงความมีอยู่จริง ในอีกมิติหนึ่งที่เราเข้าไปไม่ถึงและมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า ปรากฏสิ่งมีชีวิตซึ่งมีรูปกายอันประณีต ละเอียดเล็กจนตาเนื้อไม่อาจเล็งแลได้ดุจเดียวกับ ‘เชื้อจุลินทรีย์’ เชื้อจุลินทรีย์ก็ดี เชื้อไวรัสก็ดี เชื้อบักเตรีก็ดี ชีวิตเล็ก ๆ
    เหล่านี้นักวิทยาศาสตร์และผู้คนทั่วโลกล้วนยอมรับว่ามีอยู่จริงและมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า ต้องใช้เครื่องมือที่ควรกันเพื่อมอง

    กล้องจุลทรรศน์จึงถือกำเนิดขึ้น

    เช่น เดียวกัน เมื่อเราอยากเห็น ‘สิ่งมีชีวิต’ ที่อยู่ต่างภพภูมิก็จำเป็นต้องปรับจูนตาของเราให้มีประสิทธิภาพดีพอเยี่ยง กล้องจุลทรรศน์ เพื่อให้เห็นในสิ่งที่อยากเห็น แต่มิใช่ที่ตานอก หากเป็น ‘ตาใน’ ตาในที่แจ่มใสด้วยอำนาจฌาน-ญาณ ของสมเด็จพระบรมศาสดาและพระอรหันตสาวก รวมไปถึงผู้ออกเดินในเส้นทางแห่งภาวนาทั้งหลาย
    สายตาย่อมแจ่มชัดกว่าปุถุชนผู้หนากิเลสทั่วไป

    ย่อม เห็นในสิ่งที่คนทั้งหลายไม่อาจเห็น และแม้จะพูดว่าได้เห็นอะไร ความหนาในใจก็ยังปิดกั้นให้นั่งรับฟังได้แต่ไม่ยอมเชื่อถือ คนจึงไม่กลัวบาป เพราะไม่เชื่ออย่างถึงใจว่านรกมี อสุรกายมี เปรตมี คนจึงไม่ทำบุญ เพราะไม่เชื่ออย่างถึงใจว่าสวรรค์มี พรหมโลกมี และไม่ปฏิบัติธรรมภาวนา เพราะไม่เชื่ออย่างถึงใจว่า พระนิพพานมี
    ดินแดนแห่งบรมสุขมีอยู่จริง

    เหตุนี้พระพุทธองค์จึงทรง ‘ห้ามพูด’
    ห้าม....แม้ว่าจะได้เห็นจริง

    ดัง นั้น ปริศนาของสิ่งลี้ลับในโลกเร้นลับ จึงยังคงครองความลี้ลับต่อไปได้อย่างสง่าผ่าเผย คนผู้พยายามไขหรือชี้แจงจึงมักเป็นเพียง ‘ตัวตลก’ ในสายตาของคนทั้งโลก

    แต่ไม่เชื่อ ก็ใช่ว่าจะทำให้สิ่งนั้นไม่มี

    หลวงพ่อกัสสปมุนี วัดปิปผลิวนาราม ต.หนองบัว อ.บ้านค่าย จ.ระยอง จึงให้ศิษย์ติดป้ายปริศนาอันหนึ่งไว้ในวัดข้างแท้งค์น้ำว่า

    ‘สิ่งไม่มี ไม่มีในโลก’

    กัสสปมุนีภิกขุ

    พญา นาค เป็นอีกหนึ่งสัตว์โลกที่อาศัยอยู่ด้วยบุญ บาป เช่นเดียวกับเรา เป็นผู้อยู่ในอีกมิติหนึ่งอันใกล้ชิดกับมนุษย์อย่างยิ่ง จนบางคราวก็ได้ปรากฏออกมาให้พบเจอกันซึ่งก็มีทั้งโดยเจตนาและโดยบังเอิญ

    พญา นาค มีด้วยกันหลายตระกูล ถือกำเนิดด้วย ‘อุเบกขาสันตีรณกุศลวิบาก’ คือบุญที่มีบาปพัวพัน หลวงปู่ชอบ ฐานสโม วัดป่าสัมมานุสรณ์ อ.วังสะพุง จ.เลย เคยปรารภว่า ใครที่อยากเกิดเป็นนาคต้องอธิษฐานเอานะ ทำบุญแล้วอธิษฐานจิตให้มั่นคง แต่หากทำบุญภาวนาอย่างเดียวก็ไม่ได้เกิดเป็นนาคอีก ได้เป็นเทวดาไปเสียเมื่อตาย คนที่ได้เกิดเป็นนาคนั้น
    มักเป็นผู้บุญก็ทำบาปก็ทำและมีความยินดีในภพของนาค เมื่อตายลงไปบุพกรรมนั้นก็ชักนำให้ได้เป็นเกิดเป็นนาค

    นาค บางพวกมีฤทธิ์น้อย เหล่านี้จึงตกเป็นอาหารของ ‘ครุฑ’ นาคบางพวกมีฤทธิ์มาก ครุฑจับกินไม่ได้ ซ้ำดีร้ายก็ยังต้องหนีเพราะนาคมีพิษที่ร้อนแรงยิ่งกว่าเพลิงกาฬ เมื่อครั้งที่ท่านพระอาจารย์ใหญ่มั่น ภูริทัตโต นำคณะพระกรรมฐานหลายรูปเที่ยววิเวกอยู่ในป่าลึก ครั้นถึงบึงน้ำใหญ่ในป่าแห่งหนึ่งก็ดำริกันว่าจะพักกลดภาวนากัน ณ สถานที่นี้

    พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต
    แต่ท่านพระอาจารย์มั่นนั้น ทราบล่วงหน้าแล้ว เห็นล่วงหน้าแล้วแต่ไกล ถึงสิ่งลี้ลับที่อาศัยอยู่ในบึงแห่งนี้ นั่นคือ ‘พญานาค’ ซึ่งมีอยู่ด้วยกัน 3 ตน นาคทั้งสามเมื่อเห็นคณะพระธุดงค์เดินทางเข้ามาใกล้ ก็ให้อัศจรรย์กับรัศมีที่รุ่งเรืองแผ่ซ่านออกมาด้วยบุญบารมี นาคทั้งสามจึงเกิดความคิดอยากทดลองกำลังบุรุษผู้มีบุญเหล่านี้ จึงพากัน ‘คาย’
    พิษที่รุนแรงยิ่งลงในน้ำ จากนั้นก็พากันหลีกหนีไปซุ่มดู

    ท่าน อาจารย์ใหญ่แม้เห็นดังนั้นแล้วก็นิ่งเฉยเสีย จนเดินทางมาถึงบึงน้ำจึงมีคำสั่งแก่หมู่คณะว่าห้ามตักน้ำในบึงมาใช้สอยดื่ม กินเป็นอันขาด แล้วหันไปทางพระน้อยรูปหนึ่งสั่งความ ปรากฏว่าพระน้อยรูปนั้นก็ทราบมาแต่ไกลแล้วเช่นเดียวกับท่านอาจารย์ใหญ่ จึงรับบัญชาอาสาไป ‘ทรมาน’ นาคมิจฉาทิฏฐิเหล่านั้นให้คลายพยศลดมานะ

    และ ท่านก็ทำสำเร็จได้ในเวลาไม่นานนัก ท่านพระอาจารย์ใหญ่จึงออกปากชมเชยถึงอำนาจจิตและคุณธรรมในพระน้อยองค์นี้ เป็นที่ยิ่ง ไม่อาจทราบได้ว่าพระหนุ่มรูปนั้น ‘ปราบ’ พญานาคทั้งสามด้วยวิธีใดจนเขามายอมรับนับถือพระรัตนไตรและยอม ‘ถอน’ พิษที่รุนแรงนั้นออกจากน้ำ แต่ทราบแน่นอนว่าพระน้อยรูปนั้นชื่อ....

    พระอาจารย์ชอบ ฐานสโม

    จึง เห็นได้ว่าพิษนาคนั้นมีอานุภาพมาก แม้คายลงไปผสมปนเปกับน้ำปริมาณมหาศาลก็ยังไม่อาจเจือจางได้ หากคณะท่านพระอาจารย์มั่นไม่สูงส่งด้วยอำนาจญาณ ก็อาจต้องถึงแก่มรณภาพด้วยพิษนั้น และใครจะรู้ได้เล่าว่าพระธุดงค์ก็ดี ชาวบ้านก็ดี ที่ต้องถึงแก่ชิวิตด้วยการดื่มน้ำจากแหล่งน้ำธรรมชาติบางแห่งจะไม่ได้ตาย เพราะพิษนาค !

