พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    วันนี้(7มีค.49) จะนำเรื่องราวคนไปเดินห้างมาเล่าสู่กันฟังครับ


    ภัยจากการเดินห้างและซื้อของคนเดียว<O:p</O:p


    เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา(16 กค.48) ดิฉันได้ไปเดินซื้อของที่บิ๊กซีสาขาแฟชั่นไอร์แลน์ ซึ่งได้ไปถึงห้างเวลาประมาณ 18.30 น. ก็ไปกับอีกครอบครัวหนึ่ง ดิฉันก็ไปกับแฟนและลูก ซึ่งพี่ข้างบ้านได้พาลูกไปเลี้ยงวันเกิดที่ MK สุกี้ ซึ่งอยู่ที่ชั้น 1 ตรงบิ๊กซี และได้ชวนครอบครัวดิฉันไปทานด้วย ซึ่งก็เป็นเวลาเย็นแล้วก็เลยไปทานกัน ทานสุกี้เสร็จประมาณทุ่มกว่าๆ ดิฉันก็จะเข้าไปซื้อของที่บิ๊กซีตรงชั้น 1 กับพี่ข้างบ้านและเด็กอีก 3 คน ส่วนแฟนดิฉันและแฟนพี่ข้างบ้านไปห้องน้ำ ดิฉันซื้อของเยอะเพราะ 1 เดือนจะซื้อของ 1 ครั้ง พี่ข้างบ้านก็เลยบอกว่างั้นแยกกันเดินเพราะเค้าซื้อของนิดเดียว ก็แยกกันพี่ข้างบ้านก็ไปกับลูกเค้าและลูกดิฉัน ส่วนดิฉันได้เดินซื้อของคนเดียว ก็ซื้อของเยอะมากทั้งนม น้ำปลา ฯลฯ คือเข้าล็อกนั้นออกล็อกนี้ จนซื้อครีมอาบน้ำไปแฟนเสร็จ ก็จะต้องขึ้นบันไดเลื่อนไปชั้น 2 เพราะเราจอดรถตรงชั้น 2 ต้องขึ้นไปจ่ายเงินข้างบน พอเข็นรถเข็นมาถึงบันไดเลื่อนทางขึ้น (เราเข็นรถมาทางด้านขวาของบันไดเลื่อนคือมาจากที่ขายครีมอาบน้ำผ่านชั้นขายขนมเลย์มา) ดิฉันก็มองไปเห็นทางห้างวางไข่ไก่ถาด 30 ฟองไว้ตรงทาง ขึ้นบันไดเลื่อน ดิฉันก็เลยจอดรถเข็นตรงที่ขายไข่ไก่แล้วหันข้างให้รถเข็น และเลือกไข่ใช้เวลาประมาณ 2-3 นาที เมื่อดิฉันเลือกไข่ได้ก็หันมาจะนำไข่มาใส่รถเข็นก็เห็นผู้หญิงคนหนึ่งแต่งตัวไม่สะอาดใส่เสื้อยืดสีน้ำเงิน ใส่กางเกงสี่ส่วนสีดำ อายุไม่เกิน 30 ปี ผิวดำแดง ผมหยักโศก มาจับตรงรถเข็นดิฉัน(จับตรงราวจับรถเข็น) ซึ่งเมื่อเค้าเห็นดิฉันหันมามองก็ปล่อยมือจากรถเข็นของดิฉัน เค้ามากัน 4 คน มีชาย 2 คน หญิง 1 คน และเด็กตัวเล็กๆ อายุประมาณ 1 ขวบกว่าๆ 1 คน แต่ยังอยู่ข้างๆ ดิฉันซึ่งดิฉันก็คิดในใจว่ามาจับรถเข็นของฉันทำไม ซึ่งกว่าที่ดิฉันจะไปจับราวรถเข็นเพื่อเข็นรถเข็นอีกก็ใช้เวลาประมาณ 1-2 นาที เพราะของที่ซื้อมาเยอะมากจนต้องจัดใหม่เพื่อเอาไข่วางให้ได้ เมื่อจัดรถเข็นเสร็จก็เข็นรถเข็นขึ้นบันไดเลื่อนไปที่ชั้น 2 ดิฉันก็เหลือบมองด้านหลังว่ามีใครตามมาหรือเปล่าเพราะเริ่มรู้สึกผิดปกติแล้ว ก็เห็นผู้หญิงคนนี้เดินตามดิฉันขึ้นมาคนเดียว ดิฉันก็เลยจะโทรหาแฟนเพราะเริ่มรู้สึกไม่ดี ก็เปิดกระเป๋าเพื่อจะหยิบโทรศัพท์ก็เหลือบตามองข้างบนปกติจะมีพนักงานของบิ๊กซีช่วยดึงรถเข็นแต่เวลานั้นประมาณเกือบ 2 ทุ่มไม่มีคนช่วยดึงรถ เข็นก็เลยคิดว่าเก็บโทรศัพท์ก่อนดีกว่าเพราะรถเข็นเราหนักเดี๋ยวจะฉุกละหุกและคิดว่าเดี๋ยวขึ้นชั้น 2 แล้วค่อยโทรก็ได้ เมื่อขึ้นบันไดเลื่อนมาชั้น 2 ดิฉันก็เลี้ยวซ้ายและก็จอดรถเข็นตรงกะบะขายชุดชั้นใน ผู้หญิงคนนั้นก็เดินผ่านไปนิดนึงแต่ยังเดินป้วนเปี้ยนใกล้ๆ ดิฉัน ซึ่งดิฉันก็โทรศัพท์หาแฟนและพี่ข้างบ้านซึ่งโทรเท่าไหร่ก็ไม่ติดซักที ผ่านไปประมาณ 5 นาทีผู้ชายอีกคนกับเด็กก็เข็นรถเข็นขึ้นมาชั้น 2 ส่วนผู้ชายอีกคนไม่ทราบไปไหน (ผู้ชายคนนี้มีผมสีดอกเลา ไว้หนวด ผอม ใส่เสื้อกีฬาคอปกสีเหลือง ใส่กางเกงขาสั้นสีน้ำตาลอ่อน) ก็เข็นผ่านมาและผู้หญิงคนนี้ก็เดินไปเรื่อยๆ ไม่ได้เดินดูของจนไปสุดทางเดินและต้องเลี้ยวซ้ายเพราะขวาเป็นขายเสื้อผ้าเด็กและเป็นห้องลองเสื้อผ้า ซึ่งขณะนั้นดิฉันก็ยังโทรหาแฟนและพี่ข้างบ้านอยู่ตาก็เหลือบมองพวกเค้าไปเรื่อยๆ เมื่อพวกเค้าเลี้ยวขวาไปดิฉันเริ่มรู้สึกว่าร่างกายเราผิดปกติจะอาเจียน เป็นลม หน้ามืด ดิฉันจึงเทสต์ตัวเองด้วยการหยิกที่แขนทั้งสองข้างซึ่งไม่รู้สึกว่าเจ็บเลย ดิฉันจึงคิดว่าถ้าโทรหาแฟนหรือพี่ข้างบ้านกว่าจะมาดิฉันคงแย่แน่ จึงเอาโทรศัพท์ใส่กระเป๋าและมองหาพนักงานของบิ๊กซี ตอน แรกมองไปทางซ้ายหาพนักงานขายชุดชั้นในก็ไม่เห็นมีแต่คนเลือกซื้อของอยู่ประมาณ 5-6 คน ก็เลยมองมาทางขวาเห็นพนักงานขายของสินค้าในบิ๊กซีก็เลยวิ่งไปคว้าแขนของพนักงานคนนี้นซึ่งดีมาก แล้วมองว่าพี่ช่วยหนูด้วย หนูไม่ไหวแล้ว จะเป็นลมจะอาเจียนด้วย พนักงานก็พาดิฉันไปทานน้ำดื่มซึ่งห่างจากรถเข็นไม่มากอยู่ล็อกกลางแล้วดิฉันก็เล่าเหตุการณ์ให้พนักงานท่านนี้ฟัง พนักงานก็บอกดิฉันว่าสงสัยดิฉันคงไปโดนยาที่ผู้หญิงคนนั้นมาป้ายตรงราวจับรถเข็นให้แล้ว พนักงานจึงให้ดิฉันทานน้ำเยอะๆ แล้วนั่งพัก เมื่อดิฉันนั่งพักแล้วตรงล็อคกลางจะแขวนเสื้อลดราคาของ FBT ก็บังดิฉันพอดี แต่พนักงานท่านนั้นยังยืนอยู่ ดิฉันก็บอกรูปพรรณของผู้หญิงคนนั้น พนักงานก็ถามดิฉันว่าใช่ใส่รองเท้าฟองน้ำสีเขียวหรือเปล่า ดิฉันก็เลยเอียงคอมองแล้วตอบว่าใช่ ผู้หญิงคนนี้เดินไปอ้อมที่ขายเสื้อผ้าผู้หญิงและอ้อมมามาเดือนป้วนเปี้ยนแถวๆ รถเข็นที่ฉันจอดทิ้งไว้อยู่ ดิฉันก็บอกพนักงานว่าอย่าพึ่งไปไหนนะให้อยู่เป็นเพื่อนก่อน ระหว่างนั้นฉันก็โทรหาแฟนจนติด และบอกแฟนว่าให้รีบมาไม่ไหวแล้วจะเป็นลม แฟนก็รีบมา ผู้หญิงคนนี้นยังเดินวนหาดิฉันอยู่ เมื่อแฟนมาดิฉันก็เล่าให้ฟ ัง แล้วแฟนก็เลยเดินไปหาผู้หญิงคนนั้น กะจะเข้าไปถามว่าตามมาทำไมต้องการอะไร แต่เดินไปนิดนึงเหลือบตามองเห็นมีผู้ชายมองอยู่ 2 คน จึงเดินกลับและบอกว่าไปจ่ายตังค์และกลับกันเถอะ ก็ไปบอกพนักงานฝากดูต่อด้วย เมื่อจ่ายเงินเสร็จก็บอกพี่ข้างบ้านเล่าให้ฟังพี่ข้างบ้านจึงชวนกลับ แฟนก็เอาของไปเก็บที่รถ รถจอดตรงทางเชื่อมระหว่างบิ๊กซีกับลานจอดรถพอดี ดิฉันก็เดินตามไปแต่ยังไม่เข้ารถ พี่ข้างบ้านบอกให้เข้าไปนั่งในรถมีผู้ชายนั่งอยู่ตรงทางเชื่อมมองอยู่ ตอนนั้นยังใจมีดีอยากออกจากห้างให้เร็วที่สุด เมือนั่งมาในรถยังรู้สึกอยากอาเจียนอยู่ อยากฝากไว้เป็นอุทธาหรณ์ให้คนอื่นได้ทราบว่า เดี๋ยวนี้ต้องระวังไปไหนมาไหน และได้ถามหมอว่ายาที่โดนเป็นยาอะไร หมอบอกว่าเป็นสารระเหยชนิดหนึ่ง ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย แต่จะทำให้เรารู้สึกชา มึนงง จะเป็นลม....
     
