::: วรวุฒิคุณอนุสรณ์ ประวัติและวัตถุมงคลหลวงปู่ครูบาอิน อินโท ครูบาฟ้าหลั่ง :::

ขออนุญาตคุณเหมี่ยวม๊าวคัดลอกข้อความรายละเอียดการร่วมบุญมาลงเพิ่มเติมนะครับ เพื่อคนที่มาใหม่แต่ไม่ได้อ่านรายละเอียดตั้งแต่หน้าแรก

งานวันกตัญญู 2552 หลวงปู่ครูบาอิน อินโท วันที่ 12 เมษายน 2552 มีการให้ทุนการศึกษาแก่เด็กเรียนดีแต่ขาดทุนทรัพย์ โดยท่านสามารถบริจาคได้ดังนี้

ระดับมัธยมศึกษา ทุนละ ๑,๐๐๐ บาท จำนวน ๕๐ ทุน
* รับ เหรียญเงินลงยา รุ่นลายเซนต์ ปี พ.ศ.๒๕๔๕ ขอให้รวย ขอให้อยู่ดีมีสุข (เลือก ๑ เหรียญ ชมภาพ หน้า 2)

ระดับประถมศึกษา ทุนละ ๕๐๐ บาท จำนวน ๕๐ ทุน
* รับ ล็อกเกต รุ่นลายเซนต์ ปี พ.ศ.๒๕๔๕ ขอให้รวย ขอให้อยู่ดีมีสุข (เลือก ๑ เหรียญ ชมภาพหน้า 12)


สนใจร่วมทำบุญ กรุณาติดต่อ...
พระครูสังวรยติกิจ (พระอาจารย์อินทร จิตตสังวโร) เจ้าอาวาสวัดใหม่หนองหอย
หมู่ที่ ๖ ต.สันติสุข อ.ดอยหล่อ จ.เชียงใหม่ ๕๐๑๖๐ โทร. ๐๘-๑๙๙๒-๐๔๐๗ โทรสาร. ๐-๕๓๓๖-๗๙๗๑
หรือโอนเงินเข้าบัญชีออมทรัพย์ ธ.ไทยพาณิชย์ สาขาทุ่งเสี้ยว (สันป่าตอง)
ชื่อบัญชี กองบุญครูบาอิน อินฺโท เลขที่บัญชี ๖๖๑-๒-๒-๓๐๐๔๗
ช่วยค่าส่ง 50 บาท<!-- / message -->
<!-- / message -->
<!-- / message -->

 

สวัสดีครับ คุณ กริด99

ได้ข่าวว่าไปทัวร์วัดมาใช่ไหมครับ...
ได้อะไรมาไว้บูชาบ้างหรือเปล่า
เอ๊ะ.... หรือว่าไปหาฤกษ์มงคล...?????

 

สวัสดีครับคุณธีระยุทธ
ไปทัวร์วัดทำบุญครับ ไม่ค่อยได้บูชาอะไรมาครับ แล้วก็ไม่ได้ไปหาฤกษ์มงคลครับ เรื่องฤกษ์มงคล อีกนานครับอีกนาน ยังไม่เจอเธอคนนั้นเลยครับ คุณธีระยุทธพอจะแนะนำสาวเชียงใหม่ได้ไหมครับ เคยได้ยินว่าสาวเชียงใหม่งามยิ่งนักครับ 555+

 

สวัสดีตอนเน็นๆ ครับ....

เรื่องที่ว่าสาวเชียงใหม่งามยิ่งนัก.... อันนี้เรื่องจริงครับ...
แต่ถ้าจะให้แนะนำสาวเชียงใหม่...
ผมขอเปลี่ยนเป็นแนะนำ วัดกับครูบาอาจารย์ที่น่ากราบน่าไหว้ จะถนัดกว่า
.... ไม่อย่างนั้น ผมคงไม่โสดโด่เด่อยู่อย่างนี้หรอกครับ...