    เพราะความที่อยู่บนพื้นฐานของความไม่เชื่ออย่างสุด โต่งนี้เอง จึงสันนิษฐานทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าเป็นเรื่องของความบังเอิญบ้าง เป็นเหตุสุดวิสัยบ้าง เป็นโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ บ้าง แม้ครูบาอาจารย์จะกล่าวเตือนหรือท้วงติงอย่างไร ก็ไม่สามารถเปลี่ยนใจคนมีทิฏฐิมานะสูงเหล่านั้นได้

    จนกว่าจะได้รับผลของการกระทำ

    ปัจจุบัน คนทั่วโลกตื่นตัวกันมากและโจษจันไปทั่วกับสิ่งที่เรียกว่า ‘ภาวะโลกร้อน’ โลกร้อนขึ้น ทำให้ฝนตกหนักและตกผิดฤดู ทำให้หิมะละลาย ทำให้น้ำท่วม ทำให้แผ่นดินไหว เกิดภัยพิบัติต่าง ๆ จากธรรมชาติขึ้นไม่เว้นวัน คนที่เชี่ยวชาญในวิทยาศาสตร์ก็ออกมาอธิบายแบบวิทยาศาสตร์ คนที่เชี่ยวชาญในภูมิศาสตร์ก็ออกมาอธิบายแบบภูมิศาสตร์
    แต่วันนี้จะขออธิบายแบบที่ผู้คนชอบเรียกกันว่า ‘ไสยศาสตร์’ แม้จะไม่ได้เชี่ยวชาญก็เถิด

    เป็น ที่รู้กันในกลุ่มคนที่ศึกษาพระพุทธศาสนาแบบทั่วไปและคนที่ศึกษาในระบบ เทววิทยา ว่าเทวดาผู้ควบคุมฝนคือ พระพิรุณ และยังมีอีกพวกหนึ่งคือ นาค

    อัน ฝนตกนั้นแน่นอนว่าเป็นเรื่องของธรรมชาติ หาใช่การดลบันดาลจากใครไม่ แต่เชื่อไหมว่าแม้กระนั้นก็ยังมีผู้ที่คอยควบคุมอยู่เบื้องหลังอีกชั้นหนึ่ง การตกแบบธรรมชาติเขาก็ปล่อยให้ตกไป แต่บางคราวการตกแบบไม่ธรรมชาติ เขาก็ต้องทำ เช่น เมื่อมีการบวงสรวงร้องขอ เมื่อมีการประกอบพุทธาภิเษกสำคัญ ๆ
    ซึ่งอันนี้จะทำให้โปรยปรายเป็นฝอย ละเอียดเพื่อเป็นศุภนิมิตถึงความชุ่มเย็น หรือตกหนักก่อนหน้าเพื่อ ‘ชะล้าง’ สิ่งสกปรกดังเช่นเมื่อตอนหลวงปู่ดู่จะปลุกเสกเหรียญเปิดโลก เป็นต้น

    ดังนั้นเรื่องลม ฝน แผ่นดิน นอกจากจะจัดว่าเป็นสิ่งอันธรรมชาติรังสรรค์แล้วก็ยังแน่นอนได้ว่ามีผู้ สามารถบังคับได้ทำงานอยู่อย่างที่เราไม่รู้ไม่เห็น

    บอกแล้วว่าไม่รู้ไม่เห็น ไม่ได้แปลว่าไม่มี

    ย้อน ไปในปี พ.ศ. 2472 ยังมีพระมหาเถระผู้ทรงธรรมอันเลิศอยู่ด้วยกันหลายองค์ แต่ละรูปละองค์ก็ล้วนตั้งมั่นอยู่ในพระธรรมวินัยเป็นอันดี อีกทั้งยังเปี่ยมด้วยอำนาจฌาน-ญาณซึ่งเกิดจากการฝึกฝนจิตอย่างชนิดที่เรียก ว่า “ไม่ตายก็ให้มันดี ไม่ดีก็ให้มันตาย”

    พระมหาเถระดังกล่าวจึงนิยม ในความสงบไม่พลุกพล่านวุ่นวาย ดังนั้น ภายใต้การนำของ พระเดชพระคุณท่านเจ้าคุณอุบาลีคุณูปมาจารย์ (จันทร์ สิริจันโท) พระอริยเจ้าแห่งวัดบรมนิวาส พระนคร กับท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต แม่ทัพธรรม จึงนำพระภิกษุสามเณรจาริกไปยังเมืองเชียงใหม่ และได้พักจำพรรษาอยู่ ณ วัดเจดีย์หลวง ในปี พ.ศ. 2472 นั้นเอง

    พระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (จันทร์ สิริจันโท)

    ปี นั้นได้เกิดภัยแล้งแก่เมืองเชียงใหม่อย่างน่าเวทนาเป็นที่สุด ทั้งชาวไร่และชาวนาต่างได้รับความทุกข์เดือดร้อนอย่างสาหัส เพราะฝนไม่ตกเอาเสียเลยทั้งที่เข้าพรรษามานานแล้ว ทุกวันมีแต่แสงแดดแผดจ้าจนไม้ใหญ่ก็ล้มตายไม้เล็กก็ไม่ได้เกิด หนำซ้ำพืชผลที่พอได้ใช้อยู่ใช้กินก็พลอยตายกันหมดสิ้นมิพักต้องพูดถึงพืช เศรษฐกิจใด ๆ

    ความทุกข์นี้ครอบงำไปทั่วนครเชียงใหม่ไม่เว้นแม้โดยรอบ ปริมณฑลอำเภอต่าง ๆ เสียงพร่ำบ่นถึงความทุกข์มีให้ได้ยินกันทุกวันจนแทบกลายเป็นคำทักทาย ในที่สุดเสียงทุกข์คร่ำครวญก็ดังเข้าสู่วัดเจดีย์หลวง

    พระอาจารย์แหวน สุจิณโณ
    วันหนึ่งในตอนบ่าย ท่านเจ้าคุณอุบาลี ฯ ได้ออกจากกุฏิมาเรียกพระอาจารย์แหวน สุจิณโณ ว่า

    “แหวน ๆ มานี่หน่อย”

    เมื่อพระอาจารย์แหวนเข้าไปหาแล้วกราบลงเป็นที่เรียบร้อย ท่านเจ้าคุณอุบาลี ฯ ก็สั่งความว่า

    “วันนี้ทำทางจงกรมให้หน่อยนะ ฝนแล้งเหลือเกิน จะเสก อิ ติ ปิ โส สักเจ็ดวัน เอาให้ฝนตกท่วมเมืองเชียงใหม่เลย...!!”

    ครั้นพระ อาจารย์แหวนกราบลาออกมาแล้วก็ไปเรียกสามเณรมาให้ช่วยดายหญ้าปรับพื้นที่ให้ นูนสูงเป็นทางเดินยาวประมาณ 30 ก้าวเดิน เกลี่ยและปรับหน้าดินข้างบนให้เรียบเนียน เสร็จแล้วก็ไปกราบเรียนให้ท่านทราบ

    และในเย็นวันนั้น เมื่อท่านเจ้าคุณอุบาลี ฯ สรงน้ำเรียบร้อยแล้วก็เป็นหัวหน้านำหมู่คณะไหว้พระสวดมนต์เจริญภาวนา ครั้นเสร็จธุระจากหมู่ ท่านก็เดินตรงไปยังทางจงกรมที่พระอาจารย์แหวนรับบัญชาไปทำไว้

    จาก นั้นท่านก็ขึ้นทางจงกรมพนมมือภาวนารำลึกถึงคุณพระรัตนตรัย เมื่อออกก้าวเดินท่านเจ้าคุณอุบาลี ฯ ก็หาได้กำหนดลมหายใจเข้าออกพร้อมบริกรรมพุทโธแต่อย่างใดไม่ หากท่านสวดสรรเสริญคุณพระรัตนตรัย คือ อิติปิโส ฯลฯ จนจบ แล้วต่อด้วย สวากขาโต ฯลฯ แล้วต่อด้วย สุปฏิปันโน ฯลฯ อันเป็นบทสวดมนต์ธรรมดาที่เราสวดกันอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน

    แต่เมื่อจบบทพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ แล้วท่านได้สวดต่อว่า...