  2. pu002

    pu002 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มกราคม 2006
    โพสต์:
    42
    ค่าพลัง:
    +246
    ได้รับพระแล้วคะ สวยทุกองค์คะ แต่ไม่ทราบว่าเป็นพระองค์ใดบ้าง (ไม่แน่ใจบางองค์นะคะ) รบกวนช่วยแจ้งบอกหน่อยนะคะ

    ขอบคุณมากคะ
     
  3. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ขอบคุณครับ คุณpu002และคุณlittlelucky ที่แจ้งเข้ามาว่าได้รับพระแล้วครับ

    วันนี้มี 2 เรื่องราวที่นำมาเสนอให้อ่านกันครับ


    ภัยจากการเติมน้ำมัน<O:p</O:p

    <O:p> </O:p>
    ภัยจากการเติมน้ำมัน

    ถูกต้องแล้วครับ ไม่ใช่เฉพาะปั๊ม JET เท่านั้น หลายๆ ปั๊มก็เป็นเหมือนกัน
    วิธีการเติมโดยไม่ให้ถูกโกง
    1. อย่าขี้เกียจ ถ้าเป็นไปได้ให้ลงไปดูด้วยทุกครั้ง
    2. ถ้าขี้เกียจลงก็จงจอดในลักษณะที่เราเห็นตัวเลขชัดเจน
    3. ถึงแม้ว่าเด็กปั๊มรีเซตแล้วก็ตาม ก็ยังมีเทคนิคขี้โกงตามมาอีก
    4. วิธีโกงที่ว่าคือ ถ้าเบิ้ลงวงจ่ายน้ำมันติดกันเร็วๆ 2 ครั้ง ตัวเลขจะกระโดดขึ้นไปประมาณ 30-50 บาท

    ดังนั้นจงอย่าละสายตาจนกว่าตัวเลขเริ่มวิ่งแล้ว

    ใครที่ชอบเติมน้ำมันปั๊ม JET โปรดอ่านทางนี้.. นี่คือเรื่องจริง ที่เกิดขึ้น ปั๊มน้ำมัน JET สาขาประตูน้ำพระอินทร์ (ข้างบริษัทมินิแบ)
    เมื่อเย็นวันที่ 21 มิถุนายน 2546 ดิฉันกำลังจะเดินทางไปต่างจังหวัด แต่เผอิญว่าน้ำมันในถังเหลือน้อยเต็มที จึงเลือกปั๊มน้ำมัน JET
    สาขาประตูน้ำพระอินทร์ (ข้างบริษัทมินิแบ) เพราะมั่นใจในคุณภาพอย่างที่โฆษณาว่าเป็นระดับสากล
    เมื่อมาถึงปั๊มน้ำมัน จึงแจ้งเด็กปั๊มว่า เติมดีเซล 500 บาท เวลาผ่านไปไม่ถึง 2 นาที
    เด็กปั๊มบอกเสร็จแล้วครับ พร้อมกับขอรับเงิน ตอนนั้นเรา (ดิฉันกับแฟน) ก็สงสัยว่าทำไมถึงไวมาก
    แต่ก็จ่ายผ่านบัตรเครดิต เมื่อเด็กปั๊มนำบัตรมาคืน พร้อมกับเซ็นเรียบร้อยแล้ว
    พอจะออก สตาร์ทรถ ปรากฏว่าน้ำมันไม่มี น้ำมันในถังยังตกเกเหมือนเดิม เราโมโหมาก
    ลงจากรถไปเรียก ปรากฏว่า เด็กปั๊มคนเดิม (ตัวเล็ก ๆ เตี้ย ค่อนข้างดำ) มาอธิบายว่าทำไมไม่มีน้ำมัน
    ทั้งที่จ่ายเงินไปแล้ว ไม่มีคำอธิบายจากเด็กปั๊ม บอกเพียงว่า "ผมเติมแล้ว"จึงให้เด็กปั๊มคนเดิมไปเรียกผู้จัด
    การมาคุย
    แต่เด็กปั๊มไปเรียกคนเก็บเงิน (คิดว่าน่าจะเป็นหัวหน้า) อีกคนมาคุย
    เขาถามทางเราว่า "เกวัดน้ำมันไม่ขึ้นหรือครับ" เราก็เลยตอบไปว่า
    "เรื่องเกวัดน้ำมันเป็นไปไม่ได้ แต่เรากลัวว่าเติมน้ำมัน 500 แล้วไม่ได้น้ำมันสักหยดมากกว่า"และถ้าไม่เคลียร์
    เรื่องคงถึงตำรวจ เพราะเรามั่นใจว่ารถเรามีน้ำมันเหลือน้อยมาก
    แฟนที่นั่งรถอยู่กดเครื่องคิดเลข แล้วถามว่า "เติม 500 จะได้น้ำมันกี่ลิตร"
    เด็กปั๊มตอบว่า ประมาณ 38 ลิตร แต่ที่แป้นที่เด็กปั๊มจะต้องเคลียร์ก่อน
    แล้วถึงป้อนข้อมูลเข้าไปใหม่ มันโชว์ เติม 500 บาท แต่ได้ 34 ลิตร
    แสดงว่า รถคันก่อนหน้านี้ เติม 500 บาท เหมือนกัน แต่เติมน้ำมันเบนซิน
    เลยได้ 34 ลิตร แสดงว่าเด็กปั๊มไม่ได้เคลียร์โปรแกรม
    แต่ที่น่าสงสัยคือ ทำไมเอาสายเข้าไปที่ถังน้ำมันแล้ว แต่ไม่มีน้ำมัน แล้วบอกว่าเติมเสร็จแล้ว
    จุดประสงค์คืออะไร?ถ้ารถของดิฉันมีน้ำมันประมาณครึ่งถัง ใครจะบอกได้ว่าเป็นของใหม่หรือของเก่า คงต้องจ่ายเงินฟรี?แต่สุดท้าย
    เรื่องก็เลยสรุป เด็กปั๊มเติมน้ำมันให้ใหม่ 500 บาท แต่โดยดี
    ไม่งั้นเรื่องคงยาวถึงตำรวจ ปั๊มก็คงเสียชื่อมากกว่านี้
    มีอีกเรื่องที่คุยกับเพื่อน ๆ หลังเหตุการณ์นี้ บางกรณีที่จ่ายเงินสด
    มีรถคันก่อนหน้าเรามา สมมติเขาเติม 200 บาท พอเราไปต่อ เราบอกเติม 300
    ถ้าไม่สังเกต บางทีเด็กปั๊มไม่เคลียร์โปรแกม เติมต่อจาก 200 เป็น 300
    เราจะได้น้ำมันแค่ 100 บาท ประเภทอย่างนี้ ถ้าเป็นเงินสด เข้ากระเป๋าเด็กปั๊มทันที
    กรุณาส่งต่อไปหาเพื่อนของคุณ เพื่อจะได้ทันกับคนพวกนี้<O:p></O:p>



    ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


    ภัยบนรถประจำทาง<O:p</O:p

    <O:p> </O:p>
    > > >>>> ภัยบนรถประจำทาง<O:p</O:p
    > > >>>>วันที่ 6 พฤษภาคม 2548<O:p</O:p
    > > >>>> > > ><O:p></O:p>
    > > >>>> > > > เจอเข้ากับตัวเองจนได้ ต้องขอขอบคุณ Fwd mail<O:p</O:p
    > > >>>> > > > เตือนภัยทุกฉบับที่ทำให้เราระมัดระวังตัวและรอดมาได้<O:p</O:p
    > > >>>> > > > เมื่อวันศุกร์ที่1 เม.ย.48 เราขึ้นรถปรับอากาศสาย92<O:p</O:p
    > > >>>> > > > ที่อนุสาวรีย์ชัยฯ ตอนประมาณ 2 ทุ่ม<O:p</O:p
    > > >>>> > > ><O:p></O:p>
    > > <O:p></O:p>
    > <O:p></O:p>
    >>>>มันเป็นรถแบบเก่ามีพนักพิงสูงซึ่งมีข้อเสียคือมองกันไม่ค่อยเห็นเพราะเบาะ<O:p></O:p>
    > > >>>> > > > บังอยู่<O:p</O:p
    > > >>>> > > > รถค่อนข้างว่าง<O:p</O:p
    > > >>>> > > ><O:p></O:p>
    > > <O:p></O:p>
    >>>>เรานั่งตรงช่วงกลางรถใกล้ประตูเพราะเห็นว่าคนเดินขึ้นลงน่าจะปลอดภัยดี<O:p</O:p
    > > >>>> > > > รถจอดแช่รอผู้โดยสารอยู่ สักพักมีผู้ชายขี้นมานั่งข้างเรา<O:p</O:p
    > > >>>>ลักษณะสูง ผอม<O:p</O:p
    > > >>>> > > > ผิวคล้ำ ตาโตลึก อายุประมาณ 35 ใส่เสื้อเชิ้ตแขนยาว<O:p</O:p
    > > >>>> > > > กางเกงขายาวเหมือนคนทำงานปกติ แต่ไม่ได้ดูเนี้ยบมาก<O:p</O:p
    > > >>>>ดูธรรมดาๆ<O:p</O:p
    > > >>>> > > > ถือหนังสือเล่มเล็กๆ 1 เล่ม<O:p</O:p
    > > >>>>เราแปลกใจเพราะที่อื่นว่างตั้งเยอะ<O:p</O:p
    > > >>>> > > > เบาะริมหน้าต่างก็ยังว่าง ทำไมต้องมานั่งข้างเรา<O:p</O:p
    > > >>>>จึงระวังตัวตลอด<O:p</O:p
    > > >>>>ได้ยินตอน<O:p</O:p
    > > >>>> > > > "มัน" จ่ายเงินว่าภาวนา แล้วกระเป๋ารถก็เดินไปที่อื่น<O:p</O:p
    > > >>>> > > > เราพยายามยื่นเงินให้กระเป๋ารถแต่เค้าไม่เห็น<O:p></O:p>
    > > >>>>มันเลยพูดกับเราว่า<O:p</O:p
    > > >>>> > > > สงสัยเค้าคิดว่า 2 คน แล้วมันก็ให้ดูตั๋วของมันมี 2 ใบ<O:p</O:p
    > > >>>> > > > เราเลยพูดว่าเราไม่ได้ลงภาวนา ทำไมคุณไม่บอกเค้าล่ะคะ<O:p</O:p
    > > >>>>มันว่าไม่เป็นไร<O:p</O:p
    > > >>>> > > > ช่างเถอะ พอเราจ่ายเงินกับกระเป๋าเสร็จ เราถามอีกว่า<O:p</O:p
    > > >>>>ไม่บอกกระเป๋าเหรอคะ<O:p</O:p
    > > >>>> > > > มันยืนยันว่าไม่เป็นไร (เราว่ามันไม่อยากเรื่องมาก<O:p</O:p
    > > >>>>กลัวคนจำหน้าได้ล่ะสิ)<O:p</O:p
    > > >>>> > > ><O:p></O:p>
    > > <O:p></O:p>
    > <O:p></O:p>
    >>>>รถออกสักพักมันนั่งในลักษณะแขนข้างที่ติดกับเราถือหนังสือวางบนเหนือเข้า<O:p</O:p
    > > >>>> > > > มืออีกข้างมาจับตรงข้อพับข้อ<O:p</O:p
    > > >>>>ศอกตัวเองของแขนข้างที่ติดกับเรา มือนั้นกับทั้งแขนยื่นมาใกล้เรามากจนเราต้องกระเถิบตัวกับกระเป่าออกห่าง<O:p></O:p>
    > > >>>> > > > เราระวังตัวอยู่ตลอด<O:p</O:p
    > > >>>>มั่นใจว่าสติสัมปชัญญะเราตอนนั้นเต็มร้อย<O:p</O:p
    > > >>>> > > > คิดไว้ว่าถ้ามีอะไรแปลกๆจะลุกทันที<O:p</O:p
    > > >>>>เห็นมันทำเป็นหลับแต่ยังอยู่ในท่าเดิม<O:p</O:p
    > > >>>> > > > พอรถแล่นมาประมาณ 10 นาที<O:p</O:p
    > > >>>>เราหยิบยาดมขึ้นมาคิดว่าเหมือนเมารถนิดๆ<O:p</O:p
    > > >>>> > > > แต่ไม่ใช่อย่างที่คิด<O:p</O:p
    > > >>>>อยู่ๆตาเราแปลกๆมองภาพแล้วมันวูบๆยังไงไม่รู้<O:p</O:p
    > > >>>> > > > มันไม่ใช่หน้ามืดแบบเป็นลมนะ แต่ภาพมันวูบๆเหมือนจะหลุดๆ<O:p</O:p
    > > >>>> > > ><O:p></O:p>
    > > >>>>แล้วหัวใจเต้นแรงขึ้นมาเองถี่รัวยังกับจะทะลุออกมาโดยไม่มีสาเหตุ<O:p</O:p
    > > >>>> > > > เราไม่คิดอะไรแล้ว ลุกทันทีย้ายไปนั่งด้านหน้าข้างคนขับ<O:p</O:p
    > > >>>> > > > ยังรู้สึกไม่ค่อยดีดมยาดมตลอด หันกลับไปมองหน้ามัน<O:p</O:p
    > > >>>>มันยังนั่งอยู่ที่เดิม<O:p</O:p
    > > >>>> > > ><O:p></O:p>
    > > >>>> > ><O:p></O:p>
    > > >>>> ><O:p></O:p>
    > ><O:p></O:p>
    > <O:p></O:p>
    >>>>เราพยายามเรียกกระเป๋ารถแต่เค้าไม่เห็นหรือไม่สนใจก็ไม่รู้เพราะคนอื่นก็หันมามอง<O:p</O:p
    > > >>>> > > > เราหมด เราเลย บอกผู้หญิงข้างๆ พอเค้าชะเง้อมองมัน 2-3<O:p</O:p
    > > >>>>ทีมันก็ลงรถหนีไปเลย<O:p</O:p
    > > >>>> > > > ถ้าไม่ได้ทำผิดจะลงหนีทำไม ยังไม่ถึงภาวนาเลยด้วย<O:p</O:p
    > > >>>> > > > มือมันข้างนั้นต้องกำอะไรไว้แน่ๆ<O:p</O:p
    > > >>>>เพราะมันไม่ได้แตะตัวเราเลยนะ<O:p</O:p
    > > >>>> > > > คงถืออะไรไว้แล้วยื่นมาให้ใกล้เราที่สุด<O:p</O:p
    > > >>>>ให้เรานั่งดมไปเรื่อยๆ<O:p</O:p
    > > >>>> > > > ตัวมันนั่งด้านนอก สูดอากาศด้านนอกได้<O:p</O:p
    > > >>>>ส่วนเรานั่งในดมสิ่งที่มันถืออยู่นาน<O:p</O:p
    > > >>>> > > > ถ้าเรามัวแต่แปลกใจอยู่ว่าตัว<O:p</O:p
    > > >>>> > > > เองเป็นอะไร สักพักคงหมดเรี่ยวแรง ขัดขืนไม่ได้<O:p</O:p
    > > >>>> > มันคงเอาเงินเอาของๆเราไปแล้ว<O:p</O:p
    > > >>>> > > > มันเลือกโอกาสช่วงต้นเดือนด้วย ขอให้ทุกคนระวังไว้<O:p</O:p
    > > >>>> > > > ถ้ามีอะไรแปลกๆแม้จะแค่นิดเดียวก็เถอะ<O:p</O:p
    > > >>>> > > > ระหว่างที่ยังคุมสติได้ให้รีบออกมาจากสถานการณ์นั้นทันที<O:p</O:p
    > > >>>> > > > พูดโวยวายให้คนอื่นสนใจ<O:p</O:p
    > > >>>> > > > เสียดายที่เราไม่ได้บอกกระเป๋าเพราะเค้าไม่สนใจอะไรเลย<O:p</O:p
    > > >>>> > > > จริงๆอยากบอกจะตายทุกคนจะได้รู้และระวังตัวไว้<O:p</O:p
    > > >>>>ช่วยกันจำหน้ามัน<O:p</O:p
    > > >>>> > > > มันจะได้ไม่กล้าทำอีก พอมันลงไปแล้ว<O:p</O:p
    > > >>>>จะพูดอะไรก็ไม่มีประโยชน์<O:p</O:p
    > > >>>> > > > อย่าปล่อยให้คนชั่วมาเอาเปรียบเรานะ เป็นห่วงทุกคน<O:p</O:p
    ****************************<O:p</O:p
    Nithima Hiriotappa<O:p</O:p
    Information Technology Department<O:p</O:p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 มีนาคม 2006
  4. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ผมได้รับเมล์จากเพื่อนมา ก็เลยนำมาแจ้งกันให้ทราบไว้

