สัมผัสญาณ "พระแม่อุมาเทวี"

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย suspicious, 17 ธันวาคม 2008.

  1. suspicious

    suspicious สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    8
    ค่าพลัง:
    +19
    [MUSIC][/MUSIC]

    "ญาณสัมผัส" กับความเป็นมาที่ดู "เหนือธรรมชาติ" หากเกิดขึ้นกับคนทุกคนเราคงเห็นเป็นเรื่องธรรมดา แต่ทว่าเรื่องทำนองนี้คงเกิดขึ้นเฉพาะกับคนที่มีความพิเศษหรือเป็นผู้ที่ถูก "เบื้องบน" เลือกแล้วที่จะให้เกิดมาเพื่อรับหน้าที่เป็น "สื่อ" โดยหลีกเลี่ยงไม่ได้

    อย่างเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับ "อ.แก้วอุมา ชูพาณิชสกุล" ซึ่ง เธอเป็นคนสมัยใหม่ จบการศึกษาระดับปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยเอกชนที่มีชื่อเสียง มีงานทำที่มีเกียรติ เงินเดือนสูงอยู่แล้ว แต่อยู่มาวันหนึ่งกลับต้องผันเปลี่ยนชีวิตเข้าไปเกี่ยวข้องกับความลี้ลับ และเรื่องของจิตวิญญาณอย่างเหลือเชื่อ อ.แก้วอุมา เล่าให้เราฟังถึงเรื่องราวตั้งแต่วัยเด็กว่า "แต่เดิมก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงมามี ‘ญาณสัมผัส' เพียงแต่เป็นคนที่ชอบโหราศาสตร์ตั้งแต่อายุประมาณ 14 - 15 และในวัยเด็กนี่คือแม่ขอมาเกิด ที่หลวงพ่อเพชร วัดท่าถนน จ.อุตรดิตถ์ ตอนท้องแม่เขาจะเห็นลูกกลม ๆ สีม่วง ๆ มาเข้าท้อง และพออายุซัก 10 กว่าขวบ อยู่ ๆ ก็ไปทักยายคนนึงที่เขาขายขนมว่า ‘ยายอีก 2 วัน ยายจะต้องโดนรถชนนะ' ยายก็ด่าใหญ่เลย ‘ไม่ต้องมาแช่งยายนะ' ก็บอก ‘หนูเห็นอย่างนั้นจริง ๆ ยายไปทำบุญปล่อยปลาเถอะ' แต่ ยายก็ไม่ทำ พอถัดไป 2 วัน แกโดนชนจริง ๆ สิ่งที่เราเห็นคือกรรมของแกที่จะต้องโดนในช่วงเวลานั้น ๆ ไง เราเห็นเป็นภาพขึ้นมาราง ๆ แล้วหายไป"
    เพราะมีสิ่งพิเศษ ที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด จึงทำให้ อ.แก้วอุมา กลายเป็นผู้มี "ญาณสัมผัส" ไปโดยไม่รู้ตัว ทำให้เธอสามารถทายทักเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นกับคนรอบตัว ได้อย่างแม่นยำ นอกเหนือจากนี้ยังเริ่มมีสิ่งแปลก ๆ เกิดขึ้นกับตัวเธอมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการได้เห็น "ดวงวิญญาณ" เป็นว่าเล่น
    "วิญญาณนี่เห็นบ่อยเลย อย่างขับรถไปเนี่ยจะเห็นวิญญาณเขายืนเหมือนขอส่วนบุญ เป็นเงาราง ๆ มาโบกให้เราหยุด และมาเห็นตอนไปทำบุญที่วัดท่าถนน จ.อุตรดิตถ์ คือเราตื่นประมาณ ตี 4 เห็นเขายืนอุ้มลูกร้องไห้ คล้ายเขาแท้งลูก แต่คุยไม่ได้ เห็นแต่ภาพราง ๆ และที่เห็นล่าสุดตอนไปบวชที่วัดถ้ำรัตนบุปผา จ.ลพบุรี มีคนบอกที่นี่เทพเยอะ ผีเยอะ วัดอยู่ในถ้ำลึกเป็นถ้ำจริง ๆ มีพระอยู่ 6 รูป ช่วงดึก ๆ ที่นี่มืดสนิทไป วันแรกก็ขึ้นไปบนกุฏิที่ท่านสร้างเป็นกุฏิชีพราหมณ์ เพื่อนก็นอนก่อนเลย เราก็ยังไม่หลับ ตกกลางดึกเห็นคนหิ้วหัวลากไปลากมา เราสวดชินบัญชรก็ยังไม่ไปนะ หลวงพ่อบอกว่าคนๆนี้เป็นผู้ชายอยู่ในตลาดมวกเหล็ก เขาผิดหวังเรื่องครอบครัวแล้วไปกินยาบ้า วันหนึ่งเขาขับมอเตอร์ไซค์รถคว่ำบนรางรถไฟ และโดนรถไฟทับคอขาด เขาเลยมาขอส่วนบุญ โยมคนนี้ตายโหงที่รางรถไฟที่มวกเหล็ก ยังไม่ถึงเวลาไปเกิด วัดนี้น่ากลัวจริง ๆ ที่นี่ใครอยากไปเจออะไรมีหมด"

