โยคะบำบัดโรคสำหรับโรคปวดหลัง ปวดเอว

โยคะบำบัดโรคสำหรับโรคปวดหลัง ปวดเอว<O</O​

<O</O

​

อาการปวดหลังเป็นอาการที่เราพบบ่อยในเวชปฏิบัติทั่วไปรองจากอาการปวดศีรษะ พบว่าร้อยละ 65-80 ของประชากรทั่วโลก มีอาการปวดหลังช่วงใดช่วงหนึ่งของชีวิต ในสหรัฐอเมริกาประชากรวัยทำงานร้อยละ 15-20 จะมีอาการปวดหลังในแต่ละปี<O</O
สำหรับสาเหตุของอาการปวดหลังแบ่งง่าย ๆ เป็น 2 กลุ่ม คือ<O</O
กลุ่มที่ 1 ประมาณร้อยละ 10 เป็นกลุ่มที่มีสาเหตุจำเพาะ ซึ่งจะต้องมีการแก้ไขสาเหตุนั้น ๆ เช่น มีอุบัติเหตุรุนแรงทำให้กระดูกไขสันหลังหักเกิดการกดทับเส้นประสาท เนื้องอกที่กระดูกไขสันหลัง การติดเชื้อ หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท กลุ่มนี้ต้องการการรักษาโดยการผ่าตัด โดยแพทย์แผนปัจจุบันจะได้ผลดี<O</O
กลุ่มที่ 2 ประมาณร้อยละ 80 ไม่มีสาเหตุจำเพาะ ไม่ต้องรักษารีบด่วน กลุ่มนี้ส่วนใหญ่เป็นพวกปวดหลังจากกระดูดเสื่อมไปตามไว คนไข้กลุ่มนี้ส่วนใหญ่รักษาหายโดยใช้ยาภายใน 4-6 สัปดาห์ มีส่วนน้อยที่จะเป็นเรื้อรัง ซึ่งโยคะจะมีบทบาทในผู้ป่วยกลุ่มที่เป็นเรื้อรังและเป็นซ้ำ ๆ<O></O>
ผู้ป่วยที่มีอาการเรื้อรังมักจะมีปัจจัยหลายประการที่ทำให้เกิดอาการปวดหลังกล่าวคือ การบริโภคอาหารมากเกินไปจนทำให้น้ำหนักมากเกิน อ้วน การสูบบุหรี่ การขาดการออกกำลังกาย หรือใช้แรงกายทำงานมากเกินไป กระดูกหลังเสื่อมตามอายุ ความเครียด ความวิตกกังวล ดังนั้นการแก้ปัญหาจึงต้องรวมถึงด้านอาหารเพื่อควบคุมน้ำหนักให้เหมาะสม การออกกำลังกายให้กล้ามเนื้อแข็งแรง กระดูกหลังแข็งแรงมีความยืดหยุ่นดี งดสูบบุหรี่ และสุดท้ายแก้ปัญหาเรื่องความเครียด ความวิตกกังวลด้วยการฝึกความผ่อนคลาย และการทำสมาธิ ซึ่งการฝึกโยคะมีบทบาทตรงจุดนี้<O</O
ดร. แพทริก แรนดอฟ (Patrick Randolph) แห่งศูนย์บำบัดอาการปวด แห่งมหาวิทยาลัยเทกซัส เทค ได้ใช้การฝึกโยคะร่วมกับการเจริญสติแบบพุทธ (Mindful Yoga) บำบัดผู้ป่วยที่มีอาการปวดเรื้อรัง พบว่าผู้ป่วยอาการดีขึ้นถึงร้อยละ 79 <O</O
ศาสตราจารย์โจน คาแบค ซิน (Jon Kabat Zinn)และคณะ แห่งโรงเรียนแพทย์มหาวิทยาลัยแมทซาชูเสท ได้ทำการศึกษาในผู้ป่วยปวดหลัง ปวดไหล่ ปวดศีรษะ เจ็บหน้าอก ปวดบริเวณใบหน้า ที่มีอาการปวดเรื้อรัง 51 ราย ซึ่งรักษาไม่ดีขึ้นตามแบบแพทย์แผนปัจจุบัน โดยใช้การฝึกโยคะร่วมกับการเจริญสติแบบพุทธ (Mindfulness Meditation)เป็นเวลา 10 สัปดาห์ พบว่าผู้ป่วยมีอาการปวดดีขึ้ร้อยละ 65 <O</O
สำหรับวิธีการฝึกโยคะเราอาจปฏิบัติ ดังนี้ คือ<O</O
<O</O
<?xml:namespace prefix = v ns = "urn:schemas-microsoft-com:vml" /><v:shapetype class=inlineimg id=_x0000_t75 title="Tongue out" smilieid="24" stroked="f" filled="f" path="m@4@5l@4@11@9@11@9@5xe" alt="" src="images/smilies/tongue-smile.gif" border="0" v:shapetype o<><v:shape id=_x0000_s1026 style="MARGIN-TOP: 0px; Z-INDEX: 1; MARGIN-LEFT: 261pt; WIDTH: 150pt; POSITION: absolute; HEIGHT: 105pt; mso-wrap-distance-left: 3pt; mso-wrap-distance-top: 3pt; mso-wrap-distance-right: 3pt; mso-wrap-distance-bottom: 3pt; mso-position-horizontal: absolute; mso-position-horizontal-relative: text; mso-position-vertical: absolute; mso-position-vertical-relative: line" o:allowoverlap="f" alt="" type="#_x0000_t75"></v:shape>ท่าที่ 1 ท่าภูเขา


