การผจญภัยของกระเทยปฏิบัติธรรม

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย กระเทย-ราคะ-กล้า, 18 มีนาคม 2009.

  1. กระเทย-ราคะ-กล้า

    กระเทย-ราคะ-กล้า สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +5
    สวัสดีค่ะ ทุกท่าน ถ้ากระทู้นี้ไม่เหมาะสมอย่างไรก็ลบได้เลยนะคะ

    เรื่องมีอยู่ว่าดิฉันเป็นกระเทย กายเป็นชาย ใจเป็นหญิง มีราคะกล้า และอยากมีสามี แต่ปรารถนาจะปฏิบัติธรรม ปฏิบัติได้สักพักหนึ่งควบคู่กับปริยัติก็เกิดท้อถอย เพราะมีความสงสัยว่า กระเทยปฏิบัติธรรมได้หรือไม่และจะได้มรรคผลหรือเปล่า และปฏิบัติไปได้มากสุดเท่าไร ดิฉันไม่อยากไปสวรรค์สักเท่าไร เพราะว่าอ่านจากตำราดูแล้วก็เท่านั้น น่าจะมีอะไรที่ดีกว่านั้น การได้มรรคผลแม้ขั้นต่ำ ก็เท่ากับว่าได้เห็นพระนิพพานรำไร ทางนั้นน่าจะเป็นความสุขที่แท้จริง

    ดิฉันได้อ่านมิลินทปัญหา ก็ได้ข้อสรุปว่า พวกเราชาวกระเทย ไม่มีวันได้มรรคผลหรอก ดิฉันก็ไปสืบค้นในเนตก็ได้ข้อมูลมาต่าง ๆ กันมาก ทำให้ดิฉันสับสนยิ่งนัก แต่ดิฉันก็พอสรุปได้ว่า

    เกิดมาเป็นกระเทยก็ไม่ต่างกับสัตว์เดรัจฉาน ต้องเกลือกกลั้วกับกามราคะและต้องพานพบกับความรักที่ฉาบฉวยและเป็นไปไม่ได้ ต้องกล้ำกลืนฝืนโกหกสังคมเรื่องคู่ครอง และเผลอ ๆ จะผิดข้อกาเมเสียง่าย ๆ ถ้าพ่อแม่อีกฝ่ายหนึ่งรู้เข้าเขาคงต้องเสียใจแน่ ๆ ใช่ไหมคะ

    สรุปว่ากระเทยไม่ใช่เวไนย แต่เป็นเดรัจฉานเสพกาม แต่ดิฉันก็ไม่เชื่อข้อมูลพวกนี้ ดิฉันก็เลยคิดจะบวชแต่ก็บวชไม่ได้ เพราะมีภาระ และอีกอย่างถ้าบวช มันก็ผิดตั้งแต่อุปัชฌาท่านถามแล้ว ดิฉันอยากบวชนาน ๆ เลยตัดสินใจบวชเมื่อวานซะเลย ซึ่งเป็นวันที่ 17 มีนาคมค่ะ

    ดิฉันไปเยี่ยมแฟนเก่า ด้วยกามราคะอันแรงกล้า เราเลิกกันแล้วแต่ยังตัดกันไม่ขาด ดิฉันคิดว่า เราควรจะคบกันต่อไปดี หรือว่าเราจะบวชดีนะ เราบวชดีกว่า ดิฉันก็นอนดูทีวีไปเรื่อย ๆ ใจนึงก็อยากจะโลมเลียม แต่อีกใจนึงห้ามไว้ว่า บวช ๆๆ ดิฉันก็เลยนอนดูทีวีโดยที่ไม่ได้ทำอะไร พอดิฉันทนไม่ไหว ดิฉันก็เลยจะเอามือไปกอด ไม่บวชแล้ว แต่ใจนึงก็นึกรังเกียจมันรู้สึกเหม็นเปรี้ยวมากกว่าค่ะ อีกอย่างมันอยากพิสูจน์คำพูดของพระนาคเสนมากกว่าค่ะ ดิฉันเลยอธิษฐานค่ะ เพราะดิฉันคิดว่า วิเศษจริง ทำไมฉันถึงรังเกียจคุณแฟนเก่าได้นะ ฉันตั้งใจมาเสพกามนี่นา ฉันเลยอธิษฐานว่า ถ้าฉันจะบวช ก็ขอให้ฉันเห็นแฟนเก่าเป็นโครงกระดูกเถอะเพี้ยง หลับตาอธิษฐานค่ะ

