ไม่เคยฝึกมโนมยิทธิ แต่สิ่งที่ตัวเองสื่อได้ คล้ายๆจะมาทางด้านนี้

ในห้อง 'ประสบการณ์อภิญญา' ตั้งกระทู้โดย Me, myself, 3 มีนาคม 2009.

  1. Me, myself

    Me, myself บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    ส่วนนี้เป็นเหรียญหลวงปู่ทิม วัดพระขาว พร้อมสายสิญจ์ ท่านเจ้าอาวาสบอกว่าสายสิญจ์นี้ทันตอนหลวงปู่มีชีวิตอยู่ค่ะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • P8080070.jpg
      P8080070.jpg
      ขนาดไฟล์:
      145.7 KB
      เปิดดู:
      73
  2. เจ๋วะรัฐถะ

    เจ๋วะรัฐถะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    847
    ค่าพลัง:
    +15,386

    สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทนาเป็นอย่างสูงค่ะ
     
  3. Me, myself

    Me, myself บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    จริงๆยังมีพระจะแจกอีกนะคะ แต่ว่าไม่ใช่พระสายหลวงพ่อฤาษีก็เลยคิดว่ามาโพสที่นี่ก็คงไม่เหมาะ เอาไว้แจกทีหลังละกัน เผื่อได้เจอกันตอนตัวเป็นๆ
     
  4. Sailomsuksikee

    Sailomsuksikee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    64
    ค่าพลัง:
    +573
    ขอบพระคุณพี่ Me,myself มากนะครับที่กรุณา ผมจะกลับไทยเดือนประมาณกลางเดือน พฤจิกายนนี้อาจจะไปรับเองตอนธันว่าคมครับ ถ้าคุณพี่สดวก เพราะผมแกลงใจถ้าจะให้ส่งทางไปรษณีย์ครับ เท่านี้ผมก็ได้รับความอนุเคราะห์จากคุณพี่มากๆๆแล้ว (ตอนที่พิมพ์นี้ยังไม่หายตื่นเต็นเลยนะครับ)

    สายลม
     
  5. Me, myself

    Me, myself บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    ได้ค่ะ เดี๋ยวพี่เก็บไว้ให้นะคะ
     
  6. เจ๋วะรัฐถะ

    เจ๋วะรัฐถะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    847
    ค่าพลัง:
    +15,386
    อิอิ ตื่นเต้นแทนด้วยนะคะเนี่ย
    พระคำข้าว และ พระหางหมาก
    หากใครมีไว้บูชา จะทำให้ชีวิตเจอแต่สิ่งที่ดีค่ะ
    แต่ต้องมีศีล5 ครบถ้วนนะคะ
    คนที่ได้ไปบูชา ก็เป็นคนที่มีศีล5 เช่นกันค่ะ

    อนุโมทนาด้วยคนนะคะ สาธุค่ะ
     
  7. โครตภู

    โครตภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    174
    ค่าพลัง:
    +3,631
    ในงานฉลองวันเกิดหลวงพ่อ ปี ๒๕๒๖ ท่านท้าวมหาราชทั้งสี่ให้พรแก่ลูก ๆ หลวงพ่อถึง ๕ ข้อด้วยกัน อาตมาจำข้อสุดท้ายได้ข้อเดียว คือ "ลูกหลวงพ่อทุกคน บาดเจ็บได้หนักที่สุด แค่เย็บไม่เกิน ๕ เข็ม" อาตมามีนิสัยชอบลุยอยู่แล้ว จึงรับพรใส่เกล้าด้วยความยินดี...

    ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ขึ้นรถทีไรมักสั่งว่า "๑๒๐ เป็นอย่างต่ำ เกินเท่าไหร่ไม่ว่ากัน...!" แหม...มันถึงที่หมายทันใจดีเหลือเกิน ยิ่งได้มือซิ่งประจำตัว คือ มงคล จอมผา ไอ้น้องรักมีแต่เกินไม่มีขาด ขนาดโค้งอันตราย เขาให้ไป ๓๐ ก.ม./ช.ม. นายแดงเขาใจดี แถมให้ฟรีอีก ๑๐๐ กลายเป็น ๑๓๐ ทิ้งโค้งทีหายวับไปเลย...!

    ครั้งหนึ่งอาตมาป่วยเป็นซีสต์ ขนาดลูกปิงปองที่หนังตาขวา ไปผ่าตัดก็เย็บแค่ ๕ เข็ม หลวงตาวัชรชัย (พระวัชรชัย อินทวํโส) ไปผ่าตัดไส้เลื่อน ก็เย็บ ๕ เข็มเช่นกัน พรของท่านแน่นอนจริง ๆ ...!


    ๑ มีนาคม ๒๕๓๓
    พระเล็ก สุธมฺมปญฺโญ


    บันทึกเพิ่มเติม หลวงตาวัชรชัย ปัจจุบันนี้คือ พระครูภาวนาพิลาศ เป็นเจ้าอาวาสวัดเขาวง(ถ้ำนารายณ์) รองเจ้าคณะอำเภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี



    ๘ กรกฎาคม ๒๕๔๙
    พระครูธรรมธรเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
     
  8. โครตภู

    โครตภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    174
    ค่าพลัง:
    +3,631
    <TABLE class=tborder id=post2315564 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->tamsak<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2315564", true); </SCRIPT>
    ทีม พระไตรปิฏก

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Sep 2004
    สถานที่: Bangkhen, Bangkok
    อายุ: 45
    ข้อความ: 5,430
    Groans: 129
    Groaned at 15 Times in 14 Posts
    ได้ให้อนุโมทนา: 83,004
    ได้รับอนุโมทนา 92,875 ครั้ง ใน 5,127 โพส
    พลังการให้คะแนน: 6135 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_2315564 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><CENTER><!-- google_ad_section_start -->สวดมนต์ผิดแต่ก็มีอานิสงส์เช่นกัน<!-- google_ad_section_end -->

    </CENTER>
    <HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- google_ad_section_start --><SCRIPT type=text/javascript><!--google_ad_client = "pub-2576485761337625";/* 300x250, created 21/07/09 */google_ad_slot = "6922411748";google_ad_width = 300;google_ad_height = 250;//--> </SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js" type=text/javascript> </SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/expansion_embed.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/test_domain.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/render_ads.js"></SCRIPT><SCRIPT>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT><INS style="PADDING-RIGHT: 0px; PADDING-LEFT: 0px; VISIBILITY: visible; PADDING-BOTTOM: 0px; MARGIN: 0px; WIDTH: 300px; BORDER-TOP-STYLE: none; PADDING-TOP: 0px; BORDER-RIGHT-STYLE: none; BORDER-LEFT-STYLE: none; POSITION: relative; HEIGHT: 250px; BORDER-BOTTOM-STYLE: none"><INS style="PADDING-RIGHT: 0px; DISPLAY: block; PADDING-LEFT: 0px; VISIBILITY: visible; PADDING-BOTTOM: 0px; MARGIN: 0px; WIDTH: 11px; BORDER-TOP-STYLE: none; PADDING-TOP: 0px; BORDER-RIGHT-STYLE: none; BORDER-LEFT-STYLE: none; POSITION: relative; HEIGHT: 5px; BORDER-BOTTOM-STYLE: none"></INS></INS>
    ถาม: การสวดมนต์ต่างกับการถวายสังฆทาน ?