ผมว่า... คุณบุญเลิศ กับคุณหนุ่มทิพย์ น่าจะเชี่ยวชาญเรื่องนี้มากกว่าผมนะ

ได้เคล็ดลับอะไรมาก็บอกผมด้วยนะครับ...

ว่าแต่ว่า... ลองเอาขุนแผนไปใช้ดูไหมครับ...
ผมเองยังไม่เคยลอง... กลัวจัดคิวไม่ทัน.. อิอิ

 

ต่อไปนี้เป็นประสบการณ์ความประทับใจ ที่คุณ vision ได้โพสไว้ที่เวป "สวนขลัง"
เกี่ยวกับการพบกันของคุณหมอสมสุข คงอุไร คณะศิษย์รัศมีพรหมโพธิโก กับหลวงปู่ครูบาอิน
ขออนุญาต ยกมาเผยแพร่ต่อไว้ ณ ที่นี้ครับ

=========================================
หลวงปู่ครูบาอิน วัดฟ้าหลั่ง วัดทุ่งปุย ที่ผมได้รู้จัก

ต้องขอโทษเพื่อนชาวสวนขลังที่หายไปนานเนื่องจากติดงานตามงานของบริษัท เรื่องของหลวงปู่ครูบาอินผมจะเล่าจาประสบการณ์ที่ได้สัมผัสกับท่านเกี่ยวกับประวัติท่าน ผมเห็นlinkอยู่ค่อนข้างละเอียดอยู่แล้ว

ผมรู้จักหลวงปู่ครูบาอินจากคุณลุงหมอสมสุข ท่านได้เล่าว่าท่านรู้จักหลวงปู่ครูบาอินในงานบุญที่พระธาตุดอยน้อยซึ่งลุงหมอได้ตามหลวงปู่พรหมจักร วัดพระพุทธบาทตากผ้า ในงานดังกล่าวลุงหมอบอกว่าเห็นหลวงปู่หล้า หลวงปู่พรหมจักร หลวงปู่ครูบาสุรินทร์ ท่านได้ทักทายหลวงปู่อิน

คุณลุงหมอพอเห็นอินทรีย์หลวงปู่อิน ก็รู้ว่าได้พบพระอริยะอีกองค์แล้ว เลยเข้าไปกราบว่าท่านอยู่วัดไหนหลวงปู่บอกว่าท่านอยู่วัดฟ้าหลั่ง พอเสร็จงานคุณลุงหมอก็ได้ตามไปที่วัดทันทีหลวงปู่ครูบาอินทร์ท่านมีความเมตตาต่อคุณลุงหมอมากๆๆ ท่านจะเรียกลุงหมอสมสุขว่า เปิ้นสมสุข คุณลุงได้เรียนรู้ธรรมะอันเป็นทางจริงแท้จากหลวงปู่ และคุณลุงหมอท่านได้สร้างเหรียญชื่อว่า รุ่นเราสู้ ซึ่งหลวงปู่ครูบาอินเป็นผู้ตั้งชื่อและได้สร้างพระปิดตาผสมเกสาหลวงปู่ด้วยและได้ถวายให้กับหลวงปู่อิน

ในปี 2536 คุณลุงหมอสมสุขได้นิมนต์หลวงปู่ครูบาอินมาในงานพุทธาภิเษกที่บ้านคุณลุงหมอ ร่วมกับพระอริยเจ้าหลายรูป เช่น หลวงปู่คร่ำ วัดวังหว้า หลวงปู่ศรีนวล วัดเกวียนหัก หลวงปู่เจ๊ก วัดระนาม หลวงปู่สุภา วัดเขารัง หลวงปู่แก้ว วัดโคกโดน หลวงปู่ร่วง วัดศาลาโพธิ์ หลวงปู่พุฒ วัดเขาไม้แดง และอีกหลายรูป คุณลุงหมอเล่าให้ฟังว่าหลวงปู่ครูบาท่านเก่งธาตุลม คือเวลาท่านนั่งปรก ผิวท่านจะออกสีเขียว

