มีใครเป็นลูกหลานเสด็จปู่พญานาคาธิบดีศรีสุทโธนาคราชบ้างครับ

ที่นำมาลงเพื่อให้ทุกท่านได้สนุกสนานแก้เครียดหลังจากเลิกงานกัน

และเพื่อจะได้มอบความรู้ให้โดยท่านผู้มีประสพการณ์

แต่อย่าไปยึดติดมัน มันเป็นเพียงแค่รูปภายนอก เท่านั้นเอง

คงคลายเครียดกันไปได้บ้าง(หรือเครียดมากกว่าเดิมก็ไม่รู้)

 

โยมเคยลองทำจิตให้นิ่งแล้วถูที่ลูกสีขาวนั่นทั้งสองลูกดูหรือเปล่า

ถ้าเป็นไข่พญานาคของจริงๆเลยจะมีกลิ่นคาวที่ฟุ้งมากเหมือนคาวโคลน

ครูบาอาจารย์ท่านลองให้อาตมาทำดูก็ได้กลิ่นจริง พอไม่ถูก็ได้กลิ่นอยู่

อย่างนี้ทั้งวัน แต่พอดมที่ไข่เลยกลับไม่มีกลิ่น ก้แปลกดี

 

กราบขอบพระคุณพระคุณเจ้าที่มอบให้กับกระผมขอรับ (แอบอธิฐานอยู่ในใจหากมีวาสนาขอให้ตอบได้)

 

ยังไม่เคยทำขอรับ เคยแต่ใช้นั่งสมาธิ พอจิตดิ่งสงบแล้ว เหมือนนั่งอยู่ในถ้ำที่สว่างไสวเป็นสีขาวประมาณขอบเขตไม่ได้ เป็นอย่างนี้แค่ครั้งเดียว แล้วก็ไม่เกิดขึ้นเลยขอรับ

 

ยินดีด้วยนะครับ คุณ marin1156 ^_^ ผมเองก็เล็งๆจะทำบุญบูชาเพชรพญานาคอยู่เหมือนกัน ช่วงนี้เก็บเงินทำบุญอยู่ เดือนนี้มีงานบุญเข้าหลายที่ซะด้วย ผมเองไม่รู้ว่าไปเกี่ยวข้องกับพญานาคในชาติไหน มีเพื่อนธรรมเกี่ยวข้องกับพญานาคหลายท่านแล้ว

 

ขอบคุณครับ คุณ aries ผมเคยเกิดในสมัยเสียกรุงครั้งที่ 2 เป็นทหารของพระเจ้าตากสินมหาราช แต่ก่อนหน้านั้นอีกนับร้อยนับพันชาติเราไม่อาจรู้ได้ คงมีสักชาติที่เกี่ยวข้องกับพญานาค

 

เราเกิดวันเสาร์ ชอบแหวนพญานาคมากๆๆๆๆ ใส่ 2 วงเลย วงแรกซื้อของหลุดโรงจำนำเป็นทอง วงที่2ได้จากวัดปทุมวนารามของหลวงพ่อถาวร เป็นตัวเรือนเงินพญานาค 2 เศียร ที่วัดปทุมมีแหวนพญานาคหลายแบบสวยๆ รอคนเป็นเจ้าของมาบูชา มีคนที่ได้มโนบอกว่าเราเคยเกิดเป็นนาคด้วย
อยากรู้ว่ามังกรของทางจีนคือพญานาคหรือไม่

 

เพื่อนผมที่ระลึกชาติได้เล่าให้ฟังว่า ผมเคยเกิดหลายสมัยแล้วครับ ที่ทราบเพราะเกิดในยุคเดียวกันและจำผมได้ ก่อนพุทธกาลผมก็เคยเกิดเป็นชาวทรอย ช่วงกรุงทรอยแตกเพราะม้าไม้นั่นแหละ สมัยพุทธกาล ผมเคยเป็นฤๅษีอยู่แถวฝั่งลาว แล้วก็อีกหลายสมัยจนถึงสมัยอยุธยา ผมก็เคยอยู่ในช่วงกรุงแตกครั้งที่สองอีก ตอนนั้นยังหนุ่มๆอยู่มั้งครับ จะไปช่วยพระเจ้าตากรบด้วยหรือไม่ก็ไม่ทราบ เพราะผมเป็นฝ่ายบุ๋น เพียงแต่รู้สึกว่าเคยผูกพันกับท่านบ้างเหมือนกันครับ