    "ส่วนการสัมผัสของเราเนี่ยในตอนแรก เราไม่รู้ว่าสิ่งที่เราเห็นมันจริงหรือไม่จริง เพราะภาพที่เห็นเป็นภาพราง ๆ เห็นในขณะที่ยังไม่ได้เริ่มปฏิบัติธรรม เมื่อเห็นเป็นภาพขึ้นมาก็ เอ๊ะ ...เราคิดไปเองรึเปล่า ช่วงนั้นก็สวดมนต์บ่อยคือ สวดชินบัญชร แต่มีสิ่งแปลก ๆ ที่เกิดขึ้นกับตัวเองก็คือ เวลาขับรถชอบพูดภาษาแปลก ๆ อยู่คนเดียว ซึ่งแปลไม่ได้ก็คิดว่าเราบ้าอีกแล้ว ก็เริ่มหาสิ่งที่เราเป็นจากตำหนักทรง ตำหนักทรงก็บอก ‘คุณต้องรับขันธ์นะถ้าคุณไม่รับคุณต้องบ้า' เราก็ไม่รู้ว่ารับขันธ์เป็นยังไงก็ไม่รับ และไปดูที่อื่นทุกที่เหมือนกันหมด คือดูไม่รู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นคืออะไร เสียเงินเยอะมากตอนนั้น เสร็จแล้วเพื่อนก็พาไปหาท่าน อ.วิพัฒน์ ซึ่งเป็นเกจิอาจารย์อยู่ที่วัดคลองลาว จ.จันทบุรี ท่านนั่งทางในได้ ท่านบอกโยมมีสิ่งดี ๆ อยู่กับตัวนะ โยมไปบวชชีพราหมณ์หน่อย ไปนั่งสมาธิ เราก็เลยไปบวชที่วัดมเหยงค์ อยุธยา ไปนั่งกรรมฐานอยู่ 7 วัน ดีมาก ๆ เห็นแสงสีต่าง ๆ มาเต็มไปหมดเลย เราก็ไม่รู้คืออะไร ก็คุยกับหลวงพ่อที่นั่น ท่านบอกเขาเรียกว่า ‘รูปจิต' มันเหมือนสัญญาเดิม

    เป็นการรู้มั่นจำในอดีตภพของโยมที่เคยปฏิบัติมาดี' ท่านบอก ‘แล้วโยมก็จะได้เห็นในสิ่งที่คนอื่นเขาไม่เห็น ให้โยมปฏิบัติไป ไม่ต้องไปยึดมั่นถือมั่นตรงนั้น แล้วโยมก็จะรู้ในสิ่งที่โยมต้องการจะรู้'