    “อากาสัฏฐา จะ ภุมมัฏฐา เทวา นาคา มหิทธิกา ปุญญัง โน อนุโมทันตุ รักขันตุ โน สะทา” แล้วท่านก็ตั้งสัจจาธิษฐานด้วยเสียงอันดังว่า

    “ขอ ให้มหาเมฆอันใหญ่ จงตั้งขึ้นในทิศปัจจิม ข้ามศีรษะของข้าพเจ้าไปยังทิศอุดร แล้วยังฝนให้ตกลงมายังพื้นปฐพีอันแห้งแล้งนี้ เพื่อบรรดาสัตว์น้อยใหญ่ทั้งหลายผู้อาศัยอยู่ในปฐพี จะได้ดื่มกิน เพื่อยังพืชพันธุ์ธัญญาหารและมูลผลาหารทั้งหลายให้สมบูรณ์บริบูรณ์ในพื้น ปฐพี เพื่ออนุเคราะห์สัตว์ทั้งหลายผู้อาศัยอยู่ในน้ำ
    มีน้ำแห้งกำลังจะตายให้รอดพ้นจากความตาย.....”

    จาก นั้นท่านก็สวดสรรเสริญคุณพระรัตนตรัยขึ้นใหม่อีกรอบหนึ่งแล้วสวด “อากาสัฏฐา....” จนจบต่อด้วยการตั้งสัจจาธิษฐานด้วยบุญญาบารมีของท่าน เป็นแต่เปลี่ยนทิศเรื่อยไปจนครบทิศทั้งสี่

    ท่านเจ้าคุณอุบาลี ฯ เดินจงกรมและบริกรรมอย่างนี้ไปล่วงได้แล้ว 5 วัน พอย่างเข้าสู่วันที่ 6 ขณะที่องค์ท่านกำลังเดินจงกรมภาวนาอยู่ ตอนนั้นเป็นเวลาประมาณ 18.00 น. เศษ ได้บังเกิดอัศจรรย์มีเสียงดังสะท้านสะเทือนเลื่อนลั่นมาจากทุกทิศทุกทาง มีลมพัดกรรโชกมาอย่างรุนแรงหอบเอาใบไม้แห้งและฝุ่นคลีปลิวคลุ้งทั่วไปใน อากาศ
    บนท้องฟ้าปรากฏหมู่เมฆพยับปกคลุมให้อากาศมืดครึ้มลงอย่างรวดเร็ว เมฆดำทะมึนกระจายตัวล้อมไปทั่วบริเวณ เสียงฟ้าผ่าฟ้าร้องดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่วกระทั่งแผ่นดินสะเทือน แสงฟ้าแล่บแปลบปลาบปรากฏอยู่ไม่ขาดระยะจนสว่างไปทั่วนครเชียงใหม่

    แล้ว ฝนก็เริ่มสาดเม็ดโปรยปรายลงสู่แผ่นดินอย่างรุนแรงชนิดที่เรียกว่าใบไม้โงหัว ไม่ขึ้น เสียงของสายฝนที่ตกกระหน่ำในวันนั้นหลวงปู่แหวนเล่าว่าดังราวกับรถไฟโบกี้ ยาวที่วิ่งไปตามรางด้วยความรวดเร็ว

    ฝนได้ตกหนักอย่างนี้อยู่ตลอดเวลามิได้หยุดเลยนับตั้งแต่เวลาหกโมงเย็นเศษของวันวาน จวบจนรุ่งเช้าจึงค่อย ๆ ซาลงและขาดเม็ด

    ปรากฏ ว่าน้ำฝนจากภูสูงที่อยู่ล้อมเป็นปราการทั่วเมืองเชียงใหม่ได้ไหลหลั่งลงมา จากทุกทิศทุกทางท่วมตัวเมืองเชียงใหม่จนหมด เฉพาะภายในวัดเจดีย์หลวงเองน้ำทะลักท่วมสูงเกือบถึงโคนขา ทำให้พระภิกษุสามเณรออกบิณฑบาตไม่ได้ ศรัทธาญาติโยมต้องลุยน้ำหาบ-เทิน นำภัตตาหารเข้ามาส่งถึงภายในวัด

    และในวันเดียวกันนี้ ท่านพระอาจารย์ใหญ่มั่น ภูริทัตโต ผู้ซึ่ง ‘เฝ้าดู’ อาจารย์ของท่านกระทำอริยวิธีเพื่อสงเคราะห์สัตว์โลกอยู่ตั้งแต่หกวันก่อน แล้ว ก็ได้พูดกับท่านเจ้าคุณอุบาลี ฯ ผู้เป็นอาจารย์ว่า...

    “เมื่อ คืนนี้กระผมนั่งภาวนาอยู่ภายในกุฏิ กระผมกำหนดดูไปทางบริเวณดอยสุเทพก็ดี บริเวณดอยบวกห้าก็ดี เห็นมีพญานาคจำนวนล้านจำนวนโกฏิมิใช่จำนวนแสนจำนวนหมื่น พากันพ่นน้ำอยู่เต็มดอยทั้งสองจนหาที่ว่างไม่ได้อย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน...”

    นี่คือความอัศจรรย์ !!

    อัศจรรย์ ใจจากพระมหาเถระนาม พระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (จันทร์ สิริจันโท) ผู้ทรงอรรถทรงธรรมและทรงคุณวิเศษอย่างยากจะหาผู้ใดเทียบได้ ท่านแตกฉานทั้งปริยัติและปฏิบัติมิได้หนักเอาเพียงข้างใดข้างหนึ่งจนเอียง ทรงไว้ซึ่งภูมิรู้โดยที่ไม่ต้องอวดแต่สามารถนำออกเมื่อถึงคราวอันควร

    อัศจรรย์ ใจกับบุญบารมีขององค์ท่านที่ไม่ต้องใช้เวทย์มนต์คาถาใด ๆ เสกเป่า ไม่ต้องตั้งขันครูหัวหมูบายศรี หรือ ประกอบพิธีแห่นางแมว หากท่านสวดสรรเสริญคุณพระรัตนตรัยแล้วอ้างเอาบุญบารมีขององค์ท่านเองเป็นที่ ตั้ง ดังความว่า...

    “อากาสัฏฐา จะ ภุมมัฏฐา เทวา นาคา มหิทธิกา ปุญญัง โน อนุโมทันตุ รักขันตุ โน สะทา”

    หมาย ความว่า ข้าแต่ภุมมเทวดา แล อากาศเทวดา ทั้งหลาย เทพ แล หมู่นาค ผู้ทรงมหาอิทธิฤทธิ์ ขอจงได้พากันอนุโมนาซึ่งบุญที่ข้าพเจ้าทั้งหลายได้กระทำ แล้วจงช่วยกันพิทักษ์รักษาพวกข้าพเจ้าด้วย...

    ดังนั้น หมู่เทพและนาคที่แห่แหนกันมาดลบันดาลเมฆ ลม และฝน ให้ตกอย่างหนักนั้น จึงมิได้มาด้วยถูกบังคับจากเวทย์มนต์คาถา มิได้มาเพราะต้องการเครื่องเซ่นสรวงบูชา หากมาเพราะประสงค์จะ ‘อนุโมทนา’ ซึ่งบุญของพระอริยเจ้าเหล่านั้น และเพื่อ ‘บูชา’ ซึ่งพระอริยเจ้าเช่นท่านเจ้าคุณอุบาลี ฯ ก็เมื่อ ‘พระอรหันต์’ ร้องขอ
    มีหรือทวยเทพจะไม่ยินดียิ่งต่อการทำถวายเพราะหวังบุณย์อันไพบูลย์

    นี่ คือเหตุการณ์หนึ่งที่อาจพิสูจน์ได้ด้วยตาและด้วยใจของคนผู้ร่วมเหตุการณ์ หรือมีความศรัทธาเป็นฐานอยู่แล้วให้หนักแน่นเข้าว่า ‘นาค’ สามารถควบคุมน้ำได้ตามใจปรารถนา หากเพียงน้ำและฝนส่วนใหญ่นั้นหมู่นาคก็ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติเอง แต่เมื่อต้องการจะควบคุม ก็ไม่ใช่เรื่องยากจนเกินทำ

    หลวงปู่คำพัน โฆสปัญโญ วัดธาตุมหาชัย เคยบอกว่า “นาคมีสามธาตุ โดยมีธาตุน้ำเป็นหลัก” น้ำจึงเป็นสิ่งจำเป็นของนาค เป็นเครื่องหล่อเลี้ยง เป็นที่อยู่อาศัย หลวงปู่ชอบ ฐานสโม ถึงปรารภว่า “ที่ใดมีแหล่งน้ำธรรมชาติ ที่นั่นก็มีนาค”