 

เมื่อวานอาตมาไปนั่งสมาธิในวิหารเก่าของวันตอนสามทุ่ม

ก้เกิดภาพนิมิตว่า มีงูขนาดใหญ่มาคายลูกแก้วให้อาตมาเป็นสีขาวเล็กๆ

จากนั้นท่านก็อ้าปากกว้าง แล้วดวงจิตของอาตมาก้เข้าไปข้างในไปเรื่อยๆจนกระทั่งพบหีบใบนึงเป็นทรงสี่เหลี่ยมมนๆขนาดใหญ่ตรงหน้าหีบไม่มีกุญแจ แต่ตรงที่คล้องกุญแจจะมีลักษณะคล้ายหยดน้ำแต่ตรงหยดน้ำจะเป็นลักษณะเหมือนหินหยกแต่ประกายแสงมาก แต่อาตมาไม่ได้เปิด จนอาตมาดึงจิตกลับมาที่นั่งสมาธิที่เดิมก็เห็นภาพนิมิตอีก มีลูกแก้วสีขาวใสและสีเขียวมรกต และมีลูกนึงที่แปลกจะเป็นสีขาวน้ำนม จากนั้นภาพก็หายไป และมิตมิตเกี่ยวกับวิหารเก่าก็ตามมาเลยๆ

อาตมาเองยังไม่เข้าใจความหมายที่ท่านคลายลูกแก้วให้อาตมาเลย

ส่วนนิมตที่คุณโยมเคยเห็นเป็นถ้ำเเก้ว มีอยู่ครั้งนึงคอนอาตมาได้เหล็กไหลพญานาคมา อาตมานำมากำแล้วกำหนดจิตดู ก้เห็นเป็นถ้ำแก้วระยิบระยับ ชวนให้เขาไปเหลือเกิน แต่อาตมาไม่ อีกจิตมันบอกว่าถ้าเข้าไปแล้วจะไม่ได้ออกกลับมา เลยถามครูบาอาจารย์ท่าน ท่านบอกว่าถ้าหากเข้าไป คงได้กลับไปเฝ้าพระเขี้ยวแก้วเหมือนเดิมแน่ๆ

 

หลังจากที่วุ่นๆกับกระพี้ไปนาน มาดุแก่นกันบ้างครับ

​

กายานคร

พุทธัง ชีวิตตัง ยาวะนิพพานัง สะระณังคัจฉามิ

ธัมมัง ชีวิตตัง ยาวะนิพพานัง สะระณังคัจฉามิ

สังฆัง ชีวิตตัง ยาวะนิพพานัง สะระณังคัจฉามิ

​

ในตำนานโบราณกาลนานมา ยังมี นครอันรุ่งเรืองนครหนึ่งมีนามว่า

 

มาดู "กายานคร" ฉบับ Advance กันบ้าง

<TABLE width=1182><TBODY><TR><TD vAlign=top width=670 height=438> เมื่อพระโยคะบุคคลที่เจริญสมถะได้แล้ว ก็คงพอจะรู้ได้ถึงการปรุงแต่งในตัวของเราเองว่า มันมีความรู้สึกในรสของเวทนาเป็นสองส่วน และทั้งสองส่วนนี้จะต้องอาศัยใจไปเป็นเครื่องรับรู้ทั้งสิ้น บุคคล ธรรมดาจึงแยกแยะไม่ออกว่า เวทนาไหนเป็นอะไร จึงไม่สามารถที่จะจัดสัดส่วน ให้ถูกตรงกับหลักการของ พระธรรมได้ การเจริญวิปัสสนาที่เราทำก็จักไม่เกิดประโยชน์ตามที่หวังไว้ สำหรับตรงนี้นั้น ก็ขอให้พระโย คะจงทำความเข้าใจให้ดีเสียก่อน การประคองตนไปในทางพระนิพพานก็จักไม่เสียผล บัณฑิตโบราณ ท่านสมมุติเรียกสังขารจิตว่าเป็น

