เตือนภัยพิบัติล้างโลก ปี 2012 โดย อาจารย์สุมิตร

​

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอคุณภาพประกอบจาก หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

เมื่อราวเดือนสิงหาคม ปี พ.ศ.2551 (ค.ศ.2008) อาจารย์สุมิตร หรือ พ.อ.อ.สุมิตร อิศรางกูร ณ อยุธยา กลายเป็นที่รู้จักของคนไทย จากการเป็นผู้คิดค้นรถยนต์พลังงานไฮโดรเจนในประเทศไทยเป็นคนแรก โดยพัฒนาอุปกรณ์แยกไฮโดรเจนจากน้ำ ทำให้รถยนต์สามารถใช้พลังงานน้ำแทนน้ำมัน เชื้อเพลิงในการขับเคลื่อนได้สำเร็จ หรือเรียกง่ายๆ ว่า รถใช้น้ำที่ใครหลายคนฝันไว้ ได้เกิดขึ้นได้จริงจากนักวิจัยท่านนี้

แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่านอกจากการเป็นนักวิจัยของไทยที่นับว่ามีความรู้ความ สามารถท่านหนึ่งแล้ว อาจารย์สุมิตรยังทำงานอยู่ในองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ สหรัฐอเมริกา หรือองค์การนาซ่า ในสายงานที่อาจเรียกว่าพิเศษก็ไม่ผิดนัก กล่าวคือ ต้องทำงานร่วมกับนักวิทยาศาสตร์ทั่วโลก สร้างยานอวกาศ เพื่ออพยพผู้คนจากอุทกภัยน้ำท่วมโลกในอีก 3 ปีข้างหน้า หรือ ปี ค.ศ.2012 (พ.ศ.2555) ซึ่งเป็นเรื่องที่รู้กันในวงจำกัดเท่านั้น!!!

อาจารย์สุมิตร บอกเล่าผ่านรายการ The Taxi ทางช่องเอ็นบีที เกี่ยวกับเรื่องภัยพิบัติของโลก ว่า ในอีก 3 ปีข้างหน้า โลกจะเกิดหายนะขึ้นจากเหตุอุทกภัย น้ำจะท่วมโลกอย่างแน่นอน ซึ่งคนในองค์การนาซ่าทุกคนต่างทราบเรื่องนี้มานานแล้ว จึงได้พยายามสร้างยานอวกาศเพื่ออพยพผู้คนหนีภัยน้ำท่วมโลก โดยอาจารย์สุมิตร เผยว่า ยานอวกาศดังกล่าวใกล้เสร็จแล้ว แต่ไม่ได้ระบุว่าสร้างไว้ทั้งหมดกี่ลำ

พร้อมกันนี้ อาจารย์สุมิตร ยังระบุด้วยว่า มนุษย์ต่างดาวมีจริง และปัจจุบันมีมนุษย์ต่างดาวมาทำงานร่วมกับองค์การนาซ่า โดยใช้วิธีสื่อสารทางโทรจิตในการถ่ายทอดความรู้ทางเทคโนโลยี เพื่อช่วยมนุษย์จากอุทกภัยน้ำท่วมโลกใน ค.ศ. 2012 (พ.ศ.2555) อย่างไรก็ดี เรื่องนี้ ทางสหรัฐอเมริกา ค่อนข้างปกปิด ทำให้คนส่วนมากในโลกไม่รู้ เนื่องจากอาจมองว่าเรื่องมนุษย์ต่างดาวเป็นเรื่องเหลวไหล

"โลกมนุษย์เรา ไม่ได้อยู่อย่างโดดเดี่ยว ในจักรวาลอื่นๆ ก็มีมนุษย์ต่างดาวประมาณ 200 จักรวาล ซึ่งโลกของเราเป็นเพียงจักรวาลเล็กๆ 1 จักรวาล เท่านั้น เราไม่ได้อยู่โดดเดี่ยวหรอกนะ"

