ไม่เคยฝึกมโนมยิทธิ แต่สิ่งที่ตัวเองสื่อได้ คล้ายๆจะมาทางด้านนี้

ขอกราบอนุโมทนาด้วยความซาบซึ้งที่นำธรรมะมาแบ่งปันค่ะ สาธุ

 

สวัสดีครับคุณ me myself ผมเพิ่งได้อ่านความรู้ในเวบบอร์ดพลังจิตนี้อย่างเต็มที่จริง ๆ ก็ 2 - 3 วันนี้เองครับ เพราะทำงานราชการ อาศัยเวลาว่างเล็กน้อยค้นหาความรู้ตามที่สนใจ เห็นกระทู้ของคุณ me myslf แว๊บ ๆ แรก ๆ ก็มิได้นำพาสักเท่าไหร่ครับ สนใจเรื่องอื่นมากกว่า (อย่าน้อยใจเลยครับ ขอโทษจริง ๆ) พอได้อ่านเรื่องของคุณ me ก็เลิกงานแล้วอ่านต่อนิดหน่อยครับ เปิดอ่านไม่ไหว หลายหน้ามากครับ พอดีตัวผมเองมีประสบการณ์แปลก ๆ ที่เกิดขึ้นกับตัวเองมาตั้งแต่ยังเด็ก กระทั่งจนบัดนี้อายุ 31 ปีแล้ว ก็ยังมีเหตุการณ์แปลก ๆ เกิดขึ้น แต่ไม่บ่อยครับ ไม่เคยสนใจว่ามันคืออะไรสำคัญแค่ไหน ต้องทำอย่างไร เพราะว่าผมก็ไม่เคยรู้จักใครที่มีความรู้จริง รู้แจ้ง สามารถช่วยเหลือผมได้ ต้องรบกวนคุณ me มาก ๆ คือต้องการอีเมล์สำหรับติดต่อพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้โดยเฉพาะ ส่วนตัวสนใจการฝึกสมาธิอยู่แล้ว แต่ไม่มีบุญได้ฝึกกับพระสุปฏิปัณโณหรือพระอริยบุคคล แค่ได้พบและรู้จักก็มักจะไม่มีชีวิตอยู่แล้วครับ ขอให้คุณ me ช่วยสงเคราะห์คนบุญน้อยอีกสักคนที่ต้องการนิพพานครับ รบกวนส่งเข้าที่อีเมล์ของผมนะครับ such_boy@hotmail.com ขอบพระคุณเป็นอย่างสูงครับ และขอโทษเป็นอย่างสูงที่รบกวนคุณ me ครับ

 

พระที่คุณ ชนะ สิริไพโรจน์ ส่งไปให้พี่ผมที่ใต้ ของได้ส่งถึงแล้วนะครับ

ช่วงเที่ยง ๆ พี่ชายผมโทร.มาบอกครับ

ขออนุโมทนบุญเป็นอย่างสูงครับ สาธุ

 

อา...ยินดีที่ได้รู้จักครับ ท่าตะโก ห่างกันนิดเดียวเองครับจากแผนที่ประเทศไทย
ส่วนของจริง หูย ข้ามหลายอำเภอเหมือนกันนะนี่
มีโอกาสคงได้เจอกันครับ
โมทนาบุญ กับน้อง ...สแคว...สครูเรส...สคอวสท์...เอ่อ...

 

ของพี่และครอบครัวร่วมทำบุญด้วย 1,000 บาทค่ะ
และพี่ขอซอง 10 ใบ ส่งให้พี่ตามที่อยู่ที่ Pm ไปให้แล้วนะคะ

ต้องขอขอบคุณน้องอ้อยมากๆ ที่เป็นธุระจัดการทุกสิ่งทุกอย่าง
หวังว่าเราคงจะได้พบหน้ากันเร็วๆนี้นะคะน้องอ้อย

 