    ทุกๆท่าน คงเคยกดเงินจากตู้เอทีเอ็ม กันมาบ้างแล้ว แต่บางท่านอาจจะไม่ได้สังเกตุลักษณะของตู้เอทีเอ็ม ว่าโดยปกติลักษณะของตู้เอทีเอ็มเป็นอย่างไร ต่อจากนี้ไป ควรจดจำลักษณะของตู้เอทีเอ็มไว้ว่า ตู้ของธนาคารไหน รุ่นไหน มีรูปร่างลักษณะเป็นอย่างไร เนื่องจากในปัจจุบัน มีกลุ่มมิจฉาชีพ ได้นำเครื่องแสกนข้อมูลของบัตรเอทีเอ็มหรือบัตรเครดิตมาให้ พวกนี้เมื่อได้ข้อมูลจากบัตรเอทีเอ็มหรือบัตรเครดิตแล้ว ก็จะนำข้อมูลนั้น ไปปลอมแปลงบัตร แล้วกดเงินสดออกมาจากบัตร โปรดระวังกันไว้นะครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • P3261537-1.jpg
      P3261537-1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      36.3 KB
      เปิดดู:
      1,414
    • P3261537-2.jpg
      P3261537-2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      57.2 KB
      เปิดดู:
      1,055
    • P3261537-3.jpg
      P3261537-3.jpg
      ขนาดไฟล์:
      31.8 KB
      เปิดดู:
      1,012
    • P3261537-4.jpg
      P3261537-4.jpg
      ขนาดไฟล์:
      44.8 KB
      เปิดดู:
      1,024
    • P3261537-5.jpg
      P3261537-5.jpg
      ขนาดไฟล์:
      42 KB
      เปิดดู:
      970
    • P3261537-6.jpg
      P3261537-6.jpg
      ขนาดไฟล์:
      52.9 KB
      เปิดดู:
      1,033
  5. kaicp

    kaicp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    146
    ค่าพลัง:
    +1,190
    พระสมเด็จ ๒๔๐๘

    คุณสิทธิพงษ์ครับ

    พระสมเด็จ ด้านล่างระบุ พ.ศ ๒๔๐๘ (ดังในรูป)
    ลักษณะองค์พระสมเด็จจะไม่ค่อยสวยงาม
    ผิวสีน้ำตาล เนื้อผงด้านในสีขาว(บางองค์ที่กระเทาะ) บางและแข็ง
    ด้านหลังทุก ๆ องค์ จะบรรจุพระธาตุไว้
    ไม่ทราบใช่ของหลวงปู่เทพโลกอุดรหรือเปล่าครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • Picture 111.jpg
      Picture 111.jpg
      ขนาดไฟล์:
      86.5 KB
      เปิดดู:
      284
    • Picture 125.jpg
      Picture 125.jpg
      ขนาดไฟล์:
      67.3 KB
      เปิดดู:
      166
    • Picture 127.jpg
      Picture 127.jpg
      ขนาดไฟล์:
      73.1 KB
      เปิดดู:
      168
    • IMG_1799.jpg
      IMG_1799.jpg
      ขนาดไฟล์:
      87.5 KB
      เปิดดู:
      179
  6. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ใช่ครับ พระพิมพ์นี้ มีอยู่ทั้งหมด 44 พิมพ์ครับ เนื้อขององค์พระพิมพ์จะเป็นเนื้อปูนเพชร กับเนื้อดินเผา
    พระพิมพ์ปี 2408 ที่เห็นอยู่นี้ เป็นเนื้อปูนเพชร ลงรักแบบรักน้ำเกลี้ยงครับ ด้านหลังเป็นพระธาตุครับ
    ส่วนทีผมสะสมอยู่เป็นเนื้อดินเผาลงรักปิดทอง และเนื้อผงปูนเพชรลงรักปิดทอง มีทั้งหน้าเดียวและสองหน้า ในพระพิมพ์ที่เป็นสองหน้า จะเป็นพระที่มีกริ่งอยู่ในตัว แต่ผมยังสะสมไม่ครบ 44 พิมพ์เลย ยังขาดอยู่ประมาณ 6-7 พิมพ์ครับ โดยส่วนตัวเป็นคนที่ชอบพระที่ลงรักปิดทองครับ อิทธิคุณแรงดีกว่าไม่ปิดทอง เนื่องจากทองเป็นสิ่งที่ซึมซับพลังเสกได้ดีมากครับ
     
  7. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ใช่ครับ พระพิมพ์นี้มีอยู่ทั้งหมด 44 พิมพ์ครับ มีทั้งเนื้อผง(สีขาว)และเนื้อดินเผา(สีน้ำตาล) ซึ่งมีทั้งการปิดทองร่องชาด(ลงรักปิดทอง) กับลงรักน้ำเกลี้ยงครับ<O:p</O:p
    พระพิมพ์ที่เห็นนี้ เป็นพิมพ์ที่มีการลงรักน้ำเกลี้ยงครับ ด้านหลังจะมีพระธาตุ<O:p</O:p
    ส่วนที่ผมเองสะสมอยู่นั้น มีทั้งเนื้อผงและเนื้อดินเผา แต่จะมีการปิดทองร่องชาดทุกองค์ ซึ่งมีทั้งหน้าเดียวและสองหน้า พระพิมพ์ที่เป็นพระสองหน้า จะเป็นพระที่มีกริ่งอยู่ในองค์พระพิมพ์ด้วย ผมเองก็ยังขาดอยู่อีก 6-7 พิมพ์ครับ จะพยายามหาต่อไป โดยส่วนตัวแล้วเป็นคนที่ชอบพระพิมพ์ที่ปิดทองร่องชาด เนื่องจากทองเป็นสิ่งที่ซึมซับพลังเสกได้ดีมากครับ<O:p</O:p
     
