อยากรู้เกี่ยวกับกสิณสีแดง

ที่อ่านมาเขาว่าเอาดอกไม้สีแดง หรือ ขึงผ้าเอาสีแดงทา เอามาฝึกก็ได้
อยากรู้สามารถใช้สิ่งของที่มีสีแดงทั้งหมดมาฝึกได้ไหมค่ะ จำเป็นต้องเป็นของที่พื้นผิวเรียบเนียนไหมค่ะ

thaxx

 

โดยปกติจะใช้สิ่งของที่มีสีแดง แต่เน้นให้มีความเรียบเนียนไม่ตะปุ่มตะป่ำเพราะจะกลายเป็นกสิณโทษ ดังนั้นใช้ผ้าแดงหรือกระดาษแดงที่ไม่มีตำหนิดีที่สุดครับ

 

เพ่ง "พระแก้วแดง" .........ครับ........ได้ทั้ง.....พุทธานุสติ......และ.... Red Kasin.......

 

คิดอยู่เหมือนกันค่ะ ถ้าไม่เรียบจะเป็นกสิณโทษ
ขอบคุณค่ะที่ให้คำแนะนำ

 

เพ่งพระแก้วแดง มันเป็นอย่างไรค่ะ

 

สาธุ ขออนุโมทนา

ลองเลือกดูครับ ชอบองค์ไหนก็จำไว้ให้เเม่น
นึกให้เห็นด้วยใจ อยู่เสมอในขณะทำสมาธิ ด้วยใจที่สบายๆ ผ่อนคลาย หรือ จะนึกให้เห็น
(พระเเก้วเเดง)ด้วยใจในทุกอริยาบถอยู่เสมอได้ยิ่งดีครับ

​

​

​

​

​

 

​

จาก หนังสือกรรมฐาน ๔๐
เรื่อง พุทธานุสสติถึงสมาบัติ
โดย หลวงพ่อพระราชพรหมยาน(วีระ ถาวโร)
วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี

........ พุทธานุสสติกรรมฐานและอนุสสติทั้งหมด เว้นไว้แต่อานาปานสติ จะเข้าถึงอุปจารสมาธิเท่านั้น ท่านว่าไว้อย่างนั้น
เราก็ดัดแปลงให้เข้าถึงฌาน ๘ เสียให้หมดมันจะเป็นยังไงไป ทำเป็นเสียอย่างเดียวมันก็ทำได้ เข้าใจแล้วก็ทำได้ พระพุทธเจ้าไม่ได้จำกัด ถ้าเราจะทรงฌาน ๘ ทำยังไง<O</O​

แทนที่เราจะภาวนาเฉยๆ เราก็จับภาพพระพุทธรูป กำหนดภาพไว้ ลืมตาดูภาพพระพุทธรูปองค์ใดองค์หนึ่งก็ได้ นึกถึงภาพพระพุทธรูปองค์ใดองค์หนึ่งก็ได้ ที่เราต้องการ เรามีความเลื่อมใสพอใจอยู่ เวลาจับลมหายใจเข้าออกภาวนาว่า พุธโธ ก็นึกเห็นภาพขององค์สมเด็จพระบรมครูจะเป็นพระพุทธรูปก็ได้ให้ปรากฏอยู่ในใจ ไม่ใช่ไปนั่งคอยให้ภาพลอยมาแบบนี้ใช้ไม่ได้ ภาวนาไปแล้วก็นึกถึงภาพไปด้วย จะนึกอยู่ในอกให้เห็นอยู่ในอกหรือเห็นภายนอกก็ได้ไม่จำกัด<O</O​

ถ้านึกถึงภาพนั้นตามภาพเดิม อย่างนี้เรียกว่า อุคหสมาธิหรืออุคหนิมิต ​

ถ้าภาพเดิมนั้นขยายไปเปลี่ยนแปลงไปชักใหญ่ขึ้น จะสูงขึ้นจะเล็กลง แล้วก็มีสีสันวรรณะเริ่มเปลี่ยนแปลงไปทีละน้อยๆ จากสีเดิมกลายเป็นสีจางไปนิดหน่อย จางลงไปจางลงไป แต่เรารู้สึกอารมณ์จิตนึกเห็นชัด นึกเห็นนะ ไม่ใช่ภาพลอยมา อารมณ์จิตนึกเห็นชัดจนกระทั่งปรากฏเป็นแก้วใส อย่างนี้ก็ชื่อว่าเป็น อุปจารสมาธิตอนกลาง<O</O​

