ผลกรรมทำกับพ่อแม่

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย vacharaphol, 11 มีนาคม 2006.

  1. vacharaphol

    vacharaphol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    8,849
    ค่าพลัง:
    +27,173
    ดิฉันเมื่อก่อนนี้เป็นคนที่ชอบเที่ยวกลางคืนบ่อยๆ สร้างความทุกข์กับพ่อแม่ทำให้พ่อแม่เป็นห่วง
    บางทีก็พูดจาไม่ดี ไม่สนใจความรู้สึกของพ่อแม่ และผลกรรมนี้ทำให้ฉันเจอแต่ผู้ชายที่ไม่ดี
    หลอกลวงเจ้าชู้ ไม่เคยทำดีอะไรกับดิฉันเลยแม้แต่เรื่องเล็กน้อย จะเลิกก็ทำใจไม่ได้ต้องหวานอมขมกลืนเรื่อยมาเพราะรักเค้า แต่เค้ายิ่งกลับเห้นดิฉันเหมือนเป็นของตาย ไม่เคยเห็นค่าดิฉันเลย ปฏิบัติกับดิฉันเหมือนทาสคนนึง ไม่เคยพูดจาดีๆกับดิฉันเลยมีแต่พูดจาให้เจ็บช้ำน้ำใจเรื่อยมา กับเพื่อนดิฉันเค้าก็พูดว่าดิฉันให้เพื่อนฟังอย่างไม่เกรงใจหรือคำนึงถึงความรู้สึกดิฉันเลย จนกระทั่งวันนี้ที่เลิกกันไปแล้วดิฉันมีความสุขมากเหมือนขึ้นมาจากขุมนรก จากแต่ก่อนที่ทุกข์ใจมากๆตลอดเวลา ที่เป็นอย่างนี้ดิฉันคิดว่าเป็นเพราะที่เคยทำกับพ่อแม่ไว้แม้จะไม่ตั้งใจก็ตาม แต่ตอนนี้อโหสิกรรมให้หมดแล้วค่ะคิดเสียว่าเป็นเพื่อนร่วมวัฎสงสารไป ยังไงชาตินี้ก็คงไม่ได้เจอกันอีกขอให้กรรมมันหยุดที่ดิฉันนี่แล้วกัน
     
  2. koymoo

    koymoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2004
    โพสต์:
    2,067
    ค่าพลัง:
    +7,067
    อืม จริงค่ะ ก้อยเคยอ่านหนังสือของแม่ชีทสพร เรื่อง เกิดแต่กรรม น่ะค่ะ ท่านบอกว่า ผลของการเถียงพ่อแม่นั้น มีมากมายเหลือเกิน คือ ถ้าเรามีลูก มีสามี/ภรรยา เขาเหล่านั้นก็จะทำกับเราอย่างที่เราทำกับพ่อแม่ เพราะเราจะได้รู้สึกบ้างว่าคนที่เรารักมากที่สุดมาดุดด่าว่าเรา เราจะรู้สึกอย่างไร ซึ่งก็ไม่ต่างจากการที่เราเถียงพ่อแม่หรอกค่ะ ท่านเลี้ยงเรามา ป้อนข้าวป้อนน้ำจนเราปีกกล้าขาแข็ง มีแรงเถียงท่านฉอดๆ ท่านก็เสียใจค่ะที่คนที่ท่านรักมากที่สุดมาดุด่าว่าท่าน เรามีครอบครัว คนที่เรารักก็จะทำกับเราอย่างนั้นบ้าง ยิ่งไปกว่านั้น ผลกรรมจากการเถียงพ่อแม่มากๆ จะทำให้ทำอะไรก็ไม่ประสบความสำเร็จ ไม่ว่าจะเรื่องเรียน เรื่องทำงาน อะไรก็ตาม เพราะฉะนั้นทางที่ดีพยายามระงับจิตใจและอารมณ์ คิดก่อนพูดสักหน่อย อย่าเถียงพ่อแม่เลย...จะสร้างบาปให้ตัวเองไม่รู้ตัว
     