    ตอบ : ก็ต้องดูด้วยว่ากำลังใจตอนที่เราสวดมนต์มันได้ขนาดไหน ? การสวดมนต์ทั่วไปได้แค่สมาธิ ถ้าสมาธิไม่ดีจะสวดมนต์ผิด แต่ว่าตอนที่เราสวดมนต์ เราก็สามารถสร้างทิพจักขุญาณได้ อย่างเช่นว่า นึกถึงตัวหนังสือคำสวดขึ้นมาเป็นตัวเลย เห็นชัดเท่าไรก็เห็นผีเห็นเทวดาได้ชัดเท่านั้น หรือว่าเราจะส่งใจไปกราบพระบนนิพพาน สวดถวายท่านอยู่บนนิพพาน ถ้ากำลังใจมันถึงนิพพาน กำลังใจมันก็จะสูงกว่า กำลังบุญมันก็สูงกว่า แต่ถ้าทำไม่ได้ถึงระดับนั้น กำลังของสังฆทานก็สูงกว่า ก็ขึ้นกับคุณภาพที่เราทำด้วย

    ถาม: ถ้าสวดมนต์ผิด

    ตอบ : ไม่เป็นไรจ้ะ เรื่องของการสวดมนต์จุดใหญ่ที่สุด ก็คือโยงใจเราให้เป็นสมาธิ จุดที่สองคือ เป็นการสรรเสริญคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ต่อให้ผิดก็ไม่เป็นไร เพราะใจเราตั้งถูก เราตั้งใจว่าเราทำอะไร ? เพื่ออะไร ?

     อย่างเช่นเรื่องของคาถาก็เหมือนกัน คนได้คาถาผิดๆ ไป แต่ใจเขามั่นคง มันก็ใช้ได้เหมือนกับคนที่ได้ถูกไป แล้วบางทีคนที่ได้ผิดไป กำลังใจเขาดี เขาใช้ได้ คนได้ถูกไปใช้ไม่เป็นอีก มันสำคัญตรงใจของเรา ถ้าใจเราตั้งถูก สวดผิดก็ไม่เป็นไร ถ้าวันไหนเหนื่อยมากๆ ก็ประเภทนอนหงายผลึ่ง พุทโธ พุทโธ ก็พอ ไม่งั้นเหนื่อยมากมันนั่งไม่ติด บางคนสวดมนต์ยาวเป็นชั่วโมง เหนื่อยดี พูดเล่นน่ะ...อะไรที่คุณได้ทำย้ำแล้วย้ำอีก ซ้ำแล้วซ้ำอีก สมาธิจะทรงตัว ในเมื่อสมาธิทรงตัว ก็คือกำลังใจมันเกิด คราวนี้คุณปรารถนาอะไร มันก็จะสำเร็จที่ใจไง “มโนมยา” ใจคิดยังไง ก็เป็นอย่างงั้น ถ้ามันยังไม่พอก็ว่าสัก ๑,๐๘๐ จบก็ได้ บวกเข้าไปอีก ๑๐ เท่า




    สนทนากับพระเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
    เดือนมกราคม ๒๕๔๗(ต่อ)
    ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ



    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  9. นรนิติ

    นรนิติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2008
    โพสต์:
    35
    ค่าพลัง:
    +141
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 สิงหาคม 2009
  10. konkangwad

    konkangwad เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    483
    ค่าพลัง:
    +5,910
    ขออนุโมทนาบุญกับพี่สาวด้วยครับน้ำใจพี่คนนี้กว้างดั่งมหาสมุทรเลยครับสาธุ (เอ๊ากรุแตกแล้วเพื่อนๆสมาชิกรีบๆนะเดี๋ยวเกิดเปลี่ยนใจจะอด)
     
  11. Me, myself

    Me, myself บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    แหม..น้องก็พูดเกินไป กรุแตกที่ไหนคะ แค่นิดหน่อยเอง ของจริงยังมีอีกเยอะ พอจะแจกได้บางส่วน แต่บางส่วนต้องเอาไว้ถามลูกก่อนว่ายังอยากได้อยู่ไหม เพราะพี่อ่ะละแล้ว ถ้าลูกไม่เอาก็คงแจกน่ะค่ะ
     
  12. nahathai

    nahathai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 เมษายน 2009
    โพสต์:
    180
    ค่าพลัง:
    +2,393
    อนุโมทนา สาธุ ด้วยค่ะ กับท่านที่ได้รับแจกของดีหายาก (ของฟรีไม่มีในโลก แต่โลกบุญใบนี้ของเรา มีแจกเพียบ แจกบุญ ยิ่งแจก ยิ่งมีมหาศาล) ท่านใดได้รับแจก ข้าพเจ้าก็มีความรู้สึก เหมือนได้รับแจกด้วยค่ะ สาธุ ขอให้มีบุญบารมียิ่งๆ ขึ้นไป
     
  13. konkangwad

    konkangwad เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    483
    ค่าพลัง:
    +5,910
    เอาบุญมาฝากครับตอนสายๆลงจากห้องจะไปซื้อข้าวมีพระท่านมาบอกบุญสร้างศาลาร่วมบุญไป 100 บาทครับผม
     
  14. Me, myself

    Me, myself บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    บันทึกการนั่งสมาธิวันที่ 6 ส.ค. 52

    ขึ้นไปเฝ้าพระศาสดาที่วิหารของท่าน

    ดิฉัน - นมัสการพระศาสดาค่ะ

    พระศาสดา - เจริญพร เป็นอย่างไรบ้าง

    ดิฉัน - เฮ้อ...เห็นชีวิตคนอื่นๆก็หลากหลายเรื่องเหมือนกันนะคะ ยิ่งกว่านิยายอีก

    พระศาสดา - รู้แล้วเห็นทุกข์ไหม

    ดิฉัน - ทุกข์ค่ะ

    พระศาสดา - แล้วยังอยากเกิดอีกไหม

    ดิฉัน- ไม่ละค่ะ

    พระศาสดา - ดีแล้ว ตั้งใจบำเพ็ญเพียรไป

    ดิฉัน - ค่ะ เอ่อ..พระศาสดาคะ ตกลงต้องฝึกกสิณจริงๆหรือคะ แล้วเรื่องต่างๆมันจะเกิดขึ้นจริงหรือเปล่าคะ คือลูกไม่อยากฝึกแล้วอ่ะค่ะ มันเครียด