ผมได้ไปกราบท่านในปี 39 พอผมไปถึง ท่านก็ถามผมว่ามาจากไหน ผมบอกว่ามาจากกรุงเทพฯ และเป็นลูกศิษย์คุณหมอสมสุข หลวงปู่พูดว่าโยมเปิ้นสมสุข คิดถึง ผมก็บอกว่าคุณลุงหมอฝากความคิดถึงมาด้วยครับ หลวงปู่ก็ยิ้มและบอกผมว่าไม่เจอกันนานพอดู

หลวงปู่ท่านเมตตามากถามผมว่าจะเอาอะไร ผมบอกว่าจะมาขอข้อธรรมมาใช้ในชีวิตประจำวัน หลวงปู่ได้เมตตาสอนผมว่าในอยู่ในศีลให้ทำกรรมดีและจะต้องเริ่มปฏิบัติ หลวงปู่บอกผมว่าสิ่งเดียวที่ผมจะเอาไปได้คือ กุศลที่เราปฏิบัติตามแนวทางอนาปานสติ ซึ่งเป็นแนวทางอันจริงแท้ของพุทธเจ้าไม่มีทางอื่น ผมได้ถามหลวงปู่ว่าตอนนี้มีแนวทางในการปฎิบัติมากมายอันไหนใช่อันในไม่ใช่หลวงปู่บอกว่าพวกนั้นไม่ใช่ทาง โยมหมอสมสุขได้สอนไว้แล้วไม่ใช่หรือ ผมก็ตอบว่า ใช่

หลวงปู่บอกว่าเวลาเราละจากโลกเราจะไปสู่ที่เย็นไม่ต้องไปที่ร้อนใครทำใครก็จะได้และบอกผมว่าจะต้องไปสอนลูกหลานให้เริ่มนะ หลวงปู่ได้เรียกผมเขาไปและได้เอาปากกาจุ่มน้ำมันหอมลงกระหม่อมให้ผมผมได้ยินหลวงปู่สวดคาถาคือชินบัญชร พอลงเสร็จผมถามหลวงปู่ว่าหลวงปู่ลงอะไรให้ ท่านบอกว่าเป็นมงกุฎพระพุทธเจ้า ผมเห็นหลวงปู่เคี้ยวหมากก็เลยขอ หลวงปู่บอกว่ามันสกปรกนะ ผมบอกว่าอยากได้ ท่านก็หัวเราะและก็เคี้ยวอยู่สักพักก็ให้ผมยื่นมือมา ท่านก็คายให้ พอดีมีอาจารย์จากม.ช อยู่ด้วย อาจารย์จะมาทุกวันก็บอกผมว่าปกติท่านจะไม่ค่อยให้ใคร จะบ้วนลงกระโถน พวกญาติโยมจะมาเอาตอนท่านจำวัด อาจารย์ม.ชท่านเลยขอแบ่งผมไป ผมก็ไปลาหลวงปู่กลับกรุงเทพฯ

ผมกลับมาก็มาเล่าให้คุณลุงหมอฟัง คุณลุงหมอบอกว่าที่หลวงปู่ลงกระหม่อมให้นะเป็นสิ่งที่ใช้ในการปฎิบัติเหมือนกับภาครับให้ไปหมั่นทำแล้วจะเกิดสิ่งดีๆๆ


ที่มา: http://www.suankhlang.com/ipb//index.php?showtopic=315

 

งามครับงามจริงๆ เลยครับ ขุนแผนองค์นี้ ไม่ทราบท่านจะรับนิมนต์มาแถวๆ พุทธมณฑลไหมครับ ผมรับรองว่าจัดคิวทันแน่นอนครับ ไม่มีรถไฟชนกันให้เจ็บตัวแน่ๆ ครับ

 

ถ้าไม่รีบ... เดี่ยวผมฝากคุณบุญเลิศพาท่านไปโปรดแถวพุทธมณฑลครับ...
แต่ถ้ารีบ... คงต้องขึ้นมาเอาเองที่เชียงใหม่
ผมว่าก็ดีนะครับ... เพราะจะได้ขอ "ลอง" อาราธนาใช้ซะเลย
เผลอๆ จะได้ทั้งพระ ได้ทั้งแฟนกลับไปนะครับ...