<O</O
ความหมาย

ความหมาย คำว่า ทัต แปลว่า ภูเขาในภาษาสันสกฤต


วิธีปฏิบัติ <O</O

1. ยืนเท้าชิด หลังตรง แขนแนบลำตัว หันฝ่ามือเข้าหาตัว <O</O
2. เกร็งกล้ามเนื้อเข่า ต้นขา ท้อง และสะโพกเล็กน้อย รักษาท่าในข้อที่ 1 ไว้ ให้เท้าทั้งสองข้างรับน้ำหนักเท่าๆ กัน <O</O
3. หายใจเข้า โค้งตัวไปข้างหน้า ยื่นศีรษะออกไปให้มากที่สุด <O</O

คำแนะนำ

การเคลื่อนไหวหรือทรงตัวผิดท่ามักทำให้เกิดอาการปวดเมื่อย ถ้ากระดูกสันหลังไม่ตรง หรือมีอาการแน่นตึงที่แผ่นหลัง จะทำให้ร่างกายไม่สมดุล หากอาการไม่สมดุลนี้เรื้อรัง จะทำให้เกิดอาการผิดปกติในอวัยวะ ต่อม และระบบประสาทต่างๆได้

การทำท่าทัตอาสนะนี้ ทำให้เห็นการเคลื่อนไหวและการทรงตัวได้ชัดขึ้น หากมีอาการผิดปกติจะเห็นได้ชัดเจน เมื่อคงท่านี้ไว้และกลั้นหายใจ จิตใจและร่างกายอาจสงบหากมีอาการผิดปกติกับกระดูกสันหลัง ก็จะเห็นได้ชัด

การฝึกท่านี้อย่างต่อเนื่องและถูกต้อง ควบคู่ไปกับการฝึกท่าอื่นๆ จะช่วยฝึกให้ร่างกายยืนอย่างถูกต้อง จิตใจตั้งมั่นและปราศจากสิ่งรบกวนจะรู้สึกว่าร่างกายเป็นอัน หนึ่งอันเดียวกันกับพื้นโลก และนิ่งราวกับขุนเขา

ระยะเวลา / การทำซ้ำ
ควรทำท่านี้ซ้ำหนึ่งครั้ง และคงไว้สักครู่หนึ่ง ท่านี้ควรฝึกก่อนท่ายืนอื่นๆ<O</O</O

