แขวนพระอะไรกันบ้าง

เห็นหลวงปู่ทวดของท่าน จุ๊กจุ๊ก แล้วเครีัยดครับ อยากได้มากมาย ชีวิตนี้อยากมีไว้ในครอบครองครับ ^^

 

เรียนคุณBaByUltraManผมขอทราบประวัติหลวงพ่อเฒ่า วัดค้างคาวด้วยครับ

เรียนคุณBaByUltraManผมขอทราบประวัติหลวงพ่อเฒ่า วัดค้างคาวด้วยครับว่าท่านเด่นทางใหนบ้างครับและใครเป็นผู้สร้างครับ
ขอขอบคุณคุณBaByUltraManมาล่วงหน้าด้วยครับ

 

สงสัยจะผิดกระทู้แล้วมั้งครับ....กระทู้นี้มีไว้โชว์ของไช้ส่วนตัวนะครับ
ถ้าจะถามประวัติรบกวนกระทู้อื่นครับ หรือตั้งกระทู้ไหม่ได้เลยครับ

 

ของผมที่บูชาติดตัวอยู่ มีนิดๆ หน่อยๆ ครับ..


1. รูปหล่อพระพุทธชินราช รุ่น 1 ปี 07 วัดคำหยาด
2. รูปหล่อหลวงพ่อเงิน วัดคำหยาด ( หลวงปู่ได้มาสมัยธุดง แถววัดบางคลาน)
3. เบี้ยแก้ วัดคำหยาด
4. เหรียญรวยข้ามรุ่น เนื้อเงิน รุ่น 1 วัดคำหยาด
5. สมเด็จผงวัดระฆัง ปี 07 ( ผงแท้ๆ ที่หลวงปู่ไปขุดกรุมาจากวัดระฆัง) วัดคำหยาด
6. พระขุนแผน เนื้อว่าน ปี 07 วัดคำหยาด
7. พระผงสุพรรณ เนื้อว่าน ผสมผง ปี 07 วัดคำหยาด
8. สมเด็จปรกโพธิ์ วัดคำหยาด
9. เหรียญหลวงพ่อวัดคำหยาด ปี 43
10. พระเปิดโลก กรุกำแพงเพชร หลวงปู่ได้มาจากกรุ
11. พระเปิดโลก เนื้อตะกั่ว กรุพระธาตุพนม ( หลวงปู่ได้มาจากกรุ )
12. พระกริ่งขวานฟ้าโลกอุดร หลวงปู่ครูบาชัยยะวงศาพัฒนา วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม
13. ตะกรุดโทน วัดคำหยาด

:z2

 

นำรูปมาลงด้วยก็ดีนะครับ....ท่านสาย "วัดคำหยาด"

 

อยากเห็น สายวัดคำหยาด เหมือนกัน ครับ อิอิ อ่างทอง บ้านเรา

 

วิถีเซียนพระ

บทความเกี่ยวกับวงการพระครื่องที่ได้ลงมาให้ผู้สนใจเกี่ยวกับพระเครื่องได้อ่านต่อไปนี้ ไม่มีวัตถุประสงค์อื่นใด เป็นเพียงข้อคิดเห็นเท่านั้น หากข้อความใดผิดพลาดประการใด ผู้เขียนก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ คิดเสียว่าอ่านดูเล่นๆ ได้ความรู้แก้เหงาอย่าไปซีเรียดเลยนะครับ!!!