ตอนนี้แก้วใสกลายเป็นแก้วประกายพรึก แพรวพราวไปหมดทั้งองค์ จิตใจสามารถจะบังคับให้ภาพนั้นเล็กก็ได้ จะให้ใหญ่ก็ได้ สูงก็ได้ ต่ำก็ได้ ตั้งอยู่ข้างหน้าก็ได้ ข้างหลังก็ได้ตามใจนึก นึกอย่างไร ภาพนั้นปรากฏไปตามนั้น มีความใสสะอาดสุกใสเป็นกรณีพิเศษ อย่างนี้องค์สมเด็จพระบรมโลกเชษฐ์ท่านกล่าวว่าเป็น ปฐมฌาน<O</O

การจับภาพนี่จับให้สนิท ให้คิดอยู่เมื่อไรได้เมื่อนั้น เดินไปบิณฑบาต เดินไปธุระ นั่งอยู่ นึกเห็นเมื่อไรเห็นได้เมื่อนั้นทันที นี่อย่างนี้เป็น กสิณด้วย เป็นพุทธานุสสติกรรมฐานด้วย<O</O​

ถ้าการเห็นภาพแบบนั้น ปรากฏว่าคำภาวนาว่าพุทโธหายไป ภาพใสขึ้นผิดกว่าเดิมอันนี้เป็น ฌานที่ ๒ มีจิตชุ่มชื่น ​

อาการของจิตมันเหมือนกัน ภาพใสสะอาดขึ้น มีการทรงตัวมากขึ้น มีความแจ่มใสมากขึ้น ความชุ่มชื่นหายไป จิตทรงตัวแนบนิ่งสนิท แล้วก็ลมหายใจน้อย ได้ยินเสียงภายนอกเบา อันนี้เป็น ฌานที่ ๓<O</O​

การเห็นภาพชัดเจนแจ่มใสมากเป็นกรณีพิเศษ สว่างไสวคล้ายกับพระอาทิตย์ทรงกลด หรือว่าคล้ายกับกระจกเงาที่สะท้อนแสงแดดดวงใหญ่ ใจไม่ยุ่งกับอารมณ์อย่างอื่น เป็นอุเบกขารมณ์ทรงสบาย เห็นแนบนิ่งสนิท จะนั่งนานเท่าไรก็เห็นได้ตามความปราถนา หูไม่ได้ยินเสียงภายนอก ไม่ปรากฏลมหายใจ
อย่างนี้เป็น ฌานที่ ๔........... ​

​

<!-- google_ad_section_end -->

 

ขอบคุณสำหรับนำภาพพระแก้วสีแดงมาให้ดูพร้อมคำแนะนำในการเพ่งกสิณค่ะ

 

การเพ่งกสิณนั้น ถ้าเรากำหนดให้เห็นเป็นพระพุทธรูป(ด้วยใจ ไม่ใช่เอาสายตาเพ่ง)

ครูบาอาจารย์ท่านบอกว่า เป็นทั้งกสิณ เป็นทั้งพุทธานุสติกรรมฐาน ครับ

​

 

คุณวิมุติมรรคเหมือนจะรู้เลยน่ะค่ะ ว่าอยากจะถามคำถามนี้พอดีเลย..แต่ได้คำตอบก่อนซ่ะแล้ว ขอบคุณค่ะthaxx

 

​

ถ้ากำหนดเป็นพระพุทธรูปสีเเดง ก็เป็นกสิณสีเเดง(โลหิตกสิณ) + พุทธานุสติกรรมฐาน

ถ้ากำหนดเป็นพระพุทธรูปสีเขียว ก็เป็นกสิณสีเขียว(นีลกสิณ) + พุทธานุสติกรรมฐาน

ถ้ากำหนดเป็นพระพุทธรูปสีขาว ก็เป็นกสิณสีขาว(โอทาตกสิณ) + พุทธานุสติกรรมฐาน

ถ้ากำหนดเป็นพระพุทธรูปสีเหลือง ก็เป็นกสิณสีเหลือง(ปิตกสิณ) + พุทธานุสติกรรมฐาน

ถ้ากำหนดเป็นพระพุทธรูปใส ก็เป็นกสิณเเสงสว่าง(อาโลกกสิณ) + พุทธานุสติกรรมฐาน


ขออนุโมทนาครับ<!-- google_ad_section_end -->

 

