ข้อความจาก กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)(ปิดกระทู้)

ถูกพาดพิงครับ และเป็นเพราะผมยังคิดว่าผมยังมีตัวมีตนเป็นของตนอยู่ จึงต้องขอยกมือชี้แจงครับ

ก็สมัยถูกฝึกเมื่อประมาณ 10 กว่าปีที่แล้ว ทุกคนจะโดนมาเยอะอ่ะครับ ถ้าใครเผลอมีทิฐิมานะ เผลอนึกว่าตนเองดีเลิศประเสริฐศรี เก่งกาจฉลาดเฉลียว หรือยึดมั่นถือมั่นอะไรอยู่ซักอย่างที่ยังไม่ใช่ทางที่ถูกตรงอย่างแท้จริงแล้ว ระบบก็จะมีวิธีการสอน โดยแกล้งยกยอปอปั้น ยุยงส่งเสริม แล้วพอได้จังหวะก็ทุ่มลงแล้วตื้บซ้ำ โดยมีการอธิบายขยายความกันในภายหลังว่า หลอกให้ยื่นมือออกมายาวๆ จะได้ตีได้ถนัดๆหน่อย เมื่อทุกคนโดนอย่างนี้แล้วก็จะเข็ดไงครับ จำไปยันภพหน้ากันเลย (เป็นมุขเด็จของระบบนาครับ ระวังกันไว้ก่อนนาครับ แม้ตอนนี้ก็ยังไม่เป็นที่น่าไว้วางใจนาครับ)<O</O

ก็คงไม่ใช่คุณธรรมสูงส่งอะไรกันหรอกครับ ฟ้งดูแล้วเหมือนจะเป็นการยกยอกันเองเกินไป กลัวเดี๋ยวผมจะโดนถูกทุ่มแล้วตื้บซ้ำอีก และระบบก็เคยบอกว่า เมื่อโดนของหนัก คือในส่วนของ เสื่อมลาภ เสื่อมยศ นินทา ทุกข์ กดทับจิตใจแล้วไม่จม ก็อย่าให้ ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข ซึ่งเป็นของเบามาเป่าแล้วลอยได้ นั่นก็คือไม่หวั่นไหวในโลกธรรมทั้ง 8 ประการน่ะครับ<O

ขออนุโมทนากับทุกๆ ท่านครับ<O</O

 

" ทุกคนล้วนมีบุญตามลิขิต ทุกชีวิตย่อมมีโอกาสพบความสำเร็จ แล้วเราจะห่วงใยและร้อนใจไปทำไม "

โอวาทของพระอรหันต์จี้กงดังกล่าวงข้างต้น คงจะใช้ได้ดีสำหรับผู้ที่ชอบส่งจิตออกนอกไปพิจารณาขันธุ์ของผู้อื่น คอยห่วงใยผู้อื่น ได้เป็นอย่างดี

 

ใดใดในโลกล้วนอนิจจัง
สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม
สัตว์ผู้ลากล้อเกวียนไป หากไม่เปลี่ยนเส้นทางเดินฉันใด ย่อมวนมาทับรอยเดิมฉันนั้น

กะละมังแตกๆรั่วๆ สักใบ ยังพอมีธรรมมะให้สอนใจได้
หากแต่เราเข้าใจในธรรมมะของกะละมังแตกๆ รั่วๆ หรือไม่ ก็เท่านั้นเอง

ธรรมมะคือการหยุด หยุดเพื่อให้เห็น
หากท่านไม่หยุดเพื่อที่จะมอง แล้วท่านจะเห็นหรือว่ามีอะไรผ่านท่านไปบ้าง

ธรรมมะคือการต่อสู้ ต่อสู้กับกิเลสเบื้องต่ำของตนเป็นหลัก
หากท่านไม่ต่อสู้กับกิเลส ท่านก็เป็นเพียงปลาตายที่ลอยไปตามน้ำ

ปัญญาเกิดจากความอ่อนน้อม............คือการยอมรับเอา
ปัญญาเกิดจากสติ.........................คือการระลึกย้ำเตือนให้รู้ว่ากำลังรับสิ่งใดอยู่
ปัญญาเกิดจากการไตร่ตรอง..............คือการพิจารณาว่าสิ่งที่รับอยู่เป็นเช่นไร
ปัญญาเกิดจากวิเคราะห์พินิจพิจารณาแล้วประมวลผล...จนเกิดปัญญา