พระเครื่องวัตถุมงคลยุคเก่า ยิ่งมีอายุความเก่าเท่าไหร่ ราคาก็สูงขึ้นตามลำดับ ซึ่งแม้มีการเปลี่ยนมือสักกี่รุ่นก็ตาม ราคาก็ไม่ต่ำลง ซึ่งแตกต่างจากสินค้ามือสอง ซึ่งใช้ไปนานเท่าไหร่ราคาลดลงตามสภาพ ส่วนผู้ที่ชอบสะสมไว้อนุรักษ์หรือหลงใหลในพระเครื่องวัตถุมงคล ส่วนมากนับถือศาสนาพุทธ เพราะมีประวัติความเป็นมา ความเก่าแก่ ถือเป็นวัตถุโบราณที่มีศิลป์ตามยุคสมัย เป็นเครื่องประดับที่มีความสวยงามและมีพุทธคุณ หากสวมใส่ด้วยความศรัทธา หรือนำติดตัวจะคุ้มครองให้รอดพ้นจากอันตรายต่างๆ ตามที่ผู้สร้างได้เจตนาไว้ โดยใช้พลังจิตปลุกเสก อัดพลังพุทธคุณเข้าไปวัตถุมงคลนั้น หรืออัญเชิญเทพต่างๆช่วยเสริมพลังให้สูงขึ้นครอบคลุมทุกด้าน เหมือนอัดพลังแบตเตอรรี่ แล้วแต่ผู้ที่ใช้อธิษฐานไปทางใด อย่างไรก็ตามถ้ารักพระต้องเข้าให้ถึงพระ หมั่นสวดมนต์ไหว้พระ เหมือนเป็นการสร้างกระแสในตัวเราให้มีอยู่ตลอดเวลา เกิดความภูมิใจ ทำให้มีจิตใจดี ประพฤติดี มีคุณธรรม เกิดบุญในตัว และชีวิตไม่มีวันตกต่ำ การที่จะได้ของดีนั้น เป็นเรื่องของบุญวาสนา เมื่อพบของดีที่เราชอบแล้ว ควรพิจารณาทั้งเนื้อและพิมพ์ทรงให้ถ้วนถี่ และความเป็นไปได้ เมื่อพบแล้วควรอย่าให้ผ่านหรือหลุดมือไป อย่าหลงเชื่อผู้อื่นที่ชี้ทางให้ไขว้เขว ทำให้ขาดความมั่นใจในตนเอง ถ้าปฏิบัติได้เช่นนี้แล้วก็จะได้ของดีไว้สักการบูชา เพราะถ้าเราชอบแล้ว ถ้าคนอื่นไม่ชอบไม่เป็นไรอย่าไปสนใจ พิมพ์ไม่สวยก็ไม่เป็นไร ถือเป็นธรรมชาติ เพราะเราเคารพนับถือมีไว้ติดตัวเพื่อเป็นมงคล หากหลงเชื่อผู้อื่นก็จะไม่มีวันที่จะได้ของดีที่เราชอบแล้วมาครอบครอง อย่างคำพังเพยที่ว่า “อย่าไขว่คว้าเอาสิ่งที่มีแต่เงา และปล่อยให้สิ่งที่เป็นของจริงหลุดลอยไป”

ผู้เขียนเคยมีประสบการณ์แบบนี้มาบ้างพอสมควร เมื่อปีก่อนพบสมเด็จหลวงปู่ภู พิมพ์เซยิก แขนหักศอก ดูแล้วชอบมาก กำลังตกลงราคากัน ก็มีพรรคพวกที่รู้จักกันเข้ามาดู และสะกิดไม่ให้เอา ผู้เขียนจึงหลงเชื่อไม่เอา สักครู่มีชายภูมิฐานคาดว่าเป็นคนต่างจังหวัดไม่ทราบชื่อ มาขอดูและใช้กล้องตนเองส่องดูหน้าหลังใช้เวลาส่องไม่ถึงนาที และถามว่าเท่าไหร่ คนขายมองหน้าแล้วบอกว่า ราคาหกหมื่น (ได้สอบถามเจ้าของพระในภายหลังว่าเป็นราคาเผื่อต่อ) ชายผู้นั้นต่อรองสามหมื่น เจ้าของพระรีบตกลง และชายผู้นั้นก็ไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็มให้ ผู้เขียนจึงเสียดายมาก เพราะเจ้าของพระจะตกลงให้ผู้เขียนในราคาหลักพันเอง เพราะรู้จักกัน แสดงว่าชายผู้นั้นตาถึงใจถึง และมีอีกประสบการณ์อยากจะเล่าให้ผู้อ่าน เมื่อ 2-3 ปี มาแล้ว ผู้เขียนได้สมเด็จวัดเกศไชโยพิมพ์ 7 ชั้น ลงรักไว้ทั่วองค์ ด้านหลังมีรอยคล้ายระเบิดจากด้านในออกมา เนื้อขาวนวล มีบางส่วนคราบรักกะเทาะออกบ้างพอมองเห็นพิมพ์ทรง ขณะไปเที่ยวงานกาชาดจังหวัด จึงอธิษฐานขอพรจากองค์พระขอให้จับฉลากกาชาดได้รถจักรยาน พอให้เปิดดูปรากฏว่าได้รถจักรยานตามที่อธิษฐานไว้จริงๆ ต่อมาไม่กี่วันลองไปให้พรรคพวกที่สนิทดู