 

“เอวัมปิ ภิกขะเว ภิกขุ กาเย กายานุปัสสี วิหะระติ”

ดูก่อนผู้เห็นภัยทั้งหลาย ผู้หวังความพ้นทุกข์ทั้งปวง ย่อมพิจารณาเห็นกายในกายเนืองๆอยู่อย่างนี้แล. ​

 

มาช้าไปหน่อย ^^

มาดูอีกทีก็หน้าที่ 6 เข้าไปแล้ว เมื่อวานตอนเช้าที่เข้ามาอ่านยังเพิ่งหน้า 5 ต้นๆอยู่เลย ไปเร็วจัง
ตามอ่านแทบไม่ทัน ^^ ไข่พญานาค อ๊ะ ^^ งั้นเราก็เดาถูกสินะ เพิ่งอ่านคำเฉลยที่หน้า 6 เมื่อกี้นี้เอง

เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ได้ไปทำบุญในงานนมัสการพระธาตุพนมประจำปี ได้ไปที่ห้องประทับพญานาคด้วย
เมื่อเข้าไปภายในห้องนั้นแล้ว ให้ความรู้สึกที่สั่นสะท้านภายใน ขนลุกซู่ไปทั้งตัว ไม่ใช่ความรู้สึกที่ไม่ดี
ตรงกันข้าม ให้ความรู้สึกที่ดีมากๆเลย รู้สึกสงบเยือกเย็น สบายใจ รู้สึกว่ามีความสุขจังเลยล่ะ ^^
ถ้าใครมีโอกาสได้ไปกราบนมัสการพระธาตุพนม ก็อย่าลืมแวะเข้าไปไหว้ ท่านๆ ที่อยู่ ณ.ที่นั้นนะคะ

 

อาทิตย์หน้าจะไปนครพนมพอดี (ไปสำรวจแม่น้ำโขงร่วมกับทางฝั่งลาว) ห้องพญานาคอยู่ส่วนไหนครับ และมีส่วนไหนที่แนะนำบ้าง เคยไปมาครั้งหนึ่งแล้วเมื่อ5-6 ปีที่แล้ว ตอนนั้นแค่ไปไหว้องค์พระธาตุแล้วกลับเลย

 

กราบนมัสการพระอาจารย์ ครับ
น้องเค้าอยู่อุดร ครับ ต.บ้านดุงครับ ช่วงตอนปีใหม่ที่ไปพบน้องเค้านะครับเหมือนปู่ท่านให้ทำบทสวดมนต์และประวัติท่านนะครับผมได้อ่านนิดเดียวนะครับแต่รอให้พิมพ์เสร็จอยู่ครับ

 