    ท่านพูดเป็นนัย ๆ ไม่บอกตรง ๆ ท่านบอกให้ปฏิบัติให้ได้ญาณ และญาณตัวนี้ จะนำพาให้ไปในสิ่งที่เขากำหนดมา จากนั้นเมื่อสึกแล้วกลับมาบ้าน พอสวดมนต์กลับพูดหนักกว่าเดิมอีกเป็นภาษาเทศ เพื่อนก็เลยพาไปหา ‘พระอาจารย์สมชาย' ซึ่ง เป็นเกจิอาจารย์อยู่ที่วัดเขาสุกิม จ.จันทบุรี (ปัจจุบันมรณภาพแล้ว) ท่านเก่งมากและเข้าพบยาก คิวยาวมากก็รอ เรารู้ว่าท่านมีบารมีในเรื่องของวาจาสิทธิ์ พอเราเข้าไปคุยกับหลวงพ่อ เราก็บอก ‘ลูกมาพึ่งบารมีท่านนะเพราะตอนนี้ลูกเป็น อะไรก็ไม่รู้ ไม่เข้าใจว่าจะต้องทำอะไร ยืนอยู่ตรงจุดไหนจึงอยากรู้อยากพิสูจน์ให้ได้ว่าเราเป็นอะไร' ท่านก็พูดว่า ‘โยม... เอาอย่างนี้แล้วกัน อาตมาพูดได้แค่นี้นะว่าโยมน่ะจะมีองค์บารมี ลงมาขอใช้ให้เป็นสื่อในการช่วยชี้แนะมนุษย์ให้ทำกุศล มันเหมือนจิตเดิมของโยมเคยสัมพันธ์กับองค์นั้น' ก็ถามว่า ‘องค์ไหนคะ' ท่านก็บอก 'เอาอย่างนี้แล้วกัน โยมกลับไปที่บ้านวันพระหรือวันพฤหัสซึ่งเป็นวันเกิดโยม แล้วโยมเกิดในเทศกาลกินเจพอดี'ท่านรู้ถึงขนาดนั้น ‘โยม ไปนั่งกรรมฐาน กินเจ 3 วัน จุดธูป 16 ดอก ผลไม้ 5 อย่าง บวงสรวงและสวดคาถาเปิดโลก ซึ่งท่านให้มาแล้วสวดชุมนุมเทวดาบอกท่านว่าโยมเป็นสื่ออย่างนี้ ตอนนี้พร้อมแล้วที่จะรับสื่อตรงนั้น ถ้าท่านเป็นองค์ไหนให้ท่านลงมาสื่อบอกโดยตรง แล้วโยมจะรู้เอง'
    จากนั้นปริศนาในเหตุการณ์ประหลาดที่เกิดขึ้นกับอ.แก้วอุมาก็เริ่มคลี่คลายใน คืนหนึ่ง ซึ่งเป็นวันเกิดของอ.แก้วอุมาเอง คืนนั้นเธอได้ฝันเห็นผู้หญิงสวยคนหนึ่งขี่เสือมาหา และชวนให้นั่งไปด้วยกัน ผู้หญิงที่เห็นในความฝันก็คือ "พระแม่อุมาเทวี" ท่านมาบอกว่า "เจ้าจะดูดวงผ่านจิตได้ ขอให้เจ้าตั้งใจทำกุศลนะแล้วเจ้าจะได้ดี" ซึ่งที่น่าแปลกคือ เธอฝันอย่างนี้ติดกันถึง 3 วัน และหลังจากนั้นอาจารย์แก้วอุมาก็ได้ลาออกจากงาน เพื่ออุทิศตัวเป็นสื่อสัมผัสญาณพระแม่อุมา ให้กับคนที่ตกทุกข์ได้ยากให้พลิกผันชีวิต ให้มีทางออกโดยทางธรรม ปัจจุบันจึงมีลูกศิษย์ลูกหามากมาย ที่ให้การยอมรับในญาณสัมผัสอันแม่นยำของเธอ
     
