ไม่เคยฝึกมโนมยิทธิ แต่สิ่งที่ตัวเองสื่อได้ คล้ายๆจะมาทางด้านนี้

ในห้อง 'ประสบการณ์อภิญญา' ตั้งกระทู้โดย Me, myself, 3 มีนาคม 2009.

  1. คาเรีย

    คาเรีย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    299
    ค่าพลัง:
    +3,611

    แหะๆ นอกจากพี่อ้อยจะได้ความรู้ใหม่ หนูก็พลอยได้ความรู้ไปด้วยนะคะเนี้ย
    แต่ว่าหนูจะมีวิมานกับเค้าด้วยเหรอคะเนี้ย แหะๆ ;k01



    กระทู้นี้ก็เหมือนบ้านที่สองของหนูเหมือนกันค่ะพี่ ตอนนี้เปิดคอมปุ๊ป ก็เปิดกระทู้ดูก่อนเลย ได้ทั้งบุญได้ทั้งความรู้ ^^ อิอิ
    แต่ก่อนหนูเองก็มีความคิดจะเปลี่ยนไปศาสนาคริสต์เหมือนกันค่ะ
    แต่ว่าคิดไปคิดมา ....ใจมันอยู่กับพระพุทธศาสนามากกว่า อยู่ที่ไหนก็ไม่สุขใจเท่าประเทศไทย
    อยู่ไหนก็ไม่ได้สุขใจเท่าอยู่ใต้ร่มโพธิ์ร่มไทรขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าอยู่ดีค่ะ






    ง่า หนูขอเป็นญาติธรรมห่างๆด้วยได้มั้ยคะ T^T
    อยากทราบผลกรรมที่ทำมาจากอดีตชาติด้วยน่ะค่ะ ;9k





    อ๋อ น้องเอาบุญมาฝากค่ะ เมื่อวันก่อนร่วมทำบุญสร้างหนังสือกฏแห่งกรรมไป 10 เล่มค่ะ ^^
     
  2. nahathai

    nahathai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 เมษายน 2009
    โพสต์:
    180
    ค่าพลัง:
    +2,393
    พี่ Me,myself เขาหมายความว่า อายุเกิน 60 ไปแล้ว แล้วจะบริจาคเลือด ลำบากแล้วครับ ต้องตรวจเยอะ ไม่ใช่ว่าพี่เขาจะไปไหนหรอกครับ สบายใจได้
    เห็นด้วยกับข้อความของคุณRicardo and Obeone13 ก็ขอด้วยแหละ ต้องให้อาจารย์ช่วยเข็นลูกเรือให้ขึ้นฝั่งให้ได้ก่อน อาจารย์ถึงจะหมดห่วงได้ ตอนนี้ปล่อยพวกเราไป เก๊าะ ลอยคอแน่นอน......
    (เรื่องการขอเรื่องการปลงสังขารนี่ หลวงพ่อจรัญก็มีญาติโยมช่วยกันขอ ตอนนี้ท่านก็โอเคในอายุ 100 ปี แต่ ณ อาทิตย์นี้มีญาติโยมขอท่านอีกขอให้เป็นอายุ 120 ปี และญาติโยมท่านที่ขอนั้นก็ได้นำพระธาตุน้อมถวาย 120 องค์ด้วยค่ะ)
     
  3. nahathai

    nahathai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 เมษายน 2009
    โพสต์:
    180
    ค่าพลัง:
    +2,393
    อนุโมทนาสาธุ เป็นอย่างสูงค่ะ ขอให้มี่สุขภาพแข็งแรง และมีบารมีสูงยิ่ง ยิ่งขึ้นไปนะคะ รวมทั้งให้มีอายุยืนนานหมื่นๆปี
     