เมื่อรู้เช่นนี้ อาจารย์สุมิตร จึงเสนอต่อกระทรวงวิทยาศาสตร์ของไทย เพื่อให้เร่งสร้างยานอวกาศเตรียมไว้สำหรับอพยพคนไทยจากอุทกภัยน้ำท่วมโลก ค.ศ.2012 แต่กลับไม่มีใครเชื่อ เนื่องจากอาจเห็นว่าเรื่องดังกล่าวยังไม่มีน้ำหนักมากพอในเชิงหลักฐาน

"อีก 3 ปี ข้างหน้านี้ โลกกำลังจะเกิดหายนะจากอุทกภัยน้ำท่วมโลกใน ค.ศ. 2012 แน่นอน นี่เป็นเรื่องจริง ที่ฝรั่งเค้าตื่นตัวกันมาก โดยเฉพาะในหมู่นักวิทยาศาสตร์อวกาศ แต่คนไทยเกือบทั้งหมด ยังไม่รู้เรื่องนี้เลยด้วยซ้ำ มันเป็นวันหายนะที่ร้ายแรง ไม่งั้นมนุษย์ต่างดาวคงไม่มาทำงานร่วมกับองค์การนาซ่า เพื่อช่วยในการสร้างยานอพยพผู้คนในครั้งนี้เป็นแน่"

นี่เป็นคำยืนยันจากปากของ พ.อ.อ.สุมิตร อิศรางกูร ณ อยุธยา นักวิทยาศาสตร์ไทยจากองค์การนาซ่า ที่หลายคนอาจเชื่อ แต่หลายคนอาจไม่เชื่อ ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณส่วนบุคคล อย่างไรก็ดี นอกจากอาจารย์สุมิตรแล้ว ยังมีนักวิทยาศาสตร์อีกลายคนที่พยายามจะมาเตือนคนไทยเรื่องภัยพิบัติน้ำท่วม ล้างโลกก่อนหน้านี้ ไม่ว่าจะเป็น ดร.สมิทธ ธรรมสโรช ประธานกรรมการอำนวยการเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ทำนายกรุงเทพฯ จมใต้น้ำในปี พ.ศ. 2558 (ค.ศ. 2015) และอีกท่านที่รู้จักกันดี คือ ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา ทำนายอนาคตโลกต้องเกิดภัยพิบัติครั้งมโหฬารในปี พ.ศ.2560 (ค.ศ.2017) โดยท่านทำนายไว้เมื่อปี พ.ศ.2548

ย้อนกลับไปดูผลงานรถยนต์พลังงานไฮโดรเจนของอาจารย์สุมิตร เป็นรถที่ใช้น้ำแทนน้ำมัน วิ่งได้ 56 กิโลเมตร/ลิตร โดยอาศัยหลักการแยกน้ำด้วยไฟฟ้า ทำให้ได้ก๊าซไฮโดรเจน 2 อะตอม และ ออกซิเจน 1 อะตอม โดยใช้อุปกรณ์ที่พัฒนาขึ้นเรียกว่า "รีแอคเตอร์" เป็นตัวแยก เมื่อนำไปติดตั้งกับรถยนต์จะใช้ไฟฟ้ากระแสตรงจากแบตเตอรี่รถ 12 โวลต์ เข้ามาทำการแยกโดยขั้วบวกจะมีปฏิกิริยาของออกซิเจน ขั้วลบจะเป็นปฏิกิริยาของไฮโดรเจนในการแยกโมเลกุลน้ำ และได้ไฮโดรเจนซึ่งเป็นเชื้อเพลิง แล้วส่งเข้าไปสันดาปในเครื่องยนต์