  8. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=tcat colSpan=2>ข้อความส่วนตัว: เรียน พี่sithiphong</TD></TR></TBODY></TABLE><!-- post # --><TABLE class=tborder id=post cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="FONT-WEIGHT: normal"><!-- status icon and date -->[​IMG] วันนี้, 08:02 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="FONT-WEIGHT: normal" align=right></TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 width=175>littlelucky<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_", true); </SCRIPT>
    สมาชิก
    [​IMG] อัลบั้มรูปส่วนตัว
    วันที่สมัคร: Oct 2005
    ข้อความ: 31 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา: 381
    ได้รับอนุโมทนา 15 ครั้ง ใน 10 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 0[​IMG]



    </TD><TD class=alt1 id=td_post_><!-- icon and title -->[​IMG] เรียน พี่sithiphong
    <HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->สวัสดีครับพี่ Sithiphong
    เนื่องจากเมื่อวาน:cool: หลังจากผมได้สัมผัสพลังขององค์พระอุ้มบาตรเล็ก รวม 5 พระธรรมทูต (พิมพ์สามเหลี่ยม):cool:
    ผมสนใจบูชาเพิ่มเติมครับ ไม่ทราบว่ายังมีสีเหลืองหรือสีขาว ไหมครับ ถ้าไม่มีแล้วผมขอเป็นสีที่มีครับ ้ที่ไม่เป็นข้อห้ามสำหรับคนเกิดวันจันทร์ครับ(คือยกเว้นสีแดง)

    ผมจึงขอร่วมบริจาคในโครงการขอความเมตตาช่วยต่อชีวิต พระเณรสำนักสงฆ์บ่อเงินบ่อทอง ต.หนองแหน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา
    สังฆทานบิณฑบาท-ข้าวสาร-อาหารแห้ง จำนวน 1,169 บาท
    ผมขอบูชาพระอุ้มบาตรเล็ก รวม 5 พระธรรมทูต 1 องค์ ครับ (ถ้ายังมีพิมพ์สามเหลี่ยม ผมขอเป็นพิมพ์ สามเหลี่ยมเหลี่ยมครับแต่ถ้าไม่มีขอเป็นพิมพ์สี่เหลี่ยมก็ได้ครับ)
    ขอโทษครับพี่ครับ ที่ต้องรบกวนพี่ส่งหลายครั้ง เดี๋ยวผมโอนเงินจะแสกนสลิปมาให้ครับ
    ขออนุโมทนาครับ


    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ขออนุโมทนาในกุศลด้วยครับ
    คุณlittlelucky ได้บูชาไป 1 องค์แล้วครับ

    พระพิมพ์อุ้มบาตรเล็ก รวม5พระธรรมทูต นั้น ในขณะนี้จึงเหลืออยู่เพียง 5 องค์นะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 มีนาคม 2006
  9. kaicp

    kaicp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    146
    ค่าพลัง:
    +1,190
    ขอความรู้เพิ่มเติม สำหรับพิมพ์ ๒๔๑๑

    คุณสิทธิพงษ์ครับ

    ขอบคุณมากที่ให้ความกระจ่าง สมเด็จของหลวงปู่เทพโลกอุดร ปี ๒๔๐๘
    ผมมี ๔๔ พิมพ์พอดี

    ขอความรู้เพิ่มเติม
    สำหรับพิมพ์ปี ๒๔๑๑ เป็นสมเด็จของหลวงปู่เทพโลกอุดรด้วยหรือเปล่า?
    เพราะลักษณะคล้ายกันมากด้านหลังบรรจุพระธาตุเช่นกัน(ดังรูปที่แนบมาครับ)
    และมีจำนวนกี่พิมพ์ครับ?

    ขอบคุณในความรู้ความเข้าใจที่ได้รับเพิ่มตลอดเวลาครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_1800.jpg
      IMG_1800.jpg
      ขนาดไฟล์:
      79.5 KB
      เปิดดู:
      168
    • IMG_1804.jpg
      IMG_1804.jpg
      ขนาดไฟล์:
      82.2 KB
      เปิดดู:
      162
    • IMG_1806.jpg
      IMG_1806.jpg
      ขนาดไฟล์:
      91.1 KB
      เปิดดู:
      187
    • IMG_1872.jpg
      IMG_1872.jpg
      ขนาดไฟล์:
      74.4 KB
      เปิดดู:
      145
  10. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    สำหรับพระพิมพ์ ปี 2411 เท่าที่ทราบนั้น มีประมาณ 44 พิมพ์เช่นกัน แต่พิมพ์ ปี2408 สร้างในวาระการสิ้นพระชนม์ของพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัวครับ ส่วนพระพิมพ์ปี 2411 สร้างขึ้นในวาระที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวขึ้นครองราชย์ครับ
    ท่านกรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ ท่านเชิญหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรมาเสกให้ทั้งสองพิธีครับ
     