กลัวแต่ว่าฝากคุณบุญเลิศไปแล้วจะมีปัญหา...
เพราะคุณบุญเลิศขึ้นเหนือมาเมื่อไหร่... ไม่เคยได้มาคนเดียวสักที
มี ผบ. ตามมาส่งถึงแถวๆ ลำปางตลอด...
แล้วนี่ถ้าได้ขุนแผน แสดงอิทธิฤทธิ์... กลับไปด้วย...
สงสัยจะเกิดศึกก่อนถึงกรุงเทพนะครับ...

เป็นห่วงจัง 55555+++

 

ผมไม่รีบครับคุณธีระยุทธ ยินดีให้คุณบุญเลิศได้ลองวิทยายุทธสับรางรถไฟ+เหยียบหิมะไร้รอยกับผบ.ที่ลำปางก่อนครับ ผมเชื่อว่าคุณบุญเลิศเป็นสุดยอดฝีมือท่านหนึ่ง ไม่น่าจะต้องเป็นห่วงครับ 55555+++

ผมขอขอบคุณนะครับที่ยอมให้ท่านรับนิมนต์มาโปรดคนแถวๆ พุทธมณฑลครับ

 

ขออนุญาตนำภาพ ส่วนหนึ่งของอัฐิธาตุ ของหลวงปู่ครูบาอิน ที่ผมเก็บรักษาไว้มาโพสให้ชม เพิ่งจะได้มีโอกาสอาราธนาอัฐิธาตุหลวงปู่นำมาจัดแสง จัดไฟ ถ่ายรูป... นำมาฝากให้พี่ๆ น้องๆ ในเวปพลังจิตได้ชมครับ

ธีระยุทธ

 

ผมใช้ผ้ายันต์ อภิมหายันต์ ๑๐๘ ของหลวงปู่มารองใต้กระจกเป็นฉากหลัง ภาพออกมา ผมว่าสวยใช้ได้นะ... แฮะๆๆ (ชมตัวเอง)

 

อนุโมทนาครับ

กราบพระอริยเจ้าครูบาอิน อินโท
และอนุโมทนาสาธุครับทุกท่าน ผมมีกับเขาอยู่แค่องค์เดียวไม่ทราบรุ่นครับ และไม่ทราบว่าองค์นี้ดีใหมครับ?
พี่ๆท่านใดทราบรายละเอียดการจัดสร้างหรือปลุกเสก รบกวนด้วยครับ ขอบคุณครับ

 

ขอถามคุณธีระยุทธครับ

หลวงปู่ครูบาอินท่านเคยกล่าวหรือพูดถึงหลวงปู่ครูบาเจ้าศรีวิชัยไหมครับ ถ้าท่านเคยพูดถึงพอจะนำมาบอกกล่าวเล่าให้พวกผมฟังได้ไหมครับ ขอบคุณมากครับ

 

สวัสดีครับ คุณอุปาทาน

เหรียญนี้ เรียกว่า เหรียญรุ่นชยมังคลัง (ชะยะมังคะลัง) ตามที่ระบุไว้ด้านหลังเหรียญครับ สร้างเมื่อปี 2537 ผู้สร้างถวายเป็นพระครับ สังเกตุตรงจีวรหลวงปู่จะแกะพิมพ์เป็นฉายา "สิริธมฺโม" ไว้... ผู้สร้างท่านไม่อยากให้เปิดเผยชื่อ ก็ขอบอกไว้เพียงเท่านี้นะครับ

เหรียญนี้มีเนื้อเงิน จะตอกโค้ต (เป็นรูปดอกจันทร์แฉกๆ) ตรงสังฆาฏิ 2 โค้ต, เนื้อนวโลหะ 1 โค้ต, เนื้อทองแดง ไม่ตอกโค้ต... จำนวนการสร้างเนื้อทองแดงประมาณ 3000 เนื้อนวโลหะ ประมาณ 100 เหรียญ และเนื้อเงินประมาณ 20 เหรียญ... เหตุที่ใช้คำว่าประมาณ ก็เพราะ ผู้สร้างไม่ได้จดบันทึกไว้แน่ชัด อาศัยข้อมูลจากความจำเท่านั้นครับ