  4. nahathai

    nahathai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 เมษายน 2009
    โพสต์:
    180
    ค่าพลัง:
    +2,393
    สาธุ สาธุ อนุโมทนาเป็นอย่างสูง และขอให้ข้าพเจ้าได้มีบุญตา ได้เห็นได้อ่านได้เรียนรู้ ได้ศึกษา และในจิตใจก็มีความมุ่งมั่นเข้าสู่มโนมยิทธิ ก็ด้วยปรารถนาอยากรู้เรื่องเวรกรรม และอดีตชาติเคยไปสร้างเวรกรรมอะไรมา จึงส่งผลข้ามภพมาในชาติปัจจุบันนี้ จนมีความรู้สึกว่าเกิดมาแล้วเป็นทุกข์ ทำดีให้ใครไม่ได้รับผลดีก็เป็นทุกข์ ทำให้คิดว่าจะทำดีไปทำไม ตั้งใจทำในสิ่งดีๆให้ใครเขาแล้วทำไมผลออกมาเป็นตรงข้าม จนต้องไปถวายตาลปัตร เพื่อแก้เคล็ดก็เคยทำ แล้วก็เป็นทุกข์ หาเหตุแห่งทุกข์เจอแล้วแต่ก็ดับไม่ได้ ก็เป็นทุกข์อี่ก จนต้องยกมือวันทาว่าข้าพเจ้าไม่อยากเกิดอีกแล้ว ทำไมเกิดมาแล้วต้องใช้กรรม เกิดมาแล้วเพื่อรอวันตาย .....จนกระทั่งเข้ามาในกระทู้นี้ อ้อ ต้องทำบุญ สร้างบารมี เพื่อจะได้ไม่ต้องเกิดอีก ตายไปเปล่าๆปลี้ไม่ได้ นับวันรอวันตายก็ไม่ได้่ ต้องสร้างสมบารมี ทำบุญ วิปัสสนา จึงจะพ้นทุกข์ เฮ้อ นี่หรือกรรม
     
  5. Me, myself

    Me, myself บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ Ricardo DeCalgary [​IMG]
    สวัสดีครับ คุณ Me, myself,

    จะรีบไปไหน จะรีบไปไหน
    ที่บอกว่าเหลืออีกสิบเก้าปี อยู่เป็นหลักให้กับ ลูกเรือก่อนครับ
    (ผมเห็นแก่ตัวไปหรือเปล่าครับ ขออภัยด้วยครับ)

    ผมว่าน่าจะเป็น สามสิบเก้า หรือ สี่สิบเก้าปี นะครับ (ฮิ ฮิ)

    เพื่อนๆสมาชิก ช่วยๆกันขอ หน่อยนะครับ
    ผมคนเดียวกำลังไม่พอ


    ฮาฮาฮา นึกแล้วว่าต้องมีคนเข้าใจผิด เพราะเมื่อวานน้องคนนึงก็มาถามแบบเดียวกันนี่เลย อิอิ

    ที่ดิฉันพูดว่าเหลืออีก 19 ปีน่ะ หมายถึงว่าอีก 19 ปีจะอายุ 60 ค่ะ เพราะถ้าเลย 60 ปีไปแล้วเขาจะไม่ให้บริจาคเลือดอีกแล้ว ถ้าจะบริจาคต้องมีใบรับรองแพทย์ไปด้วย แบบว่ามันจะยุ่งยากขึ้นอีก ดังนั้นภายในระยะเวลาที่เหลืออีก 19 ปีเนี่ย ดิฉันยังพอมีเวลาเหลือที่จะบริจาคเลือดได้ครบ 108 ครั้ง (ซึ่งต้องไปให้ได้โดยที่ไม่พลาดเลยนะคะ) แต่ โอ้...ยังเหลืออีกตั้ง 60 กว่าครั้ง สงสัยท่าจะยาก อิอิ
     
  6. Me, myself

    Me, myself บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0

    (ping-loveจะให้อยู่อะไรนานขนาดน้าน เป็นภาระคนอื่น แค่แปดสิบก็แย่แล้ว
     
  7. chokojang

    chokojang Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +64
    ขอบคุณพี่สาว มากๆเลยค่ะสำหรับคำแนะนำ โชจะลองใหม่ค่ะ ^^
     
  8. Me, myself

    Me, myself บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    พี่ณหทัยค่ะ ทำเป็นหนังจีนไปได้ ใครจะมีอายุยืนเป็นหมื่นๆปีคะ อิอิ แค่ทุกวันนี้ก็เบื่อจะแย่แล้ว นี่ถ้าไม่ติดเรื่องลูกกับพ่อแม่ สงสัยไปบวชนานแล้ว เฮ้อ
     