  2. ทิพย์ศรัทธา

    ทิพย์ศรัทธา Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2008
    โพสต์:
    27
    ค่าพลัง:
    +28
    อ.แก้วอุมามีเบอร์โทรติดต่อบ้างหรือเปล่าวค่ะอยากให้อาจารย์ดูดวงให้จัง
     
  3. nukaka

    nukaka สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    28
    ค่าพลัง:
    +4
    อยากได้ที่อยู่ และเบอร์โทร อยากจะแก้ไขกรรมตัวเอง โมทนาสาธุด้วยคนที่บอก nuka_505@hotmail.com
     
  4. suspicious

    suspicious สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    8
    ค่าพลัง:
    +19
    ขอบคุณค่ะที่เข้ามาอ่านกระทู้ เดี๋ยวเราจะพยายามหาข้อมูลของ อ.แก้วอุมา ให้นะคะ เพราะเราเองก้อเพิ่งเปิดไปเจอโดยบังเอิญวันนี้เหมือนกันค่ะ แต่ไม่มีเบอร์โทร หรือที่อยู่ที่จะติดต่อได้เลย ต้องขอโทษด้วยนะคะ แต่จะพยายามหาให้ค่ะ
    ตอนนี้ระหว่างที่รอก้อหมั่นสวดมนต์ ไหว้พระ นั่งสมาธิ ไปก่อนนะคะ จิตใจจะได้สงบ แล้วก้อมีสมาธิมากขึ้น เผื่อจะช่วยได้อีกทางหนึ่งนะคะ ขอให้โชคดีทุกๆคนนะคะ
     
  5. ดาโกต้า

    ดาโกต้า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    274
    ค่าพลัง:
    +210
    ดีจัง..... ช่วยเป็นสื่อให้กับผู้ที่มีปัญหาคล้าย ๆ กันได้เข้าใจ ได้หายสงสัยบ้าง
     
  6. suspicious

    suspicious สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    8
    ค่าพลัง:
    +19
    สวัสดีค่ะ คุณทิพศรัทธา และคุณ nukaka .
    ได้ที่อยู่อาจารย์แก้วอุมาแล้วค่ะ แต่เบอร์โทรยังไม่มีนะคะ
    สามารถเปิดเข้ามาอ่านประวัติของอาจารย์ที่เวปที่จะโพสให้นี้ได้เลยนะคะ

    http://www.duangchata.com/index_1.html

    ขอให้โชคดีทุกคนค่ะ อนุโมทนาสาธุด้วยนะคะ
     
  7. suspicious

    suspicious สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    8
    ค่าพลัง:
    +19
    ยินดีและเต็มใจอย่างยิ่งค่ะ อยากช่วยเท่าที่จะสามารถช่วยได้ให้หรือถึงที่สุดนะคะ จะได้ประสบแต่ความสุข ความเจริญค่ะ ได้ช่วยเขาแล้วมีความสุขค่ะ ขอบคุณนะคะที่เข้ามาอ่านกระทู้ ขอให้โชคดี แล้วก็รักษาสุขภาพด้วยนะคะ
     
  8. diffy

    diffy สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    14
    ค่าพลัง:
    +12
    Search หาแล้วพบ web นี้ค่ะ น่าจะใช่ลองเข้าไปศึกษาดูนะค่ะ
    http://www.duangchata.com/
     
  9. ผู้นอบน้อมสุดใจ

    ผู้นอบน้อมสุดใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    955
    ค่าพลัง:
    +2,094
    เป็นกำลังใจให้ครับ
     
  10. เด็กวัดแขก

    เด็กวัดแขก สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    13
    ค่าพลัง:
    +9
    ดีค่ะ และก้อมีความรู้สึกว่าคล้ายๆกับตัวเองพอสมควรค่ะ แต่ก้อไม่ทราบว่าตัวเองเป็นไรเหมือนกันค่ะ เหมือนกับตัวเองคิดไปเองอ่ะค่ะ ขออนุโมทนาสาธุด้วยนะค่ะ
     