หากยังไร้ซึ่งความอ่อนน้อม...............มีเหรอจะยอมรับสิ่งใดมาศึกษาได้
หากยังไร้ซึ่งสติ............................มีเหรอจะรู้ว่ากำลังรับสิ่งใดอยู่
หากยังไร้ซึ่งการไตร่ตรอง.................มีเหรอจะมองเห็นของแท้และของเทียม
หากยังไร้ซึ่งการวิเคราะห์พินิจพิจารณาแล้วประมวลผล...มีเหรอจะเกิดปัญญา

ตนแลเป็นที่พึ่งแห่งตน อัตตาหิ อัตตะโน นาโถ
ไม่มีใครช่วยใครให้พ้นทุกข์ได้ นอกจากตนเองเท่านั้น

พุทธองค์สอนให้เรามี เมตตา กรุณา มุฑิตา
และเมื่อถึงที่สุดแล้ว ก็ต้องใช้ อุเบกขา เพราะกรรมเป็นเรื่องเฉพาะตน

 

สบายแล้วลืม

 

ระยะนี้ งานของระบบ ตามภารกิจที่พี่สุดใจได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่ประสานงานที่นครสวรรค์ และดูแลความเรียบร้อยของการก่อสร้างสถานธรรมนั้น

ในช่วงนี้ มีการขยายระบบทางโทรศัพท์ ให้กับเพื่อน ๆ สมาชิกหลายท่านที่โทรเข้ามาสนทนาด้วยอย่างสม่ำเสมอ และเริ่มที่จะมีสมาชิกใหม่ ๆ ที่ไม่เคยพบเจอหน้าตากันมาก่อน โทรมาสนทนาด้วยหลายท่าน

ก็เลยไม่ค่อยได้มีเวลาเข้ามาในกระทู้นี้เท่าใดนัก เนื่องจากต้องดำเนินกิจกรรมอื่น ๆ หลายอย่างในแต่ละวัน

หากแต่ช่วงใดที่ระบบมีข้อมูลเพื่อการเผยแพร่ หรือข้อมูลเร่งด่วนใด ๆ ก็จะเข้ามาแจ้งให้ทราบผ่านทางเวปไซด์แห่งนี้ และในกระทู้นี้ค่ะ

และถึงแม้ว่าจะอยู่กับความวุ่นวาย ความเร่งรีบ เพื่อให้งานสำเร็จลุล่วงด้วยความรวดเร็ว ขณะประสานงานก็ตาม

แต่ก็ยังไม่ลืมที่จะช่วงชิงประโยชน์ตนในขณะที่ทำงานทางโลกอยู่นั้น

คือหยุด เพื่อแยกสติออกมาดูขันธ์ห้าของตนที่กำลังปรุงแต่งตามเหตุปัจจัยที่เข้ามากระทบ แล้วเรียนรู้เพื่อปล่อยวางในขณะทำงานนั้น ๆ ในแต่ละวัน ในแต่ละวินาที

เพราะทุกคนมีเวลาเท่ากัน
ใน 1 วินาที ใน 1 นาที ใน 1 ชั่วโมง

อยู่ทีว่า ใน 1 วินาทีนั้น ใน 1 นาทีนั้น หรือใน 1 ชั่วโมงนั้น ท่านเลือกที่จะอยู่ด้วยการยึดมั่นถือมั่นในอัตตาตัวตน ในอุปปาทานขันธ์ห้า

หรือเลือกที่จะอยู่กับความว่าง เบาบางจากการยึดมั่นถือมั่นในขันธ์ห้า ปล่อยวางอัตตาตัวตน

ที่มันไม่ได้เป็นตัวใคร ของใครมาตั้งแต่ต้นนั้น

เวลาที่มีเท่ากัน

แล้วแต่ท่านจะเลือกทางของท่านเอง

...