เป็นคนที่กลัวสีแดง และมีโทสะจริต ต้องทำยังไงดีคะ คือกลัวสีแดงมากๆ

 

โทสะจริต โกรธง่าย ใช้
สีเขียว สีขาว สีเหลือง สีแดง
ใช้ได้หมด อย่าให้มีสีอื่นปนก็พอ

 

ใช้สีเขียวยิ่งดีครับ

 

กระทู้ค่อนข้างเก่า...แต่เนื้อหา...และรูป สวยดีมากครับ....

 

อนุโมทนาครับ รูปสุดยอดจริงๆ ฝึกกสิณ+พุทธานุสติ

 

เรื่องพื้นฐานที่ต้องฝึกให้คล่อง

ไม่มีความรู้ ด้อยปัญญา แต่อยากร่วมเสวนาครับ

ขอบคุณสำหรับภาพสวยๆครับ

เคยเห็นพวกที่คล่องๆ เขาฝึกกสิณกัน เอาแฟนต้าน้ำแดงมาใส่แก้ว แล้วเอามาฝึกกสิณ ถามว่าฝึกอะไรกันหรือคุณ? ท่านบอกว่าฝึกอาโปกสิณควบโลหิตกสิณ (เคล็ดง่ายๆ ที่เห็น เวลาฝึกก็จับนิมิตแยกส่วน กำหนดนิมิตของน้ำส่วนหนึ่งและกำหนดนิมิตของสีแดงอีกส่วนหนึ่ง รวมแล้วกำหนดนิมิตขึ้นมาในใจสองส่วน) แบบนี้ประหยัดเวลา สมใจพระเดชพระคุณเลยจริงๆ

พวกคล่องๆแล้ว เขาจะฝึกพลิกแพลงกันแบบไหนก็ตามสะดวก แต่ในชั้นเริ่มต้น เจ้าของกระทู้ก็ว่ากันตามแบบพื้นฐานที่ท่านๆทั้งหลายเสนอไว้ก่อนก็จะดีมากครับ

 

อิอิ...เหมือนเลย..ค่ะ
เราเองก็ว่าจะลองฝึกเหมือนกัน...กะว่าถ้าเรากำลังโกรธใคร เราจะหาไม้หน้าสามมาตีหัว ให้ไอ้คนๆนั้นเลือดอาบ แล้วก็ยืนมอง คิดว่าอารมณ์โกรษน่าจะหายนะ
เพราะว่ากำลังซะใจ...อิอิ (ครายเครียดนะค่ะ)

 

เหมือนนั้นเป็นเช่นไร? เหมือนในวัตรหรือเหมือนในจริยา?

เหมือนอย่างไรหรือคร้าบ? คุณทิพย์พิมลน่ารักมากๆ ที่แค่กะๆ ไม่ได้ทำอย่างนั้นจริงๆ เอาเป็นว่าดื่มแฟนต้าน้ำแดงเย็นๆ ให้สดชื่น ซาบซ่าก่อนล่ะกัน

ยังไงๆ ฝึกแล้ว ก็ไปคุยกันได้ หรือจะแวะเข้าไปอ่านเรื่องการฝึกของผมได้ ที่ห้องอภิญญา xp ครับ

ปล.ขอแก้ไขเรื่องการใช้ภาษาไทยเล็กน้อยครับ เผื่อเยาวชน อนาคตของชาติ เข้ามาอ่านบอร์ด

เดิม คิดว่าอารมณ์โกรษน่าจะหายนะ
เพราะว่ากำลังซะใจ...อิอิ (ครายเครียดนะค่ะ)

แก้เป็น คิดว่าอารมณ์โกรธน่าจะหายนะ
เพราะว่ากำลังซะใจ...อิอิ (คลายเครียดนะคะ)

 

ตายแล้ว...อายจริงๆเลย เค้ารู้กันหมดเลยว่าหนูตกภาษาไทย (ขอบคุณค่ะ)