  9. Me, myself

    Me, myself บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    บันทึกการทำสมาธิวันที่ 22 ส.ค. 52

    เข้าสมาธิขึ้นไปเฝ้าพระศาสดา

    ดิฉัน - นมัสการพระศาสดาค่ะ

    พระศาสดา - เจริญพร เป็นอะไรไปละ หน้าตาไม่ค่อยสบาย

    ดิฉัน - มาสารภาพค่ะ ว่าลูกยังระงับความหงุดหงิดกับบางคนกับบางเรื่องไม่ค่อยได้เลย

    พระศาสดา - แล้วเธอเอาใจไปคิดทำไม ใครเขาจะว่าอะไรจะทำอะไรมันเรื่องของเขา ถ้าเธอไม่ไปใส่ใจซะอย่าง จิตเธอก็ไม่ต้องเศร้าหมอง ไม่ต้องมีอารมณ์หงุดหงิดใช่หรือไม่

    ดิฉัน - ใช่ เจ้าค่ะ

    พระศาสดา - แล้วเมื่ออารมณ์หงุดหงิด ทำให้ไม่สบายใจทำให้ทุกข์ใช่หรือไม่

    ดิฉัน - ใช่ เจ้าค่ะ

    พระศาสดา - แล้วเธอยังจะพกเอาความทุกข์ไว้อีกเหรอ อย่าพยายามไปกล่าวโทษคนอื่น มันต้องโทษตัวเราที่ไม่รู้จักระงับอารมณ์ ถ้าเรายังหงุดหงิดกับสิ่งที่มากระทบ เรายังใช้ไม่ได้ ให้ทำใจปล่อยวางไปซะ ทุกคนก็ต้องมีอารมณ์รัก อารมณ์โกรธกันเป็นธรรมดา แต่ในเมื่อเกิดขึ้นมาแล้ว เราระงับได้ไหม เราปล่อยวางได้ไหม ถ้าไม่ได้แสดงว่าเรายังปฏิบัติตนได้ไม่ดีพอ จงโทษที่ตัวเราอย่าไปโทษคนอื่น

    ดิฉัน - เจ้าค่ะ

    พระศาสดา - ตอนนี้สบายใจขึ้นหรือยัง

    ดิฉัน - เจ้าค่ะ ได้ฟังคำสั่งสอนของพระศาสดา สติก็เริ่มกลับมาค่ะ อารมณ์ก็เย็นลงค่ะ

    พระศาสดา - จำเอาไว้ เมื่อมีคนหรือเหตุการณ์อะไรมาทำให้เราไม่พอใจ ก็ให้รับรู้ไว้แล้วก็ปล่อยวางซะ อย่าไปแบกความทุกข์ไว้ ไม่เกิดประโยชน์ จงฝึกจิตของตนให้หลุดพ้นแทนที่จะไปโทษว่าเป็นความผิดของผู้อื่น

    ดิฉัน - ทราบแล้วเจ้าค่ะ สาธุ
     
  10. nuttadet

    nuttadet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    1,892
    ค่าพลัง:
    +6,454
    ไม่แน่นะครับ อายุอาจจะไม่ถึงหมื่นปีหรอกแต่ซัก 100-200 นี่พอไหวไหมเอ่ย หุุหุ
     
  11. ขาโจ๋ข้าเอง

    ขาโจ๋ข้าเอง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2004
    โพสต์:
    244
    ค่าพลัง:
    +4,856
    ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 10 คน ( เป็นสมาชิก 8 คน และ บุคคลทั่วไป 2 คน ) [ แนะนำเรื่องเด่น ]
    wiratf, Doughnut, chokojang, Linda2009, Obeone13, Me, myself, nahathai