    ครั้ง ที่ประเทศจีนประกาศจะระเบิดเกาะแก่งแหล่งหินในลำน้ำโขงตลอดสาย เพื่อเบิกทางให้น้ำลึกมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะต้องการเป็นเจ้าเป็นใหญ่ในทางเศรษฐกิจด้วยการนำเรือเดินสมุทรวิ่งขึ้น ล่องไปตามแม่น้ำโขงโดยไม่ต้องอ้อมเวียตนาม กัมพูชา

    ระเบิดเกาะแก่งในแม่น้ำโขง

    คิด ได้อย่างไร ? แม่น้ำโขงนั้นถือได้ว่าเป็น ‘มหานทีแห่งชีวิต’ เพราะเป็นแม่น้ำนานาชาติ ทุกประเทศที่อยู่ติดลำน้ำมิได้อาศัยแม่น้ำโขงเพียงเพื่อสัญจรไปมา หากยังใช้ชีวิตพึ่งพิงอิงอยู่กับน้ำ ทั้งอาบ ดื่ม ซัก ล้าง และหาอยู่หากิน คือทอดแห ตกปลา แม้กระทั่งเลี้ยงปลาในกระชังก็ทำ

    ปลาบึก ปลาเนื้ออ่อน ปลาตะโกก ฯลฯ ปลาต่าง ๆ สัตว์น้ำต่าง ๆ ในแม่น้ำโขงได้อาศัยเกาะ แก่งแอ่งหินต่าง ๆ เป็นที่หลบภัยและวางไข่ ทำให้ระบบนิเวศน์และชีวิตในลำน้ำโขงยังปรากฏอยู่ตามธรรมชาติตราบจนทุกวันนี้

    แต่จีนอยากระเบิดทิ้ง !!

    เพียง เพื่อสนองความอยากใหญ่ในระบบเศรษฐกิจ อยากเป็นผู้นำแห่งเอเซียทั้งด้านการทหารและการค้า โดยลืมทุกสิ่งทุกอย่างหมดสิ้น ไม่เว้นแม้กระทั่งมารยาทและคุณธรรม

    จีนบอก กับทุกประเทศที่แม่น้ำโขงไหลผ่านว่าให้ร่วมมือกันระเบิดเกาะแก่งเพื่อล่อง เรือใหญ่ เมื่อหลายประเทศพากันคัดค้านไม่เห็นด้วยจีนก็ออกไม้ตายว่าถ้าไม่ยอมตามก็จะ ทุ่มงบประมาณขุดแม่น้ำสายใหม่ขึ้นมาในจีนให้ไหลไปออกอีกทางนัยว่าเซี่ยงไฮ้ แล้วจะทำการสร้างเขื่อนใหญ่กั้นแม่น้ำโขงไว้ให้ไหลไปตามทางสายใหม่ไม่ไหลมา ทางเดิม

    และจีนก็นำร่องด้วยการระเบิดเกาะแก่งแหล่งหินดอนในแม่น้ำโขง ไปหลายจุดแล้วในส่วนที่ไหลอยู่ในเขตประเทศจีน เป็นเหตุให้เกิดดินโคลนและตะกอนพัดพากันมาทับถมอยู่ตามแนวตลิ่ง และหาดทราย ตลอดทางที่แม่น้ำไหลนับจากใต้ตำแหน่งที่ระเบิดลงมา คนที่มีพื้นเพอยู่ตามแนวแม่น้ำโขงต่างพบกับปัญหานี้กันถ้วนหน้า

    นี่คือจีน

    แม่ น้ำโขงที่มีมาเป็นพันเป็นหมื่นปีก่อนคนที่คิดอย่างนี้จะเกิด ต้องมาจบลงด้วยวิธีการอย่างนี้ล่ะหรือ ? หลายคำถามประดังใส่ผมจากคนที่คุ้นเคย

    ผมตอบไปตามความ ‘งมงาย’ ส่วนตัวทันทีว่า ไม่มีทางหรอก ผมเชื่อโดยส่วนตัวของผมเองอย่างจริง ๆ จัง ๆ ว่าในแม่น้ำโขง เป็นที่อาศัยของหมู่นาค เป็นทางออก ทางเข้า ทางขึ้นลงที่ใหญ่ที่สุดแล้วในโลกของปวงนาค เขาหรือจะยอมให้จีนประเทศมหาอำนาจแบบโลก ๆ แต่ไม่ใช่มหาอำนาจแบบธรรมชาติอย่างที่พวกเขาเป็นมาทำลาย

    ผมพูดกัน ตั้งสองปีมาแล้วว่าถ้าจีนยังดันทุรังจะทำอย่างที่บอก รับรองได้ว่าจีนจะได้พบกับความ ‘วิบัติ’ อย่างที่ไม่เคยเจอมาก่อน เพราะนาคไม่ใช่จะควบคุมได้เพียงแค่น้ำ แต่ถ้าจำต้อง ‘บังคับ’ ธาตุทั้งสี่เขาก็ทำได้เช่นกัน

    แล้วไม่นานจีนก็น้ำท่วมหนัก...
    แล้วก็แผ่นดินไหวอย่างหนัก...!!

    ราว สองสามปีก่อนผมได้คุยกับอาจารย์เวทย์ อาจารย์บอกว่าพวกนาคโกรธมากที่คนทำให้แหล่งน้ำธรรมชาติสกปรก ไม่ว่าจะทิ้งขยะ ทิ้งสิ่งปฏิกูลลงไปมากมาย ซ้ำคนบนโลกส่วนมากก็ไม่มีศีลธรรมกัน ไม่เชื่อบุญเชื่อบาป หนำซ้ำพวกเขาลอยประทีบบูชาคุณพระพุทธเจ้าก็พากันหาว่าเป็นธรรมชาติสร้างบ้าง คนสร้างขึ้นมาบ้าง เพราะพญานาคไม่มีอยู่จริง เป็นเรื่องแต่ง
    สรุปคือไม่เชื่อ ไม่นับถือนาค แล้วเขาก็บอกกับอาจารย์เวทย์ว่า ให้เตรียมตัวให้ดี

    “มนุษย์ทำให้พวกเราเดือดร้อน คราวนี้เราจะทำให้มนุษย์เดือดร้อนบ้าง”

    ด้วย คำปฏิญาณที่น่ากลัวเช่นนี้ อาจารย์เวทย์จึงถามถึงหนทางที่จะพอบรรเทาได้ นาคบอกว่าหากเป็นคนดีมีศีลมีธรรม ก็จะได้รับความคุ้มครองให้ปลอดภัย นอกนั้นตายหมด และยังบอกอีกว่าถ้านับถือพวกเรา เราก็จะช่วยให้รอด ใครที่มีสิ่งอันเป็นเครื่องระลึกถึงเรา เราก็จะขึ้นมาช่วย

    ดังนั้น อาจารย์เวทย์จึงหารือกับครูอำพล เจน จนได้เกิด ‘พญานาคาธิบดี’ ขึ้นมาทั้งสองรุ่น และรุ่นที่ 3 กำลังจะออกให้บูชาในเร็ววันนี้

    ผม คุยกับครูอำพลถึงเรื่องน้ำท่วมหนักอย่างไม่เคยมีมาก่อน บ้านที่ไม่เคยท่วมก็ยังท่วม หนักขึ้นเรื่อย ๆ หนักขึ้นทุกปี และกระจายตัวไปทั่วโลกอย่างน่าประหลาด เกิดขึ้นทุกทวีป ทุกประเทศ แม้ประเทศที่อยู่บนแผ่นดินสูงหรือที่ราบเชิงเขาอย่างสวิสเซอร์แลนด์ก็ยังมี น้ำท่วมหนักจนเสียหายไปหลายล้านได้แบบไม่น่าเชื่อ ครูอำพลพูดสั้น ๆ ว่า

    “นี่แค่หนังตัวอย่าง หนังจริงยังไม่ฉาย…!!”