"จุดประสงค์ที่คิดค้นเกิดจากอยากให้โลกรู้ว่า น้ำสามารถเป็นพลังงานทดแทนได้ในอนาคต จึงได้พัฒนาอุปกรณ์ตัวนี้ขึ้นมา นอกจากนี้รีแอคเตอร์ยังเป็นตัวแก้ปัญหามลพิษ สภาวะปัญหาของโลกในปัจจุบันที่เกิดสภาวะโลกร้อน เพราะการใช้น้ำมาเป็นพลังงานเป็นเชื้อเพลิง จะทำให้ลดภาวะโลกร้อนและแก้ปัญหามลพิษไปด้วย ผลงานชิ้นนี้จะไม่ใช่ชิ้นแรกและชิ้นสุดท้าย ขอให้คนไทยเป็นกำลังใจให้ผมและทีมงานทำหน้าที่ต่อไปให้สำเร็จ เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติต่อไป" พ.อ.อ.สุมิตร กล่าว

สำหรับ อาจารย์สุมิตร หรือ พ.อ.อ.สุมิตร อิศรางกูร ณ อยุธยา เดิมเป็นชาว จ.ราชบุรี จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลายจากโรงเรียนเบญจมราชูทิศ และเข้าศึกษาต่อที่โรงเรียนจ่าอากาศ เริ่มต้นรับราชการที่กองบิน 23 จังหวัดอุดรธานี เป็นเวลา 6 ปี จากนั้นได้ศึกษาต่อในหลายสถาบันทั้งในประเทศและต่างประเทศ กระทั่งจบการศึกษาในระดับปริญญาโท สาขาวิศวกรรมอากาศยาน จากประเทศสหรัฐอเมริกา มีประสบการณ์การทำงานกว่า 30 ปี ในบริษัทผู้ผลิตอากาศยานยักษ์ใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น โบอิ้ง หรือแอร์บัส ทำงานในองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ สหรัฐอเมริกา มีผลงานการประดิษฐ์ที่ทำให้ประหลาดใจหลายอย่าง จนเพื่อนร่วมงานขนานนามว่า "พ่อมด" แห่งองค์การนาซ่า

การศึกษา

• ปริญญาโทสาขาศิลปกรรม ด้านวิศวกรการบิน สหรัฐอเมริกา (19 มีนาคม พ.ศ.2550)
• ปริญญาตรีสาขาศิลปกรรม ด้านวิศวกรการบิน สหรัฐอเมริกา (13 มิถุนายน พ.ศ.2545)
• ประกาศนียบัตรจากบริษัทการบินไทยจำกัด มหาชน ( 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2533 – พ.ศ.2542)
• A -300- B 4/ A- 300-600 Familiarization Course
• B -747-400 Basic course
• B -737-400 ใบอนุญาตวิศวกรท่าอากาศยาน
• ประกาศนียบัตรจากโรงเรียนฝึกช่างเทคนิคการบิน
• จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเบญจมราชูทิศ จังหวัดราชบุรี

รางวัลที่เคยได้รับ

• รางวัลปฏิบัติการยอดเยี่ยม ปี ค.ศ.1982 (พ.ศ.2525), Wing 23 ฐานการบินอุดร ,การบินไทย
• พนักงานยอดเยี่ยม ค.ศ.1988 (พ.ศ.2531) US Air Force สหรัฐอเมริกา
• รางวัลยอดเยี่ยมของผู้บังคับการกองทัพทหารบก สหรัฐอเมริกา กองทัพอัจฉริยะ ครั้งที่ 204,การสำรวจแผนที่จากอากาศ

โครงการและสิ่งประดิษฐ์

• ระบบควบคุมน้ำอัจฉริยะ (อยู่ในระหว่างจดสิทธิบัตร)
• น้ำ-ไฮโดรเยน พลังงานเชื้อเพลิงในอนาคต สำหรับโครงการมนุษยชาติในประเทศไทย
• Fuel Cell (พลังงานเชื้อเพลิง)
• รถวิ่งโดยใช้น้ำ




ขอขอบคุณข้อมูลจาก


- digogas.com
- hgvcenter.com


:z6

 

น้ำมันจะท่วมโลกด้วยสาเหตุอะไร
มันจะท่วมทั้งโลก โดยรวมสหรัฐอเมริกาเลยหรือ
และสมมุติเป็นเช่นว่าจริง สหรัฐฯเขาคงไม่โง่พอที่จะสร้างยานอวกาสหรอก เพราะหนีไปไม่เท่าไร เชื้อเพลิงก็ต้องหมด ก็ต้องตกน้ำตายป๋อมแป๋ม ฮา