    แล้วก็ลืมตาค่ะ สรุปว่า ก็เป็นคุณแฟนเหมือนเดิมค่ะ ดิฉันตั้งใจจะบวชใจสัก 2 พรรษา คือไปถึงวันที่ 23 ตุลาคม ปีหน้าค่ะ ดิฉันก็กรี๊ดในใจค่ะ ว่าถ้าบวชก็คงจะเหลวเป๋วมั้ง คำพูดของพระนาคเสนคงจะเป็นจริง ถ้างั้นเสพกามเลยดีกว่า เอ๊ะ แต่ไม่สิ เพราะเอดิสัน ยังบอกเลยว่า การทดลองไม่ประสบผลสำเร็จเป็นพันครั้ง ไม่ได้หมายความว่าไม่ประสบความสำเร็จ ถ้าดิฉันบวชแล้วปฏิบัติธรรมอย่างยิ่งยวดเนี่ย แม้ไม่เป็นจริง ดิฉันจะได้การันตีด้วยความพยายามของดิฉันว่า กระเทยอย่างเรา ๆ บรรุลมรรคผลไม่ได้หรอก เสพกามดีกว่า ถ้าฉันปฏิบัติไปเรื่อย ๆ แล้วไม่มีอะไรดีขึ้น ฉันจะได้บอกกับเพื่อนกระเทยทุกคนด้วยความภาคภูมิว่า ฉันได้ทำกิจฉันจนสำเร็จลุล่วงแล้ว ดิฉันไม่รู้หรอกว่า จบพรรษาที่สองแล้วผลการบวชใจฉันเป็นยังไง ให้เวลาฉันทำการทดลองก่อน แล้วดิฉันจะบอก

    สรุปว่าฉันก็บอกแฟนเก่าหลังจากเราดูสารคดีกันจบว่า ไปส่งหน่อยสิ เขาก็ไปส่งฉันแต่โดยดีค่ะ โดยที่ฉันไม่ได้แตะเนื้อหนังเลยแม้แต่น้อย สรุปว่าฝ่ายบวชชนะค่ะ กลับถึงบ้าน ดิฉันก็ญัตติเองเลยค่ะ พุทธัง สรณัง คัจฉามิ ไปเรื่อย ๆ จนจบ ตติยัมปิ สังฆัง สรณัง คัจฉามิ ขอบวชใจฝากตัวเป็นลูกพระพุทธองค์ 2 พรรษานะ ฉันจะทำเพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงและเพื่อความสุขแด่มหาชนกระเทยชาวโลก

    ดิฉันทำวัตรเย็นแล้วพิจารณาข้อธรรมต่าง ๆ เดินจงกรม นั่งสมาธิ ดิฉันก็ไม่หวังอะไรหรอกนะคะ เพราะไม่ได้เห็นกระดูกคุณแฟนเก่า ดิฉันจะทำให้มากที่สุดเพื่อพิสูจน์ค่ะ แม้มันจะไม่ยิ่งใหญ่เท่าตอนพระพุทธองค์บำเพ็ญทุกรกิริยาก็ตาม สิ่งที่ดิฉันจะทำตลอด 2 พรรษาคือ

    1. ให้ทานค่ะ - ให้ทุก ๆ วันเลยค่ะ
    2. ถือศีลค่ะ - ศีล 5 ดิฉันจะถืออย่างเคร่งครัด เท่าที่จะทำได้ จะอาราธนาศีล 8 รักษาทุก 8, 14 และ 15 ค่ำ
    3. ภาวนาค่ะ - สวดมนต์เช้าเย็นทุก ๆ วัน เดินจงกรมนั่งสมาธิให้ได้ทุก ๆ วันนะคะ จะพยายามค่ะ ปริยัติและฟังธรรมตามกาล

    เพื่อความสุขแด่ชาวกระเทยผู้มีความสงสัย ดิฉันจะมาเล่าให้คุณท่านฟังเป็นระยะ ๆ นะคะ ว่าบทสรุปของความสงสัยมันจะออกมาเป็นอย่างไร

    วันนี้วันที่ 18 มีนาคมค่ะ อาราธนาศีล 8 จะรักษาให้ได้วันหนึ่งคืนหนึ่ง เมื่อเช้าก็สวดพระปริตรเจ็ดตำนานเนื่องในวันพระค่ะ ได้ใส่บาตรพระไปตอนเช้า ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีค่ะ ก็เกิดปิติอิ่มใจเมื่อใส่บาตร

    อย่างน้อยวันนี้ก็สรุปได้ว่า กระเทยใส่บาตรก็เกิดปิติอิ่มใจได้นะคะ

    ไว้จะมาเล่าใหม่นะคะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มีนาคม 2009
  2. หญิงจัน

    หญิงจัน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    962
    ค่าพลัง:
    +2,655
    :z5 สู้ ๆๆ ๆๆ นะคะ อย่างน้อยคุณก็มีความคิดที่ดีกว่า พวกเกิดเป็นชายจริง หญิงแท้ (บางคน) หรือ ดาราบางคนที่มีข่าวไม่ดี แย่งผู้ชายกันบ่อย ๆ
     