    ผม ก็อ้าปากค้างไปเท่านั้น และครูยังย้ำอีกว่า “ต่อเอ๋ย ถ้ามีปฐวีธาตุก็ให้นำมาใส่ ถ้ามีพญานาคาธิบดีอยู่แล้วจะรุ่นไหนก็ให้เอามาใส่ เรารักใครชอบใครเป็นห่วงใครก็หาให้เขาใส่ ส่วนใครที่จะไม่เชื่อก็เป็นกรรมของเขา ให้เจ้าใส่ไว้ ให้นับถือบูชาไว้ แล้วจะได้รู้”

    ปกติครูอำพลจะไม่ค่อยพูดถึงการใส่วัตถุมงคลในเชิงแนะ นำหรือบังคับ มักปล่อยให้เป็นไปตามอัธยาศัยของหมู่พวก แต่สำหรับเรื่องนี้ดูท่าครูอำพลท่านจะมี ‘ข้อมูล’ ดี ๆ เชิงลึกที่คนอื่นยังไม่รู้ซ่อนเร้นอยู่ในใจอีกมาก ทว่าเล่าไปคงไม่สะดวกจึงใช้วิธีพูดเชิงแนะนำว่าให้ใส่ไว้ ให้บูชาไว้

    เพราะเขาสร้างขึ้นมาเพื่อรับมือกับสถานการณ์นี้โดยเฉพาะ

    หาก ใครเป็นผู้ที่สนใจในเรื่องราวของสิ่งศักดิ์สิทธิ์และครูบาอาจารย์ผู้วิเศษคง เคยได้ยินชื่อเสียงกิตติคุณของท่านผู้นี้แม้จะไม่เคยเห็นตัว

    หลวงปู่สรวง

    ท่าน จะเป็นใครและเป็นอะไรกันแน่ทุกวันนี้ก็ยังหาคนรู้ชัดได้ยาก แต่ที่เห็นกันอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันคือความอัศจรรย์ที่ท่านทำ เป็นอัศจรรย์ที่เมื่อเผยแพร่ออกไปก็กลายเป็น ‘นวนิยาย’ หรือ ‘หนังอินเดีย’ ไปทันที เพราะมีความมันส์อยู่ในเนื้อเรื่องเหมือนได้เห็นตัวละครเหาะเหินเดินอากาศ

    เดิน ตากฝนไม่เปียก นั่งอยู่ใต้น้ำได้หลายชั่วโมงโดยไม่มีอุปกรณ์ดำน้ำและไม่ตาย ปรากฏตัวได้ในเวลาเดียวกันถึงสามแห่ง กระทืบแผ่นดินทีเดียวตัวเลขดัชนีดาวน์โจนส์ในสหรัฐก็เลื่อนไปตรงกับตัวเลข ที่บอกชาวบ้านว่าจะเป็นหวย เอามือคลึงท๊อฟฟี่ให้คนขับรถที่ง่วงจนเหลือทนอมแล้วหายง่วงขับรถได้อีกนับ สิบชั่วโมง
    เอามือไปลูบหน้าอกผู้หญิงที่เป็นมะเร็งระยะที่สามแค่นั้นก็ หายขาดไม่ต้องผ่าตัดรักษาใด ๆ ศิษย์บ่นยากกินต้มปลาก็เอามือล้วงลงในย่ามหยิบเอาปลาดุกปลาช่อนสด ๆ ออกมาหลายตัวให้ไปต้มกิน จะไปไหนขึ้นรถแล้วชี้นิ้วบอกทางอย่างเดียวทั้งที่ท่านไม่เคยไปคนขับรถก็ไม่ เคยไปแต่ก็ไม่เคยหลงไม่เคยพลาดไปมาแล้วทั่วประเทศไทย ฯลฯ

    สิ่งเหล่า นี้คือ ‘ปาฏิหาริย์’ เพียงส่วนหนึ่งในหลายร้อยเรื่องที่หลวงปู่สรวงบันดาลให้เกิด คนที่ใกล้ชิดพบเห็นกันอยู่เป็นประจำจนเกิดศรัทธาอย่างไม่คลอนแคลน หากคนไกลกลับมองเป็นสิ่งงมงายและสร้างขึ้นเพื่อลวง ส่วนจะลวงกันเพื่อเหตุผลอะไรก็คิดค้นกันได้ตามอัตภาพ

    จากการที่คุณอา สุธน ศรีหิรัญ ได้ตามเก็บข้อมูลเรื่องราวของหลวงปู่สรวงเพื่อนำมาเผยแพร่ ได้ไปพบกับพระเถระรูปหนึ่งซึ่งเคยเจอหลวงปู่สรวงและมีข้อมูลบางอย่างที่น่า ประหลาดใจยิ่งนัก จึงขออนุญาตนำความนั้นมาบอกเล่าเพื่อให้พวกเราได้พิจารณากัน

    ท่านพระ ครูจันทธรรมานุโยค (ลมัย จันทโร) อายุ 80 ปี เจ้าอาวาสวัดโคกตาเขียว อ.สังขะ จ.สุรินทร์ เป็นพระสงฆ์อีกรูปหนึ่งที่หลวงปู่สรวงเดินทางมาพบโดยที่ท่านไม่เคยรู้จักกัน มาก่อน เมื่อมาถึงแล้วหลวงปู่ก็ได้กระทำกฤษดาภินิหารให้ท่านพระครูได้เห็นหลายอย่าง เป็นที่น่าอัศจรรย์ เช่น ตีฆ้องใหญ่ด้วยไม้นวมจนปุ่มตียุบเข้าไป
    เรียกเงินธนบัตรและเหรียญให้หล่นลงมาจาก ‘อากาศ’ แล้วมอบให้ท่านพระครูเก็บไว้สร้างวัด ฯลฯ

    อภินิหาร เหล่านี้ท่านแสดงให้ท่านพระครูได้พบเห็นเพื่อเป็นการปลูกศรัทธา หลวงปู่สรวงมาหาท่านพระครูนับได้ทั้งสิ้นราว 7 ครั้ง ครั้งที่ 6 เป็นสิ่งที่มาสัมพันธ์กับเรื่องราวของพวกเรา กล่าวคือหลวงปู่สรวงได้พูดกับท่านพระครูลมัยเป็นภาษาเขมรราวกับคำสั่งเสียมี ใจความว่า

    “ในปีพ.ศ. 2550 ถึง พ.ศ. 2555 หางนาคกวาดน้ำให้โลกมาได้ครึ่งหนึ่งแล้ว กำลังจะกวาดน้ำขึ้นมาล้างโลก จะเกิดน้ำท่วมโลกใหญ่ คนไม่ดีไม่มีศีลธรรมจะตายไปมาก ส่วนคนดีคนมีศีลธรรมจะอยู่รอดปลอดภัยได้

    ปี 2555 นะ คนที่ว่าเก่งอยู่ในเมืองไทยจะอยู่ที่ไหนก็แล้วแต่มุมไหนของประเทศก็แล้วแต่ พ่อแม่ญาติพี่น้องไม่ต้องสู้นะ จะตายหมด น้ำทะเลตีข้างล่างได้ครึ่งโลกแล้ว ไม่ใช่ครึ่งประเทศนะ ครึ่งโลกแล้ว มาบอกให้หยุดทะเลาะกันนะ ไม่ต้องอยากชนะกันให้ออกไป อย่ามีเวรมีกรรมต่อกันเลย

    แล้วพวกที่ ทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์นี่นะ ไปก่อน นางนาคเป่าน้ำทะเลเต็มหมด มันจะไปแต่พวกนี้ ประมาณสองชั่วโมงกว่า ๆ น้ำก็ตีเข้ามาท่วมภูเขา มีทั้งขี้ดินขี้โคลนเข้ามา พวกทำไม่ดีตายหมด

    เทวดาตัดสินเอง เจ้ากรรมนายเวรตัดสินเอง ไม่ต้องกลัวเลย 2555 นางนาคเป่าน้ำท่วมทั้งน้ำทั้งดินตายวอด คนที่ไม่ดีตายหมด คนดีไม่ตาย คนดีมันเป็นเอง ไม่ตาย จะรอด คอยดูเถอะ นางนาคจะกลับเอาน้ำขึ้นข้างบนสามวันสามคืน มีลูกเห็บ ถูกใครตายระเนระนาดนะ ถ้าคนมีศีลห้าไม่ถูก เพราะเราไม่ได้กบฎพระเจ้าอยู่หัวนะ คนที่กบฏ คนที่อยากชนะผืนแผ่นดินตายแน่”

    หลวงพ่อลมัยนั้นมีความเชื่อในหลวงปู่สรวงเป็นทุนอยู่แล้ว เมื่อท่านพูดขนาดนี้จึงมีความตระหนกอยู่มิใช่น้อย ได้บอกกับหลวงปู่สรวงว่า

    “ถ้าน้ำท่วมมากขนาดนั้น อย่าว่าแต่คนไม่ดีไม่มีศีลธรรมเลย แม้คนดีก็คงจะไม่รอดเหมือนกัน จะทำอย่างไรได้ พอมีหนทางช่วยเหลือไหม”

    หลวงปู่สรวงนิ่งอยู่อึดใจจึงบอก ‘คาถา’ เพื่อเป่าน้ำไม่ให้ท่วมตัวมีใจความที่ออกเสียงตามภาษาเขมรจริง ๆ ว่า