ท่าที่ 2 ท่ามือถึงเท้า ท่านี้เวลาปฏิบัติ มือจะจับนิ้วเท้า หรือข้อเท้า จึงเรียกว่ามือถึงเท้า


<O</O
วิธีปฏิบัติ <O</O
1 ) ยืนตรงเท้าชิด เหมือนท่าภูเขา หายใจเข้า ยกแขนทั้งสองขึ้นเหนือศีรษะ ไม่ต้องเขย่งเท้า ค้างไว้สักครู่<O</O
2 ) หายใจออกค่อย ๆ ก้มตัวลง เข่าทั้งสองเหยียดตรง ไม่งอ มือทั้งสองจับหัวแม่เท้าหรือข้อเท้าไว้ ก้มตัวลงจนหน้าผากแตะเข่า สำหรับผู้ที่เริ่มฝึก ให้ก้มเท่าที่จะทำได้ เมื่อฝึกนานเข้าก็จะก้มได้มากขึ้นเอง ค้างในท่านี้สัก 10 วินาที ทำซ้ำ 3-5 ครั้ง<O</O
ประโยชน์ <O</O
ท่านี้ช่วยรักษาโรคทางเดินอาหารโรคกระเพาะ ทำให้กระดูกสันหลังยืดหยุ่นได้ดี แก้โรคหมอนรองกระดูกเลื่อน ช่วยลดไขมันต้นขา สะโพก เอว หน้าท้อง ท่านี้ศีรษะก้มต่ำทำให้เลือดไหลมาเลี้ยงสมอง ใบหน้าอ่อนกว่าวัย ช่วยรักษาโรคเส้นเลือดสมองตีบ ผมหงอกก่อนวัย ความจำเสื่อม แพ้อากาศ โพรงจมูกและไซนัสอักเสบ เป็นต้น<O</O
<O</O
ท่าที่ 3 ท่าศีรษะถึงเข่า (ชาณุศีรษะอาสนะ)ชาณุ แปลว่าเข่า ศีรษะ แปลว่า หัว ท่านี้ศีรษะก้มลงชิดเข่า


<O</O
วิธีปฏิบัติ<O</O
นั่งเหยียดเท้าตรงทั้งสองข้าง ต่อมาพับขาข้างหนึ่งเข้ามา ฝ่าเท้ายันไว้กับต้นขาหายใจเข้ายกแขนทั้งสองขึ้นเหนือศีรษะค้างไว้สักครู่ ต่อมาหายใจออก ค่อย ๆ ก้มตัวลงหน้าผากแตะเข่า มือทั้งสองจับข้อเท้าไว้ ค้างไว้ 10 วินาที ทำซ้ำ 3 ครั้ง แล้วเปลี่ยนข้างฝึกในลักษณะเดียวกันอีก 3 ครั้ง<O</O
ประโยชน์ <O</O
ท่านี้ช่วยให้กล้ามเนื้อและกระดูกหลังแข็งแรง ข้อต่ออุ้งเชิงกรานยืดหยุ่นดี ช่วยบรรเทาอาการปวดหลัง ลดไขมันต้นขาและสะโพก บำบัดโรคในอุ้งเชิงกราน มดลูก รังไข่ กระเพาะปัสสาวะ ช่วยให้รอบเดือนมาปกติ<O</O
<O</O
ท่าที่ 4 ท่ายืดส่วนหลังปัศจิม แปลว่า ทิศตะวันตก ในที่นี้ถือว่าเป็นส่วนหลังของร่างกายซึ่งโยคะถือว่าหน้าหันไปทางทิศตะวันออก หลังหันไปทางตะวันตก