  11. วิมุตติมรรค

    วิมุตติมรรค สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +1
    ขอกล่าวเตือนว่าสิ่งนี้ไม่ใช้ทางพ้นทุกข์ เป็นสิ่งที่พระพุทธเจ้าไม่ทรงสนับสนุน

    การดูดวงผ่านจิตน่าจะเป็นกิเลส หลงนำมาแม้ว่าจะพอเชื่อได้แต่ไม่ควร

    และกรุนาอย่าอนุโมทนา เพราะว่ามันเป็นเดรัจฉานวิชา
     
  12. suspicious

    suspicious สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    8
    ค่าพลัง:
    +19
    สวัสดีค่ะคุณ diffy,
    ขอบคุณมากนะคะที่เข้ามาอ่านกระทู้ เข้าเวป http://www.duangchata.com/ แบบที่คุณเจอ แล้วคลิกคำว่า " Enter " หลังจากนั้นเลือกด้านแถวบน คำว่า " ประวัติ - ประสบการณ์ " นำคะ แล้วจะเห็นรูปของ อาจารย์แก้วอุมา พร้อมที่่อยู่ และแผนที่สำนักงานจะอยู่ด้านล่างสุดของหน้า ประวัติ - ประสบการณ์ ค่ะ
    สาธุนะคะที่ส่งเวปไซด์มาแนะนำให้
     
  13. suspicious

    suspicious สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    8
    ค่าพลัง:
    +19
    สวัสดีค่ะ คุณผู้นอบน้อมสุดใจ และคุณเด็กวัดแขก ที่เป็นกำลังใจให้และอนุโมทนาสาธุนะคะ .เช่นกันนะคะ จำเป็นกำลังใจให้สำหรับผู้ที่มีความทุกข์ค่ะ

    และก็สวัสดีคุณวิมุติมรรคค่ะ
    เราก็เห็นด้วยนะคะ ว่าการดูดวงไม่ใช่ความพ้นทุกข์ และเราเองก็ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับ อาจารย์แก้วอุมา เช่นกัน การที่เรานำเรื่องนี้มาโพสในกระทู้ เพราะเราเห็นว่า อาจารย์แก้วอุมา มีเรื่องมหัศจรรย์เกิดขึ้นกับตัวท่าน หลังจากที่ท่านได้สวดมนต์ นั่งสมาธิ ถือศึล และท่านก็ดูดวงเพื่อช่วยเหลือผู้ที่มีความทุกข์เพื่อให้พ้นทุกข์อีกทางหนึ่ง แต่จะแตกต่างกับคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าก็เท่านั้นเอง ถ้าคุณอ่านรายละเอียดดีๆ คุณจะเข้าใจว่า อาจารย์แก้วอุมา ได้เสียสละตน ลาออกจากหน้าที่การงานที่ดี และเงินเดือนดีๆ เพื่อมาดูดวงช่วยเหลือผู้ที่มีความทุกข์ ด้วยการใช้ sixth sense ที่มีอยู่ในตัวของตัวท่านเองเพื่อชี้ทางสว่างในการหลุดพ้นทุกข์ ซึ๋งก็เป็นประโยชน์อีกทางหนึ่ง และอาจารย์แก้วอุมา เคยไปบวชชีพรามหณ์ ที่วัดมเหยงค์ ที่ จ.อยุธยา ซึ่งแนวทางที่อาจารย์ได้ปฎิบัติมา คือการถือศีล 8 นุ่งขาวห่มขาว เดินจงกลง และนั่งสมาธิ
    การดูดวงมีหลายแบบนะคะ และเราก็เห็นว่าอาจารย์ดูดวงเพื่อการชี้แนวทางเพื่อที่จะให้ผู้อื่นพ้นทุกข์
    ไม่ใช่การใช้ไสยศาสตร์ หรือ มีเจตนาที่จะดูดวง เหมือนดั่งเช่นกับหมอดูดวงบางท่านที่เห็นแก่ตัวนะคะ อยากได้แต่เงิน แต่ไม่เคยชี้ทางสว่างให้กับผู้ที่ต้องการพ้นทุกข์เลย ว่าพวกเขาต้องทำอย่างไร เพราะฉะนั้นการทำแบบนี้ก็ได้บุญกุศลเช่นกัน อาจจะไม่ได้มากเหมือนกับคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า แต่ก็ยังดีไม่ใช่หรือคะ ช่วยให้ผู้อื่นพ้นทุกข์ได้หลายๆทาง เพื่อให้พวกเขาได้บุญกุศลที่พวกเขากระทำ จะได้หลุดพ้นจากความทุกข์เร็วๆ และมีความสุขกับชีวิตของพวกเขาอีกครั้ง
    อย่าโกรธนะคะที่อธิบายให้ฟัง แต่อยากให้คุณเข้าใจค่ะ ถือว่าเป็นการแรกเปลี่ยนความคิดเห็นต่อกันนะคะ
    ขอบคุณค่ะ
     
