สมาธิในบ้านทุกท่านทำได้จริง

2.เพื่อที่ ท่านจะได้เปลี่ยนท่าทางการทำสมาธิ จากนั่งเป็นยืน จากยืนเป็นเดิน จากเดินเป็นนอน เป็นต้นครับ และ อีกอย่างท่านจะได้ไม่หลับในสมาธิครับ รวมทั้งสามารถแก้อาการง่วง หาวได้ครับ

อันนี้น่าสนใจค่ะจะลองไปปฎิบัติดูค่ะ ข้อความอื่นๆที่โพสต์ลงต่อๆกันมาก็น่าสนใจค่ะ อนุโมทนากับคุณเจ้าของกระทู้ด้วยค่ะ

 

ขอบคุณครับคุณบดินทร์ ถือว่าแจ่มแจ้งครับ

 

โมทนาบุญ สาธุ สาธุ สาธุ ครับ

เป็นกำลังใจให้ครับ และรออ่านสิ่งดีๆ อยู่ครับ

บุญรักษาครับ

 

[FONT=&quot]ประสบการณ์สมาธิ[/FONT]:[FONT=&quot] ทดสอบการถอดจิต และ เคลื่อนย้ายกายทิพย์ ดำดิน- ลอยบนอากาศ[/FONT]<o></o><o></o>
[FONT=&quot]โปรดใช้วินิจพิจารณา ตามเหตุผลที่เหมาะสมแก่ท่านเองเถิด [/FONT]<o></o>
[FONT=&quot] ประสบการณ์นี้เป็นประสบการณ์ที่เกิดขึ้นช่วงเดือน มีนาคม 52 ใน ค่ำคืนวันหนึ่งนอนกำเนิดสมาธิ ไปซักพักหนึ่งกายทิพย์ ปรากฏออกมาจากกายหยาบ (ออกโดยไม่ตั้งใจจะออก) เมื่อออกมาแล้วข้าพเจ้าก็ทดสอบ กำเนิดจิตในขณะที่อยู่ในกายทิพย์ ให้ไปที่บ้านพ่อของข้าพเจ้า โดยการดำดินไป ไปโผล่ที่ข้างบ้านพ่อ ระยะทาง ประมาณ 10 กิโล เมตร ( ความรู้สึกในการดำดินนั้น เพียงแค่หลับตา แล้วไปโผล่ เมื่อถึงก็ลืมตา) แล้วก็เดินไปเรียกพ่อ ให้เปิดประตูบ้าน พ่อก็เปิดประตูออกมา[/FONT]<o></o>
[FONT=&quot]แล้วก็สนทนากันซักพัก แล้วพ่อของข้าพเจ้าก็ยกมืออนุโมทนาสาธุ พร้อมกล่าวว่า เห็นแล้วว่าบุคคลธรรมดาหากตั้งใจปฏิบัติจริง สามารถจะเข้าถึงความเป็นอริยบุคคลได้ แล้วพ่อจะปฏิบัติตาม ลูก จากนั้นข้าพเจ้า ก็ขอตัวกลับ เดินไปอยู่ช้างหลังบ้าน กำเนิดกายทิพย์ให้ลอยขึ้น อธิฐานเหาะกลับไปยังบ้านอาของข้าพเจ้า ความรู้สึกที่สัมผัสได้นั่นคือ ร่างกายทิพย์ลอยขึ้นบนอากาศมองดูวิวทิวทัศน์ ของหุบเขา ในยามค่ำคืนเดือนหงาย ลอยไป หูก็ได้ยินเสียงลมได้ชัดเจน วิ้งๆ[/FONT]<o></o>
[FONT=&quot]จากนั้นก็หลับตาไปลงอยู่ข้างบ้านอาของข้าพเจ้า ระยะทางก็ประมาณ 10 กิโล ค่อยๆลอยลงมาจากท้องฟ้า พอลงถึงพื้น เจ้าสุนัข 3 ตัว ของอาที่เลี้ยงไว้ ก็พากันดีใจใหญ่ แล้วข้าพเจ้าก็เรียกอา อาก็เปิดประตูออกมา แต่ไม่สนใจอะไร คือ คล้ายๆว่าหูแว่ว แล้วเปิดประตูมาดูเท่านั้น จากนั้นอาก็กลับไป นั่งดูทีวี แบบปกติไม่สนใจอะไร เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เมื่อเป็นดังนั้นข้าพเจ้าก็กำเนิดจิตกลับร่าง แต่รู้สึกแปลกๆว่าร่างกายทิพย์นี้ ไม่แนบสนิทกับกายหยาบ เหตุเพราะ ภรรยาของข้าพเจ้า นอนหันหัวมาชนกัน ก็ลองอยู่ ประมาณ 3 ครั้งได้ จึงเข้าได้ พร้อมจากการออกจากสมาธิ ข้าพเจ้าสังเกตพบว่า ภรรยาของข้าพเจ้า หายใจแรงมากๆ เหมือนกับเสียพลังงานไป มาก นั่นอาจเป็นเพราะ ถูกยืมพลังงานไปใช้ในช่วงที่กายทิพย์จะกลับเข้าร่าง เพราะร่างกายหยาบสัมผัสกัน [/FONT]<o></o>
