เพราะเหตุใดมนุษย์จึงพูดคนละภาษา

เพราะเหตุใดมนุษย์เราจึงต้องมีหลายชาติหลายภาษา
และมีกรรมเป็นหมู่เหล่าของแต่ละชาติแต่ละภาษาหรือไม่

เคยได้ยินว่า แต่เดิมนั้น มนุษย์พูดภาษาเดียวกันหมด คือภาษาใจ เข้าใจกัน คิดเหมือนกัน ทำเหมือนกัน พูดเหมือนกัน มีเพศเดียวกัน นับถือพระพุทธศาสนาเหมือนกันหมด ตั้งใจรักษาทาน ศีล ภาวนา อย่างยิ่งยวด

แล้วก็ต้องเริ่มจากการที่อาภัสราพรหม ลงมายังโลกตามกลิ่นง้วนดินที่หอมไปถึงชั้นพรหม เมื่อครั้งที่โลกกำลังเย็นตัวลง จากไม่ต้องกินอาหาร เพราะอยู่ได้ด้วยบุญ พอใจเริ่มหยาบเพราะเริ่มมีความอยาก ก็เริ่มกินง้วนดิน แล้วก็เริ่มมีระบบขับถ่าย แล้วก็เกิดการสืบพันธ์ หลังจากนั้นก็มีลมกรรมหอบเอาสัตว์ชนิดต่างๆ จากโลกอื่นมาเกิด (ที่เขางงกันว่า ไก่เกิดก่อนไข่ หรือไข่เกิดก่อนไข่นั่นแหล่ะค่ะ จริงๆก็คือ ไก่เกิดก่อน เกิดแบบแว้บมากเกิดนั่นเอง)

พอง้วนดินเริ่มหมด ก็เริ่มมีการเอาข้าวต้นกัปล์มากิน ข้าวเริ่มหายาก ก็เริ่มมีการกักตุน เริ่มเกิดความเห็นแก่ตัว แล้วก็เกิดการเพาะปลูก พอใจเริ่มหยาบมากขึ้นเรื่อยๆแล้วเขาก็ทำให้มนุษย์เริ่มสื่อสารกันไม่ได้ โดยเอาน้ำทะเลเอาภูเขามากั้น เอาเชื้อชาติ สีผิว ภาษา วัฒนธรรมมาแบ่งแยก

จากเดิมที่มนุษย์เคยเอาใจผูกไว้กับศูนย์กลางกาย ก็เริ่มเอาใจไปไว้ข้างนอกเริ่มยึดติดกับสิ่งรอบตัว ความเห็นแก่ตัวมีมากขึ้น พอสื่อสารกันไม่รู้เรื่อง เพราะคุยกันคนละภาษา ก็แบ่งพวกเขา พวกเรา เกิดการแบ่งแยกประเทศ รบราฆ่าฟันกันเพื่อแย่งชิงอาณานิคม ค้าอาวุธ ต่อมาก็แข่งขันทางด้านเศรษฐกิจเพื่อหากำไรให้ประเทศของตนเอง ระบบต่างๆ ก็ตามมาเรื่อยๆ จนปัจจุบันก็แข่งขันกันด้านข้อมูลข่าวสาร ต่อไปก็เป็น ชีวภาพ นาโนเทคโนโลยี ฯลฯ

ทั้งหมดนี้ เป็นธรรมดาของโลก มันเป็นอย่างนั้นเอง เกิดอย่างช้าๆ ไม่เห็นความแตกต่างในช่วงอายุของคน เลยทำให้ไม่รู้เรื่องกัน ต้องให้ผู้รู้มาอย่างพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาย้อนอดีตให้ฟังไงคะ