  3. CharnK

    CharnK เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    444
    ค่าพลัง:
    +1,453
    เป็นกำลังใจให้ครับ แม้พระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันก็ยังเคยเกิดเป็นกระเทยมาก่อนในอดีตชาติ
     
  4. สบู่เลือด

    สบู่เลือด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    217
    ค่าพลัง:
    +391
    อนุโมทนาค่ะ กระทู้นี้คงเป็นสารถึงใครหลายๆคนที่คิดว่าตัวเองอาจจะไม่มีทางปฏิบัติธรรมได้นะคะ
     
  5. โป๊ยเซียนสาว

    โป๊ยเซียนสาว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,543
    ค่าพลัง:
    +2,279
    คงเคยได้ยินที่ว่า จิตเป็นนาย กายเป็นบ่าวนะคะ หากใจเรามั่นคงหนักแน่นที่จะทำดีจริง นั่นคือการตั้งสัจอธิฐานแล้วค่ะ และหากสามารถทำได้ไม่คลอนแคลน ไม่หวั่นไหวในสิ่งที่มากระทบที่ว่ากามราคะ คุณก้าวข้ามแห่งการหลอกล่อของกิเลสในใจได้ระดับหนึ่งแล้วค่ะ
    หมั่นระลึกปฎิบัติดูจิตของเราไปนะคะ แล้วจะพบคำตอบที่ค้นหา






    .
     
  6. ตรีนิสิงเห

    ตรีนิสิงเห เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    810
    ค่าพลัง:
    +1,339
    อนุโมทนาด้วยนะครับ เป็นกำลังใจให้คุณนะครับ ขอความศรัทธาในคุณพระรัตนตรัยจงเปี่ยมล้นในจิตของคุณนะครับ
     
  7. แม่จิงโจ้

    แม่จิงโจ้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    52
    ค่าพลัง:
    +195
    อนุโมทนาด้วยค่ะ และขอตั้งจิตอธิฐานขอให้คุณหลุดพ้นจากบ่วงกรรมและเอาชนะมารทั้งหลายทั้งปวงได้ ขอให้คุณได้บรรลุมรรคผลในการบวชครั้งนี้นะคะ
     
  8. เฮียปอ ตำมะลัง

    เฮียปอ ตำมะลัง ทุกสิ่งจบสิ้นลงด้วยความตาย วุ่นวายทำไม ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    24,969
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +91,130
    [​IMG]


    อ นุ โ ม ท นา ส า ธุ . . . . ดีแล้วชอบแล้ว
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 7-6.gif
      7-6.gif
      ขนาดไฟล์:
      27.8 KB
      เปิดดู:
      4,799
  9. pcman

    pcman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    56
    ค่าพลัง:
    +287
    เป็นกำลังใจให้ครับ ไม่ได้มรรคผลชาตินี้ ก็เป็นกำลังบุญส่งผลให้ได้มรรคผลง่ายขึ้นในชาติต่อ ๆ ไปครับ
     
  10. kongmoo

    kongmoo Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +64
    คนเราทุกคนเกิดมา มีสังขาร มีเวทนา มีความโลภความโกรธความหลง เหมือนกันมากน้อยขึ้นอยู่กับสิ่งที่สะสมมา มี"จิต" เช่นกันไม่แตกต่างอะไรกัน
    ผมเชื่อนะ เราทําภายในเราศึกษาที่ภายในเราเป็นผู้รู้อยู่ภายใน ไม่ว่าเราจะเป็นอะไรเราจะเป็นใครก็ตาม ชายหรือหญิงหรือกระเทย ถ้าจิตตั้งมั่นแล้ว ทุกคนสามารถพบเจอสิ่งดีๆแน่นอนครับ
     
  11. ผู้ฝึกตน

    ผู้ฝึกตน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +302
    เป็นกำลังใจให้กับเจ้าของกระทู้นะครับ และจากที่อ่านข้อความมาเข้าใจว่า ตอนนี้เจ้าของกระทู้กำลังบวชอยู่ ถ้าการแสดงความเห็นของผมถือเป็นการปรามาสพระสงฆ์หละก้อ ผมกราบขออโหสิกรรมด้วยครับ และจะขอแสดงความคิดเห็นซักนิดเป็นข้อๆ ดังนี้ครับ

