QUANTUM ENERGY / SCALAR ENERGY/ รักษาอาการต่างๆ ปรับสมดุล ในร่างกาย / SCALAR QUANTUM / กำไลพลังงาน ราคาถูก

ในห้อง 'ลงประกาศ ซื้อ-ขาย หรือทั่วไป' ตั้งกระทู้โดย energy.nano, 23 สิงหาคม 2008.

แท็ก:
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. energy.nano

    energy.nano สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    35
    ค่าพลัง:
    +3
    [​IMG] [​IMG][​IMG]คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพใหญ่

    [​IMG] [​IMG] [​IMG] คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพใหญ่


    [​IMG]

    ไทเทเนียม เป็นวัสดุธรรมชาติ ซึ่งมีธาตุโลหะชนิดหนึ่งที่ใช้ทำสารกึ่งตัวนำกระแสไฟฟ้าได้ดีกว่า แม่เหล็ก และแผ่นทองคำเปลวมาก ซึ่งจะช่วยในเรื่องของสุขภาพ ช่วยเพิ่มประจุลบให้แก่ร่างกาย ทำให้เกิดสมดุลภายในร่างกาย ช่วยให้ระบบไหลเวียนโลหิตดีขึ้น ลดอาการเครียด อาการปวดตามข้อ เนื่องจากข้ออักเสบ ลดอาการปวดบวมของแผล บรรเทาอาการปวดเมื่อย อาการปวดหัว



    <CENTER>[​IMG] ก่อนใส่กำไล Before >>>>> [​IMG] หลังใส่กำไล After</CENTER><CENTER></CENTER>
    นอกจากนี้ ยังช่วยลดผลกระทบจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากโทรศัพท์มือถือ และคอมพิวเตอร์ในขณะที่เปิดใช้งาน สร้อยข้อมือเพื่อสุขภาพ Titanium (ไทเทเนียม) เหมาะสำหรับกลุ่มคนที่ต้องทำงานหนัก มีภาวะกดดัน และมีอาการเครียด คนที่สูบบุหรี่ ดื่มเหล้า รวมถึงคนที่ใช้โทรศัพท์มือถือ และคนที่ต้องทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ

    ปัจจุบันเป็นที่นิยมในกลุ่มนักกีฬา ซึ่งนักกีฬาดังๆ ระดับโลกหลายๆ คนใส่ลงแข่งขันเสมอ จะเห็นได้เวลาที่นักกีฬาลงแข่งขันมักจะเห็นสร้อยคอไทเทเนียม และ กำไลข้อมือไทเทเนียมนี้เสมอๆ

    บางคนอ่านมาถึงตรงนี้แล้ว อาจยังไม่เข้าใจหรือยังสงสัยว่าใส่แล้วจะเป็นอย่างไร จะเกิดอะไรขึ้นกับเราเมื่อสวมใส่มันแล้ว ผมขอนำภาพที่ถ่ายจากกล้อง Infared มาให้ดูกันนะครับ เขาบอกว่าหลังจากใส่ไปแล้วประมาณ 30 นาที ผลที่ได้จะออกมาดังภาพครับ



    <CENTER>[​IMG] [​IMG]</CENTER>
    จากภาพด้านบนจะเห็นได้ชัดเจนว่าร่างกายมีพลังงานความร้อนขึ้น ซึ่งอาจแปลได้ว่ามีการทำงานของระบบไหลเวียนโลหิตที่ดีขึ้นนั่นเอง

    กำไล ราคา 250 บาท (ไม่รวมค่าขนส่ง 50 บาท แบบ EMS ทั่วประเทศ)

    สินค้าทั้งหมดเป็นของบริษัทญี่ปุ่นแท้ ผลิตที่เกาหลีครับ Made in Korea

    ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


    กำไลประจุ ลบ

    [​IMG] คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพใหญ่
    ประเทศญี่ปุ่นเป็นผู้นำคุณสมบัติพิเศษของผลึกหินแร่ทัวร์มารีน ซึ่งด้านหนึ่งเป็นขั่วประจุบวก และด้านหนึ่งเป็นขั่วประจุลบ ทำให้เกิดกระแสของอิเลคตรอน จากการเคลื่อนที่ของประจุบวก ไปยังประจุลบ กลายเป็นอำนาจไฟฟ้าสถิตย์ หรือไอออนลบเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับแร่ไททาเนียม โดยนำมาเป็นส่วนผสมของกำไลหรือสร้อยคอสำหรับสวมใส่ เพื่อทำให้เกิดปฏิกริยาทางเคมีระหว่างกำไลและกระแสโลหิตของคนเรา เกิดการแตกตัวระหว่าง H2O คือออกซิเจน และไฮโดรเจนซึ่งเป็นองค์ประกอบของน้ำหรือโลหิตนั่นเอง ส่งผลให้ระบบการไหลเวียนของโลหิตดีขึ้น อาการปวดเมื่อยล้ากล้ามเนื้อ หรือตึงเครียดก็ลดน้อยลง ขณะเดียวกันก็เกิดกำลังงานในการประกอบกิจกรรมต่างๆ ที่ต้องใช้ข้อมือทุกประเภท โดยเฉพาะการเล่นกีฬา แบดมินตัน เทนนิส สคอวท กอล์ฟ โบว์ลิ่ง วอลเล่ย์บอลล์ บาสเกตบอล หรือกิจกรรมอื่นๆ เช่น เขียนหนังสือ พิมพ์ดีด ซึ่งชาวญี่ปุ่น ได้รู้จักและคิดค้นนำมาประยุกต์ใช้กับนักกีฬาทีมชาติมาเป็นเวลานานแล้ว โดยจะสังเกตได้ จากการสวมใส่ ที่คอหรือข้อมือ ในขณะทำการแข่งขัน และไม่ว่ากำไลหรือสร้อยคอนี้จะมีส่วนผสมของหินทัวร์มารีน หรือ ธาตุไททาเนียมก็ตาม ต่างก็ให้พลังประจุลบเช่นกัน
    แม้กระแสความนิยมของกำไลสีที่มีราคาแพงจะมาแรง แต่เมื่อเทียบกับประโยชน์ต่อสุขภาพของผู้สวมใส่นั้นกำไลสีไม่มีคุณสมบัติพิเศษใดๆเลย หากต้องการเลือกซื้อกำไลแบบมีคุณค่า ขอแนะนำกำไลประจุลบซึ่งเป็นกำไลเพื่อสุขภาพ เหมาะกับทุกเพศทุกวัย นอกจากจะสีสันสวยงามแล้ว ราคาก็ถูกกว่า เพิ่มประสิทธิภาพในการออกกำลังเล่นกีฬาโดยที่คุณสามารถรู้สึกได้ด้วยตัวเอง (จากประสบการณ์ใช้งาน ข้อมือดีมาก)
    [​IMG]
    ภาพถ่ายรังสีก่อนสวมกำไล หลังจากสวมกำไลเพียง 20 นาที



    อนุมูลอิสระจากการออกกำลังกาย

    เป็นที่ยอมรับโดยทั่วไปแล้วว่าการออกกำลังกายเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งต่อสุขภาพของมนุษย์เราและเป็นปัจจัยที่จำเป็นต่อชีวิตอย่างหนึ่ง ผู้เขียนได้เริ่มเผยแพร่ "การออกกำลังกายสายกลาง" มานานแล้วตั้งแต่ 2525 ซึ่งในสมัยนั้นยังไม่มีใครคิดถึงเรื่องว่า การออกกำลังกายจะเป็นตัวการตัวหนึ่งที่สามารถผลิตอนุมูลอิสระหรือสารก่อมะเร็งได้ ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นแล้วการออกกำลังกายจะเป็นคุณหรือเป็นโทษต่อร่างกายมนุษย์กันแน่

    ก่อนอื่นขอเข้าเรื่องเป็นวิชาการก่อนเล็กน้อยเพื่อจะได้เข้าใจว่าอนุมูลอิสระหรือสารก่อมะเร็งคืออะไร
    หน่วยที่เล็กที่สุดของสสารคือ อะตอมหรือปรมานู ซึ่งจะประกอบด้วยส่วนสำคัญโปรตอน (ประจุบวก) และอีเลคตรอน (ประจุลบ) จำนวนประจุบวกจะเท่ากับประจุลบ ประจุลบจะวิ่งอยู่รอบ ๆ ประจุบวกเป็นวง ๆ วงในมีได้แค่ 2 ตัว วงนอกมีได้ 8 ตัว ถ้าเมื่อไรวงนอกมีเกิน 8 ตัว มันจะแตกวงใหม่เป็นวงที่ 3 เช่นนี้ไปเรื่อย ๆ
    [​IMG]
    ที่วงนอกที่สุดของอะตอม ถ้ามีประจุลบ จับกันเป็นคู่ ๆ อะตอมนั้นจะเฉื่อยชา ไม่ค่อยมี ปฏิกริยาใด ๆ แต่ถ้าเมื่อไรวงนอกสุดมีประจุลบเดี่ยว ๆ เมื่อนั้นมันจะว่องไวมีปฏิกริยากับอะตอมอื่นได้ง่าย และอะตอมที่มีประจุลบเดี่ยว ๆ ที่วงนอกนี้ก็คืออนุมูลอิสระ

    ปฏิกริยาของอะตอมประจุลบเดี่ยวนั้นก็คือ "ขโมย" โดยไปขโมยประจุลบของอะตอมข้างเคียง เพื่อทำให้ตัวมันนั้นมีประจุลบคู่ อะตอมที่ถูกขโมยลบไปก็จะกลายเป็นอนุมูลอิสระแทน เป็นปฏิกริยาลูกโซ่เช่นนี้ไปเรื่อย ๆ

    สำหรับออกซิเจนสามารถมีประจุลบเดี่ยวถึง 2 ตัว ได้ที่วงนอก ฉะนั้นออกซิเจนจึงเป็นอนุมูลอิสระที่ว่องไวมากและอันตรายมาก ฉะนั้นถ้ามีการใช้ออกซิเจนมากที่ใดในร่างกาย อวัยวะนั้นก็จะมีอนุมูลอิสระเกิดขึ้นได้มากตามมาด้วย ฉะนั้นการออกกำลังกายมีการเผาผลาญออกซิเจนมากมายในกล้ามเนื้อ อนุมูลอิสระจึงเกิดขึ้นมากมายตามมาด้วย เกิดขึ้นได้ตั้งแต่ 5-20 %

    อนุมูลอิสระที่เกิดขึ้นในร่างกายมนุษย์นั้นมีได้หลายตัวส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับออกซิเจนทั้งนั้น คือ 02-, OH-} H202, 102 และ nitric oxide ซึ่งมีออกซิเจนเป็นส่วนประกอบเช่นกัน
    อนุมูลอิสระที่มาจากภายนอกร่างกาย
    - มลพิษจากสิ่งแวดล้อม เช่น ควันเสีย เขม่า คาร์บอนโมนอกไซด์จากรถยนต์
    - ควันบุหรี่, ยาฆ่าแมลงและยาฉีดยุง
    - รังสี เช่น รังสีปรมาณู รังสีเอกซ์เรย์
    - เชื้อโรคไวรัส เมื่อเข้าร่างกายเม็ดเลือดขาวจะสร้างอนุมูลอิสระเพื่อไปฆ่าเชื้อโรคและ ไวรัส ถ้าสร้างมากเกิดไปก็เกิดโทษต่อร่างกายได้
    - การอักเสบชนิดไม่ทราบสาเหตุ เช่นข้ออักเสบ รูมาตอยด์ ร่างกายจะส่งเม็ดเลือดขาวมาที่บริเวณอักเสบแล้วสร้างอนุมูลอิสระเพื่อจะลดการอักเสบเพราะมันคิดว่าเป็นเชื้อโรค แต่เมื่ออักเสบโดยไม่มีเชื้อโรคอนุมูลอิสรที่เกิดขึ้นเลยทำร้ายร่างกาย กลับเป็นอักเสบเพิ่มขึ้น
    - การออกกำลังกายจนกล้ามเนื้ออ่อนเปลี้ย

    ผลร้ายของอนุมูลอิสระ
    1. ทำให้อวัยวะต่าง ๆ เสื่อมเร็วกว่าปกติ หรือแก่เร็วโดยไปทำให้เกิดความผิดปกติที่หน่วยพันธุกรรม (DNA)
    2. เส้นเลือดตีบตัน ถ้าเป็นเส้นเลือดเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจตีบตันจะเกิดกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน ถ้าเป็นที่ไต - ไตจะเสื่อม ไตวาย ถ้าเป็นที่สมอง - เกิดอัมพาตครึ่งซีก
    3. เกิดโรคที่เกี่ยวกับภูมิคุ้มกัน โดยที่ร่ายกายจะสร้างภูมิคุ้มกันมากเกินไปจนมาทำอันตรายอวัยวะต่าง ๆ ได้ เช่น โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ โรคพุ่มพวง เป็นต้น
    4. การเกิดการอักเสบของกล้ามเนื้อ เอ็น และข้อ โดยเฉพาะการเป็นตะคริว
    5. มะเร็ง
    6. โรคความจำเสื่อม
    7. โรคสมองเสื่อม Parkinson
    การเกิดอนุมูลอิสระจากการออกกำลังกาย
    เป็นที่แน่นอนแล้วว่า (จากงานวิจัยหลายรายงาน) การออกกำลังกายสามารถสร้างอนุมูลอิสระได้ตั้งแต่ 5-20%