[FONT=&quot]พออีกวันหนึ่งข้าพเจ้าก็โทรไปถามพ่อ ว่าเมื่อคืนพบเห็นอะไรบ้างหรือเปล่า หรือฝันเห็น อะไรบ้างไหม พ่อข้าพเจ้าก็ลังเลสงสัย ก็ตอบว่า ไม่แน่ใจ คล้ายๆ ได้ยินเสียงเรียก เมื่อได้คำตอบดังนี้แล้ว ข้าพเจ้าก็มานั่งพิจารณา ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืน จนได้ข้อสรุปดังนี้ [/FONT]<o></o>
[FONT=&quot]ผลจากการปฏิบัติในครั้งนี้[/FONT]<o></o>
[FONT=&quot]1. การถอดกายทิพย์นี้ มีความสำคัญไม่น้อย หากว่าร่างกายหยาบ(ข้าพเจ้า)สัมผัสกับกายหยาบ(ภรรยา)[/FONT][FONT=&quot]มีผลในการเข้าออกของกายทิพย์ เหมือนกัน ดังนั้นเราจะต้องใช้ความระมัดระวังให้มากกว่านี้ ดังนั้น เพื่อความปลอดภัย แยกกันนอนคนล่ะห้อง ดีที่สุด[/FONT]<o></o>
[FONT=&quot]2.ทำให้ทราบเหตุของอุปปาทานขันธ์ เพิ่มขึ้นอีกระดับหนึ่ง ไม่ว่าเหตุการณ์นั่นจะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ก็ตาม โอกาสในครั้งต่อไป เราจะกระทำซึ่งอิทธิวิธี ให้สมบูรณ์มากกว่านี้ แสดงว่าความสมบูรณ์ของกายทิพย์ยังไม่ดีพอ [/FONT]<o></o>
[FONT=&quot]3.การมองดวงจันทร์ ในพื้นน้ำ ที่ใสหรือขุ่นย่อมเห็นแตกต่างกัน จากความเป็นจริง เราจะไม่มองดวงจันทร์ในพื้นน้ำอีกแล้ว แต่เรา จะมองดวงจันทร์ ด้วยสองตา ของเรา ที่ดวงจันทร์โดยตรง นั่นคือหากถอดกายทิพย์ หรือ มีทิพย์จักษุอย่างเดียว ยังไม่ดีพอ ที่จะเข้าใจอะไรได้เด็ดขาด นัก ต่อไปนี้เราจะเพียร กระทำซึ่งอิทธิวิธีอย่างเช่นพระอรหันต์ทั้งหลายกระทำกัน(ให้กำลังใจตนเอง) <o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]โดยการประสาน กายทิพย์(เริ่มจะคล้ายกายหยาบมากขึ้น) กับ กายหยาบ[/FONT][FONT=&quot]
[/FONT] [FONT=&quot]
<o></o>[/FONT]

 

สวัสดีครับ คุณ บดินทร์จ้า

โมทนาบุญ สาธุ สาธุ สาธุ อีกครั้งครับ

อ่านแล้ว ได้ความรู้ตามครับ สนุก และ ตื่นเต้นไปด้วยอีกต่างหาก

เสมือนว่าตัวเองได้ไปด้วยเลยครับ

แฮะ แฮะ เหมือนฝันครับ จริงแล้วก็ยัง มืด ทึบสนิท ครับ

อย่าลืมมาเล่าเรื่องดีๆ ต่อน่ะครับ (ติดตามอยู่ตลอดครับ)

บุญรักษาครับ

 

อนุโมทนาครับ

ตีพิมพ์เป็นหนังสือได้เลยนะครับเนี่ย

อ่านแล้วมีกำลังใจฝึกมากมายครับ

 