กลัวกระทู้จะเงียบเหงา เลยมาพูดเรื่องสำบายๆเกี่ยวกับการรักษาศีล ๕


หลายๆคนในกระทู้นี้รวมทั้งผม คงมีเหตุให้ต้องรักษาศีลเป็นเนืองนิจ จนถึงเป็นกิจวัตร


ศีล๕ มีกี่ข้อ มีอะไรบ้าง ไม่ขอกล่าวถึง ทุกคนย่อมรู้หมดแล้วรวมทั้งผม


ศีล๕ จะบริสุทธิ์หรือไม่นั้น ย่อมมีพรหมวิหาร๔ เข้ามาเกี่ยวข้อง ถ้าละเอียดขึ้นไปอีก ก็กรรมบท ๑๐ ร่วมด้วย


ศีล ขาดไม่ขาด ตก บกพร่อง ด่าง พร้อย แล้วแต่จะเรียก ขึ้นอยู่กับ เจตนา เป็นหลัก


เลยเป็นมูลเหตุให้ต้องมาเขียนยกตัวอย่างความเลวของผม เผื่อเป็นข้อคิด หรือ พิจารณา กันใหม่ ว่าตัวเองปฏิบัติ ตก บกพร่อง กันอย่างไร


สิ่งที่ผมเขียน มิได้อวดอ้างว่าตัวเองรู้ดีหรือปฏิบัติดีแล้วชอบแล้ว แต่เพราะตัวเองเลวแล้วเลวอีก ต้องตกหลุมแล้วตกหลุมอีกจนท้อใจในการรักษาก็หลายหน


ฝากไว้เป็นข้อคิด และเป็นกำลังใจในการปฏิบัติ เพราะไม่ใช่มีแต่ท่านที่โดนทดสอบผมก็คนนึงคิดว่าดีเมื่อไร เป็นโดนทุกทีเป็นมาหลายขวบปีแล้วครับ


หลายคนอาจเจอเหตุกราณ์แบบผม หรือใกล้เคียงแบบผม ลองมาดูกันครับ


............................................
ในห้องๆนึง มีแมลง หรือยุง อยู่มากมาย คว้ายาฉีดDDT มาฉีด ฟู๊ดดดดดด ถามว่าผิดหรือไม่ผิด


ถ้าฉีดยาเพื่อ ฆ่ายุงหรือแมลง เจตนาคือทำร้าย หรือกำจัดให้หมดไป ผิด ๑๐๐% รับเต็มๆ ๑๐๐% ไม่ต้องหลบ


ถ้าฉีดเพื่อไล่ ขับไล่ เจตนาคือไม่คิดร้าย ไม่คิดฆ่า แค่ต้องการไล่มันไป ไม่ถือว่าผิด


ไม่ถือว่าผิดนะครับ ย้ำว่าไม่ถือว่าผิด เพราะเจตนาไม่คิดร้าย แต่ผลของกรรมจะได้รับมีมั้ย เอ่อ...มีครับ


เอ๋า! แล้วถ้าเราฉีดไปแล้วมันตายละ แต่เราไม่คิดร้ายกับมันนะ มันตายเองนะ ยังงี้ผิดมั้ย


อยู่ที่ เจตนา ของเราครับ ตอนที่เราฉีดเราตั้งใจฉีดให้โดนตัวมันหรือเปล่า


ไม่ใช่คิดแต่ว่า ไม่เจตนาจะฆ่าเจ้าน๋า ปากพูด ใจคิด แต่มือไม่ทำตามที่คิดฉีดเข้าไปเต็มๆตัวมัน แบบไม่คิดจะหลบ หรือเลี่ยง คิดเอาเองละกันครับ


เจตนาเราแค่ไล่ แต่มันตาย เราฉีดไม่โดนตัวมันก็แล้ว แต่มันยังตาย ถือเสียว่าเป็นกรรมของแมลงเถอะครับ เขามีกรรมต้องชดใช้ อย่าไปยึดติด


โอ๊ย! ศีลขาดแล้ว เราฆ่าแมลงตายแล้วแต่เราไม่เจตนานะย้ำนะครับไม่เจตนา เอาส่วนตรงนั้นไป พิจารณา ดีว่าครับ