 

เเนะนำ สหรัฐสร้างเรือดำนำ หรือ เรือแบบ กองทัพเรือ เเทนค่ะ ^0^

 

หรือ เกาะลอยน้ำ

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=630 border=0><TBODY><TR><TD class=black18bold style="WIDTH: 600px; WORD-WRAP: break-word" align=middle colSpan=2 height=40>ก.วิทย์หนุนผลิตไส้กรองน้ำทะเลดื่มได้




</TD></TR><TR><TD class=black16 style="WIDTH: 600px; WORD-WRAP: break-word" align=left colSpan=2 height=40>กระทรวงวิทยาศาสตร์หนุนเอกชนผลิตไส้กรองจากเปลือกกุ้ง ต่อยอดงานวิจัยใช้กรองน้ำเค็ม/กร่อยเป็นน้ำจืดเพื่ออุปโภคบริโภค มั่นใจลดปัญหาขาดแคลนน้ำจืดสำหรับชุมชนริมชายฝั่งทะเล


นายภัทรชัย สุนทราภา กรรมการผู้จัดการบริษัท เอส เอส เมมเบรน จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในรูปแบบโครงการแปลงเทคโนโลยีเป็นทุน สำหรับการผลิตไส้กรองน้ำเค็มหรือน้ำกร่อยเป็นน้ำจืด หรือที่เรียกว่า "เมมเบรนออสโมซิสผันกลับ" (reverse osmosis) ซึ่งใช้เป็นส่วนประกอบภายในเครื่องกรองน้ำ โดยเป็นการต่อยอดงานวิจัยของภาควิชาเคมีเทคนิค คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างเตรียมพร้อมที่จะเดินเครื่องผลิตแผ่นไส้กรอง ซึ่งคืบหน้าแล้วประมาณ 90% คาดว่าในเดือนกรกฎาคมนี้จะลงมือผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ได้ โดยในระยะแรกจะนำเสนอสินค้าไปยังผู้ผลิตเครื่องกรองน้ำสำหรับครัวเรือน และเน้นเฉพาะเครื่องกรองน้ำเค็ม/น้ำกร่อยเป็นน้ำจืด ซึ่งถือเป็นเครื่องใช้จำเป็นสำหรับครัวเรือนในพื้นที่ใกล้ทะเลและบนเกาะ สำหรับแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำจืดเพื่อการอุปโภคบริโภค

จากข้อมูลของการประปาส่วนภูมิภาคพบว่า สามารถให้บริการแก่ประชาชนได้เพียงร้อยละ 10 เท่านั้น ส่วนที่เหลืออีกร้อยละ 90 ยังคงมีความยากลำบากในการจัดหาน้ำอุปโภคบริโภค อีกทั้งยังไม่มีความมั่นใจในคุณภาพของน้ำ ขณะที่ไส้กรองหรือเมมเบรนที่ใช้ในประเทศเป็นการนำเข้าทั้งหมด ทำให้เครื่องกรองน้ำเค็มที่จำหน่ายในปัจจุบันราคาแพงหรือหลักหมื่นขึ้นไป

"แผ่นเมมเบรนหรือไส้กรองของเราผลิตจากวัสดุไคโตซาน ซึ่งเป็นโพลิเมอร์ชีวภาพที่ได้จากเปลือกกุ้งในประเทศ รองรับการกรองน้ำดื่มได้ประมาณ 200 ลิตรต่อวัน หรือเฉลี่ยอายุการใช้งานนานประมาณ 1 ปี อีกทั้งในการผลิตตัวเมมเบรนจะต้องมีการควบคุมคุณภาพ ให้สามารถกำจัดเกลือได้ไม่น้อยกว่า 95% ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์ของเรามีประสิทธิภาพเทียบเท่าไส้กรองหรือแผ่นเมมเบรนนำเข้า แต่ราคาถูกกว่า 3 เท่าตัว" ผู้บริหารเอสเอสเมมเบรน กล่าว