    แต่ร่างกายของมนุษย์เราสามารถสร้างเอนไซม์หลายชนิดที่สามารถทำลายอนุมูลอิสระได้ทันที แต่ถ้าอนุมูลอิสระเกิดขึ้นมากเกินไป ร่างกายจะกำจัดได้ไม่หมดซึ่งจะเป็นอันตราย
    การออกกำลังกายระดับปกติ
    - การเผาผลาญเกิดขึ้นช้า ๆ เรื่อย ๆ อนุมูลอิสระที่เกิดขึ้นจะน้อยและช้า ๆ ประมาณ
    2-5% ทำให้ระบบต่อต้านอนุมูลอิสระในร่างกายสามารถกำจัดอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้นได้หมด
    การออกกำลังกายหนัก
    - ถึงแม้จะสร้างอนุมูลอิสระได้มากก็จริงแต่การออกกำลังกายแบบนี้จะทำในช่วงเวลา สั้น ๆ เท่านั้น ร่างกายจึงสามารถกำจัดอนุมูลอิสระได้หมดแต่อาจจะช้าไปบ้าง
    การออกกำลังกายจนอ่อนล้า
    - เป็นการออกกำลังกายค่อนข้างหนักและนาน อนุมูลอิสระที่เกิดจะมีปริมาณมากถึง 20% ได้และเป็นเวลานาน เกินความสามารถของระบบกำจัดอนุมูลอิสระของร่างกายจะทำได้หมด
    จึงเหลืออนุมูลอิสระมากพอที่จะทำลายเซลล์ต่าง ๆ ได้ และยังทำปฏิกริยาลูกโซ่ให้เกิดอนุมูล
    อิสระอื่น ๆ เช่นจากไขมัน Lipid peroxidation และจากโปรตีน glutathione oxides ทำให้
    ปริมาณอนุมูลอิสระเพิ่มมากขึ้นไปอีก
    การออกกำลังกายในผู้สูงอายุ
    - ผู้สูงอายุ จะมีกล้ามเนื้อที่เล็กลง ความแข็งแรงลดลง ความอดทนลดลง ง่ายต่อการ
    บาดเจ็บ การอักเสบถ้าออกกำลังมากเกินไป และความสามารถในการฟื้นตัวของกล้ามเนื้อจากการอ่อนล้าจะลดลงมาก ซึ่งทำให้กล้ามเนื้อนั้นไม่สามารถปรับตัวได้เร็วเพียงพอที่จะออกกำลังในครั้งต่อไป และที่สำคัญความสามารถของระบบต่อต้านอนุมูลอิสระที่จะลดลงด้วย
    สารต่อต้านอนุมูลอิสระ มี 2 กลุ่ม
    1. กลุ่มที่ร่างกายสร้างขึ้นได้เอง
    - เป็นพวกเอนไซม์และโคเอนไซม์ มี 6 ตัว
    - เป็นพวกโปรตีน ประมาณ 10 ตัว
    2. กลุ่มที่ได้จากนอกร่างกาย
    - วิตามินเอ และเบต้าแคโรทีน
    - วิตามินซี
    - วิตามินอี
    - กลูตามีน
    - ฟลาโวนอยด์ (สารที่มีสีในผัก และผลไม้)
    - ชา โดยเฉพาะชาใบขาว
    - สมุนไพร บางชนิด
    - เซเลเนี่ยม
    สรุป
    เรื่องอนุมูลอิสระกับการออกกำลังกายได้ดังนี้
    1. การออกกำลังกายขนาดธรรมดา จะมีอนุมูลอิสระเกิดขึ้นได้ 2-5% ซึ่งร่างกายคนเราสามารถทำลายได้หมดทันทีด้วยระบบป้องกันอัตโนมัติ Antioxidant enzymes
    2. การออกกำลังกายหนักไม่ทำให้เกิดอนุมูลอิสระมากเกินกำลังของระบบป้องกันอัตโนมัตินี้
    3. การออกกำลังจนอ่อนล้าจะมีอนุมูลอิสระเพิ่มขึ้นได้ถึง 20% ซึ่งเกินกำลังของระบบ ป้องกันอัตโนมัติ
    4. ผู้สูงอายุซึ่งมีกล้ามเนื้อที่เล็กลง สมรรถภาพลดลง อ่อนล้าง่ายขึ้น และความสามารถของระบบป้องกันอัตโนมัติลดลง ฉะนั้นในการออกกำลังกายธรรมดาก็อาจจะมีอนุมูลอิสระหลงเหลือได้
    5. การรับประทานวิตามินซีหรืออี จึงจะมีประโยชน์กับนักกีฬาที่ต้องฝึกจน กล้ามเนื้ออ่อนล้า หรือผู้สูงอายุที่ยังออกกำลังกายธรรมดาเป็นประจำ
    6. การออกกำลังกายสายกลาง ที่ผู้เขียนเสนอแนะตั้งแต่ 2525 ดูจะเข้าเกณฑ์ปลอดภัยจากอนุมูลอิสระ

    ขอขอบคุณแหล่งที่มาของ ประจุลบ จากเว็บ สมาคมเวชศาสตร์ฟื้นฟูแห่งประเทศไทย ��Ҥ��Ǫ��ʵ����鹿���觻�������� :: THAI REHABITATION MEDICINE ASSOCIATION

    และสมาคมแบตมินตัลไทย Ẵ�Թ�ѹ��� Badmintonthai News ++ ෤������ ++ ���Ż�Ш�ź �س����˹�͡��ҡ�����

    Phiten Official Store : [Phiten USA] - Accessories << ตัวอย่าสินค้าจากต่างประเทศ

    Shop the Official Phiten Store for Titanium Necklace, MLB Necklace and Titanium Bracelet: Phiten Official Store [Phiten USA] << ตัวอย่าสินค้าจากต่างประเทศ

    YouTube - PHITEN << คลิปวีดีโอ จากต่างประเทศ
    -----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


    สร้อยพลังงาน SCALAR

    [​IMG][​IMG]

    ประโยชน์ ของ SCALAR

    1.ช่วยต้านการอักเสบติดเชื้อ
    2.เพิ่มปริมาณออกซิเจนในโลหิต
    3.ทำความสะอาดสารพิษในเลือดในเซลล์ไขมัน อนุภาคของโปรตีน ฯลฯ ซึ่งเป็นการช่วยเพิ่มพลังงาน
    4.ต่อสู้กับเซลล์มะเร็ง เนื่องจากเซลล์มะเร็งเป็นเซลล์ที่มีพลังงานต่ำเมื่อคุณสวมหรือพกแผ่นพลังงาน SCALAR คุณจะมีพลังงานสูง
    5.ล้างสารพิษให้แก่เซลล์ทุกเซลล์ในร่างกาย
    6.เสริมสร้างพลังงานโดยการเปลี่ยนเซลล์ของเราให้เป็นมีคลื่นความถี่เหมาะสมกับการต้านโรคต่างๆ
    7.เสริมสร้างความแข็งแรงให้แก่ ดีเอ็นเอของเรา และปกป้องดีเอ็นเอจากการถูกทำลาย
    8.ลดแรงตึงผิวของน้ำ จึงช่วยให้กระบวนการดูดซึมและการย่อยสารอาหารและขับสารพิษออกจากเซลล์นั้นรวดเร็วขึ้น
    9.ช่วยให้มีสมาธิมากขึ้น และช่วยสร้างความสมดุลให้แก่สมองทั้งสองซีก ได้รับการพิสูจน์โดยการวัดผล EEG
    10.ทำงานโดยไม่มีการกดประสาท
    11.สำหลับผู้ที่สูงอายุ เดินไม่สะดวก เมื่อพก แผ่นพลังงาน SCALAR จะทำมีกำลังมากขึ้น และทรงตัวได้ดีขึ้น
    12.ช่วยในการนั้งสมาธิ ให้จิตนิ้งได้เร็วขึ้น เนื้องจาก การแต่นของหัวใจและชีพจรคงที่ รวมไปถึงระบบอื่นๆในร่างกาย
    13.ช่วยให้นอนหลับสบายขึ้นโดยไม่ต้องกินยา
    14.เพิ่มพลังงานให้กับร่างกายผู้พก 30%

    หาข้อมูลเพิ่มได้ที่ เว็ปไซ www.google.co.th และ www.youtube.com โดยพิมพ์คำว่า SCALAR หรือ quantum

    [​IMG] [​IMG]

    รายละเอียด :แผ่นพลังงาน SCALAR ให้พลังงานสกาล่า เป็นพลังงานธรรมชาติ ซึ่งเกิดมาจากการระเบิดหินลาวาภูเขาไฟ พลังงานสกาล่านี้เองจะช่วยปรับพลังงานในร่างกายให้เกิดความสมดุล หากพลังงานในร่างกายมากไปหรือน้อยไปไม่สมดุล ก็จะทำให้เกิดโรคได้ง่าย เช่น ท้องอืด เป็นเพราะพลังงานย่อยอาหารในร่างกายเสีย หรือรู้สึกอ่อนเพลีย แสดงว่าพลังงานให้เลือดไหลเวียนไม่ปกติ โดยเมื่อนำ แผ่นพลังงาน SCALAR มาแขวนห้อยคอ หรือใส่กระเป๋าเสื้อ กางเกง มันจะส่งพลังงานสกาล่าออกมา ปรับพลังงานในร่างกายให้สมดุลตามธรรมชาติ พิสูจน์มาแล้ว เราพบว่าคนที่ป่วยด้วยโรคต่างๆ ไม่ว่าคนที่ป่วยเป็นโรคมะเร็ง ขาไม่มีแรง เดินไม่สะดวก ไมเกรน โรคเก้าท์ ฯลฯ จะมีอาการดีขึ้นอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังให้พลังงานแก่ร่างกายซึ่งเป็นที่นิยมอย่างมากในหมู่นักกีฬา เช่น นักกีฬายกน้ำหนัก นักกอล์ฟ นักเพาะกาย แบดมินตัน ฯลฯ และยังช่วยในการป้องกันรังสีจากโทรศัพท์มือถือที่จะทำลายเส้นเสียงภายในหู และป้องกันรังสีจากจอคอมพิวเตอร์ อีกด้วย

    ประโยชน์ที่มีต่อสุขภาพ โดย Dr. Tom Bearden นักวิทยาศาสตร์ด้านสเคลาร์ ของสหรัฐอเมริกา
    o ช่วยเพิ่มพลังงานและสมรรถภาพในการเล่นกีฬา หรือการออกกำลังกาย
    o ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับกล้ามเนื้อ และเส้นเอ็น
    o ช่วยปกป้อง DNA จากการถูกทำลาย
    o ช่วยปกป้องอันตรายจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าและคลื่นวิทยุจากโทรศัพท์มือถือ
    o ช่วยเพิ่มออกซิเจนเข้าสู่เซลล์และกระแสเลือดทำให้คลายความเจ็บของกล้ามเนื้อหรือช่วยลดอาการปวดหลังรวมทั้งลดอาการอักเสบของแผล
    o ช่วยทำให้ระบบไหลเวียนโลหิตทั่วร่างกายดีขึ้น
    o ช่วยให้กลไกการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน และระบบต่อมไร้ท่อ ดีขึ้น
    o ช่วยต่อต้านเซลล์มะเร็ง และยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียและไวรัส
    o ช่วยลดอาการซึมเศร้า และเพิ่มความกระฉับกระเฉง
    o ช่วยปรับความสมดุลของระบบประสาท ทั้งซ้ายและขวา และทำให้มีสมาธิดีขึ้น

    [​IMG] [​IMG]

    พลังงานควอนตั้มซายน์ผลิตขึ้นจากหินลาวา ที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟซึ่งมีคุณสมบัติพิเศษเป็นสื่อกลาง ในการกักเก็บพลังงานสเคล่าร์อยู่ภายในโครงสร้างระดับโมเลกุลที่เกาะกันด้วยเทคโนโลยีชั้นสูงจากญี่ปุ่น
    เป็นพลังงานชีวภาพ ที่มีคลื่นพลังสเคล่าในระดับที่เหมาะสมกับร่างกาย สามารถเปลี่ยนโมเลกุลน้ำในร่างกายของสิ่งมีชีวิตได้และยังเป็นประโยชน์อย่างยิ่งกับกระบวนการเผาผลาญต่างๆในร่างกาย
    ข้อสำคัญคือ จะช่วยฟื้นฟูสภาพร่างกายที่อ่อนแอ ให้เกิดสมดุลย์และแข็งแรงที่ยาวนานขึ้น
    <O:pหมายเหตุ : พลังงานสเคล่าร์คือพลังงานรูปแบบใหม่ที่พบในปี พ.ศ. 2546 โดย Dr. Lee Kenny เจ้าของรางวัลด้านวิทยาศาสตร์แห่งชาติ จาก นาซ่า

    </O:p
    [​IMG]


    [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG]

    สามารถโหลดคลิปวีดีโอการทดสอบพลัง ได้ด้านล่างครับ
    <TABLE border=0 cellSpacing=3 cellPadding=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD><TD>แสดงแสงออร่า.wmv 5.11 MB << คลิกเพื้อโหลด ชม</TD></TR><TR><TD>[​IMG]</TD><TD>ทดสอบพลัง - กางแขนทรงตัว.wmv 2.97 MB << คลิกเพื้อโหลด ชม</TD></TR><TR><TD>[​IMG]</TD><TD>ทดสอบพลัง - ดึงมือด้านข้าง.wmv 2.19 MB << คลิกเพื้อโหลด ชม</TD></TR><TR><TD>[​IMG]</TD><TD>ทดสอบพลัง - นอนทดสอบพลัง.wmv 2.89 MB << คลิกเพื้อโหลด ชม</TD></TR></TBODY></TABLE>

    สนใจติดต่อ ที่ E mail : energy.nano@hotmail.com

    T : 0840908040

    ราคา 1,500 บาท

    [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG]

    ประชุมวิชาการ เรื่อง *บำบัดโรคด้วยพลังควอนตั้ม*
    กองการแพทย์ทางเลือก จัดการประชุมวิชาการกรมพัฒน์ฯ เรื่อง "บำบัดโรคด้วยพลังควอนตั้ม" วิทยากรโดย นพ.สอ้าน สังขวาสี ณ ห้องประชุมเบญจกูล
    ชั้นใต้ดิน สถาบันการแพทย์แผนไทย กรมพัฒน์ฯ
    ( http://www.dtam.moph.go.th/alternati...php?newsid=172 )

    [​IMG]

    ไฟลที่ 1 : สไลด์ประกอบการบรรยาย "บำบัดโรคด้วยพลังควอนตั้ม" (1) << กดเพื้อโหลดอ่าน
    ไฟลที่ 2 : สไลด์ประกอบการบรรยาย "บำบัดโรคด้วยพลังควอนตั้ม" (2) << กดเพื้อโหลดอ่าน

    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 กันยายน 2009
  2. energy.nano

    energy.nano สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    35
    ค่าพลัง:
    +3
    [​IMG]

    ควอนตัมบำบัดเวชศาสตร์บูรณาการ

    ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐคำกล่าวที่คล้ายๆ จะตกยุคตกสมัย เพราะอาจจะได้ยินกันมาช้านาน ทว่ามองในอีกแง่ก็เป็น วลีคลาสสิกที่อยู่คู่มนุษย์มานานปีดีดักแม้ว่ามนุษย์เรามิอาจที่จะหลีกพ้น 1 ในอริยสัจ นั่นคือ ความป่วยไข้ ไปได้เพียงแต่จะป่วยมาก ป่วยน้อยแตกต่างกันไป

    เมื่อความป่วยไข้คือความจริงที่มิอาจจะหลีกเลี่ยงนับตั้งแต่กำเนิดมนุษย์การแพทย์จึงได้รับการพัฒนาควบคู่กันมาโดยเฉพาะหลังยุคกลางที่วิวัฒน์ทางการแพทย์ไม่ต้องซุกๆ ซ่อนๆ อีกต่อไป การทดลองศึกษาร่างกายมนุษย์ จนกระทั่งการพัฒนาทางยาจากสมุนไพร สู่การผลิตยาเป็นอุตสาหกรรมเทคโนโลยีทางการแพทย์พัฒนามาเป็นลำดับทั้งนี้ก็เพื่อที่จะทำให้มนุษย์เราหลีกพ้นจากความเจ็บไข้ได้ป่วยเป็นการค้นหาลาภอันประเสริฐแห่งชีวิตซึ่งมีค่า

    ทว่า ในรอบทศวรรษที่ผ่านมานี้ดูเหมือนว่าเข็มทิศของแวดวงการแพทย์จะตีกลับ โดยเฉพาะเทรนด์สมัยใหม่ที่หันมานิยมการเลิกใช้ยา โดยเฉพาะยาสมัยใหม่ ซึ่งผ่านการผลิตทางเคมี ศาสตร์ต่างๆอันพึงมีอยู่ในโลกนี้ ได้รับการตั้งสมมติฐานผ่านการนำกลับมาวิจัยเพื่อพัฒนาแพทย์แผนเก่าให้เข้ากับชีวิตยุคใหม่ไม่ว่าจะเป็นการฝังเข็ม การนวด โยคะ ฯลฯเพื่อการนำมาใช้ที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นในการรักษาโรคแบบไม่ใช้ยาอันเป็นแนวโน้มของแพทย์แผนทางเลือกของปัจจุบัน... และอนาคต

    เช่นเดียวกับควอนตัมบำบัดซึ่งเพิ่งคิดค้นพัฒนาการรักษาโรคโดยใช้คลื่นควอนตัมขึ้นใหม่ในเยอรมนีเมื่อก่อนสหัสวรรษที่ผ่านมา (ปี 1999) ก่อนที่จะผ่าน อย.บ้านเรานำเข้ามาในเมืองไทยครั้งแรก ในปี 2005 โดยการอนุมัติของ นพ.ffice:smarttags" /><?xml:namespace prefix = st1 ns = "urn:schemas-microsoft-com[​IMG]</st1:personName>กวี ไชยศิริผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี

    อย่างไรก็ตาม แม้ควอนตัมบำบัดจะได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในการบำบัดรักษาโรคฝั่งยุโรปหากในเมืองไทยยังเป็นเรื่องใหม่ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้าน ควอนตัมบำบัดจากโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จึงได้เป็นตัวตั้งตัวตีตั้งชมรมแพทย์ควอนตัมบำบัดแห่งประเทศไทยขึ้น เพื่อเผยแพร่ศาสตร์ดังกล่าวรวมทั้งเพื่อขยายวงในการช่วยบำบัดรักษาโรคให้กว้างขวางยิ่งขึ้นโดยตอนนี้มีโรงพยาบาลและหน่วยงานต่างๆ เข้าร่วมมากมาย ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลสมิติเวช โรงพยาบาลปทุมเวช (จ.ปทุมธานี) ศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก (ศาลายา) มาริษาคลินิกเวชกรรม (กรุงเทพฯ/จ.เชียงใหม่) อรวรรณสปา (สุขุมวิท 55) ฯลฯ

    แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้าน ควอนตัมบำบัดจากโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์เล่าว่า ควอนตัมบำบัดเป็นการเสริมสร้างและฟื้นฟูสุขภาพแนวใหม่ซึ่งอาศัยคลื่นควอนตัม หรือคลื่นพลังงานแม่เหล็กที่มีความถี่อยู่ระหว่าง 0.1-1 หมื่นเฮิรตซ์ และมีความแรงของคลื่นน้อยกว่า 50 ไมโครเทสลา

    ลักษณะเฉพาะของการรักษาโดยกระตุ้นด้วยกระแสไฟฟ้าแม่เหล็กระบบควอนตัมบำบัดคือ เป็นพลังงานต่ำ หรือมีแรงต่ำกว่าพลังงานแม่เหล็กโลก (ต่ำกว่า 50 ไมโครเทสลา) นอกจากนี้ ยังเป็นคลื่นที่มีความถี่แปรผัน (มีค่าตั้งแต่ 0.1-1 หมื่นเฮิรตซ์) มีการสลับขั้วของพลังงานแม่เหล็กรวมทั้งสามารถทำให้เกิดการลำเลียงไอออน โดยเฉพาะอย่างยิ่งโปรตอนภายในร่างกายซึ่งจะส่งผลต่อร่างกายในการช่วยกระตุ้นการหมุนเวียนของโลหิตและเพิ่มศักย์ไฟฟ้าของเซลล์ในร่างกายให้สูงขึ้น

    คุณหมอผู้เชี่ยวชาญคนเดิมให้อรรถาธิบายอีกว่าโดยปกติร่างกายของเราจะต้องมีพลัง คล้ายๆ กับแบตเตอรี่ที่ได้รับการชาร์จจนเต็มพร้อมสำหรับการใช้งานในแต่ละรูปแบบ หากเมื่อเราเจ็บป่วยขึ้นมา ก็คล้ายกับว่าแบตเตอรี่ที่อ่อนแรง หรือแบตเตอรี่ที่เสื่อมสภาพลง ดังนั้นจึงต้องมีการชาร์จแบตเพื่อเพิ่มพลังงานเข้าไป ซึ่งการรักษาแบบ ควอนตัมบำบัดซึ่งมี 3 รูปแบบ คือ ที่นอน หมอน และปากกาจะมาช่วยในการเติมพลังเข้าไปในแบตเตอรี่ของร่างกายใหม่คล้ายการชาร์จให้เต็มอีกครั้ง

    ควอนตัมบำบัดหรือการใช้พลังงานสนามคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าคลื่นความถี่ต่ำมีวัตถุประสงค์ทั้งเพื่อการรักษา การตรวจวินิจฉัย การป้องกันโรครวมทั้งการฟื้นฟูผู้ป่วย โดยจะช่วยกระตุ้นสิ่งที่สำรองเอาไว้ในร่างกายทั้งในระดับเซลล์และระบบชีวภาพ ช่วยเสริมระบบภูมิคุ้มกันและปรับอวัยวะให้มีการต่อต้านระบบการทำงานที่ไม่ปกติจากการทดลองวิจัยในต่างประเทศและในประเทศไทย พบว่าการแพทย์แนวนี้สามารถบำบัด/รักษาได้สารพัดโรค ตั้งแต่ กระดูก บาดแผล ยีนส์ ปอดปัสสาวะ ผิวหนัง ระบบช่องท้อง ทันตกรรม ระบบประสาท หัวใจ เบาหวาน มะเร็งอาการปวดต่างๆ รวมทั้งปวดไมเกรนและระบบภูมิคุ้มกัน

    สำหรับการรักษาระดับทั่วไป คนไข้จะได้รับการจัดโปรแกรมให้นอนบนเตียงควอนตัมวันละ 16 นาที ถ้าป่วยมาก เช่น เป็นอัมพาต ปวดหลัง ปวดไหล่ก็อาจจะมีการใช้หมอนควอนตัม รวมทั้งปากกาจี้เป็นจุดๆ -- ทั้งหมดนี้เรียกว่า 1 ชุดถ้าป่วยหนักมาก หรือป่วยเฉียบพลัน แพทย์อาจจะให้รับการรักษาวันละ 3 ชุด

    แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้าน ควอนตัมบำบัดจากโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์เสริมด้วยว่า โดยปกติแล้วร่างกายคนเราจะทำงานอยู่ 2 ระบบ คือ ซ่อมกับ สู้ซึ่งหากจะให้ดีที่สุดนั้น ทั้ง 2 ระบบนี้ ควรจะเป็นไปอย่างมีสมดุล สำหรับการนำควอนตัมบำบัดมาใช้ก็จะมีการตรวจเช็กร่างกายเป็นรายบุคคลเพื่อที่จะเลือกโปรแกรมบำบัดให้เหมาะสม นั่นคือ การปรับสมดุล (โปรแกรมเบสิกทำให้อวัยวะทุกส่วนปรับสมดุลการทำงาน) การกระตุ้นให้สู้ (โปรแกรมไวทัลเน้นความถี่ของระบบประสาท ระบบหลอดเลือดและหัวใจทำให้ร่างกายเกิดความกระปรี้กระเปร่า) หรือการทำให้ร่างกายได้ผ่อนคลาย (โปรแกรมรีแลกซ์ เน้นความถี่เฉพาะระบบประสาท ทำให้ร่างกายได้ผ่อนคลาย ลดความเครียดลดสิ่งรบกวนการนอนหลับ)

    ทั้งนั้นและทั้งนี้ ก็เพื่อปรับสมดุล ฟื้นฟูและเติมพลังงานให้ร่างกายกลับมาเป็นปกติ หรือใกล้เคียงกับภาวะปกติ (ที่ไม่ป่วยไข้)มากที่สุด



    << ข้อมูลข่าวโดยหนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ออนไลน์ วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2551 >>

    Blood circulation before and after wearing the energysplanet.com Scalar Energy products [​IMG]
    Scalar Energy products.
    [​IMG]

    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    <O:p</O:p
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 กันยายน 2009
  3. energy.nano

    energy.nano สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    35
    ค่าพลัง:
    +3
    เพราะร่างกายของเรามีน้ำเป็นองค์ประกอบหลักเมื่อใช้แผ่น SCALAR
    นี้สัมผัสกับร่างกายก็จะไปเปลี่ยนโครงสร้างโมเลกุลทำให้เซลล์ร่างกายฟื้นฟูสภาพ
    และเป็นที่มาของการบำบัดโรคต่างๆนั่นเอง

    สามารถรักษาโรคต่างๆเหล่านี้ได้และเกิดจากประสบการณ์
    จริงของผู้ที่หายจากโรคเหล่านี้หลังจากใช้
    โรคทาลัสซีเมีย
    โรคเกี่ยวกับเม็ดเลือดแดง
    โรคกระดูกทับเส้น
    โรคปวดเมื่อย ตามเนื้อตัวต่างๆ
    โรคหลอดลมตีบ
    โรคภูมิแพ้
    โรคความดันสูง
    โรคไซนัส
    อาการนอนไม่หลับ
    โรคไต SLE
    โรคหัวใจ
    อาการปัสสาวะบ่อย
    โรคประสาทหูเสื่อม
    เหน็บชา
    โรคเครียด
    ช่วยลดการติดเขิ้อสร้างภูมิคุ้มกัน
    ช่วยไม่ให้เซลล์จับกลุ่มกัน
    เพิ่มระบบหมุนเวียนโลหิต
    ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื่อแบคทีเรีย
    ปกป้อง DNA ไม่ให้ถูกทำลาย
    ช่วยชะลอความแก่

    เสริมสร้างกระบวนการเผาผลาญสารอาหารในระดับเซลล์และกระบวนการล้าง
    พิษระดับเซลล์หรือ detox ทำให้สารอาหารถูกดูดซึมได้ดีขึ้น เพราะโมลกุลเล็กลง
    ทำให้ร่างกายแข็งแรง

    เสริมสร้างพลังชีวิต เรียกว่า
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 007.jpg
      007.jpg
      ขนาดไฟล์:
      113.5 KB
      เปิดดู:
      342
    • 008.jpg
      008.jpg
      ขนาดไฟล์:
      124.2 KB
      เปิดดู:
      351
    • 010.jpg
      010.jpg
      ขนาดไฟล์:
      110.9 KB
      เปิดดู:
      8,012
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 กรกฎาคม 2009
  4. energy.nano

    energy.nano สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    35
    ค่าพลัง:
    +3
    “คลื่นพลังแม่เหล็กไฟฟ้า” ( Electomagnetic Waves ) ชนิดใหม่ ที่เกิดขึ้นได้เฉพาะในพื้นที่ว่างเปล่าระหว่างอะตอมในร่างกายของเรา และพื้นที่ว่างเปล่าบนพิภพ บนท้องฟ้า และในจักรวาล

    [​IMG]

    คลื่นแม่เหล็กดังกล่าว ขับพลังออกมามหาศาลนิรันดร์ในมิติที่ ๔ บัดนี้สามารถสกัดออกมาสู่มิติที่ ๓ เพื่อใช้สร้างกระแสไฟฟ้า พลังการขับเคลื่อน กระทั่งนำมาใช้ในการรักษาโรคได้เกือบทุกชนิด นี่คือมิติใหม่ของพลังคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าสกาล่าร์ พลังงานแห่งความว่างเปล่าจากมิติที่ ๔ ที่มีมาก่อนกำเนิดโลก

    พลังงานใหม่นี้คือ “พลังแม่เหล็ก ลองจิทูดินัล” ( Longitudinal ) ซึ่งต่างจากคลื่นแม่เหล็ก “ทรานเวิร์ส” ( Transverse ) ที่เราพบในชีวิตประจำวัน จากโทรศัพท์มือถือ วิทยุ ทีวี ไมโครเวพ และอื่นๆ เพราะมันขับเคลื่อนมาในรูปแบบของมิติที่ ๔ที่ถูกบีบอัดในกาลเวลา ตามทฤษฎีของโรเบิร์ตไอน์สไตน์ ซึ่งเราสามารถสกัดพลังอภิมหาศาลออกมาใช้ได้

    [​IMG]

    การค้นพบครั้งยิ่งใหญ่นี้ถูกประกาศก้องโดย ทอม แบร์เดน ( Tom Bearden ) นักวิทยาศาสตร์ชาวอเมริกาผู้ค้นพบ ผู้เขียนได้ใช้เวลาถึง ๖ เดือน ค้นคว้าติดตามการค้นพบนี้ จากเอกสารต่างๆมากมาย จนทราบดีว่า หากสิ่งที่ แบร์เดน กล่าวมาถูกต้อง มันคือการค้นพบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์มวลมนุษย์แน่นอน

    การค้นพบนี้จะเปลี่ยนความเข้าใจของเรากับสิ่งจับต้องได้และจับต้องไม่ได้ และพลังของมันจะนำพาเราไปสู่โลกแห่งความสุขสันติ ในขณะเดียวกัน อำนาจของมันก็อาจพาเราลงนรกได้เช่นกัน เพราะอภิมหาพลังนี้ได้เคยถูกนำไปใช้ผลิตอาวุธสงครามทรงอานุภาพมาแล้ว แสนยานุภาพของมันรุนแรงยิ่งนัก เพียงการยิงครั้งเดียวจาก “เทสล่า โฮวิทเซอร์” (Tesla howitzer) อาคารสูงระฟ้ามลายหายไปในพริบตา มันยังถูกใช้ประจำเพื่อเปลี่ยนแปลงสภาวะอากาศในอเมริกาเหนือ รัสเซียเป็นผู้ช่ำชองในการใช้พลังงานนี้ ในขณะที่จีนกำลังศึกษามาติดๆ เมื่อทราบวิธีสร้าง “เทสล่า โฮวิทเซอร์”แล้ว มันไม่เป็นการยากและแพงเลยที่จะผลิตมันขึ้นมา กุญแจสำคัญก็คือ การรู้วิธีบังคับพลังงานแม่เหล็กนี้จากระยะไกล คุณอยู่ที่ไหนก็ได้ คุณสามารถยิงทำลายได้ทั่วปฐพี ด้วย “เทสล่า โฮวิทเซอร์” ทั่วโลกกำลังซุ่มพัฒนาอาวุธชนิดนี้กันอยู่ โดยคุณไม่ทราบเลยว่า อันตรายใหญ่หลวงกำลังคืบคลานมาหา หากมีผู้นำพลังนี้ไปใช้ในทางที่ผิด

    ที่น่าสนใจก็คือ คลื่นแม่เหล็กลองจิทูดินัลนั้น ไม่ได้เป็นการค้นพบใหม่ดังที่เข้าใจ นิโคล่า เทสล่า ( Nikola Tesla ) ได้ค้นพบและศึกษามันมาตั้งแต่ครึ่งแรกของศตวรรษที่แล้ว แต่ความที่เขาเป็นนักวิทยาศาสตร์วิตกจริต กลัวว่าการค้นพบครั้งใหญ่ของเขา จะมีผู้ไม่ประสงค์ดีขโมยไป ข้อมูลต่างๆจึงถูกเก็บไว้เพียงแค่ในสมองของเขา โดยไม่มีการเขียนบันทึกใดๆทั้งสิ้น สิ่งเดียวที่เหลือไว้เมื่อเขาจากไปคือ “เครื่องสังเคราะห์พลังไฟฟ้าเทสล่า” ( Tesla turbine ) ที่สารถทำให้รถยนต์วิ่งได้ฉิวด้วยพลังไฟฟ้า ยังไงก็ตามเมื่อเขาสิ้นลมลง รัฐบาลรัสเซียได้เข้ากวาดยึดบันทึกต่างๆของเขาไปจนหมดสิ้น และแล้วทุกอย่างก็กลายเป็นความลับไป คงไม่มีใครอยากให้ความลับนี้รั่วไหลเป็นแน่แท้ โดยเฉพาะผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ ไม่ต้องการให้มวลมนุษย์ได้สัมผัสกับพลังงานที่ไม่ต้องเสียเงินซื้อนี้ เพราะนั่นหมายความว่า เหล่าราชาน้ำมันจะกลายเป็นนักธุรกิจที่ไร้ค่าไปในทันที

    ด้วยพลังคลื่นแม่เหล็กสกาล่าร์ สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ก็สามารถเป็นไปได้ แม้แต่การเปลี่ยนสถานะสารต่างๆก็บังเกิดขึ้น คลื่นความถี่อันตรายต่างๆ สามารถเปลี่ยนเป็นคลื่นความถี่ที่ปลอดภัยได้หมด วิทยาศาสตร์ยุคใหม่จะสามารถไขความลับของแรงดึงดูด นั่นหมายความว่า แม้แต่ยานอวกาศ UFO ที่ต่อต้านแรงดึงดูด ก็สามารถผลิตได้ และแม้แต่โรคร้ายอย่างมะเร็งและเอดส์ ก็จะกลายเป็นเรื่องเล็กไป