แมลงเกิดมาแล้วยังต้องตาย มีเวรมีกรรมมันยังต้องชดใช้ เราเกิดมาเป็นคนดีกว่าแมลง ก็ยังไม่เห็นพ้นจากความตาย หนีกรรมไปนิพพานดีกว่าครับ


อุทิศส่วนกุศล แผ่เมตตาให้กับแมลง สบายใจกว่าเยอะครับ จิตไม่ตก กำลังใจไม่เสียด้วยครับ




เขียนแล้วหายปวดหัว ตอนไม่เขียนปวดหัวจริง
ผิดพลาดประการใดขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ เดี๋ยวมีตอนต่อไป

 

น้องขาโจ๋คะ พี่ยินดีนะคะที่น้องมาแชร์ประสบการณ์ในกระทู้

แต่พี่ขอหน่อยเถ๊อะ ช่วยเว้นวรรค เว้นบรรทัดบ้างค่ะ แบบว่าตาลาย สงสารคนแก่หน่อย อิอิ

 

ถัดมา ข้อต่อไป


บ้านผมอยู่อย่างเป็นครอบครัวอบบ้าง อุ่นบ้าง ร้อนบ้าง ปะปนกันไป เงินทองพอกินบ้างไม่พอบ้างก็ว่ากันไป


บางเดือนขาดแคลน บางเดือนก็เหลือเฟือเหลือใช้ เดือนไหนไม่พอขอท่าน ท่านก็ให้ไม่ว่ากะไร


พอมาเดือนนี้เงินขัดสน ท่านทั้ง ๒ ไม่อยู่ ไม่เป็นไรจำเป็นต้องใช้รู้ว่าเงินอยู่ตรงไหนเลยไปหยิบมาใช้ก่อนละหว๋า แก้ขัดไปก่อน


ท่านทั้ง ๒ กลับมาเงินหายไปส่วนนึงท่านรู้หรือไม่รู้ก็แล้วแต่ แต่ไม่ถามเรา


พอเรากลับมาเจอท่านแต่ไม่บอกกล่าวเรื่องเงินที่เราหยิบไป นิ่งเฉยเสีย ถามว่าผิดหรือไม่ครับ


ข้อนี้ยกตัวอย่างได้ใกล้ตัวผมมากๆเลยนะนี่ หลุมนี่ผมโดนไปหลายดอก หลายทีนับไม่ถ้วนเลย


เจตนาเราหยิบไปใช้โดยไม่บอกกล่าวถึงท่านทั้ง ๒ จะรู้ถึงท่านจะรู้หรือไม่รู้ ก็เสี่ยงที่จะผิดนะครับ ย้ำว่า เสี่ยง นะครับ


อย่างแรก ท่านไม่สบายใจ เงินหายไปไหนท่านอาจไม่รู้ว่าเราเอาไป แต่เราสบายใจมีเงินใช้แก้ขัด อาจจะเข้าข่ายขโมย หรือลักทรัพย์ได้นะครับ


เจตนาเราหยิบไปใช้แล้วกลับมาเจอท่านทั้ง ๒ แล้วบอกกล่าวว่าเรานำไป อย่างนี้สบายใจกว่าไม่เสี่ยงด้วยนะครับ


สิ่งไหนที่เราทำไป ทำไปแล้วเราสบายใจ คนอื่นสบายใจ ไม่กังวลคนนั้นจะว่า คนนั้นจะคิดไม่ถือว่าลักทรัพย์ แต่อย่าคิดเข้าข้างตัวเองนะครับ ผมโดนไปเยอะแล้ว


อย่าลืมนะครับ เจตนา ครับ เจตนา คิดดีทำดี คิดไม่ดีทำไม่ดี ผลนั้นอยู่ที่คุณ นะครับ



เดี๋ยวมีต่อ
ผิดพลาดประการใดขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ

 

ง่า....จะระวังให้มากกว่านี้พี่ งุงิ แบบว่า ยังไม่ค่อยรู้ว่าต้องเว้นวรรคขนาดไหนถึงจะพอดีกับคำ ขออภัยครับพี่ เดี๋ยวลองเว้นให้มากกว่าเดิม เอิ๊ก (ทดลองเลย งิงิ)