บริษัทได้ยื่นจดสิทธิบัตรทั้งวัสดุเมมเบรน โมดูลแบบท่อม้วน (แผ่นเมมเบรนนำไปม้วนเข้ากับท่อ) เครื่องผลิตแผ่นเมมเบรนและเครื่องม้วนโมดูล จากการคิดค้น ออกแบบ ประดิษฐ์และทดสอบของทีมงาน ซึ่งถือเป็นรายแรกของประเทศ ส่วนโมดูลแบบท่อม้วนได้ออกแบบให้มีขนาดเท่ากับโมดูลเชิงพาณิชย์ หรือโมดูลนำเข้า เพื่อให้ผู้ใช้สามารถทดแทนโมดูลที่เสื่อมสภาพได้ทันทีโดยไม่ต้องดัดแปลงใดๆ

นอกจากการผลิตแผ่นเมมเบรนสำหรับกรองน้ำเค็มเป็นน้ำจืดแล้ว บริษัทยังสามารถพัฒนาแผ่นเมมเบรนให้มีโครงสร้างรูพรุนตามต้องการ สำหรับใช้ในงานกรองที่ต่างกันไป เช่น กรองน้ำเสียในโรงงานอุตสาหกรรมและสถานบริการ กรองน้ำประปาเป็นน้ำดื่ม รวมทั้งยังมีความสนใจที่จะพัฒนาเมมเบรนเพอร์แวพอเรชั่น ที่ใช้ในการผลิตเอทานอลไร้น้ำเพื่อนำไปผสมกับน้ำมันเบนซิน หรือเมมเบรนแยกก๊าซ เป็นต้น

ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์ของบริษัทก่อให้เกิดประโยชน์ โดยสามารถทดแทนการนำเข้าไส้กรองอาร์.โอ. ช่วยลดปัญหาขาดแคลนน้ำจืดสำหรับชุมชนที่อยู่ริมชายฝั่งทะเล และน้ำที่ได้จากกระบวนการออสโมซิสผันกลับ มีความบริสุทธิ์สูงกว่าน้ำประปา เพราะไม่มีสารเคมีตกค้างและยังสามารถกำจัดแบคทีเรีย โปรตีนตลอดจนโลหะหนักได้

</TD></TR><TR><TD align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="50%">( 16-05-2006 ) 09:20:55</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

สำหรับ คนจนๆอย่างเรา

ควรมีเสื้อชูชีพ เเละ นกหวีด ติดบ้าน หรือ ติดในรถ



เสื้อชูชีพราคาประมาณ 450 บาท

 

คุณสันโดษ ยังฉลาดกว่าอเมริกันเยอะ ถูกต้องต้องสร้างเรือแบบโนอาร์
แต่ไส้กรองเปลืกหอยนั่น น่าจะโม้มากกว่า
เพราะตะวันออกกลางสมัยก่อน ระดับชีคของเขายังต้องลงทุนจ้างให้ลากก้อนน้ำแข็งจากขั้วโลกเหนือ นำมาใช้ในตะวันออกกลางเลย แต่ก็หลายสิบปีมาแล้ว
ปัจจุบัน อิสราเอลมีน้ำใต้พื้นดิน เหมือนน้ำบาดาล ยังต้องขุดขึ้นมาเพื่อปลูกพืชได้เท่านั้นแต่ยังใช้ดื่มไม่ได้
ขนาดตะวันออกกลางเขามีเงิน สามารถสร้างเครื่องกรองน้ำทะเลที่มีคุณภาพที่สามารถดื่มได้ แต่ต้องลงทุนหลายๆแสนล้านขึ้นไป
สิงคโปร์ เป็นรองแค่ญี่ปุ่นและจีน คือ รวยอันดับสามของเอเชีย ยังต้องซื้อน้ำกินจากมาเลย์เซียในปัจจุบัน ฉะนั้น เครื่องกรองเปลือกกุ้งนี้ จึงน่าจะเข้าข่ายโฆษณาเกินจริงมากกว่า