  14. suspicious

    suspicious สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    8
    ค่าพลัง:
    +19
    ขอเพิ่มเติมอีกนิดนะคะ คุณเด็กวัดแขก การที่คุณมีความรู้สึกคล้ายกับอาจารย์แก้วอุมา ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีค่ะ ลองใช้ sixth sense ที่มีอยู่ในตัวเองช่วยเหลือผู้อื่นในทางที่ดีนะคะ แล้วคุณเด็กวัดแขก จะมีความสุขกับการที่ได้ช่วยเหลือมนุษย์โลกค่ะ และก็หมั่นสวดมนต์ นั่งสมาธินะคะ จะได้มีอะไรดีๆเข้ามาในชีวิต สาธุค่ะ
     
  15. ผู้นอบน้อมสุดใจ

    ผู้นอบน้อมสุดใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    955
    ค่าพลัง:
    +2,094
    ไม่ถึงกับเดรัจฉานหรอกกระมังครับ การที่ทำให้ผู้อื่นสบายใจและมีความสุขซึ่งไม่ได้ตั้งอยู่บนความทุกข์ของผู้ใด ตัวผมไม่คิดว่าเป็นเดรัจฉานวิชาครับ

    แ่ต่มันก็ไม่ใช่แนวทางของพระพุทธศาสนาจริงๆ


    ****ความเห็นส่วนตัวค้าบบบ
     
  16. nutt2522

    nutt2522 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    106
    ค่าพลัง:
    +70
    กับคนที่ไม่ชอบทางด้านนี้ คิดว่าคงจะมีอคติเกินไป เพราะยังไงตัวเราก็ยังสลัดไม่พ้นคำว่า อัสมิมานะ ทุกคนแล
     
  17. cinderella2517

    cinderella2517 Mindset Coach และ นักพยากรณ์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    735
    ค่าพลัง:
    +1,404
    เดรัจฉานวิชา น่าจะเป็นวิชาที่ส่อไปในทางบำรุงกิเลศ เช่น บรรดาเครื่องลางของขลัง วิชาคาถามหาเสน่ห์ หรือใช้จิตในการดูเลขเพื่อเล่นหวยรวยเบอร์อะไรทำนองนี้หรือแนวนี้มากกว่าค่ะ ส่วนจะเป็นกิเลศหรือไม่ต้องดูจากเจตนา อย่างที่อ่านมา อาจารย์ท่านนี้ใช้จิตสื่อดูเพื่อทราบบ่อเกิดแห่งทุกข์ของผู้นั่น แล้วแนะนำทางดับทุกข์ หากท่านแนะนำทางแก้ว่า มีกรรมตรงไหนให้แก้ตรงไหนโดยอาศัยแนวทางแห่งพุทธศาสนาและใช้ธรรมะเป็นเครื่องมือให้คนนั้นพ้นทุกข์ สิ่งนั้นไม่ถือเป็นเดรัชฉานวิชาหรอกค่ะ เพราะจิตสำผัสนั้นก็เปรียบเสมือนตาวิเศษ ส่วนสิ่งที่เห็นนั้นจริงหรือไม่จริงเจ้าของชะตาคงจะเป็นผู้ตัดสินใจเองได้ว่าจริงหรือไม่ แล้วหากถึงแม้ภาพที่เห็นจะเป็นสิ่งที่ถูกสิ่งลี้ลับลวงตาให้เชื่อว่าเป็นเช่นนั้น แต่หากนำมาเป็นกุศลโลบายให้เจ้าของชะตาใช้ธรรมมะในเป็นทางแก้ นั่นก็ถือเป็นเจตนาบริสุทธิ์ที่ปรารถนาให้ผู้อื่นพ้นทุกข์เช่นกันค่ะ ไม่บาปหรอกค่ะในความเชื่อของดิฉัน