    พระศาสดา - ต้องฝึก แต่ตอนนี้ก็พักไว้ก่อนก็ได้ให้ใจสบายๆก่อน

    ระหว่างนั้นรู้สึกเหมือนเห็นภาพซ้อนขึ้นมา ตอนแรกก็ยังไม่ค่อยสังเกตุ แต่เอ๊ะ...ดูไปดูมา มันเป็นภาพน้ำท่วมใหญ่นี่นา แล้วก็เหมือนตัวเองมองเห็นประเทศไทยจากข้างบนลงมา เห็นท้องทะเลปั่นป่วน คลื่นซัดเข้าสู่ประเทศไทย ท้องฟ้าก็มืดมิด แล้วก็เห็นว่ามีคนลอยคอโต้คลื่นกันอยู่ เรือก็ถูกคลื่นซัด ดูน่ากลัว

    ดิฉัน - พระศาสดาค่ะ ลูกเห็นภาพน้ำท่วมใหญ่ แสดงว่าเรื่องนี้มันต้องเกิดจริงๆน่ะซีคะ แต่เห็นแต่น้ำกับลมพายุ แล้วที่เขาว่ามันจะมีไฟละคะ

    พระศาสดา - ลองดูให้ดีๆ

    จากนั้นก็เห็นว่ามีแผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด แผ่นดินแยกออก แล้วภาพก็หายไป

    ดิฉัน - แล้วประเทศเราจะเป็นยังไงคะ ประเทศอื่นอีกละคะ เราแก้ไขหรือป้องกันได้อย่างไรบ้างคะ

    พระศาสดา - คนดีมีศีลธรรมเท่านั้นถึงจะอยู่รอด ประเทศไทยจะโชคดีกว่าประเทศอื่นเพราะว่าเป็นเมืองพุทธ แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่โดน มันถึงเวลาล้างโลก เพื่อให้คนดีๆได้อยู่ต่อไป และช่วยกันทำนุบำรุงพระศาสนาของพระศาสดาให้คงอยู่ต่อไปจนถึงห้าพันปี ถ้าทุกคนช่วยกันบำเพ็ญเพียร ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบก็อาจจะช่วยทำให้สถานการณ์มันทุเลาลงได้

    ดิฉัน - ค่ะ งั้นเดี๋ยวลูกก็ลาไปหาพระอาจารย์อนุรุทก่อนนะคะ

    พระศาสดา - ได้ ตามสบาย

    ดิฉัน - นมัสการลาเจ้าค่ะ

    แล้วดิฉันก็ไปหาพระอาจารย์อนุรุททะ

    ดิฉัน - นมัสการพระอาจารย์เจ้าค่ะ

    พระอาจารย์ - เจริญพร เป็นยังไงละ

    ดิฉัน - ไปเฝ้าพระศาสดามาค่ะ คือว่าช่วงนี้ก็ไม่ได้ฝึกกสิณเพราะเครียด แล้วก็ไปเจอเรื่องราวเพื่อนๆอีก รู้แล้วก็เหนื่อยแทน

    พระอาจารย์ - รู้เห็นไว้แล้วก็อุเบกขาซะ เราทำอะไรไม่ได้ไม่ใช่เหรอ กรรมของใครก็ของคนนั้น

    ดิฉัน - เจ้าค่ะ

    พระอาจารย์ - พระศาสดาท่านสอนไว้เรื่องอริยสัจ 4 นั่นยังไง ธรรมะข้อนี้ของพระองค์เป็นสัจธรรมจริงแท้แน่นอน ดังนั้นทุกคนก็ควรหาทางพ้นจากทุกข์พ้นจากวัฏสงสารนี่ซะในชาตินี้

    ดิฉัน - ค่ะ

    พระอาจารย์ - พระอาจารย์ก็ไม่เข้าใจคนอีกหลายคนว่าทำไมต้องขอไปเกิดในยุคพระศรีอารย์ ทั้งๆที่สามารถจะไปนิพพานกันได้ในชาตินี้ เกิดอยู่ในยุคของพระศาสดาแท้ๆยังปฏิบัติไม่ได้ แล้วไปเกิดในยุคนั้นมันจะไปได้อย่างไร

    ดิฉัน - แต่บางคนเขาก็ปรารถนาพุทธภูมินี่เจ้าคะ ก็เลยต้องเกิดไปเรื่อยๆ

    พระอาจารย์ - ใช่ แต่คนที่ไม่ได้ปรารถนาพุทธภูมิ แทนที่จะศึกษาพระธรรมแล้วก็หาวิธีดับทุกข์เพื่อไปนิพพานในชาตินี้ก็กลับไม่ทำ กลับคิดที่แต่จะตั้งใจขอไปเกิดในยุคพระศรีอารย์ กว่ายุคของพระศาสดาสมณโคดมจะหมดไปก็ยังอีกหลายปี แล้วหลังจากนั้นก็เป็นยุคที่ว่างเว้นพระพุทธเจ้าไปอีกนานเลย กว่าพระศรีอารย์ท่านจะมา หากหลงไปเกิดในยุคนั้นก็ไม่ต้องพูดถึงเลย แค่ในยุคปลายๆศาสนาก็พระสมณโคดมเองก็เริ่มไม่ดีแล้ว ศาสนาก็เริ่มเสื่อม คนก็มีจิตใจทราม แทนที่จะไปเกิดใหม่ก็สู้ไปนิพพานในชาตินี้ไม่ดีกว่าเหรอ

    ดิฉัน - ก็ยังมีหลายคนที่เขายังเข้าไม่ถึงแก่นแท้ของศาสนาน่ะเจ้าค่ะ

    พระอาจารย์ - อืมม ก็เป็นไปตามวาระกรรมของแต่ละคนแหละ ถ้าเมื่อใดเกิดดวงตาเห็นธรรมแล้วเขาถึงจะคิดได้