 

ประเทศไทยเราซ้อมน้ำท่วมโลกมานานเเล้วค่ะ ไม่เคยประมาท

สันโดษเคยไปซ้อมมาเเล้วกับเพื่อนๆ

 

ฮากลิ้ง นั่นมันล่องแก่งกับดำน้ำแบบสคูบ้า
ลองน้ำท่วมโลกแบบหนังวอเตอร์เวิลด์จริง ก็จะเป็นน้ำมาปลากินมด คือ กินคนนั่นแหละ โดนไอ้หลามขาวเขมือบแน่นอน
มนุษย์นอกจากเตรียมเรือแล้วต้องเตรียมเบ็ดตกปลา เชือกตกปลา ฯลฯ สรุปคือหากินแต่ปลาอย่างเดียว จนมีบางคนพิเรนทร์ แอบกินเนื้อคนเวลาตายลงไป คนทั่วไปบอกสะอิดสะเอียน แต่พอดำรงชีวิตอยู่ได้ขึ้นปีที่สอง ทุกคนก็รอคนตาย เพื่อแบ่งเนื้อมนุษย์กินกัน ฮา

 

พอดี มองโลกในเเง่ดีอ่ะค่ะ ไม่ชอบดูหนัง สยองขวัญ สั่นประสาท จิตตก

สงสาร จิตตัวเอง อยากให้ จิตเขาอยู่เเบบ สงบๆ ดีกว่า หนังโหดร้าย นู๋ไม่ชอบดู ไม่ถูกจริต

ชอบฟังเพลงดูหนังเเบบ เกิดมาเพื่อ ปกป้องโลกดีกว่าค่ะ

 

สร้างแพ น่าจะ work กว่า สร้างยานอวกาศ

 

"เชื้อเพลิง " ส่งยานขึ้น - ลง
ยานลอยตัวอยู่ในวงโคจรโลกไม่ได้ใช้พลังงานอะไรมากมาย................
50ปี ที่แล้ว สถานีอวกาศ เมียร์ ส่งคนขึ้นไปอยู่เป็นปี
เข้าใจถูกไหม นักวิทยาศาสตร์ตอบหน่อย

 

ขอไปด้วยคนนะครับ ....สร้างเมื่อไหร่บอกด้วยนะ

 

ยานที่ออกแบบกันคาดว่าคงไม่ใช่ใช้เชื้อเพลิง แล้วครับ แต่เป็นเรื่องของการเบี่ยงเบนสนามพลังดึงดูด เหมือนที่จานบินใช้กัน ที่ต้องสร้างยานอวกาศ เพราะภัยพิบัติไม่ใช่น้ำล้นอ่างนะครับ มันมีทั้งพายุ ฟ้าผ่า ฯลฯ แล้วก็ไม่ใช่แค่ ชม. แต่นานติดต่อกันหลายๆ วัน ต่อให้เป็นเรือหรือเรือดำน้ำก็คงทนสภาพที่บ้าคลั่งขนาดนั้นไม่ไหวหรอกครับ เรื่องเทคโนโลยี่การต้านแรงดึงดูดหรือแรงโน้มถ่วงมีการค้นคว้ากันมาเป็นสิบๆ ปีแล้วครับ ตอนนี้น่าจะทำได้ใช้งานได้จริงแล้ว แต่เรื่องผลประโยชน์ของประเทศเขา และก็อีกฯลฯ ทำให้ไม่เปิดเผย ดูง่ายๆ ขนาดDiscovery ยังเคยเอามาออกเลย แต่อยู่ในช่วงการวิจัย แต่อย่างว่าแล้วแต่ความเชื่อส่วนบุคคลครับ เชื่อไม่เชื่อตอนนี้ยังไม่ส่งผล อ่านเอามัน สนุกๆ ไปก่อนก็ได้

 