นี่ก็เป็นการตอบคำถามของเจ้าของกระทู้แล้วนะคะ ว่าทำไมต้องมีหลายภาษา
เพราะมนุษย์ก็จะมาเกิดตามกรรมที่ทำเอาไว้ในอดีต ในขณะนั้นถ้าภาษาไหน เป็นภาษาของพระพุทธศาสนา มนุษย์ที่เคยทำบุญและอธิษฐานมาดีให้ได้เกิดในปฎิรูปเทส ได้พบเจอพระพุทธศาสนา ก็จะได้เกิดในประเทศที่มีพระพุทธศาสนา ยกตัวอย่าง ตอนนี้ที่คุณเกิดเป็นคนไทย ก็เพราะกรรมที่ได้เคยทำเอาไว้นั่นแหล่ะค่ะ ตามมาส่งผล

แต่อย่างชาวโซโลมอน ที่ไปเกิดในถิ่นที่ห่างไกลความเจริญ ต้องไปใช้ภาษาพิกกิ้น (หรืออะไรเนี่ย) ก็เพราะว่ามีมานะทิฐิแรงกล้า ถือตัว มักโกรธ ผิวสีดำ และต้องลำบาก ก็เพราะกรรมในอดีตนั่นเอง ทำให้ไม่สามารถสื่อสารหรือเรียนรู้ภาษาของพระพุทธศาสนาได้โดยง่าย (แต่เขายังพอมีบุญอยู่บ้าง ที่มาเกิดในยุคของจานดาวธรรม ที่มีคุณเปเล่คอยเป็นล่ามให้ยังไงละค่ะ

http://www.dmc.tv/forum/index.php?showtopic=3981

 

อนุโททนา คับบบ

 

นอกจากภาษาพูดที่ต้องใช้ "เสียง" แล้ว ยังมีภาษาอื่นๆ อีกเช่น

ภาษาที่เกิดจากแสง (เช่นแสงกระพริบ แสงจ้า แสงริบหรี่ ฯลฯ)
ภาษาที่เกิดจากสี (เช่น เขียว เหลือง แดง น้ำเงิน ฯลฯ)
ภาษาที่สื่อสารทางจิต (เช่น พวกนักพลังจิตทั้งหลาย )
ภาษาที่เกิดจากการสัมผัส (เช่น การจับ การคลำ ฯลฯ)
ภาษาที่เกิดจากอักขระ (เช่น ที่เรากำลังใช้อยู่นี่แหล่ะ)
ภาษาที่เกิดจากกลิ่น (เช่น การสื่อสารของมด ฯลฯ)
ภาษา ....

ถึงอย่างไรก็ตาม การสื่อสารก็หนีไม่พ้นการใช้ผัสสะทั้งห้าคือ รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส เพราะฉะนั้นจึงถือว่าเป็นกรรม ดั่งเช่นเจ้าของกระทู้ว่าไว้

 

คัมภีร์ไบเบิลของคริสต์ศาสนาเขียนไว้ว่า ชาวเมืองบาบิโลน มีความประสงค์จะสร้างหอคอยบาเบลให้สูงจรดสวรรค์ แต่พระเจ้าไม่พอพระทัยที่มนุษย์จะขึ้นมาสูงสูงเทียมเทพ จึงทรงบันดาลให้ประชากรที่กำลังสร้างหอคอยนั้นพูดภาษาแตกต่างกัน เมื่อคนเหล่านั้นพูดจาปราศรัยไม่เข้าใจกัน การก่อสร้างหอคอยจึงหยุดชะงัก จากนั้นประชากรก็แยกย้ายกันไปสู่ดินแดนต่างๆ ทั่วโลก นี่คือตำนานของภาษาต่างๆ ของมนุษย์

 

ปัจจุบันนักภาษาศาสตร์รู้ว่า ภาษาก็เช่นเดียวกับสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย คือ มีการเกิด แก่ เจ็บ ตาย เจริญเติบโต สลาย และกลายพันธุ์ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่ไม่น่าแปลกใจ หากเราจะรู้ว่าภาษา 6,000 ภาษาที่มนุษย์พูดจากัน ณ. วันนี้ ในแต่ละเดือนจะมีภาษาหนึ่งที่สูญพันธุ์ไป ...