    1.โดยส่วนตัวผมยึดมั่นในคำว่า ใจเป็นนาย กายเป็นบ่าว และ กรรมดีหรือชั่วเกิดจากจิต และจิตจะเป็นตัวกำหนดให้เรากระทำ ดังนั้นหากเมื่อใดที่เราคิดได้ว่าสิ่งที่จะทำเป็นสิ่งไม่ดี เราก็ควรกำหนดให้ความคิดเรื่องนั้นๆ หยุดเสีย(เกิดที่จิต ก็ดับที่จิต)
    2. ผลของการทำความดีและผลของการปฏิบัติธรรม ย่อมส่งผลดีแก่ผู้ปฏิบัติโดยไม่เกี่ยงว่าเกิดจากวรรณะใด เพศใด ขึ้นอยู่กับความมุ่งมั่นเพราะถ้าหากเรามุ่งมั่นอย่างแรงกล้าย่อมจะบรรลุมรรคผลได้ในชาติภพใด ชาติภพหนึ่ง ซึ่งก็ไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นเมื่อใด ยกเว้นแต่เป็นผู้บรรลุธรรมที่สามารถรู้เห็นอนาคตได้เท่านั้นครับ
    3.ข้อนี้ผมจะรบกวนขอจากเจ้าของกระทู้นะครับ
    - ถ้าเจ้าของกระทู้เป็นพระสงฆ์ ขอความกรุณาเปลี่ยนคำแทนตนจาก ดิฉัน เป็น อาตมา ตามสรรพนามที่ควรเป็นเถอะครับ
    - ในระหว่างบวช ขอความกรุณาเก็บอาการกระตุ้งกระติ้งให้มิดชิดด้วยครับ เพราะหากในระหว่างบวชแสดงอาการออกมา คนที่พบเห็นอาจจะดูไม่งามได้ และอาจจะนำไม่สู่การเสื่อมศรัทธาในพระพุทธศาสนาได้(อันนี้จะเป็นบาปนะครับ) ดังที่ปรากฏเป็นข่าวเมื่อไม่นานมานี้ครับ

    และสุดท้ายนี้ ผมอยากจะบอกว่า พระสงฆ์รูปใดที่ตอนก่อนจะบวชจะเป็นอย่างไรหรือเพศใดก็ช่าง แต่เมื่อในระหว่างบวชสามารถปฏิบัติธรรมได้ตามพระวินัย และ แลดูได้ว่าเหมาะสมที่จะได้ชื่อว่าเป็นพระสงฆ์ผู้เป็นสาวกแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และเป็นผู้สืบทอดพระศาสนา แล้วนั้น ผมก็พร้อมที่กราบนอบน้อมอย่างเคารพได้ทั้งสิ้นครับ

    ด้วยความเคารพอย่างสูง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มีนาคม 2009
  12. คุณ 4

    คุณ 4 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    733
    ค่าพลัง:
    +5,159
    เฮีย เป็นโคลงที่เพราะมาก ๆ สาธุด้วยคับ... :)
     
  13. ปรมิตร

    ปรมิตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    404
    ค่าพลัง:
    +528
    ขออนุญาติแสดงความคิดเห็นสักเล็กน้อย
    ผมว่าคุณกำลังฝืนพุทธวจนะ หากเคารพในพระศาสดา ก็ไม่พึงบวชนะครับเพราะรู้ว่า ตนเป็นข้อห้าม
    แต่ก็ห้ามนิพพานนะครับ ไม่ได้ห้ามสวรรค์ และถูกห้ามเพียงชาตินี้ ถ้าชาติหน้าได้เกิดเเล้วมิได้ตกอยู่ในฐานะอันต้องห้ามก็ บวชได้

    คุณศึกษามาดีแล้วก็ทราบว่าเป้นกรรมเก่า ควรอยุ่ในขอบเขตที่ท่านประกาสไว้ ฆารวาสก็ศึกษาธรรมะได้ ปฏิบัติธรรมได้ เป็นอริยบุคคลได้เช่นกัน มีคำกล่าวว่า โสดาบันเป็นธรรมะของฆารวาส ทำได้ง่ายกว่าบรรพชิต ผมว่า ทำโสดาบันให้แจ้งก่อนดีกว่าไหมครับ ค่อยไปบวชหึหึ ละสักกายะทิฐิ ความเห้นผิดว่า กายนี้ ใจนี้เป็นเราก่อน อย่างน้อยไม่ได้นิพพานในชาตินี้ ก็ไม่ต้องไปอบายเพราะมีสติตามรักษา
    ผมว่าถ้าสงสัยในข้อห้ามก็ไม่พึงกระทำ