    ดิฉัน - ค่ะ งั้นเดี๋ยวศิษย์ขอลากลับก่อนนะเจ้าคะ นมัสการลาเจ้าค่ะ

    พระอาจาย์ - เจริญพร

    ---------------------------------------------------------------------------

    โปรดใช้ปัญญาพิจารณาในการอ่าน
     
  15. assume

    assume เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    96
    ค่าพลัง:
    +1,931
    8/8/52 - ได้นำชุดปฏิบัติธรรมที่เคยใส่ร่วมเทปูนสร้างที่พักสำหรับผู้ปฏิบัติธรรมไปถวายที่สำนักปฏิบัติธรรมของพระอาจารย์เพื่อใช้ประโยชน์ต่อไปครับ

    ขอให้ท่านกัลยาณมิตรได้รับอานิสงส์นี้ทั่วกันครับ
     
  16. Me, myself

    Me, myself บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    อันนี้แถมมาหน่อยในคืนเดียวกัน ก่อนนอนยังไม่หลับก็เลยว่าแวะไปดูวิมานตัวเองก่อน เพราะไม่ได้ไปนานมากแล้ว

    พอไปถึงวิมานก็เห็นมีหญิงที่เป็นบริวารวิ่งออกมาต้อนรับ

    หญิงบริวาร - คุณกลับมาแล้ว

    ดิฉัน - อ้าว สวัสดีชบา (เออ..ไปรู้ชื่อเขาได้ไงก็ไม่รู้ แบบว่าม้นพูดออกไปเอง) สบายดีไหม

    ชบา - ก็สบายดีค่ะ คุณไม่ได้มานานมากเลยนะคะ

    ดิฉัน - ใช่ เอ๊ะ...ชบาเป็นอะไรตายมา

    ชบา - เป็นลมตายค่ะ

    ดิฉัน - หา..เป็นลมตาย แล้วทำไมมาอยู่ที่นิพพานนี่ได้ละ

    ชบา - ก็ก่อนตายพอดีได้อ่านหนังสือเกี่ยวกับเรื่องนิพพานของหลวงพ่อฤาษีอยู่พอดีค่ะ ก็คิดๆว่าอยากมาอยู่นิพพาน แล้วทีนี้ก็เกิดหน้ามืดเป็นลมตายขึ้นมาพอดี ก็เลยมาอยู่นี่แหละค่ะ

    ดิฉัน - โห...มันง่ายขนาดนั้นเชียวเรอะ

    ชบา - เขาเรียกว่ามาทางลัดค่ะคุณ

    ดิฉัน - อย่างนี้คนที่เขาฝึกจิตกันให้วุ่นวายให้ได้บรรลุเป็นพระอริยะกันก็เสียเปรียบอ่ะดิ แล้วทำไมชบามาอยู่ที่วิมานของเราละ ทำไมไม่ไปอยู่วิมานของตัวเอง

    ชบา - ชบาไม่ได้บำเพ็ญเพียรขนาดคุณนี่คะ บุญก็ไม่ได้ถึง แต่ว่าโชคดีได้มานิพพานก็ต้องไปเป็นบริวารเขาแหละค่ะ

    ดิฉัน - แล้วชบาทำไมถึงมาเป็นบริวารเราละ ทำไมไม่ไปที่อื่น

    ชบา - ก็คุณเคยช่วยเหลือชบาไว้เมื่ออดีตนะค่ะ ชบายังไม่ได้ตอบแทนบุญคุณเลย ก็เลยทำให้ชบามาอยู่กับคุณนี่แหละค่ะ

    ดิฉัน - อ๋อ..เหรอ นี่เราก็ยังงงๆๆกับเรื่องกรรม เรื่องนิพพานอยู่เลย มีอีกหลายเรื่องที่เรายังไม่รู้นะเนี่ย แปลกๆดี เอ..แล้วคนอื่นๆไปไหนหมดเนี่ย หรือว่ามีแต่ชบาคนเดียว

    ชบา - โอ๊ย..เขาก็ไปทำงานทำการกันซีคะคุณ ยังมีอีกเยอะค่ะบริวารคุณน่ะ

    ดิฉัน - หา..ทำงาน บนนิพพานนี่ยังทำงานกันอีกเหรอ แล้วทำงานอะไรกัน

    ชบา - เขาก็ไปดูแลทำความสะอาดวิมาน ตัดหญ้า ตัดต้นไม้ อะไรนี่แหละค่ะ

    ดิฉัน - หือ..บนนิพพานจริงๆมันเป็นแก้วไปหมดไม่ใช่เหรอ แต่จะว่าไปเราก็เห็นพระศาสดาในรูปกายเนื้อนะ ไม่ใช่แก้ว เป็นงงเหมือนกัน

    ชบา - แหม..คุณ จะไปคิดไรมากคะ บนนี้อะไรก็เป็นไปได้ค่ะ ตอนนี้คุณเองก็ยังไม่ได้บรรลุอรหันต์สักหน่อย ตายก็ยังไม่ตาย อะไรๆก็ยังเห็นแบบธรรมดาๆนั่นแหละค่ะ

    ดิฉัน - เหรอ..เออ มึนวุ้ย เอ...แล้ววิมานเราเป็นไงบ้างแล้วเนี่ย ไม่ได้มาซะนาน

    ชบา - โอ๊ย..ใหญ่ขึ้นกว่าเดิมเยอะค่ะ มีวิมานให้พวกบริวารอยู่ในเขตของวิมานคุณด้วยค่ะ เต็มไปหมด

    ดิฉัน - เอ..บริวารพวกนี้มายังไงกัน

    ชบา - ก็มาแบบเดียวกับชบาแหละค่ะ ทางลัด

    ดิฉัน - เหรอ..ก็ยังงงๆอยู่ดี แล้วบนนิพพานนี่มีบริวารด้วย เออ..แปลก แต่ที่เห็นได้ชัด เมื่อเปรียบเทียบกับพวกที่อยู่สวรรค์ คนพวกนั้นชอบสนุกสนานเฮฮาเนอะ แต่พวกที่อยู่บนนิพพานนี่ ดูสงบเรียบร้อยสมถะดีจัง แตกต่างจากพวกบนสวรรค์โดยสิ้นเชิงเลยเนอะ

    ชบา - ค่ะ เพราะพวกนั้นเขายังมีกิเลส แต่พวกเราหมดแล้ว ไม่ต้องไปเกิดใหม่อีกแล้วค่ะ

    ดิฉัน - อืมมม

    ชบา - เอ่อ..คุณคะ

    ดิฉัน - อะไรเหรอชบา

    ชบา - ทำไมคุณถึงไม่ดีใจที่รู้ว่าเคยเป็นลูกของพระศาสดามาก่อนละ

    ดิฉัน - ทำไมละ ก็นั่นมันอดีตชาติ ณ ชาตินี้ ท่านเป็นพระศาสดาของเรา เราก็นับถือท่านเป็นพระศาสดาไง