สวัสดีครับ คุณ บดินทร์จ้า และ กัลยาณมิตร ทุกท่าน


วันนี้ ที่วัดจัดงานวิสาขบูชาครับ

ผมไปถวาย พระพุทธรูป ๗ นิ้ว พระบรมสาริกธาตุ ที่กรองน้ำขนาดเล็ก สังฆทาน (ข้าวสาร(ข้าวเหนียว) สองถุง น้ำหนึ่งขวด และของอื่นๆ) ที่วัด กับหลวงพ่อวิริยังค์ ครับ

อนึ่งวันนี้ หลวงพ่อนำสวด อิติปิโส ๙ รอบ และนั่งสมาธิ ๑๐ นาที เนื่องจากเป็นวันแม่ของ ที่นี่ครับ


ผลบุญกุศลอันใดที่เกิดขึ้นจากการถวายสังฆทานในครั้งนี้ ผมขอมอบให้กับทุกๆท่าน ครับ
(มีเท่าไหร่ เกหมดหน้าตัก.... Oop...ให้หมดตัว และหมดใจครับ...เปลี่ยนแปลง ฮิฮิ)

ขอให้ทุกท่านมีความสุข ความเจริญ ทั้งทางโลก ทางธรรม ร้อยเท่า พันทวี จนถึง พระนิพพาน ครับ

บุญรักษาครับ<!-- google_ad_section_end -->

 

ขออนุโมทนาบุญกับท่าน Ricardo DeCalgary ด้วยครับ อนุโมทนาสาธุครับ ขอให้ถึงดวงแก้วขอให้แคล้วบ่วงมาร ขอให้ประสบสิ่งที่ตั้งใจไว้ครับ ๆลๆ

ผมก็เพิ่งไปทำบุญมาเช่นเดียวครับ (2 วัน ติดๆกัน)อนุโมทนา สาธุด้วยกันนะครับ

 

ขอขอบคุณทุกๆท่านที่เข้ามาอ่านนะครับ ตอนนี้......มรรค.. ผล ....เริ่มจะชัดแล้วครับ พบเจออากาศแก้วด้วยตาเนื้อ ทุกๆวัน กำลังเริ่มเดินสมาธิและวิปัสสนาให้เต็มกำลังอยู่ครับ เพื่อฝ่าแนวอากาศแก้วให้ลึกกว่านี้ ดังนั้นช่วงเวลาต่อจากนี้จะไม่ค่อยเข้ามาเล่น เท่าไร นะครับ บอกไว้ก่อน เตรียมเดินเครื่องเต็มอัตราอ่ะครับ อนุโมทนา กลับทุกๆท่านครับ หากมีอะไรดีีๆจะนำมาถ่ายทอดนะครับ

 

ขออนุโมทนาจากใจจริงครับ
การหั่นกิเลส ก็เหมือนการขุดรากขุดโคลนที่อยู่ในจิตสำนึกเราออกมาให้หมด ... ผมคงยังอีกยาวไกลครับ กิเลสยังคงลึกเหลือเกิน

แต่ดีใจแทนคุณบดินทร์จ้าด้วย .....

 

สวัสดีครับ คุณ บดินทร์จ้า

โมทนาบุญ สาธุ สาธุ สาธุ เช่นเดียวกันครับ

ขอให้ประสบกับสิ่งที่ตั้งใจไว้ครับ ขอให้สำเร็จในทุกๆสิ่งด้วยครับ

โมทนาบุญ สาธุ สาธุ สาธุ

 

โมทนาบุญ สาธุ สาธุ สาธุ

เอากำลังใจช่วยครับ

สำเร็จเมื่อไหร่ อย่าลืม มาเล่า เรื่องดีๆ ให้ฟังน่ะครับ

สาธุ สาธุ สาธุ

 

สาธุ ขออนุโมทนากับการปฏิบัติของคุณด้วยค่ะ

อ่านข้อความของคุณบดินทร์แล้วได้ความรู้มากขึุึ้นทีเดียวค่ะ ตัวเองพึ่งเริ่มหัดทำสมาธิ และก็ไม่มีครูอาจารย์ ก็คลำสะเปะสะปะไปเรื่อย พอได้อ่านทำอธิบายอาการต่างๆของคุณบดินทร์ ก็มีความเข้าใจมากขึ้น แต่บางอย่างก็ยังไม่แน่ใจว่าใช่จริงหรือเปล่า หรือเป็นแค่อุปาทานเอาเอง ถ้าคุณบดินทร์จะกรุณาให้คำแนะนำก็จะขอบคุณยิ่งค่ะ