    แต่เอาเถิด เมื่อคุณมีสติอยู่เนืองๆ เรื่องที่ผ่านมาก็เป็นอดีตไปแล้ว(เรื่องที่เสพกามกับชายก็แล้วๆ ไป อย่าเอามาคิดให้จิตขึ้นวิถีใหม่ เพราะจิตจะจำสภาวะนั้นๆไปด้วย) เรื่องในอนาคตก็ยังไม่มาถึง(คุณก็ไม่ได้จะไปเสพกามกับชายใดใช่ไหมครับ)ณ ขณะที่เป็นปัจจุบัน หากคุณมีสติตั้งมั่น มิได้เสพกามกับชาย มิได้มีกรรมอันหยาบช้า จิตใจตั้งมั่นเป็นชาย ย่อม มิใช่กระเทยในปัจจุบัน ก็มิได้ผิด เพราะ ณ ขณะจิตที่มิได้มีกำหนัด มิได้มีราคะ มิได้ต้งการเสพกามกับชาย จิตตั้งมั่นไม่แส่ส่ายก็หมายเอาว่า เรา เป็นชายโดยสมบูรณ์ เราคู่ควรแก่สมณะเพศ
    หากวันใดหรือขณะจิตใด ราคะกล้าได้เสพกามกับชายแล้ว ท่านก็ไม่สมควรอยู่ในสมณะเพศ ถือว่าขาดจากการเป็นสมณะโดยสิ้นเชิง ต้องออกมาหาก ท่านยังอยู่ต่อไปก็เป็นการทำกรรมอันหนัก(เกิดตั้งแต่ทำวจีกรรม กายกรรม เพราะหากจิตคิด เป็นมโนกรรม ผมว่า ถ้าสติเกิด ก็จะไม่ทำกรรมนั้นๆ อันว่าจิตเป้นอนัตตา ห้ามไม่ได้หรอกครับ แต่ต้องไม่ผิดศีล)

    หากพิจารณาดีแล้ว เลงเห็นผลแล้ว ก็จงฝึกสมถะ ที่เป้นศัตรูกับราคะไว้ให้เข้มแข็งนะครับ
    เช่น พิจารณาอสุภะเนืองๆ และหมั่นมาใช้บ่อยๆ หรือ ทำสมาธิให้ได้ฌาณ เอาไว้ข่มราคะ เพราะคุณก็รู้ว่าตนมีราคะกล้า จึงได้เคยเสพกามกับชาย

    นี่ก็เป็นแค่ความคิดของคนๆหนึ่ง พึงพิจารณาโดยแยบคายเถิด
    อนุโมทนาในความดีที่จะเกิดขึ้นนะครับ
     
  14. เล่งอ๋อง

    เล่งอ๋อง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    236
    ค่าพลัง:
    +147
    สาธุ ณ. จุดจุดหนึ่งเมื่อปฎิบัติไปแล้วก็ไม่มีตีวไม่มีตัวตนของใครทั้งนั้นไม่มี หญิง หรือ ชาย ผมว่ายังไง ก็น่าจะบรรลุได้นะ ท้ายสุดก็สุญตา นิพพานนัง ปรมัง สุขัง
     
  15. โลมาน้อยน้อย

    โลมาน้อยน้อย สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    52
    ค่าพลัง:
    +14
    อนุโมทนาบุญด้วยนะคะ
    ขอให้คุณพระรัตนตรัยจงบันดาลให้สิ่งดี ๆ ที่คุณตั้งใจเอาไว้จงประสบผลสำเร็จนะคะ
     
  16. SOMDEJ

    SOMDEJ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    611
    ค่าพลัง:
    +353
    อนุโมทนาบุญ
    ทุกสิ่งล้วนอยู่ที่ใจตน
    เราเชื่อในศรัทธา และ ความมานะพยายามของเพื่อนสมาชิกท่านนี้
     
  17. กระเทย-ราคะ-กล้า

    กระเทย-ราคะ-กล้า สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +5
    สวัสดีค่ะ ทุกท่าน ดิฉันเข้ามาแอบอ่านค่ะ ขออนุโมทนาทุกท่านนะคะ

    ต้องรีบมาตอบค่ะ เพราะชักไปกันใหญ่แล้ว ดิฉันไม่ใช่พระสงฆ์องค์เจ้าค่ะ และก็ไม่ใช่แม่ชีอยู่วัดด้วยค่ะ แต่บวชอยู่กะบ้านนี่แหละค่ะ เพราะใจร้อนค่ะ เลยบวชแห้ง ๆ อย่างนี้แหละค่ะ เดี๋ยวตายแล้วจะไม่ได้บวช

    ดิฉันเพิ่งบวชเมื่อวานค่ะ ยังไม่ค่อยประสีประสา แต่อยากชวนเพื่อน ๆ กระเทยมาพิสูจน์ความจริงด้วยกัน ใครไม่อยากก็รอไปก่อนนะคะ พ้นพรรษาที่สองจะบอกผล ว่าควรจะเดินไปทางนั้นหรือไม่

    ทางนั้นคืออะไรคะ (เผื่อมีเพื่อนกระเทยถาม)

    เนื้อความตั้งแต่ตอนนี้เป็นปริยัติของดิฉัน ดิฉันวางเองเดินเอง ขอให้ญาติธรรมช่วยวินิจฉัยข้อผิดด้วยนะคะ