เพื่อนบอกว่าไม่ชอบพิมพ์เอียงไป ผู้เขียนเลยเอาไว้รวมคละกันไปกับองค์อื่นไม่ได้มาห้อยใช้ จนกระทั่งมีเซียนมาขอแลกไป ภายหลังมานั่งเสียดายคิดดูแล้ว ของที่เราเคยหวงแหนน่าเก็บไว้ใช้ ทำไมหลุดมือไปให้คนอื่น ต่อมาภายหลังขอแลกคืน ไม่ทันเสียแล้ว เซียนบอกว่าเอาไปล้างรักออกแล้วปล่อยได้หลายหมื่น ถ้าเป็นท่านในขณะนั้นจะรู้สึกยังไงไม่ต้องบอกคงจะทราบดีนะครับก่อนอื่นขอท่านผู้อ่านอย่าไปซีเรียดกับบทความนี้นะครับ ถือว่าเป็นความรู้หรือข้อคิดเห็นเท่านั้น เป็นที่รู้กันอยู่ว่าวงการสังคมพระเครื่องบ้านเรานั้นค่อนข้างจะสลับซับซ้อนพอสมควร ด้วยเหตุนี้คนที่ไม่รู้จริง หรือเพิ่งสะสม จึงถูกบรรดาเซียนมิจฉาชีพหลอกเอาอยู่เสมอ โดยเฉพาะพระเครื่องที่มีผู้คนนิยมศรัทธามาก อย่างสมเด็จนั้นได้มีการปลอมแปลงกันอย่างเป็นล่ำเป็นสัน รูปแบบทุกอย่างเหมือนกันชนิดที่เรียกว่า เซียนพระที่ว่าเจ๋งๆ หงายเก๋งกันมาแล้วหลายราย

ฉะนั้นใครที่มีพระสมเด็จในเวลานี้ควรตรวจดูให้แน่นอนว่าท่านมีพระสมเด็จแท้หรือไม่ บางท่านได้มาเพราะปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบอยู่ในศิลธรรม ได้พระสมเด็จแท้ๆ มาโดยไม่ต้องจ่ายมากมีถมไป ปัจจุบันจะหาพระสมเด็จแท้ๆ ไม่ค่อยได้ เพราะไม่รู้และไม่เข้าใจในเรื่องของพิมพ์ทรงและเนื้อพระ เพราะต่างก็ไม่มีใครที่เกิดทันยุคสมัยของสมเด็จโตสักคนเซียนพระไม่มีใครเก่งกว่าใคร ถ้าเซียนบางคนคิดว่าตนเองเก่งดูพระขาดไม่เคยพลาด เป็นการหลงตัวเองมากว่า เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน การที่วินิจฉัยดูองค์พระให้ผู้อื่น โดยเฉพาะรูปภาพ หากไม่มั่นใจอย่าไปตัดสินว่าแท้หรือไม่แท้ (ยกเว้นแค่มองภาพเห็นว่าผิดพิมพ์) โดยเฉพาะเนื้อพระที่มีอายุการสร้างตั้งแต่ 100 ปี ขึ้นไป การชี้ชัดว่าพระองค์นั้นแท้หรือไม่แท้ เป็นการชี้ชัดตรงเกินไป หากไม่ตรวจสอบเนื้อหาให้ละเอียดแล้ว พระแท้กลายเป็นเก้ได้ ซึ่งถือว่าพลาดอย่างใหญ่หลวง!!