หลวงปู่ปลุกเสกเดี่ยว... ผมเองก็แขวนเหรียญรุ่นนี้อยู่เหมือนกันครับ (สลับกับรุ่นอื่นบ้าง)... เพราะชอบพระคาถาด้านหลัง ซึ่งเขียนเป็นภาษาล้านนา อ่านว่า... เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โหนตุเต ชยมังคลัง... ซึ่งตัดตอนมาจากพระคาถาพระเจ้าชนะมาร... แล้วก็มียันต์พระเจ้าห้าพระองค์ อีกด้วย...

เหรียญดีครับ ราคายังไม่แพง ทองแดงก็ร้อยสองร้อย นวโลหะก็ขยับมาประมาณ 3-4 ร้อย ส่วนเนื้อเงินก็เกือบๆ พันครับ... ยังพอหาได้และไม่มีปลอม

ธีระยุทธ

 

รูปเก่านำมาให้ชมครับ

รูปเก่า

 

ภาพเก่าแห่งความทรงจำ

หลวงปู่ครูบาอิน อินโท

 

ขออนุญาตนำภาพของหลวงปู่ครูบาอินมาให้ชมนะครับ (ขออนุญาตเจ้าของภาพด้วยครับ)

 

อยากทราบด้วยคนครับ อิอิ

 

วันนี้ขอถามอีกข้อนะครับคุณธีระยุทธ หลวงปู่ครูบาอิน ท่านเคยกล่าวชมหรือยกย่องครูบาอาจารย์องค์ไหนไหมครับ แล้วท่านกล่าวว่าอย่างไรบ้างครับ ผมขอรบกวนคุณธีระยุทธช่วยเล่าให้ฟังหน่อยครับ ขอบคุณครับ

 

สวัสดีครับ คุณ กริด99

โอ๊ะ... คำถามนี้ ตรงใจพอดี
แต่ก่อนที่จะตอบ ขอพาออกนอกเรื่องที่ต้องว่ากันยาวเลยครับ....
แต่ที่ผมบอกว่า "ต้องว่ากันยาว" นี่ไม่ใช่เพราะว่ามีเรื่องอะไรมากมายนะครับ
แต่ผมอยากจะนำเสนอคำศัพท์ที่เราพูดๆ กัน 2-3 คำที่มันมีความหมายแตกต่างกันมาก สมควรจะแยกแยะให้ดี คือคำว่า "พระเถระศิษย์ครูบาเจ้าศรีวิชัย" กับ "พระเถระสายครูบาเจ้าศรีวิชัย" เอา 2 คำนี้ก่อนนะครับ

"พระเถระศิษย์ครูบาเจ้าศรีวิชัย" ที่เราพูดกัน หมายถึง ครูบาอาจารย์อาวุโส ที่ทันบวชกับครูบา หรือทันได้ปวารณาตัวเป็นลูกศิษย์ ได้ติดตามศึกษาวิธีการปฏิบัติกับครูบาเจ้า รวมทั้งได้ร่วมบุญสร้างเสนาสนะตามที่ต่างๆ ร่วมขบวนไปกับท่าน อาทิเช่น ครูบาขาวปี วัดพระบาทผาหนาม, ครูบาวงศ์ วัดพระบาทห้วยต้ม, ครูบาอิ่นแก้ว วัดป่าแงะ, ครูบาศรีนวล เชียงราย,ครูบาชุ่ม วัดวังมุย เป็นต้น ซึ่งส่วนใหญ่ก็ละสังขารมรณภาพไปเกือบหมดแล้ว ที่ยังมีชีวิตอยู่ก็เห็นจะเป็นหลวงปู่ครูบาดวงดี วัดท่าจำปี ที่อายุเกือบจะ 103 ปีแล้ว