    สวัสดีครับทุกท่านเลย
    รู้สึกตงิดๆ เกี่ยวกับเรื่องศีล 8 ที่เคยมีคนถามเกี่ยวกับ ข้อ 6,7,8 นะครับ
    ถ้ามีคนเคยตอบไปแล้วก็ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย เหมือนกับเอามะพร้าวห้าวมาขายสวน
    เท่าที่ผ่านตา มีคนเคยตอบเกี่ยวการใช้เครื่องประทุนหอม พวกแป้ง พวกน้ำหอมไปแล้ว
    ตรงกินข้าวหลังเที่ยงก็มีบอกไปแล้ว ข้อนี้ก็เพิ่งรู้เหมือนกันว่าทำแบบนั้นได้
    ตะนี้ผมจะบอกมั้ง ไม่ใช่ขอตอบมั้ง ด้วยเท่าที่พอมีความรู้มาบ้างและอ่านเจอหนังสือที่หลวงพ่อเขียนมาบ้าง
    ข้อ วิกาลโภชนา เนื่ยสำหรับฆราวาส ยืดออกเวลาออกไปโดยประมาณ 14.00น.(ข้อนี้เพิ่งรู้ โดนใจมากครับ)
    อาจจะมีบางกลุ่มต้องไปทำงานด้วย และถือศีลไปด้วย (กลุ่มนี้ยากน่าดู เพราะโดนหลุมพรางเยอะแน่ ส่วนมากที่ตกหลุม กรรมบท10 ครับ)
    ข้อ ที่ว่าด้วยห้ามใช้เครื่องประหุนหอม และ ที่นอนอ่อนนุ่ม ขอบอกรวมๆกันเลยนะครับ
    เพราะทั้ง 2 อย่างนี่นั้น ขึ้นอยู่ที่ เจตนา และ พิจารณา เป็นหลักครับ
    ยกตัวอย่าง เวลาไปทำงาน ส่วนมากผู้หญิง ต้องมีปะแป้ง แต่งองค์ ทรงเครื่องบ้าง แถมน้ำหอมปิดท้าย ผู้ชายก็มักใช้
    ให้ พิจารณา ว่าเราใช้เพื่อสังคมที่ปรุงแต่ง ดับกลิ่นที่ผู้คนไม่ต้องการ อย่าไปคิดว่าใช้เพื่อตัวเองให้ดูสวย หล่อ
    อย่าไปคิดว่าใช้เพื่อให้ผู้คนได้ชื่นชมว่ากลิ่นหอม เพราะเรายังต้องอยู่ในสังคมนี้ เรายังจำเป็นต้องใช้
    ตอนใช้ระวังอย่าไปคิดว่าใช้แล้วสวยเว้ย หล่อเว้ย ถ้าคิดอย่างนั้นโดนหลุมของกิเลสเข้าไป 1 ดอกละครับ(โดนด้วยตัวเอง ขอรับ)
    ให้ใช้ และ พิจารณา ย้ำนะครับว่า พิจารณา ใช้แล้วดูสวยหนอ หล่อหนอ แต่ก็ยังไม่รอดพ้นจากความตาย
    ใช้น้ำหอมก็ พิจารณา ไปด้วยว่ามี่กลิ่นหอมหนอ กลิ่นชื่นใจหนา แต่ก็ไม่ดับกลิ่นกายที่รวมกันเน่าเหม็นอยู่ภายใน(อันนี้ใครจะพิจารณาอย่างไรก็แล้วแต่นะครับแค่ยกตัวอย่างจากผม)
    ส่วนเรื่องที่นอน ฝูกหมอน บางคนยังติดอยู่ว่าต้องอยู่กับครอบครัว อาจจะลูก อาจจะแฟน
    ครั้นจะที่แยกมานอน ก็กลัวว่าจะเป็นปัญหาในภาคหน้า
    บางคนอยู่คนเดียวแสนสบายใจ แต่ก็มีปัญหาในงบประมาณตนเอง หรือ พื้นที่ภายในจำกัด
    อย่าไปคิดมากครับ ให้หันมา พิจารณา แทนครับ เรานอนที่นอนผืนนี้เพื่อไม่อยากให้เกิดปัญาหาในภายภาคหน้าทั้งครอบครัว หรือตนเอง
    เราไม่ได้ยึดติดกับที่นอนหมอนมุ้ง มันจะนุ่ม มันจะแข็ง มันจะสูงใหญ่ โอ่โถงขนาดไหน นั้นเป็นเรื่องของมัน
    มันจะมีหรือไม่มี นั้นเราไม่สนใจ มันจะนอนตรงไหน นุ่มแข็ง ขนาดไหน เราไม่รอดพ้นจากความตายอยู่ดี
    ตะนี้ เรื่องดูหนัง ฟังเพลง ก็เหมือนกันครับ ใช้การ พิจารณา เหมือนกันครับ
    ดารา นักแสดง นักร้อง แดนเซอร์ นักดนตรี ตัวประกอบ ผู้คนเหล่านี้ ต่างไม่รอดพ้นจากความตาย เขามีหน้าที่จะต้องหาเงิน เป็นหน้าที่ที่เขาต้องทำไป
    แต่เมื่อภาระจากการแสดงหมดลงแล้ว ก็ไม่ต่างไปจากเรา มีหิว มีทุกข์ มีสุข เหมือนกับเรา ไม่ต่างไปจากเรา
    มีความตายเป็นทางสุดท้ายเหมือนกับเรา แต่ผลที่ได้อาจไม่เหมือนเรา นรก สวรรค์ พรหม นิพพาน ใครจะรู้