    ชบา - คนอื่นเห็นเขาดีใจกันออก ถ้ารู้ว่าเคยเป็นลูกหลานท่าน เห็นมีคุณนี่แหละที่เฉยๆ ท่านก็ออกจะเมตตาคุณมากกว่าใคร

    ดิฉัน - ท่านก็เมตตาทุกคนอยู่แล้ว อีกอย่างการยึดติดกับอดีตชาติ จะทำให้ไม่สามารถไปไหนได้ ไม่ใช่เฉพาะพระศาสดาหรอก ยังมีคนอื่นอีกหลายคนในชาตินี้ที่เราก็รู้ว่าอดีตเคยเกี่ยวพันกับเรามา แต่เราก็ได้แค่รับรู้ไม่อยากยึดติดเพราะจะทำให้เราไปนิพพานไม่ได้ แค่พ่อแม่พี่น้องในชาตินี้ก็ทำให้เกิดห่วงมากพออยู่แล้ว เราไม่อยากหาห่วงเพิ่ม

    ชบา - ก็จริงของคุณนะคะ สาธุ ขอให้คุณประสบความสำเร็จในการปฏิบัตินะคะ

    ดิฉัน - ครั้งก่อนว่าจะขึ้นมาดูวิมาน แต่เห็นเจ้าอ้อยแวปๆๆ เลยต้องรีบลงเลย

    ชบา - ฮาฮา ทำไมละคะ ก็คุณอ้อยเคยเป็น...คุณมาก่อนนี่คะ ตัดกันไม่ขาดหรอก เขาก็รักเคารพคุณนะคะ

    ดิฉัน - ก็รู้แหละ แต่ไม่อยากให้ยึดติดมาก เดี๋ยวก็เลยไปนิพพานไม่ได้ ต้องคอยปรามเป็นระยะๆ

    ชบา - ขำคุณจริงๆเลย กลัวอะไรไม่เข้าท่า ไปกลัวไรคุณอ้อยเนี่ย

    ดิฉัน - ฮาฮา กลัวใจอ้อยน่ะซิ มันผูกพันแรงไปหน่อย เดี๋ยวเลยได้เกิดอีกรอบ..เรากลับก่อนดีกว่า ไว้เราจะมาใหม่นะชบา

    ชบา - ค่ะ สวัสดีค่ะคุณ

    ดิฉัน - จ้ะ สวัสดี

    -----------------------------------------------------------------------------

    โปรดใช้ปัญญาพิจารณาในการอ่าน
     
  17. Me, myself

    Me, myself บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    บันทึกการทำสมาธิ วันที่ 8 ส.ค. 52

    ขึ้นไปข้างบนเห็นพระศาสดา เสด็จยืนคอยอยู่ไม่ได้อยู่ที่วิหารเหมือนเคย ก็ได้ก้มลงกราบพระศาสดา

    ดิฉัน - นมัสการพระศาสดาค่ะ

    พระศาสดา - เจริญพร วันนี้เปลี่ยนบรรยากาศหน่อย เราเดินคุยกันไปก็แล้วกัน

    ดิฉัน - ค่ะ (ว่าแล้วก็เดินตามหลังพระศาสดาไปเรื่อยๆ) เราจะไปไหนกันคะ

    พระศาสดา - (หันพระพักตร์มาแล้วยิ้มน้อยๆ) เจ้านี่ชอบถามจริงๆเลยว่าจะไปไหน

    ดิฉัน - ก็จะได้รู้ไงคะ

    พระศาสดา - จะพาเจ้าไปไหนดีวันนี้ งั้นไปหาหลวงปู่เทพโลกอุดรดีกว่า

    ดิฉัน - ห๊า...หลวงปู่ใหญ่เหรอเจ้าคะ

    พรศาสดา - ใช่ ตามมา

    แล้วท่านก็พาไปที่ที่หนึ่ง เห็นเป็นอาศรม มีรูปฤาษีถือไม้เท้าอยู่ด้วย แล้วดิฉันก็เหมือนติดตรึงอยู่ตรงภาพฤาษีไปต่อไม่ได้ พยายามอยู่หลายครั้งก็ไปไม่ได้ แล้วก็ได้ยินเสียงพระศาสดาถามว่า

    พระศาสดา - เอ้า..ทำอะไรอยู่ ทำไมไม่ตามมา

    ดิฉัน - พระศาสดาคะ ทำไมลูกไปต่อไม่ได้ ขอบารมีหน่อยค่ะ

    พระศาสดา - ก็กำหนดจิตดีๆซิ แล้วตามมา

    ก็เลยลองกำหนดใหม่ คราวนี้มองเห็นหลวงปู่นั่งอยู่บนแท่นหิน

    พระศาสดา - กราบหลวงปู่ซะสิ

    ดิฉัน - นมัสการหลวงปู่เจ้าค่ะ

    หลวงปู่ - นมัสการพระศาสดา เชิญประทับก่อนขอรับ

    จากนั้นหลวงปู่ก็หันมาเอาไม้เท้าเคาะหัวดิฉันสองที

    หลวงปู่ - ไง.เจ้า..ไหนว่าไม่เอาอภิญญาไง

    ดิฉัน - (เอ๋อๆไปหน่อย) อ้าว...หลวงปู่คือฤาษีที่เคยเจอที่เขาไกรลาศครั้งนั้นเหรอคะ ปลอมตัวมาเหรอคะ

    หลวงปู่ - ใช่..ข้านี่แหละ ครั้งนั้นข้าบอกให้มาเป็นศิษย์ข้า จะสอนฤทธิ์อภิญญาให้ เจ้าว่าไม่เอาไง

    ดิฉัน - ก็ตอนนั้นพระศาสดาท่านไม่ให้สนใจเรื่องพวกนี้นี่คะ จิตตั้งตรงไปนิพพานเลย แล้วเอ..หลวงปู่เป็นอาจารย์ของน้องอ้อยไม่ใช่เหรอคะ

    หลวงปู่ - ข้าก็เป็นอาจารย์ของพวกเจ้าทุกคนนั่นแหละ เจ้าตู่นั่นก็ด้วย

    ดิฉัน - เหรอคะ

    หลวงปู่ - แล้วฝึกกสิณกันไปถึงไหนแล้วละเนี่ย เห็นหย่อนยานกันจังเลย

    ดิฉัน - อ๋อย..ยังไปไม่ถึงไหนเลยค่ะ ตอนแรกก็ตั้งใจมาก ฝึกกันจนเครียด ตั้งอารมณ์หนักไป พระศาสดาก็ว่าอารมณ์หนักไป พระอาจารย์อนุรุทท่านก็ว่าอารมณ์หนักไป ให้สบายๆ ก็พยายามทำอารมณ์สบายๆ แต่ก็ไม่ได้ค่ะ รู้สึกว่ามันก็ยังหนักเหมือนเดิม ยังจับจุดไม่ได้เลยค่ะ ก็เลยต้องหยุดไปอ่านหนังสือธรรมะสายสุขขวิปัสสโก เพื่อให้อารมณ์มันเย็นลงค่ะ