ขอกุศลอันใดที่คุณได้ให้ธรรมทานแก่พวกเรานี้ ดลบันดาลให้คุณบรรลุมรรค ผล นิพพาน ตามความตั้งใจโดยพลันด้วยค่ะ

 

อนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุ กับการปฏิบัติธรรมของคุณบดินทร์ครับ
นับเป็นกระทู้ที่ตอบข้อสงสัย รวมทั้งแนวทางปฎิบัติ สำหรับผู้ที่เริ่มต้น และ ผู้ที่กำลังปฎิบัติอยู่ ได้ดีมาก ตอนนี้ผมกำลังพยายามฝึกแต่ยังล้มลุกคุกคลานอยู่เลยครับ ได้อ่านประสบการณ์ของคุณแล้วทำให้มีกำลังใจในการปฎิบัติ มากขึ้น คงจะมีสักวันที่ได้รับความรู้และความสุขที่แท้จริง

 

สวัสดีครับ คุณบดินทร์จ้า และ กัลยาณมิตร ทุกท่าน

ไม่ได้เข้ามาอ่านพอสมควร แวะมาทักทายครับ

อนึ่งเมื่อวาน ผมนำภัตราหารไปถวายเพล หลวงพ่อวิริยังค์ มาครับ
ท่านให้พรมาเยอะเลยครับ

ผมขอนำบุญ และพรที่ได้รับมาฝากทุกๆท่านครับ

สาธุ สาธุ สาธุ

 

ขอบคุณท่านมากครับที่อุตสาห์เป็นห่วง และ หวังดีครับ ผมเตรียมความพร้อมไว้เรียบร้อยแล้วครับ รอแต่เพียงแค่เหตุจะมาเมื่อไรแค่นั้นครับ

 

อย่างไรก็อย่าลืมมาเล่าให้ฟังน่ะครับ

ขอโมทนา สาธุ สาธุ สาธุ ในทุกๆบุญ ด้วยครับ

 

ขออนุโมทนาให้กับกระทู้ดีๆและเป็นประโยชน์สำหรับผู้เริ่มต้นอย่างนี้ด้วยค่ะ

 

เลิศมากครับ ยกให้เป็นกระทู้ บอกเล่าประสบการณ์ ทางสมาธิอันอับ 1ไปเลย

อนุโมทนาอย่างที่สุด . . . .

 