 

เนาะสายตากับอายุนี่ทำงานสวนกันตลอด อิอิ

 

วันนี้วันพระได้อนุโมทนาบุญร่วมไปกับพี่ๆเพื่อนกัลยาณมิตรทุกท่านซะเต็มเปี่ยมเลยค่ะ ชื่นใจไปหมด ได้แต่อนุโมทนากับท่านอื่นอยู่ฝ่ายเดียวก็อยากจะหาอะไรมาแชร์มาแบ่งปันกันร่วมอนุโมทนาบุญด้วยจังเลยค่ะ

แต่ตอนนี้เอดันมาอยู่ในดงบัง ณ.จอร์แดนเลยไม่มีวัดไทยให้ได้ร่วมทำบุญเลย ได้แต่ให้ทานคลุกข้าวให้แมวป่าแถวๆบ้านพักกินทุกวัน อ่อ...ถ้าคุณแม่เปรียบเสมือนพระอรหันต์แล้วล่ะก็ ตอนนี้เอพาคุณแม่มาเที่ยวพักที่นี่ด้วย1เดือน เพราะแต่ก่อนคุณแม่ช่วยเหลือเอตลอดตอนสอบเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน ที่เอมีทุกวันนี้ได้ก็เพราะคุณแม่ เวลาที่เอได้ไปที่ไหนก็อยากจะพาท่านไปด้วยเสมอ อยากให้ท่านได้เห็นเหมือนที่เราเห็นค่ะ เอไม่ค่อยมีเวลาใช้ชีวิตดูแลท่านที่บ้านเลย เลยอยากทำให้ท่านมีความสุขแม้ช่วงเวลาสั้นๆ ปีละครั้งก็ยังดี

ไม่รู้ว่าจะใช้ได้มั้ยนะคะ ยังไงก็ลองพิจารณาดูแล้วร่วมอนุโมทนาบุญด้วยกันนะคะ สาธุ สาธุ สาธุ

 

รออ่านศิลข้อ สาม สี่ ห้า อยู่นะครับคุณ ขาโจ๋ข้าเอง
เพราะได้ประโยชน์ มากๆๆ

 

คือพี่หมายถึงว่า เว้นย่อหน้าอ่ะค่ะ อย่าให้มันติดกันเป็นพรืดไปหมด คือเขียนไปได้สักสามสี่บรรทัด ก็ขึ้นย่อหน้าใหม่สักที จะอ่านง่ายค่ะ

 

ข้อถัดมา

ข้อนี้ส่วนมากเป็นผู้ชายที่ค่อนข้างจะผิดมากกว่าผู้หญิง อีกอย่างผมเป็นผู้ชายเลยขอกล่าวเฉพาะผู้ชายดีกว่าครับ ไม่เสียหายใคร เสียตัวผมเองครับ

สันดอน สันดาน ผู้ชายโดยส่วนมากที่เจอมาไม่ว่าหล่อ ไม่หล่อ รวย หรือจนขนาดไหน(มีส่วนน้อยที่ไม่คิด)

เห็น ญ ต้องเข้าไปข้องแวะ ยุ่งเกี่ยว พูดง่ายๆเข้าไปจีบนั้นละ เพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการ ปราถนา คือ ร่างกาย ของผู้หญิงคนนั้น (พวกรักจริงหวังแต่งก็มีนะครับ)

เมื่อใดที่เราเข้าไปยุ่งเกี่ยว แต่ยังไม่มีความสัมพันธ์ลึกซึ้ง พูดง่ายๆเป็นแค่แฟน ยังไม่ผิดศีลข้อนี้ครับ

แต่ถ้าเมื่อใดที่เราเข้าไปยุ่งเกี่ยว และมีความสัมพันธ์ลึกซึ้ง แต่ยังไม่ได้แต่งงาน ผิดทันทีครับ

เฮ้ย!!! เขาเป็นแฟนเราคนเดียว ไม่ได้ไปยุ่งเกี่ยวกับใคร ไม่มีความความสัมพันธ์กับใคร ผิดได้ไง