    [​IMG]


    ประโยชน์หลักๆ ๔ อย่างของ “พลังคลื่นแม่เหล็ก สกาล่าร์” มีดังนี้
    • แก้ปัญหาพลังงานและน้ำมันขาดแคลน เพราะน้ำมันจะไม่ใช่สิ่งจำเป็นอีกต่อไป เมื่อมีพลังงานแม่เหล็กให้ใช้ทดแทนกันฟรีๆ
    • อาวุธแสนยานุภาพสูงเกินคำบรรยายจะกลายเป็นเรื่องจริง ซึ่งจริงๆแล้วประเทศมหาอำนาจต่างๆก็เริ่มศึกษาและนำไปใช้กันแล้ว โดยความรุนแรงของมันนั้น มากมายเกินกว่าที่คาดคิด
    • โรคร้ายต่างๆนาๆ จะสามารถรักษาให้หายขาดได้ง่ายๆในระยะเวลาไม่กี่ปีหลังจากที่มีการมอบทุนค้นคว้า เกี่ยวกับการรักษาด้วยพลังคลื่นแม่เหล็กนี้
    • การควบคุมจิตฝูงชนจำนวนมาก ( Mind Control ) สามารถทำได้ ซึ่งเครื่องมือสำหรับการนี้ได้ถูกเตรียมไว้แล้วในหลายประเทศ
    ความเป็นไปได้อีกประการหนึ่ง คือการรักษาพยาบาล การใช้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ารักษาโรคแทนยา เพราะมันสามารถเข้าไปเสริมสร้างพลัง ทำให้ร่างกายกลับมาแข็งแรงขึ้นได้ พลังงานมหัศจรรย์นี้อยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ ว่ามนุษย์จะพัฒนาเป็นพลังงานฟรีให้ทุกคนได้ใช้กัน หรือจะพัฒนาเป็นอาวุธมหาประลัย อย่างไรก็ตามหากรัฐบาลยังปิดบังความรู้เกี่ยวกับพลังงานนี้ไว้ สงครามน้ำมันและการแย่งชิงเพื่อยึดครองแหล่งน้ำมัน ก็ยังจะเกิดขึ้นต่อไป ซึ่งจริงๆแล้ว หากนำค่าใช้จ่ายและงบประมาณต่างๆในการทำสงคราม มาใช้ในการวิจัยพลังแม่เหล็กไฟฟ้า ป่านนี้คนทั้งโลกคงได้พบพลังงานฟรีกันไปแล้ว ขณะนี้สหรัฐหมดเงินไปถึงเดือนละ ๔ พันล้านเหรียญเพื่อเอาใจบรรดาพ่อค้าน้ำมัน ที่ไม่ยอมให้พลังงานคร่ำครึหายไปจากโลกง่ายๆ

    การปกปิดความลับแห่งพลังงานคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าสกาล่าร์นี้ นับเป็นอาชญากรรมต่อมวลมนุษย์ที่ร้ายแรงที่สุด เพราะในขณะที่ทางรัฐเก็บงำมันไว้เป็นความลับ การพัฒนาอาวุธร้ายแรงจากพลังงานตัวนี้ก็ดำเนินไปเรื่อยๆ ด้วยพลังนี้ อาจจะนำพาโลกไปสู่จุดจบ หรืออาจพาไปสู่โลกอันสดใสที่มีพลังงานฟรีและไร้มลพิษ. ( แปลและเรียบเรียงโดย อัษฎา อาทรไผท )


    *****

    ข้อความที่น่าสนใจจากข้อความด้านบน

    คลื่นแม่เหล็กดังกล่าว ขับพลังออกมามหาศาลนิรันดร์ในมิติที่ ๔ บัดนี้สามารถสกัดออกมาสู่มิติที่ ๓ เพื่อใช้สร้างกระแสไฟฟ้า พลังการขับเคลื่อน กระทั่งนำมาใช้ในการรักษาโรคได้เกือบทุกชนิด นี่คือมิติใหม่ของพลังคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าสกาล่าร์ พลังงานแห่งความว่างเปล่าจากมิติที่ ๔ ที่มีมาก่อนกำเนิดโลก

    [​IMG]

    พลังงานใหม่นี้คือ “พลังแม่เหล็ก ลองจิทูดินัล” ( Longitudinal ) ซึ่งต่างจากคลื่นแม่เหล็ก “ทรานเวิร์ส” ( Transverse ) ที่เราพบในชีวิตประจำวัน จากโทรศัพท์มือถือ วิทยุ ทีวี ไมโครเวพ และอื่นๆ เพราะมันขับเคลื่อนมาในรูปแบบของมิติที่ ๔ที่ถูกบีบอัดในกาลเวลา ตามทฤษฎีของโรเบิร์ตไอน์สไตน์ ซึ่งเราสามารถสกัดพลังอภิมหาศาลออกมาใช้ได้

    [​IMG]

    พลังของมันจะนำพาเราไปสู่โลกแห่งความสุขสันติ ในขณะเดียวกัน อำนาจของมันก็อาจพาเราลงนรกได้เช่นกัน เพราะอภิมหาพลังนี้ได้เคยถูกนำไปใช้ผลิตอาวุธสงครามทรงอานุภาพมาแล้ว แสนยานุภาพของมันรุนแรงยิ่งนัก เพียงการยิงครั้งเดียวจาก “เทสล่า โฮวิทเซอร์” (Tesla howitzer) อาคารสูงระฟ้ามลายหายไปในพริบตา


    มันยังถูกใช้ประจำเพื่อเปลี่ยนแปลงสภาวะอากาศในอเมริกาเหนือ

    [​IMG]


    รัสเซียเป็นผู้ช่ำชองในการใช้พลังงานนี้

    ในขณะที่จีนกำลังศึกษามาติดๆ

    เมื่อทราบวิธีสร้าง “เทสล่า โฮวิทเซอร์”แล้ว มันไม่เป็นการยากและแพงเลยที่จะผลิตมันขึ้นมา กุญแจสำคัญก็คือ การรู้วิธีบังคับพลังงานแม่เหล็กนี้จากระยะไกล คุณอยู่ที่ไหนก็ได้ คุณสามารถยิงทำลายได้ทั่วปฐพี ด้วย “เทสล่า โฮวิทเซอร์” ทั่วโลกกำลังซุ่มพัฒนาอาวุธชนิดนี้กันอยู่ โดยคุณไม่ทราบเลยว่า อันตรายใหญ่หลวงกำลังคืบคลานมาหา หากมีผู้นำพลังนี้ไปใช้ในทางที่ผิด


    ( http://www.bioenergyfields.org/index.asp?SecId=4&SubSecid=44 )

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0 valign="top"><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0 valign="top"><TBODY><TR><TD vAlign=top>[​IMG] </TD></TR><TR><TD vAlign=top>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0 valign="top"><TBODY><TR><TD vAlign=top width="10%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=top width="90%"><!-- Select Section Level Content --><!-- Select Sub-Section Level Content --><!--first page--><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0 valign="top"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 border=0 valign="top"><TBODY><TR vAlign=top><TD vAlign=top></TD></TR><TR><TD>[FONT=verdana,arial,geneva]Bioscalar energy: The Healing Power[/FONT]


    </TD></TR><TR vAlign=top><TD vAlign=top></TD></TR><TR><TD>[FONT=verdana,arial,geneva]How to Create a Scalar Wave[/FONT]


    </TD></TR><TR vAlign=top><TD vAlign=top></TD></TR><TR><TD>[FONT=verdana,arial,geneva]CONSCIOUSNESS Descriptions and Definitions [/FONT]


    </TD></TR><TR vAlign=top><TD vAlign=top></TD></TR><TR><TD>[FONT=verdana,arial,geneva]The Human Energy Field and Sound Therapy Part 1 [/FONT]


    </TD></TR><TR vAlign=top><TD vAlign=top></TD></TR><TR><TD>[FONT=verdana,arial,geneva]The Human Energy Field and Sound Part 2: The Lost Chords [/FONT]


    </TD></TR><TR vAlign=top><TD vAlign=top></TD></TR><TR><TD>[FONT=verdana,arial,geneva]Understanding Emotions from the Wisdom Level [/FONT]


    </TD></TR><TR vAlign=top><TD vAlign=top></TD></TR><TR><TD>[FONT=verdana,arial,geneva]Emotional Energy Blocks to Health and Healing [/FONT]


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0 valign="top"><TBODY><TR><TD>[FONT=times, times new roman, serif]Bioscalar Energy: The Healing Power[/FONT]
    [FONT=verdana,arial,geneva]Valerie Hunt [/FONT]
    [FONT=verdana,arial,geneva]We have had many requests to (re)post this article written by Dr. Hunt in 2000. It is followed by an excerpt from her book Mind Mastery Meditations in which she first described how to create a scalar wave. [/FONT]
    [FONT=verdana,arial,geneva]Most leaders in the healing arts accept that all mass including the body is composed of atoms which operate electrically and that organized electromagnetic energy called fields is involved in all healing. Certainly I have contributed to these facts with my research describing the science of the mind-field reported in Infinite Mind and Mind Mastery Meditations books. But I had lingering questions about how an electromagnetic field with frequency patterns directly and instantaneously effects dense tissue like cells, organs and systems. [/FONT]
    [FONT=verdana,arial,geneva]Most of us have accepted elaborate deductions of how this happened. I believe when the field patterns become more ideal (healthy) the bodily tissue follows. Such thinking has led us to believe that the human mind with consciousness is master of the body and its behaviors. [/FONT]
    [FONT=verdana,arial,geneva]Somehow I rejected complex enfolded answers as to what is the power that creates the healing. My higher wisdom told me that the source of information I sought was simple, straightforward and profoundly encompassing. On a broader level I even entertained the idea presented by some physicists that there was another undiscovered energy that would be found to explain the mystical happenings of remote viewing, distance healing, teleportation and the powerful acts of the yogi masters who resist crushing forces. Invariably I sensed that the unknown energy I was seeking was related to the electromagnetic field that I had researched but that somehow it was different; it had new dimensions and properties. Woven into the philosophies of ancient cultures and religions, are forces called chi, psi, and life force. While I did not reject such beliefs, as a scientist I was looking for energy with power that carried tangible effects and could be created in and outside the body to fuse biological information with para-psychological knowing. [/FONT]
    [FONT=verdana,arial,geneva]Along this line my first new insights came while I observed, even participated, with some outstanding psychic surgeons. I was not interested in whether they removed bodily tissue or cured symptoms. I was only interested in did they open the body without pain and bleeding and close it up without leaving scars. During my work with them I put my fingers into their incisions and felt the intestines and periosteum of the person (familiar from my long experience teaching anatomy using cadavers). In one instance the psychic surgeon pushed unrolled gauze into an incision “to absorb the contaminations”. Before he closed the incision I took hold of the gauze and pulled it to one side. To my wonderment the skin and incision moved to that side. Only then was I convinced he had opened the body but I didn’t know how. [/FONT]
    [FONT=verdana,arial,geneva]Later came an amazing discovery. These men did not radiate electromagnetic energy through their auric field like healers do. The psychic surgeon’s bodies were like inert posts. Such was so strange that I had believed that I had lost my sensitivity to electromagnetism under the amazement that they had opened the body so easily. At that moment a world-renown animal psychic and healer, Samantha Khury, entered our small circle radiating her strong electromagnetic field. It was then that I recognized the energy created by the psychic surgeons was different from that created by good healers. What the energy was and how they created it was still a mystery for me. [/FONT]
    [FONT=verdana,arial,geneva]Weeks later my persistent questions and growing impressions fused. I realized that the psychic surgeons did not emanate an electromagnetic wave action. Somehow they did their dramatic work with a strong, huge but more passive energy. It was then that I remembered my contact with Tom Beardon and Eldon Byrd some 15 years ago at Psychotronics meetings. They lectured and wrote about scalar energy. Even then I grasped the importance of this information but I could not relate that energy to electromagnetism, my field of study. [/FONT]
    [FONT=verdana,arial,geneva]Before I share with you my excitement and personal discovery of Bioscalar Energy, the conscious ways to create it and its clinical results here is a brief summary about scalar energy. The term scalar was used by Nikola Tesla at the end of the last century as a part of powerful non-Hertzian energy (without frequencies) which he referred to as cosmic waves. Einstein gave reference to the scalar energies in the 1920’s. Yet even today modern physics textbooks and scholarly publications do not mention scalar energies. This is understandable. The electromagnetism that we know so much about has frequencies, wave action and motion that we can measure. Scalar energy is described to have zero frequencies, to be static, a stationary energy which therefore cannot be evaluated by our current frequency instruments. We do know how to create this energy but only its effects tell us that it exists in space and has power. [/FONT]
    [FONT=verdana,arial,geneva]During the Cold War Tom Beardon and Eldon Byrd, visionary and somewhat rebel physicists-engineers, discovered the Russian development of scalar standing energy and how it could be transported as a powerful weapon. This energy was created from high voltage generators. (Fortunately for the world it was never used destructively). [/FONT]
    [FONT=verdana,arial,geneva]Andrija Puharich, physicist, researching in Germany, developed a miniature milli-volt scalar generator. The ELF Co. of the USA refined his scalar module placing it in a “Teslar” wristwatch that created a standing energy to protect the wearer from destructive environmental radiation. [/FONT]
    [FONT=verdana,arial,geneva]What is Scalar Energy [/FONT]
    [FONT=verdana,arial,geneva]The literature states that the scalar is created when two common electromagnetic waves come together from two different converging vectors or angles; where the energy vectors meet the equal frequencies cancel each other leaving a standing or stationary energy. The space the scalar occupies is not a vacuum but alive with checked and balanced energies. The literature describes that it can be created by electromagnetic generators or naturally when similar frequency waves in the environment meet from two different vectors. Therefore, small random scalar energies are always present in the environment. [/FONT]
    [FONT=verdana,arial,geneva]I have discovered that when the Mind-Field™ is consciously focused, intent can direct electromagnetic frequencies to enter the body at opposite ends of a straight angle or line, i.e. front to back, up to down, right to left, placing scalar energy in the trunk, head and legs. I believe that the bioscalar is the sustained energy for healing that all successful healers create and direct. In the same way each of us can create the powerful resting bioscalar energy and by thought we can direct it to bodily areas and give it instruction to: eliminate pain, heal traumatized tissue, destroy disease and eliminate tumor growths. Certainly this is not a new thought to the healing arts, however the mechanism by which the mind creates and directs this energy is new and scientifically verifiable. [/FONT]
    [FONT=verdana,arial,geneva]Beardon believed that the scalar energy resided in the nucleus of the atom. How profound! If this is true, the bioscalar energy is deeper than cells, molecules, genes, and the DNA. It is a source energy that directly influences all tissue. Beardon further states that the scalar energy is a repository for information. Probably when human thought and intent make major changes in bodily tissue it occurs by creating and informing the scalar energy at the most microscopic level – the nucleus of the atom. [/FONT]
    [FONT=verdana,arial,geneva]After the energy starts pooling at the center of your body , this is where your intent takes over. Now consciously direct the energy to a location with information as to what it is to accomplish, such as: remove pain, clear trauma, destroy disease, rebuild degenerated tissue and absorb growths. You may change vectors to another plane. Depending on the severity of the health problem this procedure should be continued for 10 minutes to several hours. [/FONT]
    [FONT=verdana,arial,geneva]When healing another person it is best to increase and stabilize your own electromagnetic field first, followed by visualizing or hands-on treatment using the same procedure as creating a scalar in yourself. It is better to create the scalar for another person while exhaling. Many excellent healers create this bioscalar energy automatically without awareness or realization that they have manipulated the structure of electromagnetic waves. [/FONT]
    [FONT=verdana,arial,geneva]The scalar energy will increase in size up to a certain point if you continue creating it. When the internal pressure increases, the surface tension will lessen and the energy will expand in bodily tissue. Your intent can also start the expansion which continues until the energy is dissipated and returned to electromagnetism. You cannot store scalar energy indefinitely. If you need it you must re-create it. During the expansion phase the energy spreads out over molecules, cells, organs and systems. This is when healing takes place. Remember that the scalar energy is force by expansion. The human mind instructs it in its direction and its focus. [/FONT]
    [FONT=verdana,arial,geneva]How Does the Scalar Heal? [/FONT]
    [FONT=verdana,arial,geneva]1) Improving circulation. [/FONT]
    [FONT=verdana,arial,geneva]Research in 1950 at the Max Planck Institute in Germany found that when a mechanically created scalar wave was introduced into a petrie dish containing living cells, the cells separated, lost their clumping and became more active within the fluid medium. This is a significant finding. All disease, injury or degeneration is accompanied by swelling and stasis in blood and lymphatic circulation. The body’s healing substances are then immobilized. Apparently the expansion aspect of the scalar energy improves circulation by removing the pressures. We have found that the scalar energy remarkably reduces swelling. I doubt that this occurs from ionization of fluids because the zero-frequency of the scalar is not ionized. [/FONT]
    [FONT=verdana,arial,geneva]2) Improving chemistry. [/FONT]
    [FONT=verdana,arial,geneva]Puharich found improvement in the immune and endocrine systems from in vitro study of scalars. Rein did extensive biological studies using the Teslar watch. Lymphocytes exposed to the Teslar watch scalars increased proliferation by 75% compared to the same watch without a scalar coil. Using other scalar generators he discovered a modulation of basic biochemical communication between nerve cells. Byrd also showed scalar energy increased the strength of low-level EEG frequencies. Rein found individual differences in biological responses to both electromagnetic fields and scalar energy. Our research has shown that the individual’s signature pattern of the electromagnetic field, probably the coherency of the individual’s field, predicts the responsiveness to both energies. Furthermore, Rein questioned how much effect on biotissue could be uniquely attributed to the scalar wave since it exists in a larger electromagnetic field. [/FONT]
    [FONT=verdana,arial,geneva]Clinical Evidence of Bioscalar Healing. [/FONT]
    [FONT=verdana,arial,geneva]My students and I have used the bioscalar in healing for about 3 years. We have not encountered any illness, injury or surgery that the scalar energy did not help. The speed and completeness of recovery is outstanding. [/FONT]
    [FONT=verdana,arial,geneva]Injury [/FONT]
    [FONT=verdana,arial,geneva]Traumatic injuries, fractures, dislocations, subluxations, and bone spurs have been completely healed in approximately one quarter of the average time. With one person pulverized fractures, where bone setting was impossible, re-grew down normal pathways in five months. [/FONT]
    [FONT=verdana,arial,geneva]Acute pain ordinarily only relieved by codeine or morphine became tolerable with across-the-counter analgesics. [/FONT]
    [FONT=verdana,arial,geneva]Medical Conditions. [/FONT]
    [FONT=verdana,arial,geneva]The anticipated time for surgery was considerably shortened. Bleeding was minimized with low hemoglobin patients. Recovery seemed to be much faster and more complete. [/FONT]
    [FONT=verdana,arial,geneva]Healing of hyperactive nervous disturbances like skin rashes or shingles were cured or shortened to days not weeks. More serious hyperactive diseases like scleroderma were greatly improved. [/FONT]
    [FONT=verdana,arial,geneva]The debility and course of action of viruses and bacteria was shortened. During congestive pneumonia there was rapid improvement of breathing without the introduction of oxygen. [/FONT]
    [FONT=verdana,arial,geneva]Cancer patients reported improved tolerance to chemotherapy. [/FONT]
    [FONT=verdana,arial,geneva]A degenerative liver condition following hepatitis C was greatly improved. [/FONT]
    [FONT=verdana,arial,geneva]Cellular degeneration was eliminated with one patient, another improved through standing and walking. [/FONT]
    [FONT=verdana,arial,geneva]A patient with a massive stroke with poor prognosis continues to improve. [/FONT]
    [FONT=verdana,arial,geneva]Scalar energy was particularly effective with ill domestic animals. [/FONT]
    [FONT=verdana,arial,geneva]Releasing Emotion. [/FONT]
    [FONT=verdana,arial,geneva]Healers report more incidences of release of tissue held emotions when they activate the bioscalar. [/FONT]
    [FONT=verdana,arial,geneva]Two patients who learned to create their own scalar energy reported breaking a long drug adduction without withdrawal symptoms. [/FONT]
    [FONT=verdana,arial,geneva]Conclusions. [/FONT]
    [FONT=verdana,arial,geneva]Clinical results from our treating some common medical problems show that a combination of ordinary electromagnetic fields with bioscalar energy causes the fastest and most complete healing. The bioscalar energy adds the unique qualities of strength and sustaining power for enduring changes. [/FONT]
    [FONT=verdana,arial,geneva]The discovery of the bioscalar energy has many other pluses. It lets us know again the magnificence of the human mind to direct our destiny, to use our consciousness to create this powerful energy for healing self and others. It strengthens our security with independence from drugs Its only side effects are the improvement of health. [/FONT]
    [FONT=verdana,arial,geneva]My laboratory will explore the role of bioscalar energy in distance healing, remote viewing, telepathic communication and the feats of the masters to create “inhuman forces”. [/FONT]
    [FONT=verdana,arial,geneva]Bibliography [/FONT]
    [FONT=verdana,arial,geneva]Bearden, Thomas E., AIDS: Urgent Comments on Mankind’s Greatest Threat and the Secrets of Electromagnetic Healing, Journal of the United States Psychotronics Association, Volume I, Number 1, 1988. [/FONT]
    [FONT=verdana,arial,geneva]Byrd, Eldon, Why Life Responds To and Radiates 10 Hz, Journal of the United States Phychotronics Association, Volume II, Number 1, 1989. [/FONT]
    [FONT=verdana,arial,geneva]Puharich, A., Fourteenth United States Psychotronic Association Conference on Bioenergy, Dayton, OH, 1988. Rein, Glen, Biological Interactions with Scalar Energy – Cellular Mechanisms of Actions, Proceedings Seventh International Association Psychotronics Research, December, 1988. Rein, Glen, Utilization of Cell Culture Bioassay for Measuring Quantum Fields Generated from a Modified Caduceus Coil, Proceedings 26th Intersociety Energy Conversion Engineering Conference, Austin, TX, August, 1991.[/FONT]