[FONT=&quot]บทสรุปแห่งพระนิพพาน เริ่มที่อริยสัจจธรรม ๔ คือ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค จบลงด้วย อริยสัจจธรรม ๔ เกิดผลคือ เจโตวิมุตติ ปัญญาวิมุตติ เป็นที่สุดแห่งโลกุตตรธรรม(พระนิพพาน)
[/FONT]
[FONT=&quot]
[/FONT]
[FONT=&quot]พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้าที่ 725[/FONT]-726
[[FONT=&quot]อรรถาธิบายชื่อพระนิพพาน ๙ บท] [/FONT]
[FONT=&quot] บททั้ง ๙ มีราควิราคะเป็นต้น พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงหมายเอา[/FONT]
[FONT=&quot]พระนิพพานซึ่งเป็นโลกุตรธรรมที่ปราศจากวัฏฏะนั่นแล ตรัสไว้ซ้ำอีก. เพราะ[/FONT]
[FONT=&quot]เหตุนั้น แม้เมื่อพระองค์ตรัสว่า ราควิราคาย ก็ดี มหนิมฺมทนาย ก็ดี[/FONT]
[FONT=&quot]บัณฑิตพึงเห็นใจความอย่างนี้เท่านั้นว่า "เพื่อประโยชน์แก่พระนิพพาน".[/FONT]
[FONT=&quot] จริงอยู่ พระนิพพาน พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสเรียกว่า "ธรรมเป็นที่[/FONT]
[FONT=&quot]สำรอกราคะ" เพราะเหตุว่าราคะมาถึง คือปรารภ สืบต่ออาศัยพระนิพพาน[/FONT]
[FONT=&quot]นั้นแล้ว ย่อมปราศไป คือไม่มี.[/FONT]
[FONT=&quot] อนึ่ง พระนิพพาน ทรงเรียกว่า ธรรมเป็นที่สร่างเมา เพราะเหตุว่า[/FONT]
[FONT=&quot]ความเมาทั้งหลาย มีความเมาด้วยอำนาจมานะ และความเมาในบุรุษเป็นต้น[/FONT]
[FONT=&quot]มาถึงพระนิพพานนั้นแล้ว ย่อมเป็นอันสร่างไปไม่เป็นความเมา คือสาบสูญไป.[/FONT]
[FONT=&quot] อนึ่ง พระนิพพาน[/FONT][FONT=&quot] ทรงเรียกว่า ธรรมเป็นที่คลายความกระหาย[/FONT]
[FONT=&quot]เพราะเหตุว่า ความกระหายในกามแม้ทั้งปวง มาถึงพระนิพพานนั้นแล้ว ย่อม[/FONT]
[FONT=&quot]ถึงความคลายไป คือความพลัดตกไป.[/FONT]
[FONT=&quot] อนึ่ง พระนิพพาน ทรงเรียกว่า ธรรมเป็นที่เพิกถอนอาลัย เพราะ[/FONT]
[FONT=&quot]เหตุว่า อาลัยคือเบญจกามคุณ มาถึงพระนิพพานแล้ว ย่อมถึงความเพิกถอนไป.[/FONT]
[FONT=&quot]เพราะเหตุว่า วัฏฏะมี ๓ ภูมิ มาถึงพระนิพพานนั้นแล้ว ย่อมขาดเด็ดไป. [/FONT]
[FONT=&quot] อนึ่ง พระนิพพาน ทรงเรียกว่า ธรรมเป็นที่สิ้นตัณหา[/FONT], [FONT=&quot]ธรรมเป็น[/FONT]
[FONT=&quot]ที่บำราศราคะ ธรรมเป็นที่ดับ เพราะเหตุว่า ตัณหา มาถึงพระนิพพานนั้น[/FONT]
[FONT=&quot]แล้ว ย่อมถึงความสิ้นไป ย่อมบำราศไป และย่อมดับไปโดยประการทั้งปวง. [/FONT]
[FONT=&quot] อนึ่ง พระนิพพานนั่น ทรงเรียกว่า นิพพาน เพราะเหตุว่าออกไป[/FONT]
[FONT=&quot]คือเล่นออกหลุดพ้น จากตัณหา ซึ่งได้โวหารว่า วานะ เพราะผูกคือล่าม[/FONT]
[FONT=&quot]ได้แก่เย็บเชื่อมกำเนิด ๔ คติ ๕ วิญญาณฐิติ ๗ สัตตาวาส ๙ ไว้ เพื่อ[/FONT]
[FONT=&quot]ความมีความเป็นสืบ ๆ ไป ฉะนี้แล. [/FONT]
<o></o>

พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต)<o></o>
พระธรรมปิฎก (ประยุทธ์ ปยุตฺโต)
พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์<o></o>
[27] [FONT=&quot]นิพพาน [/FONT]2 ([FONT=&quot]สภาพที่ดับกิเลสและกองทุกข์แล้ว[/FONT], [FONT=&quot]ภาวะที่เป็นสุขสูงสุด เพราะไร้กิเลสไร้ทุกข์ เป็นอิสรภาพสมบูรณ์[/FONT])
1. [FONT=&quot]สอุปาทิเสสนิพพาน (นิพพานยังมีอุปาทิเหลือ[/FONT])
2. [FONT=&quot]อนุปาทิเสสนิพพาน (นิพพานไม่อุปาทิเหลือ[/FONT])

[FONT=&quot]หมายเหตุ: ตามคำอธิบายนัยหนึ่งว่า[/FONT]
1. = [FONT=&quot]ดับกิเลส ยังมีเบญจขันธ์เหลือ [/FONT]
2. = [FONT=&quot]ดับกิเลส ไม่มีเบญจขันธ์เหลือ ( = ขันธปรินิพพาน[/FONT])
[FONT=&quot]หรือ[/FONT]
1. = [FONT=&quot]นิพพานของพระอรหันต์ผู้ยังเสวยอารมณ์ที่น่าชอบใจและไม่น่าชอบใจทางอินทรีย์ [/FONT]5 [FONT=&quot]รับรู้สุขทุกข์อยู่[/FONT]
2. = [FONT=&quot]นิพพานของพระอรหันต์ผู้ระงับการเสวยอารมณ์ทั้งปวงแล้ว[/FONT]