     
  18. krit59

    krit59 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    219
    ค่าพลัง:
    +346
    พวก...... ทำกรรมอะไรเอาไว้ ยังไม่รู้ตัวอีกเหรอ จำเป็นต้องให้ผู้อื่นหรือเทพกระจอกๆ
    มาดูให้อีก เทพพวกนี้มันแค่บริวารแต่ชอบเอามาอ้างชื่อ เทพยังมีกิเลสเต็มกระบาล
    พระพุทธองค์ทรงสั่งสอนทางที่ถูกเอาไว้ แต่ไม่พากันศึกษา เอาแค่ถือศีล 5 ง่ายๆ นั้นแหละ ถือให้ได้แค่นี้ก้อดีแล้ว ไม่ต้องหาหมอมาแก้หรอก แก้ที่ตัวเอง ให้รู้จักตัวเอง
    คนสมัยนี้มันน่าเตะจริงๆ แก้ไม่ถูกทาง เอาวิชาพระพุทธเจ้ามาแก้สิ แก้ได้ผลล้าน%
    เชื่อผมเถอะ ดูดวงต่อให้มีอะไรร้ายๆแค่ไหน ถ้าใช้ความเพียรไปแก้ มันก้อได้ผล
    คนเราทุกวันนี้ชอบให้มันดีแบบรวดเร็ว ทั้งที่ตัวเองสร้างกรรมไม่รุ้เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่
    จะมาเอาดีเดี๋ยวนี้ ดีพรุ่งนี้ มันจะได้ยังไง พิจารณา พิจารณา ถ้าเทพจะสอนคนให้
    รักษาศีลก้ออนุโมทนาด้วย แต่นี่มันไม่ใช่ ต้องไปสร้างศาล ทำพิธีนั้นพิธีนี่ มันน่าอัดเทพ
    พวกนี้จริงๆ แค่เรารักษาศีลให้ได้ เทพก็ก้มกราบแล้ว
     