    หลวงปู่ - ดีแล้วๆๆ พักก่อนให้หายเครียด ฝึกอานาปาก็ดีเหมือนกันเพราะว่าอานาปานัสสติเป็นพื้นฐานของกรรมฐานทุกกอง ไว้ค่อยกลับไปฝึกกสิณใหม่ ถึงเวลามันจะได้เอง ทุกอย่างมันจะรวมตัวกันเอง เดี๋ยวเจ้าก็จะหาจุดเจอแล้วหลังจากนั้นอภิญญาของเจ้าก็จะกลับคืนมา

    ดิฉัน - ค่ะ ตกลงหลวงปู่เป็นอาจารย์ของพวกเรามาก่อนเหรอคะ

    หลวงปู่ - ข้าพระองค์เหนื่อยใจกับเจ้าพวกนี้จริงๆเลยขอรับ ถามไม่หยุด

    พระศาสดา - ท่านก็ต้องทนต่อไปละ เพราะท่านเลือกมาเอง ก็สอนๆกันไปละกัน

    ดิฉัน - แหม..หลวงปู่เจ้าขา ลูกอ่ะ เคารพหลวงปู่นะเจ้าคะ ก็ถามเพราะอยากรู้น่ะค่ะ

    หลวงปู่ - (เอาไม้เท้าเคาะหัวอีกที) ก็ใช่นะสิ ข้าอ่ะเป็นอาจารย์ของพวกเจ้า

    ดิฉัน - อูย..ค่ะ แล้วพวกที่ได้อภิญญา พวกที่ต้องมาช่วยเหลือนี่มีเยอะไหมคะ แล้วครบหรือยัง

    หลวงปู่ - มีเยอะ ยังไม่ครบ กำลังเรียกอยู่ คาดว่าไม่นาน มีทั้งพวกที่ได้อภิญญาต้องมาคอยป้องกัน พวกสนับสนุน พวกให้ข้อมูล พวกช่วยเหลือมีด้วยกันกันหลายฝ่าย

    ดิฉัน - อ๋อ ค่ะ...หลวงปู่นี่ก็ยังไม่แก่จริงๆด้วยนะคะ หน้ายังผ่องอยู่เลยค่ะ

    หลวงปู่ - พระศาสดาขอรับ ดูซิขอรับ พูดเรื่องอื่นอยู่ดีๆ เปลี่ยนไปเรื่องอื่นเฉยเลย

    พระศาสดา - หลวงปู่ท่านเป็นพระอรหันต์ ท่านจะเนรมิตรูปร่างท่านให้เป็นยังไงก็ได้

    ดิฉัน - อ๋อ ค่ะ

    หลวงปู่ - หรือว่าเจ้าอยากดูแบบแก่หง่อมอย่างนี้ (ว่าแล้วท่านก็เนรมิตให้ท่านแก่ชรามากเลย)

    ดิฉัน - (หัวเราะ)

    หลวงปู่ - (เอาไม้เท้าเคาะหัวอีกสองที) แหม..ชอบใจๆๆ (แล้วท่านก็กลับมาอยู่ในรูปหนู่มๆเหมือนเดิม) พวกเจ้าอย่าลืมไปฝึกกำหนดดูจิตดูลมหายใจกันค่ะ

    ดิฉัน - ก็พยายามอยู่ค่ะ แต่ลูกอ่ะ รู้สึกว่าแย่กว่าพวกน้องๆอีก ยังไม่ถึงไหนเลยค่ะ

    หลวงปู่ - ก็ไม่ตั้งใจนี่ ก็รู้นะว่าเจ้าอยู่ในสถานการณ์ที่ลำบากกว่าคนอื่นเขา แต่เอาเถอะทนอีกนิด ทุกอย่างกำลังจะเปลี่ยนแปลง อีกหน่อยเจ้าจะฝึกได้เต็มที่

    ดิฉัน - ค่ะ..แต่ว่าก็ไม่รู้ว่านานแค่ไหน

    หลวงปู่ - ให้เชื่อพระศาสดา ท่านไม่เคยโกหก ไม่เคยกล่าวเรื่องไม่จริง เรื่องไหนที่ท่านกล่าวไว้ต้องเป็นจริงตามนั้น ให้เชื่อพระศาสดาไว้เป็นหลัก

    ดิฉัน - เจ้าค่ะ...เอ..ที่หลวงปู่อยู่นี่มันที่ไหนคะ

    หลวงปู่ - เมืองลับแล

    ดิฉัน - แล้วเมืองลับแล ม้นอยู่ส่วนไหนของประเทศไทยแน่คะ

    หลวงปู่ - ถึงเวลาเดี๋ยวเจ้าก็จะได้รู้ จะได้ไป ฝึกอภิญญาให้ได้ก่อน

    ดิฉัน - ดูท่าจะยากจริงหนอ...หลวงปู่อยากฝากอะไรถึงน้องอ้อยกับน้องตู่ไหมคะ

    หลวงปู่ - บอกเจ้าอ้อยนะ ป้ำๆเป๋อๆอยู่ ให้เอาสมาธิจดจ่อกับสิ่งที่อ่านที่ฟังแล้วพิจารณา ให้สมองมันทันมันไวหน่อย ไม่ใช่ โน่น..ช้างวิ่งหายไปแล้ว มันยังไม่รู้เรื่องเลย

    ดิฉัน - หลวงปู่เปรียบเทียบซะแหม..