เมื่อก่อนผมก็เถียงแบบนี้ละครับ เลยไม่ต้องสงสัยเลยนะว่าผมรู้ได้งัย โดนด้วยตัวเอง ถึงกล้าบอกว่าผิดครับ

ในหนังสือหลวงพ่อมีเขียนไว้ครับ เล่มไหนจำไม่ได้ครับ เหมือนเป็นหนังสืออ่านเล่นของหลวงพ่อ มีคำถามเยอะไปหมด

"ถึงผู้หญิงคนไหนจะเป็นแฟนเรา แต่ถ้ายังอยู่ภายใต้ความดูแลของบุคคลอื่น มีผู้ปกครองยังคอยดูแลอยู่ และผู้ปกครองของ ญ คนนั้นไม่รู้ ถือว่า ผิด ครับ"

ถึงผู้หญิงสมยอม ก็ยังผิดครับ ใครกันเน้อ ช่างกล้าถามหลวงพ่อ และหลวงพ่อก็ตอบตรงใจผมซะจริง จริ๊ง

มีแถครับ นั้นมีแถ ถ้า ญ เขาไม่มีผู้ปกครองละ พ่อแม่ เขาตายหมดแล้ว งี้ยุ่งได้มั้ย เห็นมั้ยคนจะหาเรื่องให้รอดตัว

การที่ผู้ชายจะไปยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงสักคน คุณต้องซักไซ้ไล่เรียงกันขนาดนั้นเลยเชียวหรือ

แล้วถ้าผู้หญิงคนนั้น คบอยู่ละรู้ประวัติมากมายก่ายกอง คนเดียวแน่ๆ ญาติพี่น้องไม่มีเล้ย

ไปขอเขาแต่งงานแล้วรับมาอยู่ด้วยกันเถอะ ไม่ต้องแอบ หรือ ซ่อนใครด้วยครับ ทำแล้วสบายใจ ไม่สบายใจอย่าไปทำดีกว่าครับ

โหย!! คุณอายุแล้วนี่ คุณก็พูดได้อะซี่

แล้วคนที่อายุน้อยกว่าคุณ หรือเท่าคุณ ที่เขาทำได้ ทำไมไม่ลองเปรียบเทียบดูละครับ

ผิดพลาดประการใดขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ

 

ต่อๆ ข้อที่ 4

เรื่องโกหกนี่ผมสารพัดจะอ้าง พูดง่ายๆ เอาตัวรอดไว้ก่อนค่อยว่ากัน ส่วนมากจะผิดมากกว่าถูกครับ

เคยอ่านเจอหนังสือหลวงพ่อเขียนไว้ว่าอย่างนึงว่า

การที่เราโกหกแล้วเขาสบายใจ หรือเพื่อให้เขาสบายใจ แล้วไม่เดือดร้อนทั้งเรา และไม่เดือดร้อนทั้งเขา ไม่เป็นไรครับ

ถ้าไงใครเคยอ่านเจอ ช่วยเอาตัวอย่างที่หลวงพ่อยกไว้ให้อ่าน มาให้อ่านด้วยครับ

เพราะโดยส่วนมาก คนเรามักจะโกหกเพื่อเอาตัวรอด หรือโยงเรื่อง หรืออ้างไปให้เพื่อนรับมุขไปอีกทีนึง เอาตัวรอดกันโดยซะมากกว่า แต่คนที่โดนอ้างถึงเดือดร้อนไปแล้วครับ

ถ้าคุณ อ้างกับแฟน ว่าไปกับเพื่อนคนนั้น คนนี้ แฟนคุณรู้จักอาจมีโทรสอบถามว่า เป็นจริงมั้ย เป็นอย่างนี้ใช่มั้ย ถูกต้องมั้ย ตะนี้เป็นแถวเลยครับลากกันเข้าไป

ถ้าแฟนคุณไม่รู้จัก ไม่โทรสอบถาม แต่ในใจแฟนคุณ อาจจะต่อว่าต่อขานไปบ้างแล้ว ดีไม่ดีอาจไม่ได้คิดในใจ พูดออกมาเลย งานเข้าละครับ อาจจะทะเลาะกันละทีนี้