อีกคำหนึ่ง "พระเถระสายครูบาเจ้าศรีวิชัย" คำนี้ผมคิดว่าหมายถึง ลูกศิษย์ของลูกศิษย์ครูบาเจ้าอีกทีหนึ่ง เพราะก่อนที่ท่านจะต้องอธิกรณ์และมีปัญหากับคณะสงฆ์จากส่วนกลาง ครูบาศรีวิชัยท่านเป็นหัวหน้าหมวดอุโบสถ ซึ่งหมายถึงการเป็นพระอุปัชฌาย์สืบต่อจากครูบาอาจารย์ของตน ซึ่งเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของล้านนาในสมัยนั้น (ต่างจากการแต่งตั้งตามกฎหมายการปกครองสงฆ์ส่วนกลาง) ด้วยเหตุนี้จึงมีพระ เณร จำนวนมากที่ครูบาศรีวิชัยได้บวชให้กระจายอยู่ทั่วแผ่นดินล้านนา ซึ่งต่อมาพระเถระเหล่านี้ท่านก็ได้มีลูกศิษย์ลูกหาที่ยึดถือแนวทางปฏิบัติสืบทอดมาจากครูบาเจ้าศรีวิชัยต่อไป... ถ้าจะยกตัวอย่าง เช่น ครูบาต๋า วัดอุโบสถ (บ้านเหล่า) สันป่าตอง เชียงใหม่ ท่านเป็นหลานและเป็นลูกศิษย์ของครูบาชุ่ม วัดวังมุย สืบทอดแนวทางปฏิบัติแบบครูบาศรีวิชัยจากครูบาชุ่มอีกที

..... แต่กระนั้น... ก็มีพระเถระอีกกลุ่มหนึ่ง ที่ไม่ได้สืบสายการเรียน หรือสายการปฏิบัติจากครูบาศรีวิชัยโดยตรง แต่ได้เคยร่วมบุญสร้างเสนาสนะตามที่ต่างๆ เคยได้รู้ ได้เห็น วัตรปฏิบัติที่เป็นที่น่าเลื่อมใสของครูบาเจ้าศีลธรรม จึงนำเอามาปฏิบัติตาม มีการแต่งกาย รัดประคด ตกประคำ... สวมหมวก ถือไม้เท้า และพัด ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของพระสงฆ์ "นิกาย" เชียงใหม่-ยอง ลำพูน... เป็นต้น...

แต่ในช่วงเวลาที่ครูบาศรีวิชัยท่านเป็นที่รู้จัก และมีชื่อเสียงโด่งดังนั้น ก็ยังมีพระสงฆ์ที่ถือปฏิบัติตามแบบอย่างของครูบาอาจารย์ในทั้งถิ่นของตนเองต่อไป อย่างเช่น พระเถระสายป่าซาง ลำพูน ส่วนใหญ่ก็จะเป็นลูกศิษย์ครูบาศรี อริยวังโส วัดป่าบุก, แถวๆ ท่าวังพร้าว ทุ่งรวงทอง ก็จะเป็นศิษย์ครูบามหายศเสียเป็นอันมาก เป็นต้น...

ด้วยเหตุนี้... หากไม่ได้เป็นศิษย์สายตรง ก็มักจะไม่ค่อยมีเรื่องราวอะไรพูดถึงเกี่ยวกับครูบาเจ้าศรีวิชัยสักเท่าไหร่....