    หลวงปู่ - อ้าว..ก็ไม่จริงเรอะ ช้างมันตัวออกใหญ่ วิ่งหายไปถึงไหนแล้ว เจ้าอ้อยยังไม่รู้เรื่องเลย

    ดิฉัน - (หัวเราะ) ค่ะ

    หลวงปู่ - ส่วนเจ้าตู่นี่ก็ไม่ค่อยมั่นใจในตัวเอง บอกมันนะว่าให้มั่นใจในตัวเองหน่อย ครูบาอาจารย์ก็อุตส่าห์มาสอนมาแนะนำ ยังไม่เชื่ออีก

    ดิฉัน - แล้วหลวงปู่เคยไปสอนน้องเขาไหมคะ

    หลวงปู่ - เคย ตอนนั้นมันยังมองไม่เห็นเลย ได้ยินแค่เสียงเท่านั้นแหละ ตอนนี้หลวงพ่อฤาษีท่านคอยดูแลอยู่

    ดิฉัน - ค่ะ..ครั้งก่อนพระศาสดาเคยถามว่าลูกอยากเจอหลวงปู่ไหม ลูกบอกว่า ยัง

    หลวงปู่ - ทำไมละ

    ดิฉัน - ก็แบบว่าอยากเจอในโลกมนุษย์ ไม่อยากเจอในมโนอ่ะค่ะ แล้วลูกจะเจอหลวงปู่ไหมคะ

    หลวงปู่ - ได้เจอซิ เจ้าก็จำข้าให้ได้ก็แล้วกัน

    ดิฉัน - ก็หลวงปู่อย่าเนรมิตมาในรูปอื่นซีคะ เดี๋ยวจำไม่ได้

    หลวงปู่ - อ้าว..เจ้าก็ต้องจำข้าให้ได้ซิ ไม่ว่าจะมาในรูปไหน

    ดิฉัน - ก็ได้ค่ะ หนูจะพยายาม

    หลวงปู่ - คนเรามีบุญร่วมกัน ยังไงก็ต้องเจอไม่วันใดก็วันหนึ่ง

    ดิฉัน - สาธุ ขอให้ได้เจอหลวงปู่จริงๆด้วยเถอะค่ะ

    หลวงปู่ - ไง..อยากกลับแล้วละซิ

    ดิฉัน - ค่ะ จะไปเขียนบันทึก เดี๋ยวหนูจำไม่ได้

    หลวงปู่ - งั้น นมัสการพระศาสดาขอรับ

    ดิฉัน - นมัสการลาหลวงปู่ค่ะ

    จากนั้นพระศาสดาก็พาไปหาพรอาจารย์อนุรุทก่อน สั่งพระอาจารย์ให้คอยดูแลสั่งสอนเรื่องธรรมะแก่เราด้วย แล้วท่านก็ให้กลับลงมา ดิฉันก็แวะไปกราบหลวงพ่อโตก่อน

    ดิฉัน - หลวงพ่อคะ นมัสการค่ะ (แอบเห็นพวกเทวดา/พรหมนอนหลับแล้วสะดุ้งตกใจตอนได้ยินเสียงเรียก

    หลวงพ่อโต - เอ้า..ว่าไง เรียกซะตกใจ

    ดิฉัน - ฮั่นแน่...ท่านพรหมแอบหลับเหรอคะ หนูเห็นนะ

    (หลวงพ่อโต) พรหม - จุ๊ๆ อย่าเอ็ดไป ก็พักบ้าง คนมากราบไหว้กันเยอะ เหนื่อยเหมือนกันนะ แต่ตอนนี้หายแล้ว (ว่าแล้วท่านก็หายกลับเข้าไปในองค์หลวงพ่อโต กลายเป็นหลวงพ่อโต)

    ดิฉัน - หนูก็แวะมากราบก่อนออกจากสมาธิค่ะ ขึ้นไปกราบพระศาสดามา

    หลวงพ่อโต - อ้อ

    ดิฉัน - งั้นหนูกลับก่อนนะคะ วันหลังจะมากราบหลวงพ่อใหม่ค่ะ

    หลวงพ่อโต - เจริญพร

    ----------------------------------------------------------------------------

    โปรดใช้ปัญญาพิจารณาในการอ่าน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 9 สิงหาคม 2009
  18. |ฅนจร|

    |ฅนจร| เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    26
    ค่าพลัง:
    +229
    อนุโมทนากับทุกๆๆท่านนะครับ.........สวัสดีครับกัลยาณมิตรทุกท่านนะครับ เอาเป็นว่าผมแนะนำตัวหน่อยละกัน ผมวนเวียนอยู่ที่เวปนี้มาค่อนข้างนานเหมือนกันเเล้วครับแต่พึ่งจะมีไอดีเป็นของตัวเอง(แอบภูมิจัยนิดๆ)พึ่งมาสนจัยนั่งสมาธิมาได้เดือนกว่่าๆเเล้ว คือเมื่อก่อนชอบเข้ามาอ่านเรื่องอื่นๆไม่สนจัยนั่งสมาธิหรือนโมมัทยิ(ขอโทษนะครับอาจ สะกดผิด) แต่พอดีเพื่อนที่เค้านั่งกรรมฐานเค้าชวนผมให้ลองนั่งดู ปรากฎว่าผมชอบนั่งแล้วสบายจัยมากๆๆ เดียวนี้เริ่มปลงกับชีวิตครับ เบื่อๆ นั่งจากนั้นก้อได้เดือนกว่าๆเเล้วผมก้อนั่งสมาธิทุกๆวัน ครับ และก้อมีการตระเวนไปนั่งที่ศูนย์ปฏิบัติธรรมที่ต่างจังหวัดมั่ง ผลก้อคือชอบมากกว่าเดิมเลยครับ (อิอิ) เข้าเรื่องดีกว่าครับ ผมก้อเข้ามาอ่านเรื่อยๆนะครับ เพื่อดูหลายกรณีเพื่อมาปฏิบัติดูหลายๆๆครูบาอาจารย์ครับ แต่ตอนนี้ลองมาดูของพระอารย์ฤๅษี ก้อรู้สึกชอบ เพราะ พูดเป็นธรรมชาติเข้าจัยง่ายด้วย และผมก้ออ่านกระทู้นี้ชอบมากเลยครับ เข้าจัยเพิ่มขึ้นมากเลยครับ ตอนนี้ก้อพยายามอ่านให้ทันหน้าปัจจุบัน ครับ เหอๆตอนนี้ก้อนั่งอ่านทั้งวันเลยครับเพราะว่างจัด (ผมเรียนอยู่ด้วยมั้งครับ เลยว่างเยอะ) แต่ก้อเริ่มเครียดๆๆเพราะกลัวอนาคต กลัวโน้นนี้นั่น ที่กลัวที่สุดก้อเรื่องเรียนต่อ ป.โทนี้แหละครับ เพราะคิดหนักอยู่ว่าจะเรียน สายวิชาอะไรดี (เออ..ลืมบอกผมเรียนเทอมนี้ก้อจบแล้วครับ) แต่พอมานั่งสามธิแล้วก้อไม่ค่อยคิดแล้วครับไม่อยากยึดมั่นถือมั่น คิดว่าเอาปัจจุบันให้ดีที่สุดแล้วครับ และก้อพยายามรักษาศีล ด้วยครับ แต่ใจมันบางทีก้อห้ามไม่ได้ครับ แอบคิดมั่ง สงสัยยังมีกิเลสหนา