ยกตัวอย่างเหมือนการไปจีบสาวนั้นแหละ ก่อนอื่นต้องดูหน้าก่อนแล้วก็มาดูใจต่อไปก็...ไม่ต้องบอกคงจะทราบกันดี!! คือดูพิมพ์ก่อนถ้าผ่านก็มาดูผิว ดูเนื้อ แล้วจึงจะสรุป หรือกว่าจะชี้ชัดว่าพระองค์นั้นแท้ต้องมีการพิสูจน์ ขนาดเซียนใหญ่ๆ ที่มีชื่อเสียงกว่าจะมาเป็นเซียนได้พลาดไม่รู้เท่าไหร่ อาศัยความดูแม่นที่ตนถนัด โอกาสพลาดมีน้อย และจะต้องมีการตรวจสอบพิสูจน์ด้วยเครื่องมือห้องทดลอง(ห้องแล็ป) เพื่อสรุปเนื้อหามวลสารความเก่าสมกับอายุ ถือเป็นบรรทัดฐานได้ เซียนใหญ่ๆ จึงมีความรู้ประสบการณ์มากกว่าคนเล่นพระ ได้เห็นพระแท้ พระปลอมและพลาดไม่รู่เท่าไหร่ กว่าจะมาเป็นเซียนใหญ่ ไม่ใช่พระจะเก๊หรือแท้ขึ้นอยู่กับการตัดสินของคนเล่นพระ หากไม่ใช่เซียนหรือไม่มีใครยกให้คุณเป็นเซียน ก็อย่าเผยอไปสะเออะตัดสินพระของใครเข้า ขนาดเซียนใหญ่ๆ ยังไม่กล้าบอกว่าพระองค์นั้นแท้หรือเก๊ ทั้งที่รู้ว่าแท้ ถ้าไม่ใช่คนสนิทญาติมิตร เพราะเป็นดาบสองคม ถ้าบอกไปว่าแท้ พอเอาไปขายไม่มีคนซื้อ หรือมีคนบอกว่าไม่แท้ จะถูกต่อว่าเสียชื่อเสียงเปล่าๆ ซึ่งปัจจุบันนี้เขาเอาค่านิยมเป็นหลัก ถ้าองค์นี้มีคนมาซื้อเมื่อไหร่แท้ทันที ไม่สนใจว่ามีหรือไม่มีพุทธคุณหรือไม่ คนยุคสมัยนี้ว่าเชื่อยาก บ่อยครั้งที่การชี้เก๊-แท้ อยู่ที่ความบริสุทธิยุติธรรมในใจเซียน แค่มองตาก็รู้ในใจแล้ว ในความคิดของผมอยากให้วงการเปลี่ยนคำว่า “เซียน” เป็นคำว่า ผู้เชี่ยวชาญพระเครื่อง จะดีกว่า แต่ก็ยาวไปเป็นไปได้ยาก เพราะไม่โก้เก๋เหมือน “เซียนพนัน” เป็นต้น อยากให้มีมาตรฐาน ไม่ใช่สถาบัน “กลุ่ม” มี 6 – 7 คน รวมกลุ่มตั้งตัวเป็นปรมาจารย์ ซื้อขายกันในกลุ่มและก็ออกข่าวฉายหนังตัวอย่าง บรรดาพ่อค้าเศรษฐีทั้งหลายแหล่ก็ฮือฮาไปกับเขา จนทำให้กลุ่มปรมาจารย์เป็นเศรษฐีไปตามๆ กัน บางคนทำตัวเป็นเซียนใหญ่พูดภาษาไทยยังไม่รู้เรื่องเลย ก็ยังมีคนไปเชื่อได้ ทั้งๆ ที่พื้นฐานแต่ละคนมาจากไหน พระราคาหลักหมื่นก็ปั่นจนเป็นแสนเป็นล้าน จนบรรดาเซียนใหญ่ๆ เริ่มหงอยเหงา เพราะใบรับรองเก๊ เป็นต้น