  3. wadeem

    wadeem Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    16
    ค่าพลัง:
    +81
    พระในบ้าน<TABLE cellPadding=10 width=500 align=center bgColor=#ffffff border=0><TBODY><TR><TD>มีคุณนายคนหนึ่ง…..
    ใจบุญสุนทาน…ตักบาตรทุกเช้า
    ตักบาตรเสร็จ.. ก็แต่งสำรับกับข้าว…อย่างบรรจงประณีต ..
    เพื่อเอาไปถวาย…..ท่านเจ้าประคุณสมเด็จ…ผู้เป็นเจ้าอาวาส
    ด้วยความเคารพนับถือ..ในจริยวัตรของท่าน
    และชอบฟังท่านคุย….เล่าเรื่องต่าง ๆ…
    เรียกว่า….ตักบาตรเสร็จ…
    คุณนายต้องมาวัดทุกวัน…
    ถวายอาหารเสร็จ…ก็คุยกับพระสมเด็จ…
    วันหนึ่ง…
    หลังจากคุณนายกลับแล้ว….
    พระหนุ่มรูปหนึ่ง….ซึ่งเป็นศิษย์ก้นกุฏิของสมเด็จ
    เข้าไปกราบเรียนว่า…
    คุณนายคนนี้…ใจบุญสุนทานจริง ๆ….
    แต่เคยได้ยินว่า…เป็นคนใจแคบ…
    เหลือแม่อยู่คนเดียว..
    ปล่อยให้อดๆ..อยากๆ…ไม่เอาใจใส่…..
    ปล่อยให้อยู่ห้องแคบ ๆ…หลังบ้าน
    ส่วนตัวเองและลูก ๆ ..
    อยู่ตึกใหญ่โต…สะดวกสบาย….
    เวลาพูดจากับแม่…ก็ฟังไม่ได้..
    หยาบคาย….ขู่ตะคอก…กระแทกกระทั้น…
    ผิดกับตอนมาคุยกับสมเด็จที่วัด…
    ชนิดหน้ามือ..เป็นหลังมือ…
    แม่…จะออกมาเดินเล่นหน้าบ้าน..ก็ไม่ได้…
    ไม่ยอมให้ออก…
    มีแม่แก่…หลงๆ ลืม ๆ..สติไม่สมประกอบ..
    อายเขา…
    มีคนเขาเล่าให้ฟัง…หลายรายแล้ว…
    เท็จจริงอย่างไร….ไม่ทราบได้…
    สมเด็จ….นั่งฟังเฉย…ไม่พูดว่าอะไร
    วันหนึ่งมีกิจนิมนต์…ไปทำบุญบ้าน
    ขากลับ….เดินผ่านหน้าบ้านคุณนาย…
    ท่านก็แวะบ้านคุณนายก่อน…
    คุณนายดีใจมาก…ที่สมเด็จมาเยี่ยมถึงบ้าน..
    ถือเป็นมงคลอย่างสูง…
    ที่พระขั้นสมเด็จ…มาเยี่ยมบ้าน…
    จึงเรียกลูกหลาน…มากราบเท้าท่าน…เป็นการใหญ่..
    แล้วก็คุยกันเรื่องต่างๆ ..มากมาย..

    ในตอนหนึ่ง…
    สมเด็จท่าน…ถามคุณนายว่า..
    พระในบ้าน…มีไหม…?
    มีเจ้าค่ะ…
    พระในบ้าน..มีหลายองค์…
    เป็นพระเก่า ๆ ทั้งนั้น
    สมัยสุโขทัยก็มี…เชียงแสนก็มี…
    อาราธนาท่านสมเด็จ….ขึ้นไปดูข้างบน…..
    สมเด็จท่าน….เฉย….แล้วถามต่อว่า
    ได้ทราบข่าวว่า…
    คุณนายมีแม่อีกคน….เดี๋ยวนี้อยู่เสียที่ไหน…?
    คุณนายสะอึก…เสียวแปลบเข้าไปในหัวใจ…
    จะตอบตามตรง…ก็กลัวว่า..
    สมเด็จจะเดินไปดู…
    เห็นสภาพความเป็นอยู่ของแม่…
    แล้วท่านจะติเตียน…
    อึกๆ …อักๆ …อยู่ครู่หนึ่ง….แล้วจึงตอบว่า…..
    ตอนนี้ท่านไม่อยู่เจ้าค่ะ….
    ออกไปเยี่ยมญาติ…อีกนานจึงจะกลับ….
    สมเด็จท่านนั่งนิ่งอยู่สักครู่….แล้วจึงลากลับ…
    คุณนายก็ยังคงไปวัด…เป็นปกติ……