  11. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948

    ผมจะรีบดำเนินการจัดส่งพระไปให้ครับ ขออนุโมทนาอีกครั้งครับ

    +++++++++++++++++++++++++++++++++++++

    วันนี้อีกบทความนะครับ

    แง่คิดดีๆ จากชายชราผู้จากไป <O:p</O:p
    สัปดาห์สุดท้ายของปี 2548 ผมไปงานสวดและงานเผาศพผู้ชายวัย 81 ปีที่ผมรู้จักเขามายาวนาน 30 ปี <O:p</O:p
    ไม่ใช่ญาติ แต่สนิทนักรักใคร่เสมือนญาติ <O:p</O:p
    ก่อนเสียชีวิตไม่กี่วันเขาสั่งลูกและภรรยาแบบคนไม่ครั่นคร้ามความตายว่าสวดสามวันแล้วเผา ไม่ต้องบอกใครให้วุ่นวาย อย่าเศร้า อย่าร้องไห้ ทุกคนต้องมีวันนี้ เพียงแต่เขาอยู่หัวแถวเลยต้องไปก่อน<O:p</O:p
    แล้วลูกเมียก็ทำตามคำสั่ง สวดสามวันเผา <O:p</O:p
    งานสวด 3 คืนมีคนฟังพระสวดคืนละ 14 คนคือเมีย ลูก หลาน เขย สะใภ้ และผมซึ่งเป็นคนนอก <O:p</O:p
    เป็นงานศพที่มีคนไปร่วมงานน้อยที่สุดเท่าที่ผมเคยไปฟังสวด <O:p</O:p
    วันเผามีเพิ่มเป็น 17 คน สามคนที่เพิ่มเป็นเพื่อนบ้านที่เคยคุยด้วยเกือบทุกเย็นคนหนึ่ง <O:p</O:p
    เป็นแม่ค้าล็อตเตอรี่ที่เคยยืมเงินแล้วไม่มีสตังค์จ่าย เลยเอาล็อตเตอรี่ทยอยผ่อนใช้หนี้แทนเงินงวดละสองใบคนหนึ่ง <O:p</O:p
    และคนสุดท้ายเป็นหญิงที่ผู้ตายเคยผูกปิ่นโตทุกมื้อเย็น <O:p</O:p
    ทั้งสามคนบอกว่าเกือบมาไม่ทันเผา เคราะห์ดีที่แวะไปเยี่ยมที่โรงพยาบาล เจ้าหน้าที่บอกว่าเสียชีวิตไปแล้ว 3 วัน <O:p</O:p
    หลังฌาปนกิจพระกระซิบถามเจ้าหน้าที่วัดว่าเจ้าของงานจ่ายเงินค่าศาลาสวดพระอภิธรรมแล้วหรือยัง <O:p</O:p
    พระท่านคงไม่เคยเห็นงานศพที่มีคนน้อยแบบที่ผมก็รู้สึกตั้งแต่สวดคืนแรก <O:p</O:p
    จริงๆ แล้วผู้ตายเป็นคนค่อนข้างมีสตังค์ ทำงานธนาคารแห่งประเทศไทยจนเกษียณอายุที่ตำแหน่งหัวหน้าหน่วย แต่ด้วยความที่รักและ ศรัทธา อาจารย์ป๋วย อึ๊งภากรณ์ อดีตผู้ว่าการแบงค์ชาติ จึงดำเนินชีวิตแบบไม่ปรารถนาให้ใครเดือนร้อน - แม้กระทั่งวันตาย<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ผมสนิทกับเขาเพราะเขามีความฝันในวัยเด็กอยากเป็นนักประพันธ์แบบ ไม้ เมืองเดิม ที่เขาเคยนั่งเหลาดินสอและวิ่งซื้อโอเลี้ยงให้ <O:p</O:p
    เมื่อตัวเองเป็นนักเขียนไม่ได้ พอมาเจอะผมที่เป็นนักข่าวก็เลยถูกชะตาและให้ความเมตตา <O:p</O:p
    การมีโอกาสได้พูดได้คุยกับเขาตามวาระโอกาสตลอด 30 ปีทำให้ได้แง่คิดดีๆ มาใช้ในการดำรงชีวิต <O:p</O:p
    วันหนึ่งเขารู้ว่าขโมยยกชุดกอล์ฟของผมไปสองชุดราคา 4 แสนกว่าบาท เขาปลอบใจผมว่า "ของที่หายเป็นของฟุ่มเฟือยของเรา แต่มันอาจ เป็นของจำเป็นสำหรับลูกเมียครอบครัวเขา คิดซะว่าได้ทำบุญ จะได้ไม่ทุกข์"<O:p</O:p
    เขามีวิธีคิด "เท่ๆ" แบบผมคิดไม่ได้มากมาย <O:p</O:p
    เป็นต้นว่าสุขและทุกข์อยู่รอบตัวเรา อยู่ที่ว่าเราจะเลือกหยิบเลือกคว้าอะไร <O:p</O:p
    คงเป็นเพราะเขาเลือกคว้าแต่ความสุข ช่วงปีสุดท้ายของชีวิตเขาต่อสู้กับโรคชรา เบาหวาน หัวใจ ความดัน เกาต์ และไตทำงานเพียง 5 เปอร์เซ็นต์โดยไม่ปริปากบ่น แถมยังสามารถให้ลูกชายขับรถพาเที่ยวในวันหยุดสุดสัปดาห์โดยที่ตัวเองต้องหิ้วถุงปัสสาวะไปด้วยตลอดเวลา เนื่องจากไตไม่ทำงาน ปัสสาวะเองไม่ได้<O:p</O:p
    6 เดือนสุดท้ายของชีวิตต้องนอนโรงพยาบาลสามวันนอนบ้านสี่วันสลับกันไป เวลาลูกหลานหรือเพื่อนของลูกรวมทั้งผมด้วยไปเยี่ยมที่โรง พยาบาล เขามีแรงพูดติดต่อกันไม่เกิน 10 นาที แต่ 10 นาทีที่พูดมีแต่เรื่องสนุกสนานเรียกรอยยิ้มและเสียงหัวเราะจากคนไปเยี่ยมไข้ ทุก คนพูดตรงกันว่า "คุณตาไม่เห็นเหมือนคนป่วยเลย ตลกเหมือนเดิม"<O:p</O:p
    พอแขกกลับ ลูกหลานถามว่าทำไมคุยแต่เรื่องตลก <O:p</O:p
    เขาตอบว่า "ถ้าคุยแต่เรื่องเจ็บป่วย วันหลังใครเขาจะอยากมาเยี่ยมอีก" <O:p</O:p
    เขาเป็นคนชอบคุยกับผู้คนไม่ว่าจะอยู่บนเตียงคนไข้หรืออยู่บนรถแท็กซี่ <O:p</O:p
    บ่อยครั้งที่นั่งรถถึงหน้าบ้านแล้ว แต่สั่งให้โชเฟอร์ขับวนรอบหมู่บ้านเพราะยังคุยไม่จบเรื่อง แล้วจ่ายเงินตามมิเตอร์ !
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    4เดือนสุดท้ายของชีวิตแพทย์ที่รักษาโรคไตมาตั้งแต่สมัยเป็นแพทย์อินเทิร์นจนกระทั่งเป็นหัวหน้าแผนกแนะนำให้พักรักษาตัวในโรง พยาบาลให้แข็งแรงแล้วค่อยกลับบ้าน<O:p</O:p
    แต่อยู่ได้ 4 วันเขาวิงวอนหมอว่าขอกลับบ้าน <O:p</O:p
    หมอซึ่งรักษากันมา 16 ปีไม่ยอม เขาพูดกับหมอด้วยความสุภาพว่า "ขอให้ผมกลับบ้านเถอะ ผมอยากฟังเสียงนกร้อง คุณหมอไม่รู้หรอกว่า คนคิดถึงบ้านมันเป็นอย่างไร เพราะพอเสร็จงานหมอก็กลับบ้าน"<O:p</O:p
    หมอได้ฟังแล้วหมดทางสู้ ยอมให้คนไข้กลับบ้าน แต่กำชับให้มาตรวจตรงตามเวลานัดทุกครั้ง <O:p</O:p
    1 เดือนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต เขาสูญเสียการควบคุมอวัยวะของร่างกายเกือบทั้งหมด เคลื่อนไหวได้อย่างเดียวคือกะพริบตา แต่แพทย์ บอกว่าสมองของเขายังดีมาก เวลาลูกเมียพูดคุยด้วยต้องบอกว่า "ถ้าได้ยินพ่อกะพริบตาสองที"<O:p</O:p
    เขากะพริบตาสองทีทุกครั้ง ! <O:p</O:p
    เห็นแล้วทั้งดีใจและใจหาย <O:p</O:p
    เขายังรับรู้ แต่พูดไม่ได้ นี่กระมังที่เรียกว่าถูกขังในร่างของตนเอง <O:p</O:p
    <O:p</O:p

    สิบวันก่อนพลัดพราก ภรรยากระซิบข้างหูว่า "พ่อสู้นะ" <O:p</O:p
    เขาไม่กะพริบตาซะแล้วทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้สองเดือนเคยตอบว่า "สู้" <O:p</O:p
    เขาสู้กับสารพัดโรคด้วยความเข้าใจโรค สู้ชนิดที่หมอออกปากว่า "คุณลุงแกสู้จริงๆ" <O:p</O:p
    ตอนที่วางดอกไม้จันทน์ ผมนึกถึงประโยคที่แกพูดกับลูกเมื่อสี่เดือนก่อนว่า "โรคภัยมันเอาร่างกายของพ่อไปแล้ว อย่าให้มันเอาใจของเราไป ด้วย" <O:p</O:p
    <O:p</O:p
     
  12. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ข้อแตกต่างระหว่างพระสมเด็จวัดระฆัง กับ พระสมเด็จเจ้าคุณกรมท่า<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    1.เนื้อหาของสมเด็จเจ้าคุณกรมท่าจะกระเดียดไปทางพระพิมพ์สมเด็จของวัดใหม่อมตรส แต่ที่เป็นชนิดเนื้อน้ำมันก็มีอยู่เป็นบางพิมพ์ บางพิมพ์ก็ห่างไกลจากวัดระฆังฯ บางพิมพ์ก็ใกล้เคียงกัน แต่มีข้อแตกต่างที่พอจะเห็นได้ชัดจากการลงรัก การตัดขอบ มวลสาร และจุดโค๊ด<O:p</O:p

    2.สมเด็จวัดระฆังฯทุกองค์ทุกทรงพิมพ์จะต้องมีการตัดขอบข้าง ส่วนพระสมเด็จเจ้าคุณกรมท่ามีทั้งพิมพ์ที่มีการตัดขอบข้างและพิมพ์ยกถอดในตัว ไม่มีการคัดขอบ
    <O:p</O:p

    3.ด้านหลังของพระพิมพ์สมเด็จวัดระฆังฯ จะปรากฏรอยคลื่นที่เรียกว่า
     
  13. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ใครใช้บัตรเครดิต โปรดอ่าน ด่วน...