<O</O
วิธีปฏิบัติ<O</O
นั่งเหยียดเท้าทั้งสองตรงไปข้างหน้า หายใจเข้ายกแขนทั้งสองขึ้นเหนือศีรษะ ต่อไปหายใจออก ค่อย ๆ ก้มตัวลงหน้าผากแตะเข่า มือทั้งสองจับข้อเท้าหรือหัวแม่เท้าไว้ ค้างไว้ 10 วินาที ทำซ้ำ 3 ครั้ง<O</O
ประโยชน์<O</O
ท่านี้ช่วยแก้อาการปวดหลังปวดเอว ลดไขมีนที่ต้นขาและสะโพก ช่วยให้การย่อยอาหารดี รักษาโรคของอุ้งเชิงกราน มดลูกและรังไข่ ในผู้ชายรักษาโรคต่อมลูกหมากโต โรคของอัณฑะ โรคเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ<O</O
</O
ท่าที่ 5 ท่างูท่านี้ร่างกายจะมีรูปร่างเหมือนงูเห่า เป็นท่าโยคะที่เก่าแก่และงดงามท่าหนึ่ง


<O</O
วิธีปฏิบัติ<O</O
นอนคว่ำกับพื้นเท้าชิดกัน มือทั้งสองวางลงใต้ไหล่ หายใจเข้า ค่อย ๆ ใช้แขนดันลำตัวขึ้น คอแหงนขึ้น ตามองเพดาน ค้างอยู่ในท่านี้ 10 วินาที หายใจออก ค่อย ๆ วางตัวลงทำซ้ำ 2-3 ครั้ง ท่านี้ใช้กล้ามเนื้อหลังเป็นตัวช่วยดึงให้ลำตัวแอ่นขึ้น ผู้ชำนาญแล้ว เวลายกลำตัวขึ้นเรียบร้อยแล้ว อาจจะยกมือทั้งสองลอยเหนือพื้นแล้วค้างไว้<O</O
ประโยชน์<O</O
ท่านี้ช่วยบริหารกระดูกสันหลัง แก้หมอนรองกระดูกเคลื่อน เลือดมาเลี้ยงประสาทสันหลังมาก ช่วยขับลม การย่อยอาหารดี ช่วยรักษาอาการมดลูกผิดปกติ ประจำเดือนมาไม่ปกติ ไนเพศชายแก้อาการฝันเปียก ท่านี้ยังช่วยให้ความจำดี สมาธิดี จึ่งเหมาะสำหรับนักเรียน<O</O
<O</O
ท่าที่ 6 ท่าตั๊กแตน ศลภา แปลว่า ตั๊กแตน อาสนะนี้ร่างกายจะมีลักษณะคล้ายตั๊กแตน


<O</O
วิธีปฏิบัติ<O</O
1 ) นอนคว่ำเท้าชิดกันคางชิดพื้น ฝ่ามือทั้งสองวางไว้ข้างลำตัว ไหล่ทั้งสองข้างแนบกับพื้น หายใจเข้า ค่อย ๆ ยกเท้าซ้ายขึ้นเข่าเหยียดตึงไม่งอ ค้างไว้ 10 วินาทีหายใจออกวางเท้าลงหายใจเข้า ยกเท้าขวาขึ้น ในลักษณะเดียวกัน หายใจออกวางเท้าขวาลง ทำซ้ำ 3 ครั้ง<O</O
2 ) ต่อไปหายใจเข้า ยกเท้าทั้งสองขึ้นพร้อมกัน เข่าเหยีดตรงค้างไว้ 10 วินาที หายใจออกวางเท้าทั้งสองลง ทำซ้ำ 2-3 ครั้ง สำหรับผู้ที่ฝึกใหม่ ให้ฝึกยกเท้าที่ละข้างจนชำนาญก่อนจึงค่อยฝึกยกเท้าทั้งสองข้าง<O</O
ประโยชน์<O</O
ท่านี้จะช่วยให้กล้ามเนื้อต้นขาแข็งแรง สวยงาม กระดูกสันหลังแข็งแรง ช่วยรักษาโรคเบาหวาน ไส้เลื่อนขาหนีบ ต่อมลูกหมากโต โรคระบบทางเดินปัสสาวะ ท่านี้ยังช่วยรักษาโรคลำไส้ กระเพาะอาหาร แก้ท้องอืด ขับลม<O</O
<O</O
ท่าที่ 7 ท่าธนู ท่านี้ร่างกายจะมีรูปร่างเหมือนธนู