    วันหนึ่ง….
    สมเด็จ….ท่านเห็นว่า..วันนี้…
    คุณนายยิ้มแย้มแจ่มใส…พูดจาร่าเริง…
    อารมณ์ดีหลังการทำบุญทำทาน…
    สมเด็จจึงถามว่า…
    พระในบ้านของโยม….โยมดูแลเรียบร้อยแล้วหรือยัง…?
    เรียบร้อยเจ้าค่ะ….
    ดิฉันจุดธูปเทียน…ถวายอาหาร….
    บูชาเสร็จแล้ว…จึงมาที่วัด…
    ท่านไม่ต้องเป็นห่วง….
    อาตมา..ไม่ได้หมายถึง…พระพุทธรูป…
    พระในบ้าที่อาตมาถามถึงนี่…
    เป็นพระที่ยังมีลมหายใจ….
    คือ…แม่พระ….ผู้มีพระคุณสูงสุดแก่โยม…
    แม่..ให้ชีวิตเรามา…โดยเอาชีวิตตัวเองเขาแลก…
    เลี้ยงดูเรามา..ตั้งแต่ตีนเท่าฝาหอย….จนได้ดิบได้ดีทุกวันนี้…
    แม่เหน็ดเหนื่อย….ทุกข์ทรมาน…แสนสาหัส…
    แม่…ทนหิว…เพื่อให้ลูกอิ่ม….
    แม่…ทนหนาว..เพื่อให้ลูกอุ่น…
    แม่..ไม่เคยนอน..ถ้าลูกของแม่…ยังไม่หลับ…
    ยามลูกเจ็บป่วย…..ร้องไห้
    หัวใจแม่ก็เจ็บปวด…และร้องไห้พร้อมกับลูกด้วย…..
    แม่อยากเอาความเจ็บปวดทั้งหมด…ของลูก…มาไว้ที่แม่…
    ถ้าทำได้……
    แม่…ยอมตายเพื่อลูกได้….
    พระคุณของแม่นี้…..ใหญ่หลวงเกินกว่าจะคณานับ…..
    เราต้องตอบแทนบุญคุณท่านบ้างน่ะโยม….
    เอาตาดู…หูใส่….เอาใจใส่ท่านบ้าง….
    ไม่ใช้ปล่อยให้ท่าน …อด ๆ…อยากๆ……
    เจ็บไข้ได้ป่วย….ก็ดูแลท่านบ้าง….
    อาตมาได้ข่าวว่า….
    คุณโยมเหลือแม่อยู่คนเดียว……
    และ…ไม่ค่อยสนใจความเป็นอยู่ของท่าน….
    ปล่อยให้อยู่ในห้องแคบๆ อดๆ อยาก ๆ
    ไม่สงสารท่านบ้างหรือ….โยม….?
    โยมจัดอาหารมาถวายพระได้ทุกวัน….
    แต่พระในบ้านอีกองค์…..โยมไม่เคยจัดให้….
    และตอนที่โยมจัดมาให้อาตมา…..
    สังเกตดู….โยมจัดมาให้อย่างดี…..ประณีตบรรจง…
    แต่ก่อน…..
    อาตมาไม่รู้ว่า…อะไรเป็นอะไร…
    ก็ฉันของโยมตามปกติ….
    แต่ตอนนี้…บอกตรงๆ…เลยว่า…
    กลืนไม่ค่อยลง…มาหลายวันแล้ว…..
    อาตมาเป็นพระในวัด…
    ไม่ควรเอาเปรียบพระในบ้าน….ของโยมเกินไป….
    ถ้าพระในบ้าน…ยังอด…
    พระในวัด…ก็…กลืนไม่ลง…
    การทำบุญให้ได้บุญมานะโยม…
    เลี้ยงพ่อแม่…ให้อิ่มหนำสำราญเสียก่อน…
    แล้วจึงถวายพระ……
    คุณนาย….ไม่พูดอะไร…. นั่งน้ำตาไหล….
    ลูกๆที่รักทุกคน…
    ได้ดูแลพระในบ้านของลูกๆ…แล้วหรือยัง…?
    ถึงแม้ว่า…จะเพียงเล็กน้อย….ก็ยังดี….
    บางคน…..
    กว่าจะรู้…พ่อแม่เป็นพระในบ้านผู้ประเสริฐ…
    ก็สายเสียแล้ว…
    คือ..รู้เมื่อท่านทั้งสอง…..ไม่มีตัวตนอยู่ในโลกนี้แล้ว

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  4. วิญญาณนิพพาน

    วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    22,463
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +21,011
    คนเราผิดพลาดกันได้ เเต่พลาดเเล้วสํานึกผิด ปรับปรุงตัว อันนี้น่ายกย่องครับ ธรรมะก็สอนมาเเบบนี้ ขอให้ทําดีกันต่อไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่นะครับ อนุโมทนาครับ ผมก็เคยผิดมาเยอะเหมือนกัน
     
  5. กระติ๊บ

    กระติ๊บ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    672
    ค่าพลัง:
    +939
    พลาดแล้ว แก้ตัวใหม่ เมื่อยังมีโอกาส...โมทนาสาธุด้วยค่ะ
     
  6. deawpayu

    deawpayu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    178
    ค่าพลัง:
    +980
    ทดแทนบุญคุณท่านนะครับ ว่ากันว่าผู้ใดอยากทดแทนบุญคุณพ่อแม่ ให้ถวายพระอภิธรรมเจ็ดคัมภีร์ (ว่ากันว่า อีกละ ! พระอภิธรรมเป็นพระธรรมที่พระศาสดาเทศน์โปรดพุทธมารดาบนสวรรค์ ) แต่จะให้ดียิ่งขึ้นช่วยให้ท่านเข้าถึงอริยผลนั่นแหละถึงจะทดแทนบุญคุณพ่อแม่เราหมด ขอเป็นกำลังใจให้ครับ
     
  7. ฉันสัญญา

    ฉันสัญญา Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    22
    ค่าพลัง:
    +33
    อนุโมทนาครับกระผมก็ทำกลับพ่อแม่มาเยอะ ผมจะทำให้พ่อแม่มีความสุขครับ
     
  8. apichai53

    apichai53 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    630
    ค่าพลัง:
    +2,261
    เป็นบทความที่ดี และกินใจมากครับ อนุโมทนา สาธุ...
     

แชร์หน้านี้

Loading...