หากเป็นไปได้ถ้าคิดการณ์ไกล อยากให้เป็นสถาบัน ที่มีมาตรฐาน หน่วยงานของรัฐเข้ามีส่วนร่วม มีเครื่องมือเครื่องไม้ตรวจสอบพระและออกใบรับรองแท้ เป็นต้น เพราะในปัจจุบันขนาดเศรษฐกิจตกต่ำ วงการพระเครื่องยังมีการซื้อขายกันมีเงินหมุนเวียนจำนวนมากอย่างต่อเนื่องเป็นล่ำเป็นสัน จนกระทั่งชาวต่างประเทศนิยมชมชอบ ทำให้มีเงินเข้าประเทศมากขึ้น และทำให้พระเก๊พระปลอมหยุดอาละวาด มีกฎหมายบังคับวกมาเกี่ยวกับการจัดงานประกวดพระเครื่องผิดวัตถุประสงค์ อ้างหารายได้สมทบทุนต่างๆ จัดงานถี่ เช่น วันนี้เสร็จงานนี้ พรุ่งนี้จัดงานโน้น ไปแทบทุกจังหวัด ก่อนไปงานประกวด ให้ดูวัตถุประสงค์และชุดกรรมการที่น่าเชื่อถือ บางท่านนำพระมาประกวด พระดูยากทั้งๆ ที่พระองค์นั้นแท้ กรรมการไม่รับพระ และไม่บอกจุดที่ว่าไม่ผ่านหรือผิดพิมพ์ตรงไหน จุดไหนที่บอกว่าแท้ไม่แท้ ไม่บอกเหตุผล ได้แต่สั่นหน้าไปมาหรือบอกว่าทำบุญแล้วกันนะ ควรบอกเหตุผลให้ชัดเจนเพราะดูด้วยสายตาเซียน ทำให้บางท่านเสียความรู้สึก เป็นเพราะไม่มีเวลาตรวจสอบอย่างละเอียด เพราะจัดงาน 8 ชั่วโมง ก็เสร็จสิ้น บางทีพระแท้พระสวยไม่รับกลัวไปแซงที่ล็อคไว้ น่าจะมีมาตรการที่รัดกุมกว่านี้ เช่น ห้ามกรรมการหรือทีมงานส่งประกวดเองบางทีก็เอาญาติพี่น้องส่งพระประกวด เพื่อเอาไปปล่อยคนมีอันจะกิน แล้วติดรางวัล ออกใบรับรอง เช่น ใบรับรองว่าสมเด็จวัดระฆังองค์นี้แท้รับรองโดยนาย ก. ถามจริงๆ เถอะ ครับว่านาย ก. แกสำเร็จวิชาทำพระสมเด็จมาจากสถาบันไหน????

ปัญหาเรื่องพระเครื่องก็ยังเป็นปัญหาโลกแตกอยู่วันยังค่ำ เพราะตัวค่านิยม ส่วนพระเครื่องใหม่ๆ ไม่ค่อยมีปัญหา แต่พระระดับยอดนิยม มีปัญหามากมาย ทั้งนี้ ถ้าคนเขารู้จริง พระเหล่านี้ไม่มีปัญหา พวกที่รู้มั่งไม่รู้มั่ง ทำให้เขวพาหลงเหว อย่างคำพังเพยบางท่านอาจจะทราบมาแล้วว่า “อย่าเชื่อเซียนจะอาเจียนเป็นเลือด” หรือ “ใครหลอกเก่งกว่าใครนั้นแหละเซียน” ถ้าเรารู้จริงใครก็หลอกเราไม่ได้ แต่ถ้าไม่รู้จริงต้องศึกษา ตำรา ประวัติ ถ้าอยากได้ไว้อนุรักษ์ให้ดูธรรมชาติ เนื้อเก่าไว้ก่อน จะเป็นพิมพ์โบราณก็ไม่เป็นไร ถือว่าเป็นของเก่ายุคแรก ไม่สวยก็ไม่เป็นไร เพราะเราเคารพนับถือมีไว้ติดตัวเพื่อเป็นมงคล เราต้องมีจุดยืนของตนเองเป็นหลัก จงเชื่อมั่นตนเอง และอย่าดูถูกมองข้ามตนเองไป วงการในสมัยนี้มักจะเข้าใจความหมายกันผิดเกี่ยวกับพระเครื่อง เป็นค่านิยมไปแล้ว เช่น “แท้” หมายความว่าได้มีการซื้อขายกัน ไม่สนใจว่ามีพุทธคุณหรือไม่ แต่ที่ควรถูกคำว่า “แท้” หมายความว่า ทันผู้สร้างปลุกเสกมีพุทธคุณแน่นอน คำว่า “เก๊” หมายความว่า ปลอมหรือเลียนแบบเพื่อให้หลงผิดว่าเป็นของแท้, ไม่ใช่ของจริง, ไม่มีราคา, ใช้การไม่ได้คำว่า “ไม่แท้” มีความหมายตรงตัวอยู่แล้วคำว่า “ไม่ถึง” มีความหมาย เกจิหรือลูกศิษย์สร้างผ่านการปลุกเสกแต่ไม่ทันท่านอาจารย์ าดความมั่นใจในตนเอง ถ้าปฏิและความเป็นไปได้

 

ข้อมูลที่พี่ Jukjuk ให้มานั้นเป็นข้อมูลที่ตรงประเด็นเป็นไปตามเป็นจริงมากเลยครับ ไม่ว่าจะประเด็น ความศัรทธาในพระเครื่องที่ตนเองมี.... หรือประสบการณ์ของคนเล่นพระ ...และอื่นๆ ซึ่งเนื้อหาข้อมูลต่างๆมีประโยชน์มากจริงๆ ผมเชื่อว่า เพื่อนๆ/พี่ๆ/น้องๆ ที่ได้อ่าน ข้อมูลนี้จะต้อง จะขอบพระคุณพี่ Jukjuk เหมือนผม (ขอบพระคุณมากครับ)