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 สิงหาคม 2008
  5. energy.nano

    energy.nano สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    35
    ค่าพลัง:
    +3
    น้ำดื่ม pi

    <TABLE border=0 cellSpacing=3 cellPadding=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD><TD>น้ำพาย - 2.wmv 3.21 MB << คลิกเพื้อโหลด ดู VDO </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ( ความพิเศษ ของน้ำ pi สามารถเลี้ยง ปราน้ำจืด และ ปลาทะเล เลี้ยงอยู่รวมอยู่ในตู้ใบเดียวกันได้ )


    น้ำดื่ม Pi คือ น้ำที่มีกลุ่มโมเลกุลที่จับตัวกันในขนาดเล็กที่สุด และเรียงตัวกันอย่างเป็นระเบียบที่ช่วยส่งผ่านพลังงานและคุณค่าที่แท้จริงของน้ำไปยังร่างกาย
    NANOLOGY เทคโนโลยีการผลิตน้ำ Pi Water จากประเทศญี่ปุ่นมาเสริมสร้างสุขภาพที่ดี ด้วยกระบวนการผลิตที่สะอาดได้มาตรฐาน ซึ่งได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยา(อ.ย.) และการตรวจสอบคุณสมบัติทางเคมีและชีวภาพจากห้อง Lab มาตรฐานที่ได้รับการรับรองจาก สมอ.

    น้ำดื่ม Pi คือ น้ำที่มีกลุ่มโมเลกุล ที่จับตัวกัน ในขนาดเล็กที่สุด และเรียงตัวกัน อย่างเป็น ระเบียบ เพื่อช่วยส่งผ่านพลังงาน และคุณค่าที่แท้จริงของน้ำไปยังร่างกาย ซึ่งนอกจาก จะช่วยเพิ่มปริมาณแร่ธาตุ ยังก่อให้เกิดคลื่นพลังงาน ที่มีประสิทธิภาพ ในการปรับ การเรียงตัวใหม่ของโมเลกุลน้ำ จนเล็กในระดับ ที่จะซึมผ่านผนังเซลล์ ได้อย่างง่ายดาย ทำให้ง่ายยิ่งขึ้น ต่อการดูดซึมสารอาหารต่างๆ เข้าสู่ร่างกาย และด้วยคุณสมบัติ ครบถ้วนของน้ำที่ดี จึงทำให้ PI เป็นได้มากกว่าน้ำดื่มทั่วไป


    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=5 width=500 align=center><TBODY><TR><TD colSpan=3>[​IMG]</TD></TR><TR><TD class=txbodycolor01 vAlign=top width=149 align=middle>โมเลกุลของน้ำ Pi สามารถผ่านเข้าผนังเซลล์ อย่างเป็นระเบียบ </TD><TD class=txbodycolor01 vAlign=top width=180 align=middle>กลุ่มโมเลกุลน้ำชนิดอื่น เข้าผนังเซลล์อย่างลำบาก </TD><TD class=txbodycolor01 vAlign=top width=151 align=middle>น้ำ Pi ในเซลล์รวมตัวกัน เพื่อกำจัดของเสีย </TD></TR></TBODY></TABLE>


    *...เพราะน้ำคือยา

    ค่า ORP ประจุลบ ในน้ำดื่ม Pi ช่วยต่อต้าน และขจัดสาร อนุมูลอิสระ (Antioxidant) ซึ่ง เป็นสาเหตุหลัก ของการเกิดมะเร็ง เพราะจากผลวิจัย ของนายแพทย์ชาวญี่ปุ่น ชี้ให้เห็นว่า ร่างกายของคนเรา ถูกโจมตีโดยอนุมูล อิสระ (Free Radical) ตลอดเวลา เนื่องจากสิ่งปนเปื้อน ที่เป็นต้นเหตุสำคัญ ของการเกิดอนุมูลอิสระมีอยู่ทั่วๆ ไป ทั้งในอากาศที่เราหายใจ อาหารที่เรากิน และน้ำที่เราดื่ม ซึ่งจะแทรกซึม เข้าไปทำลายภูมิต้านทาน ของร่างกายให้อ่อนแอ และจากการวิจัย ค้นคว้ามากมาย เพื่อหาวิธีเอาชนะมะเร็ง วิธีที่เชื่อว่า ได้ผลดีที่สุด คือการให้ออกซิเจน กับเซลล์ เพื่อให้เซลล์ใช้ต่อสู้มะเร็ง ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่มีอยู่ในน้ำดื่ม Pi

    *...เพราะน้ำเป็นสื่อ นำพาสารอาหาร และแร่ธาตุทุกชนิด เข้าสู่ร่างกาย เพื่อผ่านกระบวนการ ที่จะนำไปใช้ประโยชน์

    น้ำดื่ม Pi สามารถนำพาของเสีย หรือสารพิษ ที่ตกค้างในเซลล์ ออกมาได้มากขึ้น (Detox) ส่งผลให้เซลล์ ในร่างกายของเรา สดชื่นขึ้นเพราะได ้ออกซิเจนแข็งแรง เพราะได้สารอาหาร และสะอาดขึ้น เพราะได้ขับของเสีย ออกจากเซลล์ทุกวัน ทั้งหมดนี้ ล้วนพิสูจน์ได้จาก ผิวพรรณสดใส แลดูอ่อนเยาว์ และร่างกาย ที่สดชื่นแข็งแรงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด นี่คือเหตุผลว่า ไม่เพียงแต่ต้อง พิถีพิถัน กับการเลือกอาหาร แต่ทำไมคุณ ยังต้องใส่ใจเป็นพิเศษ กับการเลือกน้ำดื่ม ที่มั่นใจได้ว่าสะอาด ปลอดภัย และมีคุณภาพอย่างแท้จริง



    [​IMG]
    Pi
    ด้วยกลุ่มโครงสร้างโมเลกุลขนาดเล็ก และการเรียงตัวที่เป็นระเบียบ ของ Pi water ทำให้ละอองน้ำซึมเข้าสู่ผิวอย่ารวดเร็ว Pi อุดมไปด้วยแร่ธาตุที่มีประโยชน์ในการบำรุงผิวหน้า
    ปราศจาก น้ำหอมและแอลกอฮอล์ที่เป็นอันตรายต่อผิวจึงไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นของผิว และช่วยปรับสมดุลสภาพผิว
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • PI.jpg
      PI.jpg
      ขนาดไฟล์:
      70.4 KB
      เปิดดู:
      8,498
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กุมภาพันธ์ 2009
  6. energy.nano

    energy.nano สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    35
    ค่าพลัง:
    +3
    SCALAR ENERGY RELEASE PAIN!!!!

    [​IMG]

    Specification as below:


    <TABLE style="MARGIN-LEFT: auto; WIDTH: 862px; MARGIN-RIGHT: auto; HEIGHT: 203px; TEXT-ALIGN: left" cellSpacing=1 cellPadding=1 border=1><TBODY></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=1 cellPadding=1 width=619 align=center border=1><TBODY><TR><TD style="FONT-FAMILY: Arial; TEXT-ALIGN: left">Design:</TD><TD style="FONT-FAMILY: Arial" width=419>Scalar Energy STAINLESS STEEL Quantum Pendant</TD></TR><TR><TD style="FONT-FAMILY: Arial; TEXT-ALIGN: left">Material:</TD><TD style="FONT-FAMILY: Arial" width=419>STAINLESS STEEL</TD></TR><TR><TD style="FONT-FAMILY: Arial; TEXT-ALIGN: left">LP005 Diameter:</TD><TD style="FONT-FAMILY: Arial" width=419>43mm X 6mm</TD></TR><TR><TD style="FONT-FAMILY: Arial; TEXT-ALIGN: left">Energy Inside The Pendant:
    </TD><TD style="FONT-FAMILY: Arial" width=419>Scalar Energy, Alpha Energy, Theta Energy</TD></TR><TR><TD style="FONT-FAMILY: Arial; TEXT-ALIGN: left">Demonstration:</TD><TD style="FONT-FAMILY: Arial" width=419>Flexibility demo Immediately Stability demo Immediately
    Balancing demo Immediately
    Strength demo Immediately
    </TD></TR><TR><TD style="FONT-FAMILY: Arial; TEXT-ALIGN: left">Remarks: </TD><TD style="FONT-FAMILY: Arial" width=419>A. The Water molecule is become smaller by putting it on the Scalar Energy Quantum Pendant after awhile. B. The Cigarette become tasteless by putting it on the Scalar Energy Quantum Pendant after awhile.
    C. Improving the taste of coffee and tea by putting Scalar Energy Quantum Pendant after awhile.
    </TD></TR></TBODY></TABLE>​

    What is Scalar Energy?
    Scalar Energy is a subtle energy that can be harnessed to produce healing energy frequencies – frequencies that are beneficial to our health. Existed since the beginning of time, its first proposed by Scottish Mathematician James Clark Maxwell in the mid of 1800's and its existence was first demonstrated by Nicola Tesla towards the end of the 19th century. It was only until recently that Science was able to positively demonstrate its existence and explore & harness it for health purposes.
    Scalar is created when two common electromagnetic waves come together from two different converging vectors or angles; where the energy vectors meet the equal frequencies cancel each other leaving a standing or stationary energy. The space the scalar occupies is not a vacuum but alive with energies. Scalar energies are always present in the environment. Conceptually, Scalar energy may perceive to have zero frequencies, it is a static, a stationary energy form which cannot be evaluated by our current frequency instruments.
    The Chinese have for thousands of years recognized this Energy form, which they called Qi (also spelled Ch’I in its simplified form). Qi which means life energy, life force or spiritual energy and it is a fundamental concept of traditional Chinese culture. This Energy is often translated as energy flow or literally as air or breath.