    ข้อความต่อไปนี้มีประโยชน์อย่างยิ่งที่จะรู้จักวิธีการหลอกลวงฉ้อฉล
    ด้วยการแอบอ้างว่าโทรมาจาก Visa หรือ Master Cards
    เพื่อให้คุณได้ระมัดระวังตนเองไม่ตกเป็นเหยื่อวิธีการฉ้อฉลดังกล่าว
    เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ภรรยาผมได้รับโทรศัพท์จาก Visa และผมก็ได้รับโทรศัพท์ จาก MasterCard ในวันพฤหัสต่อมา

    คนที่โทรมาพูดว่า
    ดิชั้น........(ชื่อ) โทรจากฝ่ายรักษาความปลอดภัย ของ Visa ค่ะ
    คือเราตรวจพบว่ามีความผิดปกติในการสั่งซื้อ จึงโทรมาตรวจสอบว่าบัตร Visa
    ของคุณที่ออกโดยธนาคาร.......(ชื่อ) มีการสั่งซื้ออุปกรณ์ระบบป้องกันภัยมูลค่า 20,000บาท
    จากบริษัท ในอเมริกาหรือเปล่าคะ”

    เมื่อคุณบอกว่า “เปล่านี่คะ”

    คนที่โทรมาก็จะบอกว่า “ถ้ายังงั้นเราจะคืนเงินให้คุณกลับคืน
    เรากำลังตรวจสอบบริษัทฉ้อฉล โดยมีวงเงินที่ฉ้อโกงลูกค้า ครั้งละ12,000 - 20,000 บาท
    เราจะส่งหนังสือแจ้งการคืนเงินให้คุณทราบที่....(ที่อยู่ของคุณ)
    ถูกต้องมั้ยคะ”

    เมื่อคุณบอกว่า “ถูกต้องค่ะ”
    คนที่โทรมาจะพูดต่อไปว่า “ดิชั้นจะทำการสืบสวนต่อไป หากคุณมีข้อสงสัย
    ให้โทรตามหมายเลขที่อยู่หลังบัตรแล้วต่อฝ่ายรักษาความปลอดภัย
    คุณต้องระบุหมายเลขอ้างอิงนี้ (คนที่โทรมาจะบอกหมายเลข 6 หลัก)
    คุณต้องการให้ดิชั้นทวนหมายเลขมั้ยคะ”

    ต่อไปนี้จะเป็นส่วนสำคัญของกลโกง

    คนที่โทรมาจะพูดว่า
    “เพื่อให้ทราบว่าคุณเป็นเจ้าของที่แท้จริงของเครดิตการ์ดใบนี้ กรุณาพลิกด้านหลังของบัตร และให้ดูที่ หมายเลข 7 ตัวสุดท้าย 4 ตัวแรกจะเป็นหมายเลขบัตร 3 ตัวต่อมาจะเป็นเลข
    สำหรับรักษาความปลอดภัยว่าคุณคือเจ้าของที่แท้จริง และใช้ในการสั่งซื้อสินค้าทางอินเตอร์เน็ท
    กรุณาบอกเลข 3 ตัวสุดท้ายด้วยค่ะ”

    เมื่อคุณบอกเลข 3 ตัวสุดท้ายไป คนที่โทรมาจะบอกว่า <?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>

    <o:p></o:p>
    “ตัวเลขถูกต้อง ดิชั้นต้องการให้แน่ใจว่าบัตรยังอยู่กับคุณ มิได้สูญหาย
    หรือถูกขโมย คุณมีข้อสงสัยอื่นใดอีกหรือเปล่าคะ”

    เมื่อคุณบอกว่า “ไม่มีค่ะ”คนโทรมาจะขอบคุณ และบอกว่าหากมีในภายหลังก็ให้โทรสอบถามได้เสมอ แล้ววางสาย

    ความจริงคุณพูดไปน้อยมาก
    คนโทรมาไม่ได้ขอหมายเลขบัตรเครดิตของคุณ

    แต่ภรรยาผมเกิดเอะใจ จึงโทรกลับไปหลังจากวางสาย 20 นาที
    ปรากฏว่า Visa ตัวจริงบอกว่า ภรรยาผมถูกหลอกแล้ว
    และเมื่อ 15 นาทีที่ผ่านมาได้มีรายการซื้อสินค้าจำนวน 20,000 บาท ส่งมาเรียกเก็บ
    ในที่สุด Visa ได้ยกเลิกบัตรและออกบัตรใหม่ให้

    ผู้ฉ้อฉลต้องการเพียงเลข 3 ตัวสุดท้ายด้านหลังบัตร
    อย่าให้ไปเป็นอันขาด ให้คุณบอกว่า แล้วจะโทรกลับไปแจ้งเองโดยตรงจะดีกว่า

    วันพฤหัสต่อมา ผมได้รับโทรศัพท์จากคุณ....(ชื่อ) อ้างว่าโทรจาก MasterCard
    ซึ่งมีข้อความเหมือนกับที่ภรรยาผมได้รับคำต่อคำเลย
    ผมเลยไม่รอให้เขาพูดจบ ผมรีบวางสาย
    แล้วไปแจ้งความที่สถานีตำรวจตามที่ Visa ให้คำแนะนำมา ตำรวจบอกว่าได้รับแจ้งแบบเดียวกันนี้วันหนึ่งหลายราย

    จึงขอร้องให้ช่วยกันบอกต่อด้วย
    เราต้องระมัดระวังตนเอง ไม่ให้ตกเป็นเหยื่อ
    <o:p></o:p>
     
  14. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    สำหรับพระพิมพ์ของหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสกไว้นั้น จะมีเทวดาอยู่ในพระพิมพ์ด้วยนะครับ นอกเหนือจากพลังเสกของหลวงปู่ ถ้าหลวงปู่ 2 องค์เสก ก็จะมีเทวดาอยู่ 2 องค์ ถ้าหลวงปู่ 3 องค์เสก ก็จะมีเทวดาอยู่ 3 องค์ ถ้าหลวงปู่ 4 องค์เสก ก็จะมีเทวดาอยู่ 4 องค์ แต่ถ้าหลวงปู่ทั้ง 5 องค์เสก ก็จะมีเทวดาถึง 5 องค์นะครับ โดยส่วนตัวแล้ว ผมจะซื้อพวงมาลัยมาถวายหลวงปู่ แต่จะซื้อพวงมาลัยมาเพิ่มขึ้นอีกเพื่อมาไหว้พระพิมพ์ด้วย เพราะว่าพระพิมพ์จะมีเทวดารักษาองค์พระพิมพ์อยู่ จึงเหมือนกับว่าเราได้ไหว้เทวดาด้วยครับ และยิ่งกว่านั้น พระพิมพ์บางองค์มีพระธาตุขึ้น ผมจะแยกออกมาแล้วนำพระพิมพ์ที่พระธาตุขึ้นมาใส่ในโถเบญจรงค์และขึ้นหิ้งบูชาครับ

    สิ่งที่ไม่ควรทำคือ นำพระพิมพ์ไปในสถานที่อโคจรทุกประเภทนะครับ จะไม่ดีกับตนเองครับ
     
  15. kaicp

    kaicp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    146
    ค่าพลัง:
    +1,190
    ขอบคุณครับ

    คุณสิทธิพงษ์ครับ

    ขอบคุณครับที่กรุณาให้ความรู้เพิ่มเติมตลอด
    ผมคงต้องไปหาหนังสือที่คุณเคยแนะนำไว้ อ่านเพิ่มเติม
     
  16. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ผมเองก็ยังไม่เก่งครับ ทางกลุ่มลูกศิษย์และท่านอาจารย์ประถม ท่านเหล่านั้นเก่งกว่าผมเยอะ ถ้ามีอะไรที่ผมช่วยเหลือได้ก็บอกมาได้ครับ


    ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

    บทความวันนี้ (10 มีค.2549) เป็นเรื่องราวของพ่อกับลูกชายคนหนึ่งครับ ลองอ่านกันดู

    คำถามจากพ่อ<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ชายแก่เลยวัย 70 คนหนึ่งคุยกับลูกชายที่เพิ่งกลับมาเยี่ยม <O:p</O:p
    หลังจากแต่งงานย้ายครอบครัวออกไปไม่กี่ปี <O:p</O:p
    ชายแก่ : แจ๊ค (ชื่อลูกชาย) นั่นอะไรลูก ? พ่อเห็นลาง ๆ <O:p</O:p
    แจ๊ค : อ๋อ วัวหน่ะพ่อ <O:p</O:p
    เวลาผ่านไป 2-3 นาที <O:p</O:p
    ชายแก่ : แจ๊ค นั่นอะไรลูก ? <O:p</O:p
    แจ๊ค : วัวตัวเดิมนั่นแหละพ่อ ยังไม่ไปไหนเลย <O:p</O:p
    ผ่านไปอีก 2-3 นาที <O:p</O:p
    ชายแก่ : แจ๊ค นั่นอะไรอีกล่ะลูก ? <O:p</O:p
    แจ๊ค : (เริ่มมีอารมณ์หงุดหงิด) วัวพ่อวัว !! วัวตัวเดิมที่เพิ่งถามนั่นแหละ <O:p</O:p
    เวลาผ่านไปอีก 2-3 นาที <O:p</O:p
    ชายแก่ : แจ๊ค นั่นอะไรลูก ? <O:p</O:p
    แจ๊ค : (เริ่มทนไม่ไหว) เอ๊ะ !! พ่อนี่ยังไงนะ ถามซ้ำ ๆ ซาก ๆ อยู่ได้ <O:p</O:p
    ผมจะบอกครั้งสุดท้ายแล้วนะว่า วัว...!! <O:p</O:p
    ผ่านไปอีก 2-3 นาที <O:p</O:p
    ชายแก่ : แจ๊ค นั่นอะไรน่ะลูก ? <O:p</O:p
    แจ๊ค : โอ๊ย !!! พ่อเลอะเลือนแล้ว คุยกันไม่รู้เรื่อง ผมไม่คุยกับพ่อแล้ว <O:p</O:p
    แล้วแจ๊คก็ผละจากพ่อไปอย่างอารมณ์เสียเป็นที่สุด เวลาผ่านไป จวบจนตอนเย็น <O:p</O:p
    ได้เวลาอาหารค่ำ <O:p</O:p
    เมื่อไม่เห็นผู้เป็นพ่อลงมา แจ๊คจึงเดินขึ้นไปตามที่ห้อง ณ ที่นั่น <O:p</O:p
    เขาได้พบชายแก่ นั่งเหม่อลอย <O:p</O:p
    ข้าง ๆ มีไดอารี่เก่า ๆ เล่มหนึ่งที่เพิ่งเขียนบันทึกในวันนี้เสร็จ <O:p</O:p
    แจ๊คถือวิสาสะเข้าไปอ่าน ความว่า...ครั้งหนึ่งเมื่อ 40 กว่าปีก่อนมาแล้ว <O:p</O:p
    เรามีลูกชายคนหนึ่งที่เรารักมากที่สุด <O:p</O:p
    เราตั้งชื่อเค้าเองว่า...แจ๊ค ในวันที่อากาศแจ่มใสวันหนึ่ง <O:p</O:p
    เราพาแจ๊คออกไปเดินเล่น ตอนนั้นแจ๊คกำลังพูดได้เก่งทีเดียว <O:p</O:p
    เราพาเค้าไปนั่งที่สวนหลังบ้าน พอดีมีวัวผ่านมา... <O:p</O:p
    แจ๊คถามเราว่า พ่อ นั่นอะไร...วัวไงลูก เราตอบ เวลาผ่านไป อีกไม่ถึงนาที <O:p</O:p
    แจ๊คก็ถามคำถามเดิมเราอีก <O:p</O:p
    เราก็ตอบเช่นเดิมอีก เป็นอย่างนี้อยู่ถึง 25 ครั้ง <O:p</O:p
    ...เราไม่เคยเบื่อหน่ายเลยที่จะตอบคำถามเดิม ๆ เหล่านั้น <O:p</O:p
    เรากลับรู้สึกดีใจอย่างที่สุดที่ลูกสนใจเราอย่างไม่เบื่อหน่าย... <O:p</O:p
    แต่ในวันนี้ ณ ที่แห่งเดิม คน 2 คน ที่เคยถามคำถามเดียวกัน <O:p</O:p
    หากแต่ว่าเราเป็นฝ่ายถาม <O:p</O:p
    แจ๊คเป็นฝ่ายตอบ... เพียง 5 ครั้งเท่านั้น ลูกก็ตวาดเสียงดังใส่เรา <O:p</O:p
    หาว่าเราเลอะเลือน รังเกียจแม้แต่จะคุยกับเราต่อไป... <O:p</O:p
    เมื่ออ่าบจบแจ๊ครู้สึกผิดขึ้นมาจับใจ พ่อเลี้ยงเขามาอย่างดี <O:p</O:p
    แต่วันนี้สิ่งที่เขาทำให้ท่านคือ การตวาดเสียงดัง ไม่พูดด้วยแล้วก็เดินหนีไป <O:p</O:p
    เขาตระหนักว่า เขาได้ทำสิ่งผิดพลาดซึ่งเขาเองแทบไม่รู้ตัว แล้วคุณล่ะ <O:p</O:p
    วันนี้คุณได้ทำอะไรดี ๆ ให้ท่านเหล่านั้นหรือยัง ?... <O:p</O:p
    <O:p</O:p
     
  17. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  18. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ข้อคิดดีๆ<O:p</O:p

    <O:p</O:p

    ชายหนุ่มคนหนึ่งได้รับเชิญจากมหาวิทยาลัยเอกชน


    เพื่อนให้เป็นวิทยากรพิเศษสอนวิชาปรัชญาให้กับนักศึกษาปริญญาโท
    เขาเตรียมการสอนอยู่หลายวัน
    จึงตัดสินใจจะสอนนักศึกษาเหล่านั้นด้วยแบบฝึกหัดง่าย ๆ
    แต่แฝงไว้ด้วยข้อคิด

    เขาเดินเข้าห้องเรียนมาพร้อมด้วยของสองสามอย่างบรรจุอยู่ในกระเป๋าคู่ใจ
    เมื่อได้เวลาเรียน

    <O:p</O:p

    เขาหยิบเหยือกแก้วขนาดใหญ่ขึ้นมา
    แล้วใส่ลูกเทนนิสลงไปจนเต็ม
     
  19. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ผมขอแจ้งให้ทุกท่านทราบว่า ผมจะแจกพระพิมพ์อุ้มบาตรเล็ก รวม 5 พระธรรมทูต 1 องค์ในการทำบุญบูชาจำนวน 1,000.-บาท ในกระทู้ขอความเมตตาต่อชีวิตพระ เณร


    หากหลังจากวันที่ 31 มีนาคม 2549 แล้ว ถ้ายังไม่มีใครบูชาไป ผมขออนุญาตงดแจกนะครับ


    ส่วนจะมีพระพิมพ์อะไรที่จะให้บูชากันอีก ในการทำบุญขอความเมตตาต่อชีวิตพระ เณร ผมจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง แต่รับรองเป็นของวังหน้าเช่นกัน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 มีนาคม 2006
  20. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ผมขอแนะนำเว็บไซด์ที่น่าสนใจ เป็นเรื่องราวของในหลวงของเรา ผมเข้าไปอ่านแล้ว ได้ข้อคิดที่ดีนำกลับมาใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันได้ ลองเข้าไปชมกันดูนะครับ

    http://www.thaimonarchy.com

    LONG LIVE HIS MAJESTY THE KING
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC02296.JPG
      DSC02296.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.3 MB
      เปิดดู:
      3,641
    • DSC_0016.jpg
      DSC_0016.jpg
      ขนาดไฟล์:
      228.5 KB
      เปิดดู:
      1,722
    • DSC_0031 2.JPG
      DSC_0031 2.JPG
      ขนาดไฟล์:
      344.4 KB
      เปิดดู:
      764
    • DSC_0035 2.jpg
      DSC_0035 2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      384.5 KB
      เปิดดู:
      193
    • DSC_0195 2.jpg
      DSC_0195 2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      237.7 KB
      เปิดดู:
      194
    • DSC_0198 2.jpg
      DSC_0198 2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      219.6 KB
      เปิดดู:
      189
    • DSC_00311 2.JPG
      DSC_00311 2.JPG
      ขนาดไฟล์:
      377.4 KB
      เปิดดู:
      618
    • DSC_0038 2.jpg
      DSC_0038 2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      443 KB
      เปิดดู:
      185
    • P1090258.JPG
      P1090258.JPG
      ขนาดไฟล์:
      111.8 KB
      เปิดดู:
      388
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 มีนาคม 2010

แชร์หน้านี้

Loading...