ห้องประทับนาคา

ตอนแรกก็หาอ่านที่กระทู้ เกี่ยวกับพญานาคทั้งเจ็ดที่มาดูแลองค์พระธาตุพนม ชื่อกระทู้ยาวไป จำไม่ได้ซะแล้ว ^^
แต่เค้าก็ไม่บอกรายละเอียดว่าอยู่ตรงไหน มุมไหนของวัดพระธาตุพนม ซึ่งมีอาณาเขตกว้างมาก
จน พี่ชาย ท่านนึง ซึ่งได้เดินทางไปแสวงบุญก่อนหน้า ได้ให้คำแนะนำมา แต่ก็ยังหาไม่เจออยู่ดี
เพราะเมื่อถามคนในพื้นที่ เค้าบอกว่าเพิ่งย้ายไปอยู่ที่ตึกหลังใหม่ อยู่หน้าหอพัก อาคารสามชั้น ตึกเทพรัตน์
อาคาร ตึกสามชั้นในวัดก็มีหลายหลังซะด้วยสิ เดินหาจนเมื่อยเลย ฮา ห้องประทับนาคาไม่ได้อยู่ในตัวตึกค่ะ
คือเป็นอาคารชั้นเดียว อยู่ตรงหน้าตึกเทพรัตน์ ติดกับถนนเลยค่ะ หน้าต่างเป็นกระจกใสบานกว้าง
ใครเดินผ่านไปมาก็แลลอดมองเห็นกันได้ตลอด มีป้ายติดที่หน้าบ้านว่า ห้องประทับพญาสัตตนาคา
เอาเป็นว่า เมื่อกราบองค์พระธาตุเสร็จแล้ว ถ้าต้องการไปห้องประทับนาคา ก็ให้ถามพระอาจารย์เอาเองเถิดนะ
ถ้าเป็นพระที่อยู่ที่วัดพระธาตุ ท่านย่อมตอบได้อย่างแน่นอน พรเองก็เรียนถามกับพระอาจารย์เหมือนกันค่ะ ^^
ที่ซึ่งน่าเยี่ยมชม ก็ พระอุโบสถที่อยู่ใกล้กันกับองค์พระธาตุ เข้าไปไหว้พระประธานแล้วก็ออกมายกพระหินเสี่ยงทาย
พระหินองค์ไม่ใหญ่นัก พอยกไหว แต่ถ้าจะเอาให้แน่ ลองอธิฐานว่า หากแม้นว่าคำอธิฐานนี้สำเร็จสมดังปรารถนา
ก็ขอให้พระหินนี้ จงหนักจนข้าพเจ้ายกไม่ขึ้นเทอญ ทีนี้ ถ้าสำเร็จ ก็จะยกไม่ขึ้นค่ะ ท่านจะหนักมากเลย ลองมาแล้วค่ะ ^^
อีกที่ก็คือพิพิธภัณฑ์ อาคารที่รวมรวม จัดแสดงสิ่งของเก่าแก่ล้ำค่า เป็นแหล่งศึกษาหาความรู้ที่ดี น่าเยี่ยมชมทีเดียว

 

อิอิ ของบางอย่างมันไม่ใช่ของเรา
ถึงรู้อย่างไร มันก็จะตอบผิด หรือ
ไม่มีโอกาสมาตอบ ใช่ไหมหล่ะครับ

อิอิ ยินดีกับคุณmarin1156 ด้วยนะครับ

 

เป็นอย่างนี้นี่เอง ขอบคุณพรหมพรมากครับ เดี๋ยวถ่ายรูปมาฝาก

 

ขอบคุณคุณ raiderman ครับ

 