    “อ้ม เกร๊อะ เกร๊อะ เกร๊อะ เตียงตึ๊ก เกร๊อะ ตึงได อ้มสติสวาหะ”

    เมื่อ ผมรับทราบถึงคาถานี้ก็ได้โทรศัพท์ทางไกลหาครูอำพล เจน ทันที แล้วลงมือเล่าเรื่องนี้ให้ฟัง ปรากฏว่าครูค่อนไปทางเชื่ออยู่มาก เพราะเพื่อนรุ่นเดียวกับครูเป็นตำรวจอยู่ที่อุบล ฯ หลวงปู่สรวงได้เดินทางมาหาถึงโรงพักโดยที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนแล้วบอกว่า นายตำรวจคนนี้เคยเป็นลูกของท่านเมื่อในอดีต จึงเดินทางมาเพื่อเยี่ยมเยียน

    แล้ว ได้แสดงอภินิหารหลายอย่างหลายประการจนเป็นที่น่าอัศจรรย์และเป็นที่น่าปวด หัวแก่ตำรวจทั้งสถานี อาทิ ถามเขาว่าขังคนพวกนี้ไว้ทำไมน่าสงสาร เมื่อตอบท่านว่าเขาทำผิดกฎหมาย ท่านฟังแล้วก็นิ่งอยู่ แผลบเดียวท่านไปเป่ากุญแจเขาหลุดออกหมดปล่อยผู้ต้องหาออกมาเดินเฉย อย่างนี้เป็นต้น

    เมื่อผมเล่าเรื่องคาถานี้ให้ครูอำพลฟังท่านก็รีบต่อ สายไปถึงเพื่อนสนิทที่มีเชื้อสาย ‘เขมร’ จริง ๆ ในจังหวัดศรีสะเกษ เพื่อนก็บอกว่าคาถาที่พูดมาในทีแรกนั้นในภาษาเขมรแล้วไม่มีเหตุเพราะออก เสียงผิด ที่ถูกควรต้องออกเสียงอย่างนี้จึงถูกต้อง แล้วก็พูดช้า ๆ ชัดถ้อยชัดคำให้ฟัง ซึ่งทุกคำที่ถูกต้องผมก็ได้นำมาลงไว้แล้วดังบรรทัดบน
    พร้อมกับแปลเป็นภาษาไทยให้ฟังว่า

    “อ้ม แปลว่า ลุง เกร๊อะ แปลว่า ดื่ม ซึ่งโดยมากมักหมายถึงการดื่มสุราเป็นหลัก เตียง คือ บึงน้ำ บ่อน้ำใหญ่ ตึ๊ก หมายถึง น้ำ แหล่งน้ำ ตึงได หมายถึง แขนขา ในที่นี้แปลว่า สาขาที่แตกย่อยออกไปของแม่น้ำลำคลองลำธารต่าง ๆ สติ ก็คือสติ สวาหะ เป็นคำคาถา ดังนั้นโดยรวมจึงหมายความว่า คุณลุงดื่มน้ำ แล้วก็ดื่ม ดื่ม ดื่ม ได้อย่างกับบึงบ่อที่ไม่รู้จักอิ่มน้ำ
    เหมือนมีสาขาย่อยแยกน้ำออกไปไม่รู้จักเต็ม แต่ถึงดื่มขนาดนั้นก็ยังมีสติ”

    มองไม่เห็นว่าจะศักดิ์สิทธิ์ตรงไหน
    แต่เชื่อเถิดว่า ‘ศักดิ์สิทธิ์’ จริง

    เพราะ ที่บ้านน้อยผมนั้นน้ำท่วมได้ท่วมดีทุกปีจริง ๆ แฟนหนังสือศักดิ์สิทธิ์หลายท่านที่เคยเข้าไปหาผมถึงบ้านในหน้าน้ำ ได้เคยมีประสบการณ์ร่วมกันมาแล้วว่า น้ำท่วมบ้านผมมันน่าสงสารขนาดไหน มันท่วมหนักมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2538 ไม่มีปีไหนที่น้ำจะไม่ท่วมท้นล้นเข้ามาจนถึงห้องนอนเลยแม้สักปีเดียว

    แต่ นับจากวันที่ได้รู้จักกับคาถานี้แล้วทดลอง ‘เป่า’ ด้วยตัวเองตามมีตามเกิด เชื่อเถิดครับสามปีติดกันแล้วน้ำไม่เคยท่วมบ้านผมอีกเลย ทำให้ผมต้องขวนขวายหาพระของหลวงปู่สรวงมาแขวนติดตัว

    ผมเชื่อของผมเองไม่ได้คิดเชิญชวนใคร

    เพราะ โดยสภาพของหลวงปู่สรวงนั้นย่อมเป็นการยากที่จะชักชวนใครให้ศรัทธา นอกจากว่าเขาคนนั้นจะคิดเห็นสิ่งพิเศษที่อยู่ในตัวท่านด้วยตัวเขาเอง

    และ จากเรื่องราวที่ท่านพระครูลมัยได้เล่าให้ฟัง ย่อมเห็นประจักษ์ชัดว่าหลวงปู่สรวงก็เป็นอีกผู้หนึ่งที่หยั่งรู้เรื่องราว ลี้ลับของโลกที่มองไม่เห็นอย่างพวกพญานาค

    ท่านรู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่...
    ท่านรู้ว่าเขากำลังคิดทำอะไรกับคนบนโลก...

    ท่าน เห็นแก่ประชาชนตาดำ ๆ ที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ไม่ได้บ้าอำนาจ ไม่ได้ทำให้แหล่งน้ำสกปรก ไม่ได้คิดคดทรยศต่อแผ่นดินเกิดและพระมหากษัตริย์ว่าต้องมารับเคราะห์ร่วม ชะตากรรม

    ท่านจึงเมตตาบอกเล่าเรื่องราวลึกลับซึ่งคนทั่วไปยังไม่รู้ ไม่เห็น ให้ได้ระวังตัวกัน บอกถึงวิธีการป้องกันว่าต้องทำอย่างไรจึงจะอยู่รอดปลอดภัยได้

    สิ่ง ที่พญานาคเสนนาคราชพูดกับคุณหงส์ สิ่งที่พญานาคพูดกับอาจารย์เวทย์ และสิ่งที่หลวงปู่สรวงนำมาบอกพวกเราโดยผ่านท่านพระครูลมัย ล้วนต่างกรรมต่างวาระ หากตรงกันได้อย่างไม่น่าเชื่อ จะจริงหรือไม่อยู่ที่ใจของทุกท่านกับรอวันที่จะเกิดแล้วครับ

    ณ วันนี้แม้เราจะไม่เชื่อในหนทางอย่างที่ลี้ลับ แต่กลับอยากเชื่อในสิ่งอันเป็นวิทยาศาสตร์ก็มิได้แปลว่าจะเสียหายแต่อย่างใด เพราะเมื่อเชื่อแล้วก็ควรเอาใจใส่ต่อโลกและสภาพแวดล้อมให้จงดี สิ่งใดที่ผู้รู้แนะนำว่าจะเป็นการช่วยโลก รักษาโลกก็ให้พากันเร่งทำ เพราะรักษาโลก ก็คือรักษาเรา

    แต่สำหรับผู้มีใจโน้มไปทางสิ่งลึกลับ มีความเชื่อเป็นล้นพ้นอยู่ในใจ ก็ควรรักษาโลกด้วยวิธีการอันเป็นวิทยาศาสตร์และเป็นรูปธรรมดังที่เขารณรงค์ ให้ทำกัน แต่อีกทางหนึ่งนั้นก็แสวงหา ‘สิ่งพิเศษ’ ที่ศรัทธาว่าอาจช่วยได้เมื่อภัยมี ผมคิดว่าไม่ใช่เรื่องที่เกินความสามารถของพวกเราดอกครับ หากว่าศรัทธาจริง

    ขออวยพรให้ปลอดภัยทั่วกัน

    ที่มา Around the World - Manager Online
     
  16. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ลำปางประกาศอำเภอที่ 6 เป็นพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมฉุกเฉิน

    [​IMG]

    ลำปาง 1 ต.ค.-นายสุวรรณ กล่าวสุนทร รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง เปิดเผยว่า จังหวัดลำปางได้ประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติฉุกเฉินในทุกตำบลของ อ.แม่พริก ได้แก่ ต.แม่พริก ต.พระบาทวังตวง ต.ผาปัง และ ต.แม่ปุ