 

ใช่ครับเรื่องของหอบาเบลที่สร้างท้าทายอำนาจของพระเจ้า

 

ผมมีภาพของหอบาเบลด้วย แต่ว่าอยู่ในหนังสือนะครับ แต่ตอนนี้ผมไม่มีสแกนเนอร์ หากใครมีภาพหอบาเบล ช่วยโพสท์ด้วยครับ เพื่อแบ่งปันความรู้ครับ เป็นภาพที่สวยงามมากๆ (ผมมีแต่ภาพขาวดำ เก่าๆ) ครับ

 

ตอนนี้หอคอยบาเบลยังมีอยู่ไหมครับ แล้วตำนานการแยกภาษาของพุทธหรือว่าของคริสต์ถูกครับ

 

เรื่องของคัมภีร์ไบเบิ้ลเคยได้ยิน(มีคนรู้จัก)มาว่า ถูกบิดเบือนไปจากคำสอนของพระเจ้าไปมากเพราะมีเหตุผลทางการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องและดิฉันคิดว่าพระเจ้าคงไม่ได้อยู่บนฟ้า หากแต่อยู่อีกภพหนึ่งมากกว่าและพระเจ้าคงไม่คิดว่ามนุษย์จะมีอำนาจที่จะท้าทายพระองค์ได้พระเจ้าพระองค์ทรงมีเมตตาจิตมาก คงไม่คิดกลั่นแกล้งมนุษย์หรอกมีแต่มนุษย์(น่าจะเรียกว่าคนดีกว่า)ที่ทำลายกันเองเท่านั้นดิฉันคิดว่า ทุกศาสนาสอนให้ทุกคนรักกัน มีเมตตาต่อกัน เช่น ศาสนาคริสต์ก็สอนให้รักเพื่อนมนุษย์ รู้จักให้อภัยกันศาสนาพุทธก็สอนให้ใช้หลัก พรหมวิหาร คือ เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขาแต่มีเพียงศาสนาเดียวที่สอนให้มนุษย์หลุดพ้นจากบ่วงกรรมที่สร้างไว้ได้ นั่นก็คือศาสนาพุทธเท่านั้น หากมนุษย์ทุกคนจะอยู่ร่วมกันอย่างสันติแล้วก็ต้องรู้จักให้ความรัก รุ้จักให้อภัยกัน โลกเราถึงจะอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขได้ แม้ว่าจะมี ชาติ เผ่าพันธุ์ ศาสนา ภาษา ประเพณี วัฒนธรรม ที่แตกต่างค่ะ

 

ภาพวาดของหอคอยบาเบล

 

พังไปนานแล้วคราบ

 

ดนตรีและสมการทางคณิตศาสตร์ เป็นภาษาจักวาล

 

โฮ๊ะๆ ๆ ๆๆ
แล้วคุณสงสัยไหมว่า เหตุใดสุนัข เห่าเหมือนกัน แม้จะอยู่คนละประเทศ คนละสายพันธุ์ ก็เห่า โฮ้ง ๆ กันทุกตัว (ผมไม่ได้เห่านะครับ)

 

หมาไทยเห่า โฮ่ง โฮ่ง

หมาฝรั่งเห่า บาว บาว

หมาญี่ปุ่นเห่า วัง วัง

 

น่าสนใจ

 

1.พูดกันไม่รู้
2.บิดเบือน เพื่อเข้าข้างตัว และให้คนอื่นเชื่อตาม บราๆๆ
(ละมั้ง โปรดใช้วิจารณญาณในการไตร่ตรอง)
กรรมไม่เหมือนกัน... หน้าตาไม่เหมือนกัน... นิสัยไม่เหมือนกัน... เวรกรรมไม่เท่ากัน... ไฉนภาษาจะเหมือนกัน...
ทุกสิ่งมันไม่เหมือนกันแล้วไฉนต้องให้เหมือนกันมิทราบครับ
ปล.ในพระไตรปิฎกไม่ได้กล่าวหรือ?(ผมไม่ทราบนะครับ เพราะไม่ได้อ่าน(พูดจริง))