เดือดร้อนกันไปหมด เรื่องเล็กบางเรื่องอาจจะกลายเป็นใหญ่ เพราะแค่คำบางคำก็ได้นะครับ

ถ้าผมจำไม่ผิดหลวงพ่อให้บอกเป็นมุมใหญ่ คือคนฟังคิดได้ไปหลายทาง โดยที่เราไม่ได้นำทางให้คิดนะครับ ให้เขาคิดเอง

อย่าคิดว่าตัวเองฉลาด พูดโดยให้เขาคิดไปเองได้ โดยไม่ได้นำทางแต่ถ้าพลาดท่าขึ้นมา หลุดออกไปคำ

เฮอะ! กลายเป็นเจตนาให้เขาคิดไปแนวนี้ งานเข้าละครับ แทนที่เขาจะตกหลุมพรางเรา เรากับกลายเป็นหย่อนระเบิดใส่ตัวเองเข้าเต็มเปา ตายเลย

ความจริง เป็นสิ่งไม่ตาย ครับ


ผิดพลาดประการใด ขออภัยไว้ ณ ที้นี้ด้วยครับ

 

เอาบุญมาฝากค่ะ วันนี้โอนเงินเข้ากองทุน ร.ต.อ.ธรณิศ ศรีสุข จำนวน 500 บาท ตอนไปโอนเงินเจ้าหน้าที่ธนาคารได้ร่วมทำบุญด้วยอีก 100 บาท รวมเป็น 600 บาท พร้อมไปบริจาคโลงศพมา 50 บาท ค่ะ ขอบุญกุศลนี้จงถึงท่านกัลยาณมิตรทุกท่านเลยนะคะ สาธุ

 

เออ...แต่ถ้าผู้หญิงเขาทำการทำงานดูแลตัวเองแล้วล่ะครับ มันก็ยังผิดใช่ไหมครับ คือ...แบบว่าอยากผิดน้อยลงหน่อยนะครับ

เพราะด้วยความเลว(มากกกกก)ของตัวเองผิดมาเป็นครั้งที่ 2 แล้วด้วยครับ

 

ข้อสุดท้าย กับดักอันใหญ่โต มโหฬาร สำหรับผู้ชาย(ว่าเข้าไปนั้น)


สุรา สุรา สุรา ส่งมาเป็นระยะ เพื่อสังคมนะยะ เพื่อสังคมนะครับ(บางคนเพื่อสังคมจริงๆก็มีนะครับ ไม่ใช่ไม่มี อิอิ)


อันนี้ละ โป๊ะเช๊ะ! เป๊ะ!เลย ผมเอง หลวงพ่อท่านเคยบอกไว้ กินเพื่อเข้าสังคมกินได้ ๕๕๕


เข้าสังคมกินได้ วันนี้มีงานเลี้ยงไงก็ต้องไปงานเลี้ยงหลบไม่ได้เพื่อนกันซะด้วย


เพื่อน " เฮ้ย! เพื่อน สักแก้วนึงเพื่อนฝูง นานๆมาจอยกัน นั่งตรงนี้เลยใกล้ๆกัน "


ผม " ไม่เป็นไรเพื่อน ไม่กินหรอก ช่วงนี้รักษาศีลอยู่ กินไม่ได้ "


เพื่อน " เฮ้ย! เพื่อนนิดนึงมาทั้งที ขอหยุดไปสักวันก็ได้นี่หว่า นี่ตรูเพื่อนรักเอ็งนะนี่ เป็นคนอื่นไม่เรียกนะเว้ย เพื่อน "


แก้วอยู่ในมือผมละโดนยัดซะเหล้ากระจาย แถมมองแก้วหยั่งใจไปที " ไม่เอาดีกว่าเพื่อน ตูขอละกัน "


เพื่อน " เฮ้ย! งั้นตรูขอเอ็งมั้งละกัน วันนี้สักวัน จะเป็นไรไป " ตะนี้ข้ออ้างสารพัด คำขอมาอีกบาน เพื่อนคนอื่นคะยั้นคะยออีกตรึม เชื่อมั้ยคนอื่นต้องเคยเจอแบบผม