  19. สงบระงับ

    สงบระงับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    660
    ค่าพลัง:
    +2,919
    ท้าวมหาพรหม หรือมีชื่อ อีกอย่างหนึ่งว่า "สหัมบดีพรหม" เป็นหัวหน้าผู้ปกครองพรหมทั้ง 16 ชั้น ทรงเป็นมหาเทพผู้ยิ่งใหญ่ หนึ่งในสามองค์ ร่วมกับพระศิวะและพระนารายณ์ รวมเรียกว่า "พระตรีมุรติ" ซึ่งมีพระน้ำพระทัยกอปรไปด้วยพรหมวิหารธรรม คือธรรมอันเป็นเครื่องอยู่ของเหล่าพรหม ได้แก่ เมตตา กรุณา มุทิตา และอุเบกขา มีพระวรกายสีขาวบริสุทธิ์ มี4พักตร์ (จตุรพักตร์) 8 กร ถือไม้เท้าพรหมทัณฑ์ เป็นอาวุธ นอกจากนั้นยังมี แว่นแก้วสุรกานต์ ประคำ แจกันคัมภีร์ ช้อน และหม้อใส่เนย ประทับนั่งบนพระราชอาสน์ทองคำประดับเพชร
    จากเนื้อหาตามพระพุทธประวัติ ภายหลงจากที่พระพุทธเจ้าได้ตรัสรู้สัมมาสัมโพธิญาณแล้ว ทรงพิจารณาถึงธรรมที่พระองค์ตรัสรู้ ว่าเป็นธรรมที่มีความสุขุมคัมภีรภาพลึกซึ้งยิ่งอันจะหามนุษย์ธรรมดาทั่วไปที่เต็มไปด้วยกิเลส ตัณหา จะสามารถทำความเข้าใจและเข้าถึงได้ยากนัก จึงมีดำริที่จะไม่โปรดแสดงธรรมให้กับผู้ใดเลยทั้งสิ้น...
    ซึ่งความทราบถึง ท้าวมหาพรหมผู้เป็นใหญ่ ว่าจะเกิดความวิบัติกับเหล่าสรรพสัตว์ทั้งหลาย จึงได้ เสด็จลงมาทูลอาราธนาองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้โปรดแสดงธรรมเพื่อสั่งสอน และเป็นการสงเคราะห์เวไนยสัตว์ผู้ทุกข์ยากผู้มืดบอดไปด้วยอวิชา และยังต้องเวียนว่ายตายเกิดอยู่ในวังวนแห่งวัฏสงสาร อันเป็นความทุกข์ทรมานกายและใจอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ดังคำบาลีที่ว่า
    "พรหมมา จะโลกาธิปะติ สะหัมปะติ กัตอัญชะลีอัน ธิวะรัง อะยาจะถะ สันติธะสันตาป ปะระชัก ขะชาติกา เทเสตุธัมมัง อนุกัม ปิมังปะชัง"ซึ่งแปลความว่า
    "ท้าวสหัมบดีพรหมผู้เป็นอธิปดีขอโลก ได้ประนมหัตถ์ นมัสการอาราธนากราบทูลวิ
    งวอน สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าผู้ทรงธรรมอันประเสริฐ ว่าสัตว์ทั้งหลายผู้มีธุลี คือ กิเลสในดวงตาที่เบาบางยังมีอยู่ในโลกนี้ ขอพระองค์ทรงโปรดแสดงธรรมเพื่อสงเคราะห์หมู่สัตว์นี้เถิด "
    เพราะฉะนั้น ท้าวมหาพรหมจึงถือเป็นผู้มีพระคุณสูงสุดที่ให้การช่วยเหลือสงเคราะห์ สรรพสัตว์ผู้ทุกข์ยากให้พ้นจากความเดือดร้อนต่างๆนานา อีกทั้งพระองค์ท่านยังเปรียบเสมือนบรมครูทาง โหราศาสตร์ ที่สำคัญและยิ่งใหญ่ เพราะท่านคือ ผู้สร้างโลกและให้กำเนิดมนุษย์ ตลอดจนสรรพสัตว์ และสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย อีกทั้งยังเป็นผู้รู้ซึ้งถึงกาลเวลาและการเปลี่ยแปลงของโลกเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากพระองค์เป็นผู้กำหนด ชะตาชีวิตมนุษย์และโลกตั้งแต่เกิดจนตาย ตราบชั่วฟ้าดินสลายแต่เพียงผู้เดียว สมกับวาจาและ ที่กล่าวไว้ว่า "ชะตาคนชะตาฟ้า อยู่ใต้พระบัญชาของพรหมลิขิต"
    ที่มา/ ชื่อหนังสือ พรหมญาณพยากรณ์ ผู้แต่ง พรหมญาณ รัตนญาณ
    ความเชื่อก่อเกิดศรัทธา ความศรัทธาก่อเกิดพลังrat_wting
     
  20. แมงปอแก้ว

    แมงปอแก้ว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    600
    ค่าพลัง:
    +139
    ขอคุณสำหรับข้อความดี ดี มีความรู้ใหม่ สาธุ สาธุ
     

แชร์หน้านี้

Loading...