หลวงปู่ครูบาอิน เป็นลูกศิษย์ครูบามหายศ วัดท่าวังพร้าว... ซึ่งเป็นครูบาอาจารย์ที่เคร่งครัดมาก เรื่องการปฏิบัติ... ไม่ได้เป็นลูกศิษย์ครูบาเจ้าโดยตรง

ในระหว่างนั้น ครูบาเจ้าศรีวิชัยสร้างถนนขึ้นดอยสุเทพ

หลวงปู่ พร้อมทั้งแม่คำป้อ โยมแม่ของท่าน และคณะศรัทธาชาวบ้านทุ่งปุยได้ทราบข่าว ก็รวมตัวกัน เตรียมมีด จอบ เสียม ข้าวปลาอาหาร ไปสร้างทางขึ้นดอยสุเทพ ร่วมบุญกับครูบาเจ้าศรีวิชัย... เมื่อไปถึง ก็ได้รับการแบ่งส่วนรับผิดชอบ ซึ่งต่างก็ก้มหน้าก้มตาทำจนเสร็จส่วนของตน ใช้เวลาก็ไม่กี่วัน เพราะมีคนมาร่วมบุญจำนวนมาก... เสร็จงานแล้วก็รับศีลรับพรจากครูบาเจ้าแล้วก็กลับบ้านทุ่งปุย

เท่าที่เคยได้ยินท่านเล่าก็มีเพียงเท่านี้ครับ...
เพราะในระหว่างนั้น ครูบาเจ้าท่านก็ใจจดใจจ่อกับการสร้างถนนขึ้นดอยสุเทพให้เสร็จโดยเร็วที่สุด...
คงไม่สะดวกที่จะให้มาขอเรียนวิชาอะไรจากท่านในช่วงเวลาอย่างนั้น

แต่กระนั้นครูบาอินท่านก็เคารพนับถือครูบาเจ้า ดังจะเห็นได้เวลาที่พูดถึงครูบาเจ้าศรีวิชัย ครูบาอินท่านมักจะยกมือไหว้ท่วมหัวอยู่เสมอ...

สอบถามพระอาจารย์อินทร พระอาจารย์ชา และท่านพระครูวัดทุ่งปุย ก็ทราบความสัมพันธ์ของหลวงปู่กับครูบาเจ้าศรีวิชัยเพียงเท่านี้ เช่นกัน... และไม่เคยได้ยินท่านพูดถึงครูบาเจ้านอกเหนือไปกว่านี้อีกแล้วครับ...

และที่สำคัญที่สุด... หลวงปู่ท่านเป็นพระที่พูดน้อย... ไม่ค่อยพูดจาเล่นหัว
ออกจะดุด้วยซ้ำ... จึงมักไม่ค่อยมีเรื่องเล่าอะไรมากนัก...
อย่างเรื่องท่านไปธุดงค์ที่แม่สะเรียง แม่ฮ่องสอน ตั้งนานเป็นเดือนๆ
ท่านยังไม่ยอมเล่ารายละเอียดอะไร ตราบจนท่านละสังขาร

ไม่แน่นะครับ...
อาจจะมีอะไรน่าตื่นเต้นๆ เกิดขึ้นในช่วงนั้นเยอะแยะ
แต่ท่านไม่เล่าให้ฟังเท่านั้นเอง...
แล้วถ้าขืนเซ้าซี้ถามมากๆ ... ก็หัวใครหัวมันนะครับ...

ธีระยุทธ


หมายเหตุ: ที่ผมย้ำเน้นว่า ครูบาอิน ท่านไม่ได้เป็นศิษย์ครูบาเจ้าศรีวิไชยโดยตรงนั้น มิได้เป็นเพราะว่าไม่เคารพศรัทธาเลื่อมใสในครูบาเจ้าศรีวิชัยแต่อย่างใด... แต่ทั้งนี้ เพื่อเป็นการให้ข้อมูลที่แท้จริง อีกทั้งไม่ให้เป็นที่ตำหนิได้ว่า เอาชื่อครูบาเจ้ามาสร้างศรัทธา หรือหาประโยชน์โดยไม่เหมาะสม

 

สวัสดีครับคุณธีระยุทธ

ขอขอบคุณคุณธีระยุทธสำหรับคำตอบดีๆ ในเรื่องของหลวงปู่ครูบาอิน และหลวงปู่ครูบาเจ้าศรีวิชัย (ว่าแต่ผมถามคำถามโดนใจคุณธีระยุทธ จะมีรางวัลเพิ่มเติมให้ผมไหมครับ ฮิฮิ)