นึกขึ้นมาได้หลวงพ่อเคยบอกเพื่อสังคม " เอาว่ะ นิดนึงก็แล้วกัน เพื่อสังคม " เฮๆๆๆๆ นั้นซัดไปแล้วมันชอบอกชอบใจกันใหญ่


นั่งไปได้สักระยะ " เฮ้ย! เพื่อนไม่ยกเลยหว๋า แมลงลงไปไข่หมดแล้ว ยกหน่อยเพื่อนเพื่อตรู " อะ เพื่อสังคมอีกนิดนึง


พอสังคมจบ งานจบ สบายไม่เมาครับ ครองสติได้สบาย ไม่มีอาการ กลับบ้านสบายแต่ซัดไปหลายแก้วอยู่ เป็นอย่างนี้มาหลายปี


แต่สังคมพวกขี้เมา มันมีเกือบทุกวันอ่ะ ไปเกือบทุกวัน ตกเย็น เอ๋า สังคม เย็นมา สังคม เย็นนี้เฮ้ย! สังคมอีกละ


ยิ่งตอนมี ญ มานั่งด้วย "เฮ้ย! เพื่อนเอ็งไม่กินอาย ญ มันนะเว้ย ญ เขายังกินเลย โชว์หน่อย " งานไหนงานนั้น ผู้ชายเป็นแบบนี้ละ


สังคมมันมาก กินแล้วไม่เมา มีสติ ไม่มีอาการ แต่ก็ไม่สบายใจเพราะหลายแก้วหมิ่นแหม่ซะเหลือเกิน (ถ้าไม่เข้าข้างตัวเอง ศีลขาดไปแล้วครับ)


แต่บางสังคม ถึงมีสติ ก็แค่รู้ แต่เกือบจะแย่ อาการเรื่มออก บางสังคมถึงกับแย่ แต่เก็บอาการ เพราะมีสติ (เข้าสังคม กินแค่เป็นพิธี มิใช่กินไปหลายแก้วเพื่อเป็นพิธี)


หาทางออกให้ตัวเองไม่เจอ เคยเข้าผับ เข้าเธค เฮๆ เย้วๆ ตามเพื่อนไป ถึงกับนั่งพิจารณาในเธค ในผับ ก็ยังเคยทำมาแล้วเลย


หลังๆไม่ไปละเธค ผับ เบื่อละ เรื่มไม่สนุก แต่มันก็ยังชวนพาออกไปสังคมแถวๆข้างบ้าน


ผลที่สุดเจอทางออกขอลองดูหน่อย ได้ผลไม่ได้ผลเดี๋ยวลองดู


เพื่อน " เพื่อน มาพอดี นั่งก่อน เอ้า เพื่อสังคมสักแก้วนึง " ดูมันทำ มันย้อน


ผม " กินไม่ได้ว่ะ โดนห้ามไว้ "


เพื่อน "ใครห้ามเอ็งว่ะเพื่อน ไหนบอกซิ"


ผม "เอ่อ...หมอ ว่ะ ถ้ากินตรูแย่แน่ๆ " ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจะเป็นอย่างไร


เพื่อน " เฮ้ย! เป็นไรว่ะ หมอสวยอะดิ ถึงห้ามแล้วเอ็งเชื่อขนาดนี้อ่ะ เออ! ไม่เป็นไร รักษาตัวด้วยเว้ยเพื่อน "


ผม " ???? " มัยง่ายขนาดนี้ฟร่ะ รู้งี้เล่นมุขนี้มาตั้งนานละ


ทำไมโกหกว่าเป็น หมอ ส่วนมากใครๆก็มักคิดว่าไปหาหมอ ไม่สบาย อาการแย่ หมอถึงห้าม


บังเอิญบอกว่าหมอ แต่ไม่ได้บอกว่า หมออะไร มันคิดไปเองเป็นตุเป็นตะ หมอสวย อย่างนั้นอย่างนี้ ตีความเอาเองรอดตัวไป ไม่ต้องเพื่มเติมว่าไปหามาเมื่อไร เป็นอย่างไร