    คิดมาก ไม่ใช่ที่มาของ สติ ปัญญา
    พิจารณา ที่มาของ สติ ปัญญา

    โดยส่วนตัวของผม การปฏิบัติของผมหมือนวนเวียนอยู่กับที่ไปไม่ถึงไหน
    จึงอาศัยการพิจารณา เป็นตัวนำทางไป
    ได้กระทู้ของพี่สาว และ พี่ๆ น้องๆ อีกหลายคนในนี้ ที่ได้ถามมา ตอบไป จึงได้เห็นข้อบกพร่องของตนเอง
    เหมือนกับเส้นผมบังภูเขาอะครับ นิดเดียวจริงๆ

    ปล. ขอบคุณพี่สาว (หรือพี่ Me)มากครับ ที่ให้กำลังใจ รวมทั้งอีกหลายๆคนที่ไม่ได้กล่าวถึง
    โมทนาบุญ กับพี่สาวด้วยครับ เรื่องบริจาคเลือด
    ผิดพลาดประการใด ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ
     
  12. ชนะ สิริไพโรจน์

    ชนะ สิริไพโรจน์ ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,891
    กระทู้เรื่องเด่น:
    14
    ค่าพลัง:
    +35,260
    อัตนาโจทยะตานัง จงกล่าวโทษโจษความผิดของตัวเองอยู่เสมอ
    เป็นคำสอนขององค์สมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า

    ขออนุโมทนาเป็นอย่างสูงครับ
     
  13. Me, myself

    Me, myself บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    บันทึกการทำสมาธิวันที่ 26 ส.ค. 52

    ขึ้นไปเข้าเฝ้าพระศาสดา ท่านก็ได้สนทนาสอบถามถึงเรื่องส่วนตัวนิดหน่อย จากนั้นดิฉันก็ได้ทูลถามพระองค์ว่า

    ดิฉัน - พระศาสดาเจ้าคะ เรื่องของชบากับลำดวนนี่ ลูกยังสงสัยมากเลยนะคะ

    พระศาสดา - สงสัยเรื่องอะไร

    ดิฉัน - ก็ทั้งสองคนมานิพพานง๊าย ง่าย เจ้าค่ะ แค่จิตนึกถึงนิพพานตอนจะตายก็มาได้แล้วเหรอคะ

    พระศาสดา - ถูกต้อง

    ดิฉัน - แล้วคนอื่นเขาต้องฝึกกันตั้งนาน ทำไมต้องฝึกละค่ะ ตอนตายเอาแบบชบากับลำดวนก็ไปได้แล้ว

    พระศาสดา - คนเราสร้างบารมีมาไม่เท่ากัน ไม่เหมือนกัน อย่างเธอต้องฝึกเป็นพระอริยะไปตามขั้นตอนแล้วค่อยเข้านิพพาน เป็นบารมีของแต่ละคน ส่วนพวกที่เข้านิพพานแบบชบาและลำดวนก็มีพอสมควร แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นพวกเขาก็ต้องมีจิตรักในนิพพานเป็นนิจ ก่อนตายจิตก็ต้องละทุกสิ่งทุกอย่างได้จริงๆ ถึงจะเข้านิพพานได้