    ทางนั้นก็คือ มรรคมีองค์ 8 ค่ะ

    กระเทยมีทุกข์ เพราะมีเหตุเกิดนะคะ มันเกิดแล้วมันก็ดับนะคะ หนทางแห่งความดับพระพุทธองค์ก็ได้ตรัสไว้ ลองเดินไปด้วยกันนะคะ บวชไปเลยค่ะ วัดอยู่ที่กายใจเรานี่แหละค่ะ ทำทุกที่ให้เป็นวัดเลยนะคะ

    1. สัมมาทิฏฐิ - ความเห็นชอบ

    เราต้องทำความเห็นชอบให้ถูกให้ตรงก่อนค่ะ ขั้นแรก เป็นปัญญาค่ะ เห้งเจียนำหน้าไปเลยค่ะ เห็นให้ได้ค่ะ ว่าเราทำอะไร เหตุมาจากอะไร และจะไปทางไหน ไม่ทำอะไรสักแต่ว่าทำค่ะ แต่ต้องรอบรู้ด้วยนะคะ ว่าทำไปทำไม ไม่งั้นจะอยู่ไม่ถึง 2 พรรษาค่ะ มีอะไรบ้างที่ต้องรู้

    1. รู้อริยสัจ คือ รู้ทุกข์ รู้เหตุ รู้ความดับ และรู้ทางค่ะ ว่าคืออะไร อยู่ที่ใจหมดค่ะ ของพวกนี้
    2. รู้ปฏิจสมุปปบาท คือ รู้ว่าธรรมชาติ ธรรมดานั้นเกิดแต่เหตุ มีเหตุก็มีผล ผลเกิดจากเหตุ
    3. รู้ไตรลักษณ์ คือ อะไร ๆ มันก็ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ และจะจับต้องเป็นตัวเป็นตนไม่ได้เลย

    พอมีทิฏฐิดังนี้แล้วดิฉันก็เลยคิดว่า กระเทยน่าจะปฏิบัติธรรมได้ ก็อะไรต่าง ๆ ที่มันเกิดขึ้นในใจก็เหมือนผู้ชาย ผู้หญิงน่ะค่ะ รู้ดังนี้แล้วมาปฏิบัติกันต่อนะคะ

    ต่อจากขั้นนี้ไป ไม่ว่าจะทำอะไร เราจะเอาความเห็นชอบนำหน้า ไม่ทำตามๆ กันไปนะคะ กำจัดโมหะในใจเราด้วยปัญญา

    2. สัมมาสังกัปโป - ดำริชอบ

    จิตใจเศร้าหมองด้วยราคะ โทสะ และโมหะ เมื่อกำจัดโมหะแล้ว ก็กำจัดราคะ และโทสะในใจเราด้วย
    1.ดำริออกจากกาม - บวชใจค่ะ บวชใจ บวชที่ไหนก็ได้ค่ะ
    2. ดำริไม่พยาบาท - เราจะไม่โกรธ ไม่อาฆาต พยาบาทใครแล้ว ไม่มีประโยชน์ที่จะทำให้ตัวเองเศร้าหมองลงไป
    3. ดำริไม่เบียดเบียน - เราจะไม่เบียดเบียนใครอีก เพื่อความสุขแก่โลกนี้

    ดำริอย่างนี้แล้วเพื่อพัฒนาใจเราเองนะคะ

    เมื่อเราดำริอย่างนี้แล้วอย่ารีรอ ลงมือทำเลยค่ะ อบรมศีลและความประพฤติ ทั้งทางกาย วาจา และความเป็นอยู่ ไม่ต้องมีใครเดือดร้อนเพราะเราอีก สัมมาขั้นศีล 3 อย่างจึงตามมา

    3. สัมมาวาจา - วาจาชอบ
    พูดแต่สิ่งที่ดี ไม่พูดอะไรแย่ ๆ ค่ะ
    3.1 ไม่โกหก - เลิกเลยค่ะ ข้อนี้ไม่ทำเด็ดขาด เป็นศีลเบื้องต่ำเลย ถ้ามีแต่การโกหกกันจะหาความเชื่อใจกันได้ที่ไหน
    3.2 ไม่พูดส่อเสียด - ไม่ยุยง ยุแหย่ นินทาชาวบ้านให้เสีย ๆ หาย ๆ แล้วค่ะ แต่มันยากมากเลยนะคะ แต่มันจะดีมากนะคะ ถ้าทำได้ เพื่อความสมานสามัคคีแก่ชาวโลกค่ะ
    3.3 ไม่พูดหยาบ - ไม่ประชดแนะแหนะ หรือพูดอะไรเพื่อสนองอารมณ์ โกรธ เกลียดและริษยาแล้วค่ะ มันไม่ดี ดูจิตตัวเองให้ดี ระวังคำพูดให้มาก
    3.4 ไม่พูดเพ้อเจ้อ - อันนี้ยากสุดค่ะ เพราะว่า กระเทยช่างเม้ามากค่ะ แต่ยิ่งเม้าก็ยิ่งเหนื่อยค่ะ ทำให้จิตใจฟุ้งซ่านวกวนด้วยนะคะ