 

ผมมีความยินดี และหวังว่าจะเป็นประโยชน์ไม่มากก้อน้อยกับเพื่อนสมาชิกทุกคนครับ
อ่านแล้วนำไปคิด คิดแล้วก้อเริ่มศึกษาปติบัติกันครับ

 

คาดตะกรุดลูกปืนของหลวงพ่ออุดมวัดพิชัยสงคราม
กับปลัดขลิกหลวงพ่อลั้งครับ พี่ชายใจดีให้มา

 

ผมแขวนแค่นี้ละ ครับ ไม่รุดีป่าว

 

เห็นด้วยครับ..

 

ฝาก..เอาไว้เทียบพิมกันครับ

หลวงปู่ทวดหลังเตารีด

 

ยังสุดยอดเหมือนเดินนะครับท่านจุ๊ก

เดียวมีโอกาศ จะถอดจาก คอมาถ่ายแป๊ะให้ชมบ้างครับ

 

ผมว่าดีมากนะครับท่านกรู..อยากไห้กระทู้นี้รวบรวมสาระต่างๆไว้มากๆ
เพราะว่าผมคงไม่ตั้งกระทู้ไหม่แล้ว...อันนี้พอละเดี๋ยวเปลืองพื้นที่เลยอยากไห้เพื่อนสมาชิกโชว์พระที่ตัวเองไช้อยู่ประจำวัน...และโพสสาระต่างๆรวบรวบไว้ในกระทู้นี้ได้เลยครับ....

 

ผมก็ว่าดีมากเลยครับ เนื่องจากกระทู้เยอะและ ไปค่อนข้างไวมาก เพราะว่าสมาชิกเยอะ ช่วงที่เวปมีปัญหาช้าลงมาก ผมแทบไม่ได้เข้ามาเลย ตอนนี้ก้ดีขึ้น ก็ว่าจะเข้ามาให้บ่อยขึ้น เพราะกลัวว่า จะตกความรู้ จาก ท่าน อ.หลายๆท่านที่ได้แสดงความคิดเห็นเอาไว้ ไอ้ครั้นจะไปขุดกระทู้เก่ามาอ่านก็ไม่ไหว ยังไงก็อาจจะขอแฝงตัวอยู่ใน กระทู้ของท่านจุ๊ก เพื่อลดจำนวนกระทู้ลง พักหลังมานี้ไม่ค่อยได้เช่าหาพระ จึงไม่มีพระมาลง พูดคุยแลกเปลี่ยนกันซักเท่าไหร่ งั้นก็เอาที่คอก่อน เลยครับ ปัจจุบันคล้ององค์นี้อยู่ครับ หลวงพ่อเงิน เพราะเวลาคล้องแล้ว เหมือนเราได้รับพุทธคุณ ด้าน การเงิน(ตามชื่อ) จึงทำให้มีพอ ที่จะเช่าหาพระองค์ใหม่ๆได้อยู่เรื่อยๆ

 

สวัสดีครับท่านjukjukท่านGuu3งามๆทั้งนั้นเลยผมที่ติดตัวแน่ๆเลยก็เหรียญรุ่นหนึ่ง ลพ อุ้น ครับนอกนั้นอีก2องค์เปลี่ยนไปตามอารมณ์ตามวัน องค์อื่นๆไว้จะถ่ายแล้วเอามาโพสอีกนะครับ ขอบคุณสำหรับเนื้อหาสาระนะครับ

 

องค์นี้ จะขึ้นคอ เวลาไปติดต่อประสานงาน จุดประสงค์คือต้องการความราบรื่น แห่งการเจรจา เนื่องจากพุทธคุณแห่งองค์พระพี่นางสุพรรณกัลยา และองค์บรรพกษัตริย์ ที่ใช้การเจรจาเป็นหลักก่อนการทำสงคราม จนทำให้บ้านเมื่องอยู่รอดมาจนถึงทุกวันนี้ วาจาสิทธิ์ นั้นเอง

 

ผมจำองค์นี้ได้ท่านGuu3เคยเอามาให้ชม สวยไม่เคยเปลี่ยน