กำลังความสามารถของแต่ละคนที่จะเตรียมตัว(ที่ทราบและสนใจเรื่องนี้)มีไม่เท่ากัน คงไม่ต้องหวังหรอกครับ สำหรับเราๆท่านๆเรื่องขึ้นยานอวกาศ แต่ควรหาความน่าเป็นไปได้ในชีวิตจริงมากกว่า แค่เรือ เสื้อชูชีพ หรืออะไรทั่วไปที่คนทั่วไปสามารถหยิบได้เอื้อมถึง ไม่ว่าสภาพอากาศโลกจะเป็นอย่างไร อย่างพวกเราก็คือหนึ่งในคนส่วนใหญ่ที่จะต้องเผชิญกับภัยนั้น

 

ถ้าเกิดกรณีขั้วโลกผลิกและเกิดภัยพิบัติจริง โดยใช้เวลานานไม่มีวันสงบ
มนุษยชาติ ด้วยองค์ความรู้ในปัจจุบัน ก็ยังไม่สามารถค้นคว้าวิจัยได้ทันในการสร้างยานอวกาศให้เป็นเหมือน ยูเอฟโอ
อีกประการการผลิตอาหารโดยแคปซูล ก็ไม่น่าที่จะผลิตทันเพื่อเลี้ยงผู้คนในยานได้
สุดท้าย หากลงไม่ได้ ก็คงอดอาหารตายคายาน(กรณีคิดยานแบบยูเอฟโอได้ทัน)
เพราะที่กลัวกันคือมันจะเกิดอีก3ปีข้างหน้านี้ คือ ปี2012หรือ 2555
สรุปคือ มนุษย์น่าจะตายหมดโลกแน่นอน
แต่ก็ขัดกับความเชื่อทางพุทธว่า ศาสนาพุทธของพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันจะมีอายุ5000ปี นี่ผ่านกึ่งพุทธกาลมาแล้ว ยังต้องรอพระศิอานส์มาอุบัติเป็นพระพุทธเจ้าองค์ที่5อีก แสดงว่า มนุษย์มีโอกาศที่จะรอดตายในบางส่วน ไม่ได้ตายหมด

 

สุดยอดเลยพี่ ถ้าพี่ไป...ให้หนูไปด้วย ถ้าพี่ไป....อย่าลืมให้หนูไปด้วยหนะ

 

ขอเชิญร่วมสร้างอุโบสถ วัดวังอุดม บ้านวังอุดม ตำบล ท่ากูบ อำเภอ ซับใหญ่ จังหวัดชัยภูมิ
ติดต่อบริจาคได้ที่ พระ ปัญญา 0894261148

 

อาจารย์เก่งจริงๆถ้ารัฐไม่มั่วแต่กัดกันปานนี้ผลงานของท่านคงจะเป็นประโยชน์แก่ชาติอย่างมหาสาร คิดดูดิรถวิ่งในไทยมีแก่คัน ไม่รวมรถเกษตรของชาวไร่ชาวนาด้วย ผลิตกระแสไฟฟ้าบ้างหรือทำอุปกรณ์ผลิตไฟประจำบ้านหรืออุปกรณ์บางอย่างที่ต้องใช้น้ำมันและอื่นๆอีกมากมาย อย่างว่าละคนไทยไม่เหมือนฝรั่ง ฝรั่งคงจะได้สูตรจากอาจารย์เพื่อไปต่อยอดเทคโนโลยีของเขาเรียบร้อยแล้วและเพื่อเหนือกว่าหรือ ไม่ให้เหมือนของอาจารย์จึงจดลิขสิทธิ์
ไหนๆมาถึงนี่แล้วหวังว่าคงจะได้เห็นผลงานของอาจารย์อีก
คนดีชอบทำประโยชน์แก่ส่วนรวม
:'( คนชั่วชอบทำลายประโยชน์แก่ส่วนรวม:'(

 

หนูม่ายรู้...........;9k

หนูม่ายเอา.........คนกินเนื้อคน.......pig_cryy

ต้องใช้ยานหรือใช้ญานcatt19หนีล่ะเนี่ย...ตายแน่