    ดิฉัน - ค่ะ แล้วทำไมเขาไม่มีวิมานเป็นเอกเทศละคะ ทำไมต้องมาเป็นบริวารอยู่ในเขตวิมานของลูก

    พระศาสดา - ก็เพราะว่าบารมีของเขาไม่มากพอที่จะมีวิมานแยกเป็นเอกเทศ เขาก็ต้องไปเป็นบริวารอยู่ร่วมกับคนที่เคยเกื้อกูลกันมา

    ดิฉัน - แต่ลูกเข้าใจว่าคนที่เข้านิพพานแล้ว ก็เป็นอิสระไม่ใช่หรือคะ ไม่ต้องมีบริวาร ไม่ต้องมีนาย มีลูกน้อง อะไรแบบนี้

    พระศาสดา - ยังมีอยู่ เพราะว่าบารมีของแต่ละคนไม่เท่ากัน

    ดิฉัน - ลูกก็ยังงงๆอยู่ดีแหละค่ะ (คิดถึงหลวงพ่อฤาษีในทันทีทันใด) ตกลงมันเป็นยังไงคะหลวงพ่อเจ้าขา

    หลวงพ่อฤาษี (ท่านก็มาในทันทีเหมือนกัน) - ที่พระศาสดาตรัสน่ะ ถูกต้องแล้วลูก

    ดิฉัน - สรุปก็ยังมีบริวารกันหรือคะบนนิพพาน ทำไมทุกคนถึงไม่เท่ากันละคะ ไหนๆก็เข้านิพพานแล้ว

    หลวงพ่อฤาษี - อ้าว...ถ้าลูกพูดยังงั้น อย่างนี้หลวงพ่อเข้านิพพานแล้ว หลวงพ่อก็เท่ากับพระศาสดาเรอะไง

    ดิฉัน - แว๊กกกกกกก...ไม่เท่าเจ้าค่ะ จะไปเท่าได้ไง พระพุทธเจ้าก็พระพุทธเจ้า หลวงพ่อก็หลวงพ่อ

    หลวงพ่อฤาษี - ใช่ไหม เจ้าก็รู้นี่ ต่อให้เข้านิพพานแล้ว พระพุทธเจ้าก็คือพระพุทธเจ้า หลวงพ่อก็คือหลวงพ่อ หลวงพ่อก็ไม่สามารถเป็นพระพุทธเจ้าได้ไช่ไหมละ คนธรรมดาก็ไม่สามารถเป็นพระได้ใช่ไหมละ เป็นเพราะอะไร ก็เพราะบารมีที่ทำมามันไม่เท่ากันถูกไหม ดังนั้นทุกคนก็อยู่ในฐานะที่ต่างกัน เพราะว่าบารมีไม่เท่ากัน เพียงแต่ว่าทุกคนที่เข้านิพพานแล้วไม่ต้องไปเวียนว่ายตายเกิดอีกแล้วเท่านั้นแหละ เข้าใจหรือยัง

    ดิฉัน - เข้าใจค่ะ หายโง่ไปเลยค่ะ ถูกต้องจริงๆเลยค่ะ สาธุ

    -------------------------------------------------------------------------

    โปรดใช้ปัญญาพิจารณาในการอ่าน
     
  14. paitoon01

    paitoon01 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,480
    ค่าพลัง:
    +4,160
    สาธุ
    ขอกราบพระศาสดาด้วยจิตเคารพสูงสุด
    และขออนุโมทนากับคุณMe,myself กับข้อความนี้
    ขออนุญาตนำคำสั่งสอนพระศาสดาไปปฏิบัติด้วยครับ
     
  15. ขาโจ๋ข้าเอง

    ขาโจ๋ข้าเอง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2004
    โพสต์:
    244
    ค่าพลัง:
    +4,856
    เหมือนผมเลยพี่ ถ้าไม่ติดตรงนี้ไปเหมือนกันเลย
    ไปอ่านเจอ หนังสือหลวงพ่อเขียนไว้เหมือนกันครับ
    ลูกเรา ถ้าเราไม่อยู่ซักคน เขาจะดิ้นรนขวนขวายได้ไหม๊ เขาจะหาทางเอาตัวเองรอดเป็นไหม๊
    ถึงเขาจะทุกข์ ลำบากลำบนไปบ้าง แต่เขาก็ต้องเอาตัวรอดได้ เขาก็ต้องมีชีวิตรอดต่อไป