    ผมมีข้อสงสัยเรื่องการนั่งสมาธิมาถามครับ พึ่งเริ่มตั้งจัยจิงๆประมาณสิบกว่าวันครับ คือผมนั่งสมาธิที่มีการอาการปิติแล้วครับ พอหลังจากนั้น จิตก้อจะนิ่งมากๆๆครับ แต่ผมก้อนั่งต่อไปนครับแต่รู้สึกว่าทำไมเรายังไม่ไปไหนเลย ก้อเลยลองตัดขันธ์ห้านะครับ แต่มันก้อลางๆๆมองไม่ค่อยเห็น แต่มันจะปรากฎเป็นแสงอยู่เหนือศีรษะ ครับ ผมก้อไม่ได้สนจัยอะไร นั่งได้สักพัก มันก้อวูบๆเหมือนหลับแต่ผมก้อยังรู้สตินะครับ หลังจากนั้นผมก้อถอนจากสมาธิ คือผมอยากรู้ ว่าทำไงให้เรานั้นพัฒนาไปสู่ขั้นต่อๆๆไปได้ครับ มีความรู้อันน้อยนิดเท่าห่างอึ่งครับจากจะถามท่านผู้รู้ๆ ครับ
    และอีกอย่างนึ่งครับทำไมวันไหนเราไหว้พระ สวดมนต์ นั่งสมาธิแล้ว คืนนั้นผมจะนอนไม่ค่อยหลับ เลยครับ เดี่ยวก้อตื่นๆ ทั้งคืนเลยครับ อาจจะเป็นเพราะเรามีสติหรือเปล่าครับ ซึ่งเทียบกับเมื่อคืนผมลองทำไรดู แค่ไหว้พระ แล้วนอนเลย ผลก้อคือตื่น ตินเช้าเลยครับหลับสนิทมากๆๆ ขนาดเพื่อนผมที่นอนกรนลั่นสนั่นห้อง นอนอยู่ข้างผมไม่ถึงคืบ ผมยังไม่ได้ยินเลยครับ ก้อตอนเช้าเจอเพื่อนอีกคนนึ่งมาถามว่า ผมได้ยินไหม เพื่อนที่นอนกรนนั้น มันกรนดังมากๆๆ ขนาดเปิดเพลงฟังเสียบหูฟังแล้วเสียงยังเข้าไปเลย .... จนทำให้ผมแปลกจัยครับ ว่า สงสัย ตอนหลังจากเรานั่งสมาธิแล้ว จิตของเราคงนิ่ง ได้ยินนี้โน้นนั่น แม้จะเป็นเสียงนิดๆๆ ก้อยังได้ยิน
    เดี่ยวนี้ผมก้อกำลังลองฝึกมโนยิทธิดูครับ ดาวโหลดจากเวปมาแล้วของวัดท่าซุงนี้แหละครับ อ่านแล้วรู้สึกชอบดี แต่ไม่มีอาจารย์คงต้องฝึกคนเดียว หากมีอะไรสงสัยผมขอใครถามท่านผู้รู้ในนี้นะครับ .... เพราะผมรู้สึกอบอุ่นไงไม่รู้กับกระทู้นี้ซึ่งหาจากที่อื่นไม่ได้เลยครับ.......ขอบพระคุณอย่างยิ่งครับ
     
  19. เจ๋วะรัฐถะ

    เจ๋วะรัฐถะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    847
    ค่าพลัง:
    +15,386
    กราบแทบพระบาทพระศาสดาด้วยจิตนอบน้อมเป็นอย่างสูงเจ้าค่ะ
    ขอบพระคุณพี่me,myself ที่ได้ออกมาพูดถึงเหตุการณ์ในกาลข้างหน้าให้เพื่อนกัลยาณมิตรได้รับทราบเพื่อเร่งปฏิบัติกัน

    ตอนนี้เข้าใจว่า หลายๆคน คงได้เห็นภาพเหตุการณ์ในนิมิตเหมือนกัน
    การรู้แล้วเงียบไม่เป็นการดีแน่ จึงต้องออกมาเตือนสติเพื่อนกัลยาณมิตรเพื่อให้เร่งปฏิบัติกัน เพื่อความหลุดพ้น และอย่างมีสติ หากใครเป็นผู้ปฏิบัติแล้ว เชื่อว่าคงไม่ตื่นกับเหตุการณ์ แต่จงตื่นจากกิเลส เป็นพุทธะ โดยไว
     
  20. เจ๋วะรัฐถะ

    เจ๋วะรัฐถะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    847
    ค่าพลัง:
    +15,386
    แง่ะ นู๋น่ากลัวขนาดนั้นเลยเหรอ T_T
    แวะไปเที่ยวเฉยๆอ่ะ
    แต่จะบอกว่า วิมานข้างบนอ่ะ อยู่ใกล้ๆกันเน้อ อิอิ
    ยึดพี่ไว้อ่ะดีนา พี่ขึ้นข้างบน ถ้านู๋ยึดพี่ไว้ นู๋ก็จะได้ขึ้นข้างบนด้วยไงคะ
    โลกนี้มันทุกข์ เลยบ่ออยากปิกมาเกิดแหมแล้วเจ้า ^^

    วันนี้อ้อยได้ธรรมะดีๆมาสอนใจอ้อยด้วยค่ะ
    วันนี้อ่านหนังสือของหลวงปู่เณรคำค่ะ
    ซึ่งท่านได้รับความเมตตาจากหลวงปู่ใหญ่
    ช่วงนี้หลวงปู่ใหญ่เลยให้อ้อยศึกษาจากการปฏิบัติของท่านควบไปด้วยค่ะ

    อ่านแล้วเห็นว่ามีคติเตือนใจ พิจารณาเห็นว่าดีแล้วจึงขอนำมาฝากเพื่อนกัลยาณมิตรทุกท่านด้วย อ้อยก็จะได้เอาไว้เตือนสติตัวเองด้วยค่ะ

    เดินไปสู่ความหลุดพ้น

    หากปรารถนาที่จะไม่กลับมาเวียนว่ายตายเกิดอีก ก็ต้องปฏิบัติตนรักษาศีล บำเพ็ญภาวนา ตั้งศรัทธาให้มั่นคง ถอนใจออกจากความยึดมั่นถือมั่นในอารมณ์ทั้งปวง เอาสิ่งสมมุติทิ้งไปให้หมด เหลือไว้แต่ความว่างเปล่า กำหนดจิตเตือนตนอยู่เสมอว่าเราจักไม่กลับมาเกิดอีก หากทำได้เช่นนี้จึงจะได้ชื่อว่าเข้าถึง ความหลุดพ้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 สิงหาคม 2009

แชร์หน้านี้

Loading...