การประสานงานกับสมาชิกใหม่ ที่จังหวัดนครสวรรค์



เมื่อคืนนี้ 14 พฤษภาคม 2552

คุณหนุ่ย และคุณ mead ได้เดินทางมาที่บ้านสันคู ทานอาหารเย็นร่วมกัน และสนทนากันในเรื่องของงานก่อสร้างสถานธรรม และวางแปลนที่จะลงต้นไม้ใหญ่ในบริเวณรอบ ๆ สถานธรรม เพื่อเมื่ออาคารเสร็จ ต้นไม้ใหญ่ก็จะยืนต้นแข็งแรง ให้ความร่มรื่นได้ไปพร้อม ๆ กัน

และในเย็นวันนั้น ได้มีสมาชิกอีก 2 ท่าน

คือคุณ Mckaforce และคุณ Narinthon

ที่ติดตามอ่านกระทู้นี้มาอย่างต่อเนื่อง ส่วนใหญ่จะอ่านข้อความ แต่ไม่ค่อยได้ลงโพสเท่าใดนัก ได้เดินทางมาเยี่ยมเยียนผู้อาวุโส และได้พบกับทั้งสองท่านด้วย จึงได้สนทนากัน

สนทนากันในเรื่องของการพบเห็น UFO ซึ่งทั้งสองท่านที่มาใหม่นี้ ได้พบเห็นหลายครั้ง และล่าสุด ได้พบเห็นพร้อมกันเมื่อ 2 อาทิตย์ที่ผ่านมา

ทั้งสี่ท่าน สนทนากันอย่างสนุกสนาน แลกเปลี่ยนประสบการณ์ การพบเห็นจานบินกัน สลับกับการสนทนาธรรมเป็นช่วง ๆ

และในช่วงท้าย ได้ช่วยกันออกความคิดเห็น เรื่องต้นไม้ที่จะนำมาลง และการจัดสวน ก่อนแยกย้ายกันเดินทางกลับ เมื่อประมาณ 22.00 นาฬิกา

 

พิธีวางศิลาฤกษ์ ​

สถานปฏิบัติธรรม จ.ส.อ.เชิด ชื่นสำนวน​

วันที่ 17 พฤษภาคม 2552​

ณ เขากะลา นครสวรรค์​

[vdo]http://palungjit.org/attachments/a.610999/[/vdo]​

ขอขอบคุณ คุณ ukrin
ที่ได้มอบแผ่นวีดีโอที่บันทึกภาพ
การวางศิลาฤกษ์ไว้ ​

แต่เนื่องพิธีวางศิลาฤกษ์มีความยาวนับชั่วโมง จึงขอแยกนำเสนอเป็นชุด ๆ ​

ในชุดที่ 1
เป็นการร่วมแรงร่วมใจกันจัดสถานที่
ในการทำพิธีวางศิลาฤกษ์​

 

เมื่อวานนี้เวลาใกล้เที่ยง สมาชิกเขากะลา ได้นัดกันมาช่วย
ห่อประคำเพื่อเตรียมส่งไปรษณีย์ ชุดแรกที่มาถึงก่อน
คือคุณ microwave และ MOUNTAIN

ยังไม่ทันได้ขึ้นไปบนตึก อาจารย์นีโม่ ก็พาไปทานอาหารมังสวิรัติ ที่สวนสันติอโศก แล้วเดินชมทัศนียภาพภายในสวนสันติอโศก
มีภาพมาให้ชมกันครับ

 