    Life is characterized by energy. All cells produce and maintain an electrical charge across their membranes. Nerve impulses are actually small electric currents. Contraction of muscles is caused by the creation of chemical energy. Enzymes, proteins that speed up and facilitate the breakdown of food particles, clearing and repair of injured tissues, and specialized activities within cells, have been described as carriers of energy.

    Energy itself isn’t good or bad, but it can be used in ways that help or harm. Electric currents can be used to stimulate inactive muscles and promote healing, or they can be used to execute people. Lasers can be used to improve vision, or to blind enemy combatants. Nuclear energy can be used to eliminate cancerous growths, or to destroy entire cities. It all depends on how the energy is used.

    The forms of energy we are familiar with include light, heat, sound, and electricity. These types of energy have both particle and wavelike properties, and they can be measured in terms of amplitude and frequency. They are known as transverse waves. Magnetism is an energy field that surrounds a moving electrical current, and can be detected by its effect on conductive metals.

    Scalar energy is closer in its properties to magnetism. It is composed of 5-dimensional standing waves. Instead of being focused in beams or running along wires, it tends to fill its environment. It does not lose intensity as it moves away from the source, which is not true of magnetism or heat. It passes through solid objects and implants its signature on them. This means that scalar energy can embed itself into supplement products, and that energy can be transferred into your body’s cells when you ingest scalar enhanced supplements. Also, scalar energy can regenerate and repair itself indefinitely, so once the energy is embedded in your body, you can keep it there by regular ingestion of scalar enhanced products.


    Scalar energy cannot be measured directly, since that would involve trying to measure something that is 5-dimensional with 3-dimensional equipment (or 4-dimensional, if time is factored in). However, its effect on objects into which it has been embedded can be strikingly demonstrated.
    Differences between Scalar Energy and Electrical, Magnetic, Sound & Light Energy
    • <LI class=MsoNormal>
      Scalar Energy is more field like and tends to fill the environment.
      <LI class=MsoNormal>
      It is capable of passing through solid objects with no loss of intensity.
      <LI class=MsoNormal>
      It has the unique ability to regenerate and repair itself indefinitely.
      <LI class=MsoNormal>
      It implants its signature on solid objects more strongly than most other electromagnetic energies.
      <LI class=MsoNormal>
      The effects of Scalar Energy are cumulative i.e. they get stronger with time.
      <LI class=MsoNormal>
      It’s entered your body faster and work better than comparable non-enhanced products.
      <LI class=MsoNormal>
      Transfer health-promoting energy to every cell in your body.
      <LI class=MsoNormal>
      Because the electrical charge across cell membranes is optimized, nutrients move in and wastes move out of the cells at peak efficiency.
      <LI class=MsoNormal>
      The more scalar-enhanced products one consumes and the more often they are consumed the more profound the effect, which is cumulative.
    • Finally Scalar Energy is capable of imprinting itself on human DNA.
    How can Scalar Energy benefit our health?
    • <LI class=MsoNormal>
      It eliminates the negative effects of man-made frequencies in the body by neutralizing such frequencies. Man-made frequencies are frequencies in the 60 count per second range which make us weak, tired, sleepy, sickly etc
      <LI class=MsoNormal>
      It increases the energy level of every single cell in the body to the healthy 70-90 mill volt range. In doing so, it relieves fatigue, tiredness and rigidity and may even prevent or reverse cancer cells as cancer cells are, almost without exception, low voltage cells (15-20millivolt range).
      <LI class=MsoNormal>
      It protects cell DNA from damage by increasing the energy of hydrogen bonds that hold DNA together.
      <LI class=MsoNormal>
      It improves cell wall permeability, allowing nutrients and antibodies to get into cell and waste matters to get out easier. In other words, it enhances both the body’s nutrient uptake & detoxification process.
      <LI class=MsoNormal>
      It improves blood circulation, regulates blood pressure and improves blood profile.
      <LI class=MsoNormal>
      It strengthens the immune functions by up to 149%.
      <LI class=MsoNormal>
      It improves mental focus & clarity.
    • It alleviates depression by inhibiting the reuptake of noradrenalin.
    How Scalar Energy Product works?
    The Scalar Energy Products generates a high-density scalar wave matrix, which is a coherent field of zero-point energy proven to boost human cell regeneration, immune functions, and neurotransmitter functions. This coherent field entrains and reconditions the mind/body to return to its optimal functioning.
    The Scalar Energy does this by creating a vibrational shift towards one's original, natural, light/energy matrix, one in which we are undisturbed by the resistance of conscious and subconscious belief structures, thought forms and emotional conditions.
    Upon entering the scalar energy field a spontaneous bio-resonant process is initiated that entrains the mind/body cellular consciousness to manifest and function at its highest potential of coherence and divinely orchestrated orderliness. To realize, manifest and live a life of unbounded longevity requires the mind/body consciousness to enter a state of functioning beyond relative time and space. This state is created in the Scalar Wave field.

    Scalar energy is a unique form of energy that will embed itself into objects in its field. Objects such as the AD Scalar Energy products thus become carriers of this energy. When these products are ingested, the healthy energy is transferred to cells where the component nutrients end up. One of the key benefits this provides is that it helps keep the electrical charge across cell membranes at an optimal level. This means that nutrients move in and wastes move out of cells at peak efficiency, with obvious benefits to the functioning of the cells.


    Scalar energy has some other amazing properties. It can actually be stronger weeks or months after being embedded into high quality products. It repairs itself after disruptive exposure to X-rays. It passes itself on to products or items placed nearby. It can cancel out the harmful effects of 60 cycle currents as we have in homes and buildings, electromagnetic fields, radiation, and microwaves.

    What are Original Scalar Energy Quantum Pendant?
    Original Scalar Energy Quantum Pendant Scalar Energy Technology comes from Korea, by using Proprietary Scalar Embedding Technology to embed the Scalar Energy.
    The main frequencies embedded in Original Scalar Energy Quantum Pendant are:
    • <LI class=MsoNormal>
      7.8 HZ to 8 HZ range
    • 12 HZ
    These two core scalar frequencies are amongst the most beneficial to the human body. It is a subtle energy that can be harness to produce healing energy frequencies that came through while experimenting with violently abrupt direct current electrical charges.

    ภาพข่าวจากหนังสือพิมพ์ต่างประเทศ

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 พฤศจิกายน 2008
  7. energy.nano

    energy.nano สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    35
    ค่าพลัง:
    +3
    ความรู้เรื่องแสงออร่า

    http://www.dtam.moph.go.th/alternative/viewstory.php?id=112



    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=5>[​IMG] <MAP name=Map><AREA shape=CIRCLE target=_self alt=Home coords=46,42,39 href="index.php"></MAP></TD></TR><TR><TD vAlign=top width=34 height=52> </TD><TD vAlign=top borderColor=#ffcc66 width=102 bgColor=#ffffff> </TD><TD vAlign=top borderColor=#ffcc66 bgColor=#ffffff colSpan=2>
    </TD><TD width=162> </TD></TR><TR><TD vAlign=top height=19> </TD><TD vAlign=top borderColor=#ffcc66 bgColor=#ffffff> </TD><TD vAlign=top borderColor=#ffcc66 align=right width=532 bgColor=#ffffff> </TD><TD vAlign=top borderColor=#ffcc66 align=right width=20 bgColor=#ffffff> </TD><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top borderColor=#ffcc66 bgColor=#ffffff>

    [​IMG]



    </TD><TD vAlign=top borderColor=#ffcc66 bgColor=#ffffff colSpan=2><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="98%" border=0><TBODY><TR><TD> </TD><TD align=right>วันที 28 - พ.ย.- 51</TD><TD> </TD></TR><TR><TD> </TD><TD align=right> </TD><TD> </TD></TR><TR><TD> </TD><TD align=right>
    551: การสัมมนาวิชาการแพทย์ทางเลือก เรื่อง สมาธิบำบัด
    </TD><TD> </TD></TR><TR><TD> </TD><TD align=right> </TD><TD> </TD></TR><TR><TD width="6%"> </TD><TD align=right width="93%">โดย : อ.สถิตธรรม เพ็ญสุข</TD><TD width="1%"> </TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD> </TD><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD> </TD><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD>
    สรุปการบรรยายสัมมนาวิชาการด้านการแพทย์ทางเลือก
    เรื่อง "สมาธิบำบัด"
    โดย อ.สถิตธรรม เพ็ญสุข
    วันที่ 16-17 มีนาคม 2548
    เวลา 09.00-16.00 น.
    ณ อาคาร DMS 6 ชั้น 1 กองการแพทย์ทางเลือก


    <DD>“แสงออร่า”ของคน เป็นแสงรัศมีที่ล้อมรอบกายหยาบอยู่ทุกทิศทาง แสงออร่ามี 3 มิติ คนที่มีสุขภาพแข็งแรง แสงออร่าจะเป็นรูปกลมรี หรือรูปไข่ล้อมรอบกายหยาบ ซึ่งคนทั่วไปมีแสงออร่าล้อมรอบประมาณ 8-10 ฟุต ผู้นำศาสนาโบราณสามารถแผ่รัศมีได้หลายไมล์ เป็นเหตุให้เขาสามารถชังจูงสานุศิษย์ชุมนุมในบริเวณที่เขาเดินทางไป

    <DD>- ยิ่งสุขภาพกาย สุขภาพใจดีเท่าไหร่ แสงออร่าก็ยิ่งมีความสั่นสะเทือนมาก และแผ่รัศมีได้ไกลขึ้น แสงออร่ายิ่งสั่นสะเทือนมาก เราจะยิ่งมีพลังทำสิ่งที่ต้องทำและอยากทำมากขึ้น และยิ่งได้รับผลกระทบจากพลังภายนอกน้อยลง

    <DD>- แสงออร่ายิ่งอ่อน ก็ยิ่งทำให้พลังภายนอกเข้ามาก่อกวนง่ายขึ้น ทำให้เราถูกครอบงำและเหน็ดเหนื่อยมากขึ้น แสงออร่าที่อ่อนแออาจส่งผลให้เราล้มเหลว เจ็บป่วย และไม่ประสบความสำเร็จในชีวิต

    <DD>“แสงออร่า” หรือแสงรัศมีของคนมี 2 ลักษณะ แสงนั้นรวมถึงพลังจากกายทิพย์ด้วย กายทิพย์เป็นแนวพลังที่มีความเข้มแตกต่างกัน ล้อมรอบและแทรกซึมอยู่ในกายหยาบ มีหน้าที่สำคัญในการช่วยประสานและดูแลกิจกรรมกายวิญญาณในกายหยาบ กายทิพย์เป็นเพยงส่วนหนึ่งของแสงออร่าเท่านั้น
    ลักษณะของแสงออร่า

    <DD>1. แสงออร่าของแต่ละคนมีความถี่ไม่เหมือนกัน <DD>2. แสงออร่าของเราจะสัมพันธ์กับแสงออร่าของคนอื่น <DD>3. แสงรัศมีของคนสัมพันธ์กับแสงรัศมีของสัตว์ พืช แร่ธาตุ และสิ่งอื่นๆ ด้วย <DD>4. ยิ่งติดต่อกันใกล้ชิดและยาวนาน จะยิ่งมีการแลกเปลี่ยนพลังกันมากขึ้น <DD>5. แสงออร่าและการเปลี่ยนแปลง มีผลต่อร่างกาย อารมณ์ จิตใจ และวิญญาณของบุคคล
    การอ่านแสงออร่า

    <DD>1. สีที่อยู่ใกล้ร่างกายมากที่สุดมักบ่งบอกถึงสภาพและพลังของร่างกาย สีที่อยู่ห่างออกไปบ่งบอกถึงอารมณ์ จิตใจ และจิตวิญญาณที่ส่งผลกระทบต่อสีของร่างกายได้ <DD>2. สียิ่งสดใสและเย็นตาก็ยิ่งดี สียิ่งหนาทึบและขุ่นมัวก็ยิ่งแสดงถึงความไม่สมดุล การทำงานมากเกินไป และปัญหาที่เป็นไปได้อื่นๆ ตรงตำแหน่งที่สีนั้นปรากฏอยู่ <DD>3. สีเข้มๆ แต่สดใสก็บ่งบอกถึงระดับพลังที่สูงได้เช่นกัน การมีสีเข้มไม่จำเป็นต้องไม่ดีเสมอไป <DD>4. แสงออร่ามักมีมากกว่าหนึ่งสี โดยแต่ละสีจะบอกถึงเรื่องที่แตกต่างกันไป เราต้องเรียนรู้ว่าสีที่ต่างกันนี้ส่งผลอย่างไร และผลของสีที่ผสมกันเป็นอย่างไร <DD>5. เมื่อเรามองเห็นออร่าผู้อื่น ให้จำไว้ว่า เรากำลังมองผ่านแสงออร่าของเราเอง และการอ่านออร่าคนอื่น จำเป็นต้องรู้จักออร่าตนเองก่อน ถ้าแสงออร่าเรามีเหลืองเป็นส่วนใหญ่ คนอื่นสีน้ำเงินเราอาจเห็นเป็นสีเขียว ปรับเปลี่ยนไปตามจิตใต้สำนึก จึงอย่างด่วนสรุป <DD>6. อย่าตัดสินใจคนด้วยสิ่งที่เห็นจากแสงออร่า <DD>7. เรียนรู้การใช้จิตในการอ่านแสงออร่า สีและความชัดเจนบ่งบอกถึงสิ่งที่แตกต่างกันทั้งสิ้น <DD>8. แสงออร่าเปลี่ยนแปลงอยู่บ่อยครั้ง อารมณ์ การใช้ร่างกายและจิตอย่างหนัก ส่งผลต่อแรงสั่นสะเทือนของสีและแสงออร่า แสงออร่าเปลี่ยนแปลงไปเมื่อเราอายุมากขึ้น เมื่อเราพัฒนาความสามารถในการมองแสงออร่า เราจะพบว่า แต่ละคนจะมีสีเด่นเพียงสีเดียวหรือหลายสี (แม้โทนสีอาจเปลี่ยนไป) ที่ปรากฏอย่างต่อเนื่อง สีที่รองลงมาและความเกี่ยวข้องกันของสีหนักและสีรอง <DD>9. สีและโทนสีที่เราเห็นมักจะเป็นสีเทาหรือน้ำเงินอ่อน ฝึกไปเรื่อยๆ ก็จะมองเห็นเอง อย่ากำหนดเวลาให้ตนเอง แต่ควรฝึกทุกวัน จะเห็นความเปลี่ยนแปลงภายใน 4-6 สัปดาห์ อย่างน้อยที่สุดเราจะเริ่มมองเห็นแสงออร่า แม้ว่าจะยังไม่เห็นสี <DD>10. เมื่อเราพัฒนาความสามารถในการมองออร่า จำไว้ว่า เราไม่มีสิทธิ์เข้าไปยุ่งกับพลังของผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต เราต้องใช้ความสามารถในการมองออร่าอย่างมความรับผิดชอบ
    </U>แบบฝึกหัดให้เห็นแสงออร่า</U>