<O</O
วิธีปฏิบัติ<O</O
นอนคว่ำกับพื้น มือทั้งสองจับข้อเท้าหรือฝ่าเท้าทั้งสองไว้ให้มั่นคงหายใจเข้าค่อย ๆ ยกตัวขึ้น แอ่นลำตัว แขนทั้งสองจับข้อเท้าดึงให้ตึง เหมือนโก่งคันธนู ค้างไว้ 10 วินาที หายใจออกค่อย ๆ วางลำตัวลง ทำซ้ำ 3 ครั้ง ผู้ที่ชำนาญแล้วเวลายกตัวค้างไว้ อาจจะโยกลำตัวไปมา ด้วยก็ได้ ซึ่งต้องฝึกไปสักระยะหนึ่งก่อน จนกว่ากล้ามเนื้อจะแข็งแรงพอ<O</O
ประโยชน์<O</O
ท่านี้เป็นผลรวมของ ท่างู และท่าตั๊กแตน ช่วยให้กระดูกสันหลัง เอว แข็งแรง ช่วยนวดอวัยวะในช่องท้อง เช่น กระเพาะอาหาร ลำไส้ ช่วยขับลม ช่วยย่อย เพิ่มความอยากอาหาร ลดไขมันหน้าท้อง สะโพก เอว หน้าอกผายไหล่ผึ่ง ช่วยแก้อาการประจำเดือนมาไม่ปกติ ท่านี้ช่วยให้รูปร่างสวยงาม เป็นหนุ่มสาว<O</O
<O</O</O
ท่าที่ 8 ท่าบิดตัว อรรธะ แปลว่าครึ่ง มัสเยนทราเป็นผู้ก่อตั้งวิชาหฐวทยา จึงเรียกท่านี้เพื่อเป็นอนุสรณ์


<O</O
วิธีปฏิบัติ<O</O
1 ) นั่งตัวตรงงอเข่าขวา ขาซ้ายเหยียดตรง เท้าขวาวางลงด้านข้างของเข่าซ้าย ข้อศอกซ้ายขัดเข่าไว้มือจับข้อเท้าขวาหรือฝ่าเท้าไว้<O></O>
2 ) หายใจเข้ายกแขนขวาขึ้นด้านหน้า ระดับสายตา หายใจออก วาดฝ่ามือ มาด้านหลังมือวางลงบนพื้น บิดลำตัวและคอ ใบหน้าไปด้านหลัง ค้างไว้ 10 วินาที ทำซ้ำ 3 ครั้ง <O</O
3 ) ปฏิบัติสลับข้างกันอีก 3 ครั้ง ในลักษณะเดียวกัน<O</O
ประโยชน์ <O</O
ท่านี้ช่วยแก้ปวดหลัง เอว ลดไขมันที่เอว ช่วยให้อาหารย่อยง่าย ขับลม ช่วยให้กล้ามเนื้อคอ ไหล่ยืดหยุ่น ช่วยรักษาโรคเบาหวาน ต่อมลูกหมากโต
</O
ท่าที่ 9 ท่านอนผ่อนคลาย นอนแบบโยคะนิทรา คือ ฝึกการนอนแบบโยคะ เราฝึกโดยใช้สติระลึกรู้ไปตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย


<O</O
วิธีปฏิบัติ<O</O
นอนในท่าศวาสนะ <O</O
เราหายใจเข้า และหายใจออกช้า ๆ ระลึกรู้ไปที่ ฝ่าเท้าขวา ผ่อนคลายส่วนนี้<O</O
เราหายใจเข้า และหายใจออกช้า ๆ ระลึกรู้ไปที่ ฝ่าเท้าซ้าย ผ่อนคลายส่วนนี้<O</O
เราหายใจเข้า และหายใจออกช้า ๆ ระลึกรู้ไปที่ หลังเท้าขวา ผ่อนคลายส่วนนี้<O</O
เราหายใจเข้า และหายใจออกช้า ๆ ระลึกรู้ไปที่ หลังเท้าซ้าย ผ่อนคลายส่วนนี้<O</O
ฝึกไปเรื่อย ๆ ทีละส่วนต่อไป เข่าซ้ายและขวา ต่อไปต้นขาซ้ายและขวา ก้นย้อยซ้ายและขวา ท้องน้อย ทรวงอก ไหล่ซ้ายและขวา ต้นแขนซ้ายและขวา ข้อศอกซ้ายและขวา แก้มซ้ายและขวา รูจมูกซ้ายและขวา ตาซ้ายและขวา คิ้วซ้ายและขวา หน้าผาก กระหม่อม เป็นดันครบ จากปลายเท้าถึงศีรษะ อาจจะทำซ้ำอีกรอบถ้ายังไม่หลับ โดยทั่วไปผู้ที่ฝึกบ่อย ๆ มักจะหลับในช่วยนี้ก่อนจะครบรอบ ซึ่งจะช่วยให้ผ่อนคลายได้มาก <O</O
<O</O
ต่อไปฝึกสมาธิ โดยนอนราบชันเข่าทั้งสองวางบนหน้าท้อง หายใจเข้าลึก ๆ ช้า ๆ ท้องค่อย ๆ พองขึ้น ใช้สติตามรู้อาการพองของหน้าท้องซึ่งจะรู้สึกได้ดีที่ฝ่ามือ หายใจออกช้า ๆ ดูอาการยุบของหน้าท้อง ทำไปช้า ๆ 5-10 นาที

ที่มา โยคะบำบัด สำหรับโรคเรื้อรัง
(อภินันทนาการจากงานวิทยาศาสตร์ทางจิต)
ภาพจาก อินเตอร์เนท<O</O
<O</O
</v:shapetype>

 

อนุโมทนาด้วยครับ

ต้องลองไปปฏิบัติดูก่อน แบบคนไม่เคยทำถ้าจะทำยากสักหน่อย คงต้องค่อยเป็นค่อยไป

ชอบท่าที่ 9 ได้ฝึกสมาธิไปด้วย แต่ทุกท่าก็คงต้องมีสติและสมาธิระลึกรู้ตามไป

ไม่งั้นคงผิดท่า อาจทำให้เคล็ดบาดเจ็บได้

ขอบคุณนะครับ

 

กระทู้ดีมากครับคุณบุษ ฯ ... ชอบท่าที่ ๙ มากที่สุดครับ



.^^

 

อนุโมทนา ด้วยค่ะ ท่า 9 ท่าศพ ดีที่สุดเลย นอนเพลินจนหลับไปเลย

 

ขอบคุณพี่บุษนะคะ ที่นำความรู้เกี่ยวกับเรื่องโยคะบำบัดมาให้ศึกษากัน ปุ๊กก้าว่า ปุ๊กก้ามีปัญหากะไอ้ท่านี่อะพี่บุษ ขามันยกขึ้นมาได้หน่อยเดียวเองอะ แต่ท่าอื่นไม่มีปัญหาจ้ะ

 

ขอบคุณครับคุณบุษ กำลังจะหาซื้อซีดีอยู่เลย ผมปวดหลังเรื้อรังมานานหลายปีแล้ว

 

ขอบคุณครับพี่บุษ ชอบท่านี้อะครับ เล่นประจำเลย หุหุ

 

ช่วงนี้ คุณบุษมาแนวโยคะตลอดเลย เล่นโยคะอยู่หรือครับ

 