ไปเข้าฉากมาคับ เหตุเกิดที่สนามแข่งพีระcircuit/พัทยาคับ เป็นรายการใหม่ชื่อ
pro racing series, Blog17 ก็สร้างรถใหม่ส่งเข้าร่วมการแข่ง ทางเราก็นึกว่า
เป็นเรื่องของทางโลก ปรากฏว่ารถก็ได้ช้า พอทําตัวรถขึ้นมาก็ประกอบเสร็จ2วันก่อนแข่งพอดี คิดว่าจบ
ไม่คับ ความมันเพิ่งเริ่มคับ พอสตาทร์ทเครื่องขึ้นมาก็ต้องมีการเทสเกิดขึ้น
รถวิ่งไม่ได้คับ เร่งเครื่องไปแล้วดับ ต้องสตาร์ทใหม่ คือต้องวิ่งไปสตาร์ทไป
ไม่ใช่แล้วคับรถแข่งวิ่งแบบนี้ไม่ได้แน่ ก็สรุปว่า ผมต้องถูกฝึกเดี่ยวอีกครั้งเหมือนทบทวน
การถูกฝึกเดี่ยวในอตีต
แต่ครั้งนี้ต่างจากในอตีตตรงที่มันมีแต่ความบางเบา ไม่รู้สึกทุกท์ ไม่รู้สึกวิตกว่าปลายของปัญหามันจะเป็นยังไง รู้สึกแต่ว่าเวลานี้เราต้องอยู่ในเหตุการนี้เท่านั้นเอง
ผมต้องไปเฝ้าอยู่กับรถที่แผนกเทคนิค ดูเ้ค้ารื้ออะไหล่เกือบทุกอย่างที่คิดว่า
เป็นต้นเหตุของปัญหา ปรากฏว่าต้องรื็อออกมาใหม่เกือบทั้งคัน ต้องประกอบขึ้นมาใหม่อีกที ผมไม่ได้ไปซ้อมเลย เวลาก็ใกล้หมดแล้ว
ผมไม่เคยต้องมาเห็น ทุกขั้นตอนขนาดนี้
รถก็ยังวิ่งไม่ได้
อยากกลับไปหาครอบครัวก็ไม่ได้ ต้องอยู่ในshopที่มีแต่กําแพงไม่มีแสงเข้า
ข้างในเหม์อนลักษณะห้องขังเดี่ยวแต่มีรถแข่งคันใหม่ของระบบถุกขังอยู่ด้วย
เปลี่ยนจนเหลืออันสุดท้าย ไม่มีอะไหล่ี่ชิ้นนี้ด้วย
ผมถูกฝึกอยู่ในนั้นอีกเกือบวัน
เค้าทดสอบผมแบบทิ่มแทงด้วยสถานการณ์
ประมาณว่าเกิดงานของจริงเกิดขึ้น เค้าทั้งหลอกและก็ล่อผม
พี่megafireที่เป็นฝ่ายเทคนิคของเราก็อยู่ต่างจังหวัด ช่วยเราไม่ได้
ที่สนามแข่งทีมอื่นกําลังซ้อมกัน รถเรายังวิ่งไม่ได้เลย
ทั้งทีมเป็นอํามพาต ทุกฝ่ายออนแสตนบาย
อีกไม่ถึง10ชม การแข่งจะเริ่มแล้ว รถเรายังไม่เคยแตะสนามเลย
พี่สุดใจดทรเข้ามาบอกว่าทีม อ.โม่คงไปเยี่ยมที่่สนามไม่ได้แล้ว ผมบอกว่า
ข้อมูลตรงกันคับ ทางนี้ก็ยังไม่ให้ผมไปที่นั้นเหมือนกัน แล้วก็เล่าสถานการณ์ให้พี่สุดใจฟัง
เกือบหมดวันที่สองอะไหล่ถูกส่งมาถึง ไม่แน่ใจว่าจะใช้ได้ไม๊
นาทีระทึกใจมาถึง
ผมปีนเข้าไปในรถ ประจําที่ หมุนกุญแจ กริ๊ก
ไฟหน้าปัด ตรงนาฬิกาดิจิตอลขึ้น 1:11
โอเค เป็นอันว่ารู้กันนะคับทุกคน จบคับ
วันแข่งที่่สนามได้pit<ที่อยู่และที่ดูแลรถแข่ง> ที่ 17
จับเวลารอบคัดเลือกได้ออกสตาทร์ตําแหน่งที่ 11
ตรวจสภาพรถก่อนทําการแข่ง นํ้าหนัก 1077 กิโล
เข้าพักรร.ห้อง 611
จบการแข่งขัน 2 สนาม สนาม1ที่ 6 สนาม 2 ที่ 5 รวมรหัส 11
หลังการแข่ง 2 สนาม วิ่งไปไม่ทราบกี่ร้อยกิโล แข่งเสร็จต้องชั่งนํ้าหนัก
ได้ 1077 กิโลตบท้าย
ขอบคุณครับระบบที่่ทําให้ผมเป็นผมทุกวันนี้ เบาสบายดีจังคับ

 

ต้นไม้ที่สันติอโศก มีข้อความดีๆ เป็นข้อคิดสะกิดเตือนใจได้ดีครับ





คฤหาสน์ ที่สันติอโศก สำหรับพระสงฆ์ อาจารย์นีโม่ เห็นแล้วชอบใจมาก
บอกว่าถ่ายภาพไว้เป็นตัวอย่าง จะไปสร้างที่เขากะลา