    เนื่องจากประสบภัยน้ำป่าไหลหลากและน้ำท่วมฉับพลันเมื่อวันที่ 28 ก.ย.ที่ผ่านมา สร้างความเสียหายแก่พื้นที่การเกษตร และสิ่งสาธารณูปโภค ทั้งถนนและสะพานหลายแห่ง เพื่อให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องสามารถเบิกจ่ายงบประมาณเข้าช่วยเหลือประชาชนตามระเบียบราชการได้ทันท่วงที ซึ่งนับเป็นอำเภอที่ 6 ของจังหวัดที่ถูกประกาศเป็นพื้นที่ประสบภับพิบัติกรณีฉุกเฉิน ต่อจาก อ.เมือง อ.เถิน อ.วังเหนือ อ.เมืองปาน และ อ.แม่เมาะ.-สำนักข่าวไทย

    2009-10-01 13:18:02

    พายุฝน-ลมกระโชกแรงกระหน่ำแม่ฮ่องสอน คอสะพานขาดหลายแห่ง

    [​IMG]

    ภูมิภาค 1 ต.ค. - เกิดพายุฝนและลมกระโชกแรงกระหน่ำจังหวัดแม่ฮ่องสอนทำให้คอสะพานขาดหลายแห่ง ประชาชนเดือดร้อนเป็นวงกว้าง

    พายุฝนที่ตกอย่างหนักในพื้นที่อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ทำให้ปริมาณน้ำยวม เพิ่มสูงขึ้นและเชี่ยวกราก ทั้งเอ่อเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรริมน้ำเสียหายหลายร้อยไร่ นอกจากนั้น ยังกัดเซาะคอสะพานขาดหลายแห่ง โดยเฉพาะบริเวณบ้านแม่เกาะ – บ้านทะลุ หมู่ 8 ตำบล อำเภอสบเมย ขาดเป็นทางยาว ประชาชนไม่สามารถใช้สัญจรข้ามไปมาได้ นักเรียนโรงเรียนสบเมยวิทยาคม และแม่สะเรียงบริพัตรศึกษา ที่อยู่ในช่วงสอบ ต้องใช้เส้นทางอ้อมไปอีกกว่า 20 กิโลเมตร แม้เจ้าหน้าที่จะนำสะพานชั่วคราวมาต่อให้ใช้ แต่ก็ไม่สามารถใช้การได้ เนื่องจากกระแสน้ำยังเชี่ยวกราก ทำให้ช่วงขาดของสะพานขยายยาวขึ้น ประกอบกับดินคอสะพานทรุดอย่างต่อเนื่อง

    ส่วนจังหวัดสุราษฎร์ธานี ประกาศเตือนประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัย 149 จุด โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญทางทะเล อาทิ เกาะสมุย เกาะพงัน ที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ให้เตรียมรับสถานการณ์ดินโคลนถล่ม และน้ำป่าไหลหลาก และให้เรือเฟอร์รี่ เพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ ขณะที่เรือเล็กรวมถึงสปีดโบ๊ตงดออกจากฝั่งเด็ดขาด เนื่องจากคลื่นลมในทะเลมีกำลังแรง ประกอบกับมีฝนตกหนักในพื้นที่ตลอดทั้งคืน.-สำนักข่าวไทย

    2009-10-01 09:41:50

    เครื่องจักรยังซ่อมคอสะพานข้ามแม่น้ำยวมที่ถูกน้ำป่าพัดขาดไม่ได้

    [​IMG]

    แม่ฮ่องสอน 1 ต.ค.-ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าเหตุน้ำป่าพัดคอสะพานบ้านแม่ทะลุขาดจนพาหนะสัญจรผ่านไม่ได้ ว่า เมื่อเวลา 14.30 น.วันนี้ ราษฏรบ้านแม่ทะลุ ต.สบเมย อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน ได้ช่วยกันตัดไม้ไผ่มาทำสะพานไม้พาดข้ามบริเวณสะพานบ้านแม่ทะลุ ที่ถูกกระแสน้ำป่าพัดคอสะพานขาดยาวกว่า 15 เมตร เพื่อใช้ข้ามชั่วคราว

    เนื่องจากขณะนี้กระแสน้ำในแม่น้ำยวมยังเชี่ยวกราก และน้ำได้กัดเซาะคอสะพานขยายพื้นที่เป็นทางยาวมากขึ้น เครื่องจักรจากหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่(นพค.) 36 ที่จะเข้าไปซ่อมแซมคอสะพาน จึงยังไม่สามารถลงมือซ่อมแซมได้ ต้องรอให้กระแสน้ำกลับสู่สภาพปกติก่อน อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านได้กลับไปใช้เส้นทางลำลองระหว่างบ้านแม่ทะลุ-บ้านแม่คะตวน ซึ่ง นพค.36 ได้นำเครื่องจักรเข้าไปซ่อมแซมเส้นทาง เพื่อให้รถยนต์วิ่งสัญจรไปมาได้เป็นการชั่วคราว ก่อนที่จะทำการซ่อมแซมคอสะพานที่พังเสียหาย เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนแก่ราษฏรกว่า 600 คน ครู-นักเรียน ที่ต้องเดินทางไปเรียน.-สำนักข่าวไทย

    2009-10-01 17:18:57

    อุบลฯ ส่งทหารช่วย ปชช.อพยพหนีน้ำเอ่อท่วมสองฝั่งแม่น้ำมูลนับ 100 ครอบครัว

    [​IMG]

    อุบลราชธานี 1 ต.ค.-ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมใน จ.อุบลราชธานี ว่า ฝนที่ตกหนักจากอิทธิพลของพายุกิสนา ทำให้ปริมาณน้ำในลำน้ำสาขาของแม่น้ำมูลสูงขึ้น โดยระดับน้ำที่บริเวณสะพานเสรีประชาธิปไตย วันนี้ วัดได้ 7.08 เมตร สูงขึ้นจากเมื่อวาน 12 ซม. ทำให้น้ำไหลท่วมชุมชนสองฝั่งแม่น้ำมูลเป็นบริเวณกว้าง โดย อ.เมืองมีชุมชนถูกน้ำท่วม 17 ชุมชน อ.วารินชำราบ 11 ชุมชน ประชาชนทั้ง 2 อำเภอ ต้องอพยพหนีน้ำไปอยู่ในที่พักชั่วคราวที่ทางการจัดให้แล้วกว่า 100 ครอบครัว

    โดยมณฑลทหารบกที่ 22 และกองบินที่ 21 กองพลบินที่ 1 จ.อุบลราชธานี ได้ส่งกำลังทหารประมาณ 100 นาย เข้าช่วยเหลือประชาชนในการขนย้ายสิ่งของ นอกจากนี้ มีรายงานว่า น้ำจากลำน้ำลำโดมใหญ่ที่ไหลมาจากเทือกเขาพนมดงรัก ได้ล้นตลิ่งท่วมสะพานข้ามลำห้วยบ้านแก้งเหนือ ต.ห้วยข่า อ.บุณฑริก เป็นระยะทางยาวประมาณ 150 เมตร ทำให้การสัญจรระหว่าง อ.บุณฑริก-อ.นาจะหลวย ผ่านได้เฉพาะรถใหญ่ ซึ่งทหารหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 42 ได้นำรถและเรือเข้าช่วยขนถ่ายให้ประชาชนสามารถเดินทางผ่านไปมาได้แล้ว.-สำนักข่าวไทย

    2009-10-01 11:34:54

    น้ำท่วมศรีสะเกษยังวิกฤติ

    [​IMG]

    ศรีสะเกษ 1 ต.ค.- น้ำท่วมจังหวัดศรีสะเกษยังวิกฤติ ขณะที่น้ำป่าไหลบ่าเข้าท่วมอำเภอขุนหาญเพิ่ม

    แม้พายุกิสนาจะอ่อนกำลังลงกลายเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำแล้ว แต่ก็ยังคงมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง ในจังหวัดศรีสะเกษ ทำให้ระดับน้ำในเขตเทศบาลเมืองศรีสะเกษ เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง บางคนต้องอพยพมาอยู่ริมถนนในเต็นที่สำนักงานเทศบาลจัดบริการไว้ให้ นอกจากนั้นน้ำป่าจากเทือกเขาพนมดงรัก ยังไหลบ่าเข้าท่วมพื้นที่อำเภอขุนหาญ ถนนนับ 10 สาย ถูกน้ำท่วม แต่ยังใช้การได้ ส่วนที่จังหวัดกาฬสินธุ์ระดับน้ำในเขื่อนลำปาว ยังเพิ่มระดับสูงขึ้นจนใกล้ถึงจุดวิกฤติ.-สำนักข่าวไทย