ตอนปีใหม่ที่ไปก็ไม่ได้สังเกตุครับไปถึงก็เกือบห้าทุ่มครึ่งแล้วครับ มีเรื่องขำๆๆ จะเล่าให้ฟังครับ คือว่าผมได้รับข้อมูลว่าจะมีงานบวงสรวงพระธาตุตอนเที่ยงคืน 31 ธันวา ผมก็เลยโทรไปชวนน้องที่เป็นร่างปู่ไว้จะไปรับที่อุดรแล้วไปพระธาตุพนม ช่วงวันที่30-31 ธันวาผมก็อยู่อุบลทัวร์ไหว้พระแล้วก็เลยไปกราบหลวงปู่เณรคำ น้องเค้าก็โทรมาบอกว่าอยู่ไหนแล้วตอนนี้กำลังจะออกไปหนองคาย ( 08.30 น.) ผมก็บอกว่าอยู่อุบลเดี๋ยวจะไปรับช่วงบ่ายแล้วค่อยไปพระธาตุ (นึกว่าอุดร กับนครพนมมันใกล้กัน) น้องที่อุบลก็บอกว่าอุดรกับนครพนมไกลอยู่นะ น้องเค้าบอกว่ามีนิมิตว่ามีพยานาคมาตามผมไปอุดรตั้งแต่เช้าแล้ว ท่อนบนเป็นท่ายล่างเป็นงู เท่านั้นหละครับผมก็เลยต้องรีบไป ก็ออกจากอุบล -เข้ายโสธร-ร้อยเอ็ด-มหาสารคาม-ขอนแก่น จนถึงอุดร ขับรถจอดเต็มน้ำมันครั้งเดียวครับอึดมาก พอรับน้องเสร็จ น้องก็บอกว่าพี่เช็คมาดีแล้วใช่มั้ยว่ามีงานจริง ผมก็บอกว่าเพื่อนมันบอกว่ามี เอ้าไปก็ไป (ตอนไปถึงก็เหนื่อยมากๆๆแล้วครับ)c]คณเรามีแค่ 3 คนนะครับจะไปซื้อชุดขาวใส่กันเต็มยศอีก ก็ไปหนองคายไปไหว้หลวงพ่อพระใสเสร็จก็จะไปนครพนมซึ่งจริงๆๆผมไม่รูทางไปเลยไปเลย น้องเค้าก็บอกว่าปู่ไปรออยู่แล้ว น้องเค้าก็เอาเหล็กไหลที่ใสเป็นแก้วสีเขียวมาให้ดู 1 คู่นะครับสวยมากน้องเค้าบอกว่าปู่ให้เอาขึ้นมามีแค่คู่เดียว ขับไปสักพักจะ 1 ทุ่มแล้วน้องเค้าต้องสวดมนต์ก็เลยต้องแวะบ้านรุ่นน้องอยู้แถวอ.โพนพิสัย แล้วก็ไปต่อ อยู่ๆ น้องเค้าก็ถามผมอีกว่ามีงานแน่นะ เช็คมาดีแล้วนะผมก็คงมีหละน่าระยะทางที่จะไปจากหนองคายไปนครพนมประมาณ 350 กม เห็นจะได้เริ่มต้นเดินทางหลังสวดมนต์เสร็จ ก็เกือบ2 ทุ่มครึ่งแล้ว(น้องเค้าสวดมนต์เพราะมากเป็นบทแปลกๆๆ น้องเค้าบอกว่าปู่มาสอน) ตลอดระยะทางจากดโพนพิสัย ถึงตัวจังหวัดนครพนมคืนสิ้นปี แถบไม่มีรถผ่านสวนเลยเส้นทางดีมากแต่ไม่มีปั้มน้ำมันและร้านค้าใดๆๆเลย จึงมุ่งมันไปอย่างเดียวพอไปถึงสักอี 35 กม ถึงพระธาตุพนม น้องเค้าถามผมอีกทีว่ามีงานจริงเหรอ ผมก็เลยบอกน้องเค้วไม่แน่ใจวะถามปู่ดูหน่อยสิ น้องเค้าบอกว่า ปู่บอกผมตั้งแต่ถึงตัวจังหวัดแล้วว่าแปลนเอิดเติด! (ไม่มีคนเลย) ผมก็เหนื่อยสิครับแต่ก้ไม่เป็นไรมาแล้วนิ อุตส่ารีบจัดขับ120-140 มาตลอด รีบสุดชีวิต มาถึงก็ 5 ทุ่ม ครึ่งพอดีพอเข้าไปดูก็แปลนเอิดเติด เหมือนที่ปู่บอกเลย มีพระอยู่รูปเดียวแล้วก็มีคนมาไม่กี่คน แต่ใจผมก็บอกว่าไม่มีบรวงสรวงก็ไม่เป็นไรเรามาทำบุญได้สวดมนต์ ข้ามปี ได้กราบนมัสการพระธาตุ น้องเค้าบอกว่าปู่ท่านก็หัวเราะใหญ่เลย แต่ว่านะครับความรู้สึกตอนนั้นมันอิ่มมาก ทั้งๆๆ ที่ทั้งหิว ทั้งเหนื่อย ทั้งง่วง ขับรถตั้งแต่เช้าจนดึก น้องเค้าก็ไปนั่งสวดมนต์ ปู่ท่านก็พาน้องเค้าไปดูในองค์พระธาตุว่าปู่ท่านเป็นผู้ดูแลที่นี่อยู่ กับอีกทั้งเหล่าพญานาค 13 ตระกูล มีเหล็กไหล 3 คู่หมุนเฝ้าพระอบทองคำข้างในอีก ผมก็ว่าดีได้ความรู้เพิ่มเต็มไปอีกแบบ