พอเห็นมุขนี้เข้าท่า เลยใช้มันมาตลอด โรคอะไรก็หาเอง เหมือนหลวงพ่อที่ว่าโกหกไปแล้ว เขาไม่เดือดร้อน เราไม่เดือดร้อน


เพื่อนมันไม่เดือดร้อนอยู่แล้ว ขาดเราไป ๑ คนมันก็ยังกินกันได้อยู่ร่ำไป เพื่อนมันชวนลงขุมก็ตามมันไปซะตั้งนาน จนท่าจะแย่


เพราะ เดี๋ยวนี้ไม่ต้องไปโกหกเพื่อนแล้วว่าหมอห้าม เพราะหมอดันห้ามจริงๆ เป็นโรคความดันสูงไปร้อยเรียบ สำบายอุรา


อย่างเขาว่า คบคนพาล พาลพาไปหาผิด คบบัณฑิต บัณฑิตพาไปหาผล คบคนเลว พาลงสู่เบี้องล่าง คบคนดี พาไปสู่เบื้องบน เลือกกันเอาเองครับ


ผิดพลาดประการใดขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ


ปล. อย่าลืมนะครับ นี่คือตัวอย่างจากผม มิได้คิดพูดให้กระทบ หรือกระเทือนใครถ้าพลาดพลั้งไปโดยไม่ได้เจตนา ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ

 

สวัสดีครับ พี่ณหทัย

เปิดมาเห็นจั่วหัวไว้ เขินแย่เลยครับ ประกาศออก global network ยิ่งเขินใหญ่ แต่อย่างไรต้องขอกราบขอบพระคุณครับที่ชมครับ

จริงๆแล้ว พี่น้อง พ้องเพื่อนในกระทู้นี้ น่ารัก จิตใจงามกันทุกคน (งามแต้ งามว่า ดังเทวดามาโอ ธัมโม สังโฆ อะโล่ โล้ โล ส้มมะโอ น้องเหน่ง - ใช้ไหมครับคุณอ้อย งามแต้น่อ ฮิ ฮิ)

ผมว่าคนเราทุกคน มีทุกข์ครับ ทุกข์ทั้งนั้น เครียดด้วย
ไม่เจอทุกข์ ไม่เจอธรรม
เวลาเรามีทุกข์ หลายครั้ง ไม่รู้จะพูดกับใคร หรือจะพูดก็พูดไม่ได้ อยากจะปรึกษาก็ทำไม่ได้ (ไม่ทราบแต่ละท่านเคยเป็นหรือไม่ แต่ผมเคยประสพแล้ว)ยิ่งคิด ยิ่งเครียด ยิ่งคิด ยิ่งกลุ้ม

หากว่าได้มีใครมาให้กำลังใจ ผมว่าโลกก็น่าเดินต่อแบบมีกำลังใจนะครับ
ถึงแม้ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาอะไร แต่ว่ามันมีแรงเดินต่อครับ อย่างน้อยเป็นน้ำเย็นซักจิบ หรือซักแก้ว ดับกระหายชั่วคราว โลกก็น่าอยู่ขึ้น

ยิ่งมารู้จักกัลยาณมิตรในกระทู้นี้แล้ว ภาษาปะกิตว่า I can feel and I also touch. จะรับรู้ได้ว่า แม้ไม่รู้จักหน้าค่าตา แต่ใจมันสัมผัสครับ ผมคิดว่ากัลยาณมิตรในกระทู้นี้ เติมเต็มกำลังใจให้กันครับ

เป็นกำลังใจให้ครับ

GO GO GO

ขอพรพระอวยพรให้พี่ ผ่านทุกข์ พบสุข และประสพกับสิ่งที่หวังได้โดยเร็วพลันด้วยครับ

สาธุ สาธุ สาธุ

บุญรักษา สวัสดีครับ

ต้องขออภัยทุกท่านที่ใช้พื้นที่มากหน่อยครับ