    2009-10-01 11:19:57

    ประทัดยักษ์ระเบิดใส่มือเด็กขอนแก่นขาด 4 คนรวด

    [​IMG]

    ขอนแก่น 1 ต.ค.-เกิดอุบัติเหตุประทัดยักษ์ระเบิดใส่มือเด็กชายชาวขอนแก่นขาด 4 คน

    เด็กชายอายุระหว่าง 10-14 ปี ทั้ง 4 คน เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่น หลังถูกประทัดยักษ์ระเบิดใส่มือจนนิ้วขาด ผู้บาดเจ็บทั้งหมดเปิดเผยว่า นำประทัดชนิดลูกบอลไปอัดรวมกันใส่ท่อพีวีซี ก่อนจุดฉนวน จึงทำให้เกิดแรงอัดมากผิดปกติ แต่ขณะจุดปล่อยมือไม่ทัน จึงทำให้นิ้วมือขาด

    แพทย์เปิดเผยว่า ช่วงก่อนออกพรรษาปีนี้ที่ จ.ขอนแก่น มีเด็กบาดเจ็บจากประทัดระเบิดใส่ เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่นจำนวน 11 คน ส่วนปีที่แล้วมีผู้บาดเจ็บสูงถึง 60 คน.-สำนักข่าวไทย

    2009-10-01 16:13:45

    ที่มา http://news.mcot.net
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  17. k_isara

    k_isara เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    246
    ค่าพลัง:
    +119
    1 ต.ค. 52
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    เมื่อวานนี้ ท่านสมาชิกที่อยู่จังหวัดขอนแก่น ได้ pm เข้ามาแจ้งให้ผมทราบว่า ได้โอนเงินเข้ามาช่วยเหลืองานนี้อีก 7,000บาท แบ่งเป็นทำบุญทอดกฐิน 1,000บาท<O:p</O:p
    ช่วยค่าเดินทางเวลาขึ้นไปทำงาน 1,000บาท<O:p</O:p
    เงินอีก 5,000บาทเข้าส่วนกลางที่จะใช้ในการดำเนินงาน
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    ก่อนอื่นผมขออนุโมทนาในเรื่องการทำบุญก่อน เงิน 1,000บาทที่จะทำบุญ ผมขอนำมารวมกับเงินเดิมที่หลายๆท่านเคยช่วยกันออกในคราวที่ผมขึ้นไปทำรางน้ำให้กับวัดและปรับปรุงระบบไฟฟ้า ซึ่งขณะนั้นผมตั้งงบไว้ที่ 20,000บาท ได้รับจริง ถ้าจำไม่ผิด ขาดอยู่อีก 300-500บาท ถึงจะครบ ณ. เวลานี้เหลือเงินอยู่อีก 1,580บาท เมื่อวานนี้ได้นำเงินไปซื้อก๊อกน้ำ ซันวา ที่มีกุญแจล็อกได้จากญาติ 4ชุด ในราคาต้นทุน คือชุดละ 120บาท เป็นเงิน 480บาท คงเหลือเงินเดิม 1,100บาท เมื่อนำมารวมกับเงินใหม่ ก็จะเป็น 2,100บาท
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    ผมได้ถามเจ้าของที่ดินคราวที่ขึ้นไปซื้อที่ว่า โอ่งยักษ์ใบละเท่าไร? (700บาท) ดังนั้นผมจึงร่วมทำบุญด้วย 700บาท ผมจึงจะซื้อโอ่งขึ้นไปถวายวัด 4ใบ ในคราวขึ้นไปทำบุญครั้งนี้ อุปกรณ์ข้อลด 6หุนเหลือ 4หุน 4ตัวและผ้าเทปพัน 1ม้วน เจ้าของร้านร่วมทำบุญด้วย
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    เงิน 1,000บาท ที่จะช่วยการเดินทาง ผมขอขอบคุณและขอน้อมรับด้วยใจ ส่วนเงินขอคืนเจ้าของนำไปรวมกับเงินที่ส่งมาทั้งสิ้น 16,000บาท เพื่อที่จะนำเงินส่วนนี้ไปซื้อและสร้างในส่วนของท่านเจ้าของเงิน เพราะท่านขอนำคนมา 10 ท่าน เงินนี้พอทำแต่ไม่มีเหลือทำส่วนกลาง
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    เมื่อวาน นอกจากจะซื้อก๊อกน้ำแล้ว ผมได้ซื้อฝาทองเหลืองสำหรับบ่อเก็บมูล 6ชุด ในราคาทุนชุดละ110บาท เพื่อนำขึ้นไปและจะจ้างช่างพื้นบ้านขุดบ่อเก็บมูล 12บ่อก่อน ส่วนโอ่งถ้ามีครบ 12ใบก็จะซื้อไปวาง สำหรับหลังคา เที่ยวนี้ถ้ามีคนนำรถขึ้นไปด้วยก็จะซื้อหลังคา พีวีซี พร้อมอุปกรณ์ประปาขึ้นไปติดตั้งทำรางน้ำเก็บน้ำฝนใส่โอ่งไว้ก่อน งานอื่นๆก็จะรอเงินผู้ที่จะตามไปด้วยรวบรวมได้เป็นก้อนก็จะขึ้นไปทำให้เป็นครั้งๆไป<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 ตุลาคม 2009
  18. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,680
    ค่าพลัง:
    +51,926
    *** คนขาดสัจจะ ****

    รับศีลใหญ่ไป แล้วทำไม่ได้...
    ก็กลายเป็นหอกทวนกลับมาทิ่มแทงตัวเอง กลายเป็นไฟเผาตัว

    ให้รีบแก้ไข
    ๑. ขอขมาสิ่งศักดิ์สิทธิ์....ในสิ่งที่เคยผิดพลาดพลั้งไป ทั้งกายวาจาใจ
    ๒. ต่อไป...กล่าวและทำในสิ่งที่จะทำจริง สิ่งที่สามารถทำได้จริง
    ๓. ไม่ทำตนเป็นคนไม่มีสัจจะ

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  19. k_isara

    k_isara เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    246
    ค่าพลัง:
    +119
    เพิ่มเติม

    ท่านสมาชิกที่อยู่ สมุทรปราการ ได้ยืนยันมาเรียบร้อยแล้วว่าจะไปอยู่ที่ ฐานผาแบ่นด้วยกันและจะโอนเงินมาให้ 10,000บาท

    ผมอยากจะพบกับทุกท่านก่อน เพื่อทำความรู้จักกันและแนะนำให้รู้จักบ้าน เพราะเมื่อท่านโอนเงินเป็นที่เรียบร้อยหรือนำมาให้กับมือ เมื่อผมทำสุขาเคลื่อนที่ให้เสร็จ ผมจะแจ้งให้ท่านนำกลับไปเก็บไว้ที่บ้าน

    ส่วนท่านอื่นๆ คิดว่ามีความดีพอและอยากจะไปอยู่ที่จังหวัดเลย อำเภอเชียงคาน บ้านผาแบ่น ก็ pm เข้ามาคุยนะครับ มาร่วมด้วยช่วยกัน นำคนดีหนีภัยพิบัติ เวลาเหลือน้อย ช้าอด หมดปิด

    สำหรับบุคคลภายนอก ถ้าสนใจจะไปด้วย ผมจะนัดพบที่สถานีรถไฟดอนเมือง ฝั่งขาเข้ากรุงเทพฯ ตรงหน้าห้องขายตั๋ว ในวันอาทิตย์ที่ 11 ตุลาคม 2552 เวลา 10.00น. คอย 1ช.ม. ถึง 11.00น. เปิดให้แค่วันเดียว

    </P%3
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 ตุลาคม 2009
  20. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    ตอนนี้จำนวนผู้เสียชีวิต จากแผ่นดินไหวในอินโดนีเซีย ขึ้นไปกว่า 1,000 ชีวิตแล้วครับ

    สำหรับไทยเรา ควรเฝ้าระวัง เรื่องแนวร้าวขึ้นไปยัง รอยเลื่อนด่านเจดีย์สามพระองค์

    โดยเฉพาะอย่างยิ่งเขื่อนศรีนครินทร์ ครับอย่าประมาท โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตอนกลางคืนครับ


    มีอีกเหตุการณ์หนึ่งซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับการเกิดแผ่นดินไหวและการแปรปรวนทางธรรมชาติมากๆในช่วงนี้

    นั่นคือ ปรากฏการณ์ดวงอาทิตย์ ................

    ลองดูครับ เกิดช่วงนี้ต่อไปอีก 5-6 วันครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...