    4. สัมมากัมมันโต - กระทำชอบ
    ไม่กระทำผิดในขั้นศีลเบื้องต้นอันจะก่อให้เกิดการเบียนเบียน 3 อย่างค่ะ
    4.1 ไม่ฆ่าสัตว์ค่ะ
    4.2 ไม่ลักทรัพย์ค่ะ
    4.3 ไม่ประพฤติผิดในกามค่ะ สำหรับผู้บวชใจ เลิกไปเลยค่ะ ตามพรรษาที่ปวารณาไว้ ไม่ใช่แค่ประพฤติผิด ดำริไปแล้วนี่

    5. สัมมาอาชีโว - อาชีพชอบ
    หรือ เป็นอยู่ชอบ (ดิฉันแปลเอง เพื่อสะดวกแก่ผู้บวชอยู่กะบ้าน)
    นอกจากประกอบอาชีพที่สุจริตแล้ว
    เรายังต้องซื่อสัตย์ต่อหน้าที่และการงาน ปฏิบัติธรรมระหว่างงานไปเลยค่ะ ไหน ๆ ก็อยู่วัดไม่ได้ จะอยู่ออฟฟิศหรืออยู่บ้านก็ปฏิบัติไปเลยค่ะ ภาวนา มีสติในการงานค่ะ
    นี่แหละค่ะ ที่ดิฉันบวชใจ ไม่ทำงานอย่างทะยานเอาโลกธรรมฝ่ายดีแล้วนะคะ ทำงานอย่างมีความสุข มีสติ ทำให้เสร็จ ทำให้เต็มที่ ไม่เบียดเบียนใคร

    นี่คือขั้นความประพฤติหรือศีลค่ะ แต่ว่ามันไม่พอค่ะ ต้องมีขั้นสมาธิกำกับอีกที ซึ่งต้องมีความเพียรสูงมากค่ะ ไปต่อเลยค่ะ

    6. สัมมาวายาโม - ความเพียรนี้เป็นตัวเช็คเราเลยค่ะ ดีชั่วอยู่ที่ตัวทำ สูงต่ำอยู่ที่ทำตัว พยายามเข้าค่ะ ผู้บวชใหม่
    6.1 อกุศลใดในใจเรา - ละเสีย
    6.2 อกุศลใดที่ยังไม่เกิดขึ้น - อย่าพัวพัน อย่าทำให้เกิดขึ้น
    6.3 กุศลใดที่ยังไม่เกิดขึ้น - ทำให้เกิดขึ้น
    6.4 กุศลใดในใจเรา - ทำให้ยิ่ง ๆ ขึ้น

    พยายามที่จะทำความดี ละเว้นความชั่ว

    ซึ่ง พอมาถึงตรงนี้แล้ว จะเห็นว่าเยอะแยะตาแป๊ะเยอะมาก ไม่รู้จะรักษายังไง จริง ๆ แล้วทำได้แค่รักษาข้อ 7 คือรักษาสติให้อยู่กับใจ หรือรักษาใจ

    7. สัมมาสติ - มีสติชอบ
    สติก็ให้อยู่กับสี่อย่างนี้ค่ะ เป็นทางสายเอก พอเราเห็นชอบกับทุก ๆ ข้อแล้วก็ให้จี้แค่ตรงนี้พอ
    7.1 มีสติในกาย - เห็นกายในกาย
    7.2 มีสติในเวทนา - เห็นเวทนาในเวทนา
    7.3 มีสติในจิต - เห็นจิตในจิต
    7.4 มีสติในธรรม - เห็นธรรมในธรรม

    เอาสติพวกนี้มากำกับ 6 ข้อข้างต้นเอาไว้ มีสติในศีลไม่ทำชั่วเกินขอบเขต มีสติในการพูด มีสติในการกระทำ มีสติในความพยายาม ไม่ใช่พยายามตะพึดตะพือ มีสติในความเป็นอยู่ มีสติในปัจจุบัน อดีต และอนาคต คิดอะไรก็มีสติ หายใจก็มีสติ ทำงานบ้านก็มีสติ ทำการงานก็มีสติ รักษาสติ หรือรักษาใจพอค่ะ เอามันกำกับทุกอย่างเลยค่ะ การบวชใจจะได้สมบูรณ์ด้วยทางสายเอก

    8. สัมมาสมาธิ - มีสมาธิชอบ
    ดิฉันไม่รู้จะทำยังไงค่ะ คงต้องเจียดเวลามาฝึกนั่นล่ะค่ะ ทั้งสมถะและวิปัสนา วันละ 20 นาทีเป็นอย่างต่ำ