    แต่ถ้าหนีไปบวช ไม่รู้หลวงพ่อจะให้พิจารณา แบบนี้ด้วยหรือเปล่านี้ดิ ไม่แน่ใจ
    ไหนจะพ่อแม่อีก เลยกลายเป็นคิดมาก ไม่ได้พิจารณามาก วางไม่ได้เลย
    รออีกนิด ลูกโตเดินตรงทางแน่โอกาสอาจเป็นของผม อิอิ
     
  16. Me, myself

    Me, myself บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0

    ง่ะ...แก่ขนาดนั้น ขอบายค่ะ ไม่เอา ;aa13
     
  17. ขาโจ๋ข้าเอง

    ขาโจ๋ข้าเอง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2004
    โพสต์:
    244
    ค่าพลัง:
    +4,856

    โห! พี่ เหมือนโดนตบเข้าฉาดใหญ่ เคยคิดตอนที่พี่บอกเจอชบาบนพระนิพาน
    ยังนั่งคิด เอะ ! ในวิมานของเรามีบริวารด้วยเหรอ เพราะอะไรหว่า
    จั๋งหนับเลยพี่ เต็มๆ ขอบคุณครับพี่
     
  18. Jenny_Lee

    Jenny_Lee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    414
    ค่าพลัง:
    +1,357
    rabbit_เคยอ่านเจอว่า หลังเกิดภัยพิบัติ โลกจะเกิดการ
    เปลี่ยนแปลงพลังงานใหม่ จะทำให้คนที่รอดชีวิต
    ( ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะป็นคนดีมีศีลธรรม)
    มีอายุยืนยาวถึง 100 200 ปีเลยค่ะ เพื่อมาช่วยกันฟื้นฟูโลก
    และทะนุบำรุงศาสนาพุทธให้อยู่นานไปถึง 5000 ปีค่ะ
    คุณMe myself และผู้มีบุญท่านอื่นๆ ก็ต้องอยู่ทำหน้าที่นี้
    ไปถึงอายุ 100 200 ปีแน่เลยค่ะ (ไม่รู้ว่าดิฉันได้ยินมาถูกต้องมั๊ยค่ะ)
    catt9
     
  19. Me, myself

    Me, myself บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    โห...นึกสภาพไม่ออกว่า ถ้าอยู่กันนานขนาดนั้นมันจะแก่หง่อมกันขนาดไหน สังขารมันคงจะไม่ไหวเอาละมั้งคะ
     
  20. prayut.r

    prayut.r เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    150
    ค่าพลัง:
    +1,707
    บอกตรงๆ นะครับพอพี่เล่าเรื่องชบาผมก็มานั่งนึกสงสัยเหมือนพี่เลย ว่าคนที่เข้านิพพานแล้วยังต้องไปเป็นบริวารเขาอีกหรือ? (ก็คิดตั้งแต่พี่เล่านั้นแหละครับ แต่ไม่กล้าถาม)

    แล้วพอพี่อ้อยมาบอกเรื่องลำดวนอีก ยิ่งงงเต๊ก
    เล่นเอาถึงขนาดคิดว่าที่พี่ๆ เห็นกันเป็นอุปาทานรึเปล่า? <-- ต้องกราบขอโทษพี่ๆจริงๆ ครับที่คิดแบบนี้

    คือคนมันโง่น่ะครับ ฟังมายังไงก็ดันไปคิดเป็นตุเป็นตะอยู่คนเดียวว่าต้องเป็นแบบนั้น ไม่น่าจะต้องเป็นแบบนี้ ทั้งๆที่ตัวเองก็ไม่เคยเห็นซักนิด(นึกถึงเรื่องตาบอดคลำช้างเลย)

    ขอบคุณพี่ Me,my self มากครับที่มาเล่าให้ฟัง และกราบขออภัยในความคิดโง่ๆของผมเองด้วยครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...