ค่อยเป็นค่อยไปจ๊ะ ยกได้แค่ไหนแค่นั้นอย่าฝืน เดี๋ยวจะบาดเจ็บกล้ามเนื้อนะจ๊ะ ทำบ่อย ๆ จะสามารถยืดหยุ่นร่างกายได้เยอะขึ้นจ๊ะ

<TABLE class=tborder style="BORDER-TOP-WIDTH: 0px" cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead colSpan=2>วันนี้ 05:21 PM</TD></TR><TR title="Post 1718276" vAlign=top><TD class=alt2 align=middle width=125>อดุลย์ เมธีกุล</TD><TD class=alt1>ขอบคุณครับคุณบุษ กำลังจะหาซื้อซีดีอยู่เลย ผมปวดหลังเรื้อรังมานานหลายปีแล้ว </TD></TR></TBODY></TABLE>

ลองดูนะคะ อย่าฝืนนะคะได้แค่ไหนรู้สึกตึง ๆ พออย่าให้บาดเจ็บกล้ามเนื้อนะคะ เดี๋ยวจะเป็นหนักแทนที่จะหาย

<TABLE class=tborder style="BORDER-TOP-WIDTH: 0px" cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead colSpan=2>วันนี้ 07:22 PM</TD></TR><TR title="Post 1718513" vAlign=top><TD class=alt2 align=middle width=125>Inner Smile</TD><TD class=alt1>ช่วงนี้ คุณบุษมาแนวโยคะตลอดเลย เล่นโยคะอยู่หรือครับ </TD></TR></TBODY></TABLE>
เล่นมานานแล้วเหมือนกันค่ะ แต่ช่วงนี้ไม่ได้เล่นนานแล้วอีกเหมือนกันค่ะ ต้องฝึกใหม่อีกแล้วล่ะค่ะ แหะๆๆๆ ตัวชักแข็ง ๆ แล้วค่ะ

โธ่........ อุตส่าห์หาท่าต่าง ๆ มาโพส์ทให้ ดันชอบท่าศพกันแทบทั้งนั้นเลยนะ หุหุหุ ฝึกท่าอื่นกันบ้างนะคะ

 

มันเปงท่ายืดเส้นก่อนเล่นกีฬาของเขาเลย ขอบคุณ

 

ง่า ยากอ่าคะ ติดพุงๆ อิอิ

 

ท่านี้ ให้ผลดีครอบจักรวาลค่ะ ให้กำลังแขน ลดพุง (สำคัญๆๆๆ) ลดอาการปวดหลัง ปวดเอวได้ชะงัดนักแล

 

กราบงาม ๆ แม่บุษบ์จ้ะ กำลังอยากได้ภาพประกอบบรรยาย ทุกท่าที่แสดงมา ดิฉันกำลังเต๊าะแตะอยู่เลยจ้ะ

แม่บุษบ์ ๆ เรามาเปิดห้องชวนเล่นโยคะกันเถอะ แต่ขอฝึกวิทยายุทธก่อนอีกนานนะ เพราะเส้นเอ็นดิฉัน มันตึงยึดมานานพอดู

 

เล่นมาเกือบปีแล้วค่ะ แนะนำคนที่มีอาการปวดหลัง ขอให้มาฝึกโยคะ เพราะกล้ามเนื้อได้รับการยืดอย่างถูกต้องแบบค่อยเป็นค่อยไปทีละนิด ขณะนี้อาการปวดหลังหายไปเลย และเป็นการฝึกสมาธิแบบควบคู่ไปด้วย ชอบมากๆ

 

เดี๋ยวว่าง ๆ จะเอามาลงเพิ่มให้อีกนะคะ มีหนังสือเป็นเล่มเลยค่ะแต่ยังไม่มีเวลาพิมพ์ให้อ่ะ

 

ขอบคุณมากค่ะ.... กำลังปวดหลังอยู่พอดี

 

ลองไปจัดกระูดูกดู ช่วยได้นะ คลิ๊กดู

tairopractic.net