คฤหาสน์หลังนี้สำหรับภิกษุอาพาธ ไม่ต้องปีนป่ายขึ้นไปเหมือนหลังอื่นๆ



เจอหลังที่เป็นเป้าหมายแล้ว ต้องแวะเข้าไปหน่อย


สนทนากับพระภิกษุ เล็กน้อย ก็ได้ของชำร่วย เป็น CD เรื่อง ไม่ต้องทุกข์อีกแล้ว
โดนใจจารย์โม่จริงๆ

 

ต้นไม้สอนธรรม

 

ทัวร์สันติอโศก นำโดยไกด์ทัวร์กิติมศักดิ์ยังไม่จบ
ติดตามชมภาพกันต่อครับ

 

พิจารณาน้ำตก (ไม่มีข้าวเหนียว)


ขึ้นไปยังชั้นบนสุดของอาคารน้ำตกจำลอง


ต้นไม้เทียม ริมน้ำตกเทียม


ทัศนียภาพระหว่างเดินรอบอาคารชั้นบน


งานภาพลายนูน ประดิษฐ์ได้อย่างงดงามอลังการ

 

งานวิจิตรศิลป์รอบอาคารน้ำตก








พระพุทธรูปปางนาคปรก พระระบบ

 

ขออนุโมทนากับเวฟอาวุโสครับ


อย่าชักช้าผลัดวันประกันพรุ่ง

ที่จะเริ่มต้นซ้อนขันธ์ครับ

สติปัฎฐานสี่มีบ้างก็ยังดี

ที่ว่ารู้คือยังไม่รู้ คือรู้ไม่จริง

อย่ารีบแสดงตนว่าเป็นผู้รู้

แสดงเป็นผู้ไม่รู้บ้างก็ได้

ที่ว่าแน่ คือยังไม่แน่

ว่าใช่ก็ใช่มั่งไม่ใช่มั่ง

ที่ว่าจริงคือมันไม่จริง

อย่าจริงไปเสียทุกเรื่อง

ขอบอกว่า ยังมีอีกเยอะ

อย่าเพิ่งรีบจริงตาปลิ้น ลิ้นพอง

ที่ว่าเจ๋ง ที่ว่าอาจารย์คือ ให้เริ่มต้นซ้อนขันธ์

เพราะทุกอย่างระบบเขาทำเอง ซ้อนขันธ์หรือยัง

ความสลับซับซ้อน ซ่อนเงื่อน ซ่อนกล ลับ ลวง พราง

กลับไป กลับมา อย่าไปรู้ทัน รู้แทน วางแผนให้ระบบเขา ระบบเขาทำของเขาเอง24ชั่วโมง

เลิกคิด เลิกปรุง ฟุ้งซ่านเถอะ มันคนละเลเว่วกัน

ไม่มีใครทันระบบจริงๆหรอก

ปล.ตอนนี้ซ้อนขันธ์อยู่หรือเปล่า...สติปัฎฐานสี่มีบ้างก็ยังดี
hello8

 

ไม่เคยเห็นความงามบนผนังวงกลมแบบนี้ที่ไหนมาก่อน

 

ชั้นบนสุดของอาคารโดมน้ำตก ลมพัดเย็นสบาย



เดินชมงานปั้นอันงดงามวิจิตร แบบไม่รู้จักเบื่อ ไม่สนใจซ้อนขันธ์แต่อย่างใด





ดูไปเพลินๆ เสียงจารย์ยูครินเข้าหู มาว่า วันนี้คุณซ้อนขันธ์แล้วหรือยัง

 

เสาระฆังทำเป็นสัตว์ป่าหิมพานต์ แต่ไม่ยักมีมะม่วงหิมพานต์








ถ่ายคู่กับอีแร้ง นายแบบไม่กล้าโชว์รักแร้

 

หลากหลายมุมมอง ที่งดงามราวเทพเนรมิตร

 

มองจากด้านบนลงล่าง เห็นน้ำตก











เจ้าของผลงานยืนอยู่ตรงกลาง ข้างๆ เป็นตัวประกอบ

 

ขออนุโมทนากับเวฟอาจารย์Ukrinด้วยครับ สมกับเป็น1.7 จิงๆ

ปล. รอหน่อย รอหน่อย อย่าเพิ่งรีบแสดงความโง่ออกมา ยังมีเวลาเหลือให้โง่อีกเยอะ (kiss)