    <DD>1. การมองยอดขอบไม้ตัดกับท้องฟ้า <DD><DD>1.1 นอนหงายบนสนามหญ้าที่ไร้เมฆหมอก <DD><DD>1.2 มองต้นไม้ที่อยู่ไกลออกไป ไล่จากโคนไปยังยอดไม้ <DD><DD>1.3 เพ่งเส้นขอบยอดไม้ที่ตัดกับท้องฟ้า อย่าเพ่งให้มากนัก ให้ทำสบายๆ พยายามดูรายละเอียดท้องฟ้าให้มากที่สุด แล้วเปลี่ยนเป็นมองผ่านๆ <DD><DD>1.4 เราเริ่มรู้สึกถึงความสลัวลางๆ ตรงเส้นขอบยอดไม้ ให้สังเกตเฉยๆ จะเห็นสีที่อ่อนใสกว่าสีท้องฟ้าไกลโพ้น ล้อมเป็นกรอบ เห็นได้ชัดในฤดูใบไม้ผลิ เมื่อพลังชีวิตของต้นไม้ได้รับการกระตุ้น โดยมีพลังและการเติบโตจากรากถึงยอดไม้ เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของแสงออร่าของต้นไม้
    <DD>2. การมองแสงออร่าของผู้อื่น <DD><DD>2.1 ให้เพื่อนยืนพิงพนังโล่งสีขาวๆ หากเริ่มฝึก ให้ใช้ห้องที่มีแสงสลัว จะเห็นผลมากกว่า เรายืนหรือนั่งห่างออกไป 8-10 ฟุต แต่ต้องเห็นเพื่อนตั้งแต่หัวจรดเท้า รวมทั้งบริเวณรอบๆ ตัวเขาด้วย <DD><DD>2.2 เพ่งสายตาอยู่ที่หน้าผากของเพื่อน จากจุดนี้ให้มองรอบตัวเพื่อตามเข็มนาฬิกา ทำให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้หลายๆ ครั้ง เพื่อเป็นการกระตุ้นโคนและรอดในดวงตา <DD><DD>2.3 กลับมาเพ่งที่หน้าผาก หรือที่จุดที่สูงที่สุดนานอีกประมาณ 15-30 วินาที <DD><DD>2.4 เปลี่ยนการเพ่งมองมาเป็นการมองรอบตัวเพื่อน แล้วสังเกตนิ่งๆ แสงออร่าที่ศีรษะและที่หัวไหล่มักปรากฏชัดกว่าที่อื่น ให้ทำซ้ำๆ เท่าที่จำเป็น เราจะเริ่มมองเห็นแสงออร่าของผู้อื่น
    การเสริมพลังออร่า

    <DD>1. แสงแดด <DD>2. การออกกำลังกาย <DD>3. อากาศบริสุทธิ์ <DD>4. การรับประทานอาหารน้อยๆ แต่บ่อยๆ การรักษาลำไส้ให้สะอาด <DD>5. การทำสมาธิ <DD>6. ดนตรี / การร้องเพลง <DD>7. กลิ่นหอม – เครื่องหอม / น้ำมันหอม / หญ้าหางหนูผสมกับหญ้าหวาน / กำยาน / กลิ่นการ์ดิเนีย <DD>8. คริสตัล และหิน
    การปกป้องแสงออร่า

    <DD>เทคนิคที่ 1 การป้องกันไม่ให้สูญเสียพลัง
    <DD>ปิดวงจรพลังของเรา ด้วยการนั่งไขว้ข้อเท้าและแตะนิ้วมือเข้าหากัน (เพียงแตะนิ้วโป้งและนิ้วชี้ก็ได้) วงจรพลังของเราก็จะปิดลง พลังก็ไม่ออกนอกตัวเรา <DD>เทคนิคที่ 2 การหายใจเพื่อพลัง
    <DD>- อากาศบริสุทธิ์และการหายใจอย่างถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญ <DD>- ฝึกหายใจ ที่เรียกว่า “ไอดา-พิงกาละ” และความสมดุลของการหายใจ เรียกว่า “สุสุมนา” ช่วยเพิ่มพลังให้แสงออร่าอย่างรวดเร็ว ทำขั้วแม่เหล็กร่างกายสมดุล เพิ่มความจดจำข่าวสาร ทำให้สมองสองซีกสมดุล และกระตุ้นพลังระหว่างกัน เป็นการหายใจเข้าด้วยจมูกข้างหนึ่งกลั้นไว้ หายใจออกทางรูจมูกอีกข้าง ทำอย่างน้อยข้างละ 4-5 ครั้ง การทำเช่นนี้จะทำให้พลังแทรกซึมไปทั่วร่างกายและแสงออร่าได้เร็วขึ้น <DD>เทคนิคที่ 3 กระแสวนเพื่อการชำระล้าง
    <DD>ช่วยขจัดเศษซากพลังออกไป ทำให้ไม่มีการสะสมและสร้างความสมดุลขึ้นภายในแสงออร่า ใช้เวลาเพียง 5 นาที
    <DD>1. นั่งลงและผ่อนคลายร่างกาย หายใจตามเทคนิคที่ 2 จะสวดมนต์ก่อนก็ได้ <DD>2. นึกถึงภาพดวงไฟเล็กๆ สีขาวใสหมุนวนเริ่มก่อตัวขึ้น เหมือนพายุทอนาโดลูกเล็กๆ ขณะที่เริ่มเป็นรูปกรวย ขยายดวงไฟให้ใหญ่ขึ้นพอที่จะล้อมรอบแสงออร่าของเราได้ ปลายกรวยเคลื่อนลงมาที่กระหม่อมไปตามฐานกลางของร่างกาย <DD>3. ต้องหมุนตามเข็มนาฬิกา เมื่อสัมผัสกับแสงออร่าของเรา ให้นึกว่ากระแสนั้นดูดซับและเผาไหม้เศษซากพลังที่สะสมอยู่ <DD>4. ให้มอง รู้สึกและจินตนาการว่า กระแสนี้ได้เคลื่อนลงมาผ่านแสงออร่าและตัวเราทั้งหมด เป็นการชำระล้างพลังจากภายนอกที่พอกพูนอยู่ตลอดวันให้หมดสิ้นไป <DD>5. เมื่อกระแสวนนี้เคลื่อนผ่านตัวเรา ให้ปล่อยให้พลังนี้ออกไปจากตัวเราทางเท้าลงไปยังใจกลางโลก มองตามกระแสวนที่นำเศษซากพลังลงไปยังภพที่อยู่ต่ำลงไป เพื่อเอาไปใช้ประโยชน์ในการชีวิตเบื้องล่างในโลกนี้
    <DD>
    ออราลิน (Auralin Therapy)</B>
    <DD>เป็นการวมกันของ 2 ศาสตร์ ของวิถีตะวันออกและวิถีตะวันตก ศาสตร์แรกก็คือ ออร่า (Aura) ออร่า คือ การรักษาโรคด้วยการใช้แสง ใช้สมาธิ ใช้มือในการบำบัดคนด้วยรัศมีรอบๆ ที่เรียกว่า รักษาคลื่นแม่เหล็ก เพื่อให้เกิดความสมดุลของประจุบวก/ลบ ซึ่งมนุษย์เรามีรังสีแม่เหล็กอยู่ในตัวเอง แต่เราจะมองไม่เห็นแสงออร่าที่ว่านี้ หรือบางคนเขาเรียกว่า “กายทิพย์” นั่นเอง รักษากายทิพย์โดยการใช้มือ ซึ่งศาสตร์นี้ทำในยุโรป ในอเมริกา นิยมรักษากันมากเพื่อปรับความสมดุลของคลื่นแม่เหล็กและออร่า พอรวมอีกแบบหนึ่งที่เห็นพวกในอะบอริจินที่ออสเตรเลีย เห็นพวกทิเบต เห็นพวกลามะรักษาโรค คือ ใช้ดนตรี ก็เห็นว่าออราลิน หรือออร่า มารวมกับสิ่งที่เป็นเครื่องดนตรี คือ ไวโอลิน ทำให้เกิดศาสตร์ใหม่ขึ้นมา
    วิธีการแสดงกลไกของออราลิน เธอราปี

    <DD>โดยการใช้ดนตรีไวโอลิน บรรเลงกันสดๆ ในการรักษา ซึ่งไม่มีโน้ตเพลงเลย เล่นตามอารมณ์ ตามความรู้สึก แล้วก็รักษาคนด้วยการรวมวิธีของออร่าด้วย มีการรวมกันของพลัง 3 ส่วน คือ ส่วนแรก ส่วนของผู้รักษา คือนักออร่า เธอราปี ส่วนที่สองคือนักไวโอลินบำบัด ส่วนที่สามคือผู้ถูกรักษา เอาพลัง 3 ส่วนมารวมกัน ซึ่งจะมีการรับ/ส่ง คลื่นพลังเสียงดนตรีของนักออร่าบำบัดกับนักไวโอลิน และพลังสัญญาณมือของนักออร่าบำบัด มาถ่ายทอดเป็นเสยงอีกทีหนึ่ง เพราะว่าในขณะที่ทำการรักษา ผู้ที่ถูกบำบัดหลับตาอยู่ ไม่สามารถเห็นมือที่เคลื่อนไหวลูบไล้ไปรอบๆ ตัว เสียงดนตรีก็จะต้องเล่นสัมพันธ์กัน แต่จะรู้สึกเหมือนกับว่าเราได้รับการรักษาโดยตรง ไม่มีอะไรเหลืออยู่เลยนอกจากเสียงดนตรีกับตัวเรา และในขณะนั้นจิตวิญญาณของนักดนตรี นักออร่าบำบัด และผู้ถูกบำบัด จะรู้สึกว่ารวมเป็นพลังเดียวกัน และยังต้องใช้ความรัก ความเมตตา ใช้สมาธิส่งผ่านมายังผู้ที่ถูกรักษาพร้อมๆ กัน ทำให้เกิดการรักษาที่สมบูรณ์ขึ้น
    ใช้รักษาโรคอะไรบ้าง

    <DD>โรคพื้นฐานเกี่ยวกับประสาทอัตโนมัติ ความเครียด นอนไม่หลับ ความวิตกกังวล ภูมิแพ้ต่างๆ ภูมิคุ้มกันบกพร่อง ย้ำคิดย้ำทำ หงุดหงิดง่าย และอื่นๆ
    เรียบเรียงโดย
    งานถ่ายทอดเทคโนโลยี
    กองการแพทย์ทางเลือก
    </DD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>​
     
  8. energy.nano

    energy.nano สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    35
    ค่าพลัง:
    +3
    สินค้าประจุลบที่มีขายในปัจจุบัน

    [​IMG] แอร์ปล่อยประจุลบ

    [​IMG] เครื่องฟอกอากาศ

    [​IMG] หลอดไฟปล่อยประจุลบ

    [​IMG] [​IMG] ผ้าอนามัยประจุลบ

    [​IMG] กำไลประจุลบ

    และอื่นๆ
     
  9. energy.nano

    energy.nano สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    35
    ค่าพลัง:
    +3
    [vdo]mms://video.radio.in.th/vdo1[/vdo]

    เหรียญควอนตั้ม

    ควอนตัม

    สเกล่าร์

    เหรียญควอนตั้ม ราคาถูก

    ควอนตัม ราคาถูก

    สเกล่าร์ ราคาถูก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 มิถุนายน 2010
  10. energy.nano

    energy.nano สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    35
    ค่าพลัง:
    +3
    [​IMG]

    แผ่นการด์ ระดับพลังงานที่วัดได้ อยู่ที่ 1500 + ถึง 1600 + ขึ้นไปครับ
    สามารถทดสอบพลังงานกับอาหารและเครื่องดืมได้อย่างเห็นผลไว
     
  11. energy.nano

    energy.nano สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    35
    ค่าพลัง:
    +3
  12. energy.nano

    energy.nano สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    35
    ค่าพลัง:
    +3
    ราคา 1,500 บาท ใช้ได้ทั้งบ้าน

    [​IMG]




    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=zYbseNy_2S4"]YouTube - Introduce AromaC Spa Shower Head[/ame]




    เพิ่มความดันน้ำให้เป็นฝักบัวแบบสปา ที่ให้วิตามินซี พร้อมหัวน้ำหอม

    1 [​IMG] ขจัดคลอรีน ได้ทันทีถึง 99.9%

    Removes Chlorine
    A Vitamin C neutralisation method immediately removes 99.9% of the chlorine and provides you with mildly acidic clean water that is perfect for your skin and hair.<O:p</O:p


    2 [​IMG] ตัวกรอง ทำจากผ้าเนื้อแน่นเป็นพิเศษ กรองสิ่งปลอมปนในน้ำ

    Filters Off Impurities
    High density non-woven fabric filters off the impurities in the water.<O:p</O:p


    3 [​IMG]แต่ละกล่องบรรจุ วิตามินซี ซึ่งมีปริมาณเท่ากับมะนาว 3,000 ผล ป้องกันเซลล์ ไม่ให้ถูกทำลายจากอนุมูลอิสระ

    Provides Vitamin C
    Each cartridge contains Vitamin C equivalent to that of 3,000 lemons. Vitamin C:
    ? helps protect cells from free radical damage
    ? promotes smoother skin <O:p</O:p


    4 [​IMG] ผลิตไอออนลบ 400,000 ต่อน้ำ 1 ซีซี ทำให้โลหิตไหลเวียนได้ดี ขจัดความเหนื่อยล้า
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=592 height=8><TBODY><TR vAlign=top><TD height=31 vAlign=center width=425>
    Generates Negative Ions

    Unique triangle-hole spray plate generates approximately 400,000 negative ions per cc of water when you shower. This is generally 100 times more negative ions are generated from a natural waterfall. Negative ions improve blood circulation and eliminate fatigue.







    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    5 [​IMG]อโรมาเธอราฟี ด้วยหัวน้ำหอมสมุนไพร ช่วยคุณผ่อนคลาย

    Aromatherapy
    Herbal essential oil is added to release a pleasant aroma during your shower. Lavender essential oil helps ease anxiety, and relax your body, mind and soul. Lemon essential oil promotes radiant and youthful skin.<O:p</O:p


    6 [​IMG]น้ำแตกเป็นโมเลกุลขนาดเล็ก ทำให้ดูดซึมได้ดี มอบความชุ่มชื้นให้ผิวและผม
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=592 height=8><TBODY><TR vAlign=top><TD height=31 vAlign=center width=425>
    Small Water Molecular Clusters</B>

    FIR energy beads break the water molecules into small molecular clusters for better absorption to keep your skin and hair moisturised.








    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    7 [​IMG]เพิ่มความดันน้ำ ด้วยการออกแบบ รูฝักบัวรูปสามเหลี่ยม ช่วยคุณให้กระปรี้กระเปร่า และประหยัดน้ำ

    Increases Water Pressure & Saves Water Consumption
    You will love the powerful spa-like water pressure! The unique patented triangle-hole spray plate design helps to increase the water pressure to relieve muscular tension, leaving you invigorated after every shower. It also helps save up to 36,000 litres of water annually<O:p</O:p


    8 [​IMG]ติดตั้งง่าย เพียงถอดหัวฝักบัวที่คุณใช้งานอยู่ แล้วใส่ หัวฝักบัวอโรมาซี สปา เข้าไปแทน

    Easy to Install
    Suitable for all kinds of shower units. Just remove the existing shower head and replace it with AromaC Spa Shower head.



    ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------





    <TABLE style="WIDTH: 100%" border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0><TBODY><TR><TD height=1 vAlign=top><TABLE style="WIDTH: 100%; HEIGHT: 1px" border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0><TBODY><TR><TD class=TitleContainer vAlign=top>Aroma-sense - Ionising vitamin C shower head </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR vAlign=top><TD height=3><TABLE style="WIDTH: 100%" border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0><TBODY><TR><TD class=UnderHeaderLeft width=190></TD><TD style="FONT-SIZE: 3px" class=UnderHeader></TD><TD class=UnderHeaderRight width=190></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD id=dnn_ctr600_ContentPane class="css_container_pane DNNAlignleft" align=middle><!-- Start_Module_600 --><TABLE style="TEXT-ALIGN: justify; WIDTH: 100%; FONT-FAMILY: Verdana; FONT-SIZE: 10pt; TEXT-ALIGN-LAST: left"><TBODY><TR vAlign=top><TD style="BACKGROUND-IMAGE: url(/Portals/0/web_images/line_blue.jpg); PADDING-BOTTOM: 0px; PADDING-LEFT: 10px; PADDING-RIGHT: 10px; BACKGROUND-REPEAT: no-repeat; BACKGROUND-POSITION: 10px 20px; PADDING-TOP: 0px">Give yourself the 5 star SPA feeling at home!

    The Aroma-sense ionising vitamin C shower head is a unique shower system that provides perfect chlorine removal whilst giving you a healthy dose of vitamin C.
    The Aroma-sense Vitamin C Shower Head removes chlorine swiftly. As water passes through the shower head it is conditioned by the Vitamin C and neutralizes Chlorine. The shower head can be used effectively with both hot and cold water at normal tap pressure. Completely organic and non-toxic, the Vitamin C Shower can be used by:

    • Allergy sufferers
    • Asthma sufferers
    • Easily irritated eyes
    • Hairdressers and Beauty Salons
    • Infants and children
    • Anyone with sensitive skin
    • Chemically treated hair






    </TD></TR><TR vAlign=top><TD style="BACKGROUND-IMAGE: url(/Portals/0/web_images/line_blue.jpg); PADDING-BOTTOM: 0px; PADDING-LEFT: 10px; PADDING-RIGHT: 10px; BACKGROUND-REPEAT: no-repeat; BACKGROUND-POSITION: 10px 20px; PADDING-TOP: 0px">Product Features

    Chlorine Removal
    Vitamin C has the power to remove all the residual chlorine from the tap water and forms weak-acid water.
    C<SUB>6</SUB> H<SUB>8</SUB> O<SUB>6</SUB> HClO.H<SUB>2</SUB>O -------> C<SUB>6</SUB> H<SUB>8</SUB> O<SUB>6</SUB>.H<SUB>2</SUB>O HCl



    [​IMG]


    Residual Chlorine Test​
    Water temperature and pressure will not affect the chlorine removal performance of vitamin C.






    </TD></TR><TR vAlign=top><TD style="BACKGROUND-IMAGE: url(/Portals/0/web_images/line_blue.jpg); PADDING-BOTTOM: 0px; PADDING-LEFT: 10px; PADDING-RIGHT: 10px; BACKGROUND-REPEAT: no-repeat; BACKGROUND-POSITION: 10px 20px; PADDING-TOP: 0px">Skin Care

    Chlorine makes skin dry. Harmful substances will easily enter our blood circulation system and cause severe damage.
    By using EP Vitamin C SPA shower filter, the anti-oxidation function of vitamin C helps us to decelerate the aging effect. It can also keep skin moist, soft and reduces the skin allergies and itchiness.
    [​IMG] [​IMG]





    </TD></TR><TR vAlign=top><TD style="BACKGROUND-IMAGE: url(/Portals/0/web_images/line_blue.jpg); PADDING-BOTTOM: 0px; PADDING-LEFT: 10px; PADDING-RIGHT: 10px; BACKGROUND-REPEAT: no-repeat; BACKGROUND-POSITION: 10px 20px; PADDING-TOP: 0px">Reduce Hair Loss

    Cleaning the hair by using the EP Vitamin C SPA shower filter, we can protect the hair from chlorine’s attack. As a result, the hair looks shinny and improves the hair loss problem.
    [​IMG]






    </TD></TR><TR vAlign=top><TD style="BACKGROUND-IMAGE: url(/Portals/0/web_images/line_blue.jpg); PADDING-BOTTOM: 0px; PADDING-LEFT: 10px; PADDING-RIGHT: 10px; BACKGROUND-REPEAT: no-repeat; BACKGROUND-POSITION: 10px 20px; PADDING-TOP: 0px">Aromatherapy

    Essential oil extracted from herb is added into the EP Vitamin C Aroma Cartridge.
    It is excellent for beauty by preventing or curing of atopic dermatitis.
    The aroma sense lessen the general symptoms caused by stress and raise concentration power. It is excellent in mental stabilizing from depression, impatience etc. Various senses are available for choice.
    [​IMG]

    Lemon​


    [​IMG][​IMG]
    Jasmine Pine Needle​




    </TD></TR><TR vAlign=top><TD style="BACKGROUND-IMAGE: url(/Portals/0/web_images/line_blue.jpg); PADDING-BOTTOM: 0px; PADDING-LEFT: 10px; PADDING-RIGHT: 10px; BACKGROUND-REPEAT: no-repeat; BACKGROUND-POSITION: 10px 20px; PADDING-TOP: 0px">Wellness

    The ceramic balls inside the showerhead can generate negative ions about 420,000/c.c.
    Negative ions can stimulate the circulation of the blood and can help the combat fatigue of human body.
    Negative ions can also enhance mental performance and concentration, prevent migraine headaches and helps us to sleep better.
    The free radical in our body can be neutralized by the negative ions and then improve our immunity system.
    [​IMG][​IMG]









    </TD></TR><TR vAlign=top><TD style="BACKGROUND-IMAGE: url(/Portals/0/web_images/line_blue.jpg); PADDING-BOTTOM: 0px; PADDING-LEFT: 10px; PADDING-RIGHT: 10px; BACKGROUND-REPEAT: no-repeat; BACKGROUND-POSITION: 10px 20px; PADDING-TOP: 0px">Technology

    The purifying capacity of EP Vitamin C Spa Shower Filter is about 14,000 Liter (Family of 2 can use for 4 months). The gel type filter can last for longer than the power forms Vitamin C filter.
    [​IMG] [​IMG]

    The chrome finish slim type shower head and filter is suitable for all kinds of water heaters and fits to standard UK hose without any additional plumbing or pipework.

    Transform the water you shower in – try the Vitamin C Shower head today and enjoy a better shower experience!




    </TD></TR></TBODY></TABLE>





    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    _______________________________________________________________________________________________



    คุณรู้มั้ยว่า ฝักบัวทั้วไปที่อาบน้ำกันอยู่ เป็นแหล่งสะสมเชื้อโรค [​IMG]

    [​IMG]

    ร่างกายอ่อนแอระวัง "หัวฝักบัว" แหล่งสะสมเชื้อแบคทีเรียก่อโรคปอด


    นักวิจัยสหรัฐฯ สำรวจตัวอย่างหัวฝักบัว พบเชื้อแบคทีเรียก่อโรคในปอด อันตรายต่อผู้มีพันธุกรรมและภูมิคุ้มกันบกพร่อง ส่วนผู้มีร่างกายแข็งแรงไม่ต้องกังวล

    นักวิจัยมหาวิทยาลัยโคโลราโด (University of Colorado) สหรัฐฯ ซึ่งนำโดย นอร์แมน อาร์ เพซ (Norman R. Pace) ได้ทดสอบ ฝักบัว 45 ตัวอย่าง จาก 5 มลรัฐในสหรัฐฯ แล้วพบว่าฟักบัวเหล่านั้นอาจเป็นแหล่งซุกซ่อนแบคทีเรีย ที่จะไหลตามสายน้ำลงมาสู่ใบหน้าและร่างกายเราได้

    สำหรับผู้ที่มีภูมิคุ้มกันปกติแล้ว เรื่องนี้ไม่ใช่สิ่งที่ต้องกังวลมากนัก ยกเว้น ผู้ป่วยที่เป็นโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือ เอดส์ และผู้บำบัดมะเร็ง หรือผู้ที่เพิ่งปลูกถ่ายอวัยวะ โดยงานวิจัยชิ้นนี้ ตีพิมพ์ในวารสารโพรซีดิงส์ออฟเดอะเนชันนัลอคาเดมีออฟไซน์ (Proceedings of the National Academy of Sciences)

    ทั้งนี้แบคทีเรียเจ้าปัญหาดังกล่าวคือ มายโคแบคเทอเรียมเอเวียม (Mycobacterium avium) หรือเอ็มเอวียม (M. avium) ซึ่งนำไปสู่โรคปอดในบางคน โดยเอพีระบุข้อมูลจากเพซว่า จากการศึกษาของเนชันนัลยิวอิชฮอสพิทัล (National Jewish Hospital) ในเดนเวอร์ ชี้ว่าจำนวนผู้ป่วยในสหรัฐฯ ซึ่งติดเชื้อแบคทีเรียชนิดนี้ที่ปอดช่วง 20-30 ปีที่ผ่านมานั้น สัมพันธ์กับผู้คนที่ชอบอาบน้ำฝักบัวมากกว่าอาบน้ำในอ่าง โดยอาการติดเชื้อมีทั้งอาการเหนื่อย ไอแห้ง หายใจลำบากเรื้อรัง


    [​IMG]


    ทีมวิจัยแนะนำวิธีหลีกเลี่ยงจากแบคทีเรียเหล่านี้ ด้วยการใช้ฝักบัวโลหะ เนื่องจากจุลินทรีย์เติบโตในวัสดุประเภทนี้ได้ยาก อีกทั้งฝักบัวเอง ยังเต็มไปซอกหลืบที่ยากต่อการทำความสะอาด และแบคทีเรียจะกลับมาใหม่ แม้จะใช้น้ำยาขัดล้างแล้วก็ตาม

    ด้าน ลอรา เค บวมการ์ทเนอร์ (Laura K. Baumgartner) ผู้ร่วมมิจัยกล่าวเสริมว่า การอาบน้ำในอ่างนั้น จะกระจายเชื้อแบคทีเรียดังกล่าว สู่อากาศได้มากเท่ากับการอาบน้ำด้วยฝักบัว ซึ่งกระจายเชื้อจุลินทรีย์ให้อยู่ในรูปละอองฝอยที่ง่ายต่อการสูดหายใจเข้า ปอด ร่างกายไม่แข็งแรงและรู้สึกแย่

    ตัวอย่างฝักบัวที่ทีมวิจัยสุ่มสำรวจนั้นมาจากอาคารบ้านพัก อพาร์ทเม็นท์ และสถานที่สาธารณะในนิวยอร์ก อิลลินอยส์ โคโลราโด เทนเนสซี และนอร์ธดาโกตา โดยพวกเขาได้เก็บตัวอย่างน้ำที่ไหลออกจากฝักบัว จากนั้นแยกหัวฝักบัวออก แล้วทำความสะอาดอุปกรณ์ภายใน

    จากนั้นเก็บตัวอย่างน้ำที่ไหลผ่านท่อโดยไม่มีฝักบัว และจากการศึกษาดีเอ็นเอของตัวอย่าง ทีมวิจัยสามารถจำแนกได้ว่ามีแบคทีเรียชนิดใดอยู่ และยังพบว่าแบคทีเรียมีแนวโน้มที่จะสะสมอยู่ในหัวฝักบัวมากกว่าบริเวณอื่น[​IMG]


    อย่างไรก็ดีตัวอย่างน้ำส่วนใหญ่ที่สำรวจนั้น มาจากระบบน้ำในเขตปกครองของเมืองใหญ่ๆ อย่างนครนิวยอร์กและเดนเวอร์ แต่ทีมวิจัยก็ยังศึกษาตัวอย่างจากบ้านในชนบท ซึ่งได้รับจ่ายน้ำจากแหล่งน้ำส่วนตัว พบว่าไม่มีแบคทีเรียเอ็มเอเวียมอยู่ในหัวฝักบัว แต่พบแบคทีเรียชนิดอื่นอยู่แทน

    ในการศึกษาอื่นๆ ก่อนหน้านี้ทีมวิจัยของเพซยังพบแบคทีเรียเอ็มเอเวียมในผ้าม่านพลาสติกไวนีล ในห้องน้ำ และบนผิวน้ำของสระบำบัดร้อน และยังมีการศึกษาอื่นๆ อาทิ การวิเคราะห์อากาศในสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินของนิวยอร์ก ห้องโถงในโรงพยาบาล อาคารสำนักงานและสถานสงเคราะห์คนไร้บ้าน โดยรับทุนวิจัยจากมูลนิธิอัลเฟรด พี สโลน (Alfred P. Sloan Foundation) และสถาบันเพื่อความปลอดภัยในการทำงานและสุขภาพของสหรัฐฯ (National Institute of Occupational Safety and Health)


    ด้าน โจเซฟ โอ ฟอลคินแฮม (Joseph O. Falkinham) นักจุลชีววิทยาจากเวอร์จิเนียเทค (Virginia Tech) ซึ่งไม่ได้มีส่วนร่วมในการวิจัยนี้ ยินดีกับการค้นพบนี้ และกล่าวว่าแบคทีเรียเอ็มเอเวียมก่อให้เกิดอันตรายได้เพราะการอาบน้ำฟักบัว นั้นแบคทีเรียจะถุกทำให้ฟุ้งกระจายในอากาศซึ่งเราสามารถสูดเข้าปอดได้

    ฟอลคินแฮมยังเพิ่มเติมว่า โดยตัวแบคทีเรียเอ็มเอเวียมนั้นไม่ก่อให้เกิดโรค แต่สำหรับผู้ที่มียีนก่อโรค "ซิสติกไฟโบรซิส" (cystic fibrosis) หรือ "ซีเอฟ" ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรมที่ก่อให้เกิดโรคที่ปอดและทางเดินอาหารนั้น จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดโรคจากเชื้อแบคทีเรียชนิดนี้ไปตามอายุที่มาก ขึ้น


    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>







    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>นอร์แมน เพซ นักจุลชีววิทยา มหาวิทยาลัยโคโลราโด สหรัฐ ระบุว่า หัวฝักบัวอาจเป็นแหล่งแพร่เชื้อโรคก่อโรคปอดโดยไม่รู้ตัว

    เพซและทีมงานสุ่มตรวจวิเคราะห์หัวฝักบัว 50 หัว ทั้งฝักบัวในบ้าน ห้องน้ำสาธารณะ อพาร์ตเมนต์จากเมืองต่างๆ 9 เมือง พบว่า ร้อยละ 30 มีเชื้อ "มัยโคแบคทีเรียม เอเวียม" ปนเปื้อนอยู่มาก ตามปกติเชื้อตัวนี้พบในน้ำประปาทั่วไป แต่สะสมอยู่ในหัวฝักบัวมากกว่าระดับที่พบในน้ำประปา 100 เท่า

    "หากใบหน้าโดนน้ำโดยตรงในครั้งแรกที่เปิดฝักบัว อาจทำให้ได้รับเชื้อมัยโคแบคทีเรียม เอเวียม สูงมาก กระทั่งก่อให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพ" เพซ กล่าว และว่า จากการศึกษาชี้ด้วยว่าหัวฝักบัวชนิดโลหะสะสมเชื้อโรคน้อยกว่าชนิดพลาสติก









    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด
    [​IMG]</CENTER>






    </TD></TR><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE>
    โดย :ฟากฟ้าทะเลฝัน (ทีมงาน TeeNee.Com) โพสเมื่อ [ วันอาทิตย์ ที่ 20 กันยายน 2552 เวลา 16:54 น.]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 กันยายน 2009
  13. อรุณสวัสดิ์

    อรุณสวัสดิ์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    15
    ค่าพลัง:
    +57
    สนใจ หัวฝักบัว ค่า สั่งซื้อได้ที่ไหนคะ
     
  14. energy.nano

    energy.nano สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    35
    ค่าพลัง:
    +3
    [​IMG]

    พลังงานอยู่ที่ 1600+ ถึง 1800 ครับ
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...