    สรุปการบวชใจมันก็คือ
    1. มีสติกับการงานค่ะ ทำงานไปดูลมหายใจไป หรือจะภาวนาไปก็ได้ ต่างกับบวชชีตรงแค่สถานที่เองค่ะว่าจะอยู่วัดหรืออยู่ออฟฟิศ
    2. ไม่ทำชั่วเกินขอบเขตของศีล ยกระดับศีลในโอกาสพิเศษจาก 5 เป็น 8 ทั้ง ๆ ที่แต่ก่อนไม่เคยทำ
    3. หมั่นทำความดี ให้ทาน ฟังธรรม อ่านหนังสือธรรมะบ้าง หมั่นนั่งสมาธิสวดมนต์ภาวนา เข้าวัดบ้างตามโอกาส

    ตามนี้น่ะค่ะ มีอะไรผิดพลาดชี้แนะด้วยนะคะ

    สรุปแล้วไม่มีใครมองดิชั้นออกหรอกค่ะว่าบวชอยู่ เพราะไม่ได้ทำอะไรให้แปลกไปจากเดิม ยังทำงานตามปกติ เพียงแต่เอาสติคุมไว้แล้วก็ตอนเช้า มีสวดมนต์เพิ่มให้ทานเพิ่ม ตอนเย็นมีสวดมนต์เพิ่มนั่งสมาธิเพิ่ม ศึกษาฟังธรรมเพิ่ม มันทำได้เท่านี้น่ะค่ะ

    เพิ่งบวชได้คืนเดียวเอง ต้องรอดูกันไปนาน ๆ ก่อนนะคะ

    มีอะไรจะมาเยี่ยมเยียนนะคะ ดิชั้นคงต้องปริยัติและปฏิบัติอีกมากตามเวลาอันสมควรค่ะ

    ขอบคุณค่ะ อนุโมทนาบุญทุกท่านค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มีนาคม 2009
  18. kong_sorakrit

    kong_sorakrit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มกราคม 2007
    โพสต์:
    1,771
    ค่าพลัง:
    +3,426
    ผมแนะนำให้ฟังพระธรรมเทศนา โดย หลวงพ่อโพธิ์ศรีสุริยะ เขมรโต
    วัดร่มโพธิธรรม กิ่งอำเภอหนองหิน อำเภอหนองหิน จังหวัดเลย

    ท่านเทศน์สัจจะธรรมได้ดีมากครับ ซึ่งคำตอบที่คุณอยากทราบก็อยู่ในคำสอนท่าน
    นอกจากการปฏิบัติธรรมด้วยการบวชใจแล้ว ผมแนะนำให้ฟังธรรมประจำทุกวันด้วยจะดีครับ

    และแนะนำให้ขอขมากรรมต่อองค์คุณเบื้องสูง คุณพระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์
    คุณของพ่อแม่ครูบาอาจารย์ และกรวดน้ำอุทิศบารมีบ่อย ๆ จะดี ครับ

    ผมแนะนำให้ฟังชุด

    ไม่ใช่ตรงที่คอยติดหรือคอยหลุด
    ธรรมบรรลุ (ไม่ติดไม่ขัดไม่ข้องไม่คา)
    จุดบอดของทุกคน
    ทุกอย่างคือธรรมบรรลุอยู่แล้ว
    สรุปสังสารวัฎ 1
    ยุติกรรม-1
    นอกเหนือกรรมอนุสัย

    สัจจะธรรมที่แท้จริงนอกเหนือดี-ชั่ว ความเป็นหญิง-ชาย
    หากตรงต่อสัจจะธรรมจริง ๆ ใครก็บรรลุธรรมได้


    นอกเหนือวิถี นอกเหนือวิธีการ นอกเหนือปฏิบัติการ นิพพานอยู่แล้ว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มีนาคม 2009
  19. cpari

    cpari เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    154
    ค่าพลัง:
    +184
    ได้อ่านแล้วรู้สึกว่ามิจฉาทิฐิ กับสัมมาทิฐิ กำลังจะหักล้างกัน โดยมีบุญกุศลเป็นตัวช่วย ซึ่งสัมมาทิฐิจะชนะได้แน่นอนหากคุณมุ่งมั่นปฏิบัติเช่นนี้ๆ ขอให้กุศลผลบุญจงช่วยให้คุณพ้นกรรมนี้ในชาตินี้โดยพลันด้วยเทอญ

    สาธุ สาธุ สาธุ
     
  20. jiwcrop

    jiwcrop เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    286
    ค่าพลัง:
    +792
    เป็นกำลังใจการเพียรปฎิบัติในสิ